บทความวิเคราะห์ตลาดนี้กล่าวถึงว่าเหรียญคริปโตน่าลงทุนไหมในปี 2023 โดยเจาะลึกถึงผลตอบแทนที่เป็นไปได้สำหรับนักลงทุนคริปโตมือใหม่ และวิเคราะห์ว่าคริปโตอันตรายไหมก่อนเริ่มลงทุน
อ่านต่อเพื่อหาคำตอบว่าลงทุนคริปโตดีไหม?
ลงทุนคริปโตดีไหมในปี 2023? สิ่งที่ควรรู้
เรามาทบทวนประเด็นสำคัญที่เราพบเมื่อวิเคราะห์ว่าลงทุนคริปโตดีไหมในปี 2023
- เมื่อเปรียบเทียบกับประเภทสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้น ทองคำ และกองทุนดัชนี เหรียญคริปโตถือเป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
- Bitcoin, Ethereum, Shiba Inu และอื่นๆ อีกมากมายได้สร้างรายได้มากกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่โปรเจกต์เปิดตัวในตลาด
- แล้วมูลค่าเหรียญคริปโตจะเพิ่มขึ้นหรือไม่? ก็ไม่มีคำตอบที่แนะนำ เนื่องจากหลายๆ เหรียญคริปโตได้รับความนิยมน้อยลง โดยวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหานี้คือการกระจายความเสี่ยง
- อาจพิจารณาโปรเจกต์ที่ต่างกันอย่างน้อย 10-15 โปรเจกต์จากตลาดต่างๆ เช่น Metaverse, Play to Earn, Move to Earn และ DeFi
- การกระจายความเสี่ยงในเหรียญคริปโต Pre-sale ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง อาทิเช่น AiDoge (Ai) และ Love Hat Inu (LHINU) – จะอธิบายเพิ่มเติมทีหลัง
- เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน นักลงทุนไม่ควรเสี่ยงเกินลิมิตของตน นี่เป็นกฎข้อแรกที่ต้องพิจารณาว่าลงทุนคริปโตดีไหม?
เหรียญคริปโตในปี 2023 – เหตุผลสำหรับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน
ทางเดียวในการตอบคำถามว่าลงทุนคริปโตดีไหมในปี 2023 คือการพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียของสินทรัพย์ประเภทนี้
เริ่มจากสาเหตุหลักบางอย่างที่ทำให้เหรียญคริปโตยังคงเป็นหนึ่งในตลาดการลงทุนที่เติบโตเร็วที่สุด
การลงทุนที่มีการเติบโตสูง
เหรียญคริปโตชั้นนำมากมายมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยพอร์ตการลงทุนระยะยาวมักจะสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการเทรดคริปโตระยะสั้น แต่ทั้งสองกลยุทธ์ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำกำไรได้
Bitcoin ซื้อขายเพียง 1 ดอลลาร์ในปี 2011 โดยสองปีหลังจากเปิดตัว นักลงทุนรายแรกๆ ที่ซื้อ Bitcoin ในปี 2011 จะทำกำไรจนพลิกชีวิตได้เลย

แม้ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงขาลงและ Bitcoin ก็เทรดแบบทีละเล็กละน้อยจาก All Time High เดิม แต่ราคาปัจจุบันก็แสดงถึงการเติบโตถึง 2 ล้านเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2011
เมื่อเร็วๆ นี้ เหรียญคริปโตเคอเรนซี่จำนวนมากที่เปิดตัวในปี 2020 ได้กลายเป็นโปรเจกต์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ Solana และ Shiba Inu เป็นสองตัวอย่างที่สำคัญที่สร้างผลกำไรจำนวนมากให้กับนักลงทุนรายแรกๆ
แม้ว่าจะเหรียญคริปโตจะมีการเก็งกำไรและผันผวนมากเกินไปในบางครั้ง แต่อุตสาหกรรมนี้ก็มีโอกาสทำกำไรในระดับสูงเช่นกัน
การประเมินมูลค่าของเหรียญคริปโตในปี 2023 อยู่ในระดับต่ำ
จนถึงตอนนี้ ปี 2023 ราคาเหรียญคริปโตได้ฟื้นสภาพกลับมาและหลายๆ เหรียญก็เติบโตอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับ All Time High เดิม ตลาดปัจจุบันก็ยังคงมีมูลค่าเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น
- ส่วนนักลงทุนคริปโตมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดก็ควรมองในแง่ดีเข้าไว
- ทำไมต้องซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน เช่น Bitcoin และ Ethereum ที่ราคา $69,000 หรือ $4,900 เมื่อสามารถซื้อเหรียญได้ถูกลง 70%?
เทคนิคนี้เรียกว่าการลงทุนเมื่อตลาดย่อตัวลง เพื่อซื้อเหรียญคริปโตคุณภาพสูงได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก และเมื่อตลาดกลายเป็นขาขึ้น ก็จะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างกำไรได้ในระดับสูง
Pre-sale คุณภาพเยี่ยมจะให้ผลกำไรที่น่าดึงดูดใจ
เหรียญคริปโต Pre-sale ถือว่ากำลังเติบโตในแวดวงการลงทุนคริปโตเริ่มต้น โดยจะเป็นการดีที่สุดหากนำ Pre-sale ไปเทียบกับการเสนอขายหุ้น IPO โดยจะเป็นการทำกำไรจากเหรียญคริปโตแทนหุ้นของบริษัท
Presales จะเปิดระดมทุนเพื่อให้สามารถทำตามแผนการพัฒนา ด้วยการลงทุนในเหรียญ Pre-sale ก็จะสามารถซื้อโทเค็นได้ในราคาที่ถูกกว่ามาก เมื่อเทียบกับราคาลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน
- หลายๆ เหรียญคริปโต Pre-sale มีหลายรอบ ซึ่งแต่ละรอบจะขายโทเค็นตามจำนวนที่กำหนด
- ราคา Pre-sale จะเพิ่มขึ้นในละรอบ เพื่อให้นักลงทุนได้ซื้อเหรียญในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- หลังจาก Pre-sale หมดลงแล้ว โทเค็นจะถูกลิสต์ลงกระดานแลกเปลี่ยนให้เทรดได้ทั่วไป
- เพื่อให้นักลงทุนรายแรกๆ สามารถขายเหรียญและทำกำไรได้อย่างยุติธรรมและโปร่งใส
โดยเราจะวิเคราะห์เหรียญ ICO คริปโตที่ดีที่สุดในตอนนี้ – รวมถึง AiDoge, Love Hate Inu และ Ecoterra
เข้าถึงตลาดได้ตลอด 24 ชั่วโมงและมีสภาพคล่องสูง
ยังคงคิดว่าจะลงทุนคริปโตดีไหม? หากใช่ เราควรทราบด้วยว่าเหรียญคริปโตเปิดให้เทรดบนตลาดระดับโลกที่ไม่เคยปิด
เพราะไม่เหมือนกับสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และตลาดดั้งเดิมอื่นๆ เหรียญคริปโตสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมูลค่าตลาดคริปโตยังสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า มีการซื้อขายเหรียญคริปโตมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
นั่นหมายถึงเหรียญคริปโตนั้นขายได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยนักลงทุนสามารถแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลของตนให้กลายเป็น ‘เงินจริง’ ได้ทุกเวลา
ความเสี่ยงของเหรียญคริปโตในปี 2023 – ข้อควรพิจารณา
ตอนนี้เราได้ครอบคลุมถึงข้อดีของการเล่นคริปโตแล้ว เรามาพูดถึงความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาในปี 2023 กันเลย
ความผันผวนในระดับสูง
ความผันผวนยังคงเป็นหนึ่งในข้อเสียหลักของสกุลเหรียญคริปโต แม้ว่าสินทรัพย์สินค้าโภคภัณฑ์แบบดั้งเดิม เช่น ทองคำและน้ำมันจะมีความผันผวน แต่ความผันผวนของเหรียญคริปโตนั้นมีการแกว่งของราคาในระดับสูง
ซึ่งหมายความว่ามูลค่าของพอร์ตคริปโตสามารถขยับขึ้นสู่ขาขึ้นและ/หรือขาลงได้อย่างง่ายดาย โดยการกระจายความเสี่ยงและการทำ Dollar-cost Average จะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนได้ เช่นเดียวกับการลงทุนคริปโตระยะยาว
ผลขาดทุนทางการเงิน
มูลค่าหุ้นบลูชิปลดลงกว่า 95% แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็แทบไม่มีให้เห็น แต่กลับตรงกันข้ามกับเหรียญคริปโตอย่างสิ้นเชิง
- จึงควรลงทุนในเหรียญคริปโตด้วยเงินที่สามารถเสียได้เท่านั้น
- นักลงทุนควรจำไว้ว่าพวกเขาสามารถสูญเสียเงินทุนบางส่วนหรือทั้งหมดได้เมื่อต้องการทำกำไรด้วยเหรียญคริปโต โปรดใช้ความระมัดระวัง
จึงควรใช้งานคำสั่ง Stop-loss บนโบรกเกอร์และกระดานแลกเปลี่ยนออนไลน์จำนวนมาก โดยการกระจายความเสี่ยงจะสามารถช่วยลดโอกาสในการสูญเสียเงินได้เช่นเดียวกัน
การแฮ็กกระดานแลกเปลี่ยนและ Crypto Wallet
การแฮ็กเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึงเมื่อคิดว่าจะลงทุนคริปโตยังไงให้ได้กำไร
ถ้ากระดานเทรดคริปโตถูกแฮ็ก – ไม่ว่าจะจากทางไกลหรือต่อหน้า เงินทุนของนักลงทุนก็มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสีย และจะไม่สามารถการขอความช่วยเหลือได้
เพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้ ให้ใช้กระดานแลกเปลี่ยนที่ได้รับการกำกับดูแล เช่น eToro สำหรับคนที่สงสัยว่าจะลงทุนคริปโตที่ไหนดี?

หรือเก็บเหรียญใน Wallet ส่วนตัวเพื่อควบคุมเงินได้อย่างเต็มที่ โปรดจำไว้ว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่ทั่วไปวงการนี้และมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กอยู่เสมอ
การเรียนรู้วิธีเก็บ Crypto Wallet ให้ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การจดรหัสผ่านสำรองของ Wallet ไว้เสมอและห้ามเปิดเผยให้ใครทราบไม่ว่าในกรณีใดๆ
ราคาเหรียญคริปโตถูกผลักดันด้วยอะไร?
ราคาเหรียญคริปโตจะเพิ่มขึ้นและลดลงตามอุปสงค์และอุปทาน เช่น หากความต้องการในตลาดสำหรับโทเค็นนั้นยังคงสูง ก็จะส่งผลดีต่อราคาของเหรียญคริปโตได้
กลไกการกำหนดราคานี้เหมือนกันกับหุ้น ทองคำ ตราสารหนี้ และสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอื่นๆ โดยตลาดคริปโตก็เคลื่อนไหวควบคู่กับเหรียญคริปโตอื่นๆ
แปลว่าหาก Bitcoin มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ก็จะล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อตลาดในวงกว้าง แต่เมื่อความต้องการ Bitcoin ต่ำลง เหรียญคริปโตอื่นๆ ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
เหตุใดเหรียญคริปโตจึงผันผวน?
ระดับของความผันผวนของเหรียญคริปโตจะขึ้นอยู่กับวิธีการสร้างและมูลค่าตลาดของเหรียญ ซึ่งคล้ายกันมากกับการเทรดในตลาดหุ้น
- เช่น บริษัทใหญ่อย่าง Apple ซึ่งมีมูลค่าตลาดมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและลดลงเพียง 2-3% ต่อวัน
- แต่หุ้นขนาดเล็กที่ซื้อขายในตลาด OTC จะมีความผันผวนที่ 20% หรือมากกว่านั้น
- Bitcoin และ Ethereum นั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็น Apple ของตลาดคริปโต เพราะมีความผันผวนต่ำกว่าเหรียญคริปโตมูลค่าตลอดต่ำอื่นๆ
- โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณสภาพคล่องในตลาด
เนื่องจากนักลงทุนระยะยาวไม่สนใจในความผันผวน เพราะเป็นเพียงตัวชี้วัดระยะสั้นที่สามารถมองข้ามได้เมื่อถือเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี
ความสำคัญของยูทิลิตี้เมื่อลงทุนในเหรียญคริปโต
‘Utility’ ไม่ใช่คำที่ดูเท่ในโลกของเหรียญคริปโตอีกต่อไป เนื่องจากโปรเจกต์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในตลาดจะมีกรณีการใช้งานจริง
เช่น Ripple ที่เป็นเครือข่ายการชำระเงินระดับโลกที่ให้บริการธนาคารขนาดใหญ่ โดยมี XRP ที่ช่วยบริหารสภาพคล่องสำหรับการแลกเปลี่ยนข้ามสกุลเงิน ดังนั้น XRP จึงมีประโยชน์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเหรียญจึงมีมูลค่าตลาดสูง
เช่นเดียวกับเหรียญคริปโต Pre-sale ที่ดีที่สุด แห่งปี – AiDoge เป็นโปรเจกต์ที่มีประโยชน์จริง ที่ให้เหรียญ $Ai เป็นรางวัลเมื่อมีมที่สร้างโดย Ai ได้รับความนิยม

ประเด็นสำคัญก็คือมีเหรียญคริปโตกว่า 22,000 สกุลที่มียูทิลิตี้ใดๆ หรือที่เรียกว่า ‘เหรียญมีม’ ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อความตื่นเต้นและการเก็งกำไรในตลาดเท่านั้น
หากต้องการกระจายความเสี่ยงในเหรียญคริปโต ก็ควรที่จะมุ่งเน้นไปที่ยูทิลิตี้ของเหรียญเท่านั้น โดยเฉพาะการลงทุนคริปโตระยะยาว
การลงทุนคริปโตระยะยาว vs การเทรดระยะสั้น
เราได้พูดถึงถึงความสำคัญในการลงทุนคริปโตระยะยาว มากกว่าการทำกำไรอย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยเหตุผลหลักคือนักลงทุนระยะยาวจะมีศักยภาพที่จะรับมือกับความผันผวนในระยะสั้นได้
- เช่น ในช่วงโควิดเมื่อต้นปี 2020 ความตื่นตระหนกของตลาดส่งผลให้มูลค่าบิทคอยน์ลดลง 50% จาก 10,000 ดอลลาร์เหลือ 5,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่กี่สัปดาห์
- หากใครขายเพราะกลัวก็อาจจะทำให้ขาดทุนได้ แต่นักลงทุนระยะยาวจะทำในสิ่งที่ตนถนัด นั่นคือการถือเหรียญไว้
- และในการทำเช่นนั้น ราคาเหรียญก็พลิกกลับอย่างรวดเร็ว โดยภายในสิ้นปีเดียวกัน Bitcoin มีการซื้อขายสูงกว่า 27,000 ดอลลาร์
- ผลลัพธ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเหรียญคริปโตอื่นๆ รวมทั้งเหรียญเก่าและเหรียญ Pre-sale
แต่นักลงทุนบางคนก็ต้องการเทรดคริปโตระยะสั้น ทำให้ Pre-sale มักเป็นที่สนใจ เพราะสามารถทำกำไรได้ทันทีเมื่อโทเค็นลิสต์ลงกระดานแลกเปลี่ยน
นี่อาจเป็นกรณีที่การ Pre-sale ใช้โครงสร้างราคาที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ
เช่น AiDoge ที่เป็นหนึ่งใน Pre-sale อันดับสูงสุดในตลาด โดยกำลังขายโทเค็นที่เพิ่งเปิดตัวในราคาถูกเมื่อเทียบกับราคาลิสต์บนกระดานแลกเปลี่ยน
ลงทุนคริปโตดีไหม? ผู้เชี่ยวชาญพูดว่ายังไงกันบ้าง
หากยังคงสงสัยว่าลงทุนคริปโตเริ่มต้นยังไงให้ได้ทำกำไร?
นี่คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อในวงการการลงทุนคริปโต:
“ผมต้องการให้ราคาบิทคอยน์ลงไปอีกเยอะๆ เพื่อที่ผมจะได้ซื้อเพิ่มอีก”’ Mark Cuban
นี่เป็นหนึ่งในคำพูดล่าสุดจากมหาเศรษฐีเจ้าของ Dallas Cowboys อย่าง Mark Cuban ที่สนับสนุนเหรียญคริปโตและเทคโนโลยี Blockchain และเขาก็ชื่นชอบกับการเทรดบิทคอยน์ในราคาเพียงเศษเสี้ยวจากราคา All Time High เดิม
“หากราคาของ bitcoin ลดลง ผมจะเสียเงิน ฉันอาจจะซื้อเยอะ แต่ผมไม่เทขายแน่ ผมไม่เชื่อในการปั๊มราคา หรือขาย หรืออะไรทำนองนั้นแน่นอน” Elon Musk
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla หนึ่งในผู้ประกอบการที่ร่ำรวยที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ซึ่งเขาตรงกันกับ Mark Cuban Musk ว่าเขาไม่กลัวการลดลงของราคา Bitcoin ในระยะสั้น เพราะเขาเป็นนักลงทุนคริปโตระยะยาว
“Bitcoin คือทองคำดิจิทัลที่เติบโตอย่างมั่นคง มีประโยชน์ขึ้น เร็วขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว” Michael Saylor
Michael Saylor เป็นมหาเศรษฐที่มีความเชื่อมั่นอย่างมากในอนาคตของ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ โดยเขาอ้างถึงคุณลักษณะของ Bitcoin ว่าเป็นตัวเก็บมูลค่าเช่นเดียวกับทองคำ
โดยยังมีอีกหลายคนที่มองว่า Bitcoin เป็นทางเลือกที่ดีกว่าทองคำ โดยเฉพาะในแง่ของการถ่ายโอน การแยกส่วน และการจัดเก็บ
ลงทุนคริปโตดีไหม? จัดอันดับ 5 การลงทุนคริปโตที่ดีที่สุดในปี 2023
ราคาเหรียญคริปโตปัจจุบันยังคงมีมูลค่าเพียงเศษเสี้ยวของ All Time High เดิมเท่านั้น โดยมือใหม่ที่หาว่าคริปโตคืออะไร เล่นยังไงให้ลงทุนได้ในราคาไม่แพง โดยบางคนยังสมัครเรียนหลักสูตรคริปโตที่ดีที่สุดบนอินเทอร์เน็ตเพื่อทำความเข้าใจการทำงานของตลาดคริปโต
ต่อไปนี้คือ 5 โปรเจกต์คริปโตที่โดดเด่นในตลาด ทั้งเหรียญ Pre-sale และเหรียญที่มีอยู่แล้ว
1. AiDoge (Ai) – แพลตฟอร์มที่ใช้งาน AI สำหรับการสร้างมีมต่างๆ

AiDoge เป็นแพลตฟอร์มมาใหม่ที่รวมเอาความเป็นมีมและเหรียญคริปโต Ai เข้าด้วยกัน โดยทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงตลาดเหรียญมีมที่เดินตามรอยความสำเร็จของเหรียญ Ai รุ่นพี่อย่าง Pepe Coin, The Graph, Singularity และ Conflux
โดย AiDoge จะทำหน้าที่สร้างมีมที่อิงตามเหตุการณ์ล่าสุดของตลาดคริปโต โดยมีเหรียญคริปโตหลักอย่าง $Ai ที่ใช้ในการซื้อเครดิตสำหรับสร้างมีมและเสริมการเติบโตและความยั่งยืนของโปรเจกต์

โดยในตอนนี้ AiDoge เปิดขายในช่วง Pre-sale ก่อนที่ราคาจะเพิ่มขึ้นหลังลิสต์ลงกระดานแลกเปลี่ยน โดยแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา แต่การลงทุนในช่วง Pre-sale ก็สร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนมานักต่อนัก
โดยในเอกสารข้อมูล AiDoge กล่าวว่าจะสนับสนุนชุมชนด้วยการ Staking ที่จะให้รางวัลเป็นเครดิตพร้อมฟีเจอร์การแชร์และการโหวตมีมต่างๆ โดยจะแสดงบนวอลล์สาธารณะ ด้วยอุปทานรวม 1 ล้านล้านโทเค็นและจะมีราคาลิสต์เริ่มต้นที่ 0.0000336 USDT โดยมูลค่าราคาตลาดเมื่อเปิดตัวจะอยู่ที่ 29,800,000 ดอลลาร์

และด้วยวอลล์สาธารณะที่ให้ผู้ใช้ได้ดูและแชร์มีมที่สร้างโดย Ai แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถโหวตชอบหรือไม่ชอบมีมต่างๆ ซึ่งเจ้าของมีมที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดจะได้รับโทเค็น $Ai เป็นรางวัล เพื่อเป็นแรงจูงใจในการสร้างคอนเทนต์มีมคุณภาพและส่งเสริมการเติบโตของแพลตฟอร์มได้นั่นเอง
ผู้ใช้สามารถพิจารณาเข้าร่วมช่อง AiDoge Telegram เพื่อรับข้อมูลอัพเดตล่าสุด
2. Love Hate Inu (LHINU) – เหรียญมีม Vote to Earn ที่ดีที่สุดที่กำลังอยู่ในช่วง Pre-sale
จากโปรเจกต์ที่มีนับไม่ถ้วนในตลาดคริปโต การเลือกเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนที่สุดและให้เข้าถึงการลงทุนคริปโตขั้นต่ำจึงอาจเป็นเรื่องยุ่งยากได้ เราขึงขอแนะนำ Love Hate Inu ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ผสมความเป็นมีมเข้ากับ Blockchain จนกลายมาเป็นแพลตฟอร์ม Vote to Earn แห่งแรกของโลก
Love Hate Inu จะให้ผู้ใช้สามารถนำเหรียญ $LHINU ซึ่งเป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์มไป Stake เพื่อโหวตในแบบสำรวจต่างๆ โดยตอนนี้เหรียญดังกล่าวเปิดขายในช่วง Pre-sale และกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยได้ระดมทุนไปแล้วกว่า $7.7 ล้านในเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

ภายในเอกสารข้อมูลกล่าวว่าการ Staking จะช่วยป้องกันโอกาสการโกงและทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มโหวตได้แบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ซึ่งใครที่เข้าร่วมในการโหวตจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น $LHINU โดยสิทธิ์ในการออกเสียงจะสามารถเพิ่มตามระยะเวลาที่ผู้ใช้เลือกล็อกเหรียญนั่นเอง
ทั้งหมดทำให้ Love Hate Inu เป็นอีกโปรเจกต์ที่มีศักยภาพเพียงพอในการเปลี่ยนแปลงตลาดแบบสอบถามทางออนไลน์ ที่รวมเอาเทคโนโลยี Blockchain และ Ledger เข้าด้วยกัน ทั้งยังผลักดันให้ชุมชนหันมาใช้เหรียญมีมของตน ทำให้เป็นอีกหนึ่งในโปรเจกต์ Pre-sale ที่ควรลงทุนเป็นอันดับต้นๆ ในปัจจุบันก็คงจะไม่ผิดนัก
3. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโต Recycle2Earn ที่น่าลงทุนในปี 2023
สำหรับใครที่ต้องการเทรดคริปโตระยะสั้น เราขอแนะนำ Ecoterra โปรเจกต์ Recycle2Earn ที่ดีที่สุดแห่งปี พร้อมให้การสนับสนุนสิ่งแวดล้อมด้วยการนำเสนอฟีเจอร์รีไซเคิลเพื่อป้องกันภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลก
โดยหลักการทำงานของแพลตฟอร์มก็คือทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการรีไซเคิลของหรือสินค้าที่ตนไม่ต้องการ โดยการทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในแอพพลิเคชั่น ผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ ECOTERRA ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความรู้ในเรื่องการรีไซเคิลได้เป็นอย่างดี

ด้วยคอนเซ็ปต์ Recycle2Earn เพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม ผู้ใช้จะสามารถรับรางวัลจากการรีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย เพียงสแกน บาร์โค้ดของสินค้าที่ต้องการรีไซเคิลได้เพื่อค้นหาข้อมูลที่ตรงกันในฐานข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI และแอพพลิเคชั่นจะแนะนำให้ผู้ใช้ไปที่เครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) ที่ใกล้ที่สุดเพื่อรีไซเคิลสินค้านั้นๆ
ที่สำคัญ แพลตฟอร์มยังให้บริการ Carbon Offset Marketplace ที่ให้ผู้ใช้ได้ชดเชยคาร์จากการซื้อของอย่างมีความรับผิดชอบ โดยได้ร่วมมือกับ VERA และยังมีฟีเจอร์ mpact Trackable Profile ที่ให้ผู้ใช้ได้ติดตามผลงานการรักษ์โลกของตนผ่านระบบนิเวศของแพลตฟอร์มได้อีกด้วย
โดยรวมแล้ว Ecoterra จึงถือเป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนที่สุดในปัจจุบัน ด้วยกลไกการสร้างแรงจูงใจที่มุ่งเน้นไปที่การรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram หรืออ่านเอกสารข้อมูลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของโปรเจกต์ได้
4. XRP – เหรียญคริปโตมูลค่าตลาดสูงที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างธนาคาร
XRP เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตมูลค่าตลาดสูงที่สุด โดยพัฒนาขึ้นในปี 2012 และเป็นหนึ่งในเหรียญที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด โดย XRP เป็นโทเค็นหลักของโปรเจกต์ Ripple ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเครือข่ายการชำระเงินสำหรับธนาคารและสถาบันการเงิน
เพราะมีเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบเดิมอย่าง SWIFT อย่างเห็นได้ชัด โดยไม่คำนึงถึงสกุลเงินหรือที่อยู่ของฝ่ายที่ทำธุรกรรม โดยการโอนจะใช้เวลาไม่เกินห้าวินาทีและมีค่าธรรมเนียมไม่ถึงบาท

Ripple ได้ร่วมมือกับธนาคารจำนวนมาก เช่น SBI Remit (ญี่ปุ่น), Itaú Unibanco (บราซิล), Canadian Imperial Bank of Commerce (แคนาดา) และธนาคารไทยพาณิชย์ (ประเทศไทย)
5. Bitcoin – เหรียญคริปโตที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินจริงในปัจจุบัน
ไม่มีพอร์ตคริปโตใดที่จะสมบูรณ์ได้หากไม่ได้ถือสกุลเงินดิจิทัลแรกที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกอย่าง Bitcoin ที่ได้สร้างผลตอบแทนมากกว่า 2 ล้านเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2011
แม้ว่าระดับการเติบโตดังกล่าวไม่น่าเป็นไปได้แล้ว เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าราคาตลาด แต่ Bitcoin ก็ยังมีโอกาสทำกำไรมากในระยะยาว โดยเฉพาะกับตลาดปัจจุบันที่ให้เทรดเหรียญต่ำกว่าระดับ All Time High เดิมเกือบ 70%

ซึ่งหมายความว่านักลงทุนกำลังซื้อบิทคอยน์เพื่อใช้ประโยชน์จากมูลค่าเหรียญในปัจจุบัน และบางคนก็เชื่อว่าเมื่อตลาดกลับเป็นขาขึ้น มูลค่าบิทคอยน์ก็อาจทะลุ 100,000 ดอลลาร์ได้นั่นเอง
รู้หรือไม่ว่าตอนนี้คุณสามารถซื้อรถด้วย Bitcoin? เนื่องจาก BTC ยังคงได้รับแรงผลักดันจากกรณีการใช้งาน
สรุป: ควรลงทุนคริปโตดีไหม?
บทความนี้ได้ตอบคำถามว่าควรลงทุนคริปโตดีไหม? โดยสรุป บิทคอยน์และเหรียญคริปโตอื่นๆ นำเสนอคุณค่าที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูง เพราะเหรียญคริปโตจะมีความเสี่ยงสูงมากกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิม แต่ด้วยเทคนิตที่เหมาะสม นักลงทุนจะสามารถเข้าสู่ตลาดนี้ได้อย่างปลอดภัย
นอกจากการทำ Dollar-cost average, การกระจายความเสี่ยง, และการใช้ Wallet ที่ปลอดภัย การศึกษา Pre-sale คุณภาพสูงก็เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาร่วมด้วย โดยนักลงทุน Pre-sale กำลังแห่ซื้อ AiDoge โดย