Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

รีวิว ExpressVPN ปี 2023 | ExpressVPN ดีไหม?

การรีวิว ExpressVPN นี้ จะพิจารณาหนึ่งในบริการ VPN ที่ดีที่สุดในตลาด และตอบคำถามว่า “คุ้มค่าหรือไม่?” ExpressVPN เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือน ที่มุ่งมั่นในความเป็นส่วนตัวและให้บริการมานานกว่าทศวรรษ ในโลกที่ชีวิตส่วนใหญ่ของเราผูกพันกับโลกออนไลน์ ทำให้ ExpressVPN เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN ระดับสูง ที่สามารถปกป้องข้อมูลของคุณได้ แต่สิ่งที่ทำให้ ExpressVPN ไม่เหมือนใคร คือ ความมุ่งมั่นในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน โดยมีเซิร์ฟเวอร์กระจายอยู่ทั่วโลก และให้ความเร็ว VPN แรง ๆ อย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากบริการ VPN เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ละเลยความปลอดภัยหรือความสามารถในการใช้งาน เมื่อคุณอยากรู้ว่าควรเลือก VPN ตัวไหนดี อาจมีความสงสัยว่า ExpressVPN จะเป็นจริงตามโฆษณาหรือไม่ เพราะมีหลาย ๆ ผู้ให้บริการที่ไม่สามารถทำได้ตามที่เคลมไว้ 

🖥 จำนวนเซิร์ฟเวอร์3,000+
🏝 ราคาเริ่มต้น $6.67/เดือน
💵 รองรับอุปกรณ์ได้สูงสุด5
🔢 ความเร็วเฉลี่ย375-430 Mbps
🚤 ฝ่ายบริการลูกค้าผ่านแชทสดและอีเมล ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
📞 การรับประกันคืนเงิน30 วัน
🏞  จำนวนประเทศ94

รีวิว ExpressVPN พบว่า ฟีเจอร์ที่มากมายของ ExpressVPN และความเร็ว VPN แรงๆ ทำให้นี่กลายเป็นตัวเลือก VPN ตัวไหนดีที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่กำลังมองหา VPN เพื่อใช้ในงานในแต่ละวัน แม้ว่าจะมีราคาแพงแต่คุณภาพที่ให้ก็คุ้มค่า ยิ่งไปกว่านั้น ExpressVPN ยังรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย หากคุณยังไม่มั่นใจ สามารถทดลองใช้ ExpressVPN ด้วยตัวคุณเองโดยไม่มีข้อผูกมัดในการสมัครสมาชิก และไม่ต้องเสี่ยงเงินสักบาท

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

รีวิวฟีเจอร์ใน ExpressVPN

Network Lock 

Network Lock เป็น kill-switch หรือฟีเจอร์ป้องกันการเชื่อมต่อ ที่บังคับให้ทราฟฟิกเครือข่ายทั้งหมดเชื่อมต่อผ่าน VPN ของคุณเท่านั้น สิ่งนี้ช่วยป้องกันการถ่ายโอนข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่ได้เข้ารหัส และหากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณหยุดชะงักไป ข้อมูลก็จะยังคงปลอดภัยและเป็นส่วนตัว คิลสวิตช์จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อเครือข่ายไม่เสถียร, เมื่อไฟร์วอลล์บล็อก VPN หรือเมื่อเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นในแอป ExpressVPN และไม่สามารถปิดบนเราเตอร์ได้

ตัวแยกช่องสัญญาณ

Split Tunneling หรือตัวแยกช่องสัญญาณ เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ของ ExpressVPN ซึ่งช่วยให้คุณเลือกแอปหรืออุปกรณ์ที่ใช้กับ VPN ได้ สิ่งนี้มีประโยชน์มากมาย เช่น คุณสามารถสตรีมเนื้อหาต่างประเทศ ในขณะที่ใช้บริการในบ้านของตัวเองได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดภาระของแบนด์วิธ เพื่อทำให้อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้นอีกด้วย เนื่องจากอุปกรณ์ใด ๆ ที่เชื่อมต่อกับแบนด์วิธจะใช้งานมากขึ้น ดังนั้น การนำอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไป สามารถจัดสรรแบนด์วิธและเพิ่มความเร็ว VPN แรง ๆ ได้มากขึ้น คุณสามารถตั้งค่าการแยกช่องสัญญาณตามค่าเริ่มต้น หรือปรับค่าตามต้องการได้ รีวิว ExpressVPN ยังพบว่า เราเตอร์สามารถจัดกลุ่มอุปกรณ์ตามการใช้บริการและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้

TrustedServer

เซิร์ฟเวอร์ของ ExpressVPN ชื่อว่า TrustedServer ซึ่งมีฟีเจอร์หลายอย่างที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย เซิร์ฟเวอร์ใช้ OS ชั่วคราวที่จัดเก็บใน RAM ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการบันทึกข้อมูลที่ทำงานผ่านเซิร์ฟเวอร์ลงในดิสก์จริง ข้อมูลทั้งหมดจะถูกล้างเมื่อรีบูตในแต่ละครั้ง ดังนั้น จึงไม่มีการบันทึกข้อมูลการใช้งาน หรือการรับส่งข้อมูลเครือข่าย รีวิว ExpressVPN ยังใช้ระบบการจัดการที่แข็งแกร่ง ซึ่งติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ใหม่โดยใช้การวนซ้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ ExpressVPN ยังเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัย ด้วยเงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์ สำหรับใครก็ตามที่พบช่องโหว่ของ TrustedServer ที่ผ่านการตรวจสอบโดย PwC ในปี 2019 และผ่านการตรวจสอบโดย KPMG ด้วย

SmartDNS

ExpressVPN รีวิวว่าใช้ DNS ที่เข้ารหัสส่วนตัวของตัวเอง หรือหมายความว่า จะไม่มีบุคคลภายนอกบอกได้ว่าเว็บไซต์ใดกำลังเข้าถึงผ่าน VPN เมื่อรวมกับข้อเท็จจริงที่ว่า ข้อมูลการท่องเว็บไม่ได้ถูกบันทึก ทำให้ข้อมูลยากต่อการถูกขโมยโดยบุคคลที่สาม เนื่องจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือองค์กรขนาดใหญ่ มักจะใช้ DNS เพื่อบล็อกการเข้าถึงของเว็บไซต์บางแห่ง การเข้ารหัส DNS ส่วนตัว ยังช่วยให้หลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ได้ โดยการเข้ารหัสแบบ 256 บิต ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่ใครจะเข้ามาโจมตีข้อมูลส่วนตัวของคุณ

Lightway

Lightway เป็นโปรโตคอล VPN แบบกำหนดเองของ ExpressVPN รีวิวว่าออกแบบมาเพื่อใช้กับแอป ExpressVPN โดยเฉพาะ สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยทีมพัฒนาของ ExpressVPN ทำให้ Lightway ใช้ความเร็วและความสามารถของ WireGuard แต่ยังแก้ไขข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยได้ Lightway มีให้บริการทั้งบน Android, iOS, Windows, Mac, Linux และเราเตอร์

รีวิว ExpressVPN ด้านการใช้งานที่ง่าย

ฉันสามารถใช้ ExpressVPN บนอุปกรณ์ใดได้บ้าง

พีซี

ExpressVPN เข้าได้กับ Windows 7 เป็นต้นไป มีหน้าต่างใช้งานที่เรียบง่าย และการออกแบบแอพที่โดดเด่น ที่สำคัญ ยังมีฟีเจอร์ที่แข็งแกร่งที่พร้อมสำหรับการบู๊ต ด้วยการตั้งค่าความช่วยเหลือในการเข้าถึงมากกว่า 16 ภาษา นี่จึงเป็นแพ็คเกจที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ของคุณ ผ่านการติดตั้งเพียงเล็กน้อย แค่ดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ของ ExpressVPN, ติดตั้ง และกรอกรหัสเปิดใช้งาน เมื่อคุณเชื่อมต่อแล้ว คุณจะพบว่า ExpressVPN ไม่ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม คุณจะสังเกตเห็นโฆษณาน้อยลง ด้วยเทคโนโลยี DNS whitelisting ของ ExpressVPN ทำให้มั่นใจได้ว่า โฆษณาจะถูกบล็อกก่อนส่งไปยังพีซีของคุณ

รีวิว ExpressVPN พบว่า Windows รองรับ OpenVPN และ Lightway และดูเหมือนว่า Lightway จะเชื่อมต่อ VPN แรง ๆ  ได้เร็วกว่า อย่างไรก็ตาม ความสับสนเกิดขึ้นในขณะที่เชื่อมต่อกับ OpenVPN เท่านั้น เทคโนโลยีนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าทราฟฟิก VPN ของคุณ จะถูกแปลงเป็นทราฟฟิกการท่องเว็บตามปกติ แต่หากคุณยังกังวลว่าทราฟฟิก VPN ของคุณจะถูกระบุโดย Deep Packet Inspection สามารถใช้ OpenVPN ได้ เพราะนี่เป็นการเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อคุณเชื่อมต่อจะได้รับการปกป้องโดยทันที

Mac OS

ExpressVPN บน MacOS ให้ประสบการณ์คล้ายกับWindows โดยมีความแตกต่างเล็กน้อย IKEv2 จะเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น เช่นเดียวกับการใช้ OpenVPN และ Lightway ส่วนตัวแยกช่องสัญญาณจะมีเฉพาะใน OSX 11 แต่เวอร์ชันที่ใหม่กว่าจะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ แม้จะน่าเสียดาย แต่สิ่งที่คุณคาดหวังอื่น ๆ ทั้งหมดก็ยังมีอยู่ที่นี่ เช่น การป้องกันการรั่วไหลโดย IPv6, การใช้ TrustedServer, การสนับสนุนจากฝ่ายช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และหน้าต่างใช้งานที่เรียบง่าย เพียงแค่คลิกเชื่อมต่อ คุณก็จะเห็นว่าคุณกำลังเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใด พร้อมตัวเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด

Linux

ExpressVPN สามารถติดตั้งได้บน Raspberry Pi OS เวอร์ชัน 32 บิต และ Ubuntu, Debian, Fedora, Linux Mint และ Arch ทั้งเวอร์ชัน 32 บิตและ 64 บิต อย่างไรก็ตาม การใช้ ExpressVPN ยังไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ การใช้งาน Linux ถูกจำกัดเฉพาะแอปบนเทอร์มินัล ซึ่งผู้ใช้งานต้องดาวน์โหลดแพ็คเกจ Linux และติดตั้งในเทอร์มินัล

หากคุณไม่พอใจกับการใช้หน้าต่างใช้งาน ยังมีแอปบนเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome และ Firefox ซึ่ง ExpressVPN เป็น VPN ตัวไหนดีที่แนะนำสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการ GUI เพื่อจัดการ ExpressVPN ใน Linux แอปเบราว์เซอร์ค่อนข้างคล้ายกับแอปบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ และเพิ่มการป้องกันปัญหาความเป็นส่วนตัวหลายประเภท เช่น การรั่วไหลของ WebRTC

โทรศัพท์มือถือ Android

การดาวน์โหลดแอป ExpressVPN บน Android เป็นกระบวนการที่ง่ายดาย รองรับตั้งแต่ Android 5 ถึง 12 ที่เราขอแนะนำให้ดาวน์โหลด .apk โดยตรง หน้าต่างใช้งานของแอป ExpressVPN ตอบสนองได้เร็ว และมีแถบทางลัดที่ช่วยให้เราจัดเรียงแอพได้ นอกเหนือจากเครื่องมือเลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ปกติ

นอกจากนี้ รีวิว ExpressVPN ยังพบว่ามีฟีเจอร์ทั่วไป เช่น kill-switch, Lightway & OpenVPN, การเชื่อมต่ออัตโนมัติ และตัวแยกช่องสัญญาณ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งเพื่อให้แอพบางแอพเล่นได้ดีขึ้น สิ่งเดียวที่น่าผิดหวัง คือ ไม่มีการตั้งค่า DNS ขั้นสูง แต่ต้องใช้ค่าเริ่มต้นโดยไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งอาจจะปลอดภัยแต่ไม่สะดวกเท่าไหร่นัก

iOS | ไอโฟน

VPN ตัวไหนดีที่เหมาะสำหรับ iOS ก็คงจะเป็น ExpressVPN ที่ใช้ได้กับ iPhone 6 ถึง 14 รวมถึง iPad Pro, Air และ Mini ที่ใช้ iOS 12 เป็นต้นไป แอป iOS ค่อนข้างลื่นไหลและไม่ล่าช้า โดยคุณสามารถเลือกได้จาก Lightway หรือ IKEv2 เท่านั้น ไม่มีตัวเลือก OpenVPN ที่นี่ แต่ทั้ง Lightway และ IKEv2 ก็มีความปลอดภัยสูง ซึ่งคุณสามารถทดสอบด้วยตัวคุณเองได้ว่า การตั้งค่า DNS นั้นปลอดภัยและไม่มีการรั่วไหลของ WebRTC ในเบราว์เซอร์

ปัญหาที่เจอในรีวิว ExpressVPN คือ การไม่มี kill-switch ทั้งระบบ แม้ว่า ExpressVPN จะเสนอตัวเลือกการเชื่อมต่ออัตโนมัติ แต่หากการเชื่อมต่อติดขัด คุณอาจกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่รั่วไหลจาก VPN แต่ทั้งนี้ แอป iOS ก็ยังทำงานได้ดี และมีให้ใช้ฟรี 7 วัน และพร้อมรับประกันยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน 

เราเตอร์

คุณยังสามารถติดตั้ง ExpressVPN บนเราเตอร์ได้อีกด้วย โดยจำนวนอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับ ExpressVPN จำกัดไว้ที่ 5 เครื่อง อย่างไรก็ตาม เราเตอร์ที่มี ExpressVPN จะครอบคลุมอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับ ExpressVPN และแอพยังยอมให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อแต่ละเครื่อง จัดกลุ่มตามความต้องการของผู้ใช้งานได้ด้วย

รีวิว ExpressVPN พบว่า การติดตั้งค่อนข้างง่ายบนเราเตอร์บางรุ่น เช่น Flashrouters และ Asus, Linksys และ Netgear และบางรุ่นต้องมีกระบวนการติดตั้งตามคำแนะนำเฉพาะ เพื่อกำหนดค่าด้วยตนเอง ซึ่งเราขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม  ผู้ใช้งานชาวอเมริกันสามารถซื้อ Aircove ซึ่งเป็นเราเตอร์ที่ติดตั้ง ExpressVPN ไว้ล่วงหน้าแล้ว และหวังว่าเราเตอร์นี้จะมีขายในประเทศอื่น ๆ ในอีกไม่ช้า

อุปกรณ์อื่น ๆ

ExpressVPN ใช้ได้กับ SmartTV ที่ใช้ Android ในการเข้าถึง Google Play Store ซึ่งจะสามารถดาวน์โหลด ExpressVPN ได้โดยตรง ทำให้คุณเข้าถึงการตั้งค่าได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม รีวิว ExpressVPN พบว่า ExpressVPN ยังไม่รองรับสมาร์ททีวีทั้งหมด และในกรณีนี้ คุณควรตั้งค่า ExpressVPN บนเราเตอร์ เพื่อให้คุณสามารถใช้อุปกรณ์เพื่อป้องกันทีวีของคุณได้ อุปกรณ์ที่เราสามารถยืนยันได้ว่า รองรับ ExpressVPN ได้แก่:

  • แอนดรอยด์ทีวี
  • แอปเปิลทีวี
  • Amazon FireTV และ FireStick
  • สมาร์ททีวีซัมซุง
  • Google Chromecast
  • Nvidia Shield
  • Roku

คุณอาจต้องการใช้บริการ Mediastreamer เพื่อการสตรีมที่ง่ายดาย โดยมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า แม้ว่านั่นจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับบริการสตรีมหลัก ๆ ปัจจุบัน ExpressVPN ไม่มี VPN เล่นเกมสำหรับคอนโซลวิดีโอเกมใด ๆ เช่นเดียวกับอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้อง Playstation หรือ Xbox ก็คือ การเปิดใช้งาน ExpressVPN กับเราเตอร์เท่านั้น

วิธีติดตั้ง ExpressVPN

หากต้องการใช้ ExpressVPN บนมือถือหรือคอมพิวเตอร์ รีวิว ExpressVPN ด้านการติดตั้งทำได้ง่ายดังนี้:

  1. สมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ และชำระเงิน
  2. ดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์จากแอพสโตร์ ส่วนการดาวน์โหลด .apk โดยตรงจากเว็บไซต์ ExpressVPN ก็เป็นตัวเลือกสำหรับ Android ในขณะที่ ผู้ใช้งาน Linux จะต้องติดตั้งผ่าน command console 
  3. เปิดแอปและลงชื่อเข้าใช้ ด้วยใช้ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ExpressVPN ของคุณ
  4. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ที่มีตัวเลือกมากมาย เพียงเท่านี้ก็ใช้งานได้แล้ว

การสมัครสมาชิก 1 ครั้ง ครอบคลุมอุปกรณ์สูงสุด 5 เครื่อง โดยอาจเป็นพีซี, แล็ปท็อปม โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ IoT แบบใดก็ได้ คุณยังสามารถติดตั้ง ExpressVPN บนเราเตอร์ ซึ่งหมายความว่าทุกสิ่งที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์จะได้รับประโยชน์จาก VPN ไปด้วย

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

ประสิทธิภาพของ ExpressVPN ดีไหม? | ExpressVPN รีวิวว่าเร็วแค่ไหน?

รีวิว ExpressVPN ส่วนใหญ่บอกว่า นี่เป็นหนึ่งใน VPN แรง ๆ ในตลาด แต่ทำไม ExpressVPN ถึงมีความเร็วสูง? ประการแรก ก็คือ การใช้ VPN ตัวนี้ช่วยให้คุณหลีกหนีจากความแออัดจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณได้ ทำให้การเชื่อมต่อของคุณรวดเร็วมากกว่าการไม่มี VPN! นอกจากนี้ ExpressVPN ยังมีตัวเลือกโปรโตคอลการเข้ารหัสที่หลากหลาย เพื่อใช้ OpenVPN และ IKEv2 ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม และ Lightway การใช้งานแบบกำหนดเอง และการไม่มีข้อเสียของ WireGuard ทั้ง TCP และ UDP ทำให้ ExpressVPN มีตัวเลือกที่ครอบคลุมอุปกรณ์และความต้องการส่วนใหญ่ ส่วนการแยกช่องสัญญาณก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อาจช่วยเพิ่มความเร็วให้ VPN แรง ๆ โดยลดภาระของแบนด์วิธได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อได้ด้วยเช่นกัน

ExpressVPN ปลอดภัยแค่ไหน?

สิ่งสำคัญที่สุดของ VPN คือ ความปลอดภัย รีวิว ExpressVPN พบว่า มีการใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อให้แน่ใจว่าทราฟฟิกเครือข่ายของคุณจะถูกเก็บเป็นความลับ หลังจากที่ข้อมูลออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณไป ในสถานการณ์เหล่านี้มีหลายกรณีที่ข้อมูลของคุณอาจตกไปอยู่ในมือของอาชญากร (หรือสถาบันขนาดใหญ่) เมื่อทราฟฟิกเครือข่ายของคุณถูกส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่โชคดีที่ ExpressVPN พัฒนาไปอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถจัดการกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในแต่ละวันได้อย่างปลอดภัย

โปรโตคอลการเข้ารหัสของ ExpressVPN

ExpressVPN มีโปรโตคอลการเข้ารหัสที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณติดตั้งแอป ส่วนใหญ่รองรับ OpenVPN และ Lightway ในขณะที่อุปกรณ์ Apple และ Blackberry รองรับ IKEv2 เท่านั้น

OpenVPN

OpenVPN เป็นโปรโตคอลโอเพ่นซอร์ส และเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม การตรวจสอบโอเพ่นซอร์สจะเกิดขึ้นโดยบุคคลหลายพันคน ทำให้มั่นใจได้ว่า OpenVPN ยังคงปลอดภัยและเชื่อถือได้ เนื่องจากทุกคนสามารถใช้รหัสได้อย่างเต็มที่ ทุกคนจึงสามารถตรวจสอบรหัส เพื่อยืนยันว่ารหัสนั้นปลอดภัย รีวิว ExpressVPN พบว่า มี 2 ตัวเลือกสำหรับการเชื่อมต่อพอร์ตกับ OpenVPN อย่างแรกคือ TCP (Transmission Control Protocol) ซึ่งลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์จะเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารไปมาใน 3 ขั้นตอน ส่งผลให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบริการที่ข้อมูลที่ต้องการความถูกต้อง เช่น การท่องเว็บ, อีเมล หรือการดาวน์โหลด

ในทางตรงกันข้าม ตัวเลือกที่สองคือ UDP (User Datagram Protocol) ที่จะไม่ยืนยันกับเซิร์ฟเวอร์ว่าข้อมูลที่ได้รับนั้นถูกต้องหรือไม่ แน่นอนว่าอาจทำให้มีข้อมูลบางส่วนหายไปในกระบวนการ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะรวดเร็วกว่ามาก UDP มักจึงเหมาะสำหรับบริการสตรีมมิ่งหรือเป็น VPN เล่นเกมออนไลน์มากกว่า ทั้งนี้ OpenVPN เหมาะกับ UDP มากกว่า ดังนั้น จึงเป็นบริการสิ่งนี้

IKEv2

สำหรับผู้ใช้งาน Apple ExpressVPN ยังมี IKEv2/IPSec ซึ่งเรียกย่อ ๆ ว่า IKEv2 เนื่องจากโดยทั่วไปจะมาพร้อมกับ IPSec อยู่แล้ว เมื่อเทียบ IKEv2 กับ OpenVPN รีวิว ExpressVPN พบว่า IKEv2 จะเร็วกว่า เนื่องจากใช้ทรัพยากรน้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งคุณจะสังเกตได้ว่า โดยปกติแล้วการสร้างการเชื่อมต่อใหม่จะเร็วกว่า OpenVPN เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อเสียอยู่เล็กน้อย ข้อเสียข้อแรกคือการไม่รองรับ Windows ส่วนข้อเสียที่สอง คือ การรองรับพอร์ต UDP เท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ยากต่อการปลอมแปลงทราฟฟิก VPN ให้เป็นทราฟฟิกการท่องเว็บตามปกติ ซึ่งอาจจำเป็นสำหรับคุณ หากอยู่ในประเทศที่มีการเฝ้าระวังทางอินเทอร์เน็ตสูง  อย่างไรก็ตาม หากคุณแค่พยายามสตรีมภาพยนตร์บน iPhone การใช้ IKEv2 ก็เหมาะสมกับคุณแล้ว

Lightway

OpenVPN และ IKEv2 เป็นโปรโตคอลมาตรฐานที่สร้างโดยนักพัฒนาภายนอก แต่ ExpressVPN ยังเสนอโปรโตคอลการเข้ารหัสที่พัฒนาขึ้นภายในที่ชื่อว่า Lightway โดย Lightway จะเป็นการนำเอาองค์ประกอบเชิงบวกทั้งหมดจากโปรโตคอล WireGuard และตัดประเด็นสำคัญหลายประการ ซึ่งทำให้ไม่สามารถป้องกันการใช้งานด้วยความเป็นส่วนตัวได้ แม้ว่า WireGuard จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากโค้ดเบสของ OpenVPN แต่ก็ไม่ได้สร้างมาเพื่อผู้ให้บริการ VPN เชิงพาณิชย์โดยตรง และค่าเริ่มต้น WireGuard จะบันทึกที่อยู่ IP ทั้งหมด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผู้ให้บริการ VPN มักจะกำหนดให้มีการแก้ไขปัญหานี้ขึ้นมา

เทคโนโลยี VPN ล่าสุด และยิ่งใหญ่ที่สุด

รีวิว ExpressVPN ยังพบว่า Lightway เช่น WireGuard เป็นโครงการโอเพ่นซอร์ส ที่ใช้การเข้ารหัส SSL/TLS ของ wolfSSL โค้ดสั้น ๆ ทำให้การแก้ไขง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถทำได้เร็วกว่าและใช้ทรัพยากรน้อยลง เช่นเดียวกับ OpenVPN Lightway ที่มีทั้งพอร์ต TCP และ UDP เพื่อส่งและรับทราฟฟิกเครือข่าย การทดสอบส่วนบุคคลของเราพบว่า เวลาในการเชื่อมต่อโดยใช้ Lightway เกิดขึ้นเกือบจะทันที แต่ในขณะที่บางครั้ง OpenVPN ใช้เวลาหลายวินาทีในการเชื่อมต่อ

ExpressVPN ได้ขอให้ Cure53 ทำการตรวจสอบโปรโตคอลการเข้ารหัสในปี 2021 เพื่อคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Lightway รีวิว ExpressVPN พบว่าผลลัพธ์การตรวจสอบเป็นที่น่าพอใจ เพราะไม่พบข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง และมีเพียงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น และตั้งแต่นั้นมา ExpressVPN ก็ได้มีการปรับปรุงโค้ดด้วยการอัปเดตเป็นประจำ และในปี 2022 Express VPN ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวทั้งหมดแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่า Lightway จะเป็นไปตามโฆษณาที่สร้างขึ้นโดย ExpressVPN ทั้งในแง่ของความเร็วและความปลอดภัย

ชื่อเสียงด้านความโปร่งใสของ ExpressVPN ดีไหม

การตรวจสอบโดย PWC

เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ TrustedServer, Lightway และ Aircove รีวิว ExpressVPN พบว่ามีการร้องขอให้มีการตรวจสอบหลายครั้งจากบุคคลที่สาม ซึ่งครั้งที่โดดเด่นที่สุดก็คือการตรวจสอบในปี 2019 ที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่ชื่อว่า PricewaterhouseCooper (PwC) ที่ยืนยันว่านโยบายความเป็นส่วนตัวและระบบการสร้าง ExpressVPN นั้นถูกต้องและมีความปลอดภัยสูง PwC เป็นหนึ่งในเครือข่ายบริการระดับมืออาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยดำเนินการตรวจสอบให้แก่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดอยู่สม่ำเสมอ แม้ว่าเงื่อนไขในการตรวจสอบจะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่เราสามารถพูดได้ว่า การให้บริการค่อนข้างเป็นไปในเชิงบวก และ ExpressVPN เองก็ดูเหมือนจะพอใจกับกระบวนการตรวจสอบ และมั่นใจในผลลัพธ์ มากพอที่จะนำไปใช้ประชาสัมพันธ์ในสื่อการตลาดของพวกเขา

การตรวจสอบโดย Cure53

รีวิว ExpressVPN ได้ข้อมูลว่า Cure53 เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเยอรมัน ที่ได้ทำการตรวจสอบโค้ดของ Aircove ซึ่งเป็นเราเตอร์ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าของ ExpressVPN และ Lightway ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ VPN สร้างขึ้น การตรวจสอบทั้งสองครั้งเผยให้เห็นแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดี โดยมีข้อบกพร่องที่สำคัญบางประการในแง่ของความปลอดภัยโดยรวม ในขณะที่เขียนบทความนี้ คำแนะนำทั้งหมดที่ Cure53 เสนอ ได้ถูกนำมาปรับปรุงแล้ว ความสามารถในการปฏิบัติตามขั้นตอนการตรวจสอบนี้ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจอย่างมากว่า ExpressVPN เป็นนักพัฒนาที่มีความรับผิดชอบ และให้ความสำคัญต่อซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัย

การตรวจสอบโดย F-Secure

การตรวจสอบอีกครั้งเกิดขึ้นในปี 2021 ที่ดำเนินการโดย F-Secure ในสิงคโปร์ F-Secure ได้ทำการทดสอบแอปพลิเคชัน Windows 10 ของ ExpressVPN ในช่วง 2 สัปดาห์ และพบปัญหาที่มีความรุนแรงต่ำเพียงแค่ 1 รายการ และปัญหาที่มีความรุนแรงระดับ informational 7 รายการ สิ่งเหล่านี้ผิดไปไปจากแนวทางการปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด  แต่ไม่มีการใช้ประโยชน์จริงในการทดสอบ การทดสอบซ้ำในปี 2022  พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ได้รับการแก้ไขแล้ว และมีเพียง 2 ประเด็นเท่านั้นที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่

นโยบายไม่ระบุตัวตนผู้ใช้งาน

ExpressVPN ภูมิใจนำเสนอนโยบายไม่ระบุตัวตนผู้ใช้งานตามนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งรีวิว ExpressVPN พบว่า มีเพียงข้อมูลเดียวที่ถูกรวบรวม นั่นคือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางเทคนิคและการควบคุมคุณภาพ เช่น การเปิดใช้งานแอพ, วันที่หรือจำนวนข้อมูลที่ถ่ายโอน สิ่งนี้ได้รับการตรวจสอบโดยอิสระโดย PwC ซึ่งหมายความว่า ที่อยู่ IP ของคุณจะไม่ถูกบันทึก และไม่มีข้อมูลใด ๆ ที่เดินทางผ่านเซิร์ฟเวอร์ ExpressVPN แม้ว่ารายละเอียดการชำระเงินของคุณจะถูกบันทึกไว้ แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการจ่ายด้วย Bitcoin

หากบุคคลที่สามบังคับให้ ExpressVPN ส่งข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องของคุณ จะมีการเปิดเผยข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเว็บ และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเลย ลองดูภาพหน้าจอด้านล่างจากนโยบายความเป็นส่วนตัวของ ExpressVPN:

ExpressVPN อยู่ในประเทศไหน

ExpressVPN ตั้งอยู่ในหมู่เกาะBritish Virgin ซึ่งมีกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เป็นประโยชน์มากกว่าในสหรัฐอเมริกาหรือสหภาพยุโรปเล็กน้อย ในทางปฏิบัติหมายความว่า มีข้อกฎหมายจำนวนมากที่ต้องดำเนินการก่อนที่ ExpressVPN จะถูกบังคับให้ส่งมอบข้อมูลใด ๆ ที่เป็นของคุณ

Kape Technologies

แม้รีวิว ExpressVPN จะมีการเคลมความสำเร็จในด้านความเป็นส่วนตัว แต่เหตุการณ์เพียงไม่กี่เหตุการณ์ ก็เกือบทำให้ภาพพจน์มัวหมอง สิ่งแรกคือ การเข้าซื้อกิจการ ExpressVPN โดย Kape Technologies ในปี 2021 บริษัท Kape เดิมชื่อว่า Crossrider ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนาส่วนขยายของเบราว์เซอร์ ซึ่งน่าเสียดายที่ Kape มีประวัติที่ดูเหมือนจะไม่ดีสักเท่าไหร่ และขัดต่อความเป็นส่วนตัว (แม้ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการสร้างแอดแวร์/มัลแวร์)

หลังจาก Crossrider ปิดตัวลงในปี 2016 ผู้ก่อตั้งส่วนใหญ่ (และระดับผู้บริหารทั้งหมด) ก็จากไป Kape จึงได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง และได้ก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ExpressVPN เปิดเผยต่อสาธารณะว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขากับ Kape ดำเนินไปได้ด้วยดี และไม่ได้ทำให้พวกเขาละเลยความปลอดภัย ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการดำเนินธุรกิจ

Daniel Gericke แฮกเกอร์ที่มีประวัติ และ ExpressVPN

นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า Daniel Gericke ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ ExpressVPN เคยถูกปรับเนื่องจากละเมิดกฎหมายการแฮ็กข้อมูลของสหรัฐฯ เขาถูกพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสถาบันกษัตริย์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Project Raven ก่อนที่จะเข้าร่วมกับบริษัท ExpressVPN การกล่าวหานี้กระทบไปยังบริษัท ที่แม้จะรู้ประวัติการแฮ็กในอดีตของเขา  แต่ก็ยังคงจ้างเขาอยู่ และประสบการณ์ดังกล่าวทำให้เขามีค่ามากขึ้น เมื่อต้องเข้ามาดูแลการโจมตีจากแฮ็กเกอร์คนอื่น ๆ นี่เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เพียงไม่กี่คนบนโลกนี้ ที่มีประสบการณ์หรือทักษะที่หลากหลายเหมือน Gericke

แม้ว่าจะไม่มีสิ่งใดที่ทำให้หลักฐานเกี่ยวกับการเคลมด้านความปลอดภัยจากรีวิว ExpressVPN เป็นโมฆะ แต่ก็สร้างผลกระทบเล็กน้อยให้กับลูกค้าของพวกเขา ผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาที่ต้องการรับชม Netflix UK อาจไม่มีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สำหรับผู้ที่คิดมากอาจรู้สึกหวาดระแวง และต้องคิดทบทวนอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการ ExpressVPN

ฉันจะใช้ ExpressVPN ได้ที่ไหน

ExpressVPN รีวิวว่ามีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากกว่า 94 ประเทศพร้อมโปรโตคอลเต็มรูปแบบ (ยกเว้น IKEV2 ในโครเอเชีย) และไม่บังคับในประเทศจีน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่ถูกบังคับให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายของจีนที่กำหนดให้เก็บบันทึกข้อมูล และลดโอกาสที่เครือข่ายจะถูกบุกรุก

อเมริกา

  • อาร์เจนตินา
  • บาฮามาส
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • แคนาดา
  • ชิลี
  • โคลอมเบีย
  • คอสตาริกา
  • เอกวาดอร์
  • กัวเตมาลา
  • เม็กซิโก
  • ปานามา
  • เปรู
  • สหรัฐ
  • อุรุกวัย
  • เวเนซุเอลา

ยุโรป

  • แอลเบเนีย
  • อันดอร์รา
  • อาร์เมเนีย
  • ออสเตรีย
  • เบลารุส
  • เบลเยี่ยม
  • บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
  • บัลแกเรีย
  • โครเอเชีย
  • ไซปรัส
  • สาธารณรัฐเช็ก
  • เดนมาร์ก
  • เอสโตเนีย
  • ฟินแลนด์
  • ฝรั่งเศส
  • จอร์เจีย
  • เยอรมนี
  • กรีซ
  • ฮังการี
  • ไอซ์แลนด์
  • ไอร์แลนด์
  • ไอล์ออฟแมน 
  • อิตาลี
  • เจอร์ซีย์
  • ลัตเวีย
  • ลิกเตนสไตน์
  • ลิทัวเนีย
  • ลักเซมเบิร์ก
  • มอลตา
  • มอลโดวา
  • โมนาโก
  • มอนเตเนโกร
  • เนเธอร์แลนด์
  • มาซิโดเนียเหนือ
  • นอร์เวย์
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • โรมาเนีย
  • เซอร์เบีย
  • สโลวาเกีย
  • สโลวีเนีย
  • สเปน
  • สวีเดน
  • สวิตเซอร์แลนด์
  • ตุรกี
  • ยูเครน
  • อังกฤษ

เอเชียแปซิฟิก

  • ออสเตรเลีย
  • บังคลาเทศ
  • ภูฏาน
  • บรูไนดารุสซาลาม
  • กัมพูชา
  • ฮ่องกง
  • อินเดีย
  • อินโดนีเซีย
  • ญี่ปุ่น
  • คาซัคสถาน
  • ลาว
  • มาเก๊า
  • มาเลเซีย
  • มองโกเลีย
  • พม่า
  • เนปาล
  • นิวซีแลนด์
  • ปากีสถาน
  • ฟิลิปปินส์
  • สิงคโปร์
  • เกาหลีใต้
  • ศรีลังกา
  • ไต้หวัน
  • ประเทศไทย
  • อุซเบกิสถาน
  • เวียดนาม

แอฟริกาและตะวันออกกลาง

  • แอลจีเรีย
  • อียิปต์
  • อิสราเอล
  • เคนยา
  • แอฟริกาใต้

รีวิว ExpressVPN ราคาเท่าไร?

ExpressVPN รีวิวว่ามี 3 แผน: แผนรายเดือนที่ 12.95 ดอลลาร์ต่อเดือน, แผน 6 เดือนที่ 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือน และแผนรายปีที่ 6.67 ดอลลาร์ต่อเดือน แถมฟรีอีก 3 เดือนสำหรับการซื้อครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้ ExpressVPN มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งเมื่อประกอบกับการไม่มีตัวเลือกฟรี ทำให้มีความน่าสนใจน้อยลงเล็กน้อย สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ VPN เป็นครั้งคราวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รีวิว ExpressVPN ทุก ๆ แผนมาพร้อมกับการรับประกันเงินคืนย้อนหลัง 30 วัน เพื่อให้คุณสามารถทดลองใช้ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย และการชำระเงิน ExpressVPN ราคาทุกราคาสามารถทำได้ผ่านบัตรเครดิตหลัก ๆ เช่น Visa, Mastercard หรือ American Express รวมถึง Paypal, Bitcoin และบริการเฉพาะภูมิภาคอื่น ๆ เช่น SEPA หรือ Union Pay

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

บทสรุปเกี่ยวกับรีวิว ExpressVPN

เมื่อถามว่า ExpressVPN ดีไหม? รีวิว ExpressVPN บริการ VPN ที่ดีที่สุด พบหลักฐานจากฟรีแลนซ์จำนวนมาก ว่านี่เป็นหนึ่งในบริการที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ ซึ่งจะช่วยรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย แม้ว่าอาจจะไม่มีเวอร์ชันฟรี แต่ก็มีการคืนเงินภายใน 30 วัน ทั้งนี้ ผู้ใช้งาน Android และ iPhone จะได้รับสิทธิพิเศษในการใช้งานฟรี 7 วัน ซึ่งไม่เคยในแอปอื่นใด

แม้ว่าอาจจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับทีมพัฒนาที่อยู่เบื้องหลัง แต่ความจริงแล้ว ExpressVPN ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มุ่งมั่นที่จะเปิดเผยเรื่องความปลอดภัย แม้ว่าค่าบริการ ExpressVPN ราคาจะสูงเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่น ๆ แต่คุณภาพโดยรวมก็ถือว่าคุ้มค่า

Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

จัดอันดับ 12 แอพ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023

ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น แอพ VPN ที่ดีที่สุด จึงเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เพราะแอป VPN ใช้โปรโตคอลการเข้ารหัส เช่น OpenVPN, WireGuard และ IKEv2 เพื่อป้องกันการสอดแนมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณ และเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งที่คุณชื่นชอบในต่างประเทศได้

แต่เพราะมีผู้บริการหลายพันรายให้เลือก คู่มือนี้ เราจะรีวิวแอพ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 โดยมีการเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย, ค่าใช้จ่าย, ความสะดวกในการใช้งาน การปรับแต่ง และการปลดบล็อก เพื่อเลือกแอปที่เหมาะกับคุณมากที่สุด อ่านต่อเพื่อดูว่าผู้ให้บริการ เช่น ExpressVPN, Private Internet Access และ CyberGhost สามารถปกป้องคุณทางออนไลน์ได้อย่างไร

12 อันดับแอพ VPN ที่ดีที่สุดปี 2023 

การศึกษาของเราพบว่า ExpressVPN เป็นแอพ VPN ที่ดีที่สุด เนื่องจากมีการออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย, การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และฟีเจอร์อีกมากมาย พร้อมด้วยคืนเงินภายใน 30 วัน คุณจึงสามารถทดสอบและเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการชั้นนำอื่น ๆ ว่าเป็นอย่างไร โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการจ่ายค่าบริการใด ๆ หรือตรวจสอบตัวเลือกด้านล่างนี้:

  1. ExpressVPN – แอป VPN โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023 พร้อมการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูง, ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ทรงพลัง และคืนเงินภายใน 30 วันที่ยอดเยี่ยม
  2. Private Internet Access  – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีราคาย่อมเยา พร้อมเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา, เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์แรง ๆ ทั่วโลก และให้แบนด์วิธไม่จำกัด
  3. Ivacy VPN — หนึ่งในแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่ราคาถูกและสตรีมได้ลื่นไหล และมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ 
  4. CyberGhost VPN – แอพ VPN แนะนําสำหรับมือใหม่ที่ชอบการสตรีม และมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม
  5. NordVPN  – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีชื่อเสียงด้านการรับการแจ้งเตือน geofence และมีการเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยม 5,500+ แห่งทั่วโลก
  6. Atlas VPN  – VPN ระดับพรีเมียม พร้อมตัวเลือกแอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุด ที่มีนโยบายความเป็นส่วนตัวและบริการที่เชื่อถือได้
  7. Surfshark  – แอพ VPN android และ IOS ที่เชื่อมต่อพร้อมกันได้แบบไม่จำกัดในราคาที่เป็นมิตร 
  8. UltraVPN – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีโปรโตคอลความปลอดภัยที่หลากหลาย และมีฟีเจอร์การสแกนเว็บมืด 
  9. StrongVPN  – VPN ราคาถูกที่เรียบง่าย, ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้บนแพลตฟอร์มส่วนใหญ่
  10. IPVanish – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง, ความเร็วในการเชื่อมต่อแบบพิเศษ และเข้าถึงอุปกรณ์ได้ไม่จำกัด 
  11. Hotspot Shield – แอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในด้านความเร็ว และมีโปรโตคอลการเข้ารหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Hydra ซึ่งเหมาะสำหรับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
  12. Norton Secure VPN – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่บริษัทแอนตี้ไวรัสชั้นจำนวนมากใช้ และยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม เช่น ตัวบล็อกโฆษณา และตัวแยกช่องสัญญาณ

ไปยังแอพ VPN ที่ดีที่สุด

รีวิวแอพ VPN ที่ดีที่สุด สำหรับปี 2023

เพราะมีการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น คุณจึงต้องมองหาแอป VPNเพื่อใช้ป้องกันคุณจากแฮกเกอร์เหล่านี้

วิธีที่ดีที่สุดในการค้นหา VPN คือ การเปรียบเทียบผู้ให้บริการจนพบผู้ให้บริการที่ต้องการ แต่เราเข้าใจว่าไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเวลากับสิ่งนี้  นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราพยายามคัดเลือกอย่างหนักเพื่อคุณ!

ในคู่มือนี้ เราจะช่วยให้คุณเลือกแอพ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณได้ โดยดูจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ฟีเจอร์ที่ให้บริการ (และฟีเจอร์นั้น ๆ สำคัญหรือไม่), ราคา,  ข้อดีและข้อเสียของว่าทำงานแบบถาวรได้ดีเพียงใด

1. ExpressVPN – แอป VPN โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023

ExpressVPN เป็นมากกว่าบริการ VPN ระดับพรีเมียม แต่เป็นความปลอดภัยเต็มรูปแบบที่ใช้ง่ายด้วยปลายนิ้วมือของคุณ

การเข้ารหัสที่รัดกุมช่วยปกป้องไม่ให้มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต, ผู้ให้บริการ WiFi หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ มาสอดส่องการใช้งานได้ 

สิ่งที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยคือการใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM, ตัวแยกช่องสัญญาณ และการอนุญาตพิเศษ เพื่อกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูล

นอกจากนี้ ExpressVPN จะไม่บันทึกกิจกรรมการเชื่อมต่อ และเทคโนโลยี TrustedServer ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีการเก็บข้อมูลใด ๆ ไว้บนเซิร์ฟเวอร์เด็ดขาด

ส่วนแอพ VPN ที่ดีที่สุดก็ใช้งานง่ายมากแม้แต่มือใหม่ สิ่งที่คุณต้องทำ คือ การดาวน์โหลดแอปลงบนอุปกรณ์, เข้าสู่ระบบ และเลือกประเทศที่คุณต้องการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ 

ฟีเจอร์พิเศษ

  • เข้าถึงได้ทั่วโลกได้อย่างปลอดภัย – คุณสามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์แรง ๆ ได้ใน 94 ประเทศ 
  • ExpressVPN ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ – การเป็นสมาชิก ExpressVPN ช่วยให้คุณปลอดภัย และไม่ต้องเปิดเผยตัวตนทางออนไลน์

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $12.95
  • 6 เดือน – $9.99
  • 12 เดือน – $6.67

ข้อดี:

  • VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก 
  • การป้องกันที่เหนือกว่า
  • สตรีมมิ่งต่างประเทศได้ เช่น Netflix 

ข้อเสีย:

  • ราคาแพงกว่าคู่แข่ง
  • เซิร์ฟเวอร์สตรีมมิ่งไม่มีการระบุใด ๆ
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, Linux, macOS, เราเตอร์, ทีวี และ Windows3,000+94 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น Apple TV+ และ Huluภายใน 30 วัน375-430 Mbps5

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

2. Private Internet Access  – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีราคาย่อมเยา พร้อมเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา

Private Internet Access อาจไม่เป็นที่รู้จักเท่ากับExpressVPN หรือ CyberGhost แต่ก็ถือเป็นคู่แข่งเก่งกาจใกล้เคียงกัน บริการนี้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส, นโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่รัดกุม และการเข้ารหัส WireGuard เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานท่องเว็บได้อย่างรวดเร็ว, ปลอดภัย และไม่เปิดเผยตัวตน

ฟีเจอร์พิเศษ

  • การเข้ารหัส WireGuard ช่วยเร่งความเร็วในการท่องเว็บ – WireGuard เป็นเทคโนโลยีการเข้ารหัส VPN ล่าสุดและดีที่สุด ใน Private Internet Access ที่ปลอดภัยมากขึ้น และให้ความเร็วสูงสุด 320 Mbps
  • การเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 10 เครื่อง – บนอุปกรณ์มือถือ, เดสก์ท็อป และเราเตอร์บ้าน ที่ซื้อครั้งเดียว แต่ใช้ได้ทั้งครอบครัว

ราคาต่อเดือน

  • แผน 3 ปี – $2.03
  • แผน 1 ปี – $3.33
  • แผน 1 เดือน – $11.95

ข้อดี:

  • รหัสโอเพ่นซอร์ส
  • โปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard
  • เซิร์ฟเวอร์ใน 84 ประเทศ
  • ทำงานได้บนเราเตอร์และอุปกรณ์มือถือ
  • นโยบายการไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด

ข้อเสีย:

  • ความเร็วสูงสุดยังไม่ดีมาก
  • สัญญายาว 3 ปี ถึงจะได้ราคาดีที่สุด
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, macOS และ Windows35,00084 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น Hulu และ Amazon Primeภายใน 30 วัน70-320 Mbps10

ไปยัง Private Internet Access ตอนนี้

3. Ivacy VPN – หนึ่งในแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่ราคาถูกและสตรีมได้ลื่นไหล

Ivacy VPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,500 แห่งทั่วโลก และแอพ VPN ที่ดีที่สุดนี้ขับเคลื่อนด้วยการเข้ารหัส AES 256 บิต ระดับเดียวกับกองทัพ และมีนโยบายการไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน VPN ที่ปลอดภัยที่สุดในตลาด มีความสามารถในการปลดล็อกในจีน ที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยรัฐบาล

เซิร์ฟเวอร์เร็วสูงสุดที่ 10 Gbps แต่การเชื่อมต่อพื้นฐานมักจะอยู่ที่ประมาณ 200 Mbps Ivacy จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดหากต้องการเซิร์ฟเวอร์แรง ๆ แต่ก็ชดเชยได้ด้วยราคา และการใช้งานที่สมเหตุสมผล

ฟีเจอร์พิเศษ 

  • ใช้กับอุปกรณ์ได้หลากหลาย: ใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกประเภท เช่น Mac, Android, Linux, เราเตอร์ และแม้แต่ Android TV ส่วนเบราว์เซอร์ Ivacy เชื่อมต่อกับ Firefox, Chrome และ Edge ได้
  • การสนับสนุนลูกค้าที่เหนือกว่า: ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ผ่านทางอีเมลและแชทสด หรือเข้าถึงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในบทช่วยสอน, คำแนะนำ และคำถามที่พบบ่อย

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $9.95
  • 1 ปี – $3.99
  • 5 ปี – $1.00

ข้อดี:

  • ตัวแยกช่องสัญญาณ 4 แบบ
  • kill-switchที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
  • การป้องกันการรั่วไหลด้วย IPv6
  • ไม่เก็บบันทึกข้อมูลใด ๆ

ข้อเสีย:

  • ไม่มี kill-switch และตัวแยกช่องสัญญาณบน Mac
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Windows, MacOS, Android, iOS, เราเตอร์ และเครื่องเล่นเกม6,500+100+Netflix, Hulu, Kodi, BBC iPlayerภายใน 30 วัน150-250 Mbps10

ไปยัง Ivacy VPN ตอนนี้

4. CyberGhost – แอพ VPN แนะนําสำหรับมือใหม่ที่ชอบการสตรีม และมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม

แอพ CyberGhost เป็นแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่ใช้ได้บนอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีอยู่ ตั้งแต่ คอนโซลเกม, สมาร์ททีวี, เราเตอร์ไร้สาย, คอมพิวเตอร์ Windows, Mac, iOS, Android, Linux และอุปกรณ์มือถือของคุณ

CyberGhost ใช้กับอุปกรณ์ได้ถึง 7 เครื่องพร้อมกัน และเหมาะกับ Mac โดยเฉพาะ

ฟีเจอร์พิเศษ

  • เชื่อมต่อง่ายเพียงคลิกเดียว – CyberGhost เป็นแอพ VPN แนะนําสำหรับมือใหม่ ด้วยการออกแบบแบบ Plug-and-Play ซึ่งช่วยให้คุณปลอดภัยและเป็นส่วนตัวสูง
  • ไม่จำกัดการเข้าถึง– มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์อยู่ทั่วโลกและการเข้ารหัสที่ทันสมัย ​​ทำให้เข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดในบางประเทศได้ และมีประโยชน์ในการใช้งานส่วนตัวและใช้ในองค์กร เพราะมีการเข้ารหัสที่รัดกุม และมีแพ็คเกจราคาประหยัด

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $12.99
  • 1 ปี – $4.49
  • 2 ปี – $3.25
  • 2 ปี + 2 เดือน – $2.23

ข้อดี:

  • ราคาไม่แพง
  • ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ข้อเสีย:

  • เซิร์ฟเวอร์บางตัวช้ามาก
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Windows, MacOS, Android, iOS, เราเตอร์ และเครื่องเล่นเกมต่าง ๆ7,00091 ประเทศNetflix และบริการชั้นนำ เช่น Hulu และ Amazon Primeภายใน 30 วัน584 Mbps7

ไปยัง CyberGhost ตอนนี้

5. NordVPN – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีชื่อเสียงด้านการรับการแจ้งเตือน geofence

NordVPN มีฟีเจอร์ปิดกั้นโฆษณา และสแกนไวรัสในตัว  ดังนั้น คุณจึงสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวทางดิจิทัล, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเวลาอันมีค่าของคุณได้

ไม่จำเป็นต้องทนดูโฆษณาอีกต่อไป เพียงแค่เปิดใช้งาน NordVPN ด้วยเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,000 แห่ง ในกว่า 59 ประเทศ คุณจึงสตรีมรายการโปรดต่างประเทศได้จากทุกที่

NordVPN เป็นหนึ่งแอพ VPN ที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล, ตัวเลือกการเข้ารหัสที่รวดเร็วและปลอดภัย และนโยบายไม่ระบุตัวตนที่เชื่อถือได้

การตั้งค่า kill-switch และ auto-connect จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าได้รับการปกป้องตลอดเวลา แม้ว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะหลุดไปแล้วก็ตาม

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ป้องกันด้วยการเข้ารหัส 2 เท่า – การเข้าใช้งานบนโลกออนไลน์จะมีการเข้ารหัส 2 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ต้องทำงานในสถานที่ที่เสียงต่อการถูกลักลอบขโมยข้อมูล จะพบว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างมาก
  • ความเร็วและประสิทธิภาพของ NordVPN –NordVPN เป็นแอป VPN ที่มีรวดเร็วสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Nord หรือ NordLynx

โปรโตคอล WireGuard ช่วยสร้าง VPN ที่รวดเร็ว และไม่กระทบต่อความปลอดภัย

ราคาต่อเดือน

Nord มีตัวเลือกมากมายและปรับแต่งได้ ดังนี้

  • แผน 2 ปี – จาก$3.69
  • แผน 1 ปี – จาก$4.49
  • แผน 1 เดือน – จาก$11.99

ข้อดี:

  • ความเร็วและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
  • แอป VPN ใช้งานง่ายสำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลาย
  • มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการตรวจสอบ
  • ไม่บล็อกเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอออนไลน์
  • ดูแลลูกค้าได้ดีไม่เป็นรองใคร
  • ราคาคุ้มค่า

ข้อเสีย:

  • ไม่มีหน้าต่างใช้งานแบบกราฟิกสำหรับ Linux
  • ไม่มีแอพสำหรับเราเตอร์
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, macOS และ Windows5,20060 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น Hulu และ Amazon Primeภายใน 30 วัน96.92 Mbps บนพื้นฐาน 100 Mbps6

ไปยัง NordVPN ตอนนี้

6. Atlas VPN – VPN ระดับพรีเมียม พร้อมตัวเลือกแอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุด

Atlas VPN ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวด้วยการใช้ WireGuard, การเข้ารหัส AES-256, kill-switch และระบบ DNS ส่วนตัว การใช้ตัวบล็อกโฆษณาและเครื่องมือติดตาม รวมถึงการสับเปลี่ยนที่อยู่ IP 

แต่น่าเสียดายที่นโยบายของ Atlas VPN ไม่สามารถวัดผลได้

ฟีเจอร์พิเศษ

  • เข้าถึงง่ายเพียงปลายนิ้ว – Atlas VPN ช่วยให้คุณเข้าสู่ระบบและใช้บริการแอปพลิเคชันใด ๆ ที่คุณต้องการทางออนไลน์ได้จากทุกที่ทั่วโลก
  • ความต่อเนื่องของการป้องกัน – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้มากเท่าที่คุณต้องการ ในเวลาเดียวกัน 

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $10.99
  • 1 ปี – $3.29
  • 3 ปี – $1.99

ข้อดี:

  • ตั้งค่าได้ง่ายและรวดเร็ว
  • นโยบายของการไม่ระบุตัวตน
  • ฟังก์ชันการตรวจจับและติดตามในตัว
  • โครงสร้างพื้นฐานของเซิร์ฟเวอร์ที่เล็กกว่า จะมีคุณค่าในระยะยาว

ข้อเสีย:

  • ไม่มีเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Windows, macOS, iOS และ Android75050ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น HBO Max และ Amazon Primeภายใน 30 วัน97-100 Mbpsไม่จำกัด

ไปยัง AtlasVPN ตอนนี้

7. Surfshark – แอพ VPN android และ IOS ที่เชื่อมต่อพร้อมกันได้แบบไม่จำกัดในราคาที่เป็นมิตร

Surfshark เป็นแอพ VPN ที่ดีที่สุดมาอย่างยาวนาน ใช้ได้แบบไม่จำกัด ร่วมกับความสามารถพิเศษ เช่น การแยกช่องสัญญาณและมัลติฮอป

นอกจากนี้ ยังนโยบายความเป็นส่วนตัวเฉพาะของบริษัท และเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ RAM เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรแก่การยกย่อง

ฟีเจอร์พิเศษ

  • Bypasser – อนุญาตให้เข้าถึงบางแอปและบางเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องใช้ VPN ตัวอย่างเช่น แอปธนาคารบนมือถือ
  • นโยบายไม่ระบุตัวตนที่เคร่งครัด – Surfshark จะไม่ติดตาม, ตรวจสอบ หรือจัดเก็บกิจกรรมออนไลน์ใด ๆ ของคุณ 
  • โหมดการตรวจจับ – การใช้โหมดพรางตัวช่วยให้มั่นใจได้ว่า แม้แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถระบุได้ว่าคุณกำลังใช้ VPN เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

ราคาต่อเดือน

24 เดือน + 2 เดือน (ฟรี) – $2.30

ข้อดี:

  • การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
  • การเข้าถึงการเชื่อมต่อแบบมัลติฮอป
  • รองรับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
  • การมีเซิร์ฟเวอร์แรง ๆ ทั่วโลก เหมาะสำหรับการสตรีมเนื้อหาที่ถูกจำกัด

ข้อเสีย:

  • ฟีเจอร์ไม่มาก
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Windows, macOS, Linux, iOS, Android, Chrome และ Firefox652065 ประเทศNetflix และบริการสตรีมชั้นนำ เช่น DAZN และ BBC iPlayerภายใน 30 วัน56.74 – 58.46  Mbpsไม่จำกัด

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

8. Ultra VPN – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีโปรโตคอลความปลอดภัยที่หลากหลาย

Ultra VPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากใช้ OpenVPN และ WireGuard 

ฟีเจอร์พิเศษ

  • รวมทุกสิ่งที่ต้องการในที่เดียว – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่พร้อมใช้งานบนทุกแพลตฟอร์ม, เบราว์เซอร์ และระบบปฏิบัติการ พร้อมกัน 10 เครื่อง
  • เข้าถึงเนื้อหาโปรดได้แบบไม่จำกัด – ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด  ก็สามารถเข้าถึงรายการโปรด, เพลง, แอพ และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $11.99
  • 6 เดือน – $7.50
  • 2 ปี + 2 เดือน – $2.19

ข้อดี:

  • นโยบายความเป็นส่วนตัวที่ไม่มีการเก็บบันทึก
  • ดู Netflix และ iPlayer ในสหรัฐอเมริกาได้
  • อนุญาตให้ใช้ซอฟต์แวร์ทอร์เรนต์ได้ในทุกเซิร์ฟเวอร์
  • การเข้ารหัสขั้นสูง และปรับแต่งได้
  • แอพ VPN ราคาถูกและดีที่สุด และเป็นแอพ VPN แนะนําสำหรับ Windows

ข้อเสีย:

  • ใช้ในประเทศจีนไม่ได้
  • อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ Five Eyes รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, macOS และ Windows100+ทั่วโลกNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ ภายใน 30 วัน211 Mbps6

ไปยัง UltraVPN ตอนนี้

9. Strong VPN  – VPN ราคาถูกที่เรียบง่าย, ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้บนแพลตฟอร์มส่วนใหญ่

Strong VPN เป็นแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีราคาย่อมเยา และเชื่อมต่อกับได้ 10 เครื่องพร้อมกัน

ฟีเจอร์พิเศษ

  • การรักษาความปลอดภัยแบบ 256 บิต– ด้วยการเข้ารหัสแบบ 256 บิต 
  • นโยบายไม่ระบุตัวตน–Strong VPN ปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ดีเมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $9.95
  • 5 ปี – $1.19
  • 1 ปี – $3.99

ข้อดี:

  • ผู้ให้บริการแอป VPN ต้นทุนต่ำ
  • ใช้งานอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่องพร้อมกัน
  • เซิร์ฟเวอร์แรง ๆ ที่รวดเร็ว

ข้อเสีย:

  • ฝ่ายบริการลูกค้าให้บริการเป็นภาษาอังกฤษ
  • อาจมีปัญหาการสตรีม Netflix ในบางครั้ง
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Windows, Mac, Linux, Android, iOS, DDWRT, macOS, เราเตอร์ GLiNet, Android TV950+35 ประเทศNetflix และบริการสตรีมชั้นนำ เช่น KODI, Crunchyroll และ Youtubeภายใน 30 วัน270-300 Mbps12

ไปยัง StrongVPN ตอนนี้

10. IPVanish – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

IPVanish ให้บริการ VPN ที่ช่วยซ่อนที่อยู่ IP และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากแฮกเกอร์และบุคคลที่สาม

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ราคาย่อมเยา – แอพ VPN ที่ดีที่สุดนี้เป็นหนึ่งในแอพ VPN แนะนําของเรา เพราะใช้งานง่ายและมีฟังก์ชั่นให้เลือกมากมาย 
  • แอพ VPN android – IPVanish เหมาะมากกับคนใช้ Android เพียงตั้งค่าที่อยู่ IP และตำแหน่งปัจจุบัน, ประเทศเป้าหมาย และกดปุ่ม ‘เชื่อมต่อ’ เพื่อออนไลน์อย่างรวดเร็ว รวมถึงการตั้งค่าข้อมูลบัญชี หรือรายการเซิร์ฟเวอร์

ราคาต่อเดือน

  • รายปี – $3.99
  • รายไตรมาส – $5.32
  • รายเดือน – $10.99

ข้อดี:

  • เซิร์ฟเวอร์แรงทั้งประเทศ
  • เชื่อมต่อ P2P ได้ง่าย และไม่มีการบันทึกข้อมูล
  • แอพ VPN android ที่ตั้งค่าความปลอดภัยขั้นสูงได้
  • ที่อยู่ IP มากกว่า 40,000 รายการ
  • เชื่อมต่อได้ 10 เครื่องพร้อมกัน

ข้อเสีย:

  • ไม่มีส่วนขยายของเบราว์เซอร์
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Windows, macOS, Linux, iOS, Android, Chrome, Firefox และเราเตอร์เฟิร์มแวร์190052 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น HBO Maxภายใน 30 วัน488 Mbpsไม่จำกัด

ไปยัง IPVanish ตอนนี้

11. Hotspot Shield – แอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในด้านความเร็ว

Hotspot Shield ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยการเข้ารหันโยบายไม่ระบุตัวตนสการเชื่อมต่อและลบข้อมูลใด ๆ ที่อาจใช้เพื่อระบุตัวตนของคุณได้

ฟีเจอร์พิเศษ

  • รักษาความปลอดภัยบนอุปกรณ์ – แม้ว่าคุณจะเชื่อมต่อไม่ปลอดภัย ข้อมูลของคุณก็จะยังคงปลอดภัย ด้วยการเข้ารหัส AES 256 บิตระดับเดียวกับกองทัพ 
  • ติดตามแบบเรียลไทม์ – การเข้าถึงเกม, กีฬาสด และเว็บไซต์สตรีมมิ่งเกิดขึ้นได้ด้วยแบนด์วิธไม่จำกัด และเป็นแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่ให้ความเร็วแรงๆ 
  • เยี่ยมชมเว็บไซต์และใช้แอพมือถือได้ไม่จำกัด – เพียงคลิกเดียวก็สามารถเข้าถึงโปรแกรมหรือเว็บไซต์ใด ๆ ได้โดยไม่มีข้อจำกัด และเป็นแอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุด ที่ช่วยให้เข้าถึงเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ทันที

ราคาต่อเดือน

  • พื้นฐาน – ฟรี
  • พรีเมียม – 7,99€
  • พรีเมียมแบบครอบครัว – 11,99€

ข้อดี:

  • นโยบายไม่ระบุตัวตน ซึ่งจะไม่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตของคุณ
  • ประหยัดเงินได้มาก

ข้อเสีย:

  • ไม่ได้ใช้เซิร์ฟเวอร์ DNS
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, Linux, macOS, เราเตอร์ และ Windows1,80080 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆภายใน 30 วันจำกัด 500 MB1

ไปยัง Hotspot Shield ตอนนี้

12. Norton Secure VPN  – แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่บริษัทแอนตี้ไวรัสชั้นจำนวนมากใช้

Norton Secure VPN เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการท่องเว็บ, การสตรีม Netflix และเป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม เนื่องจากมีการเข้ารหัส AES 256 บิต, นโยบายไม่ระบุตัวตน, kill-switch และโปรโตคอลความปลอดภัย ที่รวมอยู่ในแอพ VPN ที่ดีที่สุดแห่งนี้

ฟีเจอร์พิเศษ

  • Tunneling – คุณสามารถเลือกเข้ารหัสข้อมูลธนาคารออนไลน์หรือข้อมูลด้านสุขภาพได้ โดยการอนุญาตให้แอปและบริการของบุคคลที่สามเข้าถึง ในขณะที่กำลังใช้งาน VPN
  • มั่นใจได้ในความปลอดภัย – หากการเชื่อมต่อ VPN หลุดไป อุปกรณ์ของคุณจะตัดการเชื่อมต่อทันที เพื่อป้องกันการเปิดเผยที่อยู่ IP, ตำแหน่ง หรือตัวตนของคุณ

ราคา

  • Deluxe – $49.99/ปี
  • Select – $9.99/เดือน
  • Advantage – $19.99/เดือน
  • Unlimited Plus – $29.99/เดือน

ข้อดี:

  • ใช้งานง่าย
  • มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดี
  • ไม่พบการรั่วไหลของข้อมูลเมื่อใช้ VPN

ข้อเสีย:

  • ฐานข้อมูลจาก Norton
  • ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ในเมือง
  • ไม่รองรับ Linux
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, macOS และ Windows2,00031 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น  ๆภายใน 60 วันความเร็วเฉลี่ย 317 Mbps บนพื้นฐาน 5 Gbps10

ไปยัง Norton Secure VPN ตอนนี้

แอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุด

คุณคงรู้ว่าการปกป้องความเป็นส่วนตัวนั้นสำคัญมากเพียงใด และนั่นเป็นเหตุผลที่เราได้จัดทำคู่มือนี้เพื่อคุณ และช่วยให้คุณได้รู้จักแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่ช่วยปกป้องข้อมูลจากการสอดแนมได้

Proton VPN – แอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุด

ProtonVPN เป็นแอพ VPN ที่ดีที่สุดที่ฟรีและไร้ความเสี่ยง แม้ว่าจะมีนโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด แต่ ProtonVPN ก็ไม่สามารถส่งข้อมูลส่วนตัวได้ โดยมีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น Tor integration และเซิร์ฟเวอร์ SecureCore

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ความปลอดภัย – แม้ว่าคุณจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสาธารณะ แต่รหัสผ่านและข้อมูลส่วนตัวของคุณจะยังคงปลอดภัย
  • ความเป็นส่วนตัว – ผู้ให้บริการ VPN จะไม่บันทึกกิจกรรมใด ๆ ของผู้ใช้งาน

ราคา

ฟรีทั้งหมด

ข้อดี:

  • ยึดมั่นในความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
  • แอพ VPN ฟรีที่ดีที่สุด และใช้งานง่าย

ข้อเสีย:

  • เซิร์ฟเวอร์อาจทำงานล่าช้าในบางครั้ง
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
iPhone, Android, Mac, Windows, Linux, Fire TV Stick, Chromebook, Android TV และอีกมากมาย170063 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น  ๆ เช่น Apple TV+ และ Huluภายใน 30 วันความเร็วเฉลี่ย 300 Mbps10

ไปยัง ProtonVPN ตอนนี้

แอพ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone

ไม่มีตัวเลือกใดที่ดีไปกว่าการดาวน์โหลดแอพ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone  เมื่อจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงข้อจำกัดบางอย่างบนโลกอินเทอร์เน็ต

แอป VPN เป็นแอพมือถือที่ช่วยให้คุณท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องระบุชื่อและมีความปลอดภัย แม้ว่าจะใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะก็ตาม 

ExpressVPN – แอพ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone

ในปี 2023 การใช้ VPN ใน iPhone ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และ ExpressVPN ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนั้น

แอพ VPN ที่ดีที่สุดนี้มีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว, การเข้ารหัสที่ยอดเยี่ยม และนโยบายการไม่ระบุตัวตนที่ตรวจสอบได้

ฟีเจอร์พิเศษ

  • มีเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก – มากกว่า 5,000+ เซิร์ฟเวอร์ ใน 94 ประเทศ
  • การบันทึกขั้นต่ำ – ไม่มีการบันทึกข้อมูลในระหว่างที่ใช้งาน ExpressVPN เช่น เว็บไซต์ที่เข้าถึง, ไฟล์ที่ดาวน์โหลด, โปรแกรมที่ใช้งาน, ที่อยู่โปรโตคอล, ระยะเวลาที่ใช้ และปริมาณข้อมูล 

ราคาต่อเดือน

  • 1 เดือน – $12.95
  • 6 เดือน – $9.99
  • 12 เดือน – $6.67

ข้อดี:

  • มีแอปเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome, Firefox และ MS Edge
  • โปรโตคอลความปลอดภัยระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม
  • kill-switch ใช้งานง่าย
  • มีเซิร์ฟเวอร์กระจายอยู่ใน 160 เมือง

ข้อเสีย:

  • มีราคาแพงกว่าคู่แข่ง
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, Linux, macOS, เราเตอร์, ทีวี และ Windows3,000+94 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น Apple TV+ และ Huluภายใน 30 วัน375-430 Mbps5

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

แอพ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Android 

แอพ VPN android ที่ดีที่สุด ช่วยคุณปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ นอกจากนี้ ยังมีแบนด์วิธไม่จำกัดเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดได้

ExpressVPN – แอพ VPN android ที่เชื่อถือได้ดีที่สุด

ExpressVPN เป็นแอพ VPN android ที่โดดเด่น เพราะรวมเอาฟีเจอร์ระดับมืออาชีพมาไว้รวมกัน

ExpressVPN เริ่มให้บริการ VPN ตั้งแต่ปี 2009 โดยที่ตั้งของบริษัทอยู่ในหมู่เกาะ British Virgin ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในด้านของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

นอกจากนี้ แอพ VPN ที่ดีที่สุดนี้ยังมีตำแหน่งให้เลือกมากที่สุด และการเชื่อมต่อมีความเร็วแรง ๆ ที่รองรับลูกค้าได้นับล้าน

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ตัวแยกช่องสัญญาณ – ExpressVPN ช่วยให้การเชื่อมต่อ VPN บนคอมพิวเตอร์ของคุณรวดเร็ว ด้วยการแยกช่องสัญญาณในแอป โดยเลือกได้ว่าแอปใดจะผ่าน VPN และแอปใดจะใช้การเชื่อมต่อแบบปกติ
  • เซิร์ฟเวอร์และที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์ – การมีเซิร์ฟเวอร์หลายพันเครื่อง ในกว่า 90 ประเทศ ช่วยให้คุณพบเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

ราคา

  • 12 เดือน – $6.67
  • 6 เดือน – $9.99
  • 1 เดือน – $12.95

ข้อดี:

  • หนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Android
  • มากกว่า 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ
  • โปรโตคอล Lightway ที่รวดเร็วและปลอดภัย
  • สตรีมได้อย่างยอดเยี่ยม
  • ใช้งานง่าย
  • การแยกช่องสัญญาณในแอป 

ข้อเสีย:

  • ไม่มีตัวบล็อกโฆษณา
  • ไม่มีที่อยู่ IP เฉพาะ
  • เจ้าของ คือ Kape Technologies
อุปกรณ์จำนวนตำแหน่งสตรีมมิ่งคืนเงิน ช่วงความเร็วในUSจำนวนสูงสุด
Android, iOS, Linux, macOS, เราเตอร์, ทีวี และ Windows3,000+160 เมือง ใน 94 ประเทศNetflix และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ เช่น Apple TV+ และ Huluภายใน 30 วัน375-430 Mbps5

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

เปรียบเทียบแอพ VPN ที่ดีที่สุด

ตารางด้านล่างจะเปรียบเทียบแอพ VPN ที่ดีที่สุด จากแผนที่ถูกที่สุด ดังนี้

VPNแผนถูกที่สุดแผนฟรีคืนเงินอุปกรณ์
ExpressVPN £ 5.59 (สมาชิก 12 เดือน)ไม่มี30 วันWindows, Android, iOS, Mac, FireOS และ Linux
Private Internet Access£ 2.03 (สมาชิก 3 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android และ Linux
Ivacy VPN 0.8 ปอนด์ (สมาชิก 5 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android และ Linux
CyberGhost VPN£ 1.70 (สมาชิก 3 ปี)ไม่มี45 วันWindows, Mac, iOS, Android, ทีวี, Linux, เกมคอนโซล
NordVPN £ 2.49 (สมาชิก 2 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, Android, iOS และ Linux
Atlas VPN £ 1.46 (สมาชิก 2 ปี)มี30 วันiOS, Windows, Mac, Android
Surfshark One £ 1.79 (สมาชิก 2 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android และ Linux
UltraVPN € 2.65 (สมาชิก 2 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS และ Android
Proton VPN€ 4.99 (สมาชิก 2 ปี)ใช่30 วันWindows, Mac, Android, iOS, Linux
StrongVPN 2.78 ปอนด์ (สำหรับปีแรกของสมาชิก 2 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, Android, เราเตอร์
IPVanish$ 3.99 (สมาชิก 12 เดือน)ไม่มี30 วันWindows, iOS, Mac, Android และ FireOS
ZenMate£ 1.59 (สมาชิก 2 ปี)ทดลองฟรี 7 วัน สำหรับแผนชำระเงิน30 วันiOS, Windows, Mac, Android, เบราว์เซอร์

วิธีเลือกแอพ VPN ที่ดีที่สุด?

การใช้งานอินเทอร์เน็ต คือ ประตูสู่โลกกว้างเพื่อรับข่าวสาร, ความบันเทิง และข้อมูลจากทั่วโลก แต่ก็เสี่ยงที่จะเปิดเผยข้อมูลต่อแฮ็กเกอร์ และรับภัยคุกคามอื่น ๆ

VPN จึงเป็นช่องทางเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต โดยปกป้องข้อมูลไม่ให้ใครสอดแนมได้ แต่การเลือก แอป VPN ที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยาก

เพื่อช่วยคุณเลือกแอพ VPN ที่ดีที่สุดได้ ลองใช้เคล็ดลับต่อไปนี้:

อ่านรีวิวจากผู้ใช้งาน

หากไม่มีรีวิวจากผู้ใช้งาน เนื่องจากมีการใช้งานไม่นานมากพอ ให้พิจารณาว่าฟีเจอร์เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับตัวเลือก VPN อื่น ๆ 

ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างละเอียด

คุณจำเป็นต้องตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากบริษัทระบุว่าจะไม่มีการเก็บบันทึก หรือการเข้ารหัสในระดับ “กองทัพ” (ซึ่งอาจไม่สามารถใช้ได้ทุกที่หรือทุกคน) โปรดจำไว้ว่า VPN จะไม่ปกป้องผู้ใช้งานจากแอพติดตามที่สอดแนมกิจกรรมการท่องเว็บ

ตรวจสอบจำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการ

หากคุณเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตจำกัด แอพ VPN ที่ดีที่สุดที่มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากมายจะเป็นประโยชน์มากกว่า

ตรวจสอบอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ

แม้แต่แอพ VPN android และ iOS ที่ปลอดภัยที่สุด ก็อาจใช้ไม่ได้กับบางเวอร์ชัน (เช่น บน Android บางรุ่นที่ใช้เวอร์ชันเก่า) จึงควรเลือกแบบที่ใช้ได้กับทั้งเดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดหรือข้อจำกัดใดๆ

แอพ VPN ที่ดีที่สุดอาจมีข้อจำกัดบางอย่าง แต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณเข้าใจและทราบวิธีแก้ไข เพราะผู้ให้บริการบางรายอาจตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงข้อจำกัดบางอย่าง 

ดังนั้น ควรเช็คข้อจำกัดและตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้ให้บริการ

หลีกเลี่ยง VPN “ฟรี” ที่อาจมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

แม้ว่า VPN บางตัวจะฟรี แต่อาจมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น TunnelBear ที่มีข้อมูลและความเร็วที่จำกัด และจำเป็นต้องอัปเกรดเป็นบริการแบบชำระเงิน

พิจารณาค่าใช้จ่ายของแอป VPN บนมือถือ

ตรวจสอบดูว่าราคาและฟีเจอร์ของแอพ VPN ที่ดีที่สุดตรงกับความคาดหวังของคุณหรือไม่? คุณอาจพบว่า ผู้ให้บริการ VPN อาจคิดอัตราค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก

บางบริษัทให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเหนือสิ่งอื่นใด แต่บางบริษัทก็ให้ความสำคัญกับความเร็วแรง ๆ คุณจึงต้องหาจุดสมดุลให้ได้

บทสรุปเกี่ยวกับแอพ VPN ที่ดีที่สุดปี 2023

สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อหาแอพ VPN ที่ดีที่สุด คือ การเลือกบริการที่เหมาะสมกับตัวเอง และการใช้ประโยชน์จากแผนฟรี และการคืนเงิน เพื่อดูว่าแอป VPN นั้นเป็นอย่างไร

ExpressVPN เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา เพราะใช้งานง่าย, มีการบริการลูกค้าที่ดี และมีความเร็วที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้  ยังเป็นแอพ VPN แนะนําสำหรับมือใหม่อีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาสิ่งที่ดีกว่านี้ ExpressVPN มีตัวเลือกในการตั้งค่าที่อยู่ IP และเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการใช้เว็บโฮสติ้งหรือเซิร์ฟเวอร์เกม

Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

VPN ถูกและดีที่สุดในปี 2023 VPN อันไหนดี? ราคาไม่ถึงหลักร้อย!

การใช้ VPN ถูกและดีที่สุด จะช่วยซ่อนร่องรอยจากการท่องโลกออนไลน์ โดยไม่ต้องสูญเสียความปลอดภัย, ฟีเจอร์ หรือความเร็วอินเทอร์เน็ต 

เราทราบดีว่าการค้นหา VPN ราคาถูกที่มีคุณภาพนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้น เราจึงอยากรีวิว VPN ถูกและดีที่สุดในเชิงลึก เราพบว่า Private Internet Access เป็นผู้นำด้าน VPN และยังโดดเด่นกว่าคู่แข่งในด้านของความคุ้มค่า หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยรักษาความปลอดภัย ในราคาเพียง 2.03 ดอลลาร์ต่อเดือน! นี่คือราคาที่ถูกและเชื่อถือได้มากที่สุดแล้ว

คุณสามารถรับคืนเงินได้ภายใน 30 วัน หรืออ่านต่อเพื่อเรียนรู้ว่า Private Internet Access เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น 

10 อันดับ VPN ถูกและดีที่สุดในปี 2023

นี่คือ VPN 10 อันดับVPN ถูกและดีที่สุด:

  1. Private Internet Access — VPN ถูกและดีที่สุดโดยรวม พร้อมเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ครอบคลุม, แบนด์วิธไม่จำกัด ในราคา 2.03 ดอลลาร์/เดือน
  2. Surfshark  — Double VPN ราคาถูกสำหรับการสตรีมที่ราบรื่น, เครื่องมือป้องกันไวรัส และการเข้าถึงแบบไม่จำกัด
  3. NordVPN — ผู้นำ VPN ถูกและดีที่สุดที่ให้บริการระดับพรีเมียม, มีฟีเจอร์หลากหลาย พร้อมการเข้ารหัสพิเศษ และเครือข่าย 5,500 แห่งทั่วโลก
  4. PrivateVPN  — สุดยอด VPN ความเร็วสูงสำหรับการทอร์เรนต์ พร้อมเครื่องมือซ่อนตัวอัจฉริยะ และหน้าต่างใช้งานที่เรียบง่าย
  5. Atlas VPN — VPN อันไหนดีที่มีตัวเลือกการสตรีมมิ่งส่วนตัวแบบ 4K พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยชั้นหนึ่ง, ความเร็วที่เชื่อถือได้ และ VPN Kill Switch 
  6. CyberGhost  — VPN อันไหนดีที่ถูกและเข้ารหัสที่ดีที่สุด โดยมีนโยบายและเครื่องมือที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด เพื่อการสตรีมและเล่นเกม
  7. IPVanish — ตัวเลือก VPN ราคาถูก พร้อมตัวเลือกปรับแต่งที่ยอดเยี่ยม, รวดเร็ว และปลอดภัย
  8. Proton VPN — หนึ่งใน VPN ถูกและดีที่สุดด้านความปลอดภัยและความเร็ว และมีบริการพรีเมียมที่น่าดึงดูด 
  9. VyprVPN — VPN ราคาถูกในประเทศจีนที่ให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ และทำงานในพื้นที่ที่ถูกจำกัดได้ 
  10. StrongVPN— ตัวเลือก VPN ยอดนิยมสำหรับการใช้ Netflix และการทอร์เรนต์ 

ไปยัง Private Internet Access ตอนนี้

รีวิวเชิงลึกเกี่ยวกับบริการ VPN ถูกและดีที่สุด

เราพิจารณาทั้งจำนวนและการกระจายตัวของเซิร์ฟเวอร์ VPN, ฟีเจอร์พิเศษและความสามารถโดยรวม, ราคา, ข้อดีและข้อเสีย และอื่น ๆ  เพื่อแสดงให้คุณได้เห็นว่า VPN ถูกและดีที่สุดควรเป็นอย่างไร

ข้ามรีวิวนี้หากคุณต้องการเปรียบเทียบเฉพาะรายละเอียด เช่น ราคา หรือการคืนเงิน

1. Private Internet Access  — VPN ถูกและดีที่สุดโดยรวม

ด้วยประสบการณ์กว่าทศวรรษ และราคาที่ย่อมเยา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Private Internet Access จะถูกจัดอันดับให้เป็น VPN ถูกและดีที่สุดอันดับ 1 ของเรา และมีผู้ใช้งานมากกว่า 15 ล้านคนทั่วโลก PIA เป็น VPN ราคาถูกที่ให้ความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัย และอิสระบนโลกออนไลน์อย่างสมบูรณ์

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$2.03/เดือน — แผน 3 ปี$3.33/เดือนไม่มี30 วัน10Windows, Mac, Linux, Android, iOS, web extensions29,65084 ประเทศNetflix, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer เป็นต้น

ข้อดี:

  • มีชื่อเสียงโด่งดัง
  • เซิร์ฟเวอร์ระดับโลก
  • ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ระบุตัวตน 
  • การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร
  • แบนด์วิธไม่จำกัด

ข้อเสีย:

  • ไม่มีให้ทดลองใช้ฟรี
  • ไม่เหมาะกับการทอร์เรนต์

การรักษาความปลอดภัยและนโยบายไม่ระบุตัวตน ช่วยให้คุณสบายใจได้ว่าจะไม่มีใครตรวจสอบการใช้งานทางออนไลน์ของคุณได้ 

คุณยังได้รับโปรโตคอลที่น่าเชื่อถือที่สุด เช่น OpenVPN และ WireGuard เพื่อความเร็วและความปลอดภัยที่เหนือกว่า รวมถึง RAM-only servers ที่เมื่อรีบูตจะลบกิจกรรมทั้งหมดของคุณออกไป

ไม่หมดแค่นั้น เพราะการมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 20,000 แห่งทั่วโลก ทำให้ PIA มอบความเร็วสูงสุดแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ด้วย

การเชื่อมต่อ 10Gbps ทำให้ PIA กลายเป็นสุดยอดของการสตรีมและการใช้งานอินเทอร์เน็ต และเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม

ราคา:

แผน 3 ปี เป็นข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด เพียงเดือนละ 2.03 ดอลลาร์เท่านั้น และใช้ได้กับอุปกรณ์สูงสุดถึง 10 เครื่อง ในขณะที่แผน 1 ปี จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพียง 3.33 ดอลลาร์ต่อเดือน

คุณยังสามารถเลือกตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น โปรแกรมสแกนไวรัส และที่อยู่ IP เฉพาะ เพื่อความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้น และเพื่อลดปัญหาเมื่อมีคนใช้งานมาก

เราขอแนะนำให้คุณใช้ประโยชน์จากการคืนเงิน ที่ทำได้ภายใน 30 วัน

ไปยัง Private Internet Access ตอนนี้

2. Surfshark — Double VPN ราคาถูกสำหรับการสตรีมที่ราบรื่น

การจ่ายเงินเพียง 2.49 ดอลลาร์/เดือน ก็ใช้กับอุปกรณ์ได้ไม่จำกัด ทำให้ Surfshark กลายเป็น VPN ราคาถูกยอดนิยม หากสงสัยว่าจะดู House of Dragon จากสักที่บนโลกนี้ได้อย่างไร? Surfshark คือคำตอบที่คุณต้องลอง!

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$2.49/เดือน — แผน 2 ปี$3.99/เดือนทดลองบนมือถือได้ 7 วัน30 วันไม่ จำกัดMac, Windows, Linux, iOS, Android, web extensions3,200+99 ประเทศNetflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer, Amazon Prime

ข้อดี:

  • แอพที่ลื่นไหล
  • การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว
  • มาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
  • เชื่อมต่อพร้อมกันได้ไม่จำกัด
  • ไม่จำกัดบริการสตรีมมิ่งยอดนิยม

ข้อเสีย:

  • ความเร็วของ OpenVPN อาจช้า
  • เมื่อต้องการต่ออายุจะมีค่าใช้จ่ายสูง

Surfshark เป็น VPN ถูกและดีที่สุดครอบคลุมอุปกรณ์ทุกอย่าง และเพลิดเพลินไปกับการสตรีมมิ่งและทอร์เรนต์ที่ราบรื่น ด้วยแบนด์วิธที่ไม่จำกัด

Surfshark เป็น VPN ราคาถูกที่ปลอดภัย และยังมีสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้:

  • โปรโตคอลชั้นนำ เช่น OpenVPN, IKEv2 และ WireGuard
  • เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ RAM และการเข้ารหัส AES-256

นอกจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัยป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และฟีเจอร์ ‘CleanWeb’ เพื่อป้องกันโฆษณาที่น่ารำคาญ, เครื่องมือติดตามคุกกี้ และเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย 

แม้ว่า Surfshark จะค่อนข้างใหม่ แต่ก็มีชื่อเสียงในด้านความเร็วการสตรีม และความสามารถในการปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

ราคา:

เพื่อยกระดับการป้องกันและความปลอดภัย คุณยังเลือกใช้ Surfshark One ที่เป็นหนึ่งในโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีที่สุด ที่มีเบราว์เซอร์ส่วนตัวที่ปราศจากโฆษณาและตัวติดตาม และยังแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีข้อมูลรั่วไหล ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3.98 ดอลลาร์/เดือน ! นี่คือราคาของ Surfshark One:

คุณสามารถทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 7 วัน หรือลงทะเบียนเพื่อรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วัน

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

3. NordVPN — ผู้นำ VPN ถูกและดีที่สุดที่ให้บริการระดับพรีเมียม มีฟีเจอร์หลากหลายในราคาประหยัด

Nord VPN ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งใน VPN ถูกและดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งใน VPN ที่เป็นที่รู้จัก และได้คะแนนสูง ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 14 ล้านคน

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$3.09/เดือน — แผน 2 ปี$4.99/เดือนไม่มี30 วัน6Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Android TV, web extensions5,500+59Netflix, Amazon Prime, Hulu

ข้อดี:

  • VPN ราคาถูกและคุ้มค่า
  • ความปลอดภัยสูง และความเร็วที่เหนือชั้น
  • ฟีเจอร์ปลดบล็อกขั้นพิเศษ
  • VPN ที่เชื่อถือได้

ข้อเสีย:

  • ราคาต่ออายุสูง
  • เซิร์ฟเวอร์หลายแห่งอยู่กระจุกอยู่ในสหรัฐอเมริกา

NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อยู่บ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น การป้องกันภัยคุกคาม และต่างจาก VPN อื่น ๆ ตรงที่ไม่ได้เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีโปรโตคอล NordLynx (อ้างอิงจากเฟรมเวิร์ก WireGuard ที่เป็นที่นิยม) ที่ให้ความเร็วที่น่าอัศจรรย์, แบนด์วิธไม่จำกัด และกระจายเซิร์ฟเวอร์อยู่ในแทบทุกมุมโลก ทำให้ NordVPN เป็นหนึ่งใน VPN เร็วที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่ง

คุณสามารถปลดบล็อก Netflix, Amazon Prime, Hulu และอื่น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และปลอดภัย เพื่อเข้าถึงเนื้อหาใหม่ได้จากที่บ้าน

ด้วยนโยบายไม่ระบุตัวตน และมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับแนวหน้า รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่ปกปิดการใช้งาน VPN ทำให้ NordVPN คือทางเลือกของ VPN ถูกและดีที่สุดที่มีฟีเจอร์ครบครัน และมีความปลอดภัยสูง .

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม อ่านรีวิว NordVPN แบบเจาะลึกของเราได้เลย

ราคา:

แผนข้างต้นเป็นการสมัครสมาชิก 2 ปี นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกการเก็บเงินรายปี และรายเดือนด้วย

ลองใช้ NordVPN เป็นเวลา 30 วันและรับเงินคืนได้หากไม่พอใจ

ไปยัง NordVPN ตอนนี้

4. PrivateVPN — สุดยอด VPN ความเร็วสูงสำหรับการทอร์เรนต์ที่ราคาไม่แพง

PrivateVPN ยังมีแบนด์วิธที่ไม่จำกัด แต่มีความเร็วเซิร์ฟเวอร์ระดับสูงสุด และความสามารถในการปลดบล็อกที่น่าประทับใจ ในราคาเพียง 2 ดอลลาร์/เดือน จึงทำให้ติดอันดับ VPN ถูกและดีที่สุดของเรา

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$2/เดือน — แผน 3 ปี$6/เดือน7 วัน30 วัน10PC, Mac, Android, iOS, Linux, Kodi200+63Netflix, BBC iPlayer, Hulu, Disney+, HBO Max, Vudu

ข้อดี:

  • เซิร์ฟเวอร์ที่รวดเร็ว
  • ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
  • หน้าต่างใช้งานที่เรียบง่ายและใช้ง่าย
  • เหมาะสำหรับการทอร์เรนต์และการสตรีม
  • มีระบบสนับสนุนลูกค้าที่ดีเยี่ยม

ข้อเสีย:

  • จำนวนน้อย
  • แอพสำหรับ iOS และ Mac ยังไม่มีฟังก์ชันการใช้งาน

คุณสามารถปลดล็อค Netflix, Disney+, BBC iPlayer และสตรีมรายการโปรดได้แบบไม่มีสะดุด! นอกจากนี้ ยังฟีเจอร์สำหรับผู้ที่ต้องการทอร์เรนต์อย่างปลอดภัยด้วย

PrivateVPN มี AES 128 บิต และการเข้ารหัส 256 บิตที่มีประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายไม่ระบุตัวตน, kill-switch, ฟีเจอร์ป้องกันการรั่วไหลของ IP และ DNS หรือแม้แต่โหมดซ่อนตัว และไฟร์วอลล์ที่แน่นหนาที่สุด โดยรวมแล้ว PrivateVPN เป็น VPN ราคาถูก และทอร์เรนต์ได้ในราคาประหยัด

ราคา:

เลือกแผน 12 เดือน แถมฟรี 24 เดือน เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าราคาต่ออายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับแผนรายปี 

คุณมีเวลา 30 วัน เพื่อทดลอง PrivateVPN และรับเงินคืนได้หากไม่พอใจ

ไปยัง PrivateVPN ตอนนี้

5. AtlasVPN — VPN อันไหนดีที่มีตัวเลือกการสตรีมมิ่งส่วนตัวแบบ 4K 

AtlasVPN เป็นหนึ่งใน VPN ถูกและดีที่สุด แม้ว่าจะไม่มีการเข้ารหัส OpenVPN, IKEv2 และโปรโตคอล WireGuard ก็ตาม

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$1.99/เดือน — แผน 3 ปี$3.29/เดือนมี30 วันไม่ จำกัดWindows, Mac, iOS, Android750+43+Netflix, iPlayer, Amazon Prime, Hulu

ข้อดี:

  • ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ
  • รวดเร็วและเชื่อถือได้
  • เชื่อมต่อพร้อมกันได้แบบไม่จำกัด
  • VPN ถูกและดีที่สุดสำหรับการสตรีม 4K

ข้อเสีย:

  • ไม่รองรับ Linux
  • ไม่มีการเข้ารหัส OpenVPN
  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก

ในสหรัฐอเมริกา นโยบายไม่ระบุตัวตนข้อมูลเป็นสิ่งที่ได้รับการผ่อนปรน เช่นเดียวกับฟีเจอร์ป้องกันการรั่วไหลของ IP และ DNS และ kill-switch แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ดีเช่นกัน ก็คือ ฟีเจอร์ ‘SafeBrowse’ สำหรับมือถือ ที่ป้องกันการเข้าเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย และบล็อกโฆษณาได้ (บนอุปกรณ์ iOS)

ดังนั้น มันจึงปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด ถึงจะมีเซิร์ฟเวอร์ไม่เพียงพอ แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหากับการสตรีมมากนัก เพราะรองรับการสตรีม 4K ได้

Atlas VPN เข้าถึง Netflix, BBC iPlayer, Amazon Prime และ Disney+ ได้ และเหมาะกับมือใหม่ เพราะมีแอปที่ใช้งานง่ายด้วยการคลิกแค่ปุ่มเดียว 

การมีราคาถูก, ปลอดภัย และมีความเร็วที่เชื่อถือได้ แม้จะมีจำนวนค่อนข้างน้อย และขาดโปรโตคอล OpenVPN ถ้าคุณรับสิ่งนี้ได้ นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

ราคา:

AtlasVPN มีแผนให้ทดลองใช้ฟรี และคืนเงินภายใน 30 วัน เช่นเดียวกับ VPN ที่อื่น ๆ

ไปยัง AtlasVPN ตอนนี้

6. CyberGhost — VPN อันไหนดีที่ถูกและเข้ารหัสที่ดีที่สุด

CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์ที่มากกว่า 9,000 แห่งทั่วโลก และปรับให้เหมาะสมสำหรับการสตรีมแบบ HD ทำให้เหมาะกับการเล่นเกมที่ต่อเนื่องและการทอร์เรนต์ และกลายเป็น VPN ถูกและดีที่สุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะแผนแบบ 2 ปี

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$2.19/เดือน — แผน 3 ปีไม่มีข้อมูลทดลองใช้ 1 วัน45 วัน7Windows, Mac, iOS, Android, Linux9,200+91Hulu, Netflix, YouTube, BBC iPlayer, Amazon

[/su_table]

ข้อดี:

  • ใช้งานง่ายมาก
  • ระบบสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม
  • คุ้มค่าการใช้งาน
  • ราคาไม่แพงเกินไปเมื่อต่ออายุการใช้งาน
  • คืนเงินมากกว่าใครที่ 45 วัน

ข้อเสีย:

  • ความเร็วที่ไม่เสถียร
  • ทำงานได้ไม่ค่อยดีในประเทศจีน

นอกจากราคาที่ย่อมเยาแล้ว CyberGhost ยังติดตั้งและใช้งานง่าย แม้แต่ผู้ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีน้อยที่สุด 

CyberGhost เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ดังนั้น การเชื่อมต่อคอนโซลเกม, สมาร์ททีวี และ Amazon Firestick จึงเป็นเรื่องง่าย โดยมีตัวเลือกมากมายที่ให้ความเร็วที่สม่ำเสมอ

ฟีเจอร์ ‘การเชื่อมต่อด่วน’ ช่วยให้คุณทำสิ่งนี้ได้โดยอัตโนมัติ  CyberGhost มีความน่าเชื่อถือ, ปลอดภัย และใช้งานง่าย คุณจึงไม่มีปัญหาในการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดในบางประเทศ

รวมถึงความปลอดภัย เช่น นโยบายไม่ระบุตัวตน และเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ RAM เท่านั้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านรีวิว CyberGhost เชิงลึกของเรา

ราคา:

แผน 2 ปี มีราคาเพียง 2.19 ดอลลาร์ต่อเดือน และเป็นแผนที่คุ้มค่ามากที่สุด ลองใช้และรับเงินคืนหากคิดว่าไม่เหมาะกับคุณ

ไปยัง CyberGhost ตอนนี้

7. IPVanish — ตัวเลือก VPN ราคาถูก พร้อมตัวเลือกปรับแต่งที่ยอดเยี่ยม

ด้วยราคาเพียง 3.99 ดอลลาร์/เดือน ที่รวมโปรแกรมสแกนไวรัส และรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบไม่จำกัด ทำให้IPVanishเป็นหนึ่ง VPN ถูกและดีที่สุดของเรา

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$3.99/เดือน$3.99/เดือนไม่มีข้อมูล30 วันไม่ จำกัดWindows, Mac, Android, iOS, Linux2,000+75+Netflix, Hulu, Disney+, HBO Max, BBC iPlayer, ESPN

ข้อดี:

  • รองรับ P2P
  • แอพใช้งานง่าย
  • เซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ไม่จำกัด

ข้อเสีย:

  • ราคาต่ออายุสูง
  • ใช้ไม่ได้ในประเทศจีน

VPN อันไหนดีที่มีความเร็วสูงอย่างเหลือเชื่อทั่วทุกพื้นที่ ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการทอร์เรนต์และการเล่นเกม (นับว่า IPVanish เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Xbox One!) และตัวเลือกเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์โดยอัตโนมัติที่เร็วที่สุด แต่มีปลั๊กอินที่เรียบง่าย

คุณจะไม่มีปัญหาการถูกบล็อกจาก Netflix ของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น รวมถึง ESPN, HBO Max ยกเว้น Amazon Prime และ DAZN

ในส่วนของ Kodi VPN ที่ดีที่สุด IPVanish เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เนื่องจากช่วยให้คุณสตรีมเนื้อหา HD Kodi จากอุปกรณ์ FireStick, เดสก์ท็อป หรือแท็บเล็ตได้

ประการสุดท้ายคือ นโยบายไม่ระบุตัวตน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล อีกทั้งยังมี IP rotator ที่ช่วยเปลี่ยนที่อยู่ IP บ่อย ๆ เพื่อกำจัดการถูกติดตาม

ราคา:

IPVanish ให้ส่วนลดสูงถึง 63% ในการสมัครสมาชิกปีแรก ทำให้กลายเป็น VPN ถูกและดีที่สุด และทดลองฟรีได้ 30 วัน

ไปยัง IPVanish ตอนนี้

8. ProtonVPN — หนึ่งใน VPN ถูกและดีที่สุดในด้านความปลอดภัยและความเร็วที่สเถียร

ProtonVPN เป็น VPN ราคาถูก ในราคาต่ำกว่า 5 ดอลลาร์/เดือน แต่มีฟังก์ชันพรีเมียม, การเชื่อมต่อสูงสุด 10Gbps และการรักษาความปลอดภัยระดับเดียวกับกองทัพ ทำให้เป็นหนึ่งใน VPN เพื่อการพนันที่ดีที่สุด

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$4.99/เดือน — แผน 2 ปี$5.99/เดือนแผนฟรีแบบจำกัด30 วัน10Windows, Mac, Android, iOS, Linux1,400+60+Netflix, Disney+, Amazon Prime

ข้อดี:

  • ใช้งานง่าย
  • แอพมีฟีเจอร์ครบถ้วน
  • เหมาะกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
  • เซิร์ฟเวอร์ Tor และ P2P

ข้อเสีย:

  • สนับสนุนลูกค้าล่าช้า
  • ราคาแพงกว่า VPN เจ้าอื่นในคู่มือนี้

ProtonVPN โดดเด่นเรื่องความเร็วของ VPN Accelerator และเพิ่มความเร็วได้มากกว่า 400% จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทอร์เรนต์, การสตรีม และการเล่นเกม อย่างไรก็ตาม สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลอาจล่าช้าได้บ้าง

ProtonVPN ยังมีเซิร์ฟเวอร์ Tor ที่กำหนดเส้นทางทราฟฟิกไปยังเครือข่าย Tor ส่วนตัว เพื่อเข้าถึงบริการที่ซ่อนอยู่ได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย 

และสุดท้าย VPN ถูกและดีที่สุดนี้รับประกันความเป็นส่วนตัวระดับสูง เนื่องจากข้อมูลของคุณจะส่งผ่านไปยังประเทศที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เช่น สวิตเซอร์แลนด์ และไอซ์แลนด์

ราคา:

ProtonVPN แตกต่างจาก VPN ส่วนใหญ่ตรงที่มีแผนฟรีที่ค่อนข้างดี แต่ใช้ได้เพียง 1 เครื่อง และเลือกเซิร์ฟเวอร์ได้เพียง 3 เครื่อง จากในสหรัฐอเมริกา, เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น

และแม้ว่าแผนฟรีจะไม่จำกัดแบนด์วิธและความเร็ว แต่คุณจะพบปัญหาการเชื่อมต่อช้า รวมถึงมีฟีเจอร์ให้ใช้ไม่ถึงครึ่งของแผนที่ต้องจ่ายเงิน

แผนฟรีมักจะยื่นข้อเสนอให้คุณลองอัปเกรดบริการ ดังนั้น หากคุณสนใจทดลองใช้งานภายใน 30 วันได้เลย

ไปยัง ProtonVPN ตอนนี้

9. VyprVPN — VPN ราคาถูกในประเทศจีนที่ให้ความปลอดภัยเป็นพิเศษ

หากคุณต้องการหลุดพ้นจากการตรวจสอบที่เข้มงวดในประเทศจีน, รัสเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คุณจำเป็นต้องมี VPN ที่ความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัด 

แม้ว่า VyprVPN จะมีราคาแพงกว่าเจ้าอื่น ๆ ในคู่มือนี้ แต่ก็เป็นหนึ่งใน VPN ไม่กี่แห่ง ที่ให้บริการในประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$5/เดือน$5/เดือนไม่มี30 วัน10Windows, Mac, Android, iOS700+96Netflix, Amazon Prime, Sky Go, Hulu, BBC iPlayer

ข้อดี:

  • ใช้ในพื้นที่ที่ถูกจำกัดได้
  • ที่อยู่ IP มากกว่า 100,000 รายการ
  • VPN ถูกและดีที่สุดในประเทศจีน
  • การเข้ารหัส AES-256 

ข้อเสีย:

  • ราคาแพงกว่าคู่แข่ง
  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก

ราคา 5 ดอลลาร์ต่อเดือน ถือว่าคุ้มค่ากับการได้รับอิสระในการใช้งาน ด้วยที่อยู่ IP มากกว่า 300,000 รายการ และนโยบายไม่ระบุตัวตน Vypr ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ข้อมูลการใช้งานออนไลน์จะไม่ถูกจัดเก็บ และไม่มีใครติดตามที่อยู่ IP ของคุณได้

ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ VyprVPN และด้วย WireGuard และฟีเจอร์เซิร์ฟเวอร์แบบไดนามิก คุณจะได้รับการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และตัวเลือกในการสลับตำแหน่งที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันเซิร์ฟเวอร์โอเวอร์โหลด และปรับปรุงการใช้งานโดยรวม

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลก คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัด, เชื่อมต่อแบบ P2P และเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว — ทั้งหมดนี้จ่ายเพียง 5 เหรียญต่อเดือน

ราคา:

ราคานี้ใช้งานกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่อง ทดลองใช้ VyprVPN นาน 30 วัน และยกเลิกได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

ไปยัง VyprVPN ตอนนี้

10. StrongVPN — ตัวเลือก VPN ยอดนิยมสำหรับการใช้ Netflix และการทอร์เรนต์

แม้ว่า StrongVPN จะไม่ได้มีความเร็วที่โดดเด่น, ไม่ได้มีการปกป้องและสำรองข้อมูล หรือไม่สามารถปลดบล็อกได้เหมือนกับคู่แข่ง แต่ก็ให้บริการที่เรียบง่ายและสเถียร ซึ่งเพียงพอสำหรับผู้ใช้งาน Netflix

แผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
$2.47/เดือน$2.47/เดือนไม่มี30 วัน12iOS, Android, Mac, Windows950+30+Netflix, Amazon Prime, Disney+

ข้อดี:

  • ความเร็วระดับสูงสุด
  • ปลดบล็อก Netflix ได้
  • เซิร์ฟเวอร์ P2P ที่ปรับอย่างเหมาะสม

ข้อเสีย:

  • ไม่รองรับ Linux
  • ไม่มีการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม
  • ไม่ปลดบล็อก BBC iPlayer

แม้ว่าจะไม่มีนโยบายไม่ระบุตัวตน แต่ขณะนี้มี WireGuard และโปรโตคอล VPN ที่ดีที่สุด เพื่อมอบความเร็ว, ความปลอดภัย และประสิทธิภาพระดับสูงให้แก่ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ ยังมีทั้ง VPN และ DNS ที่ทั้งปลอดภัยและเร็ว StrongVPN ยังมีเกือบ 60,000 IP และเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 950 เครื่อง ที่ปรับแต่งมาสำหรับ P2P ทำให้เหมาะสมทั้งการสตรีมและทอร์เรนต์

นอกเหนือจากนี้ หากคุณกำลังมองหาหนึ่งใน VPN สำหรับ Netflix ที่ดีที่สุด StrongVPN ก็เป็นตัวเลือก VPN ถูกและดีที่สุด ที่ปลอดภัยสูง

เราอยากให้มีบุคคลภายนอกเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัย เนื่องจาก StrongVPN อยู่ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การมีราคาถูกทำให้มีฐานลูกค้าที่หนาแน่น ส่วนความเร็ว, การปลดบล็อก และการป้องกันการรั่วไหล ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

ราคา:

แผนรายปีในราคา 2.47 ดอลลาร์/เดือน นับเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ทดลองใช้ Strong VPN และรับเงินคืนได้ภายใน 30 วัน

ไปยัง StrongVPN ตอนนี้

เปรียบเทียบ VPN ถูกและดีที่สุด

VPNแผนถูกที่สุดแผนรายปีแผนฟรีคืนเงินภายในจำนวนอุปกรณ์จำนวนตำแหน่งไม่จำกัดการใช้งาน
Private Internet Access $2.03/เดือน — แผน 3 ปี$3.33/เดือนไม่มี30 วัน10Windows, Mac, Linux, Android, iOS, web extensions29,65084 ประเทศNetflix, Disney+, HBO Max, Hulu, BBC iPlayer เป็นต้น
Surfshark$2.49/เดือน — แผน 2 ปี$3.99/เดือน7 วัน30 วันไม่ จำกัดMac, Windows, Linux, iOS, Android, ส่วนขยาย3,200+99 ประเทศNetflix, Disney+, Hulu, BBC iPlayer, Amazon Prime
NordVPN$3.09/เดือน — แผน 2 ปี$4.99/เดือนไม่มี30 วัน6Windows, Mac, iOS, Android, Linux, Android TV, ส่วนขยาย5,500+59Netflix, Amazon Prime, Hulu
PrivateVPN$2/เดือน — แผน 3 ปี$6/เดือน7 วัน30 วัน10PC, Mac, Android, iOS, Linux, Kodi200+63Netflix, BBC iPlayer, Hulu, Disney+, HBO Max, Vudu
Atlas VPN$1.99/เดือน — แผน 3 ปี$3.29/เดือนมี30 วันไม่ จำกัดWindows, Mac, iOS, Android750+43+Netflix, iPlayer, Amazon Prime, Hulu
CyberGhost$2.19/เดือน — แผน 3 ปีไม่มีข้อมูล1 วัน45 วัน7Windows, Mac, iOS, Android, Linux9,200+91Hulu, Netflix, YouTube, BBC iPlayer, Amazon
IPVanish$3.99/เดือน$3.99/เดือน30 วันไม่ จำกัดWindows, Mac, Android, iOS, Linux2,000+75+Netflix, Hulu, Disney+, HBO Max, BBC iPlayer, ESPN
ProtonVPN$4.99/เดือน — แผน 2 ปี$5.99/เดือนแผนฟรีจำกัด30 วัน10Windows, Mac, Android, iOS, Linux1,400+60+Netflix, Disney+, Amazon Prime
VyprVPN$5/เดือน$5/เดือนไม่มี30 วัน10Windows, Mac, Android, iOS700+96Netflix, Amazon Prime, Sky Go, Hulu, BBC iPlayer
StrongVPN$2.47/เดือน$2.47/เดือนไม่มี30 วัน12iOS, Android, Mac, Windows950+30+Netflix, Amazon Prime, Disney+

ปัจจัยที่ทำให้ VPN ถูกและดีที่สุด?

ปัจจัยหลักที่ใช้คัดเลือกแอพ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด ได้แก่:

  • ราคาเทียบกับสิ่งที่ได้ — เราคำนึงถึงฟีเจอร์โดยรวม, ความปลอดภัย, การทดลองใช้ฟรี, การคืนเงิน และจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้
  • จำนวนเซิฟเวอร์ — เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานจะไม่ต้องทนใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ที่แออัด และทำให้ความเร็วช้าลง
  • ความปลอดภัย — เช่น มาตรฐานการเข้ารหัสระดับสูง และมีโปรโตคอลชั้นนำ
  • ระบบสนับสนุน — เราพิจารณาการสนับสนุนข้อมูลลูกค้า, ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ และความละเอียดของเอกสารออนไลน์ 
  • ความสามารถในการใช้งาน — การติดตั้งและใช้งานได้ง่าย แม้กระทั่งในมือใหม่เป็นสิ่งสำคัญ
  • การสตรีมมิ่งและทอร์เรนต์ — เราพิจารณาความเร็วเฉลี่ย และความสามารถในการปลดบล็อก เพื่อให้แน่ใจว่าจะเชื่อมต่อแบบ P2P , สตรีมมิ่ง หรือการท่องเว็บที่คุณต้องการ

เห็นได้ชัดว่า VPN ที่แพงที่สุดอาจไม่ได้ดีที่สุด เพราะอันที่จริงแล้วยังมี VPN ราคาถูกก็มีความสามารถเทียบเท่ากับ VPN ระดับพรีเมียมได้ 

ทั้งนี้ เมื่อคุณกำลังมองหา VPN ราคาประหยัด ควรเลือกหนึ่งใน VPN ถูกและดีที่สุดของเรา ซึ่งเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของ VPN ที่มีคุณภาพสูง

VPN ทำงานอย่างไร

VPN ทำหน้าที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ไม่ให้ใครติดตามหรือเก็บข้อมูลการใช้งานของคุณ การรับส่งข้อมูลออนไลน์ทั้งหมด จะถูกส่งผ่านอุโมงค์ VPN ซึ่งป้องกันการติดตามได้

สิ่งต่าง ๆ เช่น ที่อยู่ IP ที่ใช้ร่วมกันจะมีการสับเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้มีใครเข้ามาติดตามกิจกรรมของคุณได้ นอกจากนี้ VPN ถูกและดีที่สุด ยังช่วยให้คุณไปปรากฏตัวได้ทุกที่บนโลก ผ่านการใช้งานในบ้านของคุณ

ซึ่งนี่ถือเป็นการเปิดโลกการเข้าถึงข้อมูล ที่อาจจะถูกจำกัดในบางประเทศเท่านั้น

บทสรุปเกี่ยวกับ VPN ถูกและดีที่สุด

เราได้รวบรวม 10 อันดับ VPN ถูกและดีที่สุดที่เหมาะกับความต้องการที่หลากหลาย และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมถึงมีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากมายขนาดนี้

ตัวเลือกอันดับหนึ่งที่เราแนะนำ คือ Private Internet Access ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และโดดเด่นในทุกด้าน ยกเว้นการทอร์เรนต์

ถ้าต้องการใช้ VPN อันไหนดีที่คืนเงินใน 30 วัน Private Internet Access เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากที่สุดเลย

Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

จัดอันดับ 11 VPN เร็วที่สุด ในปี 2023 

การใช้ VPN เร็วที่สุด จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับความเร็ว ที่มาพร้อมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว VPN ทั้ง 11 รายนี้ ต่างรับประกันความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และประสบการณ์สตรีมมิ่งที่น่าจดจำ โดยไม่มีความล่าช้าหรือบัฟเฟอร์ใด ๆ

อย่างไรก็ตาม ในตลาดมีVPN หลากหลายคุณภาพ ทั้งสูงและต่ำกว่ามาตรฐานด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน การค้นหาเซิร์ฟเวอร์ VPN แรงๆ จึงอาจเป็นเรื่องยาก แต่เราพบว่า Surfshark เป็นผู้นำที่มีความเร็วสูงถึง 980 Mbps ด้วยราคาที่ถูก และมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่น่าทึ่ง มาเริ่มศึกษาและเปรียบเทียบ VPN เร็วที่สุดในตลาด เช่น CyberGhost และ NordVPN ว่ามีประสิทธิภาพแตกต่างกันอย่างไร มาเริ่มทดสอบตอนนี้ พร้อมรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วันได้เลย

11 บริการ VPN เร็วที่สุด ในปี 2023 

เราได้ทดสอบ VPN ต่าง ๆ มากมาย ทั้งความเร็วและความเสถียร และนี่คือ 11 อันดับ VPN เร็วที่สุดของเราในปี 2023:

  1. Surfshark VPN — VPN เร็วที่สุด 980Mbps และยินดีคืนเงินใน 30 วัน
  2. CyberGhost VPN — เว็บ VPN แรง ๆ  540+ Mbps พร้อมการป้องกันมัลแวร์ในตัว และรับประกันเงินคืน 45 วัน
  3. NordVPN — ตัวเลือกยอดนิยมที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นและข้อมูลไม่จำกัด เฉลี่ย 400+ Mbps พร้อมรับเงินคืนได้ภายใน 30 วัน
  4. UltraVPN — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ด้วยความเร็ว 230+ Mbps และมีการรับประกัน 30 วัน
  5. Atlas VPN — VPN เพิ่มความเร็วเน็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว พร้อมการรับประกันนาน 1 เดือน
  6. Proton VPN — VPN ที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นพอสมควร พร้อมแผนบริการฟรี 300+ Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
  7. StrongVPN — VPN เชื่อถือได้ ความเร็วเฉลี่ย 70+ Mbps ที่มาพร้อมการรับประกัน 30 วัน
  8. PureVPN — VPN ที่ความเร็ว 160+ Mbps แต่ยังไม่เสถียรมากนัก บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
  9. IPVanish — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุด 890+ Mbps สำหรับ Android และ iPhone ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน
  10. ExpressVPN — VPN แรง ๆ 380+ Mbps สำหรับการสตรีมมิ่ง บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา ที่มากับการรับประกัน 30 วัน
  11. Norton Secure VPN — VPN ความเร็วเฉลี่ย 37+ Mbps ที่ยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

รีวิว VPN เร็วที่สุด ในปี 2023 

ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า VPN เร็วที่สุด คือที่ไหน เนื่องจากความเร็วอาจแตกต่างกันไปตามการใช้งาน เช่น การใช้ VPN เพื่อสตรีม Netflix, ดาวน์โหลดภาพยนตร์, ส่อง Instagram หรือแค่ท่องเว็บแบบสบาย ๆ

 เราจะรีวิวเจาะลึกการให้VPN เร็วที่สุด 11 อันดับแรก เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล และเลือก VPN ที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด

1. Surfshark VPN — VPN เร็วที่สุด980Mbps และยินดีคืนเงินใน 30 วัน

Surfshark ได้รับการยกย่องอย่างมาก และจัดเป็นแอพเน็ตเร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุดถึง 980 Mbps สิ่งนี้ทำให้ Surfshark VPN กลายเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเล่นเกม, การสตรีม และการดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือเกม

Surfshark ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุด โดยแต่ละเซิร์ฟเวอร์จะเชื่อมต่อกับพอร์ต 1Gbps เป็นอย่างน้อย (บางพอร์ตสูงถึง 2×10 Gbps) ทำให้สามารถรองรับทราฟฟิกจำนวนมาก และไม่ทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณช้าลง

Surfshark ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับ VPN เร็วที่สุดที่ให้บริการในกว่า 95 ประเทศ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม

WireGuard เป็นหนึ่งในโปรโตคอล star VPN และการเข้ารหัสข้อมูล AES-256-GCM ซึ่ง Surfshark มีการจัดการเพื่อให้การป้องกันยอดเยี่ยม และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลโดยไม่สูญเสียความเร็ว

Surfshark สามารถดูแลอุปกรณ์ทั้งหมดในบ้าน ด้วยการสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว

นอกจากการเข้ารหัสตามมาตรฐานแล้ว Surfshark ยังมีฟีเจอร์ CleanWeb ที่บล็อกโฆษณาที่น่ารำคาญ และปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์ เช่นเดียวกับ Surfshark Search เพื่อให้แน่ใจว่า มีความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์เมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ Surfshark ยังให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ โดยจะมีการแจ้งให้คุณทราบทันที หากข้อมูลของคุณรั่วไหล, เตือนให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่าน และส่งรายงานความปลอดภัยรายไตรมาสไปยังอีเมลของคุณ

คุณสามารถใช้ Surfshark สตรีมเนื้อหาที่จำกัดบน Netflix, Disney Plus, Amazon Prime Video, HBO Max, Hulu, DAZN และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมอื่น ๆ ได้

นอกจากนี้ ยังให้การเข้าถึง IPTV ที่ปลอดภัย และช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการแข่งขันเกมกีฬาที่คุณชื่นชอบ โดยไม่มีโฆษณาให้รำคาญใจด้วย

ข้อดี:

  • VPN เร็วที่สุด
  • การเข้ารหัสที่ล้ำสมัย 
  • บล็อกโฆษณา, มัลแวร์ และป๊อปอัป
  • ไม่บล็อกเนื้อหาบนสตรีมมิ่งหลักทั้งหมด

ข้อเสีย:

  • ราคาสมาชิกระยะยาว (รายปี) ไม่ชัดเจน 
  • มีปัญหา kill switch เป็นครั้งคราว
ช่วงความเร็ว US390-980 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์3,200+
จำนวนประเทศ95
ราคาสมาชิกรายเดือน: $12.95 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: $2.49 ต่อเดือน (ส่วนลด 81%)
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

2. CyberGhost VPN — เว็บ VPN แรง ๆ  540+ Mbps พร้อมการป้องกันมัลแวร์ในตัว และรับประกันเงินคืน 45 วัน

CyberGhost VPN ทําให้เน็ตเร็วขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อที่ 548 Mbps และเร็วกว่าเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น

ทั้งนี้ ความเร็วอาจลดลงหากคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เนื่องจาก CyberGhost มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 7,800 เครื่อง ใน 91 ประเทศ

CyberGhost VPN เป็น VPN เร็วที่สุดที่ให้การป้องกันที่เหนือชั้นสมชื่อ เพราะให้ความเป็นส่วนตัวที่สมบูรณ์ และไม่เปิดเผยตัวตนบนอุปกรณ์ใด ๆ 

นอกเหนือจากการปกปิดที่อยู่ IP และการเข้ารหัสข้อมูลอินเทอร์เน็ตทั้งหมดแล้ว CyberGhost ยังบล็อกโฆษณาบนเว็บไซต์และให้การป้องกันมัลแวร์ด้วย

การสมัครสมาชิกเพียงครั้งเดียว ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ CyberGhost กับอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 7 เครื่อง ทั้ง เดสก์ท็อปพีซีหรือแล็ปท็อป,iPhone หรือ Android, สมาร์ททีวี หรือแม้แต่เกมคอนโซล

ทดสอบ VPN แรง ๆ ของ CyberGhost โดยไม่มีความเสี่ยงได้นานถึง 45 วันเต็ม

CyberGhost ใช้การเข้ารหัสข้อมูล AES 256 bit เพื่อปกปิดตัวตน, ตำแหน่ง และข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น CyberGhost ยังปฏิบัติตามนโยบายการไม่ระบุตัวตนอย่างเข้มงวด ซึ่งหมายความว่า บริษัทจะไม่สามารถติดตามหรือเก็บข้อมูลของคุณได้ ดังนั้น คุณจึงสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ภายใต้ความเป็นส่วนตัว

นอกเหนือจากการซ่อนที่อยู่ IP จริงของคุณแล้ว CyberGhost ยังเสนอที่อยู่ IP เฉพาะให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้น การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณจึงมาจากที่เดียวกันเสมอ

วิธีนี้อาจมีประโยชน์หากคุณเข้าชมเว็บไซต์บ่อย ๆ ซึ่งต้องมีการสแกนที่อยู่ IP ของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และจำกัดการเข้าถึงหากพวกเขาพบว่าคุณกำลังใช้งาน VPN นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อีกอย่างของ VPN เร็วที่สุด นั่นก็คือ การแยกอุโมงค์ VPN นั่นเอง

วิธีนี้ทำให้คุณสามารถใช้งานเว็บไซต์บางเว็บไซต์ที่คุณไว้วางใจได้ ดังนั้น การรับส่งข้อมูลจึงไม่จำเป็นต้องผ่าน VPN หรือหมายความว่า คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ออนไลน์แบบไม่ต้องมีโฆษณา และไม่ทำให้ความเร็วเน็ตช้าลง

ข้อดี:

  • เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่
  • การเข้ารหัสมาตรฐาน
  • นโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด
  • ไม่บล็อกบริการสตรีมมิ่งโดยส่วนใหญ่

ข้อเสีย:

  • ราคาสมาชิกระยะยาว (รายปี) ไม่ชัดเจน 
  • ไม่มีการตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 548 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์7,800+
จำนวนประเทศ91
ราคาสมาชิกรายเดือน: $12.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: $2.29 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน45 วัน

ไปยัง CyberGhost ตอนนี้

3. NordVPN — ตัวเลือกยอดนิยมที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นและข้อมูลไม่จำกัด เฉลี่ย 400+ Mbps พร้อมรับเงินคืนได้ภายใน 30 วัน

ที่ความเร็วเฉลี่ย 417 Mbps ทำให้ NordVPN ควรได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในVPN เร็วที่สุด ในปี 2023 เนื่องจากผู้ใช้งานมักจะเอ่ยปากชมทั้งเรื่องความปลอดภัยและการทําให้เน็ตเร็วขึ้น

NordVPN ให้บริการครอบคลุมทั่วโลก โดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,500 เครื่องใน 59 ประเทศ สิ่งนี้ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า การอัปโหลด/ดาวน์โหลดเป็นไปด้วยความเร็วสูงแทบทุกที่ในโลก ด้วยแบนด์วิธที่ไม่จำกัด

 NordVPN ใช้ NordLynx เป็นเครื่องมือ VPN ที่ใช้โปรโตคอล WireGuard ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัด ไม่จำกัดความเร็ว และทำให้เป็นหนึ่งในVPN เร็วที่สุด

ไม่ใช้แค่ VPN เพิ่มความเร็วเน็ตเท่านั้น แต่ NordVPN ยังมีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

 NordVPN อาศัยมาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง (AES) และโปรโตคอล VPN ที่แตกต่างกัน 3 แบบ (IKEv2/IPsec, OpenVPN และ NordLynx) เพื่อซ่อน IP และตำแหน่งการใช้งาน เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ

สำหรับผู้ที่ยังมีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับความปลอดภัยทางออนไลน์ NordVPN ก็มีตัวเลือก double VPN ที่เพิ่มการป้องกันพิเศษผ่านเซิร์ฟเวอร์พิเศษ หากคุณเลือกใช้ NordVPN คุณจะเพลิดเพลินกับการแยกอุโมงค์ VPN, DNS ส่วนตัว, การจัดการเซิร์ฟเวอร์ที่ยุ่งเหยิง และอื่น ๆ ได้

NordVPN ยังมีฟีเจอร์ตรวจสอบเว็บมืด, สแกนเว็บ และแจ้งเตือนเมื่อข้อมูล, บัญชี หรือรหัสผ่านของคุณถูกแฮก

ข้อดี:

  • ครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์อย่างยอดเยี่ยม
  • การเข้ารหัสและฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง
  • ตัวเลือกกำหนดเส้นทาง DNS ส่วนตัว และ Double VPN
  • โปรโตคอล VPN 3 แบบ

ข้อเสีย:

  • ราคาแพงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย
  • การออกจาก VPN อาจทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายหลุด
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 417 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์5,500+
จำนวนประเทศ59
ราคาสมาชิกรายเดือน: เริ่ม $11.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: เริ่ม $4.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ6
บริการลูกค้า24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง NordVPN ตอนนี้

4. UltraVPN — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ด้วยความเร็ว 230+ Mbps และมีการรับประกัน 30 วัน

เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ เจ้าอื่น เราพบว่า UltraVPN เป็นบริการรายเล็ก ที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 100 เครื่องใน 10 ประเทศ แต่ก็เป็นหนึ่งใน VPN เร็วที่สุดบนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาด้วยความเร็วเฉลี่ย 236 Mbps 

เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์มีความน่าเชื่อถือสูง และคุณจะไม่สังเกตเห็นการสะดุด หรือการลดลงของความเร็วอินเทอร์เน็ต เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใกล้เคียง

UltraVPN เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ที่ต้องการใช้งาน Netflix, HBO Max, Hulu และ Disney Plus ที่ไม่มีให้บริการในประเทศของตน

อย่างไรก็ตาม Amazon Prime Video จะตรวจพบ UltraVPN ทันที ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะรับชม The Boys หรือรายการทีวี Lord of the Rings เราขอแนะนำ Surfshark จะเหมาะสมกว่า

UtlraVPN พร้อมใช้ใน Windows, Mac, Android (เวอร์ชั่น 5.0 ขั้นไป) และอุปกรณ์ iOS (เวอร์ชั่น 11.0 ขั้นไป) แม้ว่าจะไม่มีส่วนขยายเบราว์เซอร์ แต่แอพเน็ตเร็วนี้ ก็ให้การดาวน์โหลด VPN อย่างรวดเร็ว และตั้งค่าได้ง่ายมาก

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย UltraVPN มีความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (AES) และมีโปรโตคอล VPN 3 แบบให้เลือก ได้แก่ IKEv2(IPSec), Hydra และ Automatic นอกจากนี้ ยังมี kill switch และการแยกอุโมงค์ VPN ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์และฟิชชิ่ง

ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงตัวเลือกอื่น ๆ เช่น Passwatch และ การสแกนเว็บมืดได้ฟรี ซึ่งการป้องกันนี้ทำให้มั่นใจได้ว่ารหัสผ่านของคุณจะปลอดภัยและได้รับการปกป้อง เพราะจะมีการแจ้งเตือนทันทีเมื่อข้อมูลรั่วไหล

ข้อดี:

  • การเข้ารหัสระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
  • โปรโตคอล VPN 3 แบบ
  • ส่วนเสริมความปลอดภัยที่หลากหลาย
  • ใช้งานบนอุปกรณ์ใดก็ได้

ข้อเสีย:

  • เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก
  • ใช้ไม่ได้กับ Amazon Prime Video
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 236 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์100+
จำนวนประเทศ10
ราคาสมาชิกรายเดือน: เริ่ม $11.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปี: เริ่ม $4.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ6
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง UltraVPN ตอนนี้

5. AtlasVPN — VPN เพิ่มความเร็วเน็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว พร้อมการรับประกันนาน 1 เดือน

AtlasVPN ให้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ VPN เร็วที่สุดนี้เปิดตัวในปี 2019 และให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้จากที่ต่าง ๆ โดยไม่มีข้อจำกัด

หนึ่งในเหตุผลที่ AtlasVPN เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง ก็คือ การเป็นเว็บ VPN แรง ๆ และฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัว VPN ใช้การเข้ารหัสระดับ military-grade  เพื่อปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน และรักษาความเป็นส่วนตัว

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายไม่ระบุตัวตน ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการติดตามกิจกรรมของผู้ใช้งานหรือเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเข้าถึงเว็บไซต์ โดยไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้ใครตามจับได้

AtlasVPN ทําให้เน็ตเร็วขึ้นและเสถียร ซึ่งจำเป็นสำหรับการสตรีมออนไลน์และการดาวน์โหลด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซิร์ฟเวอร์ Torrent

ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับการดาวน์โหลดได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีปัญหาความล่าช้า และ AtlasVPN ยังมีหน้าต่างใช้งานที่ใช้ง่าย ทำให้ผู้ใช้งานมือใหม่และผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์เข้าถึงได้ทุกคน

AtlasVPN มีฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การเชื่อมต่อด้วยคลิกเดียว, การเลือกเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ และความสามารถในการสลับเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย ภายใต้ราคาที่เหมาะสม เริ่มต้นเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือน

ข้อดี:

  • มี 2FA
  • การเข้ารหัสระดับ Military-grade เพื่อความปลอดภัย
  • รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
  • เว็บ VPN แรง ๆ ที่เหมาะกับการสตรีมมิ่ง

ข้อเสีย:

  • อยู่ในสหรัฐอเมริกา
  • เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก
ช่วงความเร็ว US240+ Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์750+
จำนวนประเทศ45
ราคา$1.99/เดือน — แผน 3 ปี
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้ายอดเยี่ยม
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง AtlasVPN ตอนนี้

6. Proton VPN — VPN ที่ทําให้เน็ตเร็วขึ้นพอสมควร พร้อมแผนบริการฟรี 300+ Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

Proton VPN เป็นโปรแกรมเน็ตเร็วฟรีและแบบเสียเงิน ที่มีเซิร์ฟเวอร์ 1,728 แห่งใน 63 ประเทศ ด้วยความเร็วเฉลี่ย 300 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ Proton VPN จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าในอเมริกาเหนือ

สิ่งที่ทำให้ Proton VPN เป็นหนึ่งในVPN เร็วที่สุด คือ การรวมกันของเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ 10 Gbps และ VPN Accelerator ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วได้มากถึง 400%

บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยมองว่านี่เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นเหตุผลหลักที่ Proton VPN เป็นโปรแกรมเน็ตเร็วฟรีแก่ทุกคนที่ต้องการท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย

แต่ทั้งนี้จะมีข้อจำกัดบางอย่างในบัญชีฟรี ดังนั้น ผู้ใช้งานแบบชำระเงินจะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่หลากหลายมากขึ้นได้

Proton VPN พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์และแพลตฟอร์มทั้งหมด (Windows, Linux, iOS, Android) และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 10 เครื่อง ภายในบัญชีเดียว

VPN เร็วที่สุดแห่งนี้ เข้ารหัสด้วย Perfect Forward Secrecy ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่มีใครสามารถถอดรหัสข้อมูลของคุณได้ แม้ในกรณีที่คีย์ถูกขโมย

นอกจากนี้ Proton VPN ยังมาพร้อมกับ NetShield ซึ่งบล็อกโฆษณาที่น่ารำคาญ, ปกป้องอุปกรณ์จากมัลแวร์ และปิดการใช้งานตัวติดตามเว็บไซต์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่

ข้อดี:

  • มีแผนฟรี
  • ทําให้เน็ตเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
  • บล็อกโฆษณาและป้องกันมัลแวร์ 

ข้อเสีย:

  • บัญชีฟรีมีฟีเจอร์จำกัด
  • ไม่มีการสนับสนุนผ่านแชทสด
ช่วงความเร็ว USสูงสุด 300 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์1,700+
จำนวนประเทศ63
ราคามีแผนฟรีสมาชิกรายเดือนเริ่ม $9.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ10
บริการลูกค้าผ่านอีเมลเท่านั้น
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง ProtonVPN ตอนนี้

7. StrongVPN — VPN เชื่อถือได้ ความเร็วเฉลี่ย 70+ Mbps ที่มาพร้อมการรับประกัน 30 วัน

StrongVPN เป็นเครือข่ายที่มีความเร็วเฉลี่ยเพียง 71 Mbps ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมและสร้างความรำคาญเมื่อสตรีมมิ่ง คุณอาจต้องรอ 2-3 นาที เพื่อโหลดข้อมูล และทำให้การรับชมไม่สะดุด

อย่างไรก็ตาม StrongVPN มีการกระจายเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสม โดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 500 แห่งใน 35+ ประเทศ เทียบเท่ากับบริการเครือข่ายชั้นนำอย่าง Surfshark VPN และ CyberGhost VPN

แม้ว่า StrongVPN จะไม่มีฟีเจอร์พิเศษใด ๆ ที่โดดเด่น แต่ก็เป็น VPN ที่ดีรอบด้าน

StrongVPN ให้ความปลอดภัยทางออนไลน์ และการป้องกันการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีนโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด และใช้โปรโตคอล WireGuard ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป

คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 12 เครื่อง ทั้งพีซีหรือแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม แอพเน็ตเร็วใน Android ยังไม่รองรับโปรโตคอล L2TP หรือ SSTP แต่คุณยังคงมีตัวเลือกระหว่าง OpenVPN, IKEv2 และ WireGuard

ข้อดี:

  • ปฏิบัติตามนโยบายไม่ระบุตัวตนที่เข้มงวด
  • การกระจายเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสม
  • ฟีเจอร์ปกป้องข้อมูลที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย:

  • ขาดตัวเลือกเสริม
  • ราคาแพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ
  • อินเทอร์เฟซล้าสมัย
  • การสูญเสียความเร็วค่อนข้างสูง
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 71 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์500+
จำนวนประเทศ35+
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $10.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปีเริ่ม $3.66 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ12
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง StrongVPN ตอนนี้

8. PureVPN — VPN ที่ความเร็ว 160+ Mbps แต่ยังไม่เสถียรมากนัก บนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกา ที่รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

ในอดีต ความเร็วและความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์ ถือเป็นปัญหาสำหรับ PureVPN แต่ปัจจุบัน บริษัทเพิ่งอัปเกรดเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งปัจจุบันมีความเร็วในการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ 20 Gbps และความเร็วเฉลี่ยบนเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่าง 160 Mbps และ 230 Mbps

แม้ว่าคุณจะไม่สังเกตเห็นว่า ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณลดลงอย่างมากเมื่อใช้ PureVPN แต่อาจมีบ้างที่พบอาการสะดุดเล็กน้อย โดยรวมแล้ว PureVPN ก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเมื่อต้องการใช้ VPN เพิ่มความเร็วเน็ต

นอกจากนี้ PureVPN ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ท่องโลกอินเทอร์เน็ต

PureVPN ใช้การเข้ารหัสที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ข้อมูลของคุณได้รับการปกป้อง และปฏิบัติตามนโยบายการไม่บันทึกข้อมูล ซึ่งหมายความว่า กิจกรรมบนโลกออนไลน์ของคุณ จะไม่ถูกจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท โดยคุณสามารถเลือกโปรโตคอล VPN ได้ 6 แบบ บนอุปกรณ์ใดก็ได้:

  1. OpenVPN
  2. L2TP/IPSec
  3. PPTP
  4. SSTP
  5. IKEv2, and
  6. WireGuard

PureVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,500 เครื่อง กระจายอยู่ใน 78 ประเทศ ดังนั้น เนื้อหาที่ถูกจำกัดบางพื้นที่จึงไม่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเลือกเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ใดก็ตาม

ข้อดีอีกอย่างของ VPN เร็วที่สุดนี้ ก็คือ การถูกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น คุณจึงวางใจได้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางออนไลน์และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อดี:

  • เซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก
  • ถูกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามอยู่เสมอ
  • ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย:

  • มีปัญหาการเชื่อมต่อเป็นครั้งคราว
  • เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรยังไม่ค่อยเสถียร
ช่วงความเร็ว US160 Mbps — 230 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์6,500+
จำนวนประเทศ78
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $10.95สมาชิกรายปีเริ่ม $1.99
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ10
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง PureVPN ตอนนี้

9. IPVanish — หนึ่งใน VPN เร็วที่สุด 890+ Mbps สำหรับ Android และ iPhone ที่ยินดีคืนเงินภายใน 30 วัน

การรีวิว VPN เร็วที่สุด จะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้กล่าวถึง IPVanish เพราะ VPN นี้มีความเร็วบนเซิร์ฟเวอร์สูงถึง 890 Mbps ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม หากคุณต้องการซ่อนที่อยู่ IP เมื่อเข้าถึงบางเว็บไซต์

ค่าการสูญเสียความเร็วสำหรับเซิร์ฟเวอร์เฉลี่ยอยู่ที่ 10% ซึ่งถือว่าน่าประทับใจเมื่อเทียบกับ VPN แรง ๆ เจ้าอื่นที่อาจมีค่านี้สูงถึง 20% 

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการ VPN ที่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดทางพื้นที่บน Netflix, Amazon Prime Video หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ IPVanish อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

ความเร็วอาจจะลดลงอย่างมากถึง 75% เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ทางไกล ซึ่งหมายความว่า การโหลดวิดีโออาจขัดข้องตลอดเวลา หากคุณอาศัยอยู่ในยุโรป และต้องการรับชมรายการบน Netflix ในสหรัฐอเมริกา

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยของข้อมูล และการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ VPN เร็วที่สุดตัวนี้ก็มีดีเทียบเท่ากับVPN ยอดนิยมอื่น ๆ เพราะมีการใช้การเข้ารหัส AES-256 ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และมีโปรโตคอล VPN ที่ปลอดภัยถึง 3 ตัว ได้แก่ OpenVPN, IKEv2 และ L2TP/IPsec

IPVanish พร้อมใช้งานบน Windows, Linux และ iOS แต่ยังไม่มีส่วนขยายของเบราว์เซอร์ และข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นอีกประการหนึ่ง ก็คือ การตั้งค่าที่ค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวอร์ชัน Windows

ข้อดี:

  • เว็บ VPN แรง ๆ บนเซิร์ฟเวอร์ท้องถิ่น
  • โปรโตคอล VPN 3 แบบ
  • แอพ IPVanish มีอยู่ในอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการทั้งหมด
  • นโยบายไม่ระบุตัวตน

ข้อเสีย:

  • ไม่มีส่วนขยายเบราว์เซอร์
  • ความเร็วลดลงอย่างมากในเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ห่างไกล
  • ไม่ปลดบล็อกเนื้อหาใน Amazon Prime Video
ช่วงความเร็ว USสูงสุด 890 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และ 120-160 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ทางไกล
จำนวนเซิร์ฟเวอร์1,400+
จำนวนประเทศ57+
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $10.99 ต่อเดือนสมาชิกรายปีเริ่ม $3.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง IPVanish ตอนนี้

10. ExpressVPN — VPN แรง ๆ 380+ Mbps สำหรับการสตรีมมิ่ง บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา ที่มากับการรับประกัน 30 วัน

ExpressVPN มีความเร็วโดยเฉลี่ยประมาณ 385 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน ที่ต้องการสตรีมมิ่งภายใต้ข้อจำกัดทางพื้นที่

ExpressVPN ปลดบล็อกบริการต่าง ๆ กว่า 25 รายการ รวมถึง Netflix, Disney Plus, BBC iPlayer และแม้แต่ Amazon Prime Video ดังนั้น คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหาโปรดทางออนไลน์ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม

นอกจากนี้ ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดาวน์โหลดภาพยนตร์, รายการทีวี และเกม เนื่องจาก ExpressVPN รองรับแบนด์วิธแบบไม่จำกัด และไม่จำกัดการเชื่อมต่อ

 ExpressVPN เป็นหนึ่งใน VPN เร็วที่สุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีผู้ใช้งานทั่วโลกเกือบครึ่งล้าน และได้คะแนนเฉลี่ย 4.6 เต็ม 5 ใน Trustpilot, Apple App Store และ Google Play Store

ExpressVPN เป็นเซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ ที่มีการเข้ารหัสที่ล้ำสมัย และมีฟีเจอร์หรือส่วนเสริมที่หลากหลาย ซึ่งรับประกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบบนอินเทอร์เน็ต

ด้วยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กว้างขวางกระจายอยู่ใน 94 ประเทศ ทำให้ ExpressVPN ทำงานได้ดีในทุกพื้นที่ และมีการปรับให้ความเร็วเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คุณจะไม่พบกับอาการ lag, buffering, หรือมีความเร็วลดลง หากคุณเลือกใช้ ExpressVPN

ข้อดี:

  • ความเร็วเสถียรและรวดเร็วทุกพื้นที่
  • นโยบายไม่ระบุตัวตน
  • ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยสูงสุด
  • บริษัทตั้งอยู่ในประเทศจีน

ข้อเสีย:

  • แผนรายเดือนมีราคาแพงเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ VPN เร็วที่สุดอื่น ๆ
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 385 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์3,000+
จำนวนประเทศ94
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $12.95 ต่อเดือนสมาชิกรายปีเริ่ม $9.99 ต่อเดือน
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับไม่จำกัด
บริการลูกค้าแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน30 วัน

ไปยัง ExpressVPN ตอนนี้

11. Norton Secure VPN — VPN ความเร็วเฉลี่ย 37+ Mbps ที่ยินดีคืนเงินภายใน 60 วัน

Norton Secure VPN คำนึงถึงความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด และเป็นหนึ่งในตัวเลือกของโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีที่สุด

เซิร์ฟเวอร์ VPN นี้มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอย่างที่คุณคาดหวัง ตั้งแต่นโยบายไม่ระบุตัวตนการใช้งาน ไปจนถึงการ split tunneling, kill switch, ความปลอดภัยของ wifi และการเข้ารหัสระดับธนาคาร

จากที่กล่าวมา VPN ของ Norton มีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 194.4 Mbps และลดลงเฉลี่ย 40%

แม้จะไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ ที่สุดที่เราเคยเห็น แต่เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัยแล้ว ทำให้ Norton เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสตรีมมิ่ง และการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดบางพื้นที่ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความล่าช้า, การไม่เปิดเผยตัวตน หรือภัยคุกคามทางออนไลน์

จากที่กล่าวมา ทำให้ Norton เป็น VPN เร็วที่สุดสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดในบางประเทศ ตัวอย่างเช่น หากคุณมองหา Betfair VPN ที่ดีที่สุดในการพนันออนไลน์ต่างประเทศ Norton ถือเป็นตัวเลือกที่ดี, รวดเร็ว และความปลอดภัย 

การรีวิวของเรา พบว่า Norton VPN สามารถเข้าถึง US Netflix, Prime Video, BBC iPlayer และ Disney Plus ได้โดยไม่มีปัญหา ยกเว้นเพียงบางแห่ง เช่น แคตตาล็อก Netflix ในสหราชอาณาจักร

ด้วยเหตุนี้ เราขอแนะนำให้คุณลองใช้ VPN เร็วที่สุดนี้ เพราะมีการรับประกันเงินคืนภายใน 60 วัน วิธีนี้จะทำให้คุณมีเวลาได้ทดลองโปรแกรมเน็ตเร็วฟรีแบบไม่มีความเสี่ยง เพื่อพิจารณาว่าตัวเลือกนี้เหมาะกับความต้องการของคุณหรือไม่

ข้อดี:

  • ใช้งานง่าย
  • ความเร็วเหมาะสม และปลอดภัยสูง
  • ระบบป้องกันการเปิดเผยตัวตนที่ดีเยี่ยม
  • บล็อกโฆษณาและตัวติดตาม

ข้อเสีย:

  • ความเร็วเซิร์ฟเวอร์ช้ากว่าคู่แข่ง
  • เครือข่ายขนาดเล็ก
  • ไม่รองรับเราเตอร์ 
ช่วงความเร็ว USความเร็วเฉลี่ย 194.4 Mbps
จำนวนเซิร์ฟเวอร์2,000+
จำนวนประเทศ30+
ราคาสมาชิกรายเดือนเริ่ม $4.99 สำหรับอุปกรณ์ 1 เครื่องสมาชิกรายปีเริ่ม $2.50 สำหรับอุปกรณ์ 1 เครื่อง
จำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ10
บริการลูกค้าไม่มี
ระยะเวลารับประกันการคืนเงิน60 วันสำหรับแผนรายปี14 วันสำหรับแผนรายเดือน

ไปยัง Norton Secure VPN ตอนนี้

เปรียบเทียบVPN เร็วที่สุด

เพื่อช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบความเร็ว, จำนวนเซิร์ฟเวอร์ และราคาได้ ต่อไปนี้เป็นตารางสรุปข้อมูลสำคัญทั้งหมดที่จำเป็นในการตัดสินใจเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ VPN เร็วที่สุด:

VPNช่วงความเร็ว USจำนวนเซิร์ฟเวอร์จำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับบริการลูกค้าระยะเวลารับประกันการคืนเงิน
Surfshark VPN390-980 Mbps3,200+95$2.49ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
CyberGhost VPNความเร็วเฉลี่ย 548 Mbps7,800+91$2.29ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน45 วัน
ExpressVPNความเร็วเฉลี่ย 385 Mbps3,000+94$9.99ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
NordVPNความเร็วเฉลี่ย 417 Mbps5,500+59$4.996แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
Atlas VPNความเร็วเฉลี่ย 240+ Mbps750+45$1.99ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
UltraVPNความเร็วเฉลี่ย 236 Mbps100+10$4.996แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
Proton VPNความเร็วสูงสุด 300 Mbps1,700+63มีแผนฟรี10อีเมล30 วัน
StrongVPNความเร็วเฉลี่ย 71 Mbps500+35$3.6612แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
PureVPN160 Mbps — 230 Mbps6,50078$1.9910แชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
IPVanishสูงสุด 890 Mbps บนเซิร์ฟเวอร์ภายใน1,400+57$3.99ไม่จำกัดแชทสด 24 ชั่วโมง ทุกวัน30 วัน
Norton Secure VPNความเร็วเฉลี่ย 194.4 Mbps2,000+30$2.5 ต่อเครื่อง10ไม่มี60 วัน (แผนรายปี) และ 14 วัน (แผนรายเดือน)

ความเร็วของ VPN คืออะไร?

เพื่อช่วยให้คุณตามหาVPN เร็วที่สุดได้อย่างแม่นยำ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ความเร็วของ VPN คืออะไร เนื่องจาก VPN ไม่มีความเร็วมาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ความเร็วในที่นี้จึงหมายถึง ความเร็วอินเทอร์เน็ตในขณะใช้งาน VPN

เนื่องจากข้อมูลต้องผ่านและเข้ารหัส VPN ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดลดลงโดยไม่มีข้อยกเว้น ความเร็วเฉลี่ยที่ลดลงสำหรับ VPN ที่ดีที่สุด จึงควรอยู่ที่ประมาณ 20% ยกเว้นแต่จะมีเงื่อนไขบางประการ

ตัวอย่างเช่นในกรณีของ IPVanish หากคุณพยายามจะปกปิดที่อยู่ IP คุณสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านเกิดของคุณได้ และทำให้ความเร็วลดลงต่ำกว่า 10% 

ในขณะเดียวกัน การตั้งค่าตำแหน่งเป็นประเทศที่อยู่กึ่งกลางโลก เพื่อให้สามารถเข้าถึง Netflix ที่จำกัดในบางประเทศได้ จะทำให้ความเร็วลดลงตั้งแต่ 20% ถึง 70%

ปัจจัยที่ทำให้ VPN เร็วที่สุด?

การที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณลดลงในขณะที่ใช้งาน VPN ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะห่างของเซิร์ฟเวอร์, คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์,แบนด์วิดท์และโหลดของเซิร์ฟเวอร์ และโปรโตคอล VPN ที่ใช้

รายการปัจจัยต่อไปนี้ มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ VPN เร็วที่สุดหรือไม่:

  • ระยะห่างของเซิร์ฟเวอร์
  • ข้อจำกัดแบนด์วิธระหว่างประเทศ
  • คุณภาพของเซิร์ฟเวอร์
  • โปรโตคอล VPN (โปรโตคอลที่ปลอดภัยมีผลให้ความเร็วช้าลง)

ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ หากคุณมีความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ย 300 Mbps โดยไม่ใช้ VPN การลดลง 20% แทบจะมองไม่เห็นความแตกต่าง และคุณยังคงสามารถดูภาพยนตร์และสตรีมมิ่งแบบ HD ได้อย่างสบาย ๆ ที่ความเร็ว 240 Mbps

ทำไมถึงต้องใช้ VPN เร็วที่สุด?

นอกเหนือจากการรักษาความปลอดภัย และการปกป้องข้อมูลในขณะท่องโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว คนส่วนใหญ่ยังนิยมใช้ VPN เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการใช้งานในบางประเทศ และเพื่อเข้าถึงเนื้อหาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น Netflix, HBO Max และ Amazon Prime Video

หากไม่มีเซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ ก็ยังคงสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ แต่มันจะเป็นฝันร้ายในขณะรับชมเพราะวิดีโอจะถูกรบกวนตลอดเวลา

นอกเหนือจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแล้ว VPN ที่ช้ามากจะทำให้การท่องเว็บเป็นประสบการณ์ที่น่าผิดหวัง เพราะอาจต้องใช้เวลานานถึง 15 วินาทีในการรีเฟรชฟีดบน Instagram และบางเว็บไซต์ที่เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็น ก็อาจต้องใช้เวลาโหลดที่นานกว่านั้น

 VPN เร็วที่สุด ต้องเป็นแบบไหน?

ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม VPN ที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงไม่เกิน 20% หรือหนึ่งในห้า ถือว่าเป็น VPN ที่เร็วมาก ทั้งนี้ ความเร็วอินเทอร์เน็ตอาจแตกต่างออกไปตามช่วงเวลา และประเภทของการเชื่อมต่อ เช่น แบบ LAN หรือ แบบ WiFi

ไม่ว่าในกรณีใด VPN เร็วที่สุดและดีที่สุด ไม่ควรมีใครสังเกตเห็น เพราะจำเป็นต้องปกปิดที่อยู่ IP และให้ความปลอดภัยสูงสุดโดยไม่ขัดขวางประสบการณ์ทางออนไลน์ ซึ่งวิธีที่ดีที่จะบอกว่า VPN ลดความเร็วของอินเทอร์เน็ตหรือไม่ ทำได้โดยการทดสอบความเร็ว

เนื่องจาก VPN ส่วนใหญ่ไม่ใช่โปรแกรมเน็ตเร็วฟรี คุณจึงต้องสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปี เพื่อทดสอบบริการ สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ราคาที่ต้องจ่ายแพง แต่ยังเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกด้วย

นั่นเป็นเหตุผลที่เราพยายามรวบรวมคำแนะนำเกี่ยวกับ VPN เร็วที่สุด เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้โดยง่าย

VPN ฟรีกับ VPN แบบจ่ายเงิน อันไหนเร็วที่สุด?

VPN ฟรีเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณไม่มีความกังวลเรื่องความเร็วอินเทอร์เน็ต เพราะมีระดับการป้องกันที่ใกล้เคียงกัน (มาตรฐานการเข้ารหัสและโปรโตคอลเดียวกัน) และสามารถปกป้องคุณในขณะที่ท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้

แต่การสตรีมภาพยนตร์และรายการทีวีแบบ torrent เป็นคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิง เพราะ VPN ฟรีส่วนใหญ่มาพร้อมกับข้อผิดพลาดบางอย่าง ซึ่งมักจะเป็นส่วนของแบนด์วิธที่จำกัด ทำให้ความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดจำกัดไปด้วย

ในบางกรณีที่ไม่มีการจำกัดความเร็ว แผนฟรีที่มี VPN แรง ๆ อาจถูกจำกัดบางฟีเจอร์ เช่นกรณีของ Proton VPN ซึ่งเราได้กล่าวถึงในรายละเอียดข้างต้นไปแล้ว

ในความเห็นของเรา VPN แบบจ่ายเงิน จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า หากคุณต้องการการปกป้องระดับพรีเมียม โดยไม่สูญเสียความเร็วอินเทอร์เน็ต VPN แบบจ่ายเงินอย่าง Surfshark VPN คือ VPN เร็วที่สุดของคุณอย่างแน่นอน

วิธีเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ VPN

ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าความเร็วที่ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ยังโชคดีที่มีหลายวิธีที่จะช่วยทําให้เน็ตเร็วขึ้นได้ และนี่คือ 3 วิธีที่ทำให้ VPN เร็วที่สุด:

1. เปลี่ยนการตั้งค่าการเข้ารหัส

การเปลี่ยนจาก TCP เป็น UDP จะช่วยทำให้ความเร็ว VPN สูงขึ้นได้ เพราะวิธีนี้จะปิดการรับรองความถูกต้องในการถ่ายโอนข้อมูล ทำให้สามารถส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ได้เร็วขึ้น

UDP เหมาะที่สุดสำหรับการสตรีมมิ่งและการเล่นเกม เพราะไม่ต้องการความสมบูรณ์ของข้อมูล ในขณะที่ TCP เหมาะที่สุดสำหรับการทอร์เรนต์หรือดาวน์โหลดเนื้อหา

2. เปลี่ยนโปรโตคอลการเข้ารหัส

VPN ยอดนิยมส่วนใหญ่มีตัวเลือกโปรโตคอลที่แตกต่างกัน และแต่ละอันเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันด้วย สำหรับใครที่ต้องการ VPN เร็วที่สุด ให้เปลี่ยนไปใช้โปรโตคอล WireGuard เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

3. เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์อื่น

จำนวนเซิร์ฟเวอร์เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้ VPN เนื่องจากกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดเล็ก อาจส่งผลให้เกิดความแออัดเนื่องจากแบนด์วิธที่ใช้ร่วมกัน และทำให้ความเร็วช้าลง 

อย่างไรก็ตาม ระยะทางของเซิร์ฟเวอร์ (ขึ้นกับตำแหน่งการใช้งาน) ก็ส่งผลต่อความเร็วของคุณเช่นกัน ดังนั้น การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กว่า หมายความว่าข้อมูลจะเดินทางสั้นกว่า และทําให้เน็ตเร็วขึ้นได้เช่นกัน

หากคุณพบว่าความเร็วช้าลง ให้ลองเปลี่ยนไปใช้เซิร์ฟเวอร์อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด หรือลองใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กว่าแทน
ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า จะช่วยให้ VPN เร็วที่สุด ไม่ว่าจะใช้บริการแอพเน็ตเร็วกับบริการรายใดก็ตาม

วิธีเริ่มต้นใช้งาน VPN เร็วที่สุด

การเริ่มต้นใช้งาน VPN เร็วที่สุด เป็นเรื่องง่าย โดยเราจะใช้ Surfshark เป็นตัวอย่างในการแสดงวิธีติดตั้ง VPN เพื่อประสบการณ์การท่องโลกอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย 100%

ขั้นตอนที่ 1: สมัครสมาชิก

ไปยังเว็บไซต์ของ Surfshark VPN และเลือกแผนสมาชิกที่เหมาะกับคุณที่สุด

เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว คุณจะสามารถดาวน์โหลดแอพเน็ตเร็วบนอุปกรณ์ของคุณได้เลย

ไปยัง Surfshark ตอนนี้

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง Surfshark VPN

ค้นหาไฟล์ที่ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Surfshark VPN และเริ่มการติดตั้ง

หลังจากการติดตั้งเสร็จสิ้น ไอคอน Surfshark VPN จะปรากฏบนอุปกรณ์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: เริ่มใช้งาน Surfshark

ดับเบิลคลิกที่ไอคอน แล้วกรอกข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบ

หลังจากเข้าสู่ระบบสำเร็จ คุณจะสามารถเริ่มใช้ Surfshark ได้ทันที

ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมต่อ Surfshark VPN

การเริ่มใช้เซิร์ฟเวอร์ VPN เร็วที่สุดนี้ ให้เลือกประเทศที่คุณต้องการเชื่อมต่อ และคลิกปุ่ม “Connect”

Surfshark VPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3,000 เครื่องใน 95 ประเทศ และคุณสามารถใช้แถบค้นหาเพื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในประเทศที่คุณเลือกได้ เมื่อคุณเชื่อมต่อแล้ว คุณสามารถใช้ Surfshark VPN เซิร์ฟเวอร์ VPN แรง ๆ พร้อมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางออนไลน์สูงสุดได้เลย

บทสรุปเกี่ยวกับ VPN เร็วที่สุด

ไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่า VPN เร็วที่สุด คืออะไร แม้ว่าVPN บางราย จะไม่ลดความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล

VPN ส่วนใหญ่มีการป้องกันในระดับที่ใกล้เคียงกัน และราคาไม่ต่างกันมาก ดังนั้น คุณจึงไม่ควรพลาดเว็บ VPN แรง ๆ ที่เราเลือกมา

เราขอแนะนำ Surfshark VPN เนื่องจากเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเร็วและความปลอดภัย เซิร์ฟเวอร์ Surfshark VPN แต่ละเซิร์ฟเวอร์เชื่อมต่อกับพอร์ต 1 Gbps หรือสูงกว่า เพื่อให้มั่นใจได้ว่า VPN เร็วที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ใด

ยิ่งไปกว่านั้น Surfshark ยังให้บริการการเข้ารหัสข้อมูลที่ทันสมัย และมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย ที่เพิ่มการป้องกันหลายชั้นและรับประกันความปลอดภัย ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตปราศจากโฆษณารบกวนใจคุณ

Categories
VPN ซอฟต์แวร์และโซเชียล

รวม 15 อันดับ บริการ VPN ที่ดีที่สุด ปี 2023 แรงๆ [แนะนำ!]

VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว VPN ที่ดีที่สุดปกป้องตัวตนของผู้ใช้ขณะท่องเว็บหรือสตรีมออนไลน์ พวกเขาสามารถให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ในประเทศอื่น ๆ ได้

ในคู่มือนี้ 15 บริการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 รีวิวแนะนำ vpn ที่ดีที่สุด ในประเทศไทย ใครที่ไม่รู้จะใช้ vpn ตัวไหนดี มีทั้งแบบฟรี แบบเสียเงิน คัดเซิร์ฟเวอร์ vpn แรงๆ ปลอดภัย ฟีเจอร์เพียบ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา VPN ที่เหมาะสมกับความต้องการ

เราได้ทดสอบ VPN หลายสิบตัวเพื่อค้นหาบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 นี่คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา:

  1. NordVPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมของปี 2023
  2. CyberGhost VPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน
  3. Private Internet Access – VPN  ดีที่สุดสำหรับเราเตอร์
  4. Surfshark One – ครบในที่เดียวทั้ง VPN และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด
  5. UltraVPN –   VPN ที่รวดเร็วและไม่จำกัด
  6. ProtonVPN – VPN ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
  7. StrongVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์จำนวนมาก
  8. IPVanish – บริการ VPN ที่ปรับแต่งได้มากที่สุด
  9. ZenMate VPN – VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023
  10. Atlas VPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows
  11. ExpressVPN – ที่ดีที่สุดสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome
  12. Norton Secure VPN – ซอฟต์แวร์ VPN ที่เชื่อถือมากที่สุด
  13. VyprVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม
  14. Hotspot Shield – VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Android
  15. TunnelBear – VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone

ไปยัง VPN ที่ดีที่สุด

รีวิว VPN ยอดนิยมในปี 2023

คุณต้องการทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ 15 แพลตฟอร์มนี้เป็นบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 หรือไม่? เราได้รวบรวมการรีวิวโดยละเอียดเกี่ยวกับ VPN แบบเสียเงินและฟรีที่ดีที่สุดไว้แล้ว

1. NordVPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดโดยรวมของปี 2023

NordVPN เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับสายเกมเพราะมันรวดเร็วในการเชื่อมต่อที่อย่างเห็นได้ชัดโดยไม่มีการจำกัดแบนด์วิดท์หรือการควบคุมปริมาณ โปรโตคอลการเข้ารหัส NordLynx ของบริษัททำให้ผู้ใช้สามารถท่องอินเทอร์เน็ตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ และสามารถปลดล็อกบริการสตรีมมิ่งหลัก ๆ ส่วนใหญ่ได้

NordVPN ยังโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้ แพลตฟอร์มจะไม่บันทึกกิจกรรมของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะถามก็ตาม นั่นทำให้มันเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุด VPN เร็วที่สุด สำหรับการทอร์เรนต์และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ผู้ใช้ต้องการไม่เปิดเผยตัวตน

นอกจากนี้ NordVPN ยังนำเสนอคุณสมบัติขั้นสูง เช่น split tunneling ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้การเชื่อมต่อ VPN กับเบราว์เซอร์เท่านั้นแทนที่จะใช้กับทั้งอุปกรณ์ แพลตฟอร์มนี้ยังมีการรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัย มัลแวร์ในตัวและการบล็อกโฆษณา และการตรวจสอบเว็บมืด

NordVPN เริ่มต้นเพียง 135 บาทต่อเดือน และแพลตฟอร์มรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 6 รายการในอุปกรณ์ของคุณ สำหรับการไม่เปิดเผยตัวตนอย่างสมบูรณ์ NordVPN รองรับการชำระเงินใน Bitcoin, Ethereum และ Ripple นอกเหนือจากวิธีการชำระเงินแบบเดิม ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงการสนับสนุนลูกค้าได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงและมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 5,500 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
5,500+80+135 บาทต่อเดือน6แชทสดตลอด 24/7 30 วัน

ข้อดี

  • เชื่อมต่อรวดเร็วไม่มีขีดจำกัด
  • ไม่มีการบันทึกการเข้าใช้งาน
  • รองรับ split tunneling
  • ฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 
  • รับการชำระเงินฝ่ายสกุลเงินดิจิทัล

ข้อเสีย

  • ไม่มีแผนการใช้งานฟรี

ไปยัง NordVPN

2. CyberGhost VPN – บริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน

พูดง่าย ๆ ก็คือ CyberGhost VPN เป็นบริการ VPN ที่ดีที่สุดอันดับตันๆ นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับ VPN ที่ดีที่สุดตาม Reddit ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับบริการนี้

ในการทดสอบ CyberGhost สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดที่ 850 Mbps ซึ่งเร็วกว่า VPN อื่น ๆ ในบทสรุปของเรา แพลตฟอร์มนี้ยังมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 8,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 90 ประเทศ ดังนั้นจึงง่ายต่อการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้เคียงหรือเพื่อปลอมแปลงตำแหน่งของผู้ใช้ อีกอย่างที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับ CyberGhost คือทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเชื่อมต่ออัตโนมัติได้ ตัวอย่างเช่น CyberGhost สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดในประเทศของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดแอปเช่น Netflix บนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน หรือสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดได้เมื่อผู้ใช้เปิดบริการแชร์แบบเพียร์ทูเพียร์ เช่น Tor

สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ CyberGhost คือมันทำที่เหมือนแพลตฟอร์มอื่นๆ คือ เสนอซอฟต์แวร์ VPN เฉพาะสำหรับคอนโซล XBox และ PlayStation นั่นทำให้กระบวนการรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อในขณะที่เล่นเกมนั้นง่ายกว่าการใช้ VPN อื่น ๆ อีกมากมาย

CyberGhost เริ่มต้นเพียง 75 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 3 ปี อย่างไรก็ตามการกำหนดราคาแบบเดือนต่อเดือนของแพลตฟอร์มอาจมีค่าใช้จ่ายสูงที่ 440 บาทต่อเดือน และไม่มีแผนบริการฟรีให้ใช้ แผนทั้งหมดรวม 7 การเชื่อมต่อพร้อมกัน การสนับสนุนการแชทสด 24/7 และการรับประกันคืนเงิน 45 วั

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
8,100+9075 บาทต่อเดือน7สนับสนุนการแชทสด 24/745 วัน

ข้อดี

  • เชื่อมต่อแอปสำหรับ XBox และ PlayStation ได้
  • ความเร็วสูงสุด of 850 Mbps
  • กฎเชื่อมต่ออัตโนมัติ
  • ฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 

ข้อเสีย

  • แผนรายเดือนที่มีราคาสูง

ไปยัง CyberGhost VPN

3. Private Internet Access – VPN  ดีที่สุดสำหรับเราเตอร์

Private Internet Access เป็นบริการที่ VPN ขึ้นชื่อ มันมีคุณสมบัติที่ครอบคลุม เช่น นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP kill switch แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนที่อยู่ IP ของตนหรือกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องเพื่อให้การติดตามทำได้ยากขึ้น เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการเลี่ยงการสอดแนมโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ GPS ไม่ให้ใครรู้พิกัดคุณ!

Private Internet Access มีแอปมากมายสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, Linux, iOS และ Android เช่นเดียวกับเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox และ Edge, เกมคอนโซล, สมาร์ททีวี และอื่น ๆ ที่สำคัญ ซอฟต์แวร์ VPN ของบริษัทยังสามารถโหลดลงในเราเตอร์ที่เข้ากันได้ ให้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

ผู้ให้บริการ VPN รายนี้มีความโดดเด่นในด้านเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนตัวมีเซิร์ฟเวอร์ 35,000 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกใน 78 ประเทศ นั่นเป็นเซิร์ฟเวอร์มากกว่าผู้ให้บริการ VPN ที่แข่งขันกันส่วนใหญ่หลายเท่า ซึ่งหมายความว่ามีแบนด์วิดท์ในเครือข่ายมากกว่าเพื่อรองรับผู้ใช้เพิ่มเติม

Private Internet Access เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือน และมาพร้อมกับฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24/7 และการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ผู้ใช้สามารถมีการเชื่อมต่อพร้อมกันได้สูงสุด 10 รายการ นอกจากนี้ Private Internet Access ยังรองรับการชำระเงินแบบไม่ระบุตัวตนโดยใช้ Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum และ Litecoin อีกด้วย

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
35,000+78เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือน10แชทสดและอีเมล 24/7 30 วัน

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม
  • สามารถใช้ได้กับเราเตอร์ทุกประเภท
  • มี 35,000 เซิร์ฟเวอร์และใช้ได้ใน 78 ประเทศ
  • รับการชำระเงินฝ่ายสกุลเงินดิจิทัล

ข้อเสีย

  • ความเร็วในการเชื่อมต่อเร็วในระดับปานกลาง

ไปยัง Private Internet Access

4. Surfshark One – ครบในที่เดียวทั้ง VPN และซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดีที่สุด

Surfshark One เป็นหนึ่งในบริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำมากกว่าแค่ปกป้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มนี้จับคู่ VPN ที่มีคุณสมบัติหลากหลายกับซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ทรงพลัง ทำให้อุปกรณ์ทั้งหมดของผู้ใช้อยู่ภายใต้ความปลอดภัยที่ครอบคลุม

VPN ของ Surfshark One นั้นน่าประทับใจมากโดยมีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 3,200 เซิร์ฟเวอร์กระจายอยู่ใน 65 ประเทศ แพลตฟอร์มนี้สามารถทำการเชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัดจำนวนและความเร็วสูงสุดถึง 790 Mbps และยิ่งไปกว่านั้นซอฟต์แวร์ยังมีแอปสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox และเสนอช่องสัญญาณแบบแยกส่วนที่สามารถนำไปใช้กับบางเว็บไซต์ที่ไม่สามารถใช้งานได้กับ VPN เช่น ไซต์ธนาคารออนไลน์

VPN ยังมีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและ IP kill switch โดย Surfshark ยังช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนที่อยู่ IP ก่อนเชื่อมต่อ ทำให้การติดตามผู้ใช้ทางออนไลน์ยากขึ้น

ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของ Surfshark One รองรับการสแกนตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับการสแกนด้วยตนเองที่สามารถครอบคลุมทั้งฮาร์ดไดรฟ์ของผู้ใช้หรือเฉพาะโฟลเดอร์ที่ใช้บ่อยเท่านั้น Surfshark One ยังมีการตรวจสอบเว็บที่มืดซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อข้อมูลของผู้ใช้ถูกค้นพบที่เว็บมืด

Surfshark One เริ่มต้นเพียง 85 บาทต่อเดือนในปีแรก แผนทั้งหมดรวมถึงการแชทสดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงและการสนับสนุนทางอีเมล

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
3,20065เริ่มต้นเพียง 85 บาทไม่จำกัดแชทสดและอีเมลตลอด 24/730 วัน

ข้อดี

  • รวม VPN ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส และการตรวจสอบเว็ปมืด 
  • สามารถใช้งานได้ใน 3,200+ เซิร์ฟเวอร์
  • มีเเอปที่สามารถใช้งานได้บน Chrome และ Firefox
  • ฝ่ายบริการลูกค้า 24/7 

ข้อเสีย

  • ความเร็วช้ามากเมื่อใช้งานผ่านเราเตอร์

ไปยัง Surfshark One

5. UltraVPN – VPN ที่รวดเร็วและไม่จำกัด

สำหรับผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับความเร็วในการเชื่อมต่อเป็นอันดับหนึ่ง UltraVPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โดย VPN นี้มีความเร็วเฉลี่ยที่ 765 Mbps เมื่อใช้โปรโตคอลการเข้ารหัส Hydra ที่เป็นที่นิยม ซึ่งเร็วพอสำหรับการเล่นเกม สตรีมวิดีโอ ทอร์เรนต์ และอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น UltraVPN สามารถเชื่อมต่อได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ดังนั้นจึงไม่ต้องรอในขณะที่ VPN ค้นหาเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูงที่พร้อมใช้งาน

เมื่อเทียบกับ VPN ที่ดีที่สุดในรายการที่เรารีวิวไว้แล้ว UltraVPN มีตัวเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ค่อนข้างจำกัด แพลตฟอร์มสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์กว่า 100+ แห่งใน 14 ประเทศ แต่รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ในทุกทวีป

สิ่งหนึ่งที่เราชอบเป็นพิเศษเกี่ยวกับ UltraVPN ก็คือแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้จำกัดจำนวนการเชื่อมต่อพร้อมกันในอุปกรณ์ของคุณ นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องกังวลกับการปิดเซสชันเพื่อเพิ่ม VPN ให้กับอุปกรณ์อื่น ปัจจุบัน UltraVPN รองรับบนอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android และเราคิดว่านี่เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Android และ iPhone

UltraVPN ยังนำเสนอฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย รวมถึงมัลแวร์และการบล็อกโฆษณาและความสามารถในการสลับเซิร์ฟเวอร์อย่างราบรื่นระหว่างเซสชัน อินเทอร์เฟซผู้ใช้ใช้งานง่าย ซึ่งเป็นข้อดีอีกอย่างสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการออนไลน์อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด

ราคาของ UltraVPN เริ่มต้นที่ 100 บาท ต่อเดือน กับแผน 2 ปี แผนทั้งหมดมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
100+14เริ่มต้นที่ 100 บาทไม่จำกัดอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • เร็วแรงมากในการเชื่อมต่อ
  • เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้รวดเร็ว
  • สามารถเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน
  • บล็อกมัลแวร์และการบล็อกโฆษณา

ข้อเสีย

  • มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกจำกัด
  • ไม่มีซอฟต์เเวร์สำหรับเราเตอร์

ไปยัง UltraVPN

6. ProtonVPN – VPN ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยความเร็วที่รวดเร็ว

Proton VPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับหนึ่ง โดยแพลตฟอร์มนี้มีนโยบายที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด และปกป้องข้อมูลส่วนำตัวของผู้ใช้โดยไม่เปิดเผยตัวตนขณะใช้งานอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มนี้ยังปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของผู้ใช้ด้วยการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง และรวมถึง kill switch ที่ปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์หากการเชื่อมต่อ VPN หลุด

ด้วยการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและฟังก์ชั่น Tor over VPN ที่เรียบง่าย Proton VPN จึงคุ้มค่าที่จะพิจารณาว่าเป็น VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการทอร์เรนต์หรือการแชร์แบบเพียร์ทูเพียร์ในรูปแบบอื่น ๆ แพลตฟอร์มนี้ยังมีการป้องกันมัลแวร์ในตัวและตัวบล็อกโฆษณาเพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์ออนไลน์ของคุณมีความไหลลื่นมากที่สุด

Proton VPN นั้นเร็วพอสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่แต่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 670 Mbps ดังนั้นจึงไม่ใช่ VPN ที่เร็วที่สุดในรีวิวของเรา ถ้ามองในแง่บวกแพลตฟอร์มนี้มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1,700 เซิร์ฟเวอร์ใน 63 ประเทศ ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก

ข้อเสียเปรียบที่ใหญ่ที่สุดของ Proton VPN คือราคาของมัน เพราะ VPN นี้เริ่มต้นที่ 175 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม Proton VPN เสนอ VPN ฟรีพร้อมการเชื่อมต่อ 1 อุปกรณ์พร้อมกันและเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ 100 แห่ง ไม่ได้รวมคุณสมบัติทั้งหมดของ Proton VPN แต่เป็นหนึ่งใน VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
1,700+63เริ่มต้นที่ 175 บาทต่อเดือน10แชทสดและอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • มีนโยบายที่ไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด
  • IP kill switch
  • มีการป้องกันมัลแวร์ในตัวและตัวบล็อกโฆษณา
  • ใช้งาน VPN ได้ฟรีสำหรับ 1 อุปกรณ์

ข้อเสีย

  • มีราคาสูง
  • ความเร็วอยู่ในระดับปานกลาง

ไปยัง ProtonVPN

7. StrongVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์จำนวนมาก

StrongVPN โดดเด่นสำหรับครอบครัวหรือผู้ใช้แต่ละรายที่มีอุปกรณ์มากมายให้ปกป้อง นั่นเป็นเพราะว่าแผน StrongVPN ทุกแผนสามารถเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 12 รายการ นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถปกป้องอุปกรณ์ได้มากขึ้นในเวลาเดียวโดยเพิ่มการเชื่อมต่อ StrongVPN เข้ากับเราเตอร์ WiFi

StrongVPN ยังมีแอพเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลายกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ผู้ใช้จะสามารถค้นหาแอปต่าง ๆ สำหรับคอมพิวเตอร์ Windows และ Mac ยังรวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ iOS และ Android และระบบปฏิบัติการ Chrome  อุปกรณ์ Amazon Kindle และ Fire TV  อุปกรณ์ Linux และอื่น ๆ เรามองว่ามันเป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ Mac และ Windows เว็บไซต์ของแพลตฟอร์มมีคำแนะนำอย่างละเอียดเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN และทำงานบนอุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด

StrongVPN มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 950 เซิร์ฟเวอร์ใน 40 ประเทศ และทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการปลดบล็อกขอบเขตตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของไซต์สตรีมในการทดสอบของเรา แพลตฟอร์มนี้รองรับโปรโตคอลการเข้ารหัสหลายตัว แต่เราพบว่าความเร็วสูงสุดมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 600 Mbps และมันไม่ได้ช้าเกินไปสำหรับการใช้งานทั่วไปแต่มันค่อนข้างแย่เมื่อเทียบกับ VPN ที่เร็วที่สุด

แผนสำหรับ StrongVPN เริ่มต้นที่ 125 บาทต่อเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนระยะยาวที่ยาวที่สุดคือ 1 ปี ฝ่ายบริการลูกค้าสามารถทำได้ทางอีเมลเท่านั้น

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
950+40เริ่มต้นที่ 125 บาทต่อเดือน12อีเมล30 วัน

ข้อดี

  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 12 รายการ
  • มีศอฟต์แวร์สำหรับเราเตอร์
  • ใช้งานได้ดีสำหรับสตรีมเมอร์
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 40 ประเทศ

ข้อเสีย

  • มีเพียงแผนสำหรับปีต่อปีเท่านั้น
  • ความเร็วค่อนข้างช้า

ไปยัง StrongVPN

8. IPVanish – บริการ VPN ที่ปรับแต่งได้มากที่สุด

IPVanish เป็นแอป VPN ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมความปลอดภัย ความเร็ว และอุปกรณ์อย่างเต็มที่ โดยแพลตฟอร์มนี้มีความโดดเด่นในการนำเสนอโปรโตคอลการเข้ารหัส VPN ที่แตกต่างกัน 4 แบบ รวมถึงโปรโตคอล WireGuard ที่เร็วเป็นพิเศษ ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างโปรโตคอลเหล่านี้ได้ตลอดเวลาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความเร็ว หรือใช้โปรโตคอลต่าง ๆ กับอุปกรณ์ต่าง ๆ

มากไปกว่านั้น IPVanish ยังรองรับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแยกช่องสัญญาณ การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP kill switch ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถปรับแต่งได้ในการตั้งค่าของซอฟต์แวร์ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่า IPVanish เพื่อให้เปิด VPN โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ตรวจพบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแม้แต่บนอุปกรณ์มือถือก็สามารถทำได้ 

IPVanish รองรับอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจำนวน และซอฟต์แวร์สามารถติดตั้งบนเราเตอร์ WiFi ทั่วไปได้ เพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่หลากหลายรวมถึงคอนโซลเกม ในการทดสอบโปรโตคอล WireGuard ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงถึง 930 Mbps ซึ่งเป็นความเร็วที่เร็วที่สุดที่เราเห็นจาก VPN ทั่วไป ในการทดสอบของเราแผน IPVanish ทั้งหมดมีแบนด์วิดท์ที่ไม่จำกัดเช่นกัน

สิ่งที่ต้องคำนึงเกี่ยวกับ IPVanish ก็คือมันอาจจะมีราคาแพง การสมัครสมาชิกหนึ่งปีมีค่าใช้จ่าย 135 บาทต่อเดือนในปีแรก และราคาเพิ่มขึ้นเป็น 255 บาทต่อเดือนหลังจากปีแรกและมันไม่มีแผนบริการฟรี

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
2,000+50+เริ่มที่ 135 บาทต่อเดือนไม่จำกัดอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • มีการเสนอการเข้าโปรโตคอล 4 แบบ
  • เปิดการใช้งานอัตโนมัติ
  • สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้แบบไม่จำกัดจำนวน
  • มีความเร็วสูงเป็นพิเศษด้วย WireGuard โปรโตคอล

ข้อเสีย

  • มีราคาสูง
  • เป็นแพลตฟอร์มที่มีความซับซ้อนกว่าแพลตฟอร์ม VPN ทั่วไป

ไปยัง IPVanish

9. ZenMate VPN – VPN ฟรีที่ดีที่สุดในปี 2023

เราเลือก ZenMate VPN ในฐานะ VPN ฟรีที่ดีที่สุดในขณะนี้ มันเป็นหนึ่งใน VPN เดียวที่เสนอแผนฟรีอย่างแท้จริงโดยไม่จำกัดเวลาหรือแบนด์วิดท์สูงสุดรายเดือน ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากแอปเบราว์เซอร์ของ ZenMate VPN สำหรับ Chrome, Firefox และ Edge บนอุปกรณ์ 1 เครื่องด้วยความเร็วสูงถึง 200 Mbps โดย VPN ฟรีมีความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์และมาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวด

สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ทั้งหมดของ ZenMate VPN แผนการชำระเงินเริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสำหรับแอปเบราว์เซอร์เท่านั้น หรือ 50 บาทต่อเดือนเพื่อปลดล็อกแอปทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ZenMate VPN นำเสนอแอปสำหรับ Windows, Mac, iOS, Android, Linux, สมาร์ททีวี และเราเตอร์ VPN ที่ดีที่สุด แพลตฟอร์มนี้ให้ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน นอกเหนือจากการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย

แพลตฟอร์มนี้นำเสนอคุณสมบัติอันชาญฉลาด เช่น การแยกช่องสัญญาณและการอนุญาตพิเศษสำหรับเว็บไซต์เฉพาะ การเชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อตรวจพบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และรองรับการแชร์แบบเพียร์ทูเพียร์ผ่าน Tor นอกจากนี้ยังมี IP kill switch และการป้องกัน DNS เพื่อให้ข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้ไม่ระบุตัวตนอย่างสมบูรณ์

สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ทั้งหมดของ ZenMate VPN แผนการชำระเงินเริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสำหรับแอปเบราว์เซอร์เท่านั้น หรือ 50 บาทต่อเดือนเพื่อปลดล็อกแอปทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ZenMate VPN นำเสนอแอปสำหรับ Windows, Mac, iOS, Android, Linux, สมาร์ททีวี และเราเตอร์ VPN ที่ดีที่สุด แพลตฟอร์มนี้ให้ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน นอกเหนือจากการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันอีกด้วย

ZenMate VPN เสนอการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ 4,400+ เซิร์ฟเวอร์ใน 81 ประเทศ มันทำงานได้ดีมากในการปลดบล็อค geofences เมื่อใช้บริการสตรีมมิ่ง อย่างไรก็ตามความเร็วของมันค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเราพบความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 500 Mbps เมื่อใช้ VPN นี้

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
4,400+81เริ่มต้นที่ 50 บาทต่อเดือนไม่จำกัดอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • ฟรี VPN สำหรับเบราว์เซอร์
  • IP kill switch และ DNS protection
  • รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันไม่จำกัด
  • ทดลองใช้ฟรี 7 วัน

ข้อเสีย

  • ความเร็วในการเชื่อมต่อที่พอเหมาะ
  • ต้องอัปเกรดเพื่อเข้าถึงแอปเดสก์ท็อปเพื่อไปที่ ZenMate VPN ได้

ไปยัง ZenMate VPN

10. Atlas VPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับอุปกรณ์ Windows

Atlas VPN เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานบน Windows เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มใช้งานง่ายเพียง โดยผู้ใช้เพียงแค่ต้องเปิดแอปบนเดสก์ท็อปแล้วคลิกปุ่ม จากนั้น Atlas VPN จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติในไม่กี่วินาที ผู้ใช้ยังสามารถเลือกจากรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ถึง 750 เซิร์ฟเวอร์ใน 36 ประเทศเพื่อปรับแต่งการเชื่อมต่อของตนเองได้

VPN นี้ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญหลายอย่างสำหรับความเป็นส่วนตัว โดยกิจกรรมทั้งหมดของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตจะไม่ถูกบันทึก และแพลตฟอร์มนี้มีการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP kill switch นอกจากนี้ Atlas VPN ยังช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนที่อยู่ IP หรือกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องเพื่อปกปิดตัวตนของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

Atlas VPN ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงถึง 680 Mbps ในเมื่อใช้โปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard มีโปรโตคอลเพิ่มเติม รวมถึงโปรโตคอล IKEv2 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย Atlas VPN ยังรองรับการแยกช่องสัญญาณและมีตัวบล็อกโฆษณาในตัวที่ป้องกันไม่ให้ตัวติดตามติดตามผู้ใช้ทางอินเทอร์เน็ต

แผน Atlas VPN เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนสำหรับแผน 3 ปี อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 35 บาทต่อเดือนหลังจาก 3 ปีแรก แพลตฟอร์มนี้มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันและการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชกาล

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
75036เริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือนไม่จำกัดแชดสดและอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • แอปเดสก์ท็อปที่ใช้งานง่ายสำหรับ Windows และ Mac
  • รวมถึงโปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard 
  • กำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อข้ามเซิร์ฟเวอร์ได้หลายเครื่อง
  • แผนการกำหนดราคา 3 ปีราคาถูก

ข้อเสีย

  • ราคาแพงขึ้นหลังจากราคาเปิดตัว
  • มีประเทศให้เลือกที่จำกัด

ไปยัง Atlas VPN

11. ExpressVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับเบราว์เซอร์ Chrome

ExpressVPN เป็นหนึ่งในบริการ VPN ที่ดีที่สุดในปี 2023 และแพลตฟอร์มนี้โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับแอปเบราว์เซอร์บน Chrome, Firefox และ Microsoft Edge แอปเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้เปิดเซสชัน VPN ใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเบราว์เซอร์ และรองรับการแยกช่องสัญญาณและรายการที่อนุญาตพิเศษ ดังนั้นบางเว็บไซต์จึงสามารถเลี่ยงการเชื่อมต่อ VPN ได้

ExpressVPN มีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกมากมาย มากกว่า 3,000 สามารถใช้งานใน 94 ประเทศ ที่จริงแล้ว ExpressVPN เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN เดียวที่ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศในแอฟริกาและอเมริกาใต้ ความเร็วในการเชื่อมต่อในสถานที่เหล่านี้ไม่ได้เร็วเสมอไป แต่การมีตำแหน่งเหล่านี้อาจจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม

ผู้ให้บริการ VPN รายนี้นำเสนอคุณสมบัติที่หลากหลายสำหรับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย รวมถึงมัลแวร์และตัวบล็อกโฆษณา นโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งาน การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และIP kill switch, ExpressVPN และยังมีแอปสำหรับอุปกรณ์เดสก์ท็อป คอนโซลเกม สมาร์ททีวี และอีกมากมาย แอพทั้งหมดจาก VPN นี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดีและเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม VPN บนมือถือที่ดีที่สุด

ข้อเสียเปรียบที่เห็นได้ชัดที่เราพบใน ExpressVPN คือการกำหนดราคา แผนรายปีมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 280  บาทต่อเดือน ซึ่งมากกว่าคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ นอกจากนี้แผน ExpressVPN ยังรองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุดแค่ 5 รายการ ดังนั้น VPN นี้อาจจะไม่คุ้มกับราคายกเว้นผู้ใช้ต้องการรายการแอปและตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่กว้างขวาง

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
3,000+94จาก 280  บาทต่อเดือน5แชทสดและอีเมล 24/7 30 วัน

ข้อดี

  • มีแอปเบราว์เซอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Chrome, Firefox และ Edge
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ
  • มีแอปเดสก์ท็อป มือถือ และเกมคอนโซล
  • รองรับ split tunneling

ข้อเสีย

  • ราคาแพงมาก
  • จำกัด 5 การเชื่อมต่อพร้อมกัน

ไปยัง ExpressVPN

12. Norton Secure VPN – ซอฟต์แวร์ VPN ที่เชื่อถือมากที่สุด

Norton เป็นหนึ่งในชื่อที่น่าเชื่อถือที่สุดในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่บริษัทเสนอ VPN ที่น่าเชื่อถือพร้อมคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ด้วย Norton Secure VPN ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยบนอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS หรือ Android สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ VPN นี้ไม่รองรับเราเตอร์ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สมาร์ททีวีหรือคอนโซลเกมได้ VPN นำเสนอคุณสมบัติที่สำคัญ เช่น IP kill switch และ split tunneling ทำให้ผู้ใช้วางใจได้ง่ายขึ้นว่าพวกเขากำลังท่องเว็บโดยไม่ระบุตัวตนและเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่รองรับ VPN

Norton Secure VPN ให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้มากกว่า 2,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 31 ประเทศ ตามค่าเริ่มต้นซอฟต์แวร์จะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ แต่ก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเป็นประเทศอื่นได้เช่นกัน ทำให้ VPN เหมาะสำหรับการสตรีม Netflix และเข้าถึงไซต์ที่มีขอบเขตทางภูมิศาสตร์อื่น ๆ ได้

ราคาสำหรับ Norton Secure VPN นั้นแตกต่างกันไปตามจำนวนการเชื่อมต่อที่จำเป็นพร้อมกัน การเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องเดียวมีค่าใช้จ่าย 85 บาทต่อเดือนในปีแรก ขณะที่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ 10 เครื่องมีค่าใช้จ่าย 170 บาทต่อเดือนในปีแรก Norton Secure VPN ไม่ได้เสนอแผนการใช้งานฟรี แต่มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินนาน 60 วัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
2,000+31จาก 85 บาทต่อเดือน10โทร แชทสด และอีเมล 24/7 60 วัน

ข้อดี

  • ไม่มีนโยบายการบันทึก
  • รับประกันคืนเงิน 60 วัน
  • รองรับ split tunneling
  • ง่ายต่อการเปลี่ยนตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์

ข้อเสีย

  • ความเร็วในการเชื่อมต่อช้า
  • ไม่พร้อมใช้งานสำหรับเราเตอร์ WiFi

ไปยัง Norton Secure VPN

13. VyprVPN – VPN ที่ดีที่สุดสำหรับการสตรีม

VyprVPN เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสตรีมรายการและภาพยนตร์จากแพลตฟอร์มเช่น Netflix, Hulu, Disney+ และอีกมากมาย VPN นี้มีแอปมากมายรวมถึงแอปเฉพาะสำหรับสมาร์ททีวี เราเตอร์ WiFi ในบ้าน และแม้แต่อุปกรณ์ Roku ผู้ใช้สามารถมีการเชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 5 เครื่อง ซึ่งเพียงพอสำหรับครอบครัวที่มีการสตรีมวิดีโอหลายคน

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ VyprVPN นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการสตรีมคือความรวดเร็ว ในการทดสอบของเราความเร็วในการเชื่อมต่อของสูงถึง 700 Mbps เมื่อใช้โปรโตคอล Chameleon VPN นั่นเป็นความเร็วที่เกินพอสำหรับการสตรีมวิดีโอ 4K บนอุปกรณ์หลายเครื่อง

VyprVPN นำเสนอการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ใน 64 ประเทศ ทำให้ง่ายต่อการหลีกเลี่ยงขอบเขตตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของบริการสตรีมมิ่ง ผู้ใช้สามารถสลับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดายเมื่อใดก็ได้เมื่อใช้ VPN หรือเพียงแค่ให้ VyprVPN เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดตามตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้

VyprVPN มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดและนำเสนอคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และการแยกช่องสัญญาณ ซอฟต์แวร์ได้รับการตรวจสอบโดยสาธารณะ ดังนั้นผู้ใช้จึงวางใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง แผนเริ่มต้นที่ 285 บาทต่อเดือน ดังนั้นจึงมีราคาค่อนข้างแพง ข้อดีคือราคาจะไม่เพิ่มขึ้นหลังจากปีแรกเหมือนกับ VPN อื่นๆ 

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
700+64เริ่มต้นที่ 285 บาทต่อเดือน5แชทสดและอีเมล30 วัน

ข้อดี

  • รองรับเราเตอร์ ทีวี และอุปกรณ์ Roku 
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 64 ประเทศ
  • มีการเชื่อมต่อความเร็วสูง
  • เป็นที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ได้เร็วมาก

ข้อเสีย

  • เป็นตัวเลือกที่ราคาแพง
  • เชื่อมต่อได้เเค่ 5 อุปกรณ์

ไปยัง VyprVPN

14. Hotspot Shield – VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ Android

Hotspot Shield เป็น VPN ฟรีสำหรับแพลตฟอร์ม Android, iOS และเดสก์ท็อปที่มีข้อมูลสูงสุด 500 MB ต่อเดือน แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มากนักแต่ก็มากกว่าที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องการสำหรับการท่องเว็บแบบวันต่อวัน แผนบริการฟรีมาพร้อมกับนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานและ IP kill switch แต่สามารถใช้ได้บนอุปกรณ์เครื่องเดียวที่มีความเร็วสูงถึง 200 Mbps

Hotspot Shield ยังโดดเด่นสำหรับครอบครัวด้วยแผนสำหรับครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร โดยค่าบริการอยู่ที่ 410 บาทต่อเดือน และให้ผู้ใช้สร้างบัญชีได้มากถึง 5 บัญชี โดยแต่ละบัญชีสามารถมีการเชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุด 5 รายการ (สำหรับการเชื่อมต่อสูงสุดทั้งหมด 25 รายการ) เป็นการยากที่จะเอาชนะราคานั้น แม้แต่กับผู้ให้บริการ VPN ที่มีการเชื่อมต่อพร้อมกันแบบไม่จำกัด

Hotspot Shield ให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1,800 เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ ในการทดสอบความเร็วของแพลตฟอร์มนั้นอยู่ในระดับปานกลาง โดยเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 310 Mbps อย่างไรก็ตามมันเร็วเกินพอสำหรับการสตรีม และบริการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์เพื่อเลี่ยงขอบเขตตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้อย่างง่ายดาย

แพลตฟอร์มนี้มาพร้อมกับการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วันและการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชกาล ผู้ใช้ยังสามารถทดลองใช้ Hotspot Shield ได้ฟรีสูงสุด 7 วัน

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
1,800+80+เริ่มที่ 410 บาทต่อเดือน5แชทสดและอีเมล 24/7 45 วัน

ข้อดี

  • แผนฟรีพร้อม 500 MB ของข้อมูลแต่ละเดือน
  • แผนสำหรับครอบครัวสูงสุดถึง 5 รายการ
  • มีเซิร์ฟเวอร์ใน 80 ประเทศ
  • ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน

ข้อเสีย

  • เชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุดแค่ 5 รายการต่อบัญชี

ไปยัง Hotspot Shield

15. TunnelBear –  VPN ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone

TunnelBear เป็นอีกหนึ่งบริการ VPN คุณภาพสูงที่ให้บริการทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน แผนบริการฟรีประกอบด้วยแบนด์วิดท์สูงสุด 500 MB ต่อเดือน ซึ่งสามารถใช้กับอุปกรณ์ได้มากเท่าที่ผู้ใช้ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง TunnelBear ไม่ได้จำกัดความเร็วในการเชื่อมต่อกับแผนบริการฟรี ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แผนชำระเงินที่ TunnelBear เริ่มต้นที่ 115 บาทต่อเดือนสำหรับแผน 3 ปี และราคาจะไม่เพิ่มขึ้นเมื่อต่ออายุ ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งใน VPN ที่ประหยัดที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการแบนด์วิดท์มากกว่าแผนบริการฟรี

ผู้ให้บริการ mobile vpn รายนี้มีแอปเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ Windows, Mac, iOS และ Android รวมถึงส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับ Chrome และ Firefox เราคิดว่านี่เป็นหนึ่งใน VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone เนื่องจากแอปเปิดโดยอัตโนมัติและสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ อินเทอร์เฟซตามแผนที่ทำให้ง่ายต่อการค้นหาตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ TunnelBear ทั่วโลก

TunnelBear ไม่ได้บันทึกข้อมูลผู้ใช้ใด ๆ และสามารถใช้เพื่อนำทางไปรอบ ๆ geofences เช่นเดียวกับที่จัดทำโดยไซต์สตรีมมิ่ง อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์มขาดคุณสมบัติบางอย่างที่เราต้องการเห็น รวมถึงการป้องกันการรั่วไหลของ DNS และสวิตช์ฆ่า IP TunnelBear ยังไม่มีโปรโตคอลการเข้ารหัส WireGuard และความเร็วในการเชื่อมต่ออยู่ที่ 380 Mbps 

จำนวนของบริการจำนวนประเทศราคาจำนวนอุปกรณ์ฝ่ายบริการลูกค้าการันตีเงินคืน
1,00049เริ่มต้นที่ 115 บาท5แชทสดและอีเมลไม่มี

ข้อดี

  • มีแผนฟรีพร้อมข้อมูลรายเดือน 500 MB
  • สามารถใช้แผนฟรีบนอุปกรณ์หลายเครื่อง
  • แอปมือถือที่ยอดเยี่ยมสามารถทำงาน 24/7
  • ไม่มีนโยบายการบันทึก

ข้อเสีย

  • ไม่มีการรับประกันคืนเงิน
  • ความเร็วในการเชื่อมต่อปานกลาง

ไปยัง TunnelBear

เปรียบเทียบผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุด

VPN ที่ดีที่สุดปี 2023แพลนที่ถูกที่สุด (ราคาใหม่)แผนฟรี?การันตีเงินคืนอุปกรณ์ที่รองรับ
CyberGhost VPN75 บาทต่อเดือน(สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 3 ปี)ไม่มี45 วันWindows, Mac, iOS, Android, TVs, Linux, gaming consoles
NordVPN100 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, Android, iOS, and Linux
Private Internet Access70 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 3 ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android, and Linux
Surfshark One70 บาท  (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี) ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, Android, and Linux
UltraVPN100 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, iOS, and Android
Proton VPN175 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)มี30 วันWindows, Mac, Android, iOS, Linux
StrongVPN125 บาท (สำหรับปีแรกของผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)ไม่มี30 วันWindows, Mac, Android, เราเตอร์
ExpressVPN125 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 12 เดือน)ไม่มี30 วันWindows, Android, iOS, Mac, FireOS and Linux
IPVanish135 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 12 เดือน)ไม่มี30 วันWindows, iOS, Mac, Android, and FireOS 
ZenMate50 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)มี + ทดลองฟรี 7 วันสำหรับแผนจ่ายเงิน30 วันiOS, Windows, Mac, Android, browsers
Atlas VPN70 บาท (สำหรับผู้ใช้ที่สมัครแผน 2  ปี)มี30 วันiOS, Windows, Mac, Android

VPN คืออะไร?

VPN หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือนเป็นบริการที่ช่วยให้บุคคลสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสได้

ด้วยการเข้ารหัสการเชื่อมต่อ VPN ทำให้ยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับอฮ็กเกอร์ที่จะเข้าถึงข้อมูลที่ผู้ใช้ถ่ายโอนไปมาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจจะรวมถึงไฟล์ที่กำลังดาวน์โหลด ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่บุคคลใช้เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต

VPN ยังให้ความเป็นส่วนตัวอีกด้วยถ้าไม่มี VPN เว็บไซต์สามารถใช้ที่อยู่ IP ของผู้เข้าชมเพื่อระบุตำแหน่งของพวกเขาได้ ประเภทของอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เครื่องมือติดตามโฆษณาสามารถติดตามบุคคลได้ทางอินเทอร์เน็ตโดยติดตามว่าผู้ใช้เข้าชมหน้าใดบ้าง แต่ด้วย VPN ที่อยู่ IP ของผู้ใช้จะไม่ระบุตัวตนและสามารถเปลี่ยนแปลงได้บ่อยครั้งเพื่อป้องกันการติดตาม เหมาะสำหรับคนที่อยากเลี่ยงแอปติดตามแฟนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นบุคคลทั่วไปจึงสามารถเคลื่อนที่ไปมาบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่เปิดเผยตัวตน

VPNs ทำงานอย่างไร?

VPN ทำงานโดยกำหนดเส้นทางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ใหม่ผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งเข้ารหัสการเชื่อมต่อ

โดยปกติเมื่อผู้ใช้งานพยายามเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ การเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ไปยังเว็บไซต์ ด้วย VPN การเชื่อมต่อจะเปลี่ยนจาก ISP ไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้นจึงไปที่เว็บไซต์ปลายทางเท่านั้น

ส่วนของการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ถูกเข้ารหัส ข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ (เช่น คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน) จะถูกเข้ารหัสโดยซอฟต์แวร์ VPN ก่อนที่มันจะออกจากอุปกรณ์ จากนั้นจะถอดรหัสที่เซิร์ฟเวอร์ VPN และส่งไปยังเว็บไซต์ ข้อมูลที่มาจากเว็บไซต์จะถูกเข้ารหัสที่เซิร์ฟเวอร์ VPN จากนั้นซอฟต์แวร์ VPN จะถอดรหัสบนอุปกรณ์ของผู้ใช้

ที่สำคัญคือเนื่องจากผู้ใช้กำลังเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ของผู้ใช้จะไม่เปิดเผยต่อเว็บไซต์ปลายทาง ไซต์นั้นเห็นเฉพาะที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์นี้และที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ถูกใช้โดยบุคคลหลายราย เว็บไซต์หรือเครื่องมือติดตามโฆษณาจึงไม่สามารถระบุผู้ใช้รายใดรายหนึ่งได้

ทำไมถึงต้องใช้ VPN?

คุณสงสัยว่าทำไมทุกคนควรใช้ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023? VPN ที่ดีที่สุดมอบสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และประสบการณ์ออนไลน์

การปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

หากไม่มี VPN เป็นไปไม่ได้เลยที่บุคคลจะแน่ใจได้ว่าไม่มีใครติดตามหรือรบกวนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของพวกเขา แฮกเกอร์อาจจะขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากการเชื่อมต่อที่ไม่มีการป้องกัน หรือแม้แต่เปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อของผู้ใช้เพื่อชี้ให้พวกเขาไปยังเว็บไซต์ปลอมแปลงหรือเป็นอันตราย ความเสี่ยงนี้มีให้เห็นบ่อยเมื่อใช้เครือข่าย WiFi สาธารณะ เนื่องจากเราเตอร์สามารถถูกแฮ็กได้โดยที่ผู้ใช้รายอื่น

VPN เข้ารหัสการเชื่อมต่อของผู้ใช้ ป้องกันไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับมัน นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถเรียกดูได้อย่างปลอดภัยและรู้ว่าข้อมูลใด ๆ ที่พวกเขาส่งหรือรับสามารถดูได้โดยพวกเขาเท่านั้น

การรักษาความเป็นนิรนามออนไลน์

ข้อดีอีกอย่างของการใช้ VPN คือให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้ใช้ในขณะที่ท่องอินเทอร์เน็ต โดยปกติผู้ใช้สามารถระบุตัวตนทางออนไลน์ด้วยที่อยู่ IP ของพวกเขา นี่คือที่อยู่ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งมอบให้กับทุกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ ดังนั้นเว็บไซต์ใด ๆ ที่ทราบที่อยู่ IP ของผู้ใช้สามารถติดตามพวกเขาได้ทางอินเทอร์เน็ตและติดตามว่าหน้าใดที่พวกเขาเยี่ยมชมมาได้

ที่อยู่ IP ที่ระบุไม่ได้สามารถใช้ได้เฉพาะกับโฆษณาเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้สำหรับการล่วงละเมิดทางออนไลน์หรือแม้แต่การแฮ็กได้อีกด้วย VPN ปิดบังที่อยู่ IP ของผู้ใช้และแทนที่ด้วยที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่พวกเขาเชื่อมต่ออยู่ อาจจะมีบุคคลหลายร้อยหรือหลายพันคนที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ VPN นั้นในเวลาใดก็ตาม ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ติดตามหรือแฮ็กเกอร์จะระบุบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้

นอกจากนี้ VPN ที่ดีที่สุดบางตัวยังให้ผู้ใช้เปลี่ยนที่อยู่ IP ได้ก่อนที่จะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN สิ่งนี้จะเพิ่มชั้นคว่ทปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับที่อยู่ IP ของผู้ใช้ และทำให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ยากขึ้น

การรักษาการท่องเว็บให้เป็นส่วนตัว

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการใช้บริการ VPN แนะนำคือการรักษาประวัติการท่องเว็บของแต่ละบุคคลให้เป็นส่วนตัว ด้วยแอป VPN ที่ดีที่สุด แม้แต่ ISP ของผู้ใช้ก็ไม่สามารถเห็นเว็บไซต์ที่พวกเขาเยี่ยมชมได้

นี่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่มักใช้ VPN สำหรับการทอร์เรนต์ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับ tor ยังเสนอนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลการใช้งานที่เข้มงวดอีกด้วย เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ติดตามกิจกรรมของผู้ใช้ แพลตฟอร์มเหล่านี้จึงไม่สามารถบังคับให้เปลี่ยนประวัติการท่องเว็บหรือทอร์เรนต์ของผู้ใช้โดยหน่วยงานของรัฐ

การหลีกเลี่ยง Geofence

VPN แนะนำที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 ยังสามารถช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยง geofences ได้ เช่นเดียวกับที่มักใช้โดยบริการสตรีมมิง สำหรับผู้ที่เคยเข้าชม Netflix เพียงเพื่อจะได้รับแจ้งว่าไม่มีรายการใดให้บริการในภูมิภาคของตน ประโยชน์ของ VPN จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

VPN สามารถข้าม geofences ได้โดยทำให้เว็บไซต์ปรากฏเหมือนว่าบุคคลหนึ่งกำลังเข้าสู่ระบบจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศที่ตั้งอยู่จริง ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อยู่ในไทยแต่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในประเทศเยอรมนี สำหรับ Netflix หรือไซต์สตรีมมิ่งอื่น คำขอเข้าถึงรายการจะดูเหมือนว่ามาจากที่อยู่ IP ในเยอรมนีไม่ใช่ไทย ดังนั้นผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงไซต์เวอร์ชันภาษาเยอรมันได้

การหลีกเลี่ยงโฆษณาตามการติดตามและราคา

โดยทั่วไปแล้ว VPN แนะนำที่ดีที่สุดให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในหลายสิบประเทศด้วยเหตุนี้ ตัวอย่างเช่น NordVPN มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 80 ประเทศ แม้แต่ VPN ฟรีที่ดีที่สุดบางตัวยังเสนอการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก

VPN ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้องกันโฆษณาตามการติดตามและราคาผันแปรได้ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ค้นหาเที่ยวบินแต่ไม่ได้ซื้อ พวกเขาอาจกลับมาในภายหลังเพื่อพบว่าราคาเที่ยวบินนั้นสูงขึ้นเพราะสายการบินรู้ว่าผู้ใช้สนใจเที่ยวบินนั้นอยู่แล้วด้วยโปรแกรม VPN ผู้ใช้จะไม่ระบุชื่อ ดังนั้นสายการบินจะไม่ทราบว่าเคยดูเที่ยวบินมาก่อนแล้ว และจะได้รับราคาเท่ากันทุกครั้งที่ค้นหาเที่ยวบินนั้น

ไปยัง VPN ที่ดีที่สุด

VPN ที่เร็วที่สุดคือผู้ให้บริการเจ้าไหน?

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบโปรแกรม vpn แนะนำที่ดีที่สุดคือความเร็วในการเชื่อมต่อของพวกเขาเร็วแค่ไหน

โดยปกติโปรแกรม มุด vpn จะทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ช้าลงเล็กน้อย เนื่องจากกระบวนการเข้ารหัสต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ความเร็วอาจจะแตกต่างกันไปตามโปรโตคอลการเข้ารหัสที่ใช้ ตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ vpn app และคุณภาพของเครือข่าย VPN

นี่คือความเร็วในการเชื่อมต่อสำหรับ 15 บริการ vpn ดีๆในปี 2023:

บริการ VPN ความเร็วในการเชื่อมต่อ
CyberGhost VPN145-850 Mbps
NordVPN220-760 Mbps
Private Internet Access70-320 Mbps
Surfshark One90-790 Mbps
UltraVPN210-765 Mbps
ProtonVPN200-670 Mbps
StrongVPN190-600 Mbps
IPVanish290-930 Mbps
ZenMate VPN200-500 Mbps
Atlas VPN100-680 Mbps
ExpressVPN375-430 Mbps
Norton Secure VPN85-230 Mbps
VyprVPN140-700 Mbps
Hotspot Shield200-310 Mbps
TunnelBear310-380 Mbps

โปรดจำไว้ว่าความเร็วไม่ใช่ทุกอย่างเมื่อเปรียบเทียบ vpn android ตัวไหนดีที่สุด ผู้ใช้ทั่วไปอาจจะพบว่าบริการหนึ่งให้บริการความเร็วสูงกว่าในประเทศที่พวกเขาต้องการเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้เมื่อความเร็วของ VPN สูงกว่าความเร็วการเชื่อมต่อที่ ISP อนุญาต ความเร็วเพิ่มเติมจากเซิร์ฟเวอร์ VPN ก็ไม่น่าจะมีความสำคัญ.

VPN ปลอดภัยหรือไม่?

เมื่อเลือกบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 แล้วสิ่งสำคัญคือต้องค้นหาผู้ให้บริการ VPN ที่มีประวัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง นั่นเป็นเพราะว่าหากเซิร์ฟเวอร์ VPN ถูกแฮ็ค การเชื่อมต่อทั้งหมดที่ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์นั้นก็อาจถูกแฮ็คได้เช่นกัน

นั่นเป็นเหตุผลที่ VPN ที่ปลอดภัยที่สุดมีโปรโตคอลความปลอดภัยเครือข่ายที่ครอบคลุม นอกจากนี้ ผู้ให้บริการ VPN หลายรายยังส่งไปยังการตรวจสอบอิสระของเครือข่ายของตน การตรวจสอบเหล่านี้สามารถตรวจจับข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยก่อนที่จะเกิดปัญหา และทำให้ผู้ใช้สบายใจได้ว่าเครือข่าย vpn ต่างประเทศ มีความปลอดภัยตามที่ผู้ให้บริการอ้างไว้

อีกสิ่งหนึ่งที่ vpn ตัวไหนดีที่ปลอดภัยที่สุดมีเหมือนกัน คือจะไม่มีการบันทึกกิจกรรมของผู้ใช้ ซึ่งหมายความว่าไม่มีบันทึกว่าผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ไหนหรือท่องอินเทอร์เน็ตอย่างไร แม้ว่ารัฐบาลหรือแฮ็กเกอร์ต้องการรับข้อมูลนี้ แต่ก็ไม่มีอยู่ใน VPN ที่มีนโยบายการไม่บันทึกข้อมูลที่เข้มงวด

ไปยัง NordVPN

ฟรี VPNs vs Paid แบบจ่ายเงิน

ทั้ง VPN ฟรีและมีค่าใช้จ่ายเสนอการเชื่อมต่อที่เข้ารหัสและความเป็นส่วนตัวออนไลน์ อย่างไรก็ตามมันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่าง VPN ฟรีที่ดีที่สุดและ VPN แบบชำระเงินที่ดีที่สุดในแง่ของวิธีการใช้งาน

โดย VPN ฟรี pc ที่ดีที่สุดมักเป็นเวอร์ชันที่ลดขนาดลงของแพลตฟอร์มแบบชำระเงิน มักจะมีแบนด์วิดท์และความเร็วในการเชื่อมต่อที่จำกัด ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการท่องเว็บอย่างปลอดภัยมากกว่าการสตรีมหรือทอร์เรนต์

นอกจากนี้ VPN ฟรีมักจะสามารถใช้ได้บนอุปกรณ์เครื่องเดียวเท่านั้น และยังให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ในจำนวนจำกัด นั่นอาจจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการใช้ VPN ฟรีเพื่อเลี่ยงขอบเขตตำแหน่ง

ที่สำคัญไม่ใช่ VPN ฟรีทั้งหมดที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะบางตัวบันทึกข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งช่วยขจัดประโยชน์ด้านความเป็นส่วนตัวของการใช้ VPN ตั้งแต่แรก ผู้ให้บริการรายอื่นเสนอเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและอาจเสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก สำหรับผู้ใช้ที่ตัดสินใจใช้ VPN ฟรี สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าแพลตฟอร์มนั้นปลอดภัย

VPNs ถูกกฎหมายหรือไม่?

ในประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก VPN นั้นถูกกฎหมายอย่างสมบูรณ์ เช่น ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป และส่วนใหญ่ของอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย

อย่างไรก็ตามก็มีบางประเทศที่การใช้ VPN นั้นซับซ้อนกว่าที่คิด ตัวอย่างเช่น ในประเทศจีน รัสเซีย และตุรกี บุคคลทั่วไปได้รับอนุญาตให้ใช้ VPN ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเท่านั้น ผู้ให้บริการทั้งหมดที่สร้างรายชื่อบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 จะถูกแบน แน่นอนว่า VPN ที่รัฐบาลอนุมัติเหล่านี้อนุญาตให้รัฐบาลติดตามกิจกรรมการท่องเว็บของผู้ใช้งาน

ประเทศอื่น ๆ เช่น อิรัก เกาหลีเหนือ และเติร์กเมนิสถานนั้นแบน VPN ทั้งหมด อย่าลืมหาข้อมูลก่อนเปิด VPN ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากกฎเกี่ยวกับ VPN สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

วิธีการใช้ VPN

พร้อมที่จะเริ่มต้นด้วยบริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 แล้วหรือยัง? เราจะแนะนำผู้ใช้เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งาน CyberGhost VPN ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับการท่องเว็บ สตรีมมิง ทอร์เรนต์ และอื่น ๆ

ขั้นตอนที่ 1: ลงชื่อสมัครใช้ CyberGhost VPN

ขั้นตอนนี่ให้ไปที่เว็บไซต์ของ CyberGhost VPN แล้วคลิก ‘รับ CyberGhost VPN’ เพื่อลงทะเบียน เลือกแผน 1 เดือน 1 ปี 2 ปีหรือ 3 ปี จากนั้นป้อนที่อยู่อีเมลและชำระเงินสำหรับแผน NordVPN รับบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Amazon Pay, Google Pay และ สกุลเงินคริปโต รวมถึง Bitcoin

ไปยัง CyberGhost VPN

ขั้นตอนที่ 2:ติดตั้ง CyberGhost VPN

ผู้ใช้ควรดาวน์โหลดและติดตั้งแอป CyberGhost VPN ลงในแต่ละอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งาน CyberGhost VPN มีแอปสำหรับทั้งคอมพิวเตอร์ Windows, Mac และ Linux, อุปกรณ์มือถือ iOS และ Android, เบราว์เซอร์ Chrome, Firefox และ Edge, Amazon Firestick, Xbox, PlayStation และอีกมากมาย

ขั้นตอนที่ 3: การเชื่อมต่อ

เปิดแอป CyberGhost VPN แล้วคลิกปุ่มเปิดปิด CyberGhost VPN จะนั้นมันจะค้นหาเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งของผู้ใช้โดยอัตโนมัติและเปิดการเชื่อมต่อที่เข้ารหัส ผู้ใช้ยังสามารถค้นหารายชื่อประเทศเพื่อเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์เองได้ตลอดเวลา

บทสรุป: บริการ VPN เจ้าไหนที่ดีที่สุดในปี 2023 ?

บริการ VPN ที่ดีที่สุดของปี 2023 ช่วยให้ผู้ใช้งานท่องเว็บได้อย่างปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว และเป็นส่วนตัว VPN เป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน สตรีมมิ่งทีวีและภาพยนตร์จากประเทศอื่น ๆ และป้องกันการติดตามทางออนไลน์

พร้อมสำหรับการรับแอป VPN ที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง Nord VPN นำเสนอความเร็วการเชื่อมต่อสูง เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 90 ประเทศ และแอปสำหรับอุปกรณ์หลากหลายประเภท ไปที่ Nord VPN เพื่อสมัครวันนี้และเริ่มท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น!