Categories
NFT

แนะนำ 6 อันดับ เหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดแห่งปี 2023 [มาแรง!]

โลก Metaverse เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

และจากแรงสนับสนุนโดยโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ที่พึ่งรีแบรนด์เป็น Meta Platforms

เราจะพูดถึงเหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดแห่งปี 2023 รวมเหรียญ crypto metaverse ที่น่าสนใจ คลายข้อสงสัยสำหรับคนที่ไม่รู้ว่า ซื้อเหรียญ Metaverse ที่ไหนดี และจะแสดงวิธีการซื้อโทเค็น Metaverse ที่คุณเลือกกับโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ในเวลาไม่ถึงห้านาที ไปดูกันว่าเหรียญเกี่ยวกับ Metaverse ที่มาแรง มีอะไรบ้าง!

เหรียญ Metaverse ที่น่าสนใจแห่งปี 2023

ด้านล่างคือ รายการเหรียญ Metaverse ที่น่าสนใจแห่งปี 2023

  1. Love Hate Inu – เหรียญ Metaverse โดยรวมที่ดีที่สุด สำหรับเหรียญ Vote-to-Earn
  2. DeeLance – เหรียญคริปโตมาใหม่ที่นำเสนอการจ้างงานแบบกระจายอำนาจพร้อมการชำระเงินที่รวดเร็ว
  3. RobotEra – เหรียญ Metaverse มาใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวขายพรีเซล
  4. Tamadoge – เหรียญคริปโต Metaverse โดยรวมที่ดีที่สุดแห่งปี 2023
  5. Battle Infinity – เหรียญเกมคริปโต Metaverse ที่น่าลงทุนที่สุด
  6. Decentraland – เหรียญคริปโต Metaverse ยอดฮิต พร้อมการปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัด

ไปยังเหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดตอนนี้

หากคุณสนใจซื้อคริปโตเคอเรนซี่ที่เกี่ยวกับ Metaverse เราจะแนะนำวิธีการลงทุนทีละขั้นตอนในส่วนถัดไป

มาเจาะลึกกับเหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุด

การลงทุนในเหรียญ Metaverse ตอนนี้คือการเข้าสู่ตลาดแห่งนวัตกรรมในช่วงต้น คุณจึงมีโอกาสซื้อโทเค็น Metaverse ในราคาดี และคุณยังสามารถกระจายความเสี่ยงของพอร์ต ด้วยการลงทุนในเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุดในปี 2023

เราจะเจาะลึกกับ 6 เหรียญ Metaverse 2023 โดยคุณจะสังเกตเห็นว่าเหรียญคริปโตหลายๆ เหรียญที่เราพูดถึงวันนี้ บางเหรียญถือเป็นเหรียญคริปโตที่ประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นที่คุณสามารถลงทุนได้ในตอนนี้

1. Love Hate Inu – เหรียญ Metaverse โดยรวมที่ดีที่สุด สำหรับเหรียญ Vote-to-Earn

Love Hate Inu Logo

Love Hate Inu เป็นแพลตฟอร์มเหรียญคริปโต vote-to-ear ซึ่งผู้ใช้จะได้รับรางวัลสำหรับการ stake โทเค็นและการลงคะแนนในแบบสำรวจมีมหลายรายการ ในการมีส่วนร่วมในกระบวนการลงคะแนนเสียง ผู้ใช้แต่ละคนจะต้อง stake $LHINU ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลัก 

ในขณะที่ Love Hate Inu คาดว่าจะเปิดตัวอัลกอริธึมการลงคะแนนเวอร์ชันเดโมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ก็มีแผนที่จะขยายไปสู่โลก metaverse ตามเอกสารข้อมูล Love Hate Inu โดยมีแผนที่จะผสานรวมประสบการณ์ Metaverse ที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 เนื่องจากนี่เป็นแพลตฟอร์มเข้าเหรียญคริปโตเดียวที่เสนอการลงคะแนนออนไลน์ผ่านโทเค็นคริปโต ซึ่งจะไม่มีการเปิดเผยตัวตนโดยสมบูรณ์ 

ในการรับรางวัลโทเค็น สมาชิกเพียงแค่วาง stake $LHINU ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 และลงคะแนนในการสำรวจมีมหลายรายการ ประเภทของแบบสำรวจมีตั้งแต่ความบันเทิงไปจนถึงการเมืองและประเด็นทางสังคม โทเค็นเสนอโดยผู้สร้างแบบสำรวจซึ่งต้องแจกจ่าย $LHINU ให้กับผู้เข้าร่วม 

ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 Love Hate Inu จะให้ผู้ใช้เข้าถึงแพลตฟอร์มการส่งคะแนนเสียง ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างแบบสำรวจความคิดเห็นใหม่ได้ และ Love Hate Inu ยังใช้กลไกการ stake แบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันการบิดเบือนใดๆ ในกระบวนการลงคะแนน

โดยต้อง Stake โทเค็นเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของราคาได้ นอกจากนี้ ปริมาณโทเค็นที่ต่ำเพียง 100 พันล้านจะช่วยให้ Love Hate Inu เพิ่มราคาได้ในระยะยาว 

Love Hate Inu

มีการกระจายโทเค็น 900 ล้านโทเค็นอย่างสม่ำเสมอสำหรับทั้งแปดรอบพรีเซลล์ นักลงทุนสามารถซื้อ $LHINU ตอนนี้อยู่ในช่วงพรีเซลล์ครั้งแรกในราคา $0.000105 ซึ่งในช่วงสุดท้าย ราคาของ $LHINU จะเพิ่มขึ้น 38% เป็น 0.000145 ดอลลาร์

โทเค็นยอดนิยมนี้มีผู้ติดตาม Twitter มากกว่า 33,000 คนและสมาชิกมากกว่า 12,000 คนในช่อง Telegram โดยภายในหนึ่งสัปดาห์ของการเปิดพรีเซลล์ Love Hate Inu ก็สามารถระดมทุนได้มากกว่า 527,000 ดอลลาร์ 

เริ่มพรีเซลล์8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อETH, USDT, บัตรเครดิต
เชนEthereum
เพดานเงินทุน$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale

2. DeeLance – เหรียญคริปโตมาใหม่ที่นำเสนอการจ้างงานแบบกระจายอำนาจพร้อมการชำระเงินที่รวดเร็ว

DeeLance เป็นพอร์ทัลฟรีแลนซ์ยุคใหม่ที่รวม Metaverse และเหรียญคริปโตหลัก $DLANCE เอาไว้ด้วยกัน แพลตฟอร์มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการสื่อสารระหว่างฟรีแลนซ์และธุรกิจที่ต้องการความเชี่ยวชาญ

ด้วยองค์ประกอบ Metaverse ของ DeeLance ฟรีแลนซ์และลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมในพื้นที่การประชุมและสำนักงานเสมือน โทเค็น $DLANCE เป็นสกุลเงินอเนกประสงค์สำหรับการทำธุรกรรมในตลาด บริการโฆษณา และการเช่าพื้นที่ทำงาน

ในช่วง Pre-sale ของเหรียญคริปโตดังกล่าว คุณสามารถซื้อโทเค็น $DLANCE ได้ในราคาเพียง $0.025 USDT เมื่อสิ้นสุดรอบทั้งหก โดยมูลค่าของโทเค็นจะเพิ่มขึ้นเป็น $0.035

DeeLance Presale

เมื่อบรรลุเป้าหมายการขายล่วงหน้าที่ 6.8 ล้านดอลลาร์แล้ว คาดว่าโทเค็น $DLANCE จะถูกลิสต์ลงกระดานเทรดคริปโตต่างๆ ภายในไตรมาสที่สองของปี 2023 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 0.037 USDT

นอกเหนือจากฟังก์ชันอื่นๆ แล้ว โทเค็น $DLANCE ยังให้ผู้ใช้สามารถซื้อขาย NFT ในตลาด DeeLance ได้ โดยนักแปลฟรีแลนซ์สามารถแปลงโปรเจกต์ของพวกเขาเป็น NFT ทำให้ขั้นตอนการส่งมอบงานของลูกค้าง่ายขึ้น ซึ่งเพื่อให้การทำธุรกรรมปลอดภัยและโปร่งใส แพลตฟอร์มดังกล่าวใช้เทคโนโลยี Blockchain

เอกสารข้อมูลของ DeeLance อธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับการใช้สัญญาอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการรวมบริการชำระเงินเอสโครว์ เพื่อให้ฟรีแลนซ์จะได้รับเงินตามกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

Why DeeLance?

ทำไมต้องเลือก DeeLance?

เป้าหมายของ DeeLance คือการสร้างแพลตฟอร์มที่บุคคลสามารถค้นพบโอกาสในการทำงานที่โดดเด่น แพลตฟอร์มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตามหาเหล่าฟรีแลนซ์ ขยายกลุ่มคนที่มีความสามารถ และสนับสนุนการพัฒนาอาชีพเมื่อเวลาผ่านไป

เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ โปรเจกต์วางแผนที่จะเสนอทรัพยากรทางการศึกษา ดึงดูดผู้ใช้บนโซเชียลมีเดีย และริเริ่มโปรแกรมแอมบาสเดอร์และพันธมิตร

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ DeeLance คือค่าธรรมเนียมลูกค้าต่ำเพียง 2% ซึ่งทำให้แตกต่างจากแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ชั้นนำ นอกจากนี้ การรับชำระเงินด้วยเหรียญคริปโตจะช่วยเร่งการประมวลผลธุรกรรม

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้ที่ช่อง DeeLance Telegram สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่น่าสนใจนี้

เพดานเงินทุน$6,800,000
โทเค็นทั้งหมด1,000,000,000
โทเค็นทในช่วงพรีเซลล์300,000,000
Blockchainเครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็นERC-20
ซื้อขั้นต่ำ$10
ซื้อด้วยUSDT, ETH, บัตรเครดิต/เดบิต

ไปยัง DeeLance Presale

3. RobotEra – เหรียญ Metaverse มาใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวขายพรีเซล

RobotEra เหรียญ Metaverse

RobotEra เหรียญ Metaverse อันดับต้น ๆ ถัดไปคือ TARO – สกุลเงินดิจิทัลในเกมของโครงการ Metaverse, NFT และ play-to-earn (P2E) ของ RobotEra

ด้วย TARO ผู้ใช้จะสามารถซื้อ NFT ต่างๆ สร้างและสำรวจรายการในระบบนิเวศเสมือนจริง และสร้างรายได้จากช่องทางต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีการเปิดตัวพรีเซลของ TARO ในเดือนพฤศจิกายน 2022 นักลงทุนที่สนใจมีโอกาสที่จะซื้อโทเค็นในราคาต่ำเพียง $0.02

RobotEra gameplay เหรียญ Metaverse

โครงการ metaverse ของ RobotEra ให้ผู้เล่นเข้ามากอบกู้ ‘Taro Planet’ ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมเล่น โดยดาวดวงนี้ได้ถูกทำลายโดยเหตุการณ์ภัยพิบัติ

The Taro Planet มี 7 ทวีปที่เป็นของกลุ่ม Robots และผู้เล่นมีส่วนร่วมใน metaverse นี้โดยการซื้อ Robots ซึ่งสร้างเป็น NFT บน blockchain

มี Robot NFT ทั้งหมด 10,000 NFT ซึ่งหมายความว่าอุปทานที่จำกัดอาจทำให้สินทรัพย์เหล่านี้มีค่าในระยะยาว

บน Taro Planet ผู้เล่นสามารถซื้อแปลงต่าง ๆ ของ metaverse Land NFTs และเริ่มสร้างและสร้างไอเท็มต่าง ๆ โดยผู้เล่นสามารถสร้างและขาย NFT สหายหุ่นยนต์ สร้างโรงงาน และแม้แต่ขุดทรัพยากรและวัตถุดิบต่างๆ การสร้างรายได้มาจากการเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมงาน การมีส่วนร่วมในภารกิจ และการขายพื้นที่ป้ายโฆษณาให้กับผู้ลงโฆษณา

ผู้ก่อตั้ง RobotEra ซึ่งผ่านการตรวจสอบ และยืนยัน KYC แล้ว เชื่อว่าประโยชน์ใช้จริงในการสร้างรายได้ใหม่ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดในการเล่นเกม และมีข้อจำกัดเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่สามารถสร้างได้

เอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่าโครงการมีเป้าหมายที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์เสมือนจริงและความเป็นจริงเสริม (VR/AR) ที่หลากหลายในอนาคต

TARO มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ที่หลากหลาย เช่นเดียวกับการใช้ในเกม มันสามารถ stake เพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟและใช้เพื่อรับสิทธิ์ในการออกเสียงในชุมชน DAO (องค์กรปกครองตนเองแบบกระจายอำนาจ)

RobotEra เหรียญ Metaverse

ปัจจุบัน RobotEra อยู่ในรอบที่ 1 ของการขายพรีเซลโดยโทเค็นจะเพิ่มขึ้นจาก 0.02 ดอลลาร์เป็น 0.025 ดอลลาร์ในรอบที่ 2 และจากนั้นอีกครั้งเป็น 0.032 ดอลลาร์ในรอบที่ 3

ไม่มีระยะเวลาการ vesting สำหรับโทเค็น presale โดยมีการขาย 15% ของอุปทาน (270 ล้าน)

เข้าร่วมกลุ่ม RobotEra Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการนี้

พรีเซลเริ่มต้นไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase MethodsETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ1,000 TARO
ลงทุนสูงสุดN/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

4. Tamadoge – เหรียญคริปโต Metaverse โดยรวมที่ดีที่สุดแห่งปี 2023

Tamadoge

เนื่องจากโลก metaverse กำลังรวมเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนและเหรียญคริปโต ผู้ใช้จึงต้องหาโปรเจกต์ที่ดีที่สุดเพื่อลงทุน โดย Tamadoge เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ metaverse ด้วยระบบการเล่นแบบเกม play-to-earn (P2E) บนระบบนิเวศเสมือนเรียกว่า Tamaverse

Tamadoge เป็นเหรียญคริปโตหลักของ metaverse แพลตฟอร์มนี้ ผู้ใช้สามารถสร้าง ผสมพันธุ์ และแลกเปลี่ยนสัตว์เลี้ยง Tamadoge สุดพิเศษเป็น NFT โดยสามารถซื้อสัตว์เลี้ยง Tamadoge ได้ที่ร้าน Tama และใช้ร่วมกับไอเทมพิเศษอื่นๆ ในการแข่งขันเพื่อรับรางวัล โทเค็น TAMA ใช้เพื่อชำระธุรกรรม ซื้อสัตว์เลี้ยง Tamadoge และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์บน Tamaverse

TAMA ตั้งเป้าที่จะเป็นสินทรัพย์แบบอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งแตกต่างจากเหรียญมีมยอดนิยมอย่าง Dogecoin ด้วยอุปทานกว่า 2 พันล้านเหรียญ โดยโทเค็น TAMA จะลดปริมาณลงในระยะยาว เมื่อผู้ใช้ซื้อสินค้าในร้าน Tama อัตรา 5% ของโทเค็น TAMA ทั้งหมดที่ใช้ไปจะถูกเผาทิ้ง ดังนั้นหากปริมาณโทเค็นลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ก็มีโอกาสที่โทเค็นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

TAMA พึ่งจบการพรีเซลล์ไปหมาดๆ หลังจากเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2022 โดยได้นำ 50% ของอุปทานสูงสุดให้ผู้ซื้อช่วงพรีเซลล์ และ 20% ของอุปทานที่เหลือจะถูกลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized และ centralized ส่วนที่เหลืออีก 30% จะเปิดให้ขุดไปอีก 10 ปีข้างหน้า

โปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลังสิ้นสุดการพรีเซลล์ โดยระดมทุนได้กว่า 19 ล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนหลานหมื่นราย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตยอดฮิต ณ เวลานี้ เพราะเป็นเรื่องยากที่จะทำการขายพรีเซลหมดเกลี้ยงในช่วงตลาดขาลง หรือ bear market ได้ Tamadoge จึงพิสูจน์แล้วว่า เป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนและควรค่าแก่การจับตามองอย่างยิ่ง อีกไม่นานภายในปี 2022 เราจะได้เห็นเหรียญนี้ลิสบนกระดานเทรดยอดนิยมอย่างแน่นอน

CoinSniper ยืนยันว่า Tamadoge กำลังจะเป็นเกมแห่ง Metaverse เร็วๆ นี้ ส่วนทาง Solid Proof ก็ได้ตรวจสอบแล้วเรียบร้อย ด้วยกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม TAMA จึงนับว่าเป็นเหรียญที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้

ราคาเหรียญได้ย่อตัวลงพร้อมกับเหรียญส่วนใหญ่ในตลาด แต่ตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ต่ำสำหรับโครงการที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก

สัตว์เลี้ยง NFT ที่หายากเป็นพิเศษกลายเป็นคอลเลกชั่นยอดนิยมบน OpenSea เมื่อพวกเขาเปิดตัว ในขณะที่เกมหลัก มินิเกม และแอพความจริงเสริมยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2023

เมื่อสภาวะตลาดดีขึ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วไปกลับมา TAMA คาดว่าจะกลับมาสูบฉีดอีกครั้ง

ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับรายชื่อสามารถดูได้ผ่านทางช่องทาง Tamadoge Telegram (แอดมินไม่เคย DM หาสมาชิกก่อน โปรดระวังผู้แอบอ้าง)

ลงทุนขั้นต่ำ1,000 TAMA (∼$27.50 + ค่าแก๊ส)
ลงทุนสูงสุดไม่มี
วิธีซื้อETH, USDT, บัตรเดบิต / เครดิต (ด้วย Transak)
เชนEthereum
พรีเซลล์สิ้นสุด

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

5. Battle Infinity – เหรียญเกมคริปโต Metaverse ที่น่าลงทุนที่สุด

Battle Infinity

โปรเจ็กต์มาแรงในลิสเกม metaverse ที่ดีที่สุดและเป็นโปรเจ็กต์คริปโตที่น่าลงทุนคือ Battle Infinity อย่างที่นักลงทุนคริปโตหลายคนทราบ สองนวัตกรรมที่น่าสนใจที่สุดในตลาดปีที่แล้วคือการเล่นแบบ play-to-earn (P2E) และโลก ‘metaverse’

Battle Infinity รวมทั้งสองอย่างนี้เข้าในระบบนิเวศเดียว โดยให้วิธีที่หลากหลายในการสร้างรายได้แก่ผู้ใช้ สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้วิธีลงทุนใน metaverse เกม Battle Infinity ก็กำลังเป็นที่สนใจในหมู่นักลงทุนหลายคน

Battle Infinity

Battle Infinity เอาประโยชน์จากความสำเร็จของเกม play-to-earn ที่ดีที่สุดมาใช้ โดยให้รางวัลผ่านการเล่นที่ต้องใช้ทักษะด้วยเหรียญ $IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม เกมเหล่านี้ถูกรวมเข้ากับโลกเสมือนที่เรียกว่า ‘Battle Arena’ ซึ่งผู้เล่นสามารถสำรวจและโต้ตอบกับผู้เล่นอื่นได้ ผู้เล่นยังสามารถซื้อที่ดินเสมือนเป็น NFT และสามารถสร้างรายได้ผ่านการโฆษณา

เช่นเดียวกับโปรเจ็กต์ metaverse อื่นๆ Battle Infinity เสนอวิธีต่างๆ ให้ผู้ใช้ได้รับรางวัล เช่น ผ่านลีกกีฬาแฟนตาซีในตัว และการ stake รูปแบบใหม่ที่ให้ stake แบบเดี่ยว/คู่ได้ มีแม้กระทั่ง ‘กล่องสุ่ม’ ที่ผู้ใช้สามารถซื้อและเปิดด้วยกุญแจพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีของขวัญ บัตรกำนัล และของรางวัลสุดพิเศษมากมาย

Battle Infinity มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว ต้องขอบคุณการตรวจสอบ KYC จาก CoinSniper และ SolidProof.io โดยรวมแล้ว ถึงแม้ว่าตลาดคริปโตได้ซบเซาลงไปในปัจจุบัน แต่ Battle Infinity ได้มอบความหวังให้แก่นักลงทุนอย่างไม่ต้องสงสัย

พรีเซลล์เหรียญ IBAT ได้ขายหมดเกลี้ยงในเวลาเพียง 24 วัน เพราะความต้องการจำนวนมาก ในขณะที่ราคาเหรียญ IBAT ได้พุ่งขึ้นหลังถูกลิสบน PancakeSwap และ LBanki ในเดือนสิงหาคม ด้วยแผนการลิสในอนาคตและมูลค่าตลาดที่ 40 ล้านดอลลาร์ เราคาดว่าราคาเหรียญ IBAT จะพุ่งขึ้นอีกรอบ

กลุ่ม Telegram ของ Battle Infinity เป็นที่ที่ดีที่สุดในการติดตามข่าวสาร ที่เกี่ยวกับโปรเจกต์นี้

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

Decentraland

6. Decentraland – เหรียญคริปโต Metaverse ยอดฮิต พร้อมการปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัด

เพราะเปิดตัวในปี 2018 จึงทำให้ทีมงาน Decentraland เป็นผู้นำในการแข่งขันของตลาด Metaverse พูดง่ายๆ โปรเจกต์ Metaverse ยอดฮิตนี้ ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และให้ประสบการณ์การเล่นเกมเสมือนจริงแก่ผู้ใช้จากทั่วทุกมุมโลก

ผู้ใช้สามารถสร้างและปรับแต่งตัวละคร แชทกับผู้ใช้รายอื่น และสำรวจโลกของ Decentraland ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังกลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต web 3.0 ที่ดีที่สุดในปีนี้

Decentraland มีเหรียญคริปโตหลัก เรียกว่า MANA โดยธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในเกม Decentraland จะต้องใช้เหรียญ MANA ทำให้โทเค็นมีประโยชน์ใช้งานอย่างแท้จริง ธุรกรรมที่ทำกำไรได้มากที่สุดส่วนใหญ่เป็นที่ดินเสมือนและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมักจะขายได้มากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์

decentraland แพลตฟอร์ม metaverse

ผู้ใช้ยังสามารถซื้อและขายไอเท็มในเกมเพื่อยกระดับประสบการณ์บน Decentraland ส่วนประสิทธิภาพในตลาด ตอนเปิดตัวครั้งแรกบนกระดานเทรดในปี 2018 เหรียญ Decentraland เคยมีราคาเพียง $0.025 แต่เมื่อเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน 2021 เหรียญเดียวกันนี้ก็ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 5.90 ดอลลาร์

และเมื่อคุณซื้อเหรียญ MANA และ LAND คุณจะสามารถเข้าถึงโปรเจกต์ที่ดิน NFT ที่ดีที่สุด รวมถึงโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดอีกด้วย

นี่เป็นกำไรกว่า 24,000% ตอนที่แตะระดับราคาสูงสุด ในช่วงที่ราคาย่อตัวลงมาใน ปี 2022 คุณสามารถซื้อโทเค็น MANA ในราคาลดพิเศษกว่า 50% เทียบกับระดับราคา all time high 

ซื้อ Decentraland ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

มีเหรียญคริปโตใดบ้างที่น่าสนใจในปี 2023?    

แม้ว่าคุณต้องการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่และอนาคตของ Metaverse แต่คุณก็ต้องระวัง เพราะนักวิจารณ์ตลาดหลายคนแย้งว่าตลาดแห่งนวัตกรรมใหม่นี้ น่าจะถูกผูกขาดโดยบริษัทเดียว นั่นคือ Meta Platforms ดังที่เราได้กล่าวไว้ Meta Platforms เป็นชื่อทางการค้าใหม่ของ Facebook

Meta Platforms ไม่เพียงแต่จะมีเงินสดจำนวนมากเพื่อลงทุนในโปรเจกต์ Metaverse เท่านั้น แต่ยังมีผู้ใช้งานหลายพันล้านคนในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ

หากคุณกำลังมองหาเหรียญคริปที่ดีที่สุดที่ในปี 2023 คุณอาจต้องคำนึงถึงโปรเจกต์อื่นๆ เช่น Lucky Block ซึ่งเปิดตัวตอนต้นปี 2022 และกำลังสร้างการแข่งขันในระดับโลกและระบบนิเวศของรางวัลที่จะเปิดให้ผู้เล่นทั่วโลก

lucky block  เหรียญคริปโตที่น่าสนใจ

เนื่องจาก Lucky Block ถูกสร้างขึ้นบนโปรโตคอลบล็อกเชน แปลว่าเกมทั้งหมดของแพลตฟอร์มจะถูกสร้างขึ้นจากสัญญาอัจฉริยะ หมายความว่าการสุ่มและความถูกต้องจะถูกการันตีอย่างแน่นอน Lucky Block เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปี 2022 จนถึงปัจจุบัน

Lucky Block ให้รางวัลที่ไม่มีใครเทียบได้ในตลาดด้วยรถแลมโบกินี่มูลค่า 300,000 ดอลล่าร์ และ Bitcoin 1 ล้านดอลล่าร์

โปรเจ็กต์พึ่งเปิดตัวเหรียญ LBLOCK V2 ซึ่งลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม 12% ของเหรียญ V1 ช่วยให้ถูกลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized ได้ง่ายขึ้น ด้วยแผนการลิสบนกระดานเทรดเจ้าใหญ่ในอนาคต และการเผาโทเค็น 1% ต่อเดือน ทำให้เหรียญ LBLOCK ถูกคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างมาก

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง

เหรียญคริปโต Metaverse คืออะไร?

Metaverse หมายถึงเทคโนโลยีใหม่ ที่ช่วยนำประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงมาอยู่ในโลกเสมือน

  • อาจเป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนการจำลองเมืองของคุณแบบ 3 มิติ ซึ่งคุณสามารถเดินไปรอบๆ และดูพื้นที่ใกล้เคียงของคุณได้แบบเสมือนจริง
  • ในทำนองเดียวกัน Metaverse อาจประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าเสมือนที่ให้คุณเรียกดูสินค้าที่มีในโลกจริง และซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
  • ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ Metaverse ไม่ได้มีเฉพาะในคริปโตเคอเรนซี่และเทคโนโลยีบล็อกเชนเท่านั้น
  • นอกจากนี้ บริษัทขนาดใหญ่อย่าง Facebook ก็กำลังอัดฉีดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ลงในตลาด Metaverse

มีเหรียญคริปโต Metaverse จำนวนหนึ่งที่เราชื่นชอบ โดยเฉพาะเมื่อคุณพิจารณาถึงควาบซบเซาของตลาดในปัจจุบัน ซึ่งทำให้เหรียญเหล่านั้นมีราคาในการเข้าซื้อที่ต่ำ

เหรียญชั้นนำที่ว่ามีทั้ง Decentraland, Sandbox และ Axie Infinity ซึ่งทั้งหมดมีโลกเสมือนจริงสุดพิเศษ ให้ผู้ใช้สำรวจ สนทนา และซื้อที่ดินดิจิทัลที่สามารถขายได้ในตลาดที่ใครก็เข้าถึงได้

คุณจำเป็นต้องใช้เหรียญคริปโตหลักของแพลตฟอร์ม เพื่อซื้อขายผลิตภัณฑ์และบริการของ Metaverse การลงทุนในเหรียญคริปโตหลักของโปรเจ็กต์ Metaverse จะทำให้คุณได้รับผลกำไรหากมูลค่าโทเค็นเพิ่มขึ้น

เหรียญ Metaverse เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

หากคุณยังไม่มั่นใจว่าเหรียญคริปโตของ Metaverse เป็นการลงทุนที่ดีในพอร์ตการลงทุนหรือไม่ คุณยิ่งต้องอ่านส่วนนี้ โดยเราจะพูดถึงเหตุผลต่างๆ ว่าเหรียญ Metaverse มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงก่อนลงทุน

ทุกคนเข้าถึงโลก Metaverse ได้ 

แนวคิดของโลก Metaverse คือ ทุกคนสามารถเข้าถึงโลกเสมือนจริงได้ คุณสามารถดูหนังในโรงหนังนิวยอร์ก หรือไปไนต์คลับในนครรีโอเดจาเนโร โดยไม่จำเป็นต้องลุกออกจากบ้าน

จึงไม่มีข้อจำกัดด้านขอบเขตสำหรับผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในโลก Metaverse หมายความว่าอุปสงค์ทั่วโลกในโปรเจกต์ Metaverse อาจมีมหาศาล

อสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง

แพลตฟอร์ม Metaverse เช่น Decentraland และ Sandbox ได้สร้างคอนเซปต์ใหม่อันสร้างสรรค์ โดยให้ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินเสมือนจริงและสร้างอสังหาริมทรัพย์ได้ เนื่องจากในโลก Metaverse ผู้ใช้สามารถปรับแต่งสิ่งต่างๆ ได้ตามใจชอบ

เรามีตัวอย่างให้เห็นแล้วเกี่ยวกับที่ดิน Metaverse และโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์แล้ว เนื่องจากยอดขายหลายร้อยล้านดอลลาร์ถูกบันทึกไว้ในปี 2021

ในช่วงปลายปี 2021 นักลงทุนซื้อเกาะเสมือน 100 แห่ง ผ่านแพลตฟอร์ม Sandbox ด้วยเงินจำนวน 4.2 ล้านดอลลาร์ จากนั้น นักลงทุนได้สร้างวิลล่าในแต่ละเกาะ โดย 90% ของสินทรัพย์ ได้ขายหมดภายในวันแรกที่ 15,000 ดอลลาร์ต่อทรัพย์สิน

  • หมายความว่าคุณมีสองวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรจากเหรียญคริปโต Metaverse ที่ดีที่สุด
  • อย่างแรก คุณอาจพิจารณาซื้อคริปโตเคอเรนซี่หลักของโปรเจกต์ เช่น โทเค็น MANA ของ Decentraland หรือโทเค็น SAND ของ Sandbox
  • อย่างที่สอง คุณอาจพิจารณาซื้ออสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงและสร้างอสังหาริมทรัพย์ของคุณเอง โดยนำสิ่งเหล่านี้ไปขายในตลาด

ทำให้ความเป็นไปได้ของโปรเจกต์คริปโต Metaverse ไม่มีที่สิ้นสุด

เหรียญ crypto metaverse มูลค่าตลาดต่ำจำนวนมาก มาพร้อมโอกาสให้ผลตอบแทน

อีกเหตุผลในการซื้อเหรียญคริปโต Metaverse ก็คือ ตลาดนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยการประเมินมูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตเคอเรนซี่ในตลาดก็ยังค่อนข้างต่ำ

อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในปัจจุบัน มีเหรียญ crypto metaverse น้อยกว่า 200 เหรียญที่คุณสามารถหาซื้อได้ โดยจากรายชื่อเหรียญคริปโต Metaverse บน CoinMarketCap มีโปรเจกต์แค่กว่า 10 โปรเจกต์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์

เหรียญ Metaverse

เหรียญคริปโต Metaverse ส่วนใหญ่มีมูลค่าตลาดน้อยกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ในมุมการลงทุน นี่หมายความว่าคุณสามารถลงทุนในเหรียญ Metaverse ขนาดเล็กด้วยเงินนิดเดียว และเหรียญอาจมีโอกาสสูงที่ราคาจะเพิ่มขึ้น

กระจายความเสี่ยงได้ง่าย

ประโยชน์เพิ่มเติมของการลงทุนในเหรียญคริปโต Metaverse คือ คุณสามารถกระจายความเสี่ยงในพอร์ตได้ง่ายๆ สิ่งนี้สำคัญ เนื่องจากจะต้องคอยดูว่าโปรเจ็กต์ใดของ Metaverse จะครองตลาดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การใช้เว็บไซต์โบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองอย่าง eToro อาจทำให้คุณอยากซื้อเหรียญเกี่ยวกับ Metaverse เพิ่มในพอร์ตการลงทุน เนื่องจาก eToro ให้คุณใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์

คอยจับตาดู Meta Platforms ไว้ให้ดี

คุณควรพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงของ Meta Platforms

  • โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้มีเงินสดสำรอง 50 พันล้านดอลลาร์ หมายความว่า Meta Platforms มีกำลังในการการครอบครองระบบนิเวศ Metaverse ได้ทั้งหมด
  • สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือ Meta Platforms ที่ให้บริการทั้ง Facebook, WhatsApp และ Instagram นั้นเป็นเหมือนแหล่งรวมผู้ใช้งานในทุกๆวัน หลายพันล้านคน
  • หมายความว่า Meta Platforms มีตลาดผู้บริโภคพร้อมอยู่แล้ว ดังนั้น การเป็นโปรเจกต์ Metaverse ที่ใช้คอนเซปคริปโต อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สำเร็จ

ในการกระจายความเสี่ยง คุณอาจลองซื้อเหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดลงในพอร์ตการลงทุน ควบคู่ไปกับการกระจายการลงทุนในหุ้นของ Meta Platforms

ราคาของเหรียญ crypto metaverse

คุณอาจสังเกตเห็นว่า Decentraland, Sandbox, และเหรียญ Metaverse อื่นๆ ที่เราพูดถึงทั้งหมด ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ก่อนที่มูลค่าของโทเค็นจะลดลง

เนื่องจากตลาดคริปโตเคอเรนซี่เป็นเหมือนวัฏจักร หมายความว่าเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะถูกขับเคลื่อนโดย Bitcoin ทำให้เหรียญ Metaverse มีโอกาสที่ราคาจะแกว่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เหรียญคริปโต Metaverse

แต่เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง ก็จะเกิดสิ่งที่ตรงกันข้าม ซึ่งแม้แต่เหรียญคริปโต Metaverse ที่ดีที่สุดก็จะสูญเสียมูลค่าไป เรื่องนี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจคุณอีกครั้งว่า โดยทั่วไปแล้ว ราคาของเหรียญคริปโตส่วนใหญ่จะถูกขับเคลื่อนด้วยกระแสตลาดและการเก็งกำไร

เหรียญ Metaverse ซื้อที่ไหน?

หากคุณสงสัยว่าจะซื้อเหรียญ metaverse ที่ดีที่สุดได้ที่ไหน ตัวเลือกการซื้อจะขึ้นอยู่กับโปรเจกต์ที่คุณเลือก เช่น เหรียญ Metaverse ชั้นนำที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงมักจะถูกลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุด

หากคุณกำลังติดตามเหรียญ Metaverse ใหม่ที่พึ่งเปิดตัว คุณอาจต้องใช้กระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized อย่าง PancakeSwap แต่แพลตฟอร์มโดยรวมที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญ Metaverse ด้วยวิธีที่ปลอดภัย เป็นมิตรกับผู้ใช้ และใช้เงินน้อยคือ eToro

นี่คือเหตุผล:

eToro – แพลตฟอร์มโดยรวมที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญ Metaverse แห่งปี 2023

eToro

หากคุณสนใจเหรียญ Metaverse ที่เราได้วิเคราะห์ในวันนี้ เช่น Tamadoge, Battle Infinity, Axie Infinity, Decentraland หรือ Sandbox ที่ eToro ช่วยคุณได้ ในการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์นี้ คุณสามารถซื้อเหรียญ Metaverse แบบ spread จากการซื้อขายขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์ หมายความว่าการฝากเงิน 50 ดอลลาร์ คุณสามารถกระจายลงทุนได้ถึงห้าเหรียญ

eToro ยังได้รับอนุญาตและจดทะเบียนโดย ก.ล.ต. และ FINRA จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการลงทุน นอกจากเหรียญคริปโต Metaverse แล้ว eToro ยังให้คุณเข้าถึงคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆ อีกหลายสิบสกุล ไปจนถึงหุ้นและ ETF นับพันรายการ ที่ eToro ยังมีกระบวนการฝากเงินที่เรียบง่าย ทั้ง e-wallets เช่น Paypal บัตรเดบิต/เครดิต และ ACH โดยจะไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงินในสกุลเงินดอลลาร์

eToro

eToro ยังช่วยให้คุณลงทุนในเหรียญ Metaverse และคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆ ได้แบบพาสซีพ ซึ่งคุณจะมีสองตัวเลือกด้วยกัน ตัวเลือกแรกคือการ copy trade ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจำลองการลงทุนของเทรดเดอร์คริปโตที่ประสบความสำเร็จได้ ตัวเลือกที่สองคือการอัดฉีดเงินทุนบางส่วนลงในพอร์ตการลงทุนคริปโตแบบเฉพาะ ซึ่งได้รับการจัดการโดยทีม eToro เพียงใช้เงินฝากขั้นต่ำแค่ 10 ดอลลาร์ คุณก็สามารถเริ่มต้นใช้งาน eToro ได้ทันที

ซื้อเหรียญคริปโต Metaverse ที่ eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง

วิธีซื้อเหรียญ Metaverse บน eToro

เราจะแสดงวิธีการซื้อเหรียญ Metaverse อันดับต้นๆ โดยอิงจากมูลค่าตลาด ซึ่งทำได้ง่ายๆ จากที่บ้านของคุณในเวลาไม่ถึงห้านาที 

คุณจะได้เรียนรู้วิธีการซื้อเหรียญให้เสร็จ ผ่านแพลตฟอร์ม eToro ที่ถูกควบคุมโดย ก.ล.ต. ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการลงทุนบนโปรเจกต์ Metaverse ชั้นนำ

ขั้นที่ 1: เปิดบัญชี eToro

ขั้นแรกคือการลงทะเบียนบัญชีกับ eToro โดยคุณจะต้องป้อนชื่อ ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ จากนั้น ตั้งชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน แล้วป้อนที่อยู่และวันเกิดของคุณ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชี eToro

เพื่อให้ขั้นตอนการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ คุณจะต้องอัปโหลดบัตรประจำตัว เช่น บัตรประจำตัวประชาชน พาสปอร์ตหรือใบขับขี่ แล้วเอกสารของคุณจะได้รับการตรวจสอบในทันที

ขั้นที่ 2: ฝากเงิน

คุณจะต้องฝากเงินเท่ากับหรือมากกว่า $10 ในบัญชี eToro จึงจะซื้อเหรียญคริปโต Metaverse ได้ ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการฝากเงินสกุลดอลลาร์

ฝากเงินบน etoro

วิธีที่เร็วที่สุดคือ การใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต เพราะระบบจะดำเนินการทันที หรือจะเลือกเติมเงินผ่านการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ, ACH หรือ e-wallet

ขั้นที่ 3: ค้นหาเหรียญ Metaverse

หากคุณมีเหรียญคริปโต Metaverse ที่จะซื้อลงพอร์ตของ eToro ไว้ในใจอยู่แล้ว ให้ใช้แถบค้นหาที่ด้านบนของหน้าจอ

Metaverse Coin ที่ดีที่สุด เหรียญ metaverse ที่น่าสนใจ

ในตัวอย่าง เรากำลังค้นหา Axie Infinity จากนั้น คลิกที่ปุ่ม ‘Trade’ ที่อยู่ถัดจากเหรียญ Metaverse ที่คุณต้องการซื้อ

ขั้นที่ 4: ซื้อเหรียญ Metaverse

ตอนนี้คุณจะเห็นคำสั่งซื้อเหรียญ Metaverse ที่คุณต้องการ ให้ดูที่ช่อง ‘Amount’ และระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุนเป็นดอลลาร์สหรัฐ

ไม่ว่าโทเค็นจะซื้อขายกันเป็นจำนวนเงินเท่าใด ณ เวลาที่สั่งซื้อ คุณสามารถลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ $10 ที่ eToro และกด ‘Open Trade’ เพื่อยืนยันการลงทุนในเหรียญ Metaverse ของคุณ

Metaverse Coin ที่ดีที่สุด เหรียญ metaverse ที่น่าสนใจ

เรียบร้อย คุณพึ่งได้เรียนรู้วิธีซื้อเหรียญคริปโต Metaverse บนแพลตฟอร์มที่ถูกรับรองโดย ก.ล.ต. ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงห้านาที

ซื้อเหรียญ Metaverse ผ่าน eToro

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง

วิธีซื้อเหรียญ Metaverse – ตัวอย่าง Love Hate Inu

ส่วนนี้ของคำแนะนำของเราจะแสดงวิธี Love Hate Inu ($LHINU) ซึ่งหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปี 2023

ขั้นตอนที่ 1: รับ Crypto Wallet

ก่อนอื่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณ crypto wallet เช่น MetaMask หรือ TrustWallet โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของแพลตฟอร์ม

ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Wallet ของคุณ

หลังจากตั้งค่าบัญชีใน wallet ที่คุณเลือกแล้ว ให้ไปที่เว็บไซต์พรีเซลล์ของ $LHINU และเชื่อมต่อกับ wallet ของคุณ 

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเงินเพียงพอ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า wallet ของคุณมีเงินเพียงพอสำหรับการซื้อ โดยเว็บไซต์พรีเซลล์จะเสนอตัวเลือกการระดมทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถใช้ Transak เพื่อรับจำนวนเงินที่ต้องการหากคุณมียอดคงเหลือไม่เพียงพอ

ขั้นตอนที่ 4: รับ $LHINU

เมื่อมีเงินเพียงพอใน wallet แล้ว ให้กด “buy $LHINU with ETH” หรือ “buy $LHINU with USD” และป้อนจำนวนเงินที่ต้องการ $LHINU ที่คุณต้องการแลกกับ USDT หรือ ETH โดยคุณต้องซื้ออย่างน้อย $10 LHINU ($0.00085) 

ขั้นตอนที่ 5: รับโทเค็นของคุณ

เมื่อค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้รับการอนุมัติ การทำธุรกรรมจะได้รับการยืนยัน หลังจากช่วงพรีเซลล์สิ้นสุดลง คุณจะสามารถแลก $LHINU ของคุณได้จากหน้าการรับโทเค็น

ไปยัง Love Hate Inu Presale

บทสรุป

บทความสำหรับมือใหม่ในตลาด Metaverse นี้ ได้อธิบายว่าตลาดบล็อกเชนทำงานอย่างไร ทั้งในแง่ของศักยภาพในอนาคตและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา นอกจากนี้เรายังได้วิเคราะห์เหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดในตลาดอีกด้วย

นอกเหนือจากการการเป็นเหรียญ metaverse ยอดนิยมแล้ว โทเค็น $FGHT ของ FightOut ได้กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ดีที่สุดที่น่าซื้อในปี 2023 โครงการนี้ได้ชักจูงให้ผู้ใช้ก้าวหน้าในเส้นทางการออกกำลังกายในขณะที่ให้รางวัลที่น่าตื่นเต้นแก่พวกเขา ขณะนี้มีจำหน่ายล่วงหน้าในราคาเพียง 0.0167 เหรียญสหรัฐฯ $FGHT ระดมทุนได้แล้วกว่า 2 ล้านเหรียญ USD

Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

จัดอันดับ 11 VPN เร็วที่สุด ในปี 2023 

การใช้ VPN เร็วที่สุด จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับความเร็ว ที่มาพร้อมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว VPN ทั้ง 11 รายนี้ ต่างรับประกันความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และประสบการณ์สตรีมมิ่งที่น่าจดจำ โดยไม่มีความล่าช้าหรือบัฟเฟอร์ใด ๆ

อย่างไรก็ตาม ในตลาดมีVPN หลากหลายคุณภาพ ทั้งสูงและต่ำกว่ามาตรฐานด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน การค้นหาเซิร์ฟเวอร์ VPN แรงๆ จึงอาจเป็นเรื่องยาก แต่เราพบว่า Surfshark เป็นผู้นำที่มีความเร็วสูงถึง 980 Mbps ด้วยราคาที่ถูก และมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่น่าทึ่ง มาเริ่มศึกษาและเปรียบเทียบ VPN เร็วที่สุดในตลาด เช่น CyberGhost และ NordVPN ว่ามีประสิทธิภาพแตกต่างกันอย่างไร มาเริ่มทดสอบตอนนี้ พร้อมรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วันได้เลย

11 บริการ VPN เร็วที่สุด ในปี 2023 

เราได้ทดสอบ VPN ต่าง ๆ มากมาย ทั้งความเร็วและความเสถียร และนี่คือ 11 อันดับ VPN เร็วที่สุดของเราในปี 2023:

  1. Surfshark VPN — VPN เร็วที่สุด 980Mbps และยินดีคืนเงินใน 30 วัน
  2. CyberGhost VPN — เว็บ VPN แรง ๆ  540+ Mbps พร้อมการป้องกันมัลแวร์ในตัว และรับประกันเงินคืน 45 วัน
  3. NordVPN — ตัวเลือกยอดนิยมที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นและข้อมูลไม่จำกัด เฉลี่ย 400+ Mbps พร้อมรับเงินคืนได้ภายใน 30 วัน
  4. UltraVPN — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ด้วยความเร็ว 230+ Mbps และมีการรับประกัน 30 วัน
  5. Atlas VPN — VPN เพิ่มความเร็วเน็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว พร้อมการรับประกันนาน 1 เดือน
  6. Proton VPN — VPN ที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นพอสมควร พร้อมแผนบริการฟรี 300+ Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
  7. StrongVPN — VPN เชื่อถือได้ ความเร็วเฉลี่ย 70+ Mbps ที่มาพร้อมการรับประกัน 30 วัน
  8. PureVPN — VPN ที่ความเร็ว 160+ Mbps แต่ยังไม่เสถียรมากนัก บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
  9. IPVanish — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุด 890+ Mbps สำหรับ Android และ iPhone ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
  10. ExpressVPN — VPN แรง ๆ 380+ Mbps สำหรับการสตรีมมิ่ง บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา ที่มากับการรับประกัน 30 วัน
  11. Norton Secure VPN — VPN ความเร็วเฉลี่ย 37+ Mbps ที่ยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

รีวิว VPN เร็วที่สุด ในปี 2023 

ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า VPN เร็วที่สุด คือที่ไหน เนื่องจากความเร็วอาจแตกต่างกันไปตามการใช้งาน เช่น การใช้ VPN เพื่อสตรีม Netflix, ดาวน์โหลดภาพยนตร์, ส่อง Instagram หรือแค่ท่องเว็บแบบสบาย ๆ

 เราจะรีวิวเจาะลึกการให้VPN เร็วที่สุด 11 อันดับแรก เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และเลือก VPN ที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด

1. Surfshark VPN — VPN เร็วที่สุด980Mbps และยินดีคืนเงินใน 30 วัน

Surfshark ได้รับการยกย่องอย่างมาก และจัดเป็นแอพเน็ตเร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุดถึง 980 Mbps สิ่งนี้ทำให้ Surfshark VPN กลายเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเล่นเกม, การสตรีม และการดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือเกม

Surfshark ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุด โดยแต่ละเซิร์ฟเวอร์จะเชื่อมต่อกับพอร์ต 1Gbps เป็นอย่างน้อย (บางพอร์ตสูงถึง 2×10 Gbps) ทำให้สามารถรองรับทราฟฟิกจำนวนมาก และไม่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลง

Surfshark ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับ VPN เร็วที่สุดที่ให้บริการในกว่า 95 ประเทศ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม

WireGuard เป็นหนึ่งในโปรโตคอล star VPN และการเข้ารหัสข้อมูล AES-256-GCM ซึ่ง Surfshark มีการจัดการเพื่อให้การป้องกันยอดเยี่ยม และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลโดยไม่สูญเสียความเร็ว

Surfshark สามารถดูแลอุปกรณ์ทั้งหมดในบ้าน ด้วยการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว

นอกจากการเข้ารหัสตามมาตรฐานแล้ว Surfshark ยังมีฟีเจอร์ CleanWeb ที่บล็อกโฆษณาที่น่ารำคาญ และปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์ เช่นเดียวกับ Surfshark Search เพื่อให้แน่ใจว่า มีความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์เมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ Surfshark ยังให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ โดยจะมีการแจ้งให้คุณทราบทันที หากข้อมูลของคุณรั่วไหล, เตือนให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่าน และส่งรายงานความปลอดภัยรายไตรมาสไปยังอีเมลของคุณ

คุณสามารถใช้ Surfshark สตรีมเนื้อหาที่จำกัดบน Netflix, Disney Plus, Amazon Prime Video, HBO Max, Hulu, DAZN และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมอื่น ๆ ได้

นอกจากนี้ ยังให้การเข้าถึง IPTV ที่ปลอดภัย และช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการแข่งขันเกมกีฬาที่คุณชื่นชอบ โดยไม่มีโฆษณาให้รำคาญใจด้วย

ข้อดี:

  • VPN เร็วที่สุด
  • การเข้ารหัสที่ล้ำสมัย 
  • บล็อกโฆษณา, มัลแวร์ และป๊อปอัป
  • ไม่บล็อกเนื้อหาบนสตรีมมิ่งหลักทั้งหมด

ข้อเสีย:

  • ราคาสมาชิกระยะยาว (รายปี) ไม่ชัดเจน 
  • มีปัญหา kill switch เป็นครั้งคราว
ช่วงความเร็ว US390-980 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์3,200+
จำนวนประเทศ95
ราคาสมาชิกรายเดือน: $12.95 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: $2.49 ต่อเดือน (ส่วนลด 81%)
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

2. CyberGhost VPN — เว็บ VPN แรง ๆ  540+ Mbps พร้อมการป้องกันมัลแวร์ในตัว และรับประกันเงินคืน 45 วัน

CyberGhost VPN ทําให้เน็ตเร็วขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อที่ 548 Mbps และเร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น

ทั้งนี้ ความเร็วอาจลดลงหากคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจาก CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 7,800 เครื่อง ใน 91 ประเทศ

CyberGhost VPN เป็น VPN เร็วที่สุดที่ให้การป้องกันที่เหนือชั้นสมชื่อ เพราะให้ความเป็นส่วนตัวที่สมบูรณ์ และไม่เปิดเผยตัวตนบนอุปกรณ์ใด ๆ 

นอกเหนือจากการปกปิดที่อยู่ IP และการเข้ารหัสข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้ว CyberGhost ยังบล็อกโฆษณาบนเว็บไซต์และให้การป้องกันมัลแวร์ด้วย

การสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ CyberGhost กับอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 7 เครื่อง ทั้ง เดสก์ท็อปพีซีหรือแล็ปท็อป,iPhone หรือ Android, สมาร์ททีวี หรือแม้แต่เกมคอนโซล

ทดสอบ VPN แรง ๆ ของ CyberGhost โดยไม่มีความเสี่ยงได้นานถึง 45 วันเต็ม

CyberGhost ใช้การเข้ารหัสข้อมูล AES 256 bit เพื่อปกปิดตัวตน, ตำแหน่ง และข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น CyberGhost ยังปฏิบัติตามนโยบายการไม่ระบุตัวตนอย่างเข้มงวด ซึ่งหมายความว่า บริษัทจะไม่สามารถติดตามหรือเก็บข้อมูลของคุณได้ ดังนั้น คุณจึงสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ภายใต้ความเป็นส่วนตัว

นอกเหนือจากการซ่อนที่อยู่ IP จริงของคุณแล้ว CyberGhost ยังเสนอที่อยู่ IP เฉพาะให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้น การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณจึงมาจากที่เดียวกันเสมอ

วิธีนี้อาจมีประโยชน์หากคุณเข้าชมเว็บไซต์บ่อย ๆ ซึ่งต้องมีการสแกนที่อยู่ IP ของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และจำกัดการเข้าถึงหากพวกเขาพบว่าคุณกำลังใช้งาน VPN นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อีกอย่างของ VPN เร็วที่สุด นั่นก็คือ การแยกอุโมงค์ VPN นั่นเอง

วิธีนี้ทำให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์บางเว็บไซต์ที่คุณไว้วางใจได้ ดังนั้น การรับส่งข้อมูลจึงไม่จำเป็นต้องผ่าน VPN หรือหมายความว่า คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ออนไลน์แบบไม่ต้องมีโฆษณา และไม่ทำให้ความเร็วเน็ตช้าลง

ข้อดี:

  • เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่
  • การเข้ารหัสมาตรฐาน
  • นโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด
  • ไม่บล็อกบริการสตรีมมิ่งโดยส่วนใหญ่

ข้อเสีย:

  • ราคาสมาชิกระยะยาว (รายปี) ไม่ชัดเจน 
  • ไม่มีการตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 548 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์7,800+
จำนวนประเทศ91
ราคาสมาชิกรายเดือน: $12.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: $2.29 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน45 วัน

ไปยัง CyberGhost ตอนนี้

3. NordVPN — ตัวเลือกยอดนิยมที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นและข้อมูลไม่จำกัด เฉลี่ย 400+ Mbps พร้อมรับเงินคืนได้ภายใน 30 วัน

ที่ความเร็วเฉลี่ย 417 Mbps ทำให้ NordVPN ควรได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในVPN เร็วที่สุด ในปี 2023 เนื่องจากผู้ใช้งานมักจะเอ่ยปากชมทั้งเรื่องความปลอดภัยและการทําให้เน็ตเร็วขึ้น

NordVPN ให้บริการครอบคลุมทั่วโลก โดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,500 เครื่องใน 59 ประเทศ สิ่งนี้ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า การอัปโหลด/ดาวน์โหลดเป็นไปด้วยความเร็วสูงแทบทุกที่ในโลก ด้วยแบนด์วิธที่ไม่จำกัด

 NordVPN ใช้ NordLynx เป็นเครื่องมือ VPN ที่ใช้โปรโตคอล WireGuard ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัด ไม่จำกัดความเร็ว และทำให้เป็นหนึ่งในVPN เร็วที่สุด

ไม่ใช้แค่ VPN เพิ่มความเร็วเน็ตเท่านั้น แต่ NordVPN ยังมีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

 NordVPN อาศัยมาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง (AES) และโปรโตคอล VPN ที่แตกต่างกัน 3 แบบ (IKEv2/IPsec, OpenVPN และ NordLynx) เพื่อซ่อน IP และตำแหน่งการใช้งาน เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ

สำหรับผู้ที่ยังมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับความปลอดภัยทางออนไลน์ NordVPN ก็มีตัวเลือก double VPN ที่เพิ่มการป้องกันพิเศษผ่านเซิร์ฟเวอร์พิเศษ หากคุณเลือกใช้ NordVPN คุณจะเพลิดเพลินกับการแยกอุโมงค์ VPN, DNS ส่วนตัว, การจัดการเซิร์ฟเวอร์ที่ยุ่งเหยิง และอื่น ๆ ได้

NordVPN ยังมีฟีเจอร์ตรวจสอบเว็บมืด, สแกนเว็บ และแจ้งเตือนเมื่อข้อมูล, บัญชี หรือรหัสผ่านของคุณถูกแฮก

ข้อดี:

  • ครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์อย่างยอดเยี่ยม
  • การเข้ารหัสและฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง
  • ตัวเลือกกำหนดเส้นทาง DNS ส่วนตัว และ Double VPN
  • โปรโตคอล VPN 3 แบบ

ข้อเสีย:

  • ราคาแพงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย
  • การออกจาก VPN อาจทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายหลุด
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 417 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์5,500+
จำนวนประเทศ59
ราคาสมาชิกรายเดือน: เริ่ม $11.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: เริ่ม $4.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ6
บริการลูกค้า24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง NordVPN ตอนนี้

4. UltraVPN — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ด้วยความเร็ว 230+ Mbps และมีการรับประกัน 30 วัน

เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ เจ้าอื่น เราพบว่า UltraVPN เป็นบริการรายเล็ก ที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 100 เครื่องใน 10 ประเทศ แต่ก็เป็นหนึ่งใน VPN เร็วที่สุดบนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาด้วยความเร็วเฉลี่ย 236 Mbps 

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์มีความน่าเชื่อถือสูง และคุณจะไม่สังเกตเห็นการสะดุด หรือการลดลงของความเร็วอินเทอร์เน็ต เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียง

UltraVPN เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ที่ต้องการใช้งาน Netflix, HBO Max, Hulu และ Disney Plus ที่ไม่มีให้บริการในประเทศของตน

อย่างไรก็ตาม Amazon Prime Video จะตรวจพบ UltraVPN ทันที ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะรับชม The Boys หรือรายการทีวี Lord of the Rings เราขอแนะนำ Surfshark จะเหมาะสมกว่า

UtlraVPN พร้อมใช้ใน Windows, Mac, Android (เวอร์ชั่น 5.0 ขั้นไป) และอุปกรณ์ iOS (เวอร์ชั่น 11.0 ขั้นไป) แม้ว่าจะไม่มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่แอพเน็ตเร็วนี้ ก็ให้การดาวน์โหลด VPN อย่างรวดเร็ว และตั้งค่าได้ง่ายมาก

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย UltraVPN มีความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (AES) และมีโปรโตคอล VPN 3 แบบให้เลือก ได้แก่ IKEv2(IPSec), Hydra และ Automatic นอกจากนี้ ยังมี kill switch และการแยกอุโมงค์ VPN ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์และฟิชชิ่ง

ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงตัวเลือกอื่น ๆ เช่น Passwatch และ การสแกนเว็บมืดได้ฟรี ซึ่งการป้องกันนี้ทำให้มั่นใจได้ว่ารหัสผ่านของคุณจะปลอดภัยและได้รับการปกป้อง เพราะจะมีการแจ้งเตือนทันทีเมื่อข้อมูลรั่วไหล

ข้อดี:

  • การเข้ารหัสระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
  • โปรโตคอล VPN 3 แบบ
  • ส่วนเสริมความปลอดภัยที่หลากหลาย
  • ใช้งานบนอุปกรณ์ใดก็ได้

ข้อเสีย:

  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก
  • ใช้ไม่ได้กับ Amazon Prime Video
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 236 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์100+
จำนวนประเทศ10
ราคาสมาชิกรายเดือน: เริ่ม $11.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: เริ่ม $4.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ6
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง UltraVPN ตอนนี้

5. AtlasVPN — VPN เพิ่มความเร็วเน็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว พร้อมการรับประกันนาน 1 เดือน

AtlasVPN ให้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ VPN เร็วที่สุดนี้เปิดตัวในปี 2019 และให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้จากที่ต่าง ๆ โดยไม่มีข้อจำกัด

หนึ่งในเหตุผลที่ AtlasVPN เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ก็คือ การเป็นเว็บ VPN แรง ๆ และฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว VPN ใช้การเข้ารหัสระดับ military-grade  เพื่อปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน และรักษาความเป็นส่วนตัว

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายไม่ระบุตัวตน ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานหรือเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเข้าถึงเว็บไซต์ โดยไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้ใครตามจับได้

AtlasVPN ทําให้เน็ตเร็วขึ้นและเสถียร ซึ่งจำเป็นสำหรับการสตรีมออนไลน์และการดาวน์โหลด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซิร์ฟเวอร์ Torrent

ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับการดาวน์โหลดได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีปัญหาความล่าช้า และ AtlasVPN ยังมีหน้าต่างใช้งานที่ใช้ง่าย ทำให้ผู้ใช้งานมือใหม่และผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์เข้าถึงได้ทุกคน

AtlasVPN มีฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การเชื่อมต่อด้วยคลิกเดียว, การเลือกเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ และความสามารถในการสลับเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย ภายใต้ราคาที่เหมาะสม เริ่มต้นเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือน

ข้อดี:

  • มี 2FA
  • การเข้ารหัสระดับ Military-grade เพื่อความปลอดภัย
  • รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
  • เว็บ VPN แรง ๆ ที่เหมาะกับการสตรีมมิ่ง

ข้อเสีย:

  • อยู่ในสหรัฐอเมริกา
  • เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก
ช่วงความเร็ว US240+ Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์750+
จำนวนประเทศ45
ราคา$1.99/เดือน — แผน 3 ปี
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้ายอดเยี่ยม
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง AtlasVPN ตอนนี้

6. Proton VPN — VPN ที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นพอสมควร พร้อมแผนบริการฟรี 300+ Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

Proton VPN เป็นโปรแกรมเน็ตเร็วฟรีและแบบเสียเงิน ที่มีเซิร์ฟเวอร์ 1,728 แห่งใน 63 ประเทศ ด้วยความเร็วเฉลี่ย 300 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ Proton VPN จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าในอเมริกาเหนือ

สิ่งที่ทำให้ Proton VPN เป็นหนึ่งในVPN เร็วที่สุด คือ การรวมกันของเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 10 Gbps และ VPN Accelerator ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วได้มากถึง 400%

บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยมองว่านี่เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นเหตุผลหลักที่ Proton VPN เป็นโปรแกรมเน็ตเร็วฟรีแก่ทุกคนที่ต้องการท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย

แต่ทั้งนี้จะมีข้อจำกัดบางอย่างในบัญชีฟรี ดังนั้น ผู้ใช้งานแบบชำระเงินจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่หลากหลายมากขึ้นได้

Proton VPN พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์และแพลตฟอร์มทั้งหมด (Windows, Linux, iOS, Android) และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่อง ภายในบัญชีเดียว

VPN เร็วที่สุดแห่งนี้ เข้ารหัสด้วย Perfect Forward Secrecy ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่มีใครสามารถถอดรหัสข้อมูลของคุณได้ แม้ในกรณีที่คีย์ถูกขโมย

นอกจากนี้ Proton VPN ยังมาพร้อมกับ NetShield ซึ่งบล็อกโฆษณาที่น่ารำคาญ, ปกป้องอุปกรณ์จากมัลแวร์ และปิดการใช้งานตัวติดตามเว็บไซต์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่

ข้อดี:

  • มีแผนฟรี
  • ทําให้เน็ตเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
  • บล็อกโฆษณาและป้องกันมัลแวร์ 

ข้อเสีย:

  • บัญชีฟรีมีฟีเจอร์จำกัด
  • ไม่มีการสนับสนุนผ่านแชทสด
ช่วงความเร็ว USสูงสุด 300 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์1,700+
จำนวนประเทศ63
ราคามีแผนฟรีสมาชิกรายเดือนเริ่ม $9.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ10
บริการลูกค้าผ่านอีเมลเท่านั้น
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง ProtonVPN ตอนนี้

7. StrongVPN — VPN เชื่อถือได้ ความเร็วเฉลี่ย 70+ Mbps ที่มาพร้อมการรับประกัน 30 วัน

StrongVPN เป็นเครือข่ายที่มีความเร็วเฉลี่ยเพียง 71 Mbps ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมและสร้างความรำคาญเมื่อสตรีมมิ่ง คุณอาจต้องรอ 2-3 นาที เพื่อโหลดข้อมูล และทำให้การรับชมไม่สะดุด

อย่างไรก็ตาม StrongVPN มีการกระจายเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสม โดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 500 แห่งใน 35+ ประเทศ เทียบเท่ากับบริการเครือข่ายชั้นนำอย่าง Surfshark VPN และ CyberGhost VPN

แม้ว่า StrongVPN จะไม่มีฟีเจอร์พิเศษใด ๆ ที่โดดเด่น แต่ก็เป็น VPN ที่ดีรอบด้าน

StrongVPN ให้ความปลอดภัยทางออนไลน์ และการป้องกันการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีนโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด และใช้โปรโตคอล WireGuard ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป

คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 12 เครื่อง ทั้งพีซีหรือแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม แอพเน็ตเร็วใน Android ยังไม่รองรับโปรโตคอล L2TP หรือ SSTP แต่คุณยังคงมีตัวเลือกระหว่าง OpenVPN, IKEv2 และ WireGuard

ข้อดี:

  • ปฏิบัติตามนโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด
  • การกระจายเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสม
  • ฟีเจอร์ปกป้องข้อมูลที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย:

  • ขาดตัวเลือกเสริม
  • ราคาแพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ
  • อินเทอร์เฟซล้าสมัย
  • การสูญเสียความเร็วค่อนข้างสูง
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 71 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์500+
จำนวนประเทศ35+
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $10.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปีเริ่ม $3.66 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ12
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง StrongVPN ตอนนี้

8. PureVPN — VPN ที่ความเร็ว 160+ Mbps แต่ยังไม่เสถียรมากนัก บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

ในอดีต ความเร็วและความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์ ถือเป็นปัญหาสำหรับ PureVPN แต่ปัจจุบัน บริษัทเพิ่งอัปเกรดเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งปัจจุบันมีความเร็วในการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ 20 Gbps และความเร็วเฉลี่ยบนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่าง 160 Mbps และ 230 Mbps

แม้ว่าคุณจะไม่สังเกตเห็นว่า ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณลดลงอย่างมากเมื่อใช้ PureVPN แต่อาจมีบ้างที่พบอาการสะดุดเล็กน้อย โดยรวมแล้ว PureVPN ก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเมื่อต้องการใช้ VPN เพิ่มความเร็วเน็ต

นอกจากนี้ PureVPN ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ท่องโลกอินเทอร์เน็ต

PureVPN ใช้การเข้ารหัสที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ข้อมูลของคุณได้รับการปกป้อง และปฏิบัติตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล ซึ่งหมายความว่า กิจกรรมบนโลกออนไลน์ของคุณ จะไม่ถูกจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท โดยคุณสามารถเลือกโปรโตคอล VPN ได้ 6 แบบ บนอุปกรณ์ใดก็ได้:

  1. OpenVPN
  2. L2TP/IPSec
  3. PPTP
  4. SSTP
  5. IKEv2, and
  6. WireGuard

PureVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,500 เครื่อง กระจายอยู่ใน 78 ประเทศ ดังนั้น เนื้อหาที่ถูกจำกัดบางพื้นที่จึงไม่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเลือกเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ใดก็ตาม

ข้อดีอีกอย่างของ VPN เร็วที่สุดนี้ ก็คือ การถูกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น คุณจึงวางใจได้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางออนไลน์และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อดี:

  • เซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก
  • ถูกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามอยู่เสมอ
  • ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย:

  • มีปัญหาการเชื่อมต่อเป็นครั้งคราว
  • เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรยังไม่ค่อยเสถียร
ช่วงความเร็ว US160 Mbps — 230 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์6,500+
จำนวนประเทศ78
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $10.95สมาชิกรายปีเริ่ม $1.99
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ10
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง PureVPN ตอนนี้

9. IPVanish — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุด 890+ Mbps สำหรับ Android และ iPhone ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

การรีวิว VPN เร็วที่สุด จะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้กล่าวถึง IPVanish เพราะ VPN นี้มีความเร็วบนเซิร์ฟเวอร์สูงถึง 890 Mbps ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณต้องการซ่อนที่อยู่ IP เมื่อเข้าถึงบางเว็บไซต์

ค่าการสูญเสียความเร็วสำหรับเซิร์ฟเวอร์เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ซึ่งถือว่าน่าประทับใจเมื่อเทียบกับ VPN แรง ๆ เจ้าอื่นที่อาจมีค่านี้สูงถึง 20% 

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการ VPN ที่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดทางพื้นที่บน Netflix, Amazon Prime Video หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ IPVanish อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

ความเร็วอาจจะลดลงอย่างมากถึง 75% เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ทางไกล ซึ่งหมายความว่า การโหลดวิดีโออาจขัดข้องตลอดเวลา หากคุณอาศัยอยู่ในยุโรป และต้องการรับชมรายการบน Netflix ในสหรัฐอเมริกา

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยของข้อมูล และการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ VPN เร็วที่สุดตัวนี้ก็มีดีเทียบเท่ากับVPN ยอดนิยมอื่น ๆ เพราะมีการใช้การเข้ารหัส AES-256 ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และมีโปรโตคอล VPN ที่ปลอดภัยถึง 3 ตัว ได้แก่ OpenVPN, IKEv2 และ L2TP/IPsec

IPVanish พร้อมใช้งานบน Windows, Linux และ iOS แต่ยังไม่มีส่วนขยายของเบราว์เซอร์ และข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นอีกประการหนึ่ง ก็คือ การตั้งค่าที่ค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวอร์ชัน Windows

ข้อดี:

  • เว็บ VPN แรง ๆ บนเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น
  • โปรโตคอล VPN 3 แบบ
  • แอพ IPVanish มีอยู่ในอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการทั้งหมด
  • นโยบายไม่ระบุตัวตน

ข้อเสีย:

  • ไม่มีส่วนขยายเบราว์เซอร์
  • ความเร็วลดลงอย่างมากในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล
  • ไม่ปลดบล็อกเนื้อหาใน Amazon Prime Video
ช่วงความเร็ว USสูงสุด 890 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และ 120-160 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ทางไกล
จำนวนเซิร์ฟเวอร์1,400+
จำนวนประเทศ57+
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $10.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปีเริ่ม $3.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง IPVanish ตอนนี้

10. ExpressVPN — VPN แรง ๆ 380+ Mbps สำหรับการสตรีมมิ่ง บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา ที่มากับการรับประกัน 30 วัน

ExpressVPN มีความเร็วโดยเฉลี่ยประมาณ 385 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน ที่ต้องการสตรีมมิ่งภายใต้ข้อจำกัดทางพื้นที่

ExpressVPN ปลดบล็อกบริการต่าง ๆ กว่า 25 รายการ รวมถึง Netflix, Disney Plus, BBC iPlayer และแม้แต่ Amazon Prime Video ดังนั้น คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหาโปรดทางออนไลน์ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม

นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดาวน์โหลดภาพยนตร์, รายการทีวี และเกม เนื่องจาก ExpressVPN รองรับแบนด์วิธแบบไม่จำกัด และไม่จำกัดการเชื่อมต่อ

 ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN เร็วที่สุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีผู้ใช้งานทั่วโลกเกือบครึ่งล้าน และได้คะแนนเฉลี่ย 4.6 เต็ม 5 ใน Trustpilot, Apple App Store และ Google Play Store

ExpressVPN เป็นเซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ ที่มีการเข้ารหัสที่ล้ำสมัย และมีฟีเจอร์หรือส่วนเสริมที่หลากหลาย ซึ่งรับประกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบบนอินเทอร์เน็ต

ด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กว้างขวางกระจายอยู่ใน 94 ประเทศ ทำให้ ExpressVPN ทำงานได้ดีในทุกพื้นที่ และมีการปรับให้ความเร็วเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คุณจะไม่พบกับอาการ lag, buffering, หรือมีความเร็วลดลง หากคุณเลือกใช้ ExpressVPN

ข้อดี:

  • ความเร็วเสถียรและรวดเร็วทุกพื้นที่
  • นโยบายไม่ระบุตัวตน
  • ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูงสุด
  • บริษัทตั้งอยู่ในประเทศจีน

ข้อเสีย:

  • แผนรายเดือนมีราคาแพงเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ VPN เร็วที่สุดอื่น ๆ
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 385 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์3,000+
จำนวนประเทศ94
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $12.95 ต่อเดือนสมาชิกรายปีเริ่ม $9.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

11. Norton Secure VPN — VPN ความเร็วเฉลี่ย 37+ Mbps ที่ยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน

Norton Secure VPN คำนึงถึงความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด และเป็นหนึ่งในตัวเลือกของโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีที่สุด

เซิร์ฟเวอร์ VPN นี้มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอย่างที่คุณคาดหวัง ตั้งแต่นโยบายไม่ระบุตัวตนการใช้งาน ไปจนถึงการ split tunneling, kill switch, ความปลอดภัยของ wifi และการเข้ารหัสระดับธนาคาร

จากที่กล่าวมา VPN ของ Norton มีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 194.4 Mbps และลดลงเฉลี่ย 40%

แม้จะไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ ที่สุดที่เราเคยเห็น แต่เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยแล้ว ทำให้ Norton เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่ง และการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดบางพื้นที่ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความล่าช้า, การไม่เปิดเผยตัวตน หรือภัยคุกคามทางออนไลน์

จากที่กล่าวมา ทำให้ Norton เป็น VPN เร็วที่สุดสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดในบางประเทศ ตัวอย่างเช่น หากคุณมองหา Betfair VPN ที่ดีที่สุดในการพนันออนไลน์ต่างประเทศ Norton ถือเป็นตัวเลือกที่ดี, รวดเร็ว และความปลอดภัย 

การรีวิวของเรา พบว่า Norton VPN สามารถเข้าถึง US Netflix, Prime Video, BBC iPlayer และ Disney Plus ได้โดยไม่มีปัญหา ยกเว้นเพียงบางแห่ง เช่น แคตตาล็อก Netflix ในสหราชอาณาจักร

ด้วยเหตุนี้ เราขอแนะนำให้คุณลองใช้ VPN เร็วที่สุดนี้ เพราะมีการรับประกันเงินคืนภายใน 60 วัน วิธีนี้จะทำให้คุณมีเวลาได้ทดลองโปรแกรมเน็ตเร็วฟรีแบบไม่มีความเสี่ยง เพื่อพิจารณาว่าตัวเลือกนี้เหมาะกับความต้องการของคุณหรือไม่

ข้อดี:

  • ใช้งานง่าย
  • ความเร็วเหมาะสม และปลอดภัยสูง
  • ระบบป้องกันการเปิดเผยตัวตนที่ดีเยี่ยม
  • บล็อกโฆษณาและตัวติดตาม

ข้อเสีย:

  • ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ช้ากว่าคู่แข่ง
  • เครือข่ายขนาดเล็ก
  • ไม่รองรับเราเตอร์ 
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 194.4 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์2,000+
จำนวนประเทศ30+
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $4.99 สำหรับอุปกรณ์ 1 เครื่องสมาชิกรายปีเริ่ม $2.50 สำหรับอุปกรณ์ 1 เครื่อง
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ10
บริการลูกค้าไม่มี
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน60 วันสำหรับแผนรายปี14 วันสำหรับแผนรายเดือน

ไปยัง Norton Secure VPN ตอนนี้

เปรียบเทียบVPN เร็วที่สุด

เพื่อช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบความเร็ว, จำนวนเซิร์ฟเวอร์ และราคาได้ ต่อไปนี้เป็นตารางสรุปข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่จำเป็นในการตัดสินใจเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ VPN เร็วที่สุด:

VPNช่วงความเร็ว USจำนวนเซิร์ฟเวอร์จำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับบริการลูกค้าระยะเวลารับประกันการคืนเงิน
Surfshark VPN390-980 Mbps3,200+95$2.49ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
CyberGhost VPNความเร็วเฉลี่ย 548 Mbps7,800+91$2.29ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน45 วัน
ExpressVPNความเร็วเฉลี่ย 385 Mbps3,000+94$9.99ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
NordVPNความเร็วเฉลี่ย 417 Mbps5,500+59$4.996แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
Atlas VPNความเร็วเฉลี่ย 240+ Mbps750+45$1.99ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
UltraVPNความเร็วเฉลี่ย 236 Mbps100+10$4.996แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
Proton VPNความเร็วสูงสุด 300 Mbps1,700+63มีแผนฟรี10อีเมล30 วัน
StrongVPNความเร็วเฉลี่ย 71 Mbps500+35$3.6612แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
PureVPN160 Mbps — 230 Mbps6,50078$1.9910แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
IPVanishสูงสุด 890 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ภายใน1,400+57$3.99ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
Norton Secure VPNความเร็วเฉลี่ย 194.4 Mbps2,000+30$2.5 ต่อเครื่อง10ไม่มี60 วัน (แผนรายปี) และ 14 วัน (แผนรายเดือน)

ความเร็วของ VPN คืออะไร?

เพื่อช่วยให้คุณตามหาVPN เร็วที่สุดได้อย่างแม่นยำ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ความเร็วของ VPN คืออะไร เนื่องจาก VPN ไม่มีความเร็วมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ความเร็วในที่นี้จึงหมายถึง ความเร็วอินเทอร์เน็ตในขณะใช้งาน VPN

เนื่องจากข้อมูลต้องผ่านและเข้ารหัส VPN ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดลดลงโดยไม่มีข้อยกเว้น ความเร็วเฉลี่ยที่ลดลงสำหรับ VPN ที่ดีที่สุด จึงควรอยู่ที่ประมาณ 20% ยกเว้นแต่จะมีเงื่อนไขบางประการ

ตัวอย่างเช่นในกรณีของ IPVanish หากคุณพยายามจะปกปิดที่อยู่ IP คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณได้ และทำให้ความเร็วลดลงต่ำกว่า 10% 

ในขณะเดียวกัน การตั้งค่าตำแหน่งเป็นประเทศที่อยู่กึ่งกลางโลก เพื่อให้สามารถเข้าถึง Netflix ที่จำกัดในบางประเทศได้ จะทำให้ความเร็วลดลงตั้งแต่ 20% ถึง 70%

ปัจจัยที่ทำให้ VPN เร็วที่สุด?

การที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณลดลงในขณะที่ใช้งาน VPN ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะห่างของเซิร์ฟเวอร์, คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์,แบนด์วิดท์และโหลดของเซิร์ฟเวอร์ และโปรโตคอล VPN ที่ใช้

รายการปัจจัยต่อไปนี้ มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ VPN เร็วที่สุดหรือไม่:

  • ระยะห่างของเซิร์ฟเวอร์
  • ข้อจำกัดแบนด์วิธระหว่างประเทศ
  • คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์
  • โปรโตคอล VPN (โปรโตคอลที่ปลอดภัยมีผลให้ความเร็วช้าลง)

ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ หากคุณมีความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ย 300 Mbps โดยไม่ใช้ VPN การลดลง 20% แทบจะมองไม่เห็นความแตกต่าง และคุณยังคงสามารถดูภาพยนตร์และสตรีมมิ่งแบบ HD ได้อย่างสบาย ๆ ที่ความเร็ว 240 Mbps

ทำไมถึงต้องใช้ VPN เร็วที่สุด?

นอกเหนือจากการรักษาความปลอดภัย และการปกป้องข้อมูลในขณะท่องโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว คนส่วนใหญ่ยังนิยมใช้ VPN เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการใช้งานในบางประเทศ และเพื่อเข้าถึงเนื้อหาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น Netflix, HBO Max และ Amazon Prime Video

หากไม่มีเซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ ก็ยังคงสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ แต่มันจะเป็นฝันร้ายในขณะรับชมเพราะวิดีโอจะถูกรบกวนตลอดเวลา

นอกเหนือจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแล้ว VPN ที่ช้ามากจะทำให้การท่องเว็บเป็นประสบการณ์ที่น่าผิดหวัง เพราะอาจต้องใช้เวลานานถึง 15 วินาทีในการรีเฟรชฟีดบน Instagram และบางเว็บไซต์ที่เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็น ก็อาจต้องใช้เวลาโหลดที่นานกว่านั้น

 VPN เร็วที่สุด ต้องเป็นแบบไหน?

ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม VPN ที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงไม่เกิน 20% หรือหนึ่งในห้า ถือว่าเป็น VPN ที่เร็วมาก ทั้งนี้ ความเร็วอินเทอร์เน็ตอาจแตกต่างออกไปตามช่วงเวลา และประเภทของการเชื่อมต่อ เช่น แบบ LAN หรือ แบบ WiFi

ไม่ว่าในกรณีใด VPN เร็วที่สุดและดีที่สุด ไม่ควรมีใครสังเกตเห็น เพราะจำเป็นต้องปกปิดที่อยู่ IP และให้ความปลอดภัยสูงสุดโดยไม่ขัดขวางประสบการณ์ทางออนไลน์ ซึ่งวิธีที่ดีที่จะบอกว่า VPN ลดความเร็วของอินเทอร์เน็ตหรือไม่ ทำได้โดยการทดสอบความเร็ว

เนื่องจาก VPN ส่วนใหญ่ไม่ใช่โปรแกรมเน็ตเร็วฟรี คุณจึงต้องสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปี เพื่อทดสอบบริการ สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ราคาที่ต้องจ่ายแพง แต่ยังเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกด้วย

นั่นเป็นเหตุผลที่เราพยายามรวบรวมคำแนะนำเกี่ยวกับ VPN เร็วที่สุด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้โดยง่าย

VPN ฟรีกับ VPN แบบจ่ายเงิน อันไหนเร็วที่สุด?

VPN ฟรีเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณไม่มีความกังวลเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต เพราะมีระดับการป้องกันที่ใกล้เคียงกัน (มาตรฐานการเข้ารหัสและโปรโตคอลเดียวกัน) และสามารถปกป้องคุณในขณะที่ท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้

แต่การสตรีมภาพยนตร์และรายการทีวีแบบ torrent เป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง เพราะ VPN ฟรีส่วนใหญ่มาพร้อมกับข้อผิดพลาดบางอย่าง ซึ่งมักจะเป็นส่วนของแบนด์วิธที่จำกัด ทำให้ความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดจำกัดไปด้วย

ในบางกรณีที่ไม่มีการจำกัดความเร็ว แผนฟรีที่มี VPN แรง ๆ อาจถูกจำกัดบางฟีเจอร์ เช่นกรณีของ Proton VPN ซึ่งเราได้กล่าวถึงในรายละเอียดข้างต้นไปแล้ว

ในความเห็นของเรา VPN แบบจ่ายเงิน จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า หากคุณต้องการการปกป้องระดับพรีเมียม โดยไม่สูญเสียความเร็วอินเทอร์เน็ต VPN แบบจ่ายเงินอย่าง Surfshark VPN คือ VPN เร็วที่สุดของคุณอย่างแน่นอน

วิธีเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ VPN

ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าความเร็วที่ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ยังโชคดีที่มีหลายวิธีที่จะช่วยทําให้เน็ตเร็วขึ้นได้ และนี่คือ 3 วิธีที่ทำให้ VPN เร็วที่สุด:

1. เปลี่ยนการตั้งค่าการเข้ารหัส

การเปลี่ยนจาก TCP เป็น UDP จะช่วยทำให้ความเร็ว VPN สูงขึ้นได้ เพราะวิธีนี้จะปิดการรับรองความถูกต้องในการถ่ายโอนข้อมูล ทำให้สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ได้เร็วขึ้น

UDP เหมาะที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่งและการเล่นเกม เพราะไม่ต้องการความสมบูรณ์ของข้อมูล ในขณะที่ TCP เหมาะที่สุดสำหรับการทอร์เรนต์หรือดาวน์โหลดเนื้อหา

2. เปลี่ยนโปรโตคอลการเข้ารหัส

VPN ยอดนิยมส่วนใหญ่มีตัวเลือกโปรโตคอลที่แตกต่างกัน และแต่ละอันเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันด้วย สำหรับใครที่ต้องการ VPN เร็วที่สุด ให้เปลี่ยนไปใช้โปรโตคอล WireGuard เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

3. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อื่น

จำนวนเซิร์ฟเวอร์เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้ VPN เนื่องจากกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดเล็ก อาจส่งผลให้เกิดความแออัดเนื่องจากแบนด์วิธที่ใช้ร่วมกัน และทำให้ความเร็วช้าลง 

อย่างไรก็ตาม ระยะทางของเซิร์ฟเวอร์ (ขึ้นกับตำแหน่งการใช้งาน) ก็ส่งผลต่อความเร็วของคุณเช่นกัน ดังนั้น การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กว่า หมายความว่าข้อมูลจะเดินทางสั้นกว่า และทําให้เน็ตเร็วขึ้นได้เช่นกัน

หากคุณพบว่าความเร็วช้าลง ให้ลองเปลี่ยนไปใช้เซิร์ฟเวอร์อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด หรือลองใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กว่าแทน
ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า จะช่วยให้ VPN เร็วที่สุด ไม่ว่าจะใช้บริการแอพเน็ตเร็วกับบริการรายใดก็ตาม

วิธีเริ่มต้นใช้งาน VPN เร็วที่สุด

การเริ่มต้นใช้งาน VPN เร็วที่สุด เป็นเรื่องง่าย โดยเราจะใช้ Surfshark เป็นตัวอย่างในการแสดงวิธีติดตั้ง VPN เพื่อประสบการณ์การท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย 100%

ขั้นตอนที่ 1: สมัครสมาชิก

ไปยังเว็บไซต์ของ Surfshark VPN และเลือกแผนสมาชิกที่เหมาะกับคุณที่สุด

เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว คุณจะสามารถดาวน์โหลดแอพเน็ตเร็วบนอุปกรณ์ของคุณได้เลย

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง Surfshark VPN

ค้นหาไฟล์ที่ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Surfshark VPN และเริ่มการติดตั้ง

หลังจากการติดตั้งเสร็จสิ้น ไอคอน Surfshark VPN จะปรากฏบนอุปกรณ์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มใช้งาน Surfshark

ดับเบิลคลิกที่ไอคอน แล้วกรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบ

หลังจากเข้าสู่ระบบสำเร็จ คุณจะสามารถเริ่มใช้ Surfshark ได้ทันที

ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมต่อ Surfshark VPN

การเริ่มใช้เซิร์ฟเวอร์ VPN เร็วที่สุดนี้ ให้เลือกประเทศที่คุณต้องการเชื่อมต่อ และคลิกปุ่ม “Connect”

Surfshark VPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3,000 เครื่องใน 95 ประเทศ และคุณสามารถใช้แถบค้นหาเพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่คุณเลือกได้ เมื่อคุณเชื่อมต่อแล้ว คุณสามารถใช้ Surfshark VPN เซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ พร้อมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางออนไลน์สูงสุดได้เลย

บทสรุปเกี่ยวกับ VPN เร็วที่สุด

ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า VPN เร็วที่สุด คืออะไร แม้ว่าVPN บางราย จะไม่ลดความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

VPN ส่วนใหญ่มีการป้องกันในระดับที่ใกล้เคียงกัน และราคาไม่ต่างกันมาก ดังนั้น คุณจึงไม่ควรพลาดเว็บ VPN แรง ๆ ที่เราเลือกมา

เราขอแนะนำ Surfshark VPN เนื่องจากเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเร็วและความปลอดภัย เซิร์ฟเวอร์ Surfshark VPN แต่ละเซิร์ฟเวอร์เชื่อมต่อกับพอร์ต 1 Gbps หรือสูงกว่า เพื่อให้มั่นใจได้ว่า VPN เร็วที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใด

ยิ่งไปกว่านั้น Surfshark ยังให้บริการการเข้ารหัสข้อมูลที่ทันสมัย และมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย ที่เพิ่มการป้องกันหลายชั้นและรับประกันความปลอดภัย ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตปราศจากโฆษณารบกวนใจคุณ

Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

รวม 15 อันดับ บริการ VPN ที่ดีที่สุด ปี 2023 แรงๆ [แนะนำ!]

VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว VPN ที่ดีที่สุดปกป้องตัวตนของผู้ใช้ขณะท่องเว็บหรือสตรีมออนไลน์ พวกเขาสามารถให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ในประเทศอื่น ๆ ได้

ในคู่มือนี้ 15 บริการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 รีวิวแนะนำ vpn ที่ดีที่สุด ในประเทศไทย ใครที่ไม่รู้จะใช้ vpn ตัวไหนดี มีทั้งแบบฟรี แบบเสียเงิน คัดเซิร์ฟเวอร์ vpn แรงๆ ปลอดภัย ฟีเจอร์เพียบ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา VPN ที่เหมาะสมกับความต้องการ

เราได้ทดสอบ VPN หลายสิบตัวเพื่อค้นหาบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 นี่คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา:

  1. NordVPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมของปี 2023
  2. CyberGhost VPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน
  3. Private Internet Access – VPN  ดีที่สุดสำหรับเราเตอร์
  4. Surfshark One – ครบในที่เดียวทั้ง VPN และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด
  5. UltraVPN –   VPN ที่รวดเร็วและไม่จำกัด
  6. ProtonVPN – VPN ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
  7. StrongVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์จำนวนมาก
  8. IPVanish – บริการ VPN ที่ปรับแต่งได้มากที่สุด
  9. ZenMate VPN – VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023
  10. Atlas VPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows
  11. ExpressVPN – ที่ดีที่สุดสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome
  12. Norton Secure VPN – ซอฟต์แวร์ VPN ที่เชื่อถือมากที่สุด
  13. VyprVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม
  14. Hotspot Shield – VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Android
  15. TunnelBear – VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone

ไปยัง VPN ที่ดีที่สุด

รีวิว VPN ยอดนิยมในปี 2023

คุณต้องการทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ 15 แพลตฟอร์มนี้เป็นบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 หรือไม่? เราได้รวบรวมการรีวิวโดยละเอียดเกี่ยวกับ VPN แบบเสียเงินและฟรีที่ดีที่สุดไว้แล้ว

1. NordVPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมของปี 2023

NordVPN เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับสายเกมเพราะมันรวดเร็วในการเชื่อมต่อที่อย่างเห็นได้ชัดโดยไม่มีการจำกัดแบนด์วิดท์หรือการควบคุมปริมาณ โปรโตคอลการเข้ารหัส NordLynx ของบริษัททำให้ผู้ใช้สามารถท่องอินเทอร์เน็ตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ และสามารถปลดล็อกบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ส่วนใหญ่ได้

NordVPN ยังโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้ แพลตฟอร์มจะไม่บันทึกกิจกรรมของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะถามก็ตาม นั่นทำให้มันเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุด VPN เร็วที่สุด สำหรับการทอร์เรนต์และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ผู้ใช้ต้องการไม่เปิดเผยตัวตน

นอกจากนี้ NordVPN ยังนำเสนอคุณสมบัติขั้นสูง เช่น split tunneling ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้การเชื่อมต่อ VPN กับเบราว์เซอร์เท่านั้นแทนที่จะใช้กับทั้งอุปกรณ์ แพลตฟอร์มนี้ยังมีการรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัย มัลแวร์ในตัวและการบล็อกโฆษณา และการตรวจสอบเว็บมืด

NordVPN เริ่มต้นเพียง 135 บาทต่อเดือน และแพลตฟอร์มรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 6 รายการในอุปกรณ์ของคุณ สำหรับการไม่เปิดเผยตัวตนอย่างสมบูรณ์ NordVPN รองรับการชำระเงินใน Bitcoin, Ethereum และ Ripple นอกเหนือจากวิธีการชำระเงินแบบเดิม ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงการสนับสนุนลูกค้าได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงและมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,500 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
5,500+80+135 บาทต่อเดือน6แชทสดตลอด 24/7 30 วัน

ข้อดี

  • เชื่อมต่อรวดเร็วไม่มีขีดจำกัด
  • ไม่มีการบันทึกการเข้าใช้งาน
  • รองรับ split tunneling
  • ฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 
  • รับการชำระเงินฝ่ายสกุลเงินดิจิทัล

ข้อเสีย

  • ไม่มีแผนการใช้งานฟรี

ไปยัง NordVPN

2. CyberGhost VPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน

พูดง่าย ๆ ก็คือ CyberGhost VPN เป็นบริการ VPN ที่ดีที่สุดอันดับตันๆ นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับ VPN ที่ดีที่สุดตาม Reddit ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับบริการนี้

ในการทดสอบ CyberGhost สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 850 Mbps ซึ่งเร็วกว่า VPN อื่น ๆ ในบทสรุปของเรา แพลตฟอร์มนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 8,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 90 ประเทศ ดังนั้นจึงง่ายต่อการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงหรือเพื่อปลอมแปลงตำแหน่งของผู้ใช้ อีกอย่างที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับ CyberGhost คือทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเชื่อมต่ออัตโนมัติได้ ตัวอย่างเช่น CyberGhost สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดในประเทศของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดแอปเช่น Netflix บนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน หรือสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดได้เมื่อผู้ใช้เปิดบริการแชร์แบบเพียร์ทูเพียร์ เช่น Tor

สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ CyberGhost คือมันทำที่เหมือนแพลตฟอร์มอื่นๆ คือ เสนอซอฟต์แวร์ VPN เฉพาะสำหรับคอนโซล XBox และ PlayStation นั่นทำให้กระบวนการรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อในขณะที่เล่นเกมนั้นง่ายกว่าการใช้ VPN อื่น ๆ อีกมากมาย

CyberGhost เริ่มต้นเพียง 75 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 3 ปี อย่างไรก็ตามการกำหนดราคาแบบเดือนต่อเดือนของแพลตฟอร์มอาจมีค่าใช้จ่ายสูงที่ 440 บาทต่อเดือน และไม่มีแผนบริการฟรีให้ใช้ แผนทั้งหมดรวม 7 การเชื่อมต่อพร้อมกัน การสนับสนุนการแชทสด 24/7 และการรับประกันคืนเงิน 45 วั

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
8,100+9075 บาทต่อเดือน7สนับสนุนการแชทสด 24/745 วัน

ข้อดี

  • เชื่อมต่อแอปสำหรับ XBox และ PlayStation ได้
  • ความเร็วสูงสุด of 850 Mbps
  • กฎเชื่อมต่ออัตโนมัติ
  • ฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 

ข้อเสีย

  • แผนรายเดือนที่มีราคาสูง

ไปยัง CyberGhost VPN

3. Private Internet Access – VPN  ดีที่สุดสำหรับเราเตอร์

Private Internet Access เป็นบริการที่ VPN ขึ้นชื่อ มันมีคุณสมบัติที่ครอบคลุม เช่น นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP kill switch แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนที่อยู่ IP ของตนหรือกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องเพื่อให้การติดตามทำได้ยากขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการเลี่ยงการสอดแนมโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ GPS ไม่ให้ใครรู้พิกัดคุณ!

Private Internet Access มีแอปมากมายสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, Linux, iOS และ Android เช่นเดียวกับเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox และ Edge, เกมคอนโซล, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ ที่สำคัญ ซอฟต์แวร์ VPN ของบริษัทยังสามารถโหลดลงในเราเตอร์ที่เข้ากันได้ ให้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

ผู้ให้บริการ VPN รายนี้มีความโดดเด่นในด้านเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนตัวมีเซิร์ฟเวอร์ 35,000 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกใน 78 ประเทศ นั่นเป็นเซิร์ฟเวอร์มากกว่าผู้ให้บริการ VPN ที่แข่งขันกันส่วนใหญ่หลายเท่า ซึ่งหมายความว่ามีแบนด์วิดท์ในเครือข่ายมากกว่าเพื่อรองรับผู้ใช้เพิ่มเติม

Private Internet Access เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือน และมาพร้อมกับฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24/7 และการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ผู้ใช้สามารถมีการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด 10 รายการ นอกจากนี้ Private Internet Access ยังรองรับการชำระเงินแบบไม่ระบุตัวตนโดยใช้ Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum และ Litecoin อีกด้วย

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
35,000+78เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือน10แชทสดและอีเมล 24/7 30 วัน

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม
  • สามารถใช้ได้กับเราเตอร์ทุกประเภท
  • มี 35,000 เซิร์ฟเวอร์และใช้ได้ใน 78 ประเทศ
  • รับการชำระเงินฝ่ายสกุลเงินดิจิทัล

ข้อเสีย

  • ความเร็วในการเชื่อมต่อเร็วในระดับปานกลาง

ไปยัง Private Internet Access

4. Surfshark One – ครบในที่เดียวทั้ง VPN และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด

Surfshark One เป็นหนึ่งในบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำมากกว่าแค่ปกป้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มนี้จับคู่ VPN ที่มีคุณสมบัติหลากหลายกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ทรงพลัง ทำให้อุปกรณ์ทั้งหมดของผู้ใช้อยู่ภายใต้ความปลอดภัยที่ครอบคลุม

VPN ของ Surfshark One นั้นน่าประทับใจมากโดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3,200 เซิร์ฟเวอร์กระจายอยู่ใน 65 ประเทศ แพลตฟอร์มนี้สามารถทำการเชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัดจำนวนและความเร็วสูงสุดถึง 790 Mbps และยิ่งไปกว่านั้นซอฟต์แวร์ยังมีแอปสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox และเสนอช่องสัญญาณแบบแยกส่วนที่สามารถนำไปใช้กับบางเว็บไซต์ที่ไม่สามารถใช้งานได้กับ VPN เช่น ไซต์ธนาคารออนไลน์

VPN ยังมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและ IP kill switch โดย Surfshark ยังช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนที่อยู่ IP ก่อนเชื่อมต่อ ทำให้การติดตามผู้ใช้ทางออนไลน์ยากขึ้น

ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของ Surfshark One รองรับการสแกนตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับการสแกนด้วยตนเองที่สามารถครอบคลุมทั้งฮาร์ดไดรฟ์ของผู้ใช้หรือเฉพาะโฟลเดอร์ที่ใช้บ่อยเท่านั้น Surfshark One ยังมีการตรวจสอบเว็บที่มืดซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อข้อมูลของผู้ใช้ถูกค้นพบที่เว็บมืด

Surfshark One เริ่มต้นเพียง 85 บาทต่อเดือนในปีแรก แผนทั้งหมดรวมถึงการแชทสดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงและการสนับสนุนทางอีเมล

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
3,20065เริ่มต้นเพียง 85 บาทไม่จำกัดแชทสดและอีเมลตลอด 24/730 วัน

ข้อดี

  • รวม VPN ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส และการตรวจสอบเว็ปมืด 
  • สามารถใช้งานได้ใน 3,200+ เซิร์ฟเวอร์
  • มีเเอปที่สามารถใช้งานได้บน Chrome และ Firefox
  • ฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 

ข้อเสีย

  • ความเร็วช้ามากเมื่อใช้งานผ่านเราเตอร์

ไปยัง Surfshark One

5. UltraVPN – VPN ที่รวดเร็วและไม่จำกัด

สำหรับผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับความเร็วในการเชื่อมต่อเป็นอันดับหนึ่ง UltraVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โดย VPN นี้มีความเร็วเฉลี่ยที่ 765 Mbps เมื่อใช้โปรโตคอลการเข้ารหัส Hydra ที่เป็นที่นิยม ซึ่งเร็วพอสำหรับการเล่นเกม สตรีมวิดีโอ ทอร์เรนต์ และอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น UltraVPN สามารถเชื่อมต่อได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ดังนั้นจึงไม่ต้องรอในขณะที่ VPN ค้นหาเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูงที่พร้อมใช้งาน

เมื่อเทียบกับ VPN ที่ดีที่สุดในรายการที่เรารีวิวไว้แล้ว UltraVPN มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ค่อนข้างจำกัด แพลตฟอร์มสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์กว่า 100+ แห่งใน 14 ประเทศ แต่รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ในทุกทวีป

สิ่งหนึ่งที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับ UltraVPN ก็คือแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อพร้อมกันในอุปกรณ์ของคุณ นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องกังวลกับการปิดเซสชันเพื่อเพิ่ม VPN ให้กับอุปกรณ์อื่น ปัจจุบัน UltraVPN รองรับบนอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android และเราคิดว่านี่เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Android และ iPhone

UltraVPN ยังนำเสนอฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย รวมถึงมัลแวร์และการบล็อกโฆษณาและความสามารถในการสลับเซิร์ฟเวอร์อย่างราบรื่นระหว่างเซสชัน อินเทอร์เฟซผู้ใช้ใช้งานง่าย ซึ่งเป็นข้อดีอีกอย่างสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการออนไลน์อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด

ราคาของ UltraVPN เริ่มต้นที่ 100 บาท ต่อเดือน กับแผน 2 ปี แผนทั้งหมดมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
100+14เริ่มต้นที่ 100 บาทไม่จำกัดอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • เร็วแรงมากในการเชื่อมต่อ
  • เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้รวดเร็ว
  • สามารถเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน
  • บล็อกมัลแวร์และการบล็อกโฆษณา

ข้อเสีย

  • มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกจำกัด
  • ไม่มีซอฟต์เเวร์สำหรับเราเตอร์

ไปยัง UltraVPN

6. ProtonVPN – VPN ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยความเร็วที่รวดเร็ว

Proton VPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับหนึ่ง โดยแพลตฟอร์มนี้มีนโยบายที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด และปกป้องข้อมูลส่วนำตัวของผู้ใช้โดยไม่เปิดเผยตัวตนขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มนี้ยังปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของผู้ใช้ด้วยการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง และรวมถึง kill switch ที่ปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์หากการเชื่อมต่อ VPN หลุด

ด้วยการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและฟังก์ชั่น Tor over VPN ที่เรียบง่าย Proton VPN จึงคุ้มค่าที่จะพิจารณาว่าเป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการทอร์เรนต์หรือการแชร์แบบเพียร์ทูเพียร์ในรูปแบบอื่น ๆ แพลตฟอร์มนี้ยังมีการป้องกันมัลแวร์ในตัวและตัวบล็อกโฆษณาเพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์ออนไลน์ของคุณมีความไหลลื่นมากที่สุด

Proton VPN นั้นเร็วพอสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่แต่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 670 Mbps ดังนั้นจึงไม่ใช่ VPN ที่เร็วที่สุดในรีวิวของเรา ถ้ามองในแง่บวกแพลตฟอร์มนี้มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1,700 เซิร์ฟเวอร์ใน 63 ประเทศ ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก

ข้อเสียเปรียบที่ใหญ่ที่สุดของ Proton VPN คือราคาของมัน เพราะ VPN นี้เริ่มต้นที่ 175 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม Proton VPN เสนอ VPN ฟรีพร้อมการเชื่อมต่อ 1 อุปกรณ์พร้อมกันและเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ 100 แห่ง ไม่ได้รวมคุณสมบัติทั้งหมดของ Proton VPN แต่เป็นหนึ่งใน VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
1,700+63เริ่มต้นที่ 175 บาทต่อเดือน10แชทสดและอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • มีนโยบายที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด
  • IP kill switch
  • มีการป้องกันมัลแวร์ในตัวและตัวบล็อกโฆษณา
  • ใช้งาน VPN ได้ฟรีสำหรับ 1 อุปกรณ์

ข้อเสีย

  • มีราคาสูง
  • ความเร็วอยู่ในระดับปานกลาง

ไปยัง ProtonVPN

7. StrongVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์จำนวนมาก

StrongVPN โดดเด่นสำหรับครอบครัวหรือผู้ใช้แต่ละรายที่มีอุปกรณ์มากมายให้ปกป้อง นั่นเป็นเพราะว่าแผน StrongVPN ทุกแผนสามารถเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 12 รายการ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถปกป้องอุปกรณ์ได้มากขึ้นในเวลาเดียวโดยเพิ่มการเชื่อมต่อ StrongVPN เข้ากับเราเตอร์ WiFi

StrongVPN ยังมีแอพเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ผู้ใช้จะสามารถค้นหาแอปต่าง ๆ สำหรับคอมพิวเตอร์ Windows และ Mac ยังรวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ iOS และ Android และระบบปฏิบัติการ Chrome  อุปกรณ์ Amazon Kindle และ Fire TV  อุปกรณ์ Linux และอื่น ๆ เรามองว่ามันเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Mac และ Windows เว็บไซต์ของแพลตฟอร์มมีคำแนะนำอย่างละเอียดเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN และทำงานบนอุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด

StrongVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 950 เซิร์ฟเวอร์ใน 40 ประเทศ และทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการปลดบล็อกขอบเขตตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของไซต์สตรีมในการทดสอบของเรา แพลตฟอร์มนี้รองรับโปรโตคอลการเข้ารหัสหลายตัว แต่เราพบว่าความเร็วสูงสุดมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 600 Mbps และมันไม่ได้ช้าเกินไปสำหรับการใช้งานทั่วไปแต่มันค่อนข้างแย่เมื่อเทียบกับ VPN ที่เร็วที่สุด

แผนสำหรับ StrongVPN เริ่มต้นที่ 125 บาทต่อเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนระยะยาวที่ยาวที่สุดคือ 1 ปี ฝ่ายบริการลูกค้าสามารถทำได้ทางอีเมลเท่านั้น

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
950+40เริ่มต้นที่ 125 บาทต่อเดือน12อีเมล30 วัน

ข้อดี

  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 12 รายการ
  • มีศอฟต์แวร์สำหรับเราเตอร์
  • ใช้งานได้ดีสำหรับสตรีมเมอร์
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 40 ประเทศ

ข้อเสีย

  • มีเพียงแผนสำหรับปีต่อปีเท่านั้น
  • ความเร็วค่อนข้างช้า

ไปยัง StrongVPN

8. IPVanish – บริการ VPN ที่ปรับแต่งได้มากที่สุด

IPVanish เป็นแอป VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมความปลอดภัย ความเร็ว และอุปกรณ์อย่างเต็มที่ โดยแพลตฟอร์มนี้มีความโดดเด่นในการนำเสนอโปรโตคอลการเข้ารหัส VPN ที่แตกต่างกัน 4 แบบ รวมถึงโปรโตคอล WireGuard ที่เร็วเป็นพิเศษ ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างโปรโตคอลเหล่านี้ได้ตลอดเวลาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความเร็ว หรือใช้โปรโตคอลต่าง ๆ กับอุปกรณ์ต่าง ๆ

มากไปกว่านั้น IPVanish ยังรองรับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแยกช่องสัญญาณ การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP kill switch ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถปรับแต่งได้ในการตั้งค่าของซอฟต์แวร์ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่า IPVanish เพื่อให้เปิด VPN โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ตรวจพบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแม้แต่บนอุปกรณ์มือถือก็สามารถทำได้ 

IPVanish รองรับอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวน และซอฟต์แวร์สามารถติดตั้งบนเราเตอร์ WiFi ทั่วไปได้ เพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่หลากหลายรวมถึงคอนโซลเกม ในการทดสอบโปรโตคอล WireGuard ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงถึง 930 Mbps ซึ่งเป็นความเร็วที่เร็วที่สุดที่เราเห็นจาก VPN ทั่วไป ในการทดสอบของเราแผน IPVanish ทั้งหมดมีแบนด์วิดท์ที่ไม่จำกัดเช่นกัน

สิ่งที่ต้องคำนึงเกี่ยวกับ IPVanish ก็คือมันอาจจะมีราคาแพง การสมัครสมาชิกหนึ่งปีมีค่าใช้จ่าย 135 บาทต่อเดือนในปีแรก และราคาเพิ่มขึ้นเป็น 255 บาทต่อเดือนหลังจากปีแรกและมันไม่มีแผนบริการฟรี

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
2,000+50+เริ่มที่ 135 บาทต่อเดือนไม่จำกัดอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • มีการเสนอการเข้าโปรโตคอล 4 แบบ
  • เปิดการใช้งานอัตโนมัติ
  • สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้แบบไม่จำกัดจำนวน
  • มีความเร็วสูงเป็นพิเศษด้วย WireGuard โปรโตคอล

ข้อเสีย

  • มีราคาสูง
  • เป็นแพลตฟอร์มที่มีความซับซ้อนกว่าแพลตฟอร์ม VPN ทั่วไป

ไปยัง IPVanish

9. ZenMate VPN – VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023

เราเลือก ZenMate VPN ในฐานะ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในขณะนี้ มันเป็นหนึ่งใน VPN เดียวที่เสนอแผนฟรีอย่างแท้จริงโดยไม่จำกัดเวลาหรือแบนด์วิดท์สูงสุดรายเดือน ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากแอปเบราว์เซอร์ของ ZenMate VPN สำหรับ Chrome, Firefox และ Edge บนอุปกรณ์ 1 เครื่องด้วยความเร็วสูงถึง 200 Mbps โดย VPN ฟรีมีความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์และมาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด

สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ทั้งหมดของ ZenMate VPN แผนการชำระเงินเริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสำหรับแอปเบราว์เซอร์เท่านั้น หรือ 50 บาทต่อเดือนเพื่อปลดล็อกแอปทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ZenMate VPN นำเสนอแอปสำหรับ Windows, Mac, iOS, Android, Linux, สมาร์ททีวี และเราเตอร์ VPN ที่ดีที่สุด แพลตฟอร์มนี้ให้ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน นอกเหนือจากการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย

แพลตฟอร์มนี้นำเสนอคุณสมบัติอันชาญฉลาด เช่น การแยกช่องสัญญาณและการอนุญาตพิเศษสำหรับเว็บไซต์เฉพาะ การเชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อตรวจพบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และรองรับการแชร์แบบเพียร์ทูเพียร์ผ่าน Tor นอกจากนี้ยังมี IP kill switch และการป้องกัน DNS เพื่อให้ข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ไม่ระบุตัวตนอย่างสมบูรณ์

สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ทั้งหมดของ ZenMate VPN แผนการชำระเงินเริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสำหรับแอปเบราว์เซอร์เท่านั้น หรือ 50 บาทต่อเดือนเพื่อปลดล็อกแอปทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ZenMate VPN นำเสนอแอปสำหรับ Windows, Mac, iOS, Android, Linux, สมาร์ททีวี และเราเตอร์ VPN ที่ดีที่สุด แพลตฟอร์มนี้ให้ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน นอกเหนือจากการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย

ZenMate VPN เสนอการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ 4,400+ เซิร์ฟเวอร์ใน 81 ประเทศ มันทำงานได้ดีมากในการปลดบล็อค geofences เมื่อใช้บริการสตรีมมิ่ง อย่างไรก็ตามความเร็วของมันค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเราพบความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 500 Mbps เมื่อใช้ VPN นี้

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
4,400+81เริ่มต้นที่ 50 บาทต่อเดือนไม่จำกัดอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • ฟรี VPN สำหรับเบราว์เซอร์
  • IP kill switch และ DNS protection
  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัด
  • ทดลองใช้ฟรี 7 วัน

ข้อเสีย

  • ความเร็วในการเชื่อมต่อที่พอเหมาะ
  • ต้องอัปเกรดเพื่อเข้าถึงแอปเดสก์ท็อปเพื่อไปที่ ZenMate VPN ได้

ไปยัง ZenMate VPN

10. Atlas VPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows

Atlas VPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานบน Windows เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มใช้งานง่ายเพียง โดยผู้ใช้เพียงแค่ต้องเปิดแอปบนเดสก์ท็อปแล้วคลิกปุ่ม จากนั้น Atlas VPN จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติในไม่กี่วินาที ผู้ใช้ยังสามารถเลือกจากรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ถึง 750 เซิร์ฟเวอร์ใน 36 ประเทศเพื่อปรับแต่งการเชื่อมต่อของตนเองได้

VPN นี้ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญหลายอย่างสำหรับความเป็นส่วนตัว โดยกิจกรรมทั้งหมดของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตจะไม่ถูกบันทึก และแพลตฟอร์มนี้มีการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP kill switch นอกจากนี้ Atlas VPN ยังช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนที่อยู่ IP หรือกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องเพื่อปกปิดตัวตนของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

Atlas VPN ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงถึง 680 Mbps ในเมื่อใช้โปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard มีโปรโตคอลเพิ่มเติม รวมถึงโปรโตคอล IKEv2 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย Atlas VPN ยังรองรับการแยกช่องสัญญาณและมีตัวบล็อกโฆษณาในตัวที่ป้องกันไม่ให้ตัวติดตามติดตามผู้ใช้ทางอินเทอร์เน็ต

แผน Atlas VPN เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสำหรับแผน 3 ปี อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 บาทต่อเดือนหลังจาก 3 ปีแรก แพลตฟอร์มนี้มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันและการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชกาล

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
75036เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนไม่จำกัดแชดสดและอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • แอปเดสก์ท็อปที่ใช้งานง่ายสำหรับ Windows และ Mac
  • รวมถึงโปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard 
  • กำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อข้ามเซิร์ฟเวอร์ได้หลายเครื่อง
  • แผนการกำหนดราคา 3 ปีราคาถูก

ข้อเสีย

  • ราคาแพงขึ้นหลังจากราคาเปิดตัว
  • มีประเทศให้เลือกที่จำกัด

ไปยัง Atlas VPN

11. ExpressVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome

ExpressVPN เป็นหนึ่งในบริการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 และแพลตฟอร์มนี้โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับแอปเบราว์เซอร์บน Chrome, Firefox และ Microsoft Edge แอปเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้เปิดเซสชัน VPN ใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเบราว์เซอร์ และรองรับการแยกช่องสัญญาณและรายการที่อนุญาตพิเศษ ดังนั้นบางเว็บไซต์จึงสามารถเลี่ยงการเชื่อมต่อ VPN ได้

ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากมาย มากกว่า 3,000 สามารถใช้งานใน 94 ประเทศ ที่จริงแล้ว ExpressVPN เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN เดียวที่ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศในแอฟริกาและอเมริกาใต้ ความเร็วในการเชื่อมต่อในสถานที่เหล่านี้ไม่ได้เร็วเสมอไป แต่การมีตำแหน่งเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม

ผู้ให้บริการ VPN รายนี้นำเสนอคุณสมบัติที่หลากหลายสำหรับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย รวมถึงมัลแวร์และตัวบล็อกโฆษณา นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และIP kill switch, ExpressVPN และยังมีแอปสำหรับอุปกรณ์เดสก์ท็อป คอนโซลเกม สมาร์ททีวี และอีกมากมาย แอพทั้งหมดจาก VPN นี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม VPN บนมือถือที่ดีที่สุด

ข้อเสียเปรียบที่เห็นได้ชัดที่เราพบใน ExpressVPN คือการกำหนดราคา แผนรายปีมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 280  บาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่าคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ นอกจากนี้แผน ExpressVPN ยังรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุดแค่ 5 รายการ ดังนั้น VPN นี้อาจจะไม่คุ้มกับราคายกเว้นผู้ใช้ต้องการรายการแอปและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่กว้างขวาง

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
3,000+94จาก 280  บาทต่อเดือน5แชทสดและอีเมล 24/7 30 วัน

ข้อดี

  • มีแอปเบราว์เซอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Chrome, Firefox และ Edge
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ
  • มีแอปเดสก์ท็อป มือถือ และเกมคอนโซล
  • รองรับ split tunneling

ข้อเสีย

  • ราคาแพงมาก
  • จำกัด 5 การเชื่อมต่อพร้อมกัน

ไปยัง ExpressVPN

12. Norton Secure VPN – ซอฟต์แวร์ VPN ที่เชื่อถือมากที่สุด

Norton เป็นหนึ่งในชื่อที่น่าเชื่อถือที่สุดในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่บริษัทเสนอ VPN ที่น่าเชื่อถือพร้อมคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ด้วย Norton Secure VPN ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยบนอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS หรือ Android สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ VPN นี้ไม่รองรับเราเตอร์ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สมาร์ททีวีหรือคอนโซลเกมได้ VPN นำเสนอคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น IP kill switch และ split tunneling ทำให้ผู้ใช้วางใจได้ง่ายขึ้นว่าพวกเขากำลังท่องเว็บโดยไม่ระบุตัวตนและเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่รองรับ VPN

Norton Secure VPN ให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้มากกว่า 2,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 31 ประเทศ ตามค่าเริ่มต้นซอฟต์แวร์จะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ แต่ก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเป็นประเทศอื่นได้เช่นกัน ทำให้ VPN เหมาะสำหรับการสตรีม Netflix และเข้าถึงไซต์ที่มีขอบเขตทางภูมิศาสตร์อื่น ๆ ได้

ราคาสำหรับ Norton Secure VPN นั้นแตกต่างกันไปตามจำนวนการเชื่อมต่อที่จำเป็นพร้อมกัน การเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องเดียวมีค่าใช้จ่าย 85 บาทต่อเดือนในปีแรก ขณะที่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ 10 เครื่องมีค่าใช้จ่าย 170 บาทต่อเดือนในปีแรก Norton Secure VPN ไม่ได้เสนอแผนการใช้งานฟรี แต่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินนาน 60 วัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
2,000+31จาก 85 บาทต่อเดือน10โทร แชทสด และอีเมล 24/7 60 วัน

ข้อดี

  • ไม่มีนโยบายการบันทึก
  • รับประกันคืนเงิน 60 วัน
  • รองรับ split tunneling
  • ง่ายต่อการเปลี่ยนตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์

ข้อเสีย

  • ความเร็วในการเชื่อมต่อช้า
  • ไม่พร้อมใช้งานสำหรับเราเตอร์ WiFi

ไปยัง Norton Secure VPN

13. VyprVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม

VyprVPN เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสตรีมรายการและภาพยนตร์จากแพลตฟอร์มเช่น Netflix, Hulu, Disney+ และอีกมากมาย VPN นี้มีแอปมากมายรวมถึงแอปเฉพาะสำหรับสมาร์ททีวี เราเตอร์ WiFi ในบ้าน และแม้แต่อุปกรณ์ Roku ผู้ใช้สามารถมีการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 5 เครื่อง ซึ่งเพียงพอสำหรับครอบครัวที่มีการสตรีมวิดีโอหลายคน

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ VyprVPN นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมคือความรวดเร็ว ในการทดสอบของเราความเร็วในการเชื่อมต่อของสูงถึง 700 Mbps เมื่อใช้โปรโตคอล Chameleon VPN นั่นเป็นความเร็วที่เกินพอสำหรับการสตรีมวิดีโอ 4K บนอุปกรณ์หลายเครื่อง

VyprVPN นำเสนอการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ใน 64 ประเทศ ทำให้ง่ายต่อการหลีกเลี่ยงขอบเขตตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของบริการสตรีมมิ่ง ผู้ใช้สามารถสลับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดายเมื่อใดก็ได้เมื่อใช้ VPN หรือเพียงแค่ให้ VyprVPN เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดตามตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้

VyprVPN มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและนำเสนอคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และการแยกช่องสัญญาณ ซอฟต์แวร์ได้รับการตรวจสอบโดยสาธารณะ ดังนั้นผู้ใช้จึงวางใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง แผนเริ่มต้นที่ 285 บาทต่อเดือน ดังนั้นจึงมีราคาค่อนข้างแพง ข้อดีคือราคาจะไม่เพิ่มขึ้นหลังจากปีแรกเหมือนกับ VPN อื่นๆ 

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
700+64เริ่มต้นที่ 285 บาทต่อเดือน5แชทสดและอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • รองรับเราเตอร์ ทีวี และอุปกรณ์ Roku 
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 64 ประเทศ
  • มีการเชื่อมต่อความเร็วสูง
  • เป็นที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ได้เร็วมาก

ข้อเสีย

  • เป็นตัวเลือกที่ราคาแพง
  • เชื่อมต่อได้เเค่ 5 อุปกรณ์

ไปยัง VyprVPN

14. Hotspot Shield – VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Android

Hotspot Shield เป็น VPN ฟรีสำหรับแพลตฟอร์ม Android, iOS และเดสก์ท็อปที่มีข้อมูลสูงสุด 500 MB ต่อเดือน แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มากนักแต่ก็มากกว่าที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องการสำหรับการท่องเว็บแบบวันต่อวัน แผนบริการฟรีมาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและ IP kill switch แต่สามารถใช้ได้บนอุปกรณ์เครื่องเดียวที่มีความเร็วสูงถึง 200 Mbps

Hotspot Shield ยังโดดเด่นสำหรับครอบครัวด้วยแผนสำหรับครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร โดยค่าบริการอยู่ที่ 410 บาทต่อเดือน และให้ผู้ใช้สร้างบัญชีได้มากถึง 5 บัญชี โดยแต่ละบัญชีสามารถมีการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 5 รายการ (สำหรับการเชื่อมต่อสูงสุดทั้งหมด 25 รายการ) เป็นการยากที่จะเอาชนะราคานั้น แม้แต่กับผู้ให้บริการ VPN ที่มีการเชื่อมต่อพร้อมกันแบบไม่จำกัด

Hotspot Shield ให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1,800 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ ในการทดสอบความเร็วของแพลตฟอร์มนั้นอยู่ในระดับปานกลาง โดยเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 310 Mbps อย่างไรก็ตามมันเร็วเกินพอสำหรับการสตรีม และบริการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพื่อเลี่ยงขอบเขตตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้อย่างง่ายดาย

แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วันและการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชกาล ผู้ใช้ยังสามารถทดลองใช้ Hotspot Shield ได้ฟรีสูงสุด 7 วัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
1,800+80+เริ่มที่ 410 บาทต่อเดือน5แชทสดและอีเมล 24/7 45 วัน

ข้อดี

  • แผนฟรีพร้อม 500 MB ของข้อมูลแต่ละเดือน
  • แผนสำหรับครอบครัวสูงสุดถึง 5 รายการ
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 80 ประเทศ
  • ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน

ข้อเสีย

  • เชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุดแค่ 5 รายการต่อบัญชี

ไปยัง Hotspot Shield

15. TunnelBear –  VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone

TunnelBear เป็นอีกหนึ่งบริการ VPN คุณภาพสูงที่ให้บริการทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน แผนบริการฟรีประกอบด้วยแบนด์วิดท์สูงสุด 500 MB ต่อเดือน ซึ่งสามารถใช้กับอุปกรณ์ได้มากเท่าที่ผู้ใช้ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง TunnelBear ไม่ได้จำกัดความเร็วในการเชื่อมต่อกับแผนบริการฟรี ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แผนชำระเงินที่ TunnelBear เริ่มต้นที่ 115 บาทต่อเดือนสำหรับแผน 3 ปี และราคาจะไม่เพิ่มขึ้นเมื่อต่ออายุ ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งใน VPN ที่ประหยัดที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการแบนด์วิดท์มากกว่าแผนบริการฟรี

ผู้ให้บริการ mobile vpn รายนี้มีแอปเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android รวมถึงส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome และ Firefox เราคิดว่านี่เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone เนื่องจากแอปเปิดโดยอัตโนมัติและสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ อินเทอร์เฟซตามแผนที่ทำให้ง่ายต่อการค้นหาตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ TunnelBear ทั่วโลก

TunnelBear ไม่ได้บันทึกข้อมูลผู้ใช้ใด ๆ และสามารถใช้เพื่อนำทางไปรอบ ๆ geofences เช่นเดียวกับที่จัดทำโดยไซต์สตรีมมิ่ง อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มขาดคุณสมบัติบางอย่างที่เราต้องการเห็น รวมถึงการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และสวิตช์ฆ่า IP TunnelBear ยังไม่มีโปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard และความเร็วในการเชื่อมต่ออยู่ที่ 380 Mbps 

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
1,00049เริ่มต้นที่ 115 บาท5แชทสดและอีเมลไม่มี

ข้อดี

  • มีแผนฟรีพร้อมข้อมูลรายเดือน 500 MB
  • สามารถใช้แผนฟรีบนอุปกรณ์หลายเครื่อง
  • แอปมือถือที่ยอดเยี่ยมสามารถทำงาน 24/7
  • ไม่มีนโยบายการบันทึก

ข้อเสีย

  • ไม่มีการรับประกันคืนเงิน
  • ความเร็วในการเชื่อมต่อปานกลาง

ไปยัง TunnelBear

เปรียบเทียบผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุด

VPN ที่ดีที่สุดปี 2023แพลนที่ถูกที่สุด (ราคาใหม่)แผนฟรี?การันตีเงินคืนอุปกรณ์ที่รองรับ
CyberGhost VPN75 บาทต่อเดือน(สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 3 ปี)ไม่มี45 วันWindows, Mac, iOS, Android, TVs, Linux, gaming consoles
NordVPN100 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, Android, iOS, and Linux
Private Internet Access70 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 3 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android, and Linux
Surfshark One70 บาท  (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี) ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android, and Linux
UltraVPN100 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, and Android
Proton VPN175 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)มี30 วันWindows, Mac, Android, iOS, Linux
StrongVPN125 บาท (สำหรับปีแรกของผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, Android, เราเตอร์
ExpressVPN125 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 12 เดือน)ไม่มี30 วันWindows, Android, iOS, Mac, FireOS and Linux
IPVanish135 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 12 เดือน)ไม่มี30 วันWindows, iOS, Mac, Android, and FireOS 
ZenMate50 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)มี + ทดลองฟรี 7 วันสำหรับแผนจ่ายเงิน30 วันiOS, Windows, Mac, Android, browsers
Atlas VPN70 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)มี30 วันiOS, Windows, Mac, Android

VPN คืออะไร?

VPN หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือนเป็นบริการที่ช่วยให้บุคคลสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสได้

ด้วยการเข้ารหัสการเชื่อมต่อ VPN ทำให้ยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับอฮ็กเกอร์ที่จะเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ถ่ายโอนไปมาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะรวมถึงไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลด ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่บุคคลใช้เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

VPN ยังให้ความเป็นส่วนตัวอีกด้วยถ้าไม่มี VPN เว็บไซต์สามารถใช้ที่อยู่ IP ของผู้เข้าชมเพื่อระบุตำแหน่งของพวกเขาได้ ประเภทของอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เครื่องมือติดตามโฆษณาสามารถติดตามบุคคลได้ทางอินเทอร์เน็ตโดยติดตามว่าผู้ใช้เข้าชมหน้าใดบ้าง แต่ด้วย VPN ที่อยู่ IP ของผู้ใช้จะไม่ระบุตัวตนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้บ่อยครั้งเพื่อป้องกันการติดตาม เหมาะสำหรับคนที่อยากเลี่ยงแอปติดตามแฟนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นบุคคลทั่วไปจึงสามารถเคลื่อนที่ไปมาบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน

VPNs ทำงานอย่างไร?

VPN ทำงานโดยกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ใหม่ผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งเข้ารหัสการเชื่อมต่อ

โดยปกติเมื่อผู้ใช้งานพยายามเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ การเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ไปยังเว็บไซต์ ด้วย VPN การเชื่อมต่อจะเปลี่ยนจาก ISP ไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้นจึงไปที่เว็บไซต์ปลายทางเท่านั้น

ส่วนของการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ถูกเข้ารหัส ข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ (เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน) จะถูกเข้ารหัสโดยซอฟต์แวร์ VPN ก่อนที่มันจะออกจากอุปกรณ์ จากนั้นจะถอดรหัสที่เซิร์ฟเวอร์ VPN และส่งไปยังเว็บไซต์ ข้อมูลที่มาจากเว็บไซต์จะถูกเข้ารหัสที่เซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้นซอฟต์แวร์ VPN จะถอดรหัสบนอุปกรณ์ของผู้ใช้

ที่สำคัญคือเนื่องจากผู้ใช้กำลังเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ของผู้ใช้จะไม่เปิดเผยต่อเว็บไซต์ปลายทาง ไซต์นั้นเห็นเฉพาะที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์นี้และที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ถูกใช้โดยบุคคลหลายราย เว็บไซต์หรือเครื่องมือติดตามโฆษณาจึงไม่สามารถระบุผู้ใช้รายใดรายหนึ่งได้

ทำไมถึงต้องใช้ VPN?

คุณสงสัยว่าทำไมทุกคนควรใช้ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023? VPN ที่ดีที่สุดมอบสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และประสบการณ์ออนไลน์

การปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

หากไม่มี VPN เป็นไปไม่ได้เลยที่บุคคลจะแน่ใจได้ว่าไม่มีใครติดตามหรือรบกวนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของพวกเขา แฮกเกอร์อาจจะขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากการเชื่อมต่อที่ไม่มีการป้องกัน หรือแม้แต่เปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อของผู้ใช้เพื่อชี้ให้พวกเขาไปยังเว็บไซต์ปลอมแปลงหรือเป็นอันตราย ความเสี่ยงนี้มีให้เห็นบ่อยเมื่อใช้เครือข่าย WiFi สาธารณะ เนื่องจากเราเตอร์สามารถถูกแฮ็กได้โดยที่ผู้ใช้รายอื่น

VPN เข้ารหัสการเชื่อมต่อของผู้ใช้ ป้องกันไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับมัน นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถเรียกดูได้อย่างปลอดภัยและรู้ว่าข้อมูลใด ๆ ที่พวกเขาส่งหรือรับสามารถดูได้โดยพวกเขาเท่านั้น

การรักษาความเป็นนิรนามออนไลน์

ข้อดีอีกอย่างของการใช้ VPN คือให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้ในขณะที่ท่องอินเทอร์เน็ต โดยปกติผู้ใช้สามารถระบุตัวตนทางออนไลน์ด้วยที่อยู่ IP ของพวกเขา นี่คือที่อยู่ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งมอบให้กับทุกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ ดังนั้นเว็บไซต์ใด ๆ ที่ทราบที่อยู่ IP ของผู้ใช้สามารถติดตามพวกเขาได้ทางอินเทอร์เน็ตและติดตามว่าหน้าใดที่พวกเขาเยี่ยมชมมาได้

ที่อยู่ IP ที่ระบุไม่ได้สามารถใช้ได้เฉพาะกับโฆษณาเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้สำหรับการล่วงละเมิดทางออนไลน์หรือแม้แต่การแฮ็กได้อีกด้วย VPN ปิดบังที่อยู่ IP ของผู้ใช้และแทนที่ด้วยที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่พวกเขาเชื่อมต่ออยู่ อาจจะมีบุคคลหลายร้อยหรือหลายพันคนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ VPN นั้นในเวลาใดก็ตาม ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ติดตามหรือแฮ็กเกอร์จะระบุบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้

นอกจากนี้ VPN ที่ดีที่สุดบางตัวยังให้ผู้ใช้เปลี่ยนที่อยู่ IP ได้ก่อนที่จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN สิ่งนี้จะเพิ่มชั้นคว่ทปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับที่อยู่ IP ของผู้ใช้ และทำให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ยากขึ้น

การรักษาการท่องเว็บให้เป็นส่วนตัว

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการใช้บริการ VPN แนะนำคือการรักษาประวัติการท่องเว็บของแต่ละบุคคลให้เป็นส่วนตัว ด้วยแอป VPN ที่ดีที่สุด แม้แต่ ISP ของผู้ใช้ก็ไม่สามารถเห็นเว็บไซต์ที่พวกเขาเยี่ยมชมได้

นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่มักใช้ VPN สำหรับการทอร์เรนต์ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ tor ยังเสนอนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดอีกด้วย เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ติดตามกิจกรรมของผู้ใช้ แพลตฟอร์มเหล่านี้จึงไม่สามารถบังคับให้เปลี่ยนประวัติการท่องเว็บหรือทอร์เรนต์ของผู้ใช้โดยหน่วยงานของรัฐ

การหลีกเลี่ยง Geofence

VPN แนะนำที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 ยังสามารถช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยง geofences ได้ เช่นเดียวกับที่มักใช้โดยบริการสตรีมมิง สำหรับผู้ที่เคยเข้าชม Netflix เพียงเพื่อจะได้รับแจ้งว่าไม่มีรายการใดให้บริการในภูมิภาคของตน ประโยชน์ของ VPN จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

VPN สามารถข้าม geofences ได้โดยทำให้เว็บไซต์ปรากฏเหมือนว่าบุคคลหนึ่งกำลังเข้าสู่ระบบจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศที่ตั้งอยู่จริง ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อยู่ในไทยแต่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในประเทศเยอรมนี สำหรับ Netflix หรือไซต์สตรีมมิ่งอื่น คำขอเข้าถึงรายการจะดูเหมือนว่ามาจากที่อยู่ IP ในเยอรมนีไม่ใช่ไทย ดังนั้นผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงไซต์เวอร์ชันภาษาเยอรมันได้

การหลีกเลี่ยงโฆษณาตามการติดตามและราคา

โดยทั่วไปแล้ว VPN แนะนำที่ดีที่สุดให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในหลายสิบประเทศด้วยเหตุนี้ ตัวอย่างเช่น NordVPN มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ แม้แต่ VPN ฟรีที่ดีที่สุดบางตัวยังเสนอการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก

VPN ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้องกันโฆษณาตามการติดตามและราคาผันแปรได้ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ค้นหาเที่ยวบินแต่ไม่ได้ซื้อ พวกเขาอาจกลับมาในภายหลังเพื่อพบว่าราคาเที่ยวบินนั้นสูงขึ้นเพราะสายการบินรู้ว่าผู้ใช้สนใจเที่ยวบินนั้นอยู่แล้วด้วยโปรแกรม VPN ผู้ใช้จะไม่ระบุชื่อ ดังนั้นสายการบินจะไม่ทราบว่าเคยดูเที่ยวบินมาก่อนแล้ว และจะได้รับราคาเท่ากันทุกครั้งที่ค้นหาเที่ยวบินนั้น

ไปยัง VPN ที่ดีที่สุด

VPN ที่เร็วที่สุดคือผู้ให้บริการเจ้าไหน?

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบโปรแกรม vpn แนะนำที่ดีที่สุดคือความเร็วในการเชื่อมต่อของพวกเขาเร็วแค่ไหน

โดยปกติโปรแกรม มุด vpn จะทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ช้าลงเล็กน้อย เนื่องจากกระบวนการเข้ารหัสต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ความเร็วอาจจะแตกต่างกันไปตามโปรโตคอลการเข้ารหัสที่ใช้ ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ vpn app และคุณภาพของเครือข่าย VPN

นี่คือความเร็วในการเชื่อมต่อสำหรับ 15 บริการ vpn ดีๆในปี 2023:

บริการ VPN ความเร็วในการเชื่อมต่อ
CyberGhost VPN145-850 Mbps
NordVPN220-760 Mbps
Private Internet Access70-320 Mbps
Surfshark One90-790 Mbps
UltraVPN210-765 Mbps
ProtonVPN200-670 Mbps
StrongVPN190-600 Mbps
IPVanish290-930 Mbps
ZenMate VPN200-500 Mbps
Atlas VPN100-680 Mbps
ExpressVPN375-430 Mbps
Norton Secure VPN85-230 Mbps
VyprVPN140-700 Mbps
Hotspot Shield200-310 Mbps
TunnelBear310-380 Mbps

โปรดจำไว้ว่าความเร็วไม่ใช่ทุกอย่างเมื่อเปรียบเทียบ vpn android ตัวไหนดีที่สุด ผู้ใช้ทั่วไปอาจจะพบว่าบริการหนึ่งให้บริการความเร็วสูงกว่าในประเทศที่พวกเขาต้องการเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้เมื่อความเร็วของ VPN สูงกว่าความเร็วการเชื่อมต่อที่ ISP อนุญาต ความเร็วเพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์ VPN ก็ไม่น่าจะมีความสำคัญ.

VPN ปลอดภัยหรือไม่?

เมื่อเลือกบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 แล้วสิ่งสำคัญคือต้องค้นหาผู้ให้บริการ VPN ที่มีประวัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง นั่นเป็นเพราะว่าหากเซิร์ฟเวอร์ VPN ถูกแฮ็ค การเชื่อมต่อทั้งหมดที่ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์นั้นก็อาจถูกแฮ็คได้เช่นกัน

นั่นเป็นเหตุผลที่ VPN ที่ปลอดภัยที่สุดมีโปรโตคอลความปลอดภัยเครือข่ายที่ครอบคลุม นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ VPN หลายรายยังส่งไปยังการตรวจสอบอิสระของเครือข่ายของตน การตรวจสอบเหล่านี้สามารถตรวจจับข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยก่อนที่จะเกิดปัญหา และทำให้ผู้ใช้สบายใจได้ว่าเครือข่าย vpn ต่างประเทศ มีความปลอดภัยตามที่ผู้ให้บริการอ้างไว้

อีกสิ่งหนึ่งที่ vpn ตัวไหนดีที่ปลอดภัยที่สุดมีเหมือนกัน คือจะไม่มีการบันทึกกิจกรรมของผู้ใช้ ซึ่งหมายความว่าไม่มีบันทึกว่าผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ไหนหรือท่องอินเทอร์เน็ตอย่างไร แม้ว่ารัฐบาลหรือแฮ็กเกอร์ต้องการรับข้อมูลนี้ แต่ก็ไม่มีอยู่ใน VPN ที่มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด

ไปยัง NordVPN

ฟรี VPNs vs Paid แบบจ่ายเงิน

ทั้ง VPN ฟรีและมีค่าใช้จ่ายเสนอการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสและความเป็นส่วนตัวออนไลน์ อย่างไรก็ตามมันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่าง VPN ฟรีที่ดีที่สุดและ VPN แบบชำระเงินที่ดีที่สุดในแง่ของวิธีการใช้งาน

โดย VPN ฟรี pc ที่ดีที่สุดมักเป็นเวอร์ชันที่ลดขนาดลงของแพลตฟอร์มแบบชำระเงิน มักจะมีแบนด์วิดท์และความเร็วในการเชื่อมต่อที่จำกัด ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการท่องเว็บอย่างปลอดภัยมากกว่าการสตรีมหรือทอร์เรนต์

นอกจากนี้ VPN ฟรีมักจะสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์เครื่องเดียวเท่านั้น และยังให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในจำนวนจำกัด นั่นอาจจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ VPN ฟรีเพื่อเลี่ยงขอบเขตตำแหน่ง

ที่สำคัญไม่ใช่ VPN ฟรีทั้งหมดที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะบางตัวบันทึกข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งช่วยขจัดประโยชน์ด้านความเป็นส่วนตัวของการใช้ VPN ตั้งแต่แรก ผู้ให้บริการรายอื่นเสนอเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและอาจเสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก สำหรับผู้ใช้ที่ตัดสินใจใช้ VPN ฟรี สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าแพลตฟอร์มนั้นปลอดภัย

VPNs ถูกกฎหมายหรือไม่?

ในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก VPN นั้นถูกกฎหมายอย่างสมบูรณ์ เช่น ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป และส่วนใหญ่ของอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย

อย่างไรก็ตามก็มีบางประเทศที่การใช้ VPN นั้นซับซ้อนกว่าที่คิด ตัวอย่างเช่น ในประเทศจีน รัสเซีย และตุรกี บุคคลทั่วไปได้รับอนุญาตให้ใช้ VPN ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเท่านั้น ผู้ให้บริการทั้งหมดที่สร้างรายชื่อบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 จะถูกแบน แน่นอนว่า VPN ที่รัฐบาลอนุมัติเหล่านี้อนุญาตให้รัฐบาลติดตามกิจกรรมการท่องเว็บของผู้ใช้งาน

ประเทศอื่น ๆ เช่น อิรัก เกาหลีเหนือ และเติร์กเมนิสถานนั้นแบน VPN ทั้งหมด อย่าลืมหาข้อมูลก่อนเปิด VPN ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากกฎเกี่ยวกับ VPN สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

วิธีการใช้ VPN

พร้อมที่จะเริ่มต้นด้วยบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 แล้วหรือยัง? เราจะแนะนำผู้ใช้เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งาน CyberGhost VPN ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับการท่องเว็บ สตรีมมิง ทอร์เรนต์ และอื่น ๆ

ขั้นตอนที่ 1: ลงชื่อสมัครใช้ CyberGhost VPN

ขั้นตอนนี่ให้ไปที่เว็บไซต์ของ CyberGhost VPN แล้วคลิก ‘รับ CyberGhost VPN’ เพื่อลงทะเบียน เลือกแผน 1 เดือน 1 ปี 2 ปีหรือ 3 ปี จากนั้นป้อนที่อยู่อีเมลและชำระเงินสำหรับแผน NordVPN รับบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Amazon Pay, Google Pay และ สกุลเงินคริปโต รวมถึง Bitcoin

ไปยัง CyberGhost VPN

ขั้นตอนที่ 2:ติดตั้ง CyberGhost VPN

ผู้ใช้ควรดาวน์โหลดและติดตั้งแอป CyberGhost VPN ลงในแต่ละอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งาน CyberGhost VPN มีแอปสำหรับทั้งคอมพิวเตอร์ Windows, Mac และ Linux, อุปกรณ์มือถือ iOS และ Android, เบราว์เซอร์ Chrome, Firefox และ Edge, Amazon Firestick, Xbox, PlayStation และอีกมากมาย

ขั้นตอนที่ 3: การเชื่อมต่อ

เปิดแอป CyberGhost VPN แล้วคลิกปุ่มเปิดปิด CyberGhost VPN จะนั้นมันจะค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งของผู้ใช้โดยอัตโนมัติและเปิดการเชื่อมต่อที่เข้ารหัส ผู้ใช้ยังสามารถค้นหารายชื่อประเทศเพื่อเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เองได้ตลอดเวลา

บทสรุป: บริการ VPN เจ้าไหนที่ดีที่สุดในปี 2023 ?

บริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 ช่วยให้ผู้ใช้งานท่องเว็บได้อย่างปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว และเป็นส่วนตัว VPN เป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน สตรีมมิ่งทีวีและภาพยนตร์จากประเทศอื่น ๆ และป้องกันการติดตามทางออนไลน์

พร้อมสำหรับการรับแอป VPN ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง Nord VPN นำเสนอความเร็วการเชื่อมต่อสูง เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 90 ประเทศ และแอปสำหรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ไปที่ Nord VPN เพื่อสมัครวันนี้และเริ่มท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น!

Categories
Spy Spy Software ซอฟต์แวร์และโซเชียล

แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุด 2023 – รู้ตำแหน่ง GPS [แนะนำ!]

แอปการติดตามสอดแนมโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ GPS สร้างภาพการติดตามโทรศัพท์มือถือแบบไม่เปิดเผย บางครั้งการขโมยข้อมูลจากโทรศัพท์จากใครบางคน แต่ในความเป็นจริง แอปเหล่านี้มีฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากมาย เช่น การตรวจสอบการใช้สมาร์ทโฟนของเด็ก การติดตามโทรศัพท์ที่สูญหายหรือถูกขโมยไป บันทึกการโทรและข้อความ และอื่นๆ

ในคู่มือนี้ เราจะตรวจสอบ แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุด 6 แอพ และอธิบายทุกสิ่งที่ผู้ใช้จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการใช้แอพสอดแนม แอบดูโทรศัพท์แฟนบนอุปกรณ์ iOS และ Android เหล่านี้

6 แอพสอดแนมที่ดีที่สุด สำหรับปี 2023

เราทดสอบ แอพติดตามแฟน google map แบบเสียเงิน และแบบฟรีไม่เสียเงิน หลายสิบแอพ รวมมาแล้ว แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุด สำหรับ Android และ iOS นี่คือ 6 แอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในปี 2023:

  • mSpy – แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุดบน android
  • uMobix – ทางเลือกที่คุ้มค่า 2023
  • Cocospy – แอปสอดแนมที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานที่ง่ายดาย
  • Spyic – แอปนักสืบบนมือถือที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบที่ครอบคลุม
  • Hoverwatch – แอปสอดแนมมือถือที่ดีที่สุดสำหรับวงการทำธุรกิจ
  • XNSpy – ตัวที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมระยะไกลกับโทรศัพท์ของเป้าหมาย

เข้าชม mSpy

รีวิวแอปสอดแนมบนโทรศัพท์มือถือยอดนิยมปี 2023

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในปี 2023 ใช่ไหม? เราได้รวบรวมบทวิจารณ์โดยละเอียดเกี่ยวกับ แอพติดตามแฟน google mapที่ดีที่สุด 10 แอป เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านตัดสินใจได้ว่าแอปใดเหมาะกับคุณ

1. mSpy หรือ เอ็มสปาย –  แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุดสำหรับบน android

mSpy เป็นตัวเลือกของเราสำหรับแอปติดตามแฟนที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ไอโฟนและแอนดรอยด์ ประกอบด้วยคุณลักษณะการตรวจสอบที่หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดดูแอปเกือบทั้งหมดบนโทรศัพท์เป้าหมายได้ ซึ่งรวมถึงแอปส่งข้อความในช่องทางโซเชียล อย่างเช่น เฟสบุ้ค, ว้อทแอป และ เทเลแกรม และ แอปที่เน้นรูปภาพและวิดีโอ เช่น อินสตาแกรม, สแนปแชท และ ติ้กต่อก และอีกมากมาย

สิ่งหนึ่งที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับแอป mSpy นั้นก็คือ ฟีเจอร์บันทึกหน้าจอ สิ่งนี้นำเสนอภาพหน้าจอบ่อยครั้งจากโทรศัพท์เป้าหมาย โดยพื้นฐานแล้วทำให้ผู้ใช้ได้รับฟีดข้อมูลสดว่าเป้าหมายการตรวจสอบกำลังทำอะไรบนโทรศัพท์ของพวกเขา โปรแกรมบันทึกหน้าจอทำงานได้แม้ในแอปที่ไม่รองรับการตรวจสอบโดย mSpy โดยตรง

แอป mSpy เข้าใจถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนแม้ในสถานการณ์การตรวจสอบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังผู้ใช้ปลายทางด้วยการเข้ารหัสระดับธนาคาร แอปจะอัปเดตโดยอัตโนมัติทุกๆ 5 นาที หากมีปัญหาใดๆ ทีมฝ่ายสนับสนุนของ mSpy พร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

mSpy มีค่าใช้จ่าย 48.99 ดอลล่าห์ต่อเดือนหรือ 139.92 ดอลล่าห์ต่อปี สำหรับทั้งอุปกรณ์ ไอโฟนและแอนดรอยด์ แพลนของ mSpy ทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 14 วันสำหรับผู้ใช้ที่ไม่พีงพอใจกับการใช้แอพ

ราคาจำนวนอุปกรณ์
139.92 ดอลล่าห์/ปี1

ข้อได้เปรียบ

  • ตรวจสอบแอปโซเชียลที่หลากหลาย
  • บันทึกภาพหน้าจอได้อย่างสม่ำเสมอจากโทรศัพท์เป้าหมาย
  • การสนับสนุนลูกค้า 24/7/365
  • ส่งข้อมูลด้วยการเข้ารหัส

ข้อควรพิจารณา

  • แพลนรายเดือนมีราคาที่สูงมาก
  • ไม่มีคุณสมบัติการควบคุมระยะไกล

เยี่ยมชมเว็ปไซต์เอ็มสปาย คลิก

2. uMobix – แอพนักสืบยอดนิยมสำหรับค้นหาไฟล์ที่ถูกลบไป

แอป uMobix เป็นอีกหนึ่งแอปสอดแนมโทรศัพท์ชั้นนำในปี 2023 จากรีวิวของเรา ด้วยแอปนี้ ผู้ใช้สามารถเฝ้าติดตามทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโทรศัพท์เป้าหมายได้ โดยการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ว่าอยู่ที่ไหน ผู้ใช้ระยะไกลสามารถเข้าถึงบันทึกการโทร, ข้อความ, แอพส่งข้อความโซเชียลมีเดีย เช็คตำแหน่งเบอร์มือถือ และอื่นๆ สิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษเกี่ยวกับแอป uMobix คือผู้ใช้ระยะไกลสามารถค้นหาไฟล์ที่ถูกลบได้ เช่น บันทึกการโทรและข้อความ ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลที่ซ่อนอยู่ซึ่งแอปนี้ไม่ให้สิทธิ์เข้าถึง

อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบเกี่ยวกับแอป uMobix คือ มันสามารถช่วยให้ผู้ใช้ระยะไกลนั้น สามารถควบคุมบางแง่มุมของโทรศัพท์เป้าหมายได้จากระยะไกล นอกจากจะหาพิกัดของเบอร์มือถือแล้ว ซึ่งรวมถึงการเปิดกล้องและไมโครโฟน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหนหรือฟังการสนทนา นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถบล็อกแอปเฉพาะ จำกัดเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ต ปิดการรับส่งข้อความ และอื่นๆ

แน่นอนแอป uMobix ทำให้ง่ายต่อการกำหนดว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหนในโลกเมื่อใดก็ได้ แอปนี้รวมไปถึงการติดตามด้วย GPS สำหรับทั้งอุปกรณ์ iOS และแอนดรอยด์

uMobix มีราคาอยู่ที่ $29.99 เมื่อซื้อในเดือนเดียว แต่ถ้าคุณสมัครทั้งปี ราคาจะลดลงเหลือเพียง $14.99

ราคาจำนวนอุปกรณ์
179.88 ดอลล่าห์ต่อปี1

ข้อดี

  • ดูไฟล์ที่ถูกลบ
  • รองรับการติดตามตำแหน่ง
  • บล็อกแอปจากระยะไกลหรือจำกัดเว็บไซต์
  • เปิดใช้งานไมโครโฟนและกล้อง

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ uMobix คลิก

3. Cocospy หรือ โคโค่สปาย – แอปสอดแนมบนมือถือที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานที่ง่ายดาย

แอปโคโค่สปาย Cocospy เป็นหนึ่งในแอปสอดแนมที่ง่ายที่สุดที่ใช้บนอุปกรณ์ไอโฟนและแอนดรอยด์ บนระบบแอนดรอยด์ ผู้ใช้ทั้งหมดต้องทำเพื่อเริ่มการตรวจสอบนั่นคือ การติดตั้งแอปจาก Google Play หลังจากนั้นลงชื่อเข้าใช้และเปิดใช้งานโหมดซ่อนตัว ขั้นตอนทั้งหมดในการทำให้ Cocospy เริ่มทำงานนั้นใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที

บนไอโฟน กระบวนการเกือบจะเหมือนกัน – ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือผู้ใช้ต้องมีการเข้าสู่ระบบ iCloud ที่ใช้บนโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม นี่หมายความว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงอุปกรณ์ที่ต้องการสอดแนมทางกายภาพ นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับการซ่อนตัว แม้ว่าผู้ใช้ควรจำไว้ว่าพวกเขาต้องการการอนุญาตจากผู้ใหญ่ที่พวกเขาต้องการติดตามสอดแนม

เมื่อติดตั้งแล้วแอปโคโค่สปาย จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเกือบทุกอย่างบนโทรศัพท์ได้ ผู้ใช้สามารถติดตามการโทรและข้อความ SMS, แอปโซเชียลมีเดีย, ประวัติการท่องเว็บ, การกดแป้นพิมพ์, ตำแหน่งของโทรศัพท์ และอื่นๆ แอปโคโค่สปาย ยังสนับสนุนการแจ้งเตือนตามขอบเขตตำแหน่งสำหรับผู้ปกครองหรือนายจ้างที่ต้องการติดตามบุตรหลานหรือติดตามพนักงานในบริษัทของตน แอปนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งและมีข้อมูลน้อยมากที่ไม่สามารถดึงมาจากสมาร์ทโฟนเป้าหมายได้

คุณลักษณะเดียวที่เราพบว่าไม่มีในแอปโคโค่สปาย นั้นคือ ไม่สามารถเปิดใช้งานไมโครโฟนหรือกล้องจากระยะไกลได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังคงสามารถเข้าถึงวิดีโอที่บันทึกไว้ การบันทึกการโทร และมัลติมีเดียอื่นๆ บนอุปกรณ์เป้าหมายได้

Cocospy มีแผนครอบครัวและรายบุคคล แผนครอบครัวสำหรับอุปกรณ์ Android 3 เครื่องมีราคา 199.99 ดอลลาร์ต่อปีในขณะที่แผนรายบุคคลต่อปีคือ 99.99 ดอลลาร์สำหรับ Android และ 129.99 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับ iPhone นอกจากนี้ หากคุณต้องการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin ที่ Cocospy คุณสามารถชำระเงินกับพวกเขาได้

ราคาจำนวนอุปกรณ์
99.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับแอนดรอยด์, 129.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับมือถือไอโฟน1

ข้อดี

  • ติดตั้งแอปง่ายมาก
  • รองรับการติดตามตำแหน่งและการแจ้งเตือน
  • การตรวจสอบการกดแป้นพิมพ์
  • รับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน

ข้อควรพิจารณา

  • แพลนครอบครัวรวมอุปกรณ์แอนดรอยด์ เท่านั้น

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ Cocospy คลิก

4. Spyic – แอปสอดแนมบนมือถือที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบที่ครอบคลุม

แอป Spyic หรือสปายอิค เป็นแอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ครอบคลุมซึ่งตรวจสอบทุกอย่างบนโทรศัพท์เป้าหมาย ด้วยแอปสอดแนมโทรศัพท์นี้ ผู้ใช้สามารถติดตามการโทร, ข้อความ SMS, แอปโซเชียลมีเดีย, ปฏิทิน, ตำแหน่ง, รูปภาพและวิดีโอ, กิจกรรมเบราว์เซอร์ และอื่น ๆ อีก แอป Spyic ยังมีโหมดซ่อนตัวซึ่งซ่อนกิจกรรมของแอปในโทรศัพท์เป้าหมายเพื่อให้เป้าหมายไม่ทราบว่ากำลังถูกตรวจสอบ

แอป Spyic ไม่ต้องการการเข้าถึงรูทบนโทรศัพท์เป้าหมายและตั้งค่าได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ใช้เพียงแค่ต้องสมัครสมาชิกกับแอป Spyic ดาวน์โหลดแอปลงในโทรศัพท์เป้าหมาย และเปิดโหมดซ่อนตัวเพื่อลบแอป Spyic ออกจากมุมมอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ Spyic สามารถตรวจสอบแทบทุกแอพบนอุปกรณ์เป้าหมายได้ แต่ไม่มีคุณสมบัติเดียวกันกับที่ XNSpy นำเสนอไว้: แอป Spyic ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ระยะไกลควบคุมโทรศัพท์เป้าหมายจากระยะไกล ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถล็อกหรือเช็คโทรศัพท์เป้าหมาย หรือเปิดใช้งานไมโครโฟนหรือกล้องได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์และตั้งค่าการแจ้งเตือนตามขอบเขตตำแหน่งได้

แอป Spyic เริ่มต้นที่ 99.99 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับโทรศัพท์ Android หรือ 129.99 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับ ไอโฟน ในการติดตั้ง Spyic บนไอโฟน ผู้ใช้จะต้องมีข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ iCloud ที่ใช้ในโทรศัพท์เป้าหมาย แอปสปายอิค ไม่ได้เสนอให้ทดลองใช้งานฟรี แต่มีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วันอีกด้วย

ราคาจำนวนอุปกรณ์
99.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับแอนดรอยด์, 129.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับไอโฟน1

ข้อดี

  • มีโหมดซ่อนตัว
  • การติดตามตำแหน่ง
  • ตรวจสอบแอปโซเชียลมีเดียทั้งหมด
  • รับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน

ข้อควรพิจารณา

  • มีราคาแพลนที่สูงสำหรับผู้ใช้งานไอโฟน

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ Spyic คลิก

5. Hoverwatch (โฮเวอร์ว้อช) – แอปนักสืบที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ

Hoverwatch เป็นแอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการโทร, ข้อความ SMS, ข้อความโซเชียล, ปฏิทิน และอื่นๆ แอปนี้ยังมีการติดตามตำแหน่งโทรศัพท์ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครองและนายจ้างส่วนใหญ่ แอป Hoverwatch ทำงานในโหมดซ่อนตัว ซึ่งหมายความว่าแอปไม่ปรากฏบนโทรศัพท์เป้าหมายเลย

สิ่งหนึ่งที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับแอป Hoverwatch คือมันสามารถบันทึกการโทรเข้าและโทรออกทั้งหมดบนโทรศัพท์เป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าการแจ้งเตือนและฟังการโทรแบบเรียลไทม์ แต่สามารถฟังในภายหลังหรือบันทึกไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บถาวร นี่เป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่อาจเหมาะสมที่จะบันทึกการโทรทั้งหมดระหว่างพนักงานและลูกค้า

แอป Hoverwatch คือตัวเลือกของเราในฐานะแอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ เพราะมันมีแผนที่รองรับอุปกรณ์หลายเครื่อง – จริงๆ แล้วมากถึง 25 เครื่อง ในราคา 499.95 ดอลล่าห์ต่อปี นายจ้างสามารถติดตั้งแอป Hoverwatch บนอุปกรณ์ไอโฟนและแอนดรอยด์ 25 เครื่อง และเข้าถึงฟีเจอร์การตรวจสอบทั้งหมดของแอปได้ แผนธุรกิจยังรวมถึงการเข้าถึงแอปแอนดรอยด์ ของ Hoverwatch สำหรับจอภาพ

สำหรับการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องเดียว Hoverwatch มีค่าใช้จ่าย 99.95 เหรียญต่อปี

ราคาจำนวนอุปกรณ์
99.95 ดอลล่าห์ต่อปี1

ข้อดี

  • ทำงานในโหมดซ่อนตัว
  • บันทึกการโทรทั้งหมดบนโทรศัพท์เป้าหมาย
  • แผนธุรกิจสูงสุด 25 เครื่อง
  • แอปแอนดรอยด์ สำหรับการตรวจสอบขณะเดินทาง

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีคุณสมบัติการควบคุมระยะไกล

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ โฮเวอร์ว้อช คลิก

6. XNSpy – ดีที่สุดสำหรับการควบคุมระยะไกลของโทรศัพท์เป้าหมาย

แอป XNSpy เป็นตัวเลือกของเราสำหรับแอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมระยะไกล และสำหรับอุปกรณ์ระบบ iOS รวมถึง Android ด้วย แอป XNSpy นั้นช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโทรศัพท์เป้าหมาย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ ไม่เพียงแต่การโทรเข้าและโทรออกและข้อความ SMS แต่ยังรวมถึงแอปข้อความโซเชียล, อินสตาแกรม, รายการปฏิทิน, รายชื่อติดต่อ, อีเมล และอื่นๆ

สิ่งหนึ่งที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับแอป XNSpy คือทำให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถส่งคำสั่งไปยังโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปได้ แอปสามารถเปิดใช้งานไมโครโฟนของโทรศัพท์เพื่อบันทึกเสียงรอบข้าง ส่งภาพหน้าจอจากโทรศัพท์ หรือแม้แต่ล็อกหรือล้างอุปกรณ์จากระยะไกล ฟังก์ชันหลังมีประโยชน์อย่างยิ่งหากโทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย

แอป XNSpy ยังมีคุณสมบัติการติดตามตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงฟังก์ชัน geofencing ที่มีประโยชน์ ด้วย geofencing ผู้ใช้สามารถรับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่โทรศัพท์เข้าหรือออกจากพื้นที่เฉพาะ วิธีนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการทราบว่าบุตรหลานของตนอยู่ที่ไหนหรืออยู่ห่างจากสถานที่บางแห่ง

แอป XNSpy มีค่าใช้จ่าย 49.99 ดอลล่าห์ต่อเดือนหรือ 119.88 ดอลล่าห์ต่อปี ผู้ใช้ใหม่สามารถทดลองใช้แอปได้ฟรีก่อนซื้อ

ราคาจำนวนอุปกรณ์
119.88 ดอลล่าห์ต่อปี1

ข้อดี

  • ติดตามแอปส่งข้อความโซเชียล
  • ล็อกหรือล้างอุปกรณ์จากระยะไกล
  • การติดตามตำแหน่งและการกำหนดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
  • ทดลองฟรี

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ XNspy คลิก

เปรียบเทียบแอปสอดแนมบนมือถือที่ดีที่สุด

ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าแอปสอดแนมโทรศัพท์ตัวใดดีที่สุดอยู่ใช่ไหม? เรามาตรวจสอบว่า แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุดทั้งหมดแบบตารางเปรียบเทียบแบบแอปต่อแอปได้จากในตารางสรุปด้านล่างนี้

แอปสอดแนมที่ดีที่สุดราคารับประกันคืนเงินจำนวนอุปกรณ์ประเภทของอุปกรณ์
uMobix179.88 ดอลล่าห์ต่อปี14 วัน1แอนดรอยด์,ไอโฟน
Cocospy99.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับแอนดรอยด์, 129.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับมือถือไอโฟน60 วัน1แอนดรอยด์,ไอโฟน
Spyic99.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับแอนดรอยด์, 129.99 ดอลล่าห์ต่อปีสำหรับไอโฟน60 วัน1แอนดรอยด์,ไอโฟน
Hoverwatch99.95 ดอลล่าห์ต่อปีไม่มี1แอนดรอยด์,ไอโฟน
XNSpy119.88 ดอลล่าห์ต่อปี10 วัน1แอนดรอยด์,ไอโฟน
mSpy139.92 ดอลล่าห์/ปี14 วัน1แอนดรอยด์,ไอโฟน

แอปสอดแนมติดตามมือถือ คืออะไร?

แอปสอดแนมติดตามโทรศัพท์เป็นแอปมือถือที่ออกแบบมาเพื่อให้การตรวจสอบระยะไกลของโทรศัพท์ที่ติดตั้ง แอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดให้การเข้าถึงบันทึกการโทร, ข้อความ SMS, ข้อมูลแอป, ประวัติเบราว์เซอร์, รูปภาพและวิดีโอบนอุปกรณ์และอีกมากมาย แอปสอดแนมติดตามโทรศัพท์บางแอปยังมีการควบคุมระยะไกลของอุปกรณ์เป้าหมาย ทำให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถล็อคโทรศัพท์หรือควบคุมกล้องหรือไมโครโฟนได้

ผู้ปกครองมักใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบการใช้งานแอปของบุตรหลานและการโต้ตอบออนไลน์ นายจ้างสามารถใช้โทรศัพท์เหล่านี้เพื่อตรวจสอบโทรศัพท์ของบริษัทและติดตามตำแหน่งของพนักงานในระหว่างวันทำงาน

แน่นอนว่ายังมีวิธีที่ผิดจรรยาบรรณในการใช้แอปติดตามสอดแนมโทรศัพท์ เช่น การรวบรวมข้อมูลโดยที่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการแอปสอดแนมโทรศัพท์ไม่สนับสนุนการใช้งานที่ผิดจรรยาบรรณเหล่านี้ และอาจไม่ถูกกฎหมายในบางพื้นที่

แอปสอดแนมโทรศัพท์มือถือทำงานอย่างไร?

แอปสอดแนมติดตามที่ดีที่สุดได้รับการติดตั้งบนมือถือไอโฟนและแอนดรอยด์ เป้าหมายและให้การเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดบนอุปกรณ์ เนื่องจากติดตั้งบนโทรศัพท์ พวกเขาจึงสามารถเข้าถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโทรศัพท์ได้ พวกเขาสามารถตรวจสอบประวัติการโทร บันทึกการโทร ดูข้อความ SMS และข้อความจากแอปโซเชียลมีเดีย และติดตามประวัติเบราว์เซอร์

ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อจากระยะไกลไปยังซอฟต์แวร์ควบคุม ซึ่งมีให้ทางออนไลน์หรือผ่านแอปมือถืออื่น ผู้ใช้ที่ทำการตรวจสอบสามารถใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมนี้เพื่อเข้าถึงข้อมูลจากโทรศัพท์เป้าหมาย

ที่สำคัญ แอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดหลายแห่งมีโหมดซ่อนตัว เมื่อใช้งานในโหมดซ่อนตัว ไอคอนแอปจะถูกลบออกจากหน้าจอหลักของโทรศัพท์เป้าหมาย และไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าแอปกำลังทำงานในพื้นหลัง ดังนั้น เจ้าของโทรศัพท์เป้าหมายจึงไม่จำเป็นต้องรู้ว่าโทรศัพท์ของตนถูกตรวจสอบ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส มักตรวจไม่พบแอปสอดแนม

เยี่ยมชมเว็ปไซต์เอ็มสปาย คลิก

ทำไมต้องใช้แอปติดตามสอดแนมบนมือถือ?

แอปสอดแนมโทรศัพท์มีประโยชน์หลายอย่าง – บางแอปมีจริยธรรม และบางแอปก็น่าสงสัยมากกว่า นี่คือสาเหตุหลักบางประการที่ทำให้ผู้คนใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์

การตรวจสอบโดยพ่อแม่หรือผู้ปกครอง

เหตุผลหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดและมีเจตนาดีในการใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์นั้นก็คือ การจับตาดูเด็ก ๆ แอปสอดแนมโทรศัพท์สามารถใช้เพื่อดูว่าเด็กกำลังกลั่นแกล้งผู้อื่น หรือถูกรังแกผ่านการส่งข้อความทางสังคมหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อติดตามตำแหน่งของเด็ก ดังนั้นผู้ปกครองจึงสามารถรู้ว่าลูก ๆ ของพวกเขาอยู่ที่ไหน

แอปสอดแนมโทรศัพท์สามารถใช้เพื่อตรวจสอบการใช้งานแอปได้อย่างง่ายดาย แอปเหล่านี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแอปที่เด็กใช้และเวลาที่พวกเขาใช้ไปกับโทรศัพท์ แอปบางตัวยังมีข้อจำกัดตามกำหนดเวลา ซึ่งสามารถใช้เพื่อล็อคโทรศัพท์ของเด็กในช่วงเวลาเรียนหรือตอนกลางคืน

ติดตามกิจกรรมการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน

นายจ้างจำนวนมากที่จัดหาโทรศัพท์ของบริษัทให้กับพนักงานของตนจะติดตั้งแอปสอดแนมโทรศัพท์ไว้ล่วงหน้าบนโทรศัพท์เหล่านั้น ซึ่งช่วยให้นายจ้างมั่นใจได้ว่าพนักงานใช้โทรศัพท์ที่ทำงานของตนสำหรับกิจกรรมที่ได้รับอนุมัติหรือที่เกี่ยวข้องกับงานเท่านั้น หรือเฉพาะในช่วงเวลาทำงานเท่านั้น แอปสอดแนมโทรศัพท์ยังสามารถใช้เพื่อบันทึกการสนทนาระหว่างพนักงานและลูกค้าโดยอัตโนมัติ หรือเพื่อบันทึกข้อความ SMS ของพนักงานทั้งหมด

สอดแนมติดตามคู่สมรส

วิธีหนึ่งที่มีจริยธรรมน้อยกว่าในการใช้แอปสอดแนมทางโทรศัพท์คือการสอดแนมคู่ครองหรือคู่สมรสที่อาจนอกใจ แอปสอดแนมโทรศัพท์สามารถใช้เพื่อตรวจสอบการโทรหรือข้อความของพวกเขา รวมถึงการสนทนาใดๆ ที่พวกเขาอาจมีกับคู่รักที่ต้องสงสัยว่าเป็นคู่รัก คุณสมบัติการติดตามตำแหน่งของแอปสอดแนมโทรศัพท์ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบว่าคู่ครองของพวกเขาพูดความจริงหรือไม่

คุณสามารถใช้แอปติดตามสอดแนมโดยไม่ต้องสัมผัสโทรศัพท์เป้าหมายได้หรือไม่?

แอปสอดแนมโทรศัพท์ส่วนใหญ่ต้องติดตั้งโดยตรงบนโทรศัพท์เป้าหมาย หมายความว่าผู้ใช้ต้องเข้าถึงโทรศัพท์เป้าหมายได้เป็นเวลาหลายนาที กรณีนี้มักเกิดขึ้นกับโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์: ไม่มีแอปสอดแนมที่ดีที่สุดสำหรับระบบแอนดรอยด์ หากไม่มีการเข้าถึงโทรศัพท์เป้าหมาย เนื่องจากจำเป็นต้องมีการเข้าถึงทางกายภาพของโทรศัพท์แอนดรอยด์ สำหรับการติดตั้งเสมอ

อย่างไรก็ตาม แอปสอดแนมบางแอปสามารถติดตั้งบนมือถือไอโฟน ได้โดยไม่ต้องมีการเข้าถึงทางกายภาพ นั่นต้องขอบคุณการสำรองข้อมูลของคลาวด์ ซึ่งมีการซิงค์แบบสองทางระหว่างคลาวด์กับตัวไอโฟนเอง

ในการติดตั้ง แอพติดตามแฟน google mapโดยไม่ต้องเข้าถึงโทรศัพท์เป้าหมาย ผู้ใช้ต้องมีข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบที่ใช้สำหรับการสำรองข้อมูลคลาวด์ บนโทรศัพท์เป้าหมาย ที่สำคัญ ผู้ใช้จะต้องสามารถป้อนรหัสการตรวจสอบสิทธิ์ที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยได้ โดยทั่วไปแล้วรหัสนี้จะถูกส่งไปยังโทรศัพท์เป้าหมาย ดังนั้นอาจจำเป็นต้องมีการเข้าถึงทางกายภาพไปยังโทรศัพท์เป้าหมาย

เมื่อติดตั้งแอปสอดแนมบนโทรศัพท์เป้าหมายแล้ว โทรศัพท์นั้นไม่จำเป็นต้องเข้าถึงร่างกายอีก

เยี่ยมชมเว็ปไซต์เอ็มสปาย คลิก

แอปสอดแนมบนมือถือปลอดภัยหรือไม่?

แอปสอดแนมโทรศัพท์ปลอดภัยต่อการใช้งาน เฉพาะผู้ที่ซื้อแอปสอดแนมและมีข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบเพื่อใช้แอปเท่านั้นที่สามารถดูข้อมูลจากโทรศัพท์เป้าหมายได้ ข้อมูลนี้มักจะส่งในรูปแบบที่เข้ารหัสและไม่สามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลอื่น แม้แต่เจ้าของโทรศัพท์เป้าหมายก็ไม่เห็นข้อมูลที่ส่งไปยังจอภาพ เช่น ภาพหน้าจอหรือการบันทึกเสียง

แอปสอดแนมโทรศัพท์ฟรีเทียบกับแอปสอดแนม โทรศัพท์แบบชำระเงิน

มีแอปติดตามสอดแนมโทรศัพท์ฟรีมากมายนอกเหนือจากแอปที่ต้องซื้อ ตัวเลือกแอปสอดแนมโทรศัพท์ฟรีที่ดีที่สุดนำเสนอคุณสมบัติหลักของแอปสอดแนมโทรศัพท์ เช่น การเข้าถึงบันทึกการโทรและข้อความ SMS หลายแห่งยังมีคุณลักษณะการติดตามตำแหน่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม แอปสอดแนมโทรศัพท์ฟรีนั้นมีข้อจำกัด แอปสอดแนมโทรศัพท์ฟรีส่วนใหญ่ไม่มีการเข้าถึงแพลตฟอร์มการส่งข้อความโซเชียลมีเดียเช่น Facebook Messenger หรือ WhatsApp ซึ่งเป็นที่ที่คนส่วนใหญ่สื่อสารด้วยข้อความ แอปเหล่านี้อาจไม่มีการบันทึกการโทรอัตโนมัติหรือความสามารถในการควบคุมกล้องหรือไมโครโฟนของโทรศัพท์จากระยะไกล

ดังนั้น ไม่ว่าแอปสอดแนมโทรศัพท์ฟรีที่ดีที่สุดจะทำงานได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ แอปฟรีอาจเพียงพอสำหรับการตรวจสอบแบบหลวม ๆ แต่แน่นอนว่าไม่มีคุณสมบัติการตรวจสอบที่กว้างเท่ากับแอปสอดแนมโทรศัพท์แบบชำระเงิน สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการออกแบบ แอพติดตามแฟน google map ด้วยฟังก์ชันที่กำหนดเองมากขึ้น คุณสามารถสร้างแอปโดยใช้เครื่องมือสร้างแอปที่ดีที่สุดได้

แอปสอดแนมโทรศัพท์ถูกกฎหมายหรือไม่?

แอปสอดแนมโทรศัพท์ถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สามารถใช้ในลักษณะที่ผิดกฎหมายได้

ในประเทศไทย การใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์เป็นเรื่องถูกกฎหมายโดยได้รับอนุญาตจากผู้อื่น อย่างไรก็ตาม การติดตั้งแอปสอดแนมโทรศัพท์บนโทรศัพท์ของใครบางคนโดยที่พวกเขาไม่รู้ ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายโดยส่วนใหญ่

กฎหมายเกี่ยวกับการสอดแนมที่ผิดกฎหมายยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างละเอียด และอาจมีข้อยกเว้นบางประการ ตัวอย่างเช่น หากนายจ้างจัดหาโทรศัพท์ให้กับพนักงานที่บริษัทจ่ายให้ การใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์บนโทรศัพท์เหล่านั้นก็อาจจะถูกกฎหมายแม้ว่าจะไม่ได้รับการยินยอมจากพนักงานก็ตาม เนื่องจากบริษัทเป็นเจ้าของโทรศัพท์นั้น

เช่นเดียวกับในกรณีที่บุคคลหนึ่งซื้อโทรศัพท์ของคู่สมรสและชำระค่าโทรศัพท์ ในกรณีเหล่านี้ การใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากเป้าหมายอาจเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กฎหมายยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้

ผู้ปกครองสามารถใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์บนโทรศัพท์ของบุตรหลานได้อย่างถูกกฎหมาย โดยต้องได้รับความยินยอมหรือไม่ได้รับความยินยอม อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขนี้ใช้ได้จนกว่าเด็กจะอายุครบ 18 ปีและกลายเป็นผู้ใหญ่อย่างถูกกฎหมาย เมื่อมีคนอายุ 18 ปีขึ้นไป พวกเขาต้องยินยอมให้มีการเฝ้าติดตาม แม้ว่าผู้ปกครองจะทำการตรวจสอบก็ตาม

เยี่ยมชมเว็ปไซต์เอ็มสปาย คลิก

วิธีใช้แอปสอดแนมโทรศัพท์

พร้อมที่จะเริ่มต้นกับแอปสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในปี 2023 แล้วหรือยัง? เราจะแนะนำผู้อ่านเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย หรือแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย ซึ่งเป็น แอพติดตามแฟน google map ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับไอโฟนและแอนดรอยด์ ที่เราตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 1: ลงชื่อสมัครใช้ XNSpy

ในการเริ่มต้นใช้งานแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย ผู้ใช้ต้องลงชื่อสมัครใช้แผนชำระเงิน ไปที่เว็บไซต์ของแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย แล้วคลิกลองเลย ป้อนอีเมลและเลือกว่าจะกำหนดเป้าหมายอุปกรณ์ไอโฟนและแอนดรอยด์ จากนั้นเลือกแผนรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี แล้วชำระเงิน ซอฟต์แวร์ของแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย จะถูกส่งไปยังอีเมลที่ลงทะเบียนหลังจากชำระเงิน

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ XNspy คลิก

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้งแอป XNSpy บนโทรศัพท์เป้าหมาย

ขั้นตอนถัดไป ผู้ใช้ต้องติดตั้งแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย บนโทรศัพท์เป้าหมาย กระบวนการนี้แตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับอุปกรณ์ แอนดรอยด์และไอโฟน

สำหรับอุปกรณ์แอนดรอยด์ ผู้ใช้ต้องมีการเข้าถึงอุปกรณ์เป้าหมายทางกายภาพ พวกเขาต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ของแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย ลงในโทรศัพท์ จากนั้นเข้าสู่ระบบโดยใช้ข้อมูลประจำตัวแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย เพื่อเปิดใช้งานแอป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ให้สิทธิ์ในแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย ทั้งหมดที่ร้องขอ ไม่เช่นนั้นแอปจะทำงานไม่ถูกต้อง

สำหรับผู้ใช้งายไอโฟน ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีการเข้าถึงทางกายภาพไปยังอุปกรณ์เป้าหมาย แต่พวกเขาต้องการข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบที่ใช้สำหรับการสำรองข้อมูลคลาวด์ บนไอโฟน เป้าหมาย พวกเขาต้องมีสิทธิ์เข้าถึงรหัสการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยด้วยหากเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยในคลาวด์ เมื่ออยู่ใน iCloud ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย และแอปจะซิงค์กับโทรศัพท์

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบ

เมื่อติดตั้งแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย แล้ว ผู้ใช้สามารถเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์เป้าหมายได้ แดชบอร์ดการตรวจสอบมีให้ทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของแอปเอ็กซ์เอ็นสปาย ผู้ใช้ต้องเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและเลือกอุปกรณ์ที่พวกเขากำลังตรวจสอบ

เยี่ยมชมเว็ปไซต์ XNspy คลิก

สรุป: แอปสอดแนมที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 คืออะไร?

แอปสอดแนมที่ดีที่สุดทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบอุปกรณ์ไอโฟน หรือแอนดรอยด์ แอปเหล่านี้มีประโยชน์มากในการติดตามคู่สมรส เฝ้าติดตามลูกๆ หรือติดตามโทรศัพท์ที่ทำงานของพนักงาน

จากการรีวิวของเรา mspy เป็นแอปติดตามสอดแนมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับระบบ iOS และ Android ในปี 2023 ให้การเข้าถึงแทบทุกการสื่อสารและแอปบนโทรศัพท์เป้าหมาย แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเมื่อเทียบกับแอปคู่แข่ง แต่ด้วยความเสถียรของหน้าจอที่สามารถติดตามตำแหน่งและควบคุมเครื่องมือสื่อสารอีกเครื่องได้จากระยะไกล แถมทั้งยังมีการเข้าถึงไมโครโฟน หรือกล้องจากเครื่องเป้าหมายนั้น ทำให้การสอดแนมติดตามคู่สมรสที่อาจนอกใจนั้น หรือบุตรหลานของท่านที่ถูกลักพาตัว หรือควบคุมการใช้งานแอปที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายและราบรื่น ลงทะเบียนวันนี้เพื่อเริ่มตรวจสอบโทรศัพท์ ไอโฟน หรือแอนดรอยด์!

Categories
Spy Spy Software ซอฟต์แวร์และโซเชียล

แอพติดตามแฟน 2023 เปรียบเทียบแอป spy ที่ดีที่สุด[แนะนำ!]

แนะนำแอพติดตามแฟนตัวท็อปบนโทรศัพท์ แอพสอดแนมมือถือ ไปรอบ ๆ และขโมยข้อมูลจากโทรศัพท์ของใครบางคน แต่ในความเป็นจริงแอปเหล่านี้มีฟังก์ชันที่มีประโยชน์มากมาย เช่น การตรวจสอบการใช้งานสมาร์ทโฟนของเด็ก การติดตามโทรศัพท์ที่สูญหายหรือถูกขโมย บันทึกการโทรและข้อความ และอื่น ๆ

ในคู่มือนี้มารีวิว 6 แอพติดตามแฟนที่ดีที่สุดและอธิบายทุกอย่างที่ผู้ใช้จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการใช้แอปติดตามแฟนบนอุปกรณ์ iOS และ Android

6 แอพติดตามแฟนที่ดีที่สุดปี 2023

เราได้ทำการกดสอบที่แอปที่ฟรีและเสียเงินเพื่อหาว่าเว็บไหนที่ดีที่สุดสำหรับ Android และ iOS นี่คือ 6 แอพติดตามแฟนที่ดีที่สุดในปี 2023

  1. mSpy – ทางเลือกที่คุ้มค่าปี 2023
  2. uMobix – แอปติดตามแฟนที่ดีที่สุดสำหรับ Android ในปี 2023
  3. Cocospy – แอพติดตามแฟนที่ดีและใช้งานง่ายที่สุด
  4. Spyic – แอปที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมและติดตามความเคลื่อนไหว
  5. Hoverwatch – แอปที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ
  6. XNSpy – แอปติดตามแฟนไม่ให้รู้ตัวที่ดีที่สุดบนมือถือ

เข้าชม mSpy

รีวิวแอพติดตามแฟนระดับท็อปในปี 2023

คุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในปี 2023 หรือไม่? เราได้รวบรวมรีวิวอย่างละเอียดที่เกี่ยวกับแอพสอดแนมมือถือ เอาไว้เช็คมือถือ แอบดูโทรศัพท์ของแฟน ติดตามแฟน โปรแกรมจับผิดแฟนทางโทรศัพท์ที่ดีที่สุด 10 แอป เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าแอปไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด

1. mSpy – แอปติดตามการสนทนาบนโซเชียลมีเดียที่ดีที่สุดในปี 2023

mSpy เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Android และ iPhone ประกอบด้วยฟีเจอร์การติดตามที่หลากหลายทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดดู เช็คมือถือ แอบดูโทรศัพท์ แอปเกือบทั้งหมดบนโทรศัพท์ของแฟน หรือสามีได้ ซึ่งรวมถึงแอปส่งข้อความโซเชียล เช่น Facebook, WhatsApp และ Telegram แอปที่เน้นรูปภาพและวิดีโอ เช่น Instagram, Snapchat และ Tiktok และอื่น ๆ อีกมากมาย แบบที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

อีกอย่างที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับแอปนี้คือ ฟีเจอร์บันทึกหน้าจอ โดยมันจะแสดงภาพหน้าจอบ่อย ๆ จากโทรศัพท์เป้าหมาย โดยปกติแล้วทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลสดว่าเป้าหมายกำลังทำอะไรอยู่บนโทรศัพท์ของพวกเขา โปรแกรมบันทึกหน้าจอทำงานได้แม้ในแอปที่ไม่รองรับการสอดแนมโดย mSpy โดยตรง

mSpy เข้าใจถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนแม้ในขณะที่ทำการสอดแนมอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังผู้ใช้ปลายทางด้วยการเข้ารหัสระดับธนาคาร แอปจะอัปเดตโดยอัตโนมัติทุกๆ 5 นาที หากมีปัญหาใด ๆ ทีมสนับสนุนของ mSpy พร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

mSpy มีค่าใช้จ่าย 1700 บาทต่อเดือนหรือ 4760 บาทต่อปีสำหรับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android แผน mSpy ทั้งหมดมาพร้อมกับการรับประกันคืนเงิน 14 วันสำหรับผู้ใช้ที่ไม่พอใจกับการใช้งานแอปนี้

ราคาจำนวนเครื่องโทรศัพท์
4760 บาทต่อปี1

ข้อดี

  • ติดตามแอปโซเชียลได้หลากหลาย
  • แคปหน้าจอได้หลายครั้งจากโทรศัพท์เป้าหมาย
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  • ส่งข้อมูลด้วยการเข้ารหัส

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถควบคุมระยะไกลได้

เข้าชม mSpy

2. uMobix – แอปติดตามแฟนและสามีที่โด่งดังในเรื่องของการหาไฟล์ที่ถูกลบ

uMobix เป็นแอพติดตามแฟนโปรเเกรมจับผิดแฟนทางโทรศัพท์ท็อปชั้นนำที่ดีที่สุดในปี 2023 จากรีวิวของเรา ด้วยที่แอปนี้ผู้ใช้งานสามารถเฝ้าติดตามทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโทรศัพท์เป้าหมายได้ ผู้ใช้ระยะไกลสามารถสอดแนม เช็คมือถือในส่วนของบันทึกการโทร, ข้อความ, แอปส่งข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ สิ่งที่สุดยอดเป็นพิเศษเกี่ยวกับ uMobix คือผู้ใช้ระยะไกลสามารถค้นหาไฟล์ที่ถูกลบได้ เช่น บันทึกการโทรและข้อความ ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลที่ซ่อนไว้ที่แอปนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้

อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ uMobix คือมันช่วยให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถควบคุมบางอย่างของโทรศัพท์เป้าหมายได้จากระยะไกล ซึ่งรวมถึงการเปิดกล้องและไมโครโฟน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหนหรือฟังการสนทนา เรียกได้ว่าเป็นการใช้แอพติดตามแฟน google map แบบรู้ตำแหน่ง GPS ได้เลย! นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถบล็อกแอปเฉพาะ จำกัดเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ต ปิดการรับส่งข้อความ และ อื่นๆ เป็นหนึ่งแอปติดตามแฟนไม่ให้รู้ตัวที่ดีที่สุด

แน่นอนว่า uMobix ทำให้ง่ายต่อการกำหนดว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหนในโลกนี้ตอนไหนก็ได้ แอปนี้รวมการติดตามด้วย GPS สำหรับทั้งอุปกรณ์ iOS และ Android อีกด้วย

ค่าธรรมเนียมของ uMobix เริ่มต้นที่ 510 บาท ต่อเดือนเมื่อผู้ใช้สมัครใช้งานตลอดทั้งปี สำหรับเดือนเดียว ราคาอยู่ที่ 1020 บาท

ราคาจำนวนเครื่องโทรศัพท์
6125 บาท/ปี1

ข้อดี

  • ดูไฟล์ที่ถูกลบได้
  • สามารถดูตำแหน่งของเป้าหมายได้
  • สามารถจำกัดการเข้าถึงแอปและเว็ปไซต์จากทางไกลได้
  • สามารถทำการเปิดกล้องและลำโพงได้จากระยะไกล

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถใช้งานได้ฟรี

เเข้าชม uMobixy

3. Cocospy – แอพติดตามแฟนที่ดีและใช้งานง่ายที่สุด

Cocospy เป็นหนึ่งในแอพสอดแนม เช็คมือถือแฟนที่ง่ายที่สุดในการใช้งานบนอุปกรณ์ iPhone และ Android บน Android สิ่งที่ผู้ใช้จะต้องทำเพื่อเริ่มการตรวจสอบคือติดตั้งแอปจาก Google Play จากนั้นลงชื่อเข้าใช้และเปิดใช้งานโหมดซ่อนตัว ขั้นตอนทั้งหมดในการเริ่มต้นใช้งาน Cocospy ใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที

กระบวนการเบน iPhone เกือบจะเหมือนกันความแตกต่างเดียวคือผู้ใช้ต้องมีการเข้าสู่ระบบ iCloud ที่ใช้บนโทรศัพท์ อย่างไรก็ตามนี่หมายความว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้การเข้าถึงทางกายภาพของอุปกรณ์ที่ต้องการสอดแนม นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับการซ่อนตัว แม้ว่าผู้ใช้ควรจำไว้ว่าพวกเขาต้องการการอนุญาตจากผู้ใหญ่ที่พวกเขาต้องการสอดแนมก่อน

เมื่อติดตั้งสำเร็จแล้ว Cocospy จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการเช็คข้อมูลเกือบทุกอย่างบนมือถือของเป้าหมาย ผู้ใช้สามารถติดตามการโทรและข้อความ SMS แอปโซเชียลมีเดีย ประวัติการท่องเว็บ การกดแป้นพิมพ์ ตำแหน่งของโทรศัพท์ และอื่น ๆ ทั้งนี้ Cocospy ยังสนับสนุนการแจ้งเตือนตามขอบเขตตำแหน่งสำหรับผู้ปกครองหรือนายจ้างที่ต้องการติดตามบุตรหลานหรือพนักงานของตน แอปนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งและมีข้อมูลน้อยมากที่ไม่สามารถดึงข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเป้าหมายได้

ฟีเจอร์เดียวที่ไม่มีใน Cocospy คือไม่สามารถเปิดใช้งานไมโครโฟนหรือกล้องจากระยะไกลได้ อย่างไรก็ตามผู้ใช้ยังคงสามารถเข้าถึงวิดีโอที่บันทึกไว้ การบันทึกการโทร และมัลติมีเดียอื่น ๆ บนอุปกรณ์ของเป้าหมายได้

Cocospy เริ่มต้นที่ 3400 บาทต่อปีสำหรับอุปกรณ์ Android 1 เครื่องหรือ 4420 บาทต่อปีสำหรับ iPhone 1 เครื่อง แพลตฟอร์มนี้ยังมีแผนสำหรับครอบครัวสำหรับอุปกรณ์ Android 3 เครื่องในราคา 6800 บาทต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Cocospy ยอมรับ คริปโต เช่น Bitcoin สำหรับการชำระเงินอีกด้วย

ราคาจำนวนเครื่องโทรศัพท์
3400 บาทต่อปีสำหรับอุปกรณ์ Android และ 4420 บาทต่อปีสำหรับ iPhone1

ข้อดี

  • ง่ายต่อการติดตั้ง
  • รองรับการติดตามตำแหน่งและแจ้งเตือน
  • ติดตามการเคลื่อนไหวของการกดแป้นพิมพ์
  • ถ้าไม่พอใจบริการมีการันตีคืนเงินภายใน 60 วัน

ข้อเสีย

  • มีแผนการชำระเงินสำหรับครอบครัวที่ใช้ Android เท่านั้น

เข้าชม Cocospy

4. Spyic – แอพติดตามแฟนที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมและติดตามความเคลื่อนไหว

Spyic เป็นแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ที่ครอบคลุมซึ่งสามารถเช็คมือถือของอีกฝ่ายได้ทั้งหมด ด้วยแอปนี้ผู้ใช้สามารถสอดแนมติดตามการโทร ข้อความ SMS แอปโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ปฏิทิน ตำแหน่งที่ตั้ง รูปภาพและวิดีโอ กิจกรรมเบราว์เซอร์และอื่น ๆ โดย Spyic ยังมีโหมดซ่อนตัวซึ่งซ่อนกิจกรรมของแอปในโทรศัพท์เป้าหมายเพื่อไม่ให้เป้าหมายรู้ว่ากำลังถูกติดตามอยู่

Spyic ไม่ต้องการการเข้าถึงในเชิงลึกบนโทรศัพท์เป้าหมายและการตั้งค่าก็ทำได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้เพียงแค่ต้องสมัครสมาชิก Spyic ดาวน์โหลดแอปลงในโทรศัพท์เป้าหมาย และเปิดโหมดซ่อนตัวเพื่อลบแอป Spyic ออกจากมุมมอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ Spyic สามารถตรวจสอบแทบทุกแอปบนอุปกรณ์เป้าหมาย แต่มันไม่มีฟีเจอร์หนึ่งที่ XNSpy นำเสนอ คือ Spyic ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ลควบคุมโทรศัพท์เป้าหมายจากระยะไกล นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถล็อกหรือเช็ดโทรศัพท์เป้าหมาย หรือเปิดใช้งานไมโครโฟนหรือกล้องได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตามยังสามารถติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์และตั้งค่าการแจ้งเตือนตามขอบเขตตำแหน่งได้อยู่

Spyic เริ่มต้นที่ 3400 บาทต่อปีสำหรับโทรศัพท์ Android หรือ 4420 บาทต่อปีสำหรับ iPhone ในการติดตั้ง Spyic บน iPhone ผู้ใช้ต้องมีข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบ iCloud ที่ใช้ในโทรศัพท์เป้าหมาย โดย Spyic ไม่ได้เสนอการให้ทดลองใช้งานฟรี แต่มีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน

ราคาจำนวนเครื่องโทรศัพท์
3400 บาทต่อปีสำหรับอุปกรณ์ Android และ 4420 บาทต่อปีสำหรับ iPhone1

ข้อดี

  • มีโหมดซ่อนตัว
  • ติดตามตำเเหน่งที่ตั้งได้
  • ติดตามแอปโซเชียลมีเดียทั้งหมดได้
  • มีการรับประกันคืนเงินภายใน 60 วัน

ข้อเสีย

  • มีค่าใช้บริการสูงสำหรับ iPhones

เข้าชม Spyic

5. Hoverwatch – แอป spy ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ

Hoverwatch เป็นแอป spy สอดแนมบนมือถือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการโทร ข้อความ SMS ข้อความบนโซเชียล ปฏิทิน และอื่น ๆ และแอปนี้ยังมีการติดตามตำแหน่งซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครองและนายจ้างส่วนใหญ่ Hoverwatch ทำงานในโหมดซ่อนตัวได้ซึ่งนั่นหมายความว่าแอปจะไม่ปรากฏบนโทรศัพท์เป้าหมายเลย

สิ่งหนึ่งที่เราชอบมากที่สุดเกี่ยวกับ Hoverwatch คือมันสามารถบันทึกการโทรเข้าและโทรออกทั้งหมดบนโทรศัพท์เป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าการแจ้งเตือนและฟังการโทรแบบเรียลไทม์ แต่สามารถฟังย้อนหลังหรือบันทึกไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บถาวรได้ นี่เป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่อาจเหมาะที่จะบันทึกการโทรทั้งหมดระหว่างพนักงานและลูกค้า

Hoverwatch คือตัวเลือกของเราในฐานะแอปสายลับโทรศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ เพราะมันมีแผนที่รองรับอุปกรณ์หลายเครื่อง – จริงๆ แล้วมากถึง 25 เครื่อง ในราคา 17000 บาท ต่อปี นายจ้างสามารถติดตั้ง Hoverwatch บนอุปกรณ์ iPhone และ Android 25 เครื่อง และเข้าถึงฟีเจอร์การตรวจสอบทั้งหมดของแอปได้ แผนธุรกิจยังรวมถึงการเข้าถึงแอป Android ของ Hoverwatch ได้

สำหรับการติดตามอุปกรณ์เครื่องเดียว Hoverwatch มีค่าใช้จ่าย 3400 บาทต่อปี

ราคาจำนวนเครื่องโทรศัพท์
3400 บาท ต่อปี1

ข้อดี

  • มีโหมดซ่อนตัว
  • บันทึกการสนทนาทั้งหมดของเป้าหมาย
  • แผนสำหรับธุรกิจสามารถใช้งานได้ถึง 25 เครื่อง
  • มีแอปพลิเคชัน Android ที่สามารถติดตามได้ตลอดเวลา

ข้อเสีย

  • ไม่มีฟีเจอร์ควบคุมระยะไกล

เข้าชม Hoverwatch

6. XNSpy – แอปติดตามแฟนที่ซ่อนตัวได้ดีดีที่สุดบนมือถือ

XNSpy เป็นตัวเลือกของเราสำหรับแอปติดตามแฟนไม่ให้รู้ตัวที่ดีที่สุดบนมือถือสำหรับการควบคุมระยะไกลสำหรับอุปกรณ์ทั้ง iOS และ Android ด้วย XNSpy ผู้ใช้สามารถสอดแนม เช็คมือถือได้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโทรศัพท์ของเป้าหมายได้ ซึ่งรวมถึงการติดตามไม่ว่าจะเป็นสายเรียกเข้าและโทรออกและข้อความ SMS และรวมไปถึงแอปข้อความโซเชียล Instagram รายการปฏิทิน รายชื่อติดต่อ อีเมล และอื่น ๆ

สิ่งที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับ XNSpy คือมันทำให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถส่งคำสั่งไปยังโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปได้ โดยแอปสามารถเปิดใช้งานไมโครโฟนของโทรศัพท์เป้าหมายเพื่อบันทึกเสียงรอบข้าง ส่งภาพหน้าจอจากโทรศัพท์ หรือแม้แต่ล็อกหรือล้างอุปกรณ์จากระยะไกล ฟังก์ชันหลังมีประโยชน์อย่างยิ่งหากโทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย

XNSpy ยังมีคุณสมบัติการติดตามตำแหน่งซึ่งรวมถึงฟังก์ชัน geofencing ที่มีประโยชน์ ด้วย geofencing ผู้ใช้สามารถรับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่โทรศัพท์เข้าหรือออกจากพื้นที่กำหนดไว้ มันมีประโยชน์มากสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการทราบว่าบุตรหลานอยู่ที่ไหนหรืออยู่ห่างจากสถานที่บางแห่งหรือไม่

XNSpy มีค่าใช้จ่าย 1700 บาทต่อเดือนหรือ 4080 บาทต่อปี ผู้ใช้ใหม่สามารถทดลองใช้แอปได้ฟรีก่อนซื้อ ถือว่าเป็นโปรแกรมจับผิดแฟนฟรีที่ทดลองใช้ก่อนจ่ายเงินได้

ราคาจำนวนเครื่องโทรศัพท์
4080 บาทต่อปี1

ข้อดี

  • สามารถติดตามการส่งข้อความบนโซเชียลมีเดียได้
  • สามารถล็อคและลบข้อมูลจากระยะไกลได้
  • สามารถติดตามตำแหน่งได้และ geofencing
  • ทดลองใช้งานฟรี

ข้อเสีย

  • ไม่มีโหมดใช้งานฟรี

เข้าชม XNSpy

เปรียบเทียบแอปสายลับที่ดีที่สุด

แอปสายลับที่ดีที่สุดราคาการันตีเงินคืนจำนวนอุปกรณ์ประเภทของอุปกรณ์
uMobix6125 บาท/ปี14 วัน1Android, iPhone
Cocospy3400 บาทต่อปีสำหรับอุปกรณ์ Android และ 4420 บาทต่อปีสำหรับ iPhone60 วัน1Android, iPhone
Spyic3400 บาทต่อปีสำหรับอุปกรณ์ Android และ 4420 บาทต่อปีสำหรับ iPhone60 วัน1Android, iPhone
Hoverwatch3400 บาท ต่อปีไม่มี1Android, iPhone
XNSpy4080 บาทต่อปีไม่มี1Android, iPhone
mSpy4760 บาทต่อปี14 วัน1Android, iPhone

แอพติดตามแฟนคืออะไร?

แอพสายลับบนโทรศัพท์เป็นแอปบนมือถือที่ออกแบบมาเพื่อทำการติดตามระยะไกลของโทรศัพท์เป้าหมาย โดยให้การเข้าถึงและบันทึก การโทร ข้อความ SMS ข้อมูลแอป ประวัติเบราว์เซอร์ รูปภาพและวิดีโอบนอุปกรณ์และอีกมากมาย แอพสายลับบนโทรศัพท์บางแอพยังมีการควบคุมระยะไกลของอุปกรณ์เป้าหมาย ทำให้ผู้ใช้ระยะไกลสามารถล็อคโทรศัพท์หรือควบคุมกล้องหรือไมโครโฟนได้

ผู้ปกครองมักใช้แอปนี้เพื่อตรวจสอบการใช้งานแอปของบุตรหลานและการสนทนาออนไลน์ นายจ้างสามารถใช้แอปบนโทรศัพท์เหล่านี้เพื่อตรวจสอบโทรศัพท์ของบริษัทและติดตามตำแหน่งของพนักงานในระหว่างวันทำงาน

แน่นอนว่ายังมีวิธีที่ผิดจรรยาบรรณในการใช้แอพติดตามแฟนเหล่านี้ เช่น การรวบรวมข้อมูลโดยที่เจ้าของโทรศัพท์ไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการแอปเหล่านี้ไม่สนับสนุนการใช้งานที่ผิดจรรยาบรรณทุกรูปแบบ และที่สำคัญแอปเหล่านี้อาจะไม่ถูกกฎหมายในบางรัประเทศ

แอพติดตามแฟนใช้ยังไง?

แอพสายลับที่ดีที่สุดได้รับการติดตั้งบน iPhone หรืออุปกรณ์ Android เป้าหมายและให้การเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดบนอุปกรณ์นั้น ๆ เนื่องจากการติดตั้งบนโทรศัพท์ของเป้าหมายจึงสามารถเข้าถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโทรศัพท์ได้ พวกเขาสามารถตรวจสอบประวัติการโทร บันทึกการโทร ดูข้อความ SMS และข้อความจากแอปโซเชียลมีเดีย และติดตามประวัติเบราว์เซอร์ได้

ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อจากระยะไกลไปยังซอฟต์แวร์ควบคุม ซึ่งมีให้ทางออนไลน์หรือผ่านแอปมือถือ ผู้ใช้ที่ทำการติดตามสามารถใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมนี้เพื่อเข้าถึงข้อมูลจากโทรศัพท์เป้าหมายได้

ที่สำคัญคือแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ที่ดีที่สุดหลายแห่งมีโหมดซ่อนตัว เมื่อใช้งานในโหมดซ่อนตัว ไอคอนแอปจะถูกลบออกจากหน้าจอหลักของโทรศัพท์เป้าหมาย และไม่มีสัญญาณใด ๆ ของแอปในขณะที่กำลังทำงานในพื้นหลัง ดังนั้นเจ้าของโทรศัพท์เป้าหมายจะไม่รู้ว่าโทรศัพท์ของตนถูกติดตามอยู่ และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสมักตรวจไม่พบแอพติดตามแฟนเหล่านี้

เข้าชม mSpy

ทำไมถึงต้องใช้แอพติดตามแฟน?

แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์มีประโยชน์หลายอย่าง บางแอปมีจริยธรรม และบางแอปก็มีความน่าสงสัยมากกว่า นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้คนใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์

การติดตามโดยผู้ปกครอง

เหตุผลหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดและมีเจตนาดีในการใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์คือการจับตาดูบุตรหลาย โดยแอปเหล่านี้สามารถใช้เพื่อดูว่าเด็กกำลังกลั่นแกล้งผู้อื่นหรือถูกรังแกหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อติดตามตำแหน่งของเด็กได้อีกด้วย ดังนั้นผู้ปกครองจะสามารถรู้ได้ว่าลูก ๆ ของพวกเขาอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่

แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์สามารถใช้เพื่อตรวจสอบการใช้งานแอปได้อย่างง่ายดาย แอปเหล่านี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแอปที่เด็กใช้และเวลาที่พวกเขาใช้ โดยแอปบางตัวยังมีข้อจำกัดตามกำหนดเวลา ซึ่งสามารถใช้เพื่อล็อคโทรศัพท์ของเด็กในช่วงเวลาเรียนหรือตอนกลางคืนได้

การติดตามกิจกรรมของพนักงาน

นายจ้างหลายรายที่จัดหาโทรศัพท์ของบริษัทให้กับพนักงานของตน ติดตั้งแอปสอดแนมโทรศัพท์ไว้ล่วงหน้าบนโทรศัพท์เหล่านั้น ซึ่งช่วยให้นายจ้างมั่นใจได้ว่าพนักงานใช้โทรศัพท์ที่ทำงานของตนสำหรับกิจกรรมที่ได้รับอนุมัติหรือที่เกี่ยวข้องกับงานเท่านั้น หรือเฉพาะในช่วงเวลาทำงานเท่านั้น แอปสอดแนมโทรศัพท์ยังสามารถใช้เพื่อบันทึกการสนทนาระหว่างพนักงานและลูกค้าโดยอัตโนมัติ หรือเพื่อบันทึกข้อความ SMS ของพนักงานทั้งหมด

สอดแนมคู่สมรส

เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีจริยธรรมน้อยในการใช้แอพติดตามแฟนทางโทรศัพท์คือการติดตามคู่ครองหรือคู่สมรสที่อาจจะนอกใจ แอปติดตามแฟนไม่ให้รู้ตัวบนโทรศัพท์นี้สามารถใช้เพื่อตรวจสอบการโทรหรือข้อความของพวกเขา รวมถึงการสนทนาทั้งหมดที่พวกเขาอาจจะมีกับคนที่น่าสงสัยว่าเป็นมือที่สาม ฟีเจอร์การติดตามตำแหน่งเพื่อจับผิดแฟนทางโทรศัพท์ยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบว่าเพื่อนของพวกเขาพูดความจริงหรือไม่

คุณสามารติดตั้งแอพติดตามแฟนโดยไม่ต้องจับโทรศัพท์ได้หรือไม่?

แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ส่วนใหญ่จะต้องทำการติดตั้งโดยตรงบนโทรศัพท์เป้าหมาย นั่นหมายความว่าผู้ใช้ต้องเข้าถึงโทรศัพท์เป้าหมายได้เป็นเวลาประมาณนึง กรณีนี้มักเกิดขึ้นกับโทรศัพท์ Android ที่ไม่มีแอปติดตามแฟนที่ดีที่สุดสำหรับ Android หากไม่มีการเข้าถึงโทรศัพท์เป้าหมาย เนื่องจากมันจำเป็นที่จะต้องมีการเข้าถึงเครื่องโทรศัพท์ Android ในการติดตั้งเสมอ

อย่างไรก็ตามแอพติดตามแฟนบางแอปสามารถติดตั้งบน iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการเข้าถึงเครื่องโทรศัพย์ นั่นต้องขอบคุณข้อมูลสำรองของ iCloud ซึ่งมีการซิงค์แบบสองทางระหว่าง Cloud กับ iPhone

ในการติดตั้งแอพติดตามแฟนโดยไม่ต้องเข้าถึงโทรศัพท์เป้าหมาย ผู้ใช้ต้องมีข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบที่ใช้สำหรับการสำรองข้อมูล iCloud บนโทรศัพท์เป้าหมาย ที่สำคัญผู้ใช้จะต้องสามารถป้อนรหัสการตรวจสอบสิทธิ์ที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยได้ โดยทั่วไปแล้วรหัสนี้จะถูกส่งไปยังโทรศัพท์เป้าหมาย ดังนั้นอาจจะจำเป็นต้องมีการเข้าถึงเครื่องโทรศัพท์เป้าหมายแต่ใช้เวลาไม่นาน

เมื่อติดตั้งแอพติดตามแฟนจับผิดแฟนทางโทรศัพท์ของเป้าหมายแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องจับโทรศัพท์เครื่องนั้นอีกเลย

แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ปลอดภัยหรือไม่?

แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ปลอดภัยต่อการใช้งาน เฉพาะผู้ที่ซื้อแอพติดตามแฟนและมีข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบเพื่อใช้แอปเท่านั้นที่สามารถดูข้อมูลจากโทรศัพท์เป้าหมายได้ ข้อมูลนี้มักจะส่งในรูปแบบที่เข้ารหัสและไม่สามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลอื่น แม้แต่เจ้าของโทรศัพท์เป้าหมายก็ไม่เห็นข้อมูลที่ส่งไปยังจอภาพ เช่น การบันทุกภาพหน้าจอหรือการบันทึกเสียง

แอปสายรับบนโทรศัพย์ฟรี vs แบบจ่ายเงิน

มีแอพติดตามแฟนโทรศัพท์ฟรีมากมายนอกเหนือจากแอปที่ต้องชำระเงิน ตัวเลือกโปรแกรมจับผิดแฟนฟรีที่ดีที่สุดนำเสนอฟีเจอร์หลัก เช่น การเข้าถึงบันทึกการโทรและข้อความ SMS หลายแห่งยังมีฟีเจอร์การติดตามตำแหน่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

อย่างไรก็ตามแอพติดตามแฟนโทรศัพท์ฟรีนั้นมีข้อจำกัด โดยแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ฟรีส่วนใหญ่จะไม่มีการเข้าถึงแพลตฟอร์มการส่งข้อความโซเชียลมีเดียเช่น Facebook Messenger หรือ WhatsApp ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่สื่อสารกันด้วยข้อความ แอปเหล่านี้อาจจะไม่มีการบันทึกการโทรอัตโนมัติหรือความสามารถในการควบคุมกล้องหรือไมโครโฟนของโทรศัพท์จากระยะไกลได้

ดังนั้นไม่ว่าแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ฟรีที่ดีที่สุดจะทำงานได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน แอปฟรีอาจจะเพียงพอสำหรับติดตามแบบไม่ลึกมาก แต่แน่นอนว่ามันไม่มีฟีเจอร์การติดตามที่กว้างเท่ากับแอพติดตามแฟนแบบจ่ายเงิน สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการออกแบบแอปติดตามแฟนที่มีฟังก์ชันที่กำหนดเองคุณสามารถสร้างแอปโดยใช้เครื่องมือสร้างแอปที่ดีที่สุดได้

เข้าชม mSpy

แอพติดตามแฟนถูกกฎหมายหรือไม่?

แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์นั้นถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามมันก็สามารถใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้

ในบางประเทศการใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์นั้นถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามมันก็สามารถใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้เช่นกัน มันจะเป็นเรื่องถูกกฎหมายได้โดยการได้รับอนุญาตจากผู้อื่น ที่จริงแล้วการติดตั้งแอปสายลับบนโทรศัพท์ของใครบางคนโดยที่พวกเขาไม่รู้ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

กฎหมายเกี่ยวกับการสอดแนมที่ผิดกฎหมายยังไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด และอาจจะมีข้อยกเว้นบางประการ ตัวอย่างเช่น หากนายจ้างจัดหาโทรศัพท์ให้กับพนักงานที่บริษัทจ่ายให้ การใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ของพนักานก็อาจจะถูกกฎหมายแม้ว่าจะไม่ได้รับการยินยอมจากพนักงานก็ตาม เนื่องจากบริษัทเป็นเจ้าของโทรศัพท์นั้น

เช่นเดียวกับในกรณีที่บุคคลหนึ่งซื้อโทรศัพท์ของคู่สมรสและชำระค่าโทรศัพท์ ในกรณีเหล่านี้การใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากเป้าหมายอาจจะเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่กฎหมายยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้

ผู้ปกครองสามารถใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ของบุตรหลานได้อย่างถูกกฎหมาย โดยต้องได้รับความยินยอมหรือไม่ได้รับความยินยอม อย่างไรก็ตามเงื่อนไขนี้ใช้ได้จนกว่าเด็กจะอายุครบ 18 ปีและได้กลายเป็นผู้ใหญ่อย่างถูกกฎหมาย เมื่อมีคนอายุ 18 ปีขึ้นไปพวกเขาต้องยินยอมให้มีการเฝ้าติดตาม

วิธีใช้แอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์มือถือ

พร้อมสำหรับแอพติดตามแฟนบนโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในปี 2023 แล้วหรือยัง? เราจะแนะนำผู้อ่านเกี่ยวกับวิธีตั้งค่า XNSpy ซึ่งเป็นแอพติดตามแฟนที่ดีที่สุดในภาพรวมสำหรับ iPhone และ Android ที่เราได้รีวิวมา

ขั้นตอนที่ 1: สมัครสมาชิกกับ XNSpy

ในการเริ่มต้นใช้งาน XNSpy ผู้ใช้ต้องสมัครแผนแบบชำระเงิน โดยไปที่เว็บไซต์ของ XNSpy แล้วคลิกลองเลย จากนั้นป้อนอีเมลและเลือกว่าจะกำหนดเป้าหมายบนอุปกรณ์ Android หรือ iPhone จากนั้นเลือกแผนรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี จากนั้นทำการชำระเงิน โดยซอฟต์แวร์ XNSpy จะถูกส่งไปยังอีเมลที่ลงทะเบียนไว้หลังจากชำระเงินสำเร็จ

เข้าชม XNSpy

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง XNSpy บนโทรศัพท์เป้าหมาย

ขั้นตอนต่อไปผู้ใช้จำเป็นจะต้องติดตั้ง XNSpy บนโทรศัพท์เป้าหมาย กระบวนการนี้แตกต่างกันเล็กน้อยสำหรับอุปกรณ์ Android และ iPhone

สำหรับอุปกรณ์ Android ผู้ใช้ต้องมีการเข้าถึงอุปกรณ์เป้าหมาย โดยจะต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ XNSpy ลงในโทรศัพท์ของเป้าหมาย จากนั้นเข้าสู่ระบบโดยใช้ข้อมูลที่รับรองจาก XNSpy เพื่อเปิดใช้งานแอป จากนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ให้สิทธิ์ XNSpy ทั้งหมดที่ร้องขอ ไม่เช่นนั้นแอปจะทำงานไม่ถูกต้องและเกิดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ตามมาได้

สำหรับ iPhone ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีการเข้าถึงเครื่องโทรศัพย์โดยตรงของเป้าหมาย แต่พวกเขาต้องการข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบที่ใช้สำหรับการสำรองข้อมูล iCloud บน iPhone ของเป้าหมาย โดยพวกเขาต้องมีสิทธิ์เข้าถึงรหัสการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยด้วยหากเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัยใน iCloud เมื่ออยู่ใน iCloud ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอป XNSpy และแอปจะซิงค์กับโทรศัพท์ได้เลย

ขั้นตอนที่ 3: ติดตามกิจกรรม

เมื่อติดตั้ง XNSpy แล้ว ผู้ใช้สามารถเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์เป้าหมายได้ แดชบอร์ดการตรวจสอบมีให้ทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของ XNSpy ผู้ใช้ต้องเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและเลือกอุปกรณ์ที่พวกเขากำลังตรวจสอบ

เข้าชม XNSpy

บทสรุป : แอพติดตามแฟนไหนที่ดีที่สุดในปี 2023?

แอพสายลับที่ดีที่สุดและง่ายต่อการตรวจสอบอุปกรณ์ iPhone หรือ Android แอปเหล่านี้นั้นมีประโยชน์มากในการติดตามคู่สมรส เฝ้าติดตามลูก ๆ หรือติดตามโทรศัพท์ของพนักงาน

จากการรีวิวของเรา mSpy เป็นแอพสายลับบนโทรศัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับ iOS และ Android ในปี 2023 มันสามารถเข้าถึงแทบทุกการสื่อสารและแอปบนโทรศัพท์ของเป้าหมาย และมีราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับแอปคู่แข่ง ทำให้จับผิดแฟนทางโทรศัพท์ที่อาจจะนอกใจเป็นเรื่องง่ายและราบรื่น ลงทะเบียนวันนี้และเริ่มติดตามโทรศัพท์ iPhone หรือ Android ได้เลย!

Categories
ไม่มีหมวดหมู่

วิธีลงทุนใน Metaverse สำหรับมือใหม่ 2023

บทความนี้จะกล่าวถึงวิธีลงทุนใน Metaverse สำหรับปี 2023 ซึ่งจะเสนอแนวทางยอดนิยมเอาไว้หลายอย่าง เพราะ ‘The Metaverse’ คือแนวคิดที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากในปีที่ผ่านมา มีการคาดหวังเอาไว้ว่า Metaverse จะมีมูลค่าเกือบ 5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030 จึงมีนักลงทุนเป็นจำนวนมากต้องการที่จะมีส่วนร่วมกับระดับความเติบโตนี้

ตัวเลือกลงทุน Metaverse อันดับต้น ๆ สำหรับเราในปี 2023

Battle Infinity วิธีลงทุนใน metaverse ลงทุนในเมตาเวิร์ส การลงทุน metaverse

Battle Infinity คือวิธีโปรดของเราในการเข้าร่วม Metaverse เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มเกม Metaverse ที่ดีที่สุดและยังมีกลไกสร้างรายได้จากการเล่น (P2E) ภายในโลกเสมือนจริงที่ทุกคนสามารถโต้ตอบกันได้

ปัจจุบัน Battle Infinity นั้นอยู่ในช่วงพรีเซล นักลงทุนสามารถซื้อ IBAT ที่เป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์มได้ในราคาถูก และทางทีมงานตั้งใจเอาไว้ว่าจะเปิดให้ซื้อขายแบบ DEX ได้ในเร็ว ๆ นี้

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

วิธียอดนิยมในการลงทุน Metaverse

นักลงทุนที่ซื้อคริปโตกันเป็นกิจวัตรคงมีประสบการณ์เกี่ยวกับ Metaverse กันมาบ้างแล้ว มีโครงการมากมายที่ช่วยผลักดันให้แนวคิดนี้ก้าวไปสู่กระแสหลักของตลาด ตัวอย่างเช่นแนวทางการลงทุน Metaverse อย่างมีประสิทธิภาพ 5 วิธีที่มีประโยชน์แตกต่างกัน

  1. Metaverse Games
  2. Metaverse NFTs
  3. Metaverse Crypto 
  4. Metaverse Real Estate 
  5. Metaverse Stocks

เจาะลึกวิธีลงทุนใน Metaverse ที่ดีที่สุด

เรามาสำรวจกันว่าวิธีลงทุน Metaverse แต่ละวิธีที่ได้กล่าวไปนั้นคืออะไร และสร้างผลประโยชน์ให้กับนักลงทุนในระยะยาวได้อย่างไร

1. Metaverse Games

วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Metaverse คือเกม metaverse หรือลงทุนผ่านโครงการ Metaverse NFT ที่ดีที่สุด ในปีที่ผ่านมาการเติบโตของโครงการเกมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งถูกผลักดันมาจากโครงการที่มีชื่อเสียงอย่าง Decentraland และ The Sandbox จึงทำให้มีการเปิดตัวโครงการขนาดเล็กอื่น ๆ ขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอโดยอาศัยความสำเร็จจากโครงการที่เคยมีมาก่อน ซึ่งเกม metaverse ก็คือแพลตฟอร์มเกมอยู่บนโลก Metaverse ซึ่งเหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดมากมายก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากโครงการเกมเหล่านี้

เกม metaverse วิธีลงทุนใน metaverse ลงทุนในเมตาเวิร์ส การลงทุน metaverse

ใครที่รู้จัก ‘Ready Player One’ ของ Steven Spielberg ก็คงเข้าใจแล้วว่า เกม metaverseเป็นโลก 3 มิติที่ผู้เล่นสามารถสร้างอวาตาร์ของตนเองและโต้ตอบกับผู้อื่นได้ Cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นบางเหรียญเป็นเหรียญเกี่ยวกับเกมมิ่ง ด้วยกลไก play-to-earn (P2E) ทำให้ผู้เล่นสามารถซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผู้เล่น รับรางวัลเป็นสกุลเงินดิจิทัลจากการเล่นกระทำต่าง ๆ ในเกมและใช้ทักษะในการเล่นเพื่อสร้างรายได้กันอย่างสนุกสนาน

Battle Infinity อยาก ลงทุน ใน Metaverse

Battle Infinity คือโครงการเกม Metaverse ที่กำลังได้รับความสนใจจากสื่อ มีการรวมลีกกีฬาแฟนตาซีเอาไว้ใน Metaverse เพื่อให้ผู้เล่นได้วางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ พร้อมรับรางวัลจากทักษะเหล่านั้นกลับมาในรูปแบบของ IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักดั้งเดิมของ Battle Infinity

นักลงทุนจำนวนมากพิจารณาซื้อ Battle Infinity เพราะเล็งเห็นถึงการเติบโต รวมไปถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ ‘Battle Store’ ซึ่งเป็นเกม P2E ที่เปิดให้เข้ามาเล่นพร้อมกันได้หลายคน และยังเพิ่มศักยภาพในการรับรางวัล ผู้เล่นคนไหนสนใจก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Battle Infinity Telegram

5 เกม Metaverse ที่ดีที่สุด

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

2. Metaverse NFTs

อีกหนึ่งวิธีการลงทุนใน Metaverse ที่ได้รับความนิยมสูงคือ NFTs ซึ่ง NFT น่าลงทุนที่สุดส่วนหนึ่งในปีที่ผ่านมาก็เป็นโครงการ Metaverse ด้วยเช่นกัน หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ NFTs น่าสนใจคือคุณสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ต่าง ๆ ภายในเกมได้อย่างแท้จริง

ตัวอย่างเช่น การ์ดต่าง ๆ ภายในเกม Gods Unchained จะเป็นโครงสร้าง NFTs ที่ผู้เล่นจะได้ครอบครองการ์ดของพวกเขาจริง ๆ ป้องกันการถูกขโมย การดัดแปลง และยังลดการโกงหรือการขโมยข้อมูลภายในเกมให้น้อยลงจนไม่มีเลยได้

Metaverse NFT ลงทุน metaverse มือใหม่ ลงทุน metaverse เริ่มต้น

ไอเท็มภายในเกมที่มีโครงสร้างเป็น NFT สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ง่าย หนึ่งในโปรเจกต์ nft สุดเจ๋งที่มีฟีเจอร์นี้คือ Battle Infinity ซึ่งมีตลาด NFT ภายในระบบนิเวศของตนเองโดยเรียกกันว่า Battle Market เพื่อให้ผู้เล่นซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนไอเท็มกันได้

ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นสามารถไปที่ Battle Market และซื้อเครื่องแต่งกายใหม่สำหรับอวาตาร์ของพวกเขาได้ด้วย IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Battle Infinity นี่จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนใน Metaverse อุปสงค์และอุปทานจะเป็นตัวกำหนดราคาของ NFT เมื่อมีผู้เล่นมากขึ้น NFT ก็จะหายาก และมีมูลค่าสูงขึ้นตามมา

ตลาด battle infinity

เกม NFT ที่ดีที่สุดหลายเกมรวมถึง Battle Infinity มีการเปิดให้ผู้เล่นซื้อที่ดินภายในโลกเสมือนจริงที่มีโครงสร้าง NFTs ได้ ซึ่งเราจะกล่าวถึงรายละเอียดกันอีกครั้งในส่วนถัดไป

5 Metaverse NFT ที่ดีที่สุด

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

3. Metaverse Crypto 

อีกหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับลงทุน Metaverse คือ Metaverse Crypto ซึ่งหมายถึงการลงทุนในโทเค็นหลักของโครงการ โทเค็นเหล่านี้จะถูกใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการทำธุรกรรม, Staking หรือการกำกับดูแล 

  • การทำธุรกรรม : โทเค็นหลักของ Metaverse แต่ละโครงการสามารถใช้ซื้อไอเท็มจากโลกจริงได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานซื้อ Axie Infinity และใช้โทเค็นเพื่อซื้อ ‘Axies’ เพิ่มเติมเพื่อใช้ภายในเกมได้ และหมายความว่าผู้ขายจะได้รับ Metaverse Crypto เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบอื่นได้อีกด้วย
  • Staking : การ Staking คริปโต เป็นการล็อคคริปโตเอาไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยยกระดับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มได้ มีแพลตฟอร์ม Metaverse จำนวนมากที่มีกลไก Staking เพื่อให้ผู้ครอบครองสามารถรับผลตอบแทนจากโทเค็นเหล่านั้น และยังเป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศโดยรวมด้วย
  • การกำกับดูแล : โครงการ Metaverse มากมายมีโครงสร้างในลักษณะขององค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (DAO) เท่ากับผู้ครอบครองโทเค็นคือผู้ที่ควบคุมแพลตฟอร์มนั้นด้วย โครงการคริปโต DAO ที่ดีที่สุดส่วนมากจะเปิดให้ผู้ครอบครองโทเค็นได้ลงคะแนนในข้อเสนอเกี่ยวกับการกำกับดูแล และจะยึดผลตามคะแนนเสียงส่วนใหญ่ด้วย

เหรียญ Metaverse Crypto ยังมีวิธีใช้งานในแบบอื่นได้อีกมากมาย ซึ่งถือว่าเป็นวิธีง่าย ๆ ในการลงทุน Metaverse ที่อยู่ในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุด นักลงทุนคนไหนที่ยังไม่ได้ลงทุน Metaverse ที่ไหนแบบเฉพาะเจาะจงก็สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนกับโทเค็นเหล่านี้ได้

ลงทุน Metaverse

ตัวอย่างที่ดีคือ Axie Infinity เพราะโทเค็น AXS นั้นมีมูลค่ามากกว่า 164 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 นักลงทุนที่เลือกซื้อ Decentraland ก็ได้รับผลตอบแทนกันอย่างงามเมื่อโทเค็น MANA มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 110% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นักลงทุนคนไหนที่ต้องการลงทุนใน Metaverse ก็ยังสามารถซื้อโทเค็น IBAT ในช่วงพรีเซลของ Battle Infinity เพื่อดูการเติบโตของโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

5 Metaverse Cryptocurrencies ที่ดีที่สุด

4. Metaverse Real Estate 

Metaverse Real Estate นับว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการถือครองกรรมสิทธิ์และการเช่าที่ไม่เหมือนใคร ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะลงทุน Metaverse ยังไงก็สามารถเข้าร่วมกับโครงการ Metaverse เพื่อซื้อที่ดิน NFT เสมือนจริงได้

Decentraland คือหนึ่งในโครงการสำคัญที่มีฟังก์ชั่นการทำงานนี้ ภายในโลกสามมิติจะประกอบไปด้วยพื้นที่ขนาด 16×16 เมตรรวมกัน 90,000 แปลงซึ่งจะเรียกกันว่า LAND ผู้ใช้งานสามารถซื้อ LAND ได้ด้วย MANA ที่เป็นโทเค็นดั้งเดิมของ Decentraland หรือ Ethereum รวมถึงโทเค็นอื่น ๆ ที่มีโครงสร้างเป็น NFT

Metaverse Real Estate  NFT อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน NFT วิธีลงทุนใน metaverse ลงทุนในเมตาเวิร์ส การลงทุน metaverse การลงทุนในmetaverse วิธีลงทุน metaverse

ที่ดินบางแปลงจะมีมูลค่ามากกว่าที่ดินแปลงอื่น ในปี 2021 ที่ดินที่อยู่ใกล้กับ Genesis Plaza ของ Decentraland นั้นมีมูลค่ามากกว่า 13,000 ดอลลาร์ ถ้าเทียบกับขนาดของพื้นที่เพียง 16×16 เมตรแล้วถือว่า LAND เหล่านี้มีมูลค่าสูงเลยทีเดียว

จากบทความของ CNBC ยอดขายของที่ดินเสมือนจริงมีมูลค่าสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะที่ดินเสมือนจริงเหล่านี้มอบผลประโยชน์ให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของได้ นักลงทุนจะได้ทั้งมูลค่าเพิ่มจากความนิยมของโครงการและยังสร้างผลตอบแทนจากการเช่าได้อีกด้วย

ที่ดิน nft ลงทุน metaverse ระยะยาว อยาก ลงทุน ใน Metaverse

เจ้าของที่ดินเสมือนจริงสามารถปล่อยเช่าที่ดินของตนเองได้แบบไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งกลไกการเช่านี้ก็รวมอยู่ใน Battle Arena ของ Battle Infinity ด้วยเช่นกัน ผู้ใช้งานสามารถเช่าที่ดินของผู้อื่นแล้วใช้เพื่อการโฆษณาผ่านป้ายโฆษณาเสมือนจริงโดยจ่ายเป็น IBAT ได้

นักลงทุนจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Metaverse Real Estate ของพวกเขามีมูลค่าในตัวเอง เพราะที่ดินนี้ยังเป็นเพียงพิกเซลในโลกสามมิติ แต่ก็มีโครงการอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน NFT ที่ดีหลายโครงการได้พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถทำกำไรได้จริง

5 โครงการ Metaverse Real Estate ที่ดีที่สุด

5. หุ้น Metaverse

การลงทุนในเมตาเวิร์สที่ดีอีกหนึ่งวิธีคือหุ้น Metaverse ที่ดีที่สุด ซึ่งอาจไม่ได้ผลตอบแทนจากการเติบโตของแพลตฟอร์มโดยตรง แต่จะจะได้ผลตอบแทนจากภาพรวมของทั้งอุตสาหกรรม ตัวอย่างที่ดีคือ Meta Platforms (ชื่อเดิมคือ Facebook) ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมแบบเสมือนจริง (VR) ในปัจจุบัน และยังมีการนำคอนเซปของ Metaverse มาเสริมอีกด้วย

หุ้น Metaverse

การลงทุนกับบริษัท Metaverse ทำให้กระจายพอร์ตได้ง่าย ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากโครงการใดโครงการหนึ่งมากเกินไป Nvidia ก็เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เพราะชิปของทางบริษัทถูกนำมาใช้ขับเคลื่อนโครงการ Metaverse มากมาย เมื่อ Metaverse ได้ขยายตัวออกไปและยังต้องใช้ชิป Nvidia จึงเป็นการช่วยให้ผลกำไรและราคาหุ้นของบริษัทดีขึ้น

หุ้นที่ถูกประเมินราคาต่ำบางตัวก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Metaverse เพราะมีบริษัทหลายแห่งที่พยายามทดลองแนวคิดที่เกี่ยวข้องโลกเสมือนจริง Nike ได้กลายมาเป็นผู้นำของการลงทุนในหุ้น Metaverse โดยร่วมมือกับ Decentraland และ Roblox เพื่อเพิ่มตัวตนในอุตสาหกรรมนี้

หุ้น Metaverse วิธีลงทุนใน metaverse ลงทุนในเมตาเวิร์ส การลงทุน metaverse การลงทุนในmetaverse วิธีลงทุน metaverse

การลงทุนหุ้น Metaverse อาจเป็นวิธีทางอ้อมที่ดีที่สุดในการเข้าถึงโครงการ และยังเป็นการเปิดรับการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้โดยตรง รวมถึงการซื้อหุ้นยังง่ายสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มลงทุน จึงอาจเป็นสิ่งที่เหมาะกับมือใหม่ในตลาดนี้มากกว่าด้วยเช่นกัน

5 อันดับหุ้น Metaverse ที่ดีที่สุด

  • Meta Platforms
  • Nvidia
  • Nike
  • Coinbase
  • Roblox

Metaverse เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่ ?

หลังจากพูดถึงวิธีลงทุนใน Metaverse ที่ดีที่สุดบางส่วนกันไปแล้ว การลงทุนใน Metaverse นับว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนคริปโตระยะยาวที่ดีที่สุด เพราะมีแนวทางที่ไม่ซ้ำใครสำหรับการเข้าสังคมและเล่นเกม

แนวคิดแบบ Metaverse ยังมีการแนะนำจากบริษัทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คริปโต หนึ่งในบริษัทชั้นนำเหล่านั้นคือ Roblox แพลตฟอร์มซึ่งเด็กและวัยรุ่นใช้เล่นเกมรวมถึงโต้ตอบกันได้

ลงทุนใน metaverse ดีไหม


Roblox นับว่าเป็นบริษัท Metaverse แห่งแรก เปิดตัวขึ้นมาในเดือนมีนาคม 2021 และยังมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 133% ภายใน 9 เดือนถัดมา การเติบโตส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันมาจากที่ Roblox ผสมผสานแนวคิด Metaverse เข้ากับแพลตฟอร์ม ทำให้ Roblox กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมสูงที่สุดในอุตสาหกรรมนี้

บริษัทคริปโต Metaverse ที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการลงทุนที่ดี นักลงทุนสามารถเข้าถึงภาคส่วนอื่น ๆ ของตลาดคริปโตได้ เช่นเทคโนโลยีบล็อกเชน การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) รวมถึง NFT ที่เติบโตขึ้นมาอย่างโดดเด่นภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

battle infinity โลกเสมือนจริง เกม แพลตฟอร์ม เทคโนโลยี metaverse

การลงทุน Metaverse นั้นยังคาดเดาผลที่ชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ในรูปแบบใหม่ที่ยากจะประเมินความเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาว แต่โครงการที่ประสบความสำเร็จก็ให้ผลตอบแทนที่สูงมาก และดึงดูดนักลงทุนได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน

คุณสามารถมองหาทางเลือกเพิ่มเติมในการลงทุนเจาะลึกว่ามีเงิน 100,000 ลงทุนอะไรดี? ได้ที่บทความของเรานี้เลย

วิธีเลือกการลงทุน Metaverse

เช่นเดียวกับกรณีของเหรียญ altcoin ที่น่าสนใจ การลงทุนโครงการ Metaverse ชั้นนำนั้นมีอยู่หลายวิธี โดยจะมีวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดดังนี้

เลือกสินทรัพย์ใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง Battle Infinity

หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน Metaverse คือการเลือกโครงการใหม่ เพราะโครงการเหล่านี้จะใช้แนวคิดจากโครงการก่อนหน้าและเพิ่มเอกลักษณ์ของตนเองเข้าไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ Battle Infinity กำลังวางแผนเอาไว้เช่นกัน

Battle Infinity

โครงการ Metaverse มาใหม่อย่าง Battle Infinity เหมาะสำหรับนักลงทุนซึ่งกำลังมองแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างน่าสนใจ ระบบการจ่ายรางวัลเป็นโทเค็นของ Battle Infinity สามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้เป็นวงกว้าง ในขณะที่ลีกกีฬาแฟนตาซีก็เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจกีฬาฟุตบอล, คริกเก็ต, บาสเก็ตบอล, ฮ็อกกี้ และอื่น ๆ อีกมากมาย นับว่าเป็นโครงการที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดแห่งปี

พิจารณาบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse

สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าจะลงทุน Metaverse ที่ไหน และต้องการลงทุนกับหุ้นมากกว่าคริปโตก็ยังสามารถลงทุนที่ตลาดหุ้นได้ เพราะบริษัทที่ไม่ใช่คริปโตหลายแห่งก็ใช้แนวคิด Metaverse ในการทำงาน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะใช้กันในปีถัด ๆ ไปด้วยเพราะ Metaverse นั้นมีศักยภาพในการดึงดูดลูกค้า และยังคาดการณ์กันว่าจะมีบริษัทอีกเป็นจำนวนมากที่ใช้แนวทางนี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคและเพิ่มรายได้ของพวกเขา

พิจารณาศักยภาพของ Passive Income

การเลือกโครงการ Metaverse ที่สร้าง Passive Income ได้อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างผลตอบแทนและยังได้ประโยชน์จากการเก็งราคา การ Staking คริปโตก็เป็นวิธียอดนิยมในการสร้าง Passive Income ในตลาดคริปโต และใช้ในโครงการ Metaverse มากมายรวมถึง Battle Infinity ด้วยเช่นกัน

แม้การซื้อขายแบบ Active จะได้ประโยชน์มากกว่าเล็กน้อย แต่ผู้เล่นยังสามารถรับผลกำไรประจำจากการเล่นเกม play to earn ซึ่งจ่ายรางวัลเป็นโทเค็น และยังแปลงเป็นเงินดิจิทัลสกุลอื่นเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ได้ ถือว่าเป็นการลงทุน Metaverse ระยะยาวที่น่าสนใจอีกหนึ่งวิธี

ใช้โซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียและช่อง YouTube คริปโตที่ดีที่สุดได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลอันยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโครงการ Metaverse ใหม่ ๆ มีโครงการชั้นนำมากมายในตลาดคริปโตที่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ จึงสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้เป็นจำนวนมาก

วิธีลงทุนใน metaverse ลงทุนในเมตาเวิร์ส การลงทุน metaverse pantip

Twitter หรือ Pantip บ้านเราก็เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับการอัปเดตแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับโครงการมาใหม่และยังมีการพูดคุยกันที่ค่อนข้างสมดุล สามารถเข้ามาดูข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ของโครงการได้

ตรวจสอบรายละเอียดของโครงการและแผนงาน

นักลงทุนสามารถเลือกลงทุน Metaverse เริ่มต้นกับโครงการที่มีศักยภาพสูงได้โดยการตรวจสอบรายละเอียดและแผนงานซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่ออายุของโครงการ และยังช่วยให้นักลงทุนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต ถ้าโครงการนั้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจและแผนงานที่ชัดเจนก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นโครงการที่มีศักยภาพทางด้านมูลค่าสูง

คู่มือการลงทุนใน Metaverse

Battle Infinity การลงทุนใน Metaverse

ก่อนจะตัดสินใจ คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีลงทุน Metaverse ให้ชัดเจน อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Battle Infinity นั้นเป็นเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุด ช่วงขาลง และยังเป็นการลงทุนใน Metaverse ที่น่าสนใจ คุณสามารถลงทุนใน Battle Infinity ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที

ขั้นตอนที่ 1 – ตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโต

IBAT ที่เป็นโทเค็นหลักของ Battle Infinity นั้นใช้มาตรฐาน BEP-20 คุณจึงต้องใช้กระเป๋าคริปโตที่เข้ากันได้กับ Binance Smart Chain ซึ่งเราแนะนำ Trust Wallet หรือ MetaMask เพราะสามารถใช้งานได้ฟรีและยังตั้งค่าได้อย่างรวดเร็ว

ให้ไปที่เว็บไซต์ของกระเป๋าเงินที่ต้องการแล้วคลิกที่ ‘Download’ จากนั้นทำตามแนะนำเพื่อตั้งค่า

ตั้งค่า crypto wallet

ขั้นตอนที่ 2 – เชื่อมโยงกระเป๋าเงินเข้ากับ BSC

กระเป๋าเงินจำนวนมากจะมีค่าเริ่มต้นอยู่ที่เครือข่าย Ethereum การจะเชื่อมโยงเข้ากับ Binance Smart Chain คุณจะต้องเพิ่มเครือข่ายใหม่โดยการกรอกข้อมูลดังนี้

  • Network Name: Smart Chain
  • New RPC URL: https://bsc-dataseed.binance.org/
  • ChainID: 56
  • Symbol: BNB
  • Block Explorer URL: https://bscscan.com

ขั้นตอนที่ 3 – ซื้อเหรียญ Binance

ให้คุณซื้อเหรียญ Binance (BNB) เพื่อนำมาใช้ซื้อ IBAT หลังจากคุณซื้อ BNB มาแล้วให้โอนไปยังกระเป๋าเงินคริปโตของคุณ

ขั้นตอนที่ 4 – เชื่อมโยงกระเป๋าเงินเข้ากับกระดานขายพรีเซล

ไปที่เว็บไซต์ของ Battle Infinity แล้วคลิกที่ ‘Launch Presale’ จากนั้นคลิก ‘Connect Wallet’ เพื่อเชื่อมโยงกระเป๋าเงินของคุณเข้ากับกระดานขายพรีเซล

เชื่อมโยงกระเป๋าเงินเข้ากับกระดานขายพรีเซล

ขั้นตอนที่ 5 – ซื้อ Battle Infinity

กรอก position size ของคุณใน BNB หรือจำนวน IBAT ที่คุณต้องการซื้อลงในกล่องคำสั่งแล้วกดยืนยันการทำธุรกรรม

ซื้อ Battle Infinity

ขั้นตอนที่ 6 – Import IBAT Contract Address

คุณจะต้อง Import IBAT Contract Address เพื่อเข้าถึงการถือครองโทเค็น ซึ่งสามารถตรวจสอบ Contract Address ได้ในกลุ่ม Battle Infinity Telegram แล้วเพิ่มเข้าไปยังกระเป๋าเงินคริปโตของคุณโดยการเลือกที่ ‘Add Custom Token’

บทสรุปวิธีลงทุนใน Metaverse

การลงทุนใน Metaverse สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่าเกือบ 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 มีหลายวิธีที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงการเติบโตนี้ได้ และการใช้แอพ Metaverse ที่ดีที่สุดก็นับว่าเป็นวิธีที่สะดวกอย่างยิ่ง

Battle Infinity มีข้อดีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวขึ้นมาใหม่ และได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ถ้าพิจารณาจากความสำเร็จในช่วงพรีเซลที่มีมาก่อนหน้า นี่อาจจะเป็นโอกาสลงทุนในเมตาเวิร์สที่ยอดเยี่ยมซึ่งนักลงทุนทั้งหลายกำลังมองหากันอยู่ก็ได้

Battle Infinity – เกมใหม่แห่งโลก Metaverse

คะแนน

Battle Infinity
  • ลิสบน PancakeSwap และ LBank – battleinfinity.io
  • เกมแฟนตาซีแนวกีฬา
  • เกมแนว Play to Earn – รับรางวัลโทเค็น IBAT
  • สนับสนุนโดย Unreal Engine
  • Solid Proof และ CoinSniper รับรองแล้ว

ซื้อ IBAT

Categories
การเทรด บอทบิทคอยน์

รีวิว xBitcoin AI ฉบับปี 2023 – ดีจริงไหม?

ปี 2022 ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปีที่เป็นช่วงตลาดขาลงสำหรับคริปโตเคอเรนซี่ เนื่องจากมากกว่า 50% ของมูลค่าตลาดของคริปโตเคอเรนซี่ทั้งหมดที่หายไป เหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดบางส่วน รวมถึง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) เผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนจึงต้องมองหาวิธีการเทรดใหม่ในตลาดเหล่านี้ และหาว่าจะเทรดคริปโตที่ไหนดี

 xBitcoin AI นำเสนอวิธีการสำหรับนักลงทุนมือใหม่ในการเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว xBitcoin AI แนะนำว่าสามารถให้ผลลัพธ์ที่ทำกำไรได้สำหรับนักเทรด ในการรีวิว xBitcoin นี้ เราได้วิเคราะห์วิธีการทำงานของแพลตฟอร์ม คริปโตเคอเรนซี่ที่มีอยู่ คุณลักษณะที่จำเป็น ข้อดีข้อเสียของการใช้บอทเทรดนี้ และข้อมูลว่า Xbitcoin ai ดีไหม และ Xbitcoin ai ปลอดภัยไหม

สรุป xBitcoin AI

ก่อนที่จะเจาะลึกลงไปในการรีวิว xBitcoin AI นี้ เราจะมาเรียนรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับคุณสมบัติที่มี เงินฝากขั้นต่ำ และอื่นๆ: 

ประเภทของแพลตฟอร์มแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตเคอเรนซี่
คริปโตเคอเรนซี่ที่มีBTC, ETH, XRP และอื่นๆ 
อัตราทำกำไรที่เคลม88%
แอพมือถือมี
ความเร็วในการถอนเวลาถอน 24 ชม
เงินฝากขั้นต่ำ250 ดอลลาร์

แพลตฟอร์ม xBitcoin AI เป็นแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตเคอเรนซี่ที่ผู้ใช้สามารถซื้อ Bitcoinและเหรียญคริปโตยอดนิยมอื่นๆ เช่นบิทคอยน์ Ethereum และ XRP xBitcoin AI เคลมว่าสนับสนุนคู่การเทรดคริปโตเคอเรนซี่ทั้งหมดนี้ และมีตัวเลือกในการแปลงเหรียญคริปโตเหล่านี้เป็นสกุลเงินดั้งเดิม 

หลังจากฝากเงินขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ ผู้ใช้ที่สนใจจะสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ของ xBitcoin AI ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเวลาถอนเงินที่รวดเร็วเพียง 24 ชั่วโมง เว็บไซต์เคลมว่าจะคืนเงินให้ด้วยความเร็วที่เหมาะสม 

ไปที่ xBitcoin AI

คริปโตเคอเรนซี่นั้นไม่ได้รับการกำกับดูแล การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลจะทำให้คุณไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

xBitcoin AI คืออะไร?

xBitcoin AI เป็นแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตเคอเรนซี่ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้นักเทรดมองเห็นการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำเมื่อเทรดคริปโตเคอเรนซี่ชั้นนำของโลก ในโลกคริปโตเคอเรนซี่ ความผันผวนในระดับสูงจะมีความคงที่ ด้วยนักเทรดที่มีประสบการณ์ที่พยายามรักษาพอร์ตการลงทุนให้สมดุล xBitcoin AI จึงตัดสินใจพัฒนากลยุทธ์การเทรดเหรียญคริปโต AI ที่แตกต่างออกไป 

เว็บไซต์ xBitcoin AI เคลมว่าใช้ซอฟต์แวร์การเทรดที่สามารถสแกนตลาดคริปโตเคอเรนซี่และกราฟบอทคริปโตโดยอัตโนมัติและวิเคราะห์การเทรดที่ดีที่สุด ด้วยอุปกรณ์ที่มีศักยภาพดังกล่าว เทรดเดอร์มือใหม่และผู้เริ่มต้นไม่จำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามมากนักในการทำความคุ้นเคยกับตลาด 

แพลตฟอร์มระบุว่าเป้าหมายหลักคือการปรับปรุงอัตราความสำเร็จของนักเทรด – ซึ่งอาจสูงถึง 88% โดยเฉลี่ยเมื่อใช้ซอฟต์แวร์ เมื่อทำการฝากขั้นต่ำแล้ว ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าและเริ่มใช้ซอฟต์แวร์การเทรดอัตโนมัติ หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นของ xBitcoin AI คือการเทรดโดยใช้เลเวอเรจ ซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มมูลค่าของการเทรดได้โดยไม่ต้องฝากเงินเพิ่ม 

แพลตฟอร์ม xBitcoin AI นำเสนอ UI ที่ใช้งานง่าย และยังรับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้ โดยปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย SSL ต่างๆ xBitcoin AI เคลมว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐาน AML (การป้องกันการฟอกเงิน) และกำหนดให้ลูกค้าใหม่แต่ละรายกรอกแบบฟอร์ม KYC (รู้จักลูกค้าของคุณ) ก่อนเข้าร่วม ด้วย xBitcoin AI ผู้ใช้สามารถได้รับประโยชน์จากบัญชีทดลองและฝึกฝนด้วยเงินเสมือนบนแพลตฟอร์มแยกต่างหากที่สะท้อนสภาวะตลาดจริง 

ตามที่แพลตฟอร์มระบุ xBitcoin สามารถสแกนตลาดด้วยความเร็วที่เร็วกว่าอัลกอริทึมการเทรดอื่นๆ 0.01 วินาที ดังนั้นจึงสามารถรับสัญญาณ เริ่มการเทรดใหม่ และได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคา XBitcoin AI ได้ร่วมมือกับโบรกเกอร์ชั้นนำบางส่วนที่ควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูง เช่น CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) และ BaFin (Federal Financial Supervisory Authority) 

หลังจากทำการฝากเงินขั้นต่ำครั้งแรกแล้ว xBitcoin AI จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมการเทรดหรือการจัดการซอฟต์แวร์อื่นๆ ทำให้ดูเหมือนว่าแพลตฟอร์มการเทรด xBitcoin AI นั้นมีต้นทุนต่ำและตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตาม จากการค้นคว้าเพิ่มเติม เราไม่พบหลักฐานใดๆ ที่สามารถยืนยันการกล่าวเคลมนี้ ดังนั้น นักลงทุนแต่ละรายควรทำการวิเคราะห์ของตนเองก่อนที่จะนำเงินของตนไปลงทุนในแพลตฟอร์มการเทรดหรือเหรียญคริปโตใดๆ

xBitcoin AI – ข้อดีและข้อเสีย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเทรดนี้ เราจะมากล่าวถึงข้อดีและข้อเสียในส่วนด้านล่างนี้

ข้อดี

  • แพลตฟอร์มการเทรดอัตโนมัติสำหรับคริปโตเคอเรนซี่หลายสกุล
  • เคลมว่าสนับสนุนคู่การเทรด
  • ทำงานร่วมกับโบรกเกอร์ที่กำกับดูแลโดย CySEC
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการซอฟต์แวร์หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • เวลาถอนเงินที่รวดเร็ว
  • มีบัญชีทดลอง
  • มีการเข้ารหัส SSL
  • รองรับการเทรดด้วยเลเวอเรจ
  • รองรับ Web Trader และ Meta Trader

ข้อเสีย

  • เงินฝากขั้นต่ำสูงถึง 250 ดอลลาร์
  • ตรวจสอบการเคลมของบริษัทได้ยาก
  • แพลตฟอร์มการเทรดอัตโนมัติอาจมีความเสี่ยงในการใช้งาน

ไปที่ xBitcoin AI

คริปโตเคอเรนซี่นั้นไม่ได้รับการกำกับดูแล การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลจะทำให้คุณไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

xBitcoin AI ทำงานอย่างไร

ตามที่เว็บไซต์ระบุ xBitcoin AI ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อสแกนตลาดคริปโตเคอเรนซี่เพื่อมองหาโอกาสในการเทรดที่มีศักยภาพ ซอฟต์แวร์การเทรดจะเริ่มตรวจสอบข้อมูลตลาดและมองหาข้อมูลเชิงลึกที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งสามารถนำเสนอเป็นสัญญาณการเทรดได้ 

สามารถตั้งค่าซอฟต์แวร์ด้วยตนเองหรือตัวเลือกอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ใช้ ในบางกรณี ผู้ใช้สามารถขอให้ซอฟต์แวร์ทำงานและส่งสัญญาณการเทรดเป็นการตอบแทน ผู้ใช้สามารถใช้สัญญาณเหล่านี้ได้ตามที่ต้องการ ในทางกลับกัน ผู้ใช้สามารถตั้งค่าซอฟต์แวร์เป็นโหมดอัตโนมัติ ทำให้ซอฟต์แวร์สามารถควบคุมการซื้อและขายคริปโตเคอเรนซี่ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้สามารถให้ประโยชน์แก่เทรดเดอร์ที่มีเวลาน้อย เนื่องจากซอฟต์แวร์จะเริ่มต้นการเทรดใหม่ทุกวัน 

ตามที่เว็บไซต์ระบุ xBitcoin AI ทำงานร่วมกับโบรกเกอร์ CFD ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรราคาคริปโตและเปิดสถานะซื้อหรือขาย อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการเทรดดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงเพิ่มเติมและควรใช้เลเวอเรจก็ต่อเมื่อคุณมีความเสี่ยงสูงเท่านั้น 

เนื่องจาก xBitcoin AI ระบุว่าจะทำงานร่วมกับโบรกเกอร์ที่กำกับดูแลโดย CySEC ผู้ใช้จึงไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนในการออกการเทรดใหม่ โบรกเกอร์จะทำการเทรดในนามของผู้ใช้และขายสินทรัพย์ โดยขึ้นอยู่กับสัญญาณซอฟต์แวร์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีการจำกัดการค้าหลังจากทำการฝากขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ ดังนั้น เราจึงสามารถลงทุนได้มากเท่าที่ต้องการเมื่อทำการเทรดกับบอทเทรดคริปโต xBitcoin AI 

คุณสมบัติ xBitcoin AI 

ต่อไปนี้คือคุณสมบัติหลักที่ทำให้ xBitcoin AI แตกต่างจากบอทเทรดอื่นๆ ในปี 2023:

บัญชีทดลอง

xBitcoin AI เคลมว่ามีแพลตฟอร์มบัญชีทดลองให้ใช้ บัญชีทดลองจะทำหน้าที่เป็นบัญชีเสมือนจริงซึ่งสะท้อนสภาวะตลาดจริง บนแพลตฟอร์มนี้ เทรดเดอร์สามารถฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดและเข้าถึงโปรแกรมเทรดคริปโตในตัวโดยไม่ต้องเสี่ยงใช้เงินจริง 

แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับเงินเสมือน ซึ่งหมายความว่านักเทรดคริปโตมือใหม่มีโอกาสที่จะทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม หลังจากใช้บัญชีทดลองแล้ว ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้วิธีการเทรดคริปโตแบบใด และจะเริ่มเทรดกับ xBitcoin AI หรือไม่ 

สื่อการเรียนรู้

บน xBitcoin AI ผู้ใช้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อหาข้อมูลว่า bot crypto คืออะไร วิธีดูกราฟบอทคริปโต แพลตฟอร์มนี้แนะนำว่ามีคลังบล็อก วิดีโอ YouTube และพอดแคสต์ หัวข้อทั้งหมดเหล่านี้มักอยู่ในสาขาการเรียนรู้ คริปโตเคอเรนซี่ เทคโนโลยีบล็อคเชน การเทรดคริปโตระยะสั้น บอทเทรด bitcoin ฟรี บอทเทรด bitcoin ดีไหม และคู่มือการลงทุน สื่อการเรียนรู้อื่นๆ ได้แก่ การสัมมนาออนไลน์ คู่มือการฝึกอบรม eBook และเวิร์กช็อป

ผู้ใช้ยังสามารถขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินบนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 

การคุ้มครองผู้ลงทุน

บน xBitcoin AI แพลตฟอร์มเคลมว่าใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อปกป้องลูกค้า ประการแรก xBitcoin AI ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ ของ AML (การป้องกันการฟอกเงิน) นอกจากนี้ยังใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมาตรฐานสูงเพื่อปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค

xBitcoin AI ใช้การเข้ารหัส SSL (Secure Sockets Layer) ซึ่งเป็นโปรโตคอลความปลอดภัยที่ใช้การเข้ารหัส อุปกรณ์นี้มีความปลอดภัยบนพื้นฐานการสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ค่าธรรมเนียมของ xBitcoin AI

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น xBitcoin AI เคลมว่าจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใช้เพิ่มเติม หลังจากลงทะเบียนและชำระเงินขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์แล้ว ก็สามารถเข้าถึงบอทเทรด crypto และซอฟต์แวร์ในเครื่องได้ฟรี ยิ่งไปกว่านั้น xBitcoin AI เคลมว่าจะไม่เรียกเก็บค่าบำรุงรักษาหรือค่าธรรมเนียมการเทรดจากผู้ใช้เช่นกัน ไม่ว่าจะทำการเทรดคริปโตรายวันหรือเทรดคริปโตระยะสั้น

ค่าธรรมเนียมการเทรดไม่มี
ค่าธรรมเนียมบัญชีไม่มี
ต้นทุนซอฟต์แวร์ไม่มี

เงินฝากขั้นต่ำของ xBitcoin AI

บน xBitcoin AI ผู้ใช้สามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์การเทรดได้หลังจากสร้างบัญชีและทำการฝากเงินขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ โดยไม่มีขีดจำกัดสูงสุดของเงินฝาก นักลงทุนสามารถฝาเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ตั้งแต่ 250 ดอลลาร์ ถึงสูงถึง $25,000 หากต้องการ

อุปกรณ์ใดบ้างที่ใช้ xBitcoin AI ได้

xBitcoin AI นั้นทั้งอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย และสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยผู้ใช้ แพลตฟอร์มดังกล่าวเคลมว่าเข้ากันได้กับ Meta Trader ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์ยอดนิยมที่สามารถทำการเทรดได้โดยอัตโนมัติ แพลตฟอร์มนี้ยังสามารถเปิดและปิดการเทรดได้ตามพารามิเตอร์ที่ตั้งไว้ 

xBitcoin AI ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Web Trader ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดออนไลน์ยอดนิยมอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง เว็บไซต์แพลตฟอร์มแนะนำว่า xBitcoin AI มีให้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มมือถือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งสะดวกสำหรับการเทรดในขณะเดินทาง 

xBitcoin AI เป็นการหลอกลวงหรือไม่? 

หลังจากดูคุณสมบัติของแพลตฟอร์มในการตรวจสอบ xBitcoin AI แล้ว เราจะตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มการเทรดนี้เป็นการหลอกลวงหรือไม่ 

บนเว็บไซต์ xBitcoin AI เคลมว่ารองรับการเข้าถึงจากอุปกรณ์หลายเครื่อง นำเสนออินเตอร์เฟซในการเทรดที่ใช้งานง่าย และสามารถเก็บสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซี่ต่างๆ ผู้ใช้สามารถเพิ่มมูลค่าการเทรดด้วยคุณสมบัติอื่นๆ เช่น CFD และการเทรดด้วยเลเวอเรจ 

แม้ว่าคุณลักษณะเหล่านี้ก็มีให้บริการบนแพลตฟอร์มการเทรดอัตโนมัติชั้นนำส่วนใหญ่ แต่ความโปร่งใสของแพลตฟอร์มอาจเป็นปัญหาที่สำคัญ มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่จะยืนยันคุณสมบัติทั้งหมดที่ xBitcoin AI มอบให้โดยไม่ต้องทำการฝากเงินขั้นต่ำและตรวจสอบแพลตฟอร์ม 

แม้ว่าฟีเจอร์หลัก เช่น การทดลองเทรดและการป้องกัน AML จะเป็นไปในเชิงบวก แต่เราไม่สามารถยืนยันความถูกต้อง 100% ของแพลตฟอร์มนี้ได้ ดังนั้นผู้ใช้อาจต้องการทำการค้นคว้าและวิเคราะห์ก่อนที่จะลงทุนในแพลตฟอร์มนี้

มีคนดังคนใดบ้างที่สนับสนุน xBitcoin AI? 

หลังจากทำการค้นคว้า เราพบข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนดังระดับโลกบางคนกับ xBitcoin AI :

อีลอน มัสก์รับรอง xBitcoin AI หรือไม่ 

อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla และเจ้าของ Twitter มักจะได้รับความสนใจจากการเป็นผู้ที่สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของ altcoins และคริปโตเคอเรนซี่ชั้นนำ ดังนั้น หลายคนจึงสงสัยว่ามหาเศรษฐีผู้โด่งดังคนนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มการเทรด xBitcoin AI หรือไม่ หลังจากทำการค้นคว้าแพลตฟอร์มแล้ว เราไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า Elon Musk มีส่วนเกี่ยวข้องกับ xBitcoin AI

เจฟฟ์ เบโซส์รับรอง xBitcoin AI หรือไม่

เจฟฟ์ เบโซส์ ประธานบริหารของ Amazon ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยสินทรัพย์มูลค่าสุทธิ 107 พันล้านเหรียญ เบโซส์เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ดังนั้นความสัมพันธ์ของเขากับโครงการคริปโตเคอเรนซี่ สามารถช่วยกระจายความนิยมไปทั่วโลกได้ หลังจากค้นคว้ากระทู้ Reddit และบทความออนไลน์ต่างๆ เราไม่พบข้อมูลใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเบโซส์มีส่วนเกี่ยวข้องกับ xBitcoin AI

ใครเป็นเจ้าของ xBitcoin AI? 

เนื่องจาก xBitcoin AI เคลมว่าให้บริการที่ไม่เหมือนใครในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ จึงมีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับเจ้าของแพลตฟอร์มนี้ หลังจากการค้นคว้าและการวิเคราะห์มากมาย เราไม่พบเจ้าของแพลตฟอร์มนี้ ตามที่กล่าวไว้ในส่วนก่อนหน้านี้ คนดังอย่าง Elon Musk และ Jeff Bezos ก็ไม่มีความเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตเคอเรนซี่อัตโนมัตินี้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานที่สามารถช่วยให้เราระบุได้ว่าเจ้าของแพลตฟอร์มนี้มีตัวตนหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับทีมพัฒนาที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้

มาร์ติน ลูวิสใช้ xBitcoin AI หรือไม่

มาร์ติน ลูวิสเป็นนักข่าวการเงินและผู้ประกาศข่าวผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ยอดนิยม MoneySavingExpert.com ในฐานะหนึ่งในผู้ให้คำแนะนำทางการเงินในสหราชอาณาจักร หลายคนสนใจที่จะรู้ว่าบุคคลนี้สนับสนุน xBitcoin  AI หรือไม่ หลังจากทำการค้นคว้า เราไม่พบความเชื่อมโยงใดๆ ระหว่างลูวิสและแพลตฟอร์มการเทรด xBitcoin AI

วิธีใช้งาน xBitcoin AI

คุณสนใจที่จะเริ่มต้นเทดกับ xBitcoin AI หรือไม่? ส่วนด้านล่างนี้จะเป็นการแนะนำแบบทีละขั้นตอนของการสร้างบัญชี 

ขั้นตอนที่ 1: ตรงไปที่เว็บไซต์ xBitcoin AI

ขั้นแรก ให้ผู้ใช้ไปที่เว็บไซต์ xBitcoin AI และเริ่มกระบวนการสร้างบัญชี

ในหน้าลงทะเบียน ให้ป้อนชื่อและนามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลของคุณ คลิกที่ ‘ลงทะเบียนทันที’ เพื่อยืนยันขั้นตอนการสร้างบัญชี 

ขั้นตอนที่ 2: ทำการฝากเงินขั้นต่ำ 

หลังจากสร้างบัญชีแล้ว ผู้ใช้สามารถทำการฝากเงินขั้นต่ำที่ 250 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น แพลตฟอร์มดังกล่าวเคลมว่ารองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น e-wallets ที่ต่างๆ รวมถึง PayPal, Skrill, Neteller และ Webmoney 

เลือกวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการ ป้อนจำนวนเงินฝาก และยืนยันการทำธุรกรรม 

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มการเทรด 

หลังจากทำการฝากเงินขั้นต่ำแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรดและซอฟต์แวร์ได้ ในการตั้งค่า ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าให้สะท้อนถึงความเสี่ยง วิธีการเทรด และอื่นๆ อีกมากมายได้อย่างถูกต้อง 

ไปที่ xBitcoin AI

คริปโตเคอเรนซี่นั้นไม่ได้รับการกำกับดูแล การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลจะทำให้คุณไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

ตัวเลือกการชำระเงินใดบ้างที่ xBitcoin AI ยอมรับ

เมื่อทำการฝากเงินขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์โดยใช้วิธีการชำระเงินต่อไปนี้:

  • PayPal
  • Skrill
  • Neteller
  • Webmoney

คุณสามารถทำกำไรได้เท่าไรด้วย xBitcoin AI?

ที่ xBitcoin AI แพลตฟอร์มเคลมว่ามีอัตราการทำกำไรที่ 88% นี่เป็นเพราะความสามารถของซอฟต์แวร์ในการสแกนตลาดได้เร็วกว่าคู่แข่งใดๆ ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีการรับประกันว่าจะทำกำไรได้ แพลตฟอร์มระบุว่าจะเสนอซอฟต์แวร์ที่ช่วยลดความพยายามของผู้ใช้ลง

เราไม่พบข้อมูลใด ๆ เพื่อยืนยันการเคลมของแพลตฟอร์ม

ฉันจะลบบัญชี xBitcoin AI ของฉันได้อย่างไร 

ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการตั้งค่านี้จากแท็บเมนูเพื่อลบบัญชี อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังสามารถยกเลิกบัญชีของพวกเขากับโบรกเกอร์บุคคลที่สามที่รับผิดชอบได้ ลองติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหากคุณไม่สามารถลบบัญชีได้

ฝ่ายบริการลูกค้า xBitcoin AI

นอกเหนือจากการเข้ารหัส SSL และข้อบังคับ AML แล้ว xBitcoin AI เคลมว่ามีทีมสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หลังจากสร้างบัญชี ผู้ใช้จะได้รับการติดต่อจากฝ่ายสนับสนุนทันทีเพื่อยืนยันบัญชี

แม้ว่าจะไม่มีคะแนน Trustpilot สำหรับแพลตฟอร์มการเทรดนี้ แต่ xBitcoin AI ระบุว่าจะทำงานตลอดเวลาเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับบัญชีสำหรับลูกค้า สามารถติดต่อทีมบริการลูกค้าได้ผ่านแชทสด อีเมล และโทรศัพท์

บทสรุป

การรีวิว xBitcoin AI นี้ได้พิจารณาเชิงลึกเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการเทรดอัตโนมัตินี้ xBitcoin AI เคลมว่านำเสนอซอฟต์แวร์ในตัวซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสแกนตลาดคริปโตเคอเรนซี่เพื่อหาโอกาสในการเทรดที่มีศักยภาพ 

แม้ว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเคลมว่ารองรับคุณสมบัติการเทรดทดลอง การเทรดด้วยเลเวอเรจ และอื่นๆ เราขอแนะนำให้นักลงทุนทำการวิเคราะห์และค้นคว้าก่อนที่จะลงทุนในแพลตฟอร์มการเทรดใดๆ 

Categories
การเทรด บอทบิทคอยน์

รีวิว Secret crisis blueprint ดีไหม? อัพเดทปี 2023 

ตลาดคริปโตเคอเรนซี่กำลังฟื้นตัว ทำให้มีองค์กรจำนวนมาก เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ บางคนได้รับแรงผลักดันที่ไม่เหมือนใครในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งแพลตฟอร์มเทรดคริปโต เป็นช่องทางที่นักลงทุนต้องการอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยให้นักลงทุนทำกำไรได้ตลอดเวลา

หนึ่งในบอทเทรดคริปโตรายวันอย่าง Secret Crisis Blueprint ก็น่าสนใจไม่แพ้ใคร ซึ่งเราจะรีวิว Secret crisis blueprint ในเชิงลึกให้ครอบคลุมข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบว่า Secret crisis blueprint ดีไหม?

สรุปรีวิว Secret crisis blueprint

Secret Crisis Blueprint มีฟีเจอร์หลายอย่างที่อาจดึงดูดให้นักเทรดคริปโตมือใหม่ กลายเป็นผู้ใช้งานที่เก่งขิ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะบอทเทรด crypto จริง ควรพิจารณาองค์ประกอบที่มีอยู่ทั้งหมดเสมอ นี่คือข้อมูลรีวิว Secret crisis blueprint บางส่วนจากเว็บไซต์ Secret Crisis Blueprint

💠 คริปโตเคอเรนซี่ที่รองรับBTC, ETH, XRP, ADA, LTC และอื่น ๆ
💥 อัตราความสำเร็จ99.4%
ℹ ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นไม่มี
💵 เงินฝากขั้นต่ำ$250
📱 แอพมือถือไม่มี
🕘 ความเร็วในการถอน 24 ชม.
🏺 ประเภทของการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่
📞 ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าแชทสดและอีเมล

ไปยัง Secret crisis blueprint ตอนนี้  

คริปโตเคอเรนซี่ไม่ได้รับการควบคุม การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการควบคุมจะไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

Secret crisis blueprint คืออะไร?

Secret Crisis Blueprint เคลมว่าเป็นบอทเทรดอัตโนมัติ ที่คุณสามารถซื้อหรือขายเหรียญคริปโตได้ตลอดเวลา 

โดยธรรมชาติแล้ว แพลตฟอร์มการเทรด crypto รูปแบบดังกล่าว ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากตั้งแต่ช่วงตลาดขาขึ้นก่อนหน้านี้

เพราะโดยพื้นฐานแล้ว การใช้บอทเทรดคริปโต จะไม่ต้องคอยกังวลเกี่ยวกับการซื้อขายในแต่ละเวลา เนื่องจาก Secret Crisis Blueprint จะใช้โปรแกรมเทรดคริปโตให้กับนักลงทุน ซึ่ง

มีอัตราความแม่นยำสูง และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจ เพราะเชื่อว่าจะสร้างผลกำไรที่ดีได้ อย่างไรก็ตาม รีวิว Secret crisis blueprint ไม่พบข้อมูลหรือหลักฐานที่ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับการเคลมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือบนเว็บไซต์ก็ตาม

ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นใช้งานกราฟบอทคริปโต และเทรดเหรียญคริปโต AI เช่น BTC, ETH, ADA, XRP, LTC และอื่น ๆ ตามเว็บไซต์ได้ บางคนอาจพบว่า มีสัญญาณเตือนที่ควรต้องระวัง เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ที่ระบุโดยทีมพัฒนา มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ดังนั้น จึงเป็นการดีกว่าถ้านักลงทุนจะศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ก่อนที่จะตัดสินใจใช้แพลตฟอร์มนี้จริง และเปรียบเทียบกับบอทเทรดคริปโตรายวันอื่น ๆ ด้วย

ข้อมูลที่จำกัดมาพร้อมกับข่าวลือเช่นกัน รีวิว Secret crisis blueprint ระบุว่า อาจมีบุคคลที่มีอิทธิพลสูงเข้ามาเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนชัดเจน แต่รีวิว Secret crisis blueprint และเพจออนไลน์หลายเพจ ก็ต่างพูดถึงเรื่องนี้เป็นเสียงเดียวกัน

ข้อดีและข้อเสียของ Secret crisis blueprint

มาดูรีวิว Secret crisis blueprint เกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของบริษัทนี้กัน:

ข้อดี:

  • เทรด crypto ได้หลากหลายสินทรัพย์
  • ขั้นตอนการสมัครรวดเร็ว
  • บริการลูกค้าดีเยี่ยม
  • ไม่มีค่าธรรมเนียม

ข้อเสีย:

  • เงินฝากขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์
  • ใช้งานแพลตฟอร์มได้เมื่อฝากเงินครั้งแรกแล้วเท่านั้น
  • เว็บไซต์มีข้อมูลจำกัด

ไปยัง Secret crisis blueprint ตอนนี้  

คริปโตเคอเรนซี่ไม่ได้รับการควบคุม การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการควบคุมจะไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

Secret crisis blueprint ทำงานอย่างไร?

เราสามารถเริ่มต้นใช้งาน Secret Crisis Blueprint ได้อย่างง่ายดาย ตามรีวิว Secret crisis blueprint จะต้องเริ่มจากการลงทะเบียนผู้ใช้งานก่อน จากนั้นฝากเงินขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ ก็จะทำให้สามารถใช้บริการทั้งหมดในโดยเว็บไซต์ได้

รีวิว Secret crisis blueprint ยังระบุด้วยว่า แพลตฟอร์นี้ฉลาดและใช้งานง่าย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ Secret Crisis Blueprint ถูกรวมเข้ากับโซลูชันในการซื้อขายที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น MT4 หรือ Meta Trader 4 ซึ่งจะมีบริการบัญชีทดลอง สำหรับนักลงทุนที่ฝากเงินขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์แล้ว

แม้ว่าจะไม่มีแอพโดยเฉพาะ แต่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้ผ่านเบราว์เซอร์บนมือถือหรือพีซี  ฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่เว็บไซต์เคลมไว้ และยากที่จะตรวจสอบเนื่องจากข้อมูลบนเว็บไซต์มีค่อนข้างจำกัด

ฟีเจอร์หลักของ Secret crisis blueprint

การรีวิว Secret crisis blueprint ได้ตรวจสอบฟีเจอร์หลักบางประการที่ Secret Crisis Blueprint เคลมไว้ แม้ว่าข้อมูลเกือบทั้งหมดจะมาจากตัวเว็บไซต์เอง และเราไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับฟีเจอร์หลักใด ๆ ที่แสดงรายการด้านล่างนี้ได้

ซื้อขายหลายสินทรัพย์ 

เห็นได้ชัดว่า Secret Crisis Blueprint ไม่รองรับเพียงแค่ BTC เท่านั้น แต่ยังรวมถึง altcoins ชั้นนำหลายตัว เช่น ETH, LTC, XRP, ADA เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของเว็บไซต์ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการซื้อขายได้ง่ายผ่านช่องทางเดียว

บัญชีทดลอง

นักลงทุนบางราย อาจต้องการฝึกฝนกลยุทธ์ที่ไหนสักแห่งก่อนลงสนามจริง ซึ่งรีวิว Secret crisis blueprint พบว่า มีบริการบัญชีทดลอง ในกรณีที่นักลงทุนฝากเงิน 250 ดอลลาร์ เรียบร้อยแล้ว

ค่าธรรมเนียมของ Secret crisis blueprint

ข้อมูลจากเว็บไซต์ พบว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าคอมมิชชั่นที่เรียกเก็บโดยบริษัท Secret Crisis แต่ผู้ใช้งานต้องเริ่มต้นด้วยการลงทะเบียน และฝากเงิน 250 ดอลลาร์ เพื่อปลดล็อกบริการทั้งหมด รีวิว Secret crisis blueprint เชื่อว่า การเคลมว่าไม่มีค่าธรรมเนียม จะช่วยให้แพลตฟอร์มดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักลงทุน

ต่อไปนี้คือโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แท้จริงของแพลตฟอร์ม : 

ค่าธรรมเนียมการเทรดไม่มี
ค่าธรรมเนียมบัญชีไม่มี
ค่าคอมมิชชั่นไม่มี
ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงินไม่มี

ไปยัง Secret crisis blueprint ตอนนี้  

คริปโตเคอเรนซี่ไม่ได้รับการควบคุม การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการควบคุมจะไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

เงินฝากขั้นต่ำของ Secret crisis blueprint

การรีวิว Secret crisis blueprint บอกไปแล้วว่า จำนวนเงินฝากขั้นต่ำบนเว็บไซต์ Secret Crisis Blueprint คือ 250 ดอลาร์ และจำเป็นต้องฝากเงินจำนวนนี้หลังจากลงทะเบียน เพื่อเข้าถึงบริการทั้งหมดที่มีบนแพลตฟอร์มการเทรดเหรียญคริปโต AI 

อุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ Secret crisis blueprint

Secret Crisis Blueprint ใช้ได้กับอุปกรณ์บางรุ่นที่รีวิว Secret crisis blueprint พบว่า รองรับกับแพลตฟอร์ม ได้แก่:

  • เดสก์ท็อปและแล็ปท็อป
  • ไอแพดและแท็บเล็ตอื่น ๆ
  • มือถือที่ใช้อินเตอร์เนตได้

Secret crisis blueprint เป็นการหลอกลวงหรือไม่?

ในขณะที่พยายามตรวจสอบแพลตฟอร์มทั้งหมด เราก็ได้ข้อสรุปหนึ่งข้อ นั่นคือ ไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใด ๆ ตามที่ Secret Crisis เคลมไว้ ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ทำให้การรีวิว Secret crisis blueprint ยากที่จะตรวจสอบความถูกต้อง

มีการเคลมว่า วิธีการเทรดคริปโตแบบนี้ สามารถทำกำไรให้กับผู้ใช้งานในอัตราความแม่นยำประมาณ 99.4% เช่นเดียวกับที่อื่น ๆ รีวิว Secret crisis blueprint พบว่า เป็นการยากที่จะหาข้อมูลใด ๆ มายืนยัน ยิ่งไปกว่านั้น เราได้ตรวจสอบรีวิว Secret crisis blueprint จากหลากหลายแห่ง เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับแพลตฟอร์ม หากไม่มีโซเชียลมีเดีย คงจะทำให้การค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเป็นงานที่ยากเย็นแน่นอน

ไปยัง Secret crisis blueprint ตอนนี้  

คริปโตเคอเรนซี่ไม่ได้รับการควบคุม การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการควบคุมจะไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า Secret crisis blueprint

รีวิว Secret crisis blueprint พบว่า Secret Crisis มีระบบสนับสนุนลูกค้าที่รองรับลูกค้าทางออนไลน์ แต่ใช้ได้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนหรือฝากเงินในบัญชีขั้นต่ำ จะไม่สามารถเข้าถึงการสนับสนุนเหล่านี้ได้

วิธีใช้งาน Secret crisis blueprint

หลังจากรีวิว Secret crisis blueprint แล้ว คุณอาจตัดสินใจได้ว่า ต้องการสมัครใช้งาน Secret Crisis หรือไม่ หากคุณวางแผนที่จะใช้งานบอทเทรด crypto ตัวนี้ นี่คือกระบวนการทีละขั้นตอนในการเริ่มต้น

ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียน Secret crisis blueprint

ไปยังเว็บไซต์ Secret crisis blueprint เพื่อเริ่มลงทะเบียนผู้ใช้งานใหม่ ด้วยการกรอกชื่อ, อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ 

ขั้นตอนที่ 2: ฝากเงิน

รีวิว Secret crisis blueprint พบว่า คุณสามารถฝากเงินที่คุณต้องการเท่าไหร่ก็ได้ แต่อย่างน้อยต้องมากกว่า 250 ดอลลาร์ เนื่องจากเป็นข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำ 

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มเทรดคริปโตเคอเรนซี่ 

หลังจากฝากเงินแล้ว ให้ค้นหาบิทคอยน์หรือคริปโตเคอเรนซี่ที่ต้องการลงทุน เริ่มการซื้อขายผ่านโปรแกรมเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์ม และใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เลย

ไปยัง Secret crisis blueprint ตอนนี้  

คริปโตเคอเรนซี่ไม่ได้รับการควบคุม การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการควบคุมจะไม่ได้รับการคุ้มครองผู้ลงทุน

จะยกเลิกบัญชี Secret crisis blueprint ได้อย่างไร?

รีวิว Secret crisis blueprint พบว่า การยกเลิกบัญชี Secret Crisis ให้ไปที่ตัวเลือกเมนู และมองหาตัวเลือกลบบัญชี แม้ว่าเราจะเชื่อว่า Secret crisis blueprint ทำได้ แต่ก็ไม่มีคำแนะนำที่ชัดเจน

Jeff Bezos ใช้ Secret crisis blueprint หรือไม่?

Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และเป็นนักลงทุนตัวยง อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลที่พิสูจน์ได้ว่า Jeff Bezos ใช้ Secret Crisis Blueprint

Elon Musk ใช้  Secret crisis blueprint หรือไม่?

Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในวงการคริปโตเคอเรนซี่ แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าเขาอาจมีความเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม Secret Crisis Blueprint แต่รีวิว Secret crisis blueprint ไม่พบหลักฐานสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว และไม่พบว่า Elon Musk ใช้บอทเทรดคริปโตตัวนี้จริงหรือไม่

Matin Lewis ใช้  Secret crisis blueprint หรือไม่?

รีวิว Secret crisis blueprint ไม่มีข้อมูลใดที่บ่งชี้ว่า Martin Lewis ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการเงิน จะใช้บริการของ Secret Crisis Blueprint

ใครเป็นเจ้าของ Secret crisis blueprint ?

ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้สร้างหรือทีมนักพัฒนา ที่อยู่เบื้องหลัง Secret Crisis Blueprint นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เนื่องจากแพลตฟอร์มที่คล้ายกันส่วนใหญ่ มักเปิดเผยตัวจนของนักพัฒนาหรือผู้ก่อตั้งบนเว็บไซต์ แต่รีวิว Secret crisis blueprint กลับพบว่า บนเว็บไซต์ไม่มีข้อมูลของผู้พัฒนาปรากฎในขณะนี้

วิธีการชำระเงิน Secret crisis blueprint

วิธีด้านล่างนี้ เป็นวิธีการชำระเงินบางส่วนบน Secret crisis blueprint:

  • เพย์พาล PayPal
  • บัตรเครดิต
  • บัตรเดบิต

บทสรุปเกี่ยวกับรีวิว Secret crisis blueprint

การเทรดคริปโตระยะสั้นผ่าน Secret Crisis Blueprint ดูจะเป็นวิธีการเทรดคริปโตที่น่าตื่นเต้นในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม ด้วยฟีเจอร์, ตัวเลือก และส่วนประกอบมากมายภายในบอทเทรด ยังไม่สามารถยืนยันได้จริง เนื่องจากมีข้อมูลบนเว็บไซต์ที่ค่อนข้างจำกัด

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ อาจเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับนักลงทุน ที่จะสงสัยว่า Secret crisis blueprint ปลอดภัยไหม? หรือนี่เป็นบอทเทรด bitcoin ดีไหม?

รีวิว Secret crisis blueprint ขอแนะนำให้นักลงทุนแต่ละราย ทำการศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด เกี่ยวกับเบื้องหลังของบอทเทรด bitcoin ฟรีนี้ ก่อนที่จะลงทุนเพื่อหวังผลกำไรในอนาคต เพราะการซื้อขายทั้งหมดมีความเสี่ยง และควรลงทุนเท่าที่คุณจะยอมรับความเสี่ยงขาดทุนได้เท่านั้น

Categories
NFT ไม่มีหมวดหมู่

Metaverse

Categories
การเทรด บอทบิทคอยน์

รีวิว Profit Builder ฉบับปี 2023 – ดีจริงไหม?

แพลตฟอร์มเทรดคริปโตเปิดบริการอยู่ทั่วไปในทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรม Blockchain ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นมาอาจไม่ได้เป็นช่องทางเทรดที่ดีทั้งหมด การคำนึงถึงคุณภาพ ฟีเจอร์ที่หลากหลาย และส่วนอื่นๆ จึงมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจใช้งานแพลตฟอร์มเหล่านี้ โดย ‘Profit Builder’ เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เริ่มได้รับความสนใจอย่างสูงจากนักลงทุน

การรีวิว Profit Builder ของเราจะวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย ฟีเจอร์ และอื่นๆ พร้อมเจาะลึกในรายละเอียดของแพลตฟอร์มและตรวจสอบว่าปลอดภัยไหม

สรุป Profit Builder

นี่คือตารางข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแพลตฟอร์มก่อนที่จะเริ่มรีวิว

🏺 ประเภทแพลตฟอร์มกระดานเทรดคริปโต
💠 เหรียญคริปโตที่รองรับ15 เหรียญคริปโต รวมถึง BTC และ ETH
🕘 เวลาถอน24 ชั่วโมง
💵 เงินฝากขั้นต่ำ£/$250

ไปยัง Profit Builder ตอนนี้

เหรียญคริปโตไม่มีการกำกับดูแล การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับจะไม่มีการป้องกันนักลงทุนใดๆ

Profit Builder คืออะไร?

Profit Builder เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ให้ซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยเคลมว่ารองรับตั้งแต่ Bitcoin ไปจนถึง Altcoin อื่นๆ โดยตัวเว็บไซต์แนะนำว่า Profit Builder เป็นทางเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการก้าวนำตลาดขาลงและทำกำไรแม้ในสภาวะเศรษฐกิจจะผันผวนในปัจจุบัน

ในฐานะบอทเทรด Profit Builder มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของการเทรดให้กับผู้ใช้ โดยเคลมว่าจะเปิดและปิดสถานะได้อย่างอิสระ ทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนและเมื่อจังหวะในการเทรด ทั้งยังมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเข้าใจไม่ยาก

การทำกำไรด้วยบอทเทรดอย่างสม่ำเสมอจะเป็นเรื่องยากและไม่มีการรับประกันว่า Profit Builder จะให้ผลตอบแทนที่ดี เราจึงขอแนะนำอย่างยิ่งให้ศึกษาด้วยตัวคุณเองก่อนเริ่มฝากเงินลงในแพลตฟอร์ม

แม้ทาง Profit Builder จะนำเสนอตัวเองเป็น “แพลตฟอร์มเทรดที่ทรงพลังและใช้ง่าย” ด้วยการออกแบบที่ไร้รอยต่อ แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ ดังนั้นผู้ใช้จะต้องใช้งานอย่างระมัดระวังและประเมินความสามารถและข้อจำกัดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

แพลตฟอร์มนำเสนอข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเหรียญคริปโตและโอกาสทำกำไรในฐานะสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็ไม่ค่อยมีการนำเสนอเกี่ยวกับแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดควรรู้เอาไว้

Profit Builder – ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี:

  • สมัครง่าย
  • รองรับสินทรัพย์หลากหลาย
  • บอทเทรดอัตโนมัติ
  • ฟีเจอร์มีความปลอดภัยสูง
  • มีบัญชีทดลอง

ข้อเสีย:

  • เงินฝากขั้นต่ำสูง
  • มีข้อมูลบนเว็บไม่มากนัก
  • ไม่เปิดเผยผู้พัฒนา

ไปยัง Profit Builder ตอนนี้

เหรียญคริปโตไม่มีการกำกับดูแล การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับจะไม่มีการป้องกันนักลงทุนใดๆ

Profit Builder ทำงานอย่างไร?

เว็บ Profit Builder ยังขาดข้อมูลในด้านการทำงานของระบบเทรดอัตโนมัติบนเว็บ แต่ก็อธิบายถึงประโยชน์ของการใช้แพลตฟอร์ม ซึ่งแม้ว่าที่เคลมว่าจะยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ Profit Builder ก็ยืนยันว่าใช้อัลกอริทึมขั้นสูงที่สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้อย่างต่อเนื่องและคาดการณ์ราคาสินทรัพย์ตามรูปแบบในอดีต

แพลตฟอร์มเทรดหลักหลายๆ แห่งได้พิสูจน์ความสามารถในการคาดการณ์ราคาอย่างแม่นยำผ่านบอทเทรดที่มีประสิทธิภาพ แต่ Profit Builder ก็ไม่ได้แสดงหลักฐานว่าระบบของตนสามารถให้ความแม่นยำในการคาดการณ์ราคาได้ดีกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม Profit Builder ได้เน้นย้ำว่าระบบบอทเทรดเป็นข้อได้เปรียบหลักๆ สำหรับผู้ใช้งาน

โดยเคลมว่าบริการตลอด 24 ชั่วโมง และลดการลงมือเทรดด้วยตนเอง เพื่อทำให้กระบวนการเทรดขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่มีเวลาติดตามการลงทุนอย่างจริงจัง

ฟีเจอร์หลักของ Profit Builder

ฟีเจอร์หลักๆ ที่เราพบจากการรีวิว Profit Builder​ คือ:

การทดลองเทรด

ฟีเจอร์หลักของทุกแพลตฟอร์มเทรดคือบัญชีทดลอง และ Profit Builder ก็มีเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่สามารถใช้ฝึกการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงลงทุนด้วยเงินจริง Profit Builder จะให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้ความซับซ้อนของการเทรดทั้งระยะสั้นและยาวและทำความคุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซของแพลตฟอร์ม เครื่องมือสร้างกราฟ และฟีเจอร์อื่นๆ ด้วยบัญชีทดลองเทรด

รองรับสินทรัพย์หลากหลาย

นักเทรดหลายคนชอบแพลตฟอร์มที่รองรับเหรียญคริปโตหลายสกุล มากกว่าจะต้องสลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์มเพื่อเทรดสินทรัพย์ต่างๆ โดย Profit Builder ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความซับซ้อนลงด้วยการรองรับเหรียญคริปโตชั้นนำที่หลากหลายในที่เดียว

โดยรองรับตั้งแต่ Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Dash และ Binance Coin เป็นต้น เพื่อให้นักเทรดสามารถจัดการการลงทุนและเทรดเหรียญคริปโตหลายๆ สกุลโดยไม่ต้องไปใช้แพลตฟอร์มอื่น

ไม่มีค่าธรรมเนียม

Profit Builder เคลมว่าไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับบริการต่างๆ ซึ่งอาจฟังดูเหมือนเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้บางคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบข้อกำหนดทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ

ความปลอดภัยสูง

ทีมงานเคลมว่าได้ให้ความสำคัญกับการเทรดที่ปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นนำ เช่น การเข้ารหัส SSL ซึ่งจะช่วยป้องกันการแฮ็ค เช่นเดียวกับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงิน

ค่าธรรมเนียมของ Profit Builder

Profit Builder เคลมว่าไม่มีนโยบายเก็บค่าธรรมเนียมบนเว็บไซต์ ซึ่งมีการอธิบายเอาไว้ในหน้าแรกว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดของแพลตฟอร์ม และยังไม่มีค่าลงทะเบียนหรือค่าคอมมิชชั่นอีกด้วย แต่จำเป็นต้องฝากเงินขั้นต่ำเพื่อใช้งานเครื่องมือ แดชบอร์ดการเทรด และใช้งานแพลตฟอร์ม

นี่คือตารางโครงสร้างค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มแบบละเอียด:

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมไม่มี
ค่าคอมมิชชั่นการเทรดไม่มี
ค่ารักษาบัญชีไม่มี
ค่าใช้จ่ายแอบแฝงไม่มี

Profit Builder ปลอดภัยหรือไม่?

Profit Builder ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเทรด Crypto โดยมีบอทเทรดอัตโนมัติและไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับฟีเจอร์อื่นๆ โดยมีเว็บไซต์ที่น่าสนใจซึ่งมีข้อมูลที่เกี่ยวกับเหรียญคริปโตมากมายในหน้าอินเทอร์เฟซ แต่ความปลอดภัยของ Profit Builder นั้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์เนื่องจากข้อมูลที่จำกัด

ความโปร่งใสที่น้อยอาจทำให้เกิดความกังวลเมื่อพิจารณาแพลตฟอร์มการเทรด และผู้ใช้อาจต้องศึกษาด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าแพลตฟอร์มนั้นดีจริงและปลอดภัยก่อนเริ่มลงทุน นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงแนะนำให้นักเทรดพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้และวิเคราะห์แพลตฟอร์มอย่างละเอียดก่อนเริ่มสมัครและลงทุน

เงินฝากขั้นต่ำของ Profit Builder

Profit Builder ไม่ได้ระบุข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำหรือสูงสุดไว้อย่างชัดเจน แต่เพื่อให้ใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมด ผู้ใช้จะต้องฝากเงินขั้นต่ำที่ £/$250 และจะเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำสำหรับการฝากครั้งถัดไปเช่นกัน

ซึ่งถือว่าเยอะ เราจึงแนะนำให้พิจารณาเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ร่วมด้วย และผู้ใช้ต้องพิจารณาสถานการณ์ทางการเงินอย่างรอบคอบและลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้เท่านั้น โดยจะเป็นการดีหากมือใหม่เริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยในทีแรก และค่อยๆ เพิ่มการลงทุนเมื่อได้รับประสบการณ์และความมั่นใจในการเทรดบนแพลตฟอร์มมากขึ้น

ไปยัง Profit Builder

เหรียญคริปโตไม่มีการกำกับดูแล การซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่ไม่มีการกำกับจะไม่มีการป้องกันนักลงทุนใดๆ

การสนับสนุนลูกค้าของ Profit Builder 

สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีของ Profit Builder ทางแพลตฟอร์มก็เคลมว่าพร้อมบริการลูกค้าทางโทรศัพท์และอีเมลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นอีกฟีเจอร์ที่ดี เพราะสามารถให้ความอุ่นใจแก่นักเทรดที่อาจมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มหรือการเทรดของตน

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าในการสมัครและเข้าถึงบริการต่างๆ ผู้ใช้จะต้องฝากเงินเริ่มต้นที่ £/$250 ซึ่งนอกจากจะเป็นเงินที่ใช้เทรดบนแพลตฟอร์มแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงการสนับสนุนลูกค้าของ Profit Builder อีกด้วย

วิธีเริ่มต้นใช้งานกับ Profit Builder

หลังจากอ่านรีวิว Profit Builder และอยากเริ่มต้นใช้งาน ผู้ใช้ก็สามารถสมัครและเริ่มเทรดได้อย่างง่ายดายโดยทำตามขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน โปรดทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเว็บปลอมที่อ้างว่าเป็นแพลตฟอร์ม Profit Builder ของจริง

ขั้นที่ 1- สร้างบัญชี Profit Builder

ไปที่เว็บไซต์ Profit Builder และดำเนินการลงทะเบียนให้เสร็จสิ้น ซึ่งคุณจะต้องกรอกชื่อนามสกุล ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์

ขั้นที่ 2 – ฝากเงิน

นักลงทุนจะต้องฝากเงินจำนวน £/$250 ซึ่งทางแพลตฟอร์มก็รองรับรูปแบบการชำระเงินมากมาย โดยส่วนใหญ่จะดำเนินการทันทีและไม่ยุ่งยาก ทำให้กระบวนการฝากเงินรวดเร็วและง่ายดาย โดยรองรับทั้ง PayPal การโอนเงินผ่านธนาคาร และบัตรเครดิตโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก

ขั้นที่ 3 – เริ่มเทรดกับแพลตฟอร์ม Profit Builder

เมื่อสร้างบัญชีและฝากเงินแล้ว แพลตฟอร์มจะวิเคราะห์ตลาดและดำเนินการเปิดสถานะในนามของนักลงทุน เพื่อทำความคุ้นเคยกับฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานของแพลตฟอร์ม ผู้ใช้สามารถใช้บัญชีทดลองของ Profit Builder ได้

แพลตฟอร์มจะให้ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ตลอดเวลา ความยืดหยุ่นนี้เป็นอีกข้อได้เปรียบสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดสอบประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียเงินลงทุน

วิธีลบบัญชี Profit Builder

แพลตฟอร์ม Profit Builder ระบุว่าสามารถลบบัญชีของตนได้โดยไปที่เมนูหลัก อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้สามารถขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุนลูกค้าได้หากประสบปัญหาในระหว่างดำเนินการ

Profit Builder ได้รับการรับรองโดยคนดังหรือไม่?

แม้จะมีการเคลมบนเว็บไซต์ต่างๆ เกี่ยวกับการรับรอง Profit Builder จากบุคคลที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการเงินหรือวงการบันเทิง แต่แพลตฟอร์มดังกล่าวก็ไม่ได้ให้หลักฐานที่เป็นรูปธรรมใดๆ เพื่อสนับสนุนการรับรองดังกล่าว

แม้ว่าการเชื่อมโยงดังกล่าวอาจกระตุ้นความสนใจของผู้ใช้บางคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่มีการเชื่อมโยงใดๆ ระหว่าง Profit Builder กับคนดังแต่อย่างใดที่ได้รับการยืนยันจากการวิเคราะห์ของเรา เป็นสิ่งสำคัญเสมอสำหรับบุคคลที่จะต้องใช้ความระมัดระวังเมื่อประเมินความถูกต้องของการเรื่องดังกล่าวและศึกษาข้อมูลแพลตฟอร์มใดๆ อย่างละเอียดก่อนที่จะใช้สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน

บทสรุปการรีวิว Profit Builder

กล่าวโดยสรุป Profit Builder เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีอยู่มากมายสำหรับนักลงทุน ซึ่งให้ผลประโยชน์มากมาย อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนี้ แม้จะเคลมว่ามีอัตราความสำเร็จสูง แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันสำหรับสนับสนุนเรื่องที่เคลมมา

ดังนั้น นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังและทำการศึกษาอย่างละเอียดก่อนใช้แพลตฟอร์ม ซึ่งหากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ของ Profit Builder คุณก็สามารถไปยังเว็บไซต์ได้โดยคลิกที่ลิงก์ต่อไปนี้