Category: Crypto News

Crypto ETF คือโอกาสทำกำไรจากเหรียญคริปโตด้วยเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่ง ETF ส่วนใหญ่ในตลาดได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แต่ว่ากองทุนหลายแห่งที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาสนับสนุน Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ

ในบทความนี้เราจะรีวิว 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ ราคาถูก ศักยภาพสูง และปัจจัยอื่นๆ

จัดอันดับ 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด 2023  – ลิสต์อันดับ Crypto ETF

ลิสต์ด้านล่างคือ 10 อันดับ ETF คริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้

1. Dash 2 Trade พรีเซลล์คริปโต – ทางเหลือที่ดีกว่า Crypto ETF
2. ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด
3. Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นคริปโต
4. ARK Next Generation Internet ETF  (ARKW) – กระจายการลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย
5. Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin
6. Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่
7. ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต
8. 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum
9. Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy
10. Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตชั้นนำจากมูลค่าตลาด

อ่านต่อเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนข้างต้นในลิสต์ Crypto ETF ด้านบน

ไปยังพรีเซลล์ Dash 2 Trade ตอนนี้

เจาะลึกกับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

Crypto ETF ช่วยให้นักลงทุนทำกำไรจาก Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ผ่านบัญชีโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้งานกระดานเทรดคริปโต เพื่อเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโต

ด้านล่างนี้เราจะรีวิวและวิเคราะห์ผู้ให้บริการ Crypto ETF ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในตลาดตอนนี้

1. Dash 2 Trade พรีเซลล์คริปโต – ทางเหลือที่ดีกว่า Crypto ETF

หากจุดประสงค์หลักของ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือการทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญคริปโต กองทุนทั่วไปอาจก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะนัก เนื่องจากผลกำไรจากการซื้อขายเหรียญคริปโตที่สูงที่สุดในปี 2023  มาจากช่วงพรีเซลล์ ซึ่งเป็นการเปิดตัวโปรเจกต์คริปโตมาใหม่เพื่อระดมทุน

คล้ายกับการเสนอขายหุ้น IPO แต่เป็นเหรียญคริปโตแทน และด้วยข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ เหรียญคริปโต pre-sale จะไม่รับสกุลเงินทั่วไป แต่จะใช้เหรียญคริปโตหลักๆ อย่างเช่น Bitcoin, Ethereum, Tether หรือ BNB แทน

พรีเซลล์นั้นเป็นโอกาสซื้อเหรียญคริปโตที่มีโอกาสเติบโตสูงสุดที่น่าดึงดูดใจ ในขณะที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จึงหมายความว่าจะทำกำไรได้น้อยกว่าการซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลล์นั่งเอง โดยหนึ่งในพรีเซลล์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาลคือ Ethereum

ตอน Ethereum เปิดพรีเซลล์ครั้งแรกเมื่อปี 2014 นักลงทุนรายแรกๆ ซื้อขายเหรียญในราคาเพียง $0.31 ต่อโทเค็น ETH และราคา Ethereum ได้พุ่งสูงถึงกว่า $4,900 ซึ่งเป็นการเติบโตถึง 1.5 ล้านเปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุด พรีเซลล์ Lucky Block ในเดือนมกราคม 2022 มีราคาอยู่ที่ 0.00015 ดอลลาร์ต่อโทเค็น LBLOCK เท่านั้น

เพียงหนึ่งเดือนหลังสิ้นสุดพรีเซลล์ ราคา LBLOCK พุ่งขึ้นสู่ $0.009 หรือเติบโตถึง 6,000% จากนั้นก็มี Tamadoge ที่ระดมเงินทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ในปลายปีนี้และเติบโตกว่า 2,000% พรีเซลล์จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ค้นหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

ในขณะที่เขียน มีพรีเซลล์คริปโตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากมายซึ่งอาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการทำกำไร ตัวอย่างเช่น Dash 2 Trade ขายพรีเซลล์โทเค็น D2T ที่ $0.05 และระดมทุนได้กว่า 3.6 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว

พรีเซลล์ Dash 2 Trade เป็นราคาที่ถูกที่สุดสำหรับนักลงทุนรายแรกๆ โดยราคาโทเค็น D2T จะเพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นสุดพรีเซลล์แต่ละรอบ (จาก 9 รอบ) ผู้ที่ซื้อเหรียญในรอบแรกจะทำกำไรถึง 40% เมื่อสิ้นสุดพรีเซลล์ โดยความสำเร็จหลักๆ ของพรีเซลล์ Dash 2 Trade นั้นมาจากตัวผลิตภัณฑ์เอง

โปรเจกต์เป็นแดชบอร์ดการวิเคราะห์ขั้นสูงที่มีข้อมูล ฟีเจอร์ และเครื่องมือมากมายที่จะช่วยนักลงทุนคริปโตทำกำไร ซึ่งรวมถึงสิทธิพิเศษในการเข้าถึงข้อมูลบนเครือข่ายและการเคลื่อนไหวของเหล่าวาฬ ตัวชี้วัดทางโซเชียล การจัดอันดับ ICO ลิสต์ในกระดานเทรด และการทดสอบย้อนหลังอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ Dash 2 Trade จะให้สัญญาณซื้อขายคริปโตอย่างต่อเนื่องแก่สมาชิกเพื่อชี้ทิศทางแนวโน้มของเหรียญ ควบคู่ไปกับคำสั่งซื้อขายตามความเสี่ยงที่เหมาะสมที่สุด ที่สำคัญสมาชิกจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนเป็นเหรียญ D2T เพื่อใช้งานฟังก์ชันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้ Dash 2 Trade เป็น Utility Token นั่นเอง

อ่านคำแนะนำของเราได้ที่วิธีซื้อ Dash 2 Trade ในช่วงพรีเซลล์ Dash 2 Trade

ไปยังพรีเซลล์ Dash 2 Trade ตอนนี้

IMPT – เหรียญคริปโตพรีเซลล์ยอดนิยม

IMPT จะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตสำหรับทั้งบุคคลและธุรกิจ โดยนักลงทุนสามารถทำผลกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาคาร์บอนเครดิต และธุรกิจสามารถปล่อยสารมลพิษเพิ่มขึ้นได้ตามการกำกับดูแลของรัฐ

ผู้ใช้สามารถเลิกใช้คาร์บอนเครดิตโดยการเผาสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวทิ้ง โดยราคาพรีเซลล์โทเค็น IMPT อยู่ที่ $0.023 และระดมทุนได้เกือบ 12 ล้านดอลลาร์แล้ว ปัจจุบัน IMPT อยู่ในรอบที่สองของการพรีเซลล์ ซึ่งพรีเซลล์ IMPT จะมีราคาเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบเพื่อเป็นรางวัลแก่นักลงทุนในช่วงต้นนั่นเอง

ไปยัง IMPT ตอนนี้

RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse ยอดนิยมในช่วงพรีเซลล์

อีกหนึ่งทางเลือกนอกจาก ETF คริปโตคือ RobotEra แพลตฟอร์มเกม Play to Earn ที่ผสานเกมเพลย์ด้วย NFT และโลก Metaverse ไว้ด้วยกัน โดยผู้เล่นสามารถสร้าง พัฒนาเมือง ทำฟาร์ม และเล่นเกมเพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็น TARO

ด้วยการเติบโตแบบทวีคูณของคอนเซ็ปต์ Play to Earn จึงทำให้เกม RobotEra น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยพรีเซลล์ RobotEra 280,000 ดอลลาร์แล้ว โดยตอนนี้สามารถซื้อโทเค็น TARO ได้ในราคา $0.02 ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นในพรีเซลล์รอบถัดๆ ไป

ไปยังพรีเซลล์ RobotEra

2. ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด

ใครที่กำลังมองหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดอาจต้องการพิจารณา ProShares Bitcoin Strategy ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถทำกำไรจากการขึ้นและลงของราคา Bitcoin โดยตรง และเป็นกองทุนแรกที่ได้รับการอนุมัติในตลาดสหรัฐฯ

แม้กองทุนจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโต แต่ ProShares จะซื้อและขายฟิวเจอร์ส Bitcoin เพื่ออิงตามประสิทธิภาพของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากที่สุด

กองทุนบรรลุเป้าหมายนี้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในเดือนตุลาคม 2021 ในช่วง 12 เดือน ราคา ProShares Bitcoin Strategy ETF ลดลง 68% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาสปอตของ Bitcoin ที่ลดลง 66% โดยกองทุนจะคิดอัตราส่วนค่าใช้จ่าย 0.95% และ ETF ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ทำให้ซื้อขายได้อย่างง่ายดาย

3. Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นเหรียญคริปโต 

สำหรับใครที่ต้องการทำกำไรจากหุ้นคริปโต เราก็ขอแนะนำ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ซึ่งจะลงทุนในบริษัทมหาชนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตของเหรียญคริปโตหรือเทคโนโลยี Blockchain

กองทุนนี้ถือหุ้น 29 หุ้นและมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงที่ 0.85% การถือครองที่มูลค่าสูงที่สุดของ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ได้แก่ Microstrategy และ Coinbase ซึ่งคิดเป็น 14.28% และ 12.28% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการถือครองใน Silvergate Capital, Hut 8 Mining, Marathon Digital, Riot Blockchain และ Galaxy Digital Holdings อีกด้วย

สิ่งสำคัญคือกองทุนข้างต้นยังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเหรียญคริปโต ซึ่งกองทุนนี้ไม่ได้ให้ทำกำไรได้โดยตรงต่อราคาเหรียญคริปโตเพียงเท่านั้น แต่มูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้นจะสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ เช่น รายได้ รายได้จากการดำเนินงาน และราคาหุ้นต่อกำไรเช่นกัน

4. ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) – กระจายการเข้าถึง Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย  

อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณาคือ ARK Next Generation Internet ซึ่งมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์

การถือครองที่ใหญ่ที่สุดของ ETF นี้คือ Tesla และ Zoom Video Communications ซึ่งมากกว่า 8% ต่อบริษัท โดยถือ Coinbase ที่ 7% และ Block ที่ 6% ในพอร์ตการลงทุน ARK Next Generation Internet ETF ยังถือสถานะ 5.6% ใน Greyscale Bitcoin Trust ส่วนกองทุน ETF อื่นๆ ได้แก่ Roku, Shopify และ Twilio

ด้วยตลาดหุ้นเทคโนโลยีเป็นช่วงขาลงตลอดทั้งปี 2022 ทำให้ Crypto ETF นี้ขาดทุนทั้ง 12 เดือน ณ ขณะเขียนกว่า 66% แต่เมื่อตอนก่อตั้งกองทุนในปี 2014 กองทุน ARK ได้สร้างผลกำไรไปถึง 180%

5. Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin  

Fidelity Advantage Bitcoin ETF มุ่งเน้นไปที่นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นการลงทุนในโทเค็น BTC โดยตรง โดยกองทุนถือ Bitcoin ไว้ถึง 99.8% ทำให้มูลค่าของเหรียญจึงสัมพันธ์กับราคาสปอตทั่วโลก Fidelity เป็นกองทุนที่ค่อนข้างเล็ก โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเพียง 23.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

นอกจากนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนสูงถึง 0.96% ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงทุนใน Bitcoin ในระยะยาวโดยไม่ผ่านกระดานเทรด ซึ่งจะแจกจ่ายปันผลเป็นประจำทุกปี และกองทุนจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Toronto ทำให้ Fidelity Advantage Bitcoin ETF จะกำหนดราคาโดยอิงตามดอลลาร์แคนาดานั่นเอง

6. Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่   

Greyscale Bitcoin Trust เปิดตัวในปี 2013 และเป็น ETF คริปโตที่ยืนยาวที่สุดในตลาด ทั้งยังสร้างผลตอบแทนไปมากกว่า 13,000% นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุน แต่ในระยะเวลา 12 เดือน มูลค่าของกองทุนได้ลดลง 75% ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงที่ตลาดคริปโตซบเซา

แม้ว่า Greyscale Bitcoin Trust จะเป็นหนึ่งใน ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด แต่ก็มีสิ่งสำคัญสองข้อที่ต้องพิจารณาก่อน ข้อแรก ETF นี้มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 2% และข้อสอง การลงทุนขั้นต่ำใน Crypto ETF นี้คือ $50,000

ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ต้องการลงทุนอาจพบว่า Greyscale Bitcoin Trust มีราคาที่ไกลเกินเอื้อม โดยอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ Greyscale Bitcoin Trust ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเข้าถึงได้ยากสำหรับนักเทรดทั่วไปนั่นเอง

7. ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต   

ผู้ที่ต้องการขายชอร์ตเหรียญคริปโต ควรพิจารณา Bitcoin Strategy ซึ่งเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์ดังกล่าว โดยกองทุนนี้จะให้นักลงทุนทำกำไรได้เมื่อราคา Bitcoin ลดลง ผ่านการซื้อขายฟิวเจอร์ส Bitcoin บนตลาด CME

ที่สำคัญ Crypto ETF มาใหม่นี้ทำให้การขายชอร์ต Bitcoin ราบรื่นและคุ้มค่ามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนกับกับการขายชอร์ตฟิวเจอร์ส Bitcoin โดยตรง และกองทุนจะไม่ทำให้นักลงทุนเสียเงินมากกว่าเงินที่ลงทุนไปในตอนแรก

อย่างไรก็ตาม ProShares Short Bitcoin Strategy ETF ไม่เหมาะสำหรับกลยุทธ์การขายชอร์ตในระยะยาว แต่ Crypto ETF นี้จะเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าและออกจากสถานะในระยะสั้น ดังที่เห็นได้ว่าราคา ETF นี้ลดลง 9% ในช่วง 12 เดือน แม้ว่าตลาดสปอต Bitcoin จะลดลง 66% ในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม

8. 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum    

ETF ส่วนใหญ่ที่เรารีวิวล้วนมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin ETF เพียงอย่างเดียว แต่การลงทุนใน Ethereum ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดย 21Shares Ethereum ETP อาจเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์นี้ ซึ่งถูกลิสต์ในยุโรปและได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญ Ethereum

หมายความว่ามูลค่าของกองทุนจะสอดคล้องกับราคาสปอต Ethereum ทั่วโลก โดยทางผู้ให้บริการกองทุนระบุว่า 100% ของบมูลค่าถูกเก็บไว้ในโทเค็น ETH และ Cold Wallet โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของ 1Shares Ethereum ETP คือ 1.49% ซึ่งก็ถือว่าแพงเช่นกัน

แต่กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ามากกว่า 213 ล้านดอลลาร์ ณ ตอนนี้ แม้มูลค่ากองทุน Ethereum นี้จะลดลง 65% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2022 แต่ในปี 2020 และปี 2021 กองทุนก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 442% และ 397% ตามลำดับ

9. Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy    

อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดของเราคือ Siren Nasdaq NexGen Economy ซึ่งมีจุดประสงค์ในการติดตามประสิทธิภาพของดัชนี NASDAQ Blockchain Economy ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะประกอบไปด้วยหุ้น Crypto ETF ที่หลากหลายซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมในการเติบโตของสินทรัพย์ Blockchain และเหรียญคริปโต

ในขณะที่เขียน การถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดใน ETF นี้ ได้แก่ JPMorgan Chase, GMO Internet Group, SAP, IBM, Oracle, MasterCard และ Paypal เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ETF ดัชนีคริปโตนี้จึงน่าจะเหมาะสำหรับนักลงทุนเชิงอนุรักษนิยมที่ไม่ต้องการสร้างผลกำไรหลักจากเหรียญคริปโตนั่นเอง

10. Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตจากการประเมินมูลค่าตลาด    

ตัวเลือกสุดท้ายที่ควรพิจารณาคือ ‘Cryptos by Market Cap’ Smart Portfolio จาก eToro แม้อาจจะไม่ใช่ ETF แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก นั่นเป็นเพราะการลงทุนเพียงครั้งเดียว นักลงทุนก็จะสามารถทำกำไรได้จากเหรียญคริปโตได้กว่า 20 สกุลด้วยพอร์ตการลงทุนที่อิงตามมูลค่าตลาด

ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะลงทุนในเหรียญคริปโตโดยอิงตามมูลค่าตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสการเก็งกำไรในตลาด ซึ่ง eToro จะบริหารจัดการปรับสมดุลเหรียญคริปโตด้วย Market Cap Smart Portfolio ในนามของนักลงทุน

นักเทรดทั่วไปจะสนใจอัตราขั้นต่ำในการใช้งาน Smart Portfolio ซึ่งมีราคาเพียงแค่ $500 ยิ่งไปกว่านั้น eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นซื้อขายโดยอ้อมๆ เพียง 1% สำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการผ่าน Smart Portfolio นั่นเอง

Crypto ETF คืออะไร?

Crypto ETF ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนได้ทำกำไรจากตลาดคริปโตผ่านเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโตได้โดยไม่ต้องซื้อบิทคอยน์และ altcoins ผ่านกระดานแลกเปลี่ยน

ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนที่ช่ำชองหลายคนรู้สึกไม่สบายใจนักที่จะใช้กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเพื่อซื้อและขายสินทรัพย์ แต่จะชื่นชอบ Crypto ETF จากผู้ให้บริการที่มีการกำกับดูแลแทน เช่น ProShares, ARK และ Fidelity

• Crypto ETF มีมากมายและแตกต่างกันไป
• ตัวอย่างเช่น Crypto ETF ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่บิทคอยน์โดยเฉพาะ
• ยิ่งไปกว่านั้น ETF บิทคอยน์ที่เข้าถึงได้ในตลาดสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้รับการสนับสนุน
• แต่ผู้ให้บริการ ETF จะซื้อและขาย Bitcoin Futures ในนามของนักลงทุน
• นี่เป็นปัญหาในการลงทุน เนื่องจากจะมีความแตกต่างเสมอระหว่างมูลค่าของตลาดสปอต Bitcoin และ ETF ที่เกี่ยวข้อง

นอกตลาดสหรัฐฯ ก็มี ETF จำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต แม้ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนโดย Bitcoin แต่ก็มี ETF ที่ลงทุนโดยตรงลงใน Ethereum ด้วยเช่นกัน

บางทีประโยชน์หลักของ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือสามารถทำกำไรได้ผ่านบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Crypto ETF จะซื้อขายในกระดานแลกเปลี่ยนตราสารทุนสาธารณะ ซึ่งหมายความว่าการเข้าและออกจากตลาดก็ไม่แตกต่างจากการใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นทั่วไปนัก

Crypto ETF ยังมีความปลอดภัยกว่าสำหรับนักลงทุนบางราย เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดสำหรับนักลงทุนที่ต้องไว้วางใจกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการควบคุมเพื่อจัดเก็บเหรียญคริปโตของตน การดูแลจะเป็นความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ ETF แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด

Crypto ETF ทำงานอย่างไร?

ควรทำความเข้าใจว่า Crypto ETF ทำงานอย่างไรก่อนที่จะเริ่มลงทุน

โดยเราจะแจกแจงปัจจัยพื้นฐานโดยละเอียด ดังนี้

Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรด

Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรดหุ้น ซึ่งสามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการซื้อและขายหุ้น

มูลค่าของ Crypto ETF จะเพิ่มขึ้นและลดลงเช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป ขึ้นอยู่กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของ ETF ณ วันซื้อและขายแต่ละวัน โดยจะอิงกับสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือครองโดย Crypto ETF ตามราคาตลาดปัจจุบัน

Crypto ETF ที่ได้รับการสนับสนุน

ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต คล้ายกันกับ ETF ทองคำแบบดั้งเดิมที่ได้รับการสนับสนุนจากแท่งทองคำจริง แต่มูลค่าของ ETF จะสอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกของเหรียญคริปโตนั้นๆ

แม้ตลาดสหรัฐฯ จะไม่มี ETF คริปโตที่ได้รับการสนับสนุนที่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แต่ ETF คริปโตในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนและทำธุรกรรมโดยตัวเลือกการลงทุนทางการเงินอย่าง Bitcoin Futures แต่ก็มี ETF คริปโตจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโตนอกจากประเทศสหรัฐฯ

ตัวอย่างคือ 21Shares Ethereum ETP ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยโทเค็น ETH ทำให้ ETF เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการติดตามราคา Ethereum โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอเหรียญคริปโตอื่นๆที่ซับซ้อนและมีราคาแพง

ฟิวเจอร์ Crypto ETF

ETF คริปโตเคอเรนซี่ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจำกัดการกระจายความเสี่ยงอย่างมาก เพราะตลาดฟิวเจอร์สคริปโตที่มีการควบคุมเพียงแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาคือ Bitcoin

นักลงทุนจะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ ในมูลค่าของ Bitcoin เมื่อลงทุนใน ETF ฟิวเจอร์สและตราสารตัวเลือกลงทุนอื่น

โดยเหตุผลคือจะมีความแตกต่างในการกำหนดราคาระหว่างราคาบิทคอยน์กับราคาของ ETF บิทคอยน์นั่นเอง

หุ้น Crypto ETF

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือการลงทุนใน ETF ที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้น Crypto ก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึง Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ที่ให้เข้าถึงบริษัทคริปโตมากมาย ได้แก่ Coinbase, Marathon Digital และ Riot Blockchain

สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง Siren Nasdaq NexGen Economy ETF ก็ให้การเข้าถึงหุ้น คริปโตอย่างอิสระ ซึ่งรวมถึง Paypal, IBM, Oracle และ JPMorgan Chase

แต่การเลือก Crypto ETF ชั้นนำที่ได้รับการสนับสนุนโดยหุ้นซึ่งตรงข้ามกับเหรียญคริปโตหรือฟิวเจอร์สนั้นให้ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งคือเงินปันผล หากหุ้นปันผลทำการแจกจ่ายเงินปันผล นักลงทุนก็จะได้รับสิทธิ์ในส่วนแบ่งของตนนั่นเอง

Crypto ETF เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

ความเห็นมักจะแตกต่างกันไปเมื่อพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ แม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะใช้กระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิม แต่คนอื่นๆ ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะใช้งานผู้ให้บริการ ETF แทน

ตอนนี้เราจะอธิบายถึงปัจจัยหลักๆ บางประการที่ต้องพิจารณาก่อนทำกำไรจาก Crypto ETF

หลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต

หนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมนักลงทุนบางคนจึงตามหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อลงทุนในเหรียญคริปโต นั่นก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต

เหรียญคริปโตซื้อขายต่างจากตลาดหุ้น ซึ่งเป็น Centralized Exchange เช่น NYSE และ NASDAQ หมายความว่าระบบการกำหนดราคาที่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกสามารถดูประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ของหุ้นที่เลือกจะมีการกำกับดูแลอย่างชัดเจน

แต่ราคาเหรียญคริปโตจะถูกกำหนดจากกระดานแลกเปลี่ยน โดยราคาของ Bitcoin จะมีความแตกต่างอยู่มากในกระดานแลกเปลี่ยนแต่ละประเทศ การลงทุนใน Crypto ETF จึงทำให้นักลงทุนทำกำไรได้จาก Bitcoin โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลงทุนในกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการกำกับดูแลนั่นเอง

การดูแล

ประโยชน์สูงสุดของ Crypto ETF คือการกำกับดูแล เมื่อนักลงทุนซื้อเหรียญคริปโตออนไลน์ก็จะมีสองตัวเลือกด้วยกัน

• ตัวเลือกแรก พวกเขาสามารถเก็บโทเค็นไว้ใน Crypto Wallet ที่ได้รับการดูแลจากกระดานเทรดคริปโต
• แต่ถ้ากระดานเทรดโดนแฮ็ก นักลงทุนก็จะสูญโทเค็นใน Wallet ไปทั้งหมด
• ทางเลือกที่สองคือถอนโทเค็นไปยัง Private Wallet
• หมายความว่านักลงทุนสามารถควบคุมเหรียญคริปโตของตนได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีการแฮ็กเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจส่งผลให้สูญเสียเหรียญไปได้เช่นกัน

การเลือกใช้ Crypto ETF ทำให้นักลงทุนแทบไม่มีความเสี่ยง เนื่องจาก ETF จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการที่ได้รับการควบคุม เช่น Fidelity หรือ ProShares

ผู้ให้บริการ ETF จะมีการประกันและการควบคุมความปลอดภัยระดับสถาบันในนามของนักลงทุน

หมายความว่านักลงทุนสามารถทำกำไรจากเหรียญคริปโตโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานด้านปลอดภัยของ Wallet

สภาพคล่อง

แม้ว่า ETF คริปโตจะถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาด แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีสภาพคล่องมากกว่าอย่างมากในกระดานเทรดคริปโตหลักๆ อย่าง Binance

ตัวอย่างเช่น ในช่วง 24 ชั่วโมงของการซื้อขาย เหรียญคริปโตมูลค่ามากกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกแลกเปลี่ยนในกระดานเทรด Binance ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง ETF อยู่มาก

ในช่วงขาขึ้นก็มีการทำธุรกรรมใน Binance ในปริมาณกว่า 70 พันล้านดอลลาร์

การขายชอร์ต

อีกหนึ่งข้อดีของ ETF คริปโตเคอเรนซี่คือช่วยให้นักลงทุนขายชอร์ต Bitcoin ได้อย่างง่ายดาย โดยปกติแล้วนักลงทุนจะต้องมีส่วนร่วมกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อขาย เช่น crypto futures หรือ option หรือนักลงทุนจะต้องใช้กระดานเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับการควบคุมเช่น Bitmex

แต่ ProShares Short Bitcoin Strategy ETF นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขายชอร์ตโดยเฉพาะ นักลงทุนเพียงแค่ต้องซื้อ ETF ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา Bitcoin

ProShares Short Bitcoin Strategy ETF เหมาะสำหรับสถานะระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยฟิวเจอร์ส ด้วยเหตุนี้เมื่อพิจารณาจากกราฟราคา ETF จึงทำให้เห็นความแตกต่างกันอย่างมากในความสัมพันธ์ระหว่างราคา ETF กับตลาดสปอต Bitcoin

ทำไมพรีเซลล์เหรียญคริปโตจึงดีกว่า Crypto ETF?

ก่อนหน้านี้เราได้อธิบายว่ามีทางเลือกที่ดีกว่า Crypto ETF ในปัจจุบัน

พรีเซลล์นั้นเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่เพียงแต่ต้องการทำกำไรจากเหรียญคริปโตเท่านั้น แต่ยังต้องต้องการอยู่เหนือตลาดอีกด้วย เนื่องจากพรีเซลล์เสนอราคาที่ถูกที่สุดของเหรียญคริปโตก่อนถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน

ดังนั้น เราจึงขออธิบายข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ 3 พรีเซลล์เหรียญคริปโตที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้

Dash 2 Trade – เหรียญคริปโตพรีเซลล์โดยรวมที่น่าลงทุนที่สุดตอนนี้

Dash 2 Trade เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโตที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ จากการทดสอบในช่วงอัลฟ่า เราพบว่า Dash 2 Trade ให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสในการซื้อขายที่ทำกำไรได้มากที่สุดในตลาดคริปโต

ตัวอย่างเช่น เทอร์มินัล Dash 2 Trade จะส่งสัญญาณซื้อขาย crypto ตลอดทั้งวัน สัญญาณอาจแนะนำให้ซื้อ XRP ที่ $0.45 โดยตั้งจุด stop loss และทำกำไรที่ $0.40 และ $1.10 สิ่งนี้ทำให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดคริปโตได้โดยไม่ต้องศึกษาตลาด

ทั้งยังมีฟีเจอร์หลักอย่างการสร้างกลยุทธ์ที่สามารถทดสอบได้ในสภาพแวดล้อมเสมือนที่ปราศจากความเสี่ยง สมาชิกเพียงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนเป็นเหรียญ D2T ซึ่งสามารถใช้เข้าถึงการรีวิวและการให้คะแนน ICO, การลิสต์ในกระดานเทรด, ข้อมูลเชิงลึก, ตัวชี้วัดทางสังคม, การวิเคราะห์แบบออนไลน์, และอื่นๆ อีกมากมาย

โทเค็น D2T เปิดพรีเซลล์ในราคาเพียง $0.05 ต่อโทเค็น ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเข้าสู่พรีเซลล์รอบถัดไปจนครบทั้ง 9 รอบ

IMPT – ทำกำไรจากตลาดคาร์บอนเครดิตที่กำลังเติบโต 

คาร์บอนเครดิตถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์มาใหม่ยอดนิยมในขณะนี้ แต่ตลาดที่ยังไม่มั่นคงก็ทำให้นักลงทุนอาจเข้าถึงได้ยาก นี่คือเหตุผลที่ IMPT กำลังปฏิวัติวงการระบบนิเวศที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตสำหรับนักลงทุนและบริษัททุกประเภท

พรีเซลล์ IMPT มีราคา 0.023 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ผู้ที่ซื้อโทเค็น IMPT ในตอนนี้จะมีโอกาสทำกำไรเมื่อเหรียญถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน โดยโทเค็น IMPT สามารถแปลงเป็นคาร์บอนเครดิต NFT ซึ่งเป็นวิธีการเก็งกำไรในการลงทุนในอนาคตของราคาคาร์บอนเครดิตโดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักลงทุนสถาบัน

Calvaria – นวัตกรรมแห่งการเล่นเกม Play to Earn 

เกมทั่วไปเป็นทั้งแบบรวมศูนย์และถูกควบคุมโดยนักพัฒนาชั้นนำไม่กี่ราย แต่ Calvaria มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวงการนี้ด้วยการเล่นแบบ play to earn ซึ่งผู้เล่นสามารถรับรางวัลเป็นเหรียญคริปโตได้จากการเล่น

ไม่เพียงเท่านั้น ทรัพย์สินในเกมใดๆ จะเป็นเจ้าของโดยผู้เล่น 100% เนื่องจากเป็น NFT ที่จัดเก็บและแลกเปลี่ยนบน Blockchain โดยพรีเซลล์ Calvaria กำลังเปิดขายและอยู่ในรอบที่สาม ซึ่งโทเค็น RAI สามารถซื้อได้ในราคาเพียง $0.02 เท่านั้น

ไปยังพรีเซลล์ Calvaria ตอนนี้

บทสรุป

บทความนี้ได้วิเคราะห์และจัดอันดับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้

แม้ ETF คริปโตจะได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนอย่างปลอดภัยในตลาด Bitcoin แต่ ETF ส่วนใหญ่ก็ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แทนที่จะเป็นเหรียญคริปโต

ดังนั้นทางเลือกที่ดีกว่าก็คือพรีเซลล์เหรียญคริปโตอย่าง IMPT ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่จะมาปฏิวัติระบบนิเวศการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต

Dash 2 Trade เป็นอีกพรีเซลล์ที่ควรพิจารณาด้วยแดชบอร์ดการวิเคราะห์คริปโตขั้นสูงที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย

แม้ว่าตลาดจะเปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และมีโทเค็นนับพันในตลาด แต่การทำกำไรให้ได้สม่ำเสมอนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่าย นี่คือเหตุผลที่เทรดเดอร์ที่ช่ำชองจะใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์และเครื่องมือเทรดคริปโตอัตโนมัติต่างๆ เพื่อช่วยให้นำหน้าตลาดได้นั่นเอง

ในบทความนี้เราจะอธิบายเกี่ยวกับ 8 เครื่องมือคริปโตที่ควรพิจารณาเพื่อทำกำไรสูงสุด

จัดอันดับ 8 เครื่องมือคริปโตเพื่อเพิ่มผลกำไร

แนะนำเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดที่เราจะอธิบายในบทความนี้ ได้แก่:

1. Dash 2 Trade – เครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุด ที่กำลังเปิดขายพรีเซลล์
2. CryptoSignals.org – สัญญาณซื้อขายคริปโตระดับมืออาชีพเพื่อการเทรดกึ่งอัตโนมัติ
3. TradingView – เครื่องมือดูกราฟคริปโตระดับสูง
4. 3Commas – สร้างบอทเทรดอัตโนมัติ
5. Copy Trade – เครื่องมือคริปโตอัตโนมัติเต็มรูปแบบเพื่อ Copy Trade เหล่านักเทรดมืออาชีพ
6. เลเวอเรจเหรียญคริปโต – ซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ด้วยเลเวอเรจ
7. CoinMarketCap – เว็บไซต์สอนดูกราฟคริปโตมือใหม่ที่ดีที่สุด
8. Coin Market Manager – เครื่องมือคริปโตติดตามพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ขั้นสูง

นักเทรดหลายคนจะใช้ indicator คริปโตที่ดีที่สุดข้างต้นพร้อมๆ กัน ดังนั้น เราจะมาอธิบายเรื่องวิธีการทำงานของทุกๆ เครื่องมือคริปโตในส่วนถัดไป

ไปยัง Dash 2 Trade ตอนนี้

1. Dash 2 Trade – เครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุด ที่กำลังเปิดขายพรีเซลล์

หากคุณสงสัยว่าจะเริ่มเทรดคริปโตที่ไหนดี เราขอแนะนำ Dash 2 Trade เทอร์มินัลการวิเคราะห์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเหรียญ D2T กำลังเปิดระดมทุนอยู่ในช่วงพรีเซลล์

โดยโปรเจกต์ตัวเต็มจะเป็นแดชบอร์ดการวิเคราะห์เหรียญคริปโตแบบ all in one ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายไปอีกระดับ ตัวอย่างเช่น Dash 2 Trade จะให้สัญญาณซื้อขายคริป crypto ที่ดีที่สุด โดยทีมนักวิเคราะห์ภายในบริษัท นอกเหนือไปจากการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

เมื่อพบโอกาสในการซื้อขาย Dash 2 Trade จะส่งสัญญาณแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ทั้งยังแนะนำจุดทำกำไรและจุด stop loss ให้ผู้ใช้ Dash 2 Trade ลงทุนได้ในวิธีที่ไม่ต้องเสี่ยงมากนัก

Dash 2 Trade เป็นหนึ่งในเครื่องมือเทรดคริปโตพร้อมข้อมูลที่ทันสมัย อัลกอริทึมพื้นฐานจะสแกนและวิเคราะห์ตัวชี้วัดจำนวนมากตลอดเวลา รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Reddit, Telegram, และ Twitter

โดยเมื่อเหรียญ โปรเจกต์ หรือแคมเปญพรีเซลล์ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างและมีกระแสบวก Dash 2 Trade ก็จะส่งสัญญาณแจ้ง โดยเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุด ช่วงขาลงบางสกุลก็เป็นเหรียญที่กำลังเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ Dash 2 Trade จะสแกนเครือข่าย blokchain ยอดนิยม เช่น Bitcoin, Ethereum และ BNB อีกด้วย

ซึ่งเน้นที่การเคลื่อนไหวของวาฬที่อาจเกิดขึ้น การโอนเหรียญจากกระดานแลกเปลี่ยนไปยัง crypto wallet ส่วนตัวชี้วัดอื่นๆ ที่ผู้ใช้ Dash 2 Trade จะสามารถเข้าถึงได้อย่างราบรื่น ได้แก่ การลิสต์เหรียญใหม่บนกระดานเทรด เหรียญคริปโต ICO มาใหม่ และการให้คะแนนและข้อมูลระดับมืออาชีพเกี่ยวกับราคา ปริมาณการซื้อขาย ความลึกของตลาด และอื่นๆ

Dash 2 Trade จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อซื้อขายอัตโนมัติ เนื่องจากผู้ใช้จะได้สร้างกลยุทธ์การซื้อขายก่อนที่จะนำไปทดสอบย้อนหลัง ซึ่งจะบ่งบอกถึงสภาพตลาดจริง แต่ผู้ใช้จะไม่ต้องรับความเสี่ยงในด้านการเงินใดๆ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันซื้อขายที่ Dash 2 Trade พร้อมกับให้รางวัลเป็นประจำอีกด้วย

สำคัญคือ Dash 2 Trade ได้รับการสนับสนุนโดยโทเค็น D2T ในการเข้าถึงเครื่องมือเทรดคริปโตที่กล่าวถึงไปข้างต้น ผู้ใช้จะต้องเลือกแผนการสมัครสมาชิกรายเดือน ชำระค่าธรรมเนียมเป็น D2T ดังนั้นโทเค็น ERC20 นี้จึงมีประโยชน์ในการใช้งานจริง

ไม่เพียงแต่ Dash 2 Trade จะเป็นแพลตฟอร์มเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่โทเค็น D2T ยังช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้ยิ่งขึ้น โดยพรีเซลล์ Dash 2 Trade ระดมทุนไปแล้วกว่า 4 ล้านดอลลาร์ (ในเวลาเพียง 10 วัน) ซื้อได้ในราคาที่ถูกสำหรับนักเทรดคริปโตระยะสั้น

ในขณะที่เขียน โทเค็น D2T มีราคาที่ $0.05 ซึ่งอยู่ในรอบที่ 2 ของการพรีเซลล์ ในรอบถัดไปจะเพิ่มเป็น $0.0513 และ $0.0533 ตามลำดับจนกว่ารอบที่ 9 จะสิ้นสุด ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 0.0662 ดอลลาร์ เราได้อธิบายวิธีซื้อ Dash 2 Trade ในช่วงพรีเซลล์เพิ่มเติมเอาไว้ในบทความดังกล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ D2T โปรดอ่านเอกสารข้อมูล Dash 2 Trade และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 26,800 คนแล้ว

ไปยัง Dash 2 Trade ตอนนี้

2. CryptoSignals.org – สัญญาณซื้อขายคริปโตระดับมืออาชีพเพื่อการเทรดกึ่งอัตโนมัติ

CryptoSignals.org แพลตฟอร์มยอดนิยมที่เชี่ยวชาญเฉพาะในด้านสัญญาณซื้อขายคริปโต โดยสมาชิกจะได้รับคำแนะนำในการเทรดเหรียญที่จะซื้อหรือขาย จุดทำกำไร และจุด stop loss

CryptoSignals.org เป็นเครื่องมือดูกราฟคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายแบบกึ่งอัตโนมัติ นี่เป็นเพราะเมื่อได้รับสัญญาณ นักเทรดจะสามารถตรงไปยังกระดานเทรดคริปโตที่ต้องการและวางคำสั่งซื้อขายที่เครื่องมือแนะนำ

ตัวอย่างสัญญาณซื้อขายคริปโตบน CryptoSignals.org ได้แก่:

• เหรียญ – Ethereum
• คำสั่ง – ซื้อ
• จุดเข้า – $1,490
• จุดทำกำไร – $1,673
• จุดตั้ง Stop Loss – $1,329

จากตัวอย่างข้างต้น เทรดเดอร์จะมีจุดข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการตามคำแนะนำของ CryptoSignals.org ซึ่งสามารถไปที่กระดานแลกเปลี่ยนและป้อนคำสั่งซื้อ Ethereum ที่ราคา $1,490

CryptoSignals.org มีแพ็คเกจพรีเมียมสี่แพ็คเกจนอกเหนือจากแผนแบบฟรี ซึ่งแบบฟรีนั้นจะให้สัญญาณคริปโตสามครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนแผนแบบพรีเมียมจะเพิ่มสัญญาณเป็น 2-3 ครั้งต่อวัน ด้วยเหตุนี้สมาชิกพรีเมียมจะไม่มีทางพลาดโอกาสในการซื้อขายนั่นเอง

แผนรายเดือนเริ่มต้นที่ 42 ปอนด์ และถ้าหากสมัครบริการเป็นเวลา 3 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 78 ปอนด์เท่านั้น ส่วนแผนแบบราย 6 เดือนและแบบรายปีมีราคา 114 ปอนด์และ 210 ปอนด์ตามลำดับ สัญญาณการซื้อขายคริปโต CryptoSignals.org ทั้งหมดจะถูกส่งผ่านกลุ่ม Telegram ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกกว่าหลายพันคน

3. TradingView – เครื่องมือดูกราฟคริปโตระดับสูง

สำหรับนักเทรดคริปโตรายวันเราก็ขอแนะนำ TradingView ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่นิยมมากที่สุดทั่วโลกรวมถึง Binanceที่ ได้ผสานรวมกับเครื่องมือ TradingView เข้ากับแดชบอร์ดกราฟราคา เนื่องจาก TradingView เป็นมาตรฐานขั้นสุดเมื่อพูดถึงข้อมูลการกำหนดราคาแบบเรียลไทม์

TradingView ยังมาพร้อมกับ indicator คริปโตมากมาย, heat maps, เครื่องมือ drawing tools, ตัวคัดกรอง และอื่นๆ และมีตลาดหลายพันแห่งที่รองรับเหรียญคริปโต หุ้น กองทุนรวมดัชนี และอีกมากมาย โดย TradingView จะดึงข้อมูลจากกระดานแลกเปลี่ยนและโบรกเกอร์ยอดนิยม และให้เทรดเดอร์ได้ปรับแต่งหน้าจอกราฟราคาได้อย่างเต็มที่

ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ timeframe, การจดจำแท่งเทียน, indicator แสดงปริมาณ, และอื่นๆ ทั้งยังมี indicator ที่สร้างโดยคอมมิวนิตี้มากกว่า 100,000 ตัวและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในไพน์สคริปต์ TradingView ยังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับตลาดคริปโตตลอดเวลา ซึ่งจะแจ้งเตือนบนอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ตามเงื่อนไขที่แตกต่างกัน 12 ข้อ

ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์ต้องการรับการแจ้งเตือนเมื่อ RSI เหรียญ BTC/USD ต่ำกว่า 40 คุณก็สามารถตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย ในแง่ของราคา TradingView ให้บริการกราฟราคา เครื่องมือ drawing tools, และ indicator ทางเทคนิคแบบฟรีๆ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่ชำนาญอาจพิจารณาแผนแบบ Pro, Pro+ และแบบพรีเมียมที่มีราคา $14.95, $29.95 และ $59.95 ตามลำดับ

4. 3Commas – สร้างบอทเทรดอัตโนมัติ 

3Commas เป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ใช้สามารถสร้างบอทซื้อขายของตนเองได้อย่างอิสระ ซึ่งจะทำงานในรูปแบบ ‘what-if’ ซึ่งหมายความว่าบอทจะเข้าหรือออกจากสถานะตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดเอาไว้

ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่านักเทรดต้องการซื้อ XRP ทุกครั้งที่ราคาลดลงต่ำกว่า 4% ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อเงื่อนไข ‘if’ ในตัวอย่างนี้เกิดขึ้น (XRP ลดลง 4%) บอทอัตโนมัติจะเข้าซื้อเหรียญนั่นเอง แต่ 3Commas จะให้ความยืดหยุ่นมากกว่าตัวอย่างข้างต้นมาก เนื่องจากนักเทรดสามารถกำหนดเงื่อนไขได้หลายข้อ

อย่างไรก็ตาม 3Commas เหมาะอย่างยิ่งในการซื้อขายเหรียญคริปโตตลอดเวลาด้วยวิธีอัตโนมัติ ผู้ที่ไม่มีทักษะในการสร้างกลยุทธ์ของตนก็สามารถพิจารณาใช้หนึ่งในบอทที่ถูกสร้างเอาไว้ของ 3Commas ซึ่งรวมถึงบอท DCA (การลงทุนแบบสม่ำเสมอ) ที่จะซื้อเหรียญคริปโตที่เลือกเมื่อราคาลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

3Commas มีแผนแบบฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้แพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จำกัดเพียงหนึ่งแค่การลงทุน DCA, ตัวเลือก, หรือบอท GIRD เท่านั้น และจะไม่รองรับการเทรดแบบจำลอง ส่วนแผนแบบโปร ซึ่งมีค่าใช้จ่าย $49.50 ต่อเดือน และชำระเงินได้แบบรายปี จะมีบอทไม่จำกัด เงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และการทดสอบย้อนกลับแบบเรียลไทม์

5. Copy Trading – เครื่องมือคริปโตอัตโนมัติเต็มรูปแบบเพื่อ Copy Trade เหล่านักเทรดมืออาชีพ  

หนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ถามว่าเทรดคริปโตเริ่มยังไงดีโดยไม่ต้องทำการศึกษาด้วยตนเองคือการ copy trade ซึ่งให้นักลงทุนสามารถคัดลอกนักลงทุนคริปโตที่ประสบความสำเร็จได้อย่างอิสระ ซึ่ง eToro เป็นแพลตฟอร์ม copy trading ที่ดีที่สุดโดยรวมในตลาด

eToro ไม่เพียงแค่ให้บริการ copy trade แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบเท่านั้น แต่ยังรองรับอีกหลายสิบเหรียญคริปโตราคาถูกที่สุด, หุ้น, ETF, ฟอเร็กซ์, และอื่นๆ หลังจากเปิดบัญชีแล้ว ผู้ใช้ eToro จะสามารถเลือกเทรดเดอร์หลายพันรายที่ลงทะเบียนโปรแกรม copy trade ได้

เพื่อช่วยตัดสินใจ eToro ยังแสดงข้อมูลมากมาย เช่น เวลาการถือสถานะเฉลี่ยของเทรดเดอร์ สินทรัพย์และเหรียญคริปโตที่ต้องการ แฟ้มความเสี่ยง เงินขาดทุนสะสมสูงสุด และที่สำคัญที่สุดคือผลกำไรและขาดทุนแบบรายเดือนนับตั้งแต่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม เพียงแค่ต้องลงทุนขั้นต่ำที่ $200 และเลือกนักเทรดที่ต้องการ copy trade เท่านั้น

นักลงทุนที่มีงบประมาณจำกัดจะชอบฟีเจอร์ copy trade บน eToro เนื่องจากเงื่อนไขจะเป็นไปตามสัดส่วนของขนาดการลงทุน ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์จัดสรร 5% ของพอร์ตการลงทุนเพื่อเปิดสถานะซื้อ ETH/USD และผู้ใช้ eToro ลงทุนที่ $200 การซื้อขายจะถูกคัดลอกเป็น $10 โดยนักเทรดจำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมของ eToro แต่จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการใช้เครื่องมือ copy trade

6. เลเวอเรจเหรียญคริปโต – ซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ด้วยเลเวอเรจ   

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ผู้เริ่มต้นเผชิญเมื่อทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแบบเต็มเวลาคือการเข้าถึงเงินทุนในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการเทรดคริปโตรายวัน ซึ่งต้องเทรดบ่อยๆ แต่ได้กำไรน้อย นี่คือจุดที่เลเวอเรจเหรียญคริปโตเข้ามามีบทบาท

มีแพลตฟอร์มซื้อขายมากมายในตลาดที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายเหรียญคริปโตด้วยเงินมากกว่าที่มีในบัญชีของตน หรือที่เรียกว่าเป็นการซื้อขายแบบมาร์จิ้น ซึ่งหมายความว่านักเทรดจะสามารถเพิ่มขนาดของเงินที่ใช้ลงทุนของตนได้ เช่น สมมติว่านักเทรดมี $100 ในบัญชีของตน และพวกเขาสามารถใช้เลเวอเรจได้ที่อัตรา 1:100

ซึ่งหมายความว่าทุน $100 จะเปลี่ยนไปเป็น $10,000 นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการใช้เลเวอเรจในระดับสูงจะเพิ่มโอกาสในการถูกชำระบัญชีหรือที่ภาษาบ้านๆ เรียกว่า ‘พอร์ตแตก’ ซึ่งหมายความว่านักเทรดจะถูกปิดสถานะโดยกระดานเทรดหรือโบรกเกอร์หากสูญเสียเงินทุนไปจำนวนหนึ่ง

ในด้านตัวเลือก เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงเลเวอเรจ CFD (สัญญาการซื้อขายส่วนต่าง) ได้อย่างง่ายดาย ตราสารอนุพันธ์รับรองโดยโบรกเกอร์ CFD ที่ได้รับการควบคุม และตราสารจะติดตามมูลค่าตามเวลาจริงของคู่สกุลเงินดิจิตอลที่เลือก ส่วนแพลตฟอร์มอย่าง Bitmex ก็มีตลาดที่ให้เลเวจสูงแต่ไม่มีการกำกับดูแล

7. CoinMarketCap – เว็บไซต์สอนดูกราฟคริปโตมือใหม่ที่ดีที่สุด     

นักเทรดที่ตามหาเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่อาจพิจารณา CoinMarketCap ซึ่งมักถูกพิจารณาว่าเป็นมาตรฐานขั้นสุดเมื่อพูดถึงข้อมูลเหรียญคริปโต แม้ว่าจะมีทางเลือกขั้นสูงและแม่นยำกว่าอย่าง Dash 2 Trade ก็ตาม แต่ CoinMarketCap ก็เป็นเครื่องมือเทรดคริปโตที่เหมาะสมในการติดตามราคาตลาด

CoinMarketCap แสดงรายการเหรียญคริปโตมากกว่า 21,600 สกุลในขณะที่เขียน ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถติดตามราคาตลาดและแนวโน้มล่าสุดได้ เพราะ CoinMarketCap จะนำข้อมูลจากกระดานแลกเปลี่ยนหลายแห่งมาแสดง CoinMarketCap ยังให้นักเทรดสามารถพูดคุยกันผ่านฟีดโซเชียลอีกด้วย

นอกจากนี้ CoinMarketCap ยังมีประโยชน์ในการประเมินข้อมูลกระดานแลกเปลี่ยนในแง่ของปริมาณการซื้อขายและความลึกของตลาด โดยเครื่องมือเพิ่มเติมที่มีอยู่ใน CoinMarketCap ได้แก่ การแจ้งเตือน, กิจกรรมและกำหนดการเหรียญคริปโต ICO, การแจกเหรียญคริปโต, โปรเจกต์ blockchain ใหม่ๆ และศูนย์การเรียนรู้ CoinMarketCap ยังมีวิดีโอและบทความเพื่อการศึกษาอีกด้วย

8. Coin Market Manager – เครื่องมือคริปโตติดตามพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ขั้นสูง       

Coin Market Manager เป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการติดตามพอร์ตการลงทุนแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรเพื่อติดตามการประเมินมูลค่าพอร์ตในกระดานแลกเปลี่ยนมากมาย ทั้งทางออนไลน์หรือผ่านแอพ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเหรียญคริปโตในหลายๆ แพลตฟอร์มและต้องการดูสถานะโดยรวมภายในที่เดียว

ไม่เพียงเท่านั้น Coin Market Manager ยังมีข้อมูลเชิงลึกขั้นสูงเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนและสถานะการซื้อขายในอดีตอีกด้วย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินได้ว่ากลยุทธ์และการลงทุนใดที่ใช้ได้ผลและกลยุทธ์ใดที่ใช้ไม่ได้ผล โดยมีสามแผนให้เลือก แผนฟรีจะมาพร้อมกับภาพรวมพอร์ตการลงทุนแบบพื้นฐาน หนึ่งบัญชีต่อหนึ่งกระดานแลกเปลี่ยน และสมุดรายวันการซื้อขายแบบกำหนดเอง

แผนแบบฟรีนั้นค่อนข้างธรรมดา ดังนั้นผู้ใช้อาจพิจารณาอัปเกรดเป็นแผนระดับมืออาชีพและระดับองค์กรซึ่งมีราคาที่ 69.99 ดอลลาร์และ 89.99 ดอลลาร์ต่อเดือนตามลำดับ ซึ่งมีฟีเจอร์และเครื่องมือขั้นสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีการทดลองใช้งานฟรี 14 วันสำหรับลูกค้าที่ซื้อเป็นครั้งแรกอีกด้วย

เหตุผลที่ต้องใช้แอพวิเคราะห์กราฟคริปโตคืออะไร?

แม้จะมีนักลงทุนบางรายที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างสม่ำเสมอในตลาดคริปโต แต่ส่วนใหญ่กลับล้มเหลวในการทำเช่นนี้ และหนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือนักเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้นไม่มีเครื่องมือคริปโตที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อขายให้ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจถึงความเสี่ยงในการซื้อขาย

ในวิธีเทรดคริปโต นักลงทุนต้องคาดการณ์อนาคตในการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของ Bitcoin หรือ XRP ที่แตะจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ นักเทรดจะต้องคาดเดาทิศทางในอนาคตเหรียญคริปโต ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลยหากขาดเครื่องมือคริปโต

• สิ่งที่สำคัญคือกราฟราคา ซึ่งนักเทรดสามารถประเมินแนวโน้มในอดีตและดูว่ากราฟจะกระตุ้นการซื้อขายในอนาคตได้อย่างไร
• แต่การดูกราฟราคาอย่างเดียวคงไม่พอ
• ในทางตรงกันข้าม เทรดเดอร์ที่ช่ำชองจะใช้ indicator บอกจุดเข้าซื้อคริปโต เช่น RSI และ Fibonacci Retracement เพิ่มเติม

ผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีวิเคราะห์กราฟราคาหรือวิธีใช้ indicator อาจพิจารณาใช้สัญญาณซื้อขายคริปโต เพื่อให้นักลงทุนซื้อขายแบบกึ่งอัตโนมัติ เพราะสัญญาณจะแนะนำสถานะเข้าซื้อที่เหมาะสมตามการศึกษาและการวิเคราะห์เครื่องมือนั้นๆ

ยิ่งไปกว่านั้น มือใหม่อาจพิจารณาใช้เว็บไซต์สอนดูกราฟคริปโตมือใหม่ ซึ่งจะอ้างอิงกับเหตุการณ์ข่าวสารที่อาจมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาเหรียญคริปโต นักลงทุนทุกคนจึงต้องใช้เครื่องมือคริปโตที่หลากหลายเพื่อทำผลกำไรสูงสุด

ประเภทเครื่องมือเทรดคริปโตและข้อดีคืออะไร?

เมื่อเข้าสู่ตลาดการซื้อขายคริปโตเป็นครั้งแรก ก็ควรมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเครื่องมือและ indicator คริปโตประเภทต่างๆ

ด้วยเหตุนี้เราจึงจะมาอธิบายถึงเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดในขณะนี้

บอทคริปโต

วิธีการซื้อขายอัตโนมัตินี้ช่วยให้นักลงทุนป้อนคำสั่งซื้อและคำสั่งขายได้โดยอัตโนมัติ บอทคริปโตนั้นจะแตกต่างกัน โดยบางตัวก็มีความน่าเชื่อถือมากกว่าตัวอื่น

• เช่น มีแพลตฟอร์มเทรดคริปโตอัตโนมัติมากมายในตลาด ที่เป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้สามารถใช้ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• แม้อาจจะฟังดูน่าสนใจ แต่ก็ไม่มีการรับประกันว่าบอทจะทำเงินได้
• นอกจากนี้ผู้ใช้ควรถามตัวเองด้วยว่าทำไมผู้ให้บริการบอทจึงต้องแบ่งปันบอทที่ทำกำไรได้สูงให้กับสาธารณะ

โดยตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้งานแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้อย่าง Dash 2 Trade ที่ให้นักเทรดได้สร้างบอทของตนเอง

หมายความว่านักเทรดจะตั้งค่าพารามิเตอร์ของตนเองตามตัวชี้วัด เช่น ราคา แนวโน้ม ปริมาณ และความผันผวน และบอทจะซื้อเหรียญคริปโตเมื่อราคาเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้

Dash 2 Trade ยังมีการทดสอบแบบย้อนหลังที่ปราศจากความเสี่ยงเพื่อประเมินว่าบอททำงานอย่างไรในสภาวะตลาดจริง

กราฟ

นักเทรดคริปโตที่ประสบความสำเร็จจะใช้กราฟราคาที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าทิศทางราคาเหรียญคริปโตจะเป็นอย่างไรทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง

ข้อมูลบนกราฟจะต้องใช้ร่วมกันกับ indicator ที่นิยมใช้คริปโต ซึ่งมีมากมาย โดย indicator แต่ละตัวจะเน้นไปที่แนวโน้มราคาที่แตกต่างกัน

เช่น เราได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า RSI เป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อประเมินว่าเหรียญคริปโตนั้นอาจมีการซื้อหรือขายมากเกินไปหรือไม่

การวิเคราะห์

การวิเคราะห์คริปโตเป็นข้อมูลสำคัญนอกเหนือจากเรื่องกราฟราคา

เช่น Dash 2 Trade จะให้ผู้ใช้ใช้งานตัวชี้วัดโซเชียลมีเดีย ซึ่งสามารถช่วยระบุเหรียญที่ได้รับความนิยมใน Pantip และTelegram ทั้งยังมีตัวชี้วัดบนเชน ซึ่งสามารถช่วยระบุการซื้อขายเหรียญคริปโตของวาฬได้

สัญญาณ

สัญญาณการซื้อขายคริปโตอาจเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มผลกำไรจากเหรียญคริปโต ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าควรวางคำสั่งซื้อขายเมื่อไหร่

เช่น สัญญาณ Dash 2 Trade อาจแนะนำให้ซื้อ BNB ที่ $290 โดยมีคำสั่ง stop loss ที่ $270 และคำสั่งทำกำไรอาจอยู่ที่ $410

โดยผู้ใช้ Dash 2 Trade เพียงแค่ต้องวางคำสั่งซื้อที่แนะนำผ่านกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ต้องการ

เข้าถึงเครื่องมือซื้อขายคริปโต Dash 2 Trade อย่างไร?

เครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดข้างต้นสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ที่เดียวคือ Dash 2 Trade

แม้ว่า Dash 2 Trade จะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่โทเค็นหลักอย่าง D2T ก็ได้เปิดให้ซื้อในช่วงพรีเซลล์แล้ว ซึ่งระดมทุนได้มากกว่า 4 ล้านเหรียญในเวลาเพียงแค่ 10 วัน

ดังนั้น เราจะมาอธิบายขั้นตอนการลงทุนซื้อ Dash 2 Trade ในราคาพรีเซลล์ตอนนี้

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง MetaMask Wallet

นักลงทุน Dash 2 Trade ทุกคนต้องติดตั้ง crypto wallet เพื่อเข้าถึงพรีเซลล์ ส่วนผู้ที่มีกระเป๋าเงินที่รองรับ Ethereum อยู่แล้ว ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้

หนึ่งใน crypto wallet ที่ดีที่สุดคือ MetaMask เพราะไม่เพียงแต่จะมีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังใช้งานง่ายอีกด้วย

ไปยังเว็บไซต์ MetaMask และคลิกที่ปุ่ม ‘Download’ และเลือกส่วนขยายเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox, Brave หรือ Edge) หรือแอพมือถือ (Android หรือ iOS)

เปิดกระเป๋าเงินและตั้งรหัสผ่าน จดรหัสสำรอง 12 คำเพื่อทำให้การติดตั้ง MetaMask เสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนที่ 2: ซื้อ Ethereum หรือ Tether 

Dash 2 Trade รองรับ Ethereum หรือ Tether ในช่วงพรีเซลล์ โดยหากคุณมีโทเค็นดังกล่าวแล้ว ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนถัดไปได้

มือใหม่สามารถซื้อ Ethereum หรือ Tether ผ่านกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต เช่น Binance, FTX, OKX และอื่นๆ ที่รองรับบัตรเดบิตเมื่อทำการฝากเงิน

ขั้นตอนที่ 3: โอน Ethereum หรือ Tether ไปยัง MetaMask 

ถัดไป โทเค็น Ethereum หรือ Tether จะต้องถูกโอนไปยังกระเป๋าเงิน MetaMask ที่สร้างขึ้นมาใหม่

ขั้นแรก เปิด MetaMask และคัดลอกที่อยู่กระเป๋าเงินด้านล่าง ‘Account 1’

จากนั้น โอนเหรียญไปยังที่อยู่ดังกล่าวจากกระดานแลกเปลี่ยนหรือกระเป๋าเงินที่มี Ethereum/Tether อยู่

ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมต่อ MetaMask กับพรีเซลล์ Dash 2 Trade

เมื่อกระเป๋าเงิน MetaMask มีเหรียญ Ethereum หรือ Tether แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือไปที่พรีเซลล์ Dash 2 Trade

จากนั้นคลิกที่ ‘Connect Wallet’ เลือก MetaMask จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นการการยืนยันว่า MetaMask พร้อมเชื่อมต่อกับ Dash 2 Trade แล้ว

ยืนยันการเชื่อมต่อเพื่อดำเนินการขั้นตอนสุดท้าย

ขั้นตอนที่ 5: ป้อนจำนวนและซื้อโทเค็น D2T

หลังจากเชื่อมต่อ MetaMask กับ Dash 2 Trade แล้ว นักลงทุนจะต้องเลือกสกุลเงินที่ต้องการชำระ (Ethereum หรือ Tether) ขึ้นอยู่กับว่ามีโทเค็นใดอยู่ในกระเป๋าเงิน MetaMask

หลังจากนั้น ระบุจำนวนโทเค็น D2T ที่ต้องการซื้อ โดยให้ยืนยันการลงทุนพรีเซลล์ผ่าน MetaMask เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ และสามารถรับโทเค็น D2T ได้หลังจากสิ้นสุดพรีเซลล์

บทสรุป

การใช้งานเครื่องมือคริปโตที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำหน้าตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเครื่องมือเทรดคริปโตที่ดีที่สุดที่กล่าวถึงในวันนี้ ได้แก่ สัญญาณ โซเชียลมีเดีย ตัวชี้วัด on-chain บอทอัตโนมัติ การทดสอบย้อนหลัง และข้อมูลราคาระดับมืออาชีพ

โดยเครื่องมือคริปโตดังกล่าวมีให้ใช้งานบน Dash 2 Trade ซึ่งนักลงทุนสามารถทำกำไรได้จากโปรเจกต์ในช่วงพรีเซลล์ตอนนี้ด้วยโทเค็น D2T

เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ได้กลายเป็นทางเลือกลงทุนที่ดีแทนที่สินทรัพย์แบบ ‘ดั้งเดิม’ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว อย่างไรก็ตาม เหรียญคริปโตยังดึงดูดนักเทรดเทรดรายวัน ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรในแบบที่การลงทุนแบบอื่นๆ ทำได้ยาก

ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จะกล่าวถึงเหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023 ซึ่งจะครอบคลุมถึงเหรียญคริปโตแต่ละเหรียญที่น่าเทรดรายวัน และแนะนำวิธีการเริ่มต้นเทรดเหรียญคริปโตในวันนี้

จัดอันดับ 5 เหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023

ทุกวันนี้นักลงทุนจำนวนมากมักจะมีวิธีซื้อเหรียญคริปโตในรูปแบบการลงทุนระยะสั้น ซึ่งอาจเป็น timeframe ระดับชั่วโมง โดยวิธีการนี้มักจะถูกเรียกว่า ‘การเทรด’ เนื่องจากสินทรัพย์จะไม่ได้ถูกเก็บไว้ในระยะยาว

รายการด้านล่างก็คือเหรียญคริปโตน่าซื้อเพื่อเทรดรายวันที่ดีที่สุดแห่งปี โดยเราจะรีวิวเหรียญทั้งหมดในส่วนถัดๆ ไป:

1. FightOut (FGHT) – เหรียญคริปโตน่าเทรด M2E
2. RobotEra (TARO) – โทเค็น Metaverse ที่ดีที่สุด น่าซื้อในราคาต่ำในช่วงพรีเซล
3. Tamadoge (TAMA) – เหรียญคริปโตมาใหม่น่าเทรด
4. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโตน่าเทรดที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด
5. Lucky Block (LBLOCK) –  เหรียญที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด CEX สุดยิ่งใหญ่

ไปยังเหรียญคริปโตน่าเทรดตอนนี้

เจาะลึกกับเหรียญคริปโตน่าเทรดแต่ละเหรียญ

เหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023 มีสภาพคล่องสูงและให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่กำลังมองหาเคล็ดลับการลงทุนคริปโต

ด้วยเหตุนี้เราจะมาวิเคราะห์โปรเจกต์ที่กล่าวไปข้างต้นแบบละเอียดมากขึ้น ซึ่งอาจมีหลายๆ โปรเจกต์ที่เป็นเหรียญคริปโตที่มีศักยภาพมากที่สุดในระยะยาวก็ได้

1. FightOut – FightOut (FGHT) – เหรียญคริปโตน่าเทรด M2E ผ่านแอปฟิตเนสชั้นนำ

FightOut เป็นแอปฟิตเนสและเครือข่ายยิมแบบ Move-to-Earn ยุคใหม่ที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ด้วยการเล่นเกมฟิตเนสและไลฟ์สไตล์ ความสามารถของโครงการในการสร้างโซลูชันอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับตลาด M2E สามารถช่วยให้ FightOut กลายเป็นหนึ่งในโทเค็นคริปโตช่วงตลาดซบเซาที่ดีที่สุด

ในขณะที่เขียน โทเค็นหลัก $FGHT ของ FightOut สามารถซื้อได้ในราคาลดพิเศษที่ $0.0166 และระดมทุนได้มากกว่า $2.5 ล้านในช่วงพรีเซล

นักเทรดจะสนใจโทเค็นเนื่องจากเมื่อสิ้นสุดการขายล่วงหน้า FGHT จะขายในราคา $0.0333 ซึ่งเพิ่มขึ้น 100% จากราคาปัจจุบันก่อนที่จะถึงการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ นักลงทุนที่ซื้อโทเค็นในรอบแรกของการขายล่วงหน้าจะได้รับโบนัสพิเศษมากถึง 50% – สามารถรับได้มากถึง 25% ขึ้นอยู่กับจำนวนโทเค็นที่ซื้อ และอีก 50% สำหรับการเลือกล็อคช่วงเวลาสูงสุด 24 เดือน.

FightOut ได้กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับสูงผ่านคุณสมบัติเฉพาะในตลาด Move-to-Earn ผู้ใช้สามารถรับรางวัลที่น่าตื่นเต้นโดยการออกกำลังกายประจำวัน ทำภารกิจเอาชนะชาเลนจ์ฟิตเนสต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย

โครงการได้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อสร้าง metaverse สำหรับผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถสร้างอวาตาร์ NFT ของตนเองได้ อวาตาร์ NFT เหล่านี้เรียกว่าอวาตาร์แห่งจิตวิญญาณ อวาตาร์เหล่านี้สอดคล้องกับประสิทธิภาพการออกกำลังกายในชีวิตจริงของผู้ใช้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้ยังสามารถแข่งขันกับสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ ใน metaverse ของ FightOut

FightOut ได้คิดค้นสกุลเงินในแอปที่รู้จักกันในชื่อ REPS ซึ่งใช้เพื่อตอบแทนผู้ใช้สำหรับการออกกำลังกาย ผู้ใช้จะได้รับ REPS เป็นรางวัลสำหรับการบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายและเอาชนะชาเลนจ์ต่างๆ ในแอป

น่าสนใจ ผู้ใช้สามารถใช้ REPS เหล่านี้เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นจากตลาดของ FightOut ผลิตภัณฑ์เหล่านี้รวมถึง NFT เครื่องสำอางสำหรับอวาตาร์ ส่วนลดสมาชิก สินค้า และอื่นๆ

$FGHT อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าร่วมการแข่งขันและลีกต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้โทเค็นเพื่อปลดล็อกโหมดเกมและประโยชน์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ที่สำคัญโทเค็นเหล่านี้สามารถใช้ซื้อ REPS เพิ่มเติมได้ ผู้ซื้อที่ใช้โทเค็น $FGHT เพื่อซื้อ REPS จะได้รับ REPS เพิ่มอีก 25%

เพื่อให้เข้าใจในเชิงลึกยิ่งขึ้นเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ ของ FightOut นักลงทุนสามารถอ่านเอกสารข้อมูลของโครงการได้

$FGHT เป็นโทเค็นหลักที่มีอุปทานจำกัดของโทเค็น FightOut ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum การจัดหาโทเค็นถูกจำกัดไว้ที่ 10 พันล้าน จากจำนวนนี้ มีโทเค็น 9 พันล้านโทเค็นสำหรับการซื้อผ่านขั้นตอนการขายล่วงหน้าของโครงการ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถซื้อโทเค็น $FGHT ผ่านบัตรเครดิตผ่าน Transak

นักลงทุนสามารถเข้าร่วมกลุ่ม telegram ของ FightOut เพื่อติดตามการอัปเดตที่น่าตื่นเต้นดังกล่าว

เริ่มต้นขายพรีเซล	14 ธันวาคม
วิธีชำระเงิน	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	ไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. RobotEra (TARO) – โทเค็น Metaverse ที่ดีที่สุด น่าซื้อในราคาต่ำในช่วงพรีเซล

ตามรายงานของ DappRadar เหรียญคริปโตเกมสามารถเป็นหนึ่งในการลงทุนเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในช่วงตลาดหมี โทเค็นออกใหม่ในตลาดเกมนี้คือ TARO – เหรียญคริปโตหลักของโครงการเมตาเวิร์สที่กำลังเปิดตัวของ RobotEra ขณะนี้พร้อมให้ซื้อในช่วงพรีเซลรอบแรกจากทั้งหมดสามรอบ – TARO มีเป้าหมายที่จะระดมทุนเกือบ 7 ล้านดอลลาร์จากการพรีเซล

โปรเจ็กต์เกม metaverse ยอดนิยม เช่น The Sandbox (SAND) เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 เท่าตั้งแต่เปิดขายพรีเซล ด้วย RobotEra โครงการ metaverse นี้จะให้ผู้เข้าร่วมเข้าร่วมระบบนิเวศเสมือนจริงที่พวกเขาสามารถซื้อที่ดินเสมือนจริง สร้างพื้นที่ของตนเอง และมีส่วนร่วมในการปกครองโลก คุณสามารถเข้าถึงโลกของ RobotEra ได้โดยการซื้อ Robot NFT ซึ่งเป็นตัวแทนของตัวละครในเกมของคุณ

คล้ายกับ The Sandbox ผู้เล่นสามารถซื้อที่ดิน NFT ภายในระบบนิเวศและแลกเปลี่ยนในตลาด RobotEra มอบประสบการณ์ที่เหมือน multiverse – ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และจัดกิจกรรมเพื่อสร้างรางวัล ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้จากการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม สามารถทำการ staking TARO เพื่อรับ APY (อัตราผลตอบแทนต่อปี) และโดยการแข่งขันในภารกิจ

RobotEra ให้ผู้ถือโทเค็น TARO สามารถ stake เหรียญ เพื่อเข้าร่วม DAO เพื่อสามารถโหวตออกเสียงและตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตขององค์กร ตามเอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่า 15% ของ 1.8 พันล้านโทเค็นจะถูกจัดสรรสำหรับการขายพรีเซล

90 ล้านโทเค็นจะถูกจัดสรรสำหรับแต่ละรอบของสามรอบของการพรีเซล ปัจจุบัน รอบพรีเซลรอบแรกขาย TARO ที่ราคา $0.02 อย่างไรก็ตาม ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.032 ดอลลาร์สำหรับรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้น 60% ดังนั้น นักลงทุนสามารถซื้อ TARO ได้ในราคาที่ต่ำที่สุดในขณะนี้

เข้าร่วม Telegram Channel เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการนี้

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

3. Tamadoge (TAMA) – เหรียญคริปโตมาใหม่น่าเทรด

อีกหนึ่งเหรียญคริปโตน่าเก็บและน่าเทรดในปี 2023 ก็คือ Tamadoge โดยเหรียญ TAMA เปิดให้เทรดได้บนกระดานเทรด OKX และได้รับการยืนยันการลิสเหรียญลงในกระดาน CEX อื่นๆ อย่าง LBank และ Uniswap DEX อีกด้วย

Tamadoge ได้รับแรงบันดาลใจจากเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ‘สไตล์ Doge’ ยอดนิยมที่ทำให้เหรียญ เช่น Shiba Inu และ Dogecoin ได้รับความนิยมสูง อย่างไรก็ตาม Tamadoge จะดีกว่าเหรียญดังกล่าวเพราะมีกรณีการใช้งานที่น่าสนใจมากมาย

อย่างแรกก็คือ Tamadoge เป็นหนึ่งในเกม play to earn ที่ดีที่สุด เนื่องจากผู้ใช้สามารถสร้าง ‘สัตว์เลี้ยง Tamadoge’ และนำไปแบทเทิลกับผู้เล่นคนอื่น โดยสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวมีจุดแข็งแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้เล่นต้องคิดว่าจะชนะการแบทเทิลหรือไม่ โดย Dogepoints จะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ชนะ และผู้ที่มี Dogepoints มากที่สุดในแต่ละเดือนจะได้รับรางวัล

รางวัลจะถูกแจกจ่ายเป็น TAMA ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 หลักของ Tamadoge ซึ่งมีกรณีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น เป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรมในระบบนิเวศ Tamadoge ผู้ใช้สามารถซื้ออาหารและอุปกรณ์เสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง Tamadoge ของตน และยังสามารถซื้อสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมได้หากต้องการ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะซื้อ Tamadoge ในช่วงแรกๆ เพื่อเป็นโอกาสทำกำไร โดยเหรียญก็ได้รับการยืนยัน KYC โดย CoinSniper และตรวจสอบโดย SolidProof.io ทำให้เป็นโปรเจกต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง

นอกจากนี้ทีมงาน Tamadoge ก็มีแผนการพัฒนาที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงแอพมือถือ Augmented Reality (AR) อีกด้วย

ผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ก็สามารถเข้ากลุ่ม Telegram (แอดมินจะไม่ส่งข้อความถึงคุณหรือขอ seed phrase จากคุณเด็ดขาด)

ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TAMA (∼$10 + ค่าแก๊ส)
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเดบิต/เครดิต (ผ่าน Transak)
เชน	Ethereum
สิ้นสุดพรีเซลล์	สิ้นสุดแล้ว

ไปยัง Tamadoge

4. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโตน่าเทรดที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด

Battle Infinity เป็นโปรเจ็กต์ metaverse มาใหม่ที่รวมทุกอย่างในตลาดคริปโตไว้ด้วยกัน เช่น NFT, DeFi, และระบบ P2E ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในโลก 3 มิติของ Battle Infinity ที่เรียกว่า ‘Battle Arena’ ที่ผู้เล่นสามารถสร้างอวาตาร์และโต้ตอบกับผู้อื่นได้

หนึ่งในฟีเจอร์คุณภาพของตัวเกมก็คือ ‘IBAT Premier League’ ซึ่งเป็นลีกกีฬาแฟนตาซีแบบ decentralized ที่มีนักกีฬา NFT โดยผู้ใช้สามารถสร้างทีมและแบทเทิลกับทีมอื่นได้ และจะให้คะแนนตามผลงานจริงของนักกีฬา ซึ่งผู้ที่มีคะแนนมากสุดในกระดานผู้นำจะได้รับรางวัล

รางวัลจะถูกแจกจ่ายเป็น IBAT ซึ่งเป็นโทเค็น BEP-20 หลักของ Battle Infinity และยังนำไปใช้ร่วมกับแพลตฟอร์ม staking เหรียญคริปโต และกลไกแลกเปลี่ยนโทเค็นใน ‘Battle Swap’ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ IBAT ใน ‘Battle Store’ เพื่อซื้อไอเท็มในเกมและแปลงที่ดินเสมือน NFT ได้อีกด้วย

Battle Infinity ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาในตอนนี้ โดยเทรดเดอร์สามารถซื้อโทเค็น IBAT ได้ที่ PancakeSwap และพรีเซลล์ IBAT ก็ยังเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต pre-sale ที่ขายหมดเร็วที่สุดอีกด้วย

ตอนที่เหรียญถูกลิสบน PancakeSwap ราคาโทเค็นก็เพิ่มกว่า 700% จากราคาพรีเซลล์

Battle Infinity กำลังได้รับความสนใจอย่างมากและนั่นคือเหตุผลที่ทำให้กลุ่ม Telegram ของตัวเกมมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

โปรเจกต์ยังได้รับการยืนยัน KYC โดย CoinSniper และตรวจสอบโดย SolidProof.io ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง

โดย Battle Infinity กำลังจะถูกลิสใน LBank CEX ใน ‘เร็วๆ นี้’ ซึ่งทำให้เทรด IBAT ได้ง่ายขึ้นและช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้นั่นเอง

เทรด Battle Infinity ตอนนี้

5. Lucky Block (LBLOCK) – เหรียญที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด CEX สุดยิ่งใหญ่

อีกหนึ่งเหรียญคริปโตน่าเทรดคือ Lucky Block แพลตฟอร์มเกมคริปโตการแข่งขันที่มีของรางวัลมากมาย โดยทีมงาน Lucky Block เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มจับสลาก NFT ใหม่ล่าสุด เพื่อเพิ่มโอกาสรับรางวัลให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก

นักลงทุนที่ซื้อ Lucky Block NFT จะมีโอกาสลุ้นรับรางวัลมากมายทั้งเครื่องเล่นเกม นาฬิกาสุดหรู หรือแม้แต่บ้านทั้งหลัง โดยมีโทเค็นหลักคือ LBLOCK ที่เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตน่าเทรดอีกด้วย

ทีมงาน Lucky Block เพิ่งเปิดตัวโทเค็น ‘LBLOCK v2’ ซึ่งเป็นเหรียญ ERC-20 (จากเดิมที่เป็น BEP-20) ซึ่งมีให้เทรดบนกระดานเทรด CEX รายใหญ่ๆ ซึ่งกระดานเทรดที่มีโทเค็นดังกล่าว ได้แก่ LBank และ MEXC

นอกจากนี้เนื่องจาก LBLOCK v2 จะขจัดค่าธรรมเนียมจากเหรียญ v1 ทั้งหมด ทำให้โทเค็นเป็นที่สนใจของนักเทรดและนักเก็งกำไรระยะสั้นอีกด้วย

ราคา LBLOCK เพิ่มขึ้นมากกว่า 250% หลังจากถูกลิสใน MEXC และนักลงทุนสามารถซื้อ Lucky Block เพื่อทำกำไรเมื่อเหรียญเติบโตได้

ล่าสุด – Lucky Block เพิ่งถูกลิสบน Gate.io ซึ่งเป็นการลิส CEX ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดย Gate.io เป็นหนึ่งใน 10 อันดับกระดานเทรดคริปโตที่มีปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงสูงที่สุด

และนั่นจะเพิ่มสภาพคล่องและโอกาสทำกำไรให้กับ LBLOCK V2 เพราะว่าเหรียญจะถูกเทรดบนกระดานเทรดอื่นๆ อีกมากมายนั่นเอง

เทรด Lucky Block

อธิบายการเทรดเหรียญคริปโต

แล้วการเทรดเหรียญคริปโตคืออะไรกันแน่? โดยพื้นฐานการเทรดเหรียญคริปโตเป็นกระบวนการในการซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ในระยะเวลาสั้นๆ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนอาจซื้อ Bitcoin ในตอนเช้าแล้วขายออกในสองสามชั่วโมงถัดมาในช่วงบ่าย นั่นคือตัวอย่างของการเทรดเหรียญคริปโต

เช่นเดียวกับการลงทุนระยะยาว เทรดเดอร์คริปโตจะเก็งกำไรในราคาสินทรัพย์ ไม่ว่าจะจากการ ‘ซื้อ’ หรือ ‘ขาย’ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก timeframes ที่ใช้เทรดมักจะเป็นแบบชั่วโมง (หรือแม้แต่นาที) เมื่อทำการเทรดเหรียญคริปโต การเทรดแบบนี้จึงมีแนวโน้มที่จะเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นๆ นั่นเอง

ประโยชน์หลักของการเทรดเหรียญคริปโตเมื่อเทียบกับกลยุทธ์อื่นๆ คือเทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ การซื้อหนึ่งใน cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นก่อนที่ตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น แล้วจากนั้นจึงค่อยขาย ก็จะทำให้เทรดเดอร์ทำกำไรระยะสั้นได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหรียญคริปโตน่าซื้อสำหรับการเทรดคริปโตรายวันอาจให้ผลตอบแทนที่เหนือคาด แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ากลยุทธ์นี้ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในระยะยาว (เช่น ‘การซื้อและถือ’) ตลาดเหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง ดังนั้นการซื้อขายเหรียญเหล่านี้ในระยะสั้นจึงจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงที่ตามมา 

การเทรดกับการลงทุนในเหรียญคริปโต

เมื่อศึกษาเกี่ยวกับเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุดในการเทรดรายวัน ก็จำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง ‘การเทรดเหรียญคริปโต’ และ ‘การลงทุนในเหรียญคริปโต’ เพราะมีหลายคนที่เชื่อว่าทั้งสองคำมีความหมายเดียวกัน แต่ความจริง กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการเทรดเหรียญคริปโตหมายถึงกระบวนการเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาเหรียญในระยะสั้น แม้ว่าจะไม่มีข้อจำกัดในการเทรดแบบนี้เพราะคุณสามารถเปิดและปิดสถานะได้ในวันเดียวกัน แต่ว่าวิธีนี้จะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ก็อาจสร้างผลตอบแทนได้เกินคาดหากเทรดสำเร็จ

ในทางกลับกัน การลงทุนในเหรียญคริปโตจะเป็นระยะยาว ซึ่งคล้ายกับกลยุทธ์ ‘การซื้อและถือ’ ที่เรารู้จักกันดี ผู้ที่หาวิธีลงทุนในเหรียญคริปโตแบบระยะยาวจะสามารถมองข้ามช่วงที่ราคาผันผวนอย่างรวดเร็วไปได้ ซึ่งหมายความว่าอารมณ์ความรู้สึกจะไม่ได้มีนัยสำคัญเท่ากับเทรดเทรดเหรียญ นักลงทุนคริปโตจะไม่จำเป็นต้อง ‘จับตาดูตลาด’ เนื่องจากราคาเข้าซื้อจะไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าการเทรด

แล้วแบบไหนดีกว่ากัน? น่าเสียดายที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เนื่องจากแต่ละวิธีนั้นเป็นเรื่องปัจเจก การเทรดถือว่ามีความเสี่ยงและต้อง ‘ลงมือจริง’ มากกว่า ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ทำงานเต็มเวลา อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เทรดเดอร์ที่ชำนาญมักจะสร้างผลตอบแทนได้หากศึกษาจังหวะเทรดมาอย่างดี

การเทรดเหรียญคริปโตรายวัน

การเทรดเหรียญคริปโตรายวัน เป็นวิธีที่แยกมาจากการเทรดเหรียญคริปโตและเป็นการเปิดและปิดสถานะในวันเดียวกัน นี่คือตัวอย่างการเทรดรายวัน:

• เทรดเดอร์ซื้อ BTC ที่ $21,000 ในตอนเช้า
• ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาราคาของ BTC เพิ่มขึ้นเป็น $23,000
• เทรดเดอร์เลือกที่จะขาย BTC ในช่วงบ่าย
• เทรดเดอร์ได้รับผลตอบแทน 9.52% ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ตัวอย่างข้างต้นเน้นให้เห็นถึงวิธีการเทรดแบบรายวันที่ทำกำไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเทรดเดอร์ศึกษาสถานะเข้า/ออกมาอย่างดีและมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การเทรดรายวันเป็นวิธีที่ต้อง ‘คอยเฝ้าตลาด’ เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องคอยตรวจสอบกราฟราคาสำหรับจุดเข้าซื้ออยู่เสมอๆ

ดังนั้นการเทรดรายวันจึงเหมาะสำหรับเทรดที่สามารถ ‘เทรด’ ได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากจุดเข้าซื้อเป็นสิ่งสำคัญ และจุดขายเหรียญก็สำคัญกว่ามาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเทรดรายวันจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย จึงมักมีโอกาสทำกำไรบ่อยๆ ในแต่ละวันสำหรับกลยุทธ์นี้

กลยุทธ์การเทรดเหรียญคริปโต

เทรดเดอร์จะสามารถใช้กลยุทธ์การซื้อขายได้มากมาย ซึ่งหลายกลยุทธ์ก็ได้รับการทดลองและทดสอบกับประเภทสินทรัพย์ ‘ดั้งเดิม’ มาแล้ว โดยส่วนด้านล่างจะเป็นสี่กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:

การเทรดรายวัน

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการเทรดรายวันเป็นกระบวนการของการเปิดและปิดการซื้อขายในวันเดียวกัน กลยุทธ์นี้จะเน้นที่การสร้างผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยแต่เป็นประจำ ซึ่งหมายความว่าจะสามารถทบต้นยอดคงเหลือในการเทรดได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง แต่การเทรดรายวันจะสามารถทำกำไรได้สูงสำหรับเทรดเดอร์เก่งๆ 

การเทรดระยะสั้น

คล้ายกันการเทรดรายวัน แต่แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ timeframe ระดับชั่วโมง เทรดเดอร์ก็มักจะเน้นไปที่ timeframe ระดับนาทีหรืออาจเป็นวินาที

เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องการสร้างผลตอบแทนประมาณ 1% ในแต่ละการเทรด จุดเข้าและจุดออกจึงมีความสำคัญต่อกลยุทธ์นี้ ดังนั้นจึงมีกลุ่มสัญญาณซื้อขาย crypto บน Telegram มากมายที่จะคอยแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์หากมีโอกาสในการเทรด ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์จะไม่จำเป็นต้องคอยเฝ้ากราฟตลอดทั้งวัน

Dollar-Cost Averaging

ตามที่อธิบายไว้ใน Forbes การลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging หรือการลงทุนแบบสม่ำเสมอเป็นกลยุทธ์การเทรดที่ช่วยให้นักลงทุนลดจำนวนเงินและลดความเสี่ยงจากการลงทุนลง โดยกลยุทธ์นี้จะเป็นการลงทุนเงินจำนวนเท่าๆ กันในเหรียญคริปโตอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าเหรียญจะมีราคาเท่าไหร่

วิธีนี้จะช่วยขจัดอารมณ์ของการเทรดไป เนื่องจากเป็นการลงทุนทั้งช่วงที่เหรียญมีราคาต่ำและสูง เมื่อเวลาผ่านไปจุดเข้าซื้อเฉลี่ยของนักลงทุนจะลดลง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการกำไรในอนาคตนั่นเอง

การซื้อและถือ

สุดท้ายนี้เทรดเดอร์อาจเลือกที่จะ ‘ซื้อและถือ’ หากพวกเขาต้องการลงทุนแบบระยะยาว แม้ว่าจะไม่ถือว่าเป็นกลยุทธ์ ‘การเทรด’ ก็ตาม การตัดสินใจซื้อและถือไว้นั้นเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปิดหรือปิดสถานะใดๆ

นักลงทุนที่ซื้อและถือเหรียญจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น เนื่องจากมักจะถือไว้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี แม้ว่ากลยุทธ์นี้มักจะพลาดโอกาสทำกำไรสูงได้ แต่ก็เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถนั่งเทรดและต้องการปล่อยให้การลงทุนทำหน้าที่ของมันเอง 

จังหวะที่ดีที่สุดในการเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่คืออะไร?

จังหวะที่ ‘ดีที่สุด’ ในเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่คืออะไร? นี่เป็นคำถามที่ยากที่จะตอบได้ เนื่องจากตลาดคริปโตเปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามก็มีปัจจัยบางข้อที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกจังหวะที่จะทำการเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่

อ้างอิงจาก Statista เหรียญคริปโตมีปริมาณการซื้อขายรายวันสูงสุดวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2021 ตอนที่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 516 พันล้านดอลลาร์ เมื่อตลาดมีแนวโน้มแบบนี้ก็จะมีสภาพคล่องในระดับสูง ซึ่งช่วยลดความแตกต่างระหว่างราคาซื้อขายและทำให้เทรดเดอร์หลายคนเข้าซื้อเหรียญทันที และจากปัจจัยเหล่านี้การเปิดสถานะเมื่อมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์นั่นเอง

ผู้ที่สงสัยถึงวิธีเทรดคริปโตอาจต้องการเปิดสถานะในช่วงเวลาทำการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระหว่าง 21.30 น. ถึง 04.00 น. ซึ่งเป็นจังหวะเวลาที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะ ‘เคลื่อนไหว’ ในตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้

ในทางกลับกันก็มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่เลือกหลีกเลี่ยงตลาดในช่วงสุดสัปดาห์ เทรดเดอร์สถาบันจะไม่เทรดในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งหมายความว่าจะปริมาณการซื้อขายต่ำ ทำให้กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดหลายแห่งมีค่าสเปรดสูง นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสุดสัปดาห์มักจะขัดแย้งกับการวิเคราะห์เหรียญคริปโต ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนได้นั่นเอง

เหรียญคริปโตน่าเทรด – บทสรุป

โดยสรุป บทความนี้ได้เจาะลึกถึงเหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023 อธิบายเกี่ยวกับเหรียญที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักเทรดรายวัน และวิเคราะห์กลยุทธ์การเทรดยอดนิยมมากมาย โดย FightOut มียอดขายถล่มทลายและระดมทุนได้มากกว่า 2.5 ล้านเหรียญแล้ว

เนื่องจากแอปฟิตเนสที่ไม่เหมือนใครช่วยให้ผู้ใช้มีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี นักลงทุนควรพิจารณาซื้อโทเค็น $FGHT ในขณะที่ยังมีโอกาส ในช่วงพรีเซล ราคาจะเพิ่มขึ้นจาก 0.0166 ดอลลาร์เป็น 0.0333 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรายแรกยังสามารถรับผลประโยชน์จากโบนัสโทเค็นสูงถึง 50% ในช่วงพรีเซลแรก

โทเค็นอันดับต้น ๆ ที่น่าซื้อขายคือ D2T ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Dash 2 Trade – แพลตฟอร์มการวิเคราะห์คริปโตจะสิ้นสุดการขายล่วงหน้าในวันที่ 5 มกราคมก่อน IEO ในวันที่ 11 มกราคม

นักลงทุนคริปโตหลายๆคนได้พิจารณาโปรเจกต์คริปโตเหรียญที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ซึ่งเหรียญคริปโตราคาไม่ถึงบาทก็เป็นหนึ่งในนั้น หลายๆสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีราคาต่ำกว่า 5$  หรือ 180 บาทต่อโทเค็น โดยอิงตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต.

ในคู่มือนี้ เราจะวิเคราะห์เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่น่าสนใจ เหมาะกับคนงบน้อย โดยจะอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการซื้อเหรียญแบบเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่

10 อันดับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่น่าลงทุน

ซึ่งรวมทุกอย่างไว้ตั้งแต่เหรียญคริปโตดีๆ ที่ที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่สุด ไปจนถึงโทเค็นมูลค่าสูงที่ราคาต่ำกว่า 5$  หรือ 180 บาท

1. Love Hate Inu – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ โดยรวมที่ดีที่สุดสำหรับโอกาสสร้างรายได้แบบพาสซีฟ
2. DeeLance – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ มาใหม่ที่พร้อมปฏิวัติวงการฟรีแลนซ์
3. Ecoterra – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ พร้อมแอพ Recycle2Earn ที่ไม่เหมือนใคร
4. Metropoly – วิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินเพียง $100 ในปี 2023
5. Swords of Blood – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ สำหรับ GameFi ในปี 2023
6. RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse มาใหม่ที่เปิดตัวพฤศจิกายน 2022
7. Tamadoge – เหรียญคริปโตมาใหม่ ในโลก Metaverse
8. Battle Infinity (IBAT) – สุดยอดเหรียญคริปโตแห่งปี 2023
9. Lucky Block – เหรียญคริปโตตัวท็อป แห่งโลกคริปโตเกมมิ่ง
10. DeFi Coin – เหรียญคริปโต DeFi ที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่มีคอมมูนิตี้สนับสนุนในการซื้อและถือยาว

ไปยัง Love Hate Inu ตอนนี้

เรายืนยันว่าเหรียญคริปโตแต่ละสกุลที่กล่าวไว้ข้างต้นเป็นเหรียญที่น่าเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุน

อย่างไรก็ตาม คุณกำลังจะได้อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องเหรียญคริปโตน่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่มีศักยภาพสูง เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ

เมื่อพูดถึงเหรียญคริปโตราคาไม่แพงที่น่าลงทุน

เมื่อคุณลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นขั้นตอนง่ายๆในปัจจุบัน

การเลือกโทเค็นที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยาก แม้ยังไม่ได้พูดถึงการเลือกแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการเข้าถึงโทเค็นเหล่านั้นด้วยซ้ำ

เราจะเริ่มด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่น่าลงทุน และเราจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการและจังหวะที่คุณควรซื้อ

1. Love Hate Inu – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ โดยรวมที่ดีที่สุดสำหรับโอกาสสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

Love Hate Inu คือเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ อันดับแรกของเรา ซึ่งเป็นโปรเจกต์บนเครือข่าย Ethereum และก็ได้สร้างกระแสในคอมมิวนิตี้การลงทุนครั้งใหญ่ โดยระดมทุนได้มากกว่า $2.8M USDT ในสัปดาห์แรกๆ ของการ Pre-sale เป็นที่ชัดเจนว่าเหตุใด Love Hate Inu จึงได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากกลไก ‘Vote to Earn’ ที่ไม่เหมือนใครได้มอบโอกาสในการสร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัด

ตามเอกสารข้อมูลของ Love Hate Inu ผู้ใช้บนผู้พัฒนาสามารถซื้อโทเค็น LHINU เพื่อโหวตแบบสำรวจที่สร้างโดยทีมพัฒนาหรือผู้ใช้รายอื่น แบบสำรวจเหล่านี้อาจเป็นอะไรก็ได้ โดยให้ผู้ใช้ตัดสินใจว่าพวกเขา ‘รัก’ หรือ ‘เกลียด’ บุคคลหรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง

ในการลงคะแนนในแบบสำรวจเหล่าดังกล่าว ผู้ใช้จะต้อง Stake โทเค็น LHINU ของตนซึ่งคล้ายกับการมี ‘สกินในเกม’ และลบความเป็นไปได้ที่ผลการสำรวจจะได้รับอิทธิพลจากบอทและบัญชีหลอกลวง ผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นโทเค็นเพิ่มเติมจากการ Stake LHINU และโหวต ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง!

ศักยภาพของระบบดังกล่าวนั้นไร้ข้อจำกัด เนื่องจากเป็นวิธีที่รวดเร็วในการวัดความรู้สึกของชุมชนที่มีต่อบางสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจของ Andrew Tate หรือ Donald Trump ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แบรนด์ต่างๆ ยังสามารถร่วมมือกับ Love Hate Inu ทำให้พวกเขาได้ ‘การวิเคราะห์ตลาด’ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ

จะมีการสร้างโทเค็น LHINU ทั้งหมด 100 พันล้านโทเค็น โดย 90% ของโทเค็นเหล่านี้สงวนไว้สำหรับนักลงทุนพรีเซลล์ เพื่อให้ชุมชน ‘เป็นเจ้าของ’ แพลตฟอร์ม และขจัดโอกาสในการระดมทุนแล้วชิ่งหรือปั่นราคา ซึ่งเป็นเรื่องปกติในโปรเจกต์ขนาดเล็ก

พรีเซลล์ของ Love Hate Inu เพิ่งเริ่มต้นขึ้น โดยนักลงทุนรายแรกๆ กสามารถซื้อโทเค็นได้ในราคาเพียง $0.000105 – ซึ่งถือเป็นราคาที่ถูกกว่าราคาลิสต์เหรียญในอนาคตอย่างมาก! ผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่น่าสนใจดังกล่าวก็สามารถเข้าร่วมช่อง Telegram ที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เริ่มพรีเซลล์	8 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, FIAT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	10 LHINU (0.00084 USDT)
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale

2. DeeLance – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ มาใหม่ที่พร้อมปฏิวัติวงการฟรีแลนซ์

DeeLance เป็รเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ซึ่งมีโทเค็น DLANCE หลักในราคา $0.025 ในช่วงแรกของการ Pre-sale

โปรเจกต์นี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเรา เนื่องจากเป็นโปรเจกต์ที่จะปฏิวัติวิธีจ้างฟรีแลนซ์ โดยตัดคนกลางออกและทำให้กระบวนการทั้งหมดมีความปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

DeeLance กำลังสร้าง Metaverse ของตัวเองที่จะช่วยให้นายจ้างและฟรีแลนซ์สร้างเครือข่ายและทำงานร่วมกัน โฆษณาบริการของตนบนบิลบอร์ด ซื้อที่ดินเสมือน สร้างพื้นที่สำนักงาน และจัดการประชุม

แพลตฟอร์มจะมีระบบข้อเสนอแนะที่มองเห็นได้ซึ่งผู้ใช้สามารถดูคะแนนได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้แนะนำสามารถค้นหาผู้สมัครและฟรีแลนซ์คุณภาพสูงเพื่อหลีกเลี่ยงฟรีแลนซ์คุณภาพต่ำ

DeeLance สัญญาว่าจะจ่ายค่าธรรมเนียมต่ำกว่าคู่แข่งชั้นนำของ Web2 และจะรับประกันว่าการชำระเงินจะรวดเร็ว

เอสโครว์ที่ปลอดภัยจะถูกใช้เพื่อระงับการชำระเงินจนกว่างานจะเสร็จสิ้นตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ จากนั้นจะโอนเงินให้ฟรีแลนซ์ทันที – ด้วยการใช้โทเค็น DLANCE ในการชำระเงิน ก็แทบจะโอนในทันทีและไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชั่นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ

งานที่เสร็จสมบูรณ์จะอยู่ใน Blockchain เป็น NFT เพื่อกำจัดการฉ้อโกงการชำระเงินและการละเมิดลิขสิทธิ์

การ Pre-sale ของ DLANCE เพิ่งเปิดตัวโดยมีราคาเพิ่มขึ้นจาก 0.025 ดอลลาร์เป็น 0.035 ดอลลาร์ในรอบทั้งหกรอบ ไม่มีระยะเวลาให้สิทธิ์สำหรับโทเค็น Pre-sale และกำหนดเป้าระดมทุนไว้ที่ 6.8 ล้านดอลลาร์

ทีมงาน DeeLance ซึ่งผ่านการตรวจสอบและยืนยัน KYC ได้จัดสรร 30% ของจำนวน DLANCE ที่ 1 พันล้านเหรียญให้พร้อมซื้อในช่วง Pre-sale

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DeeLance ก็สามารถอ่านได้ที่ หรือเข้าร่วมกลุ่ม Telegram

เริ่มพรีเซลล์	30 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

3. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ พร้อมแอพ Recycle2Earn ที่ไม่เหมือนใคร

การสำรวจโปรเจกต์คริปโตใหม่ๆ เพื่อค้นหาเหรียญคริปโตที่มีศักยภาพสูงอาจเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม Ecoterra ก็ได้กลายเป็นเหรียญที่มีแนวโน้มสูง พร้อมที่นำเสนอยูทิลิตี้ที่ใช้ได้ในโลกจริง

การใช้ Blockchain ทำให้ Ecoterra จะเข้ามาเปลี่ยนโดเมนคริปโตที่ยั่งยืนโดยขยายความสามารถของบุคคลและองค์กรในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน โดยแพลตฟอร์มจะให้รางวัลแก่ผู้ใช้ผ่านแอพ Recycle2Earn ที่จะมาปฏิวัติวงการ

นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็นหลักของ Ecoterra อย่าง $ECOTERRA ในราคา $0.004 USDT ต่อโทเค็นผ่านทางเว็บไซต์ Pre-sale โดยวิธีการชำระเงินที่รองรับ ได้แก่ ETH/USDT และบัตรเครดิตแอพพลิเคชัน Recycle2Earn ของ Ecoterra สร้างความแตกต่างด้วยการให้โทเค็น Ecoterra แก่ผู้ใช้เป็นรางวัลสำหรับการรีไซเคิล โทเค็นที่สะสมจะสามารถลงทุนหรือใช้สำหรับโปรเจกต์ริเริ่มที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น การกำจัดขยะและโปรเจกต์พลังงานหมุนเวียน

แพลตฟอร์มนี้ยังบันทึกการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ใช้แต่ละคนในโปรไฟล์ของตนเอง ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจก็สามารถสร้าง “โปรไฟล์ที่ติดตามผลงานการรักษ์โลกได้” เพื่อลดผลกระทบด้านลบของกระบวนการผลิตโดยการจัดหาวัสดุจากผู้ใช้ผ่านแพ็คเกจผลกระทบ กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อความยั่งยืนของผู้เข้าร่วมทั้งหมด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ecoterra เน้นตลาดที่สำคัญของการชดเชยคาร์บอนและวัสดุรีไซเคิล ตามที่ระบุไว้ในเอกสารข้อมูล Ecoterra ผู้ใช้สามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนได้ด้วยการบริจาคโทเค็น Ecoterra ให้กับโปรเจกต์ลดคาร์บอนทั่วโลกที่ได้รับอนุมัติ ตลาดวัสดุรีไซเคิลช่วยให้ได้รับวัสดุดังกล่าวได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มรีไซเคิล และอำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรักษ์โลก

โซลูชันที่ปรับเปลี่ยนได้นี้มีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี เครื่องแต่งกาย และการต้อนรับ ความเข้ากันได้ของ Recycle2Earn กับเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) ทั่วโลกจะสร้างศักยภาพในการมีส่วนร่วมกับบุคคลหลายร้อยล้านคน โดยผู้ใช้ที่สนใจจะสามารถเข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุด

เพดานเงินทุน	$6,700,000
โทเค็นทั้งหมด	2,000,000,000
โทเค็นทในช่วงพรีเซลล์	1,000,000,000
Blockchain	เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น	ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ	$10
ซื้อด้วย	USDT, ETH, บัตรเครดิต

ไปยัง Ecoterra Presale

4. Metropoly – วิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินเพียง $100 ในปี 2023

Metropoly เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ในปี 2023 เพราะกำลังสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินเพียง $100 อย่างง่ายดาย โดย Metropoly มีเป้าหมายที่จะเปิดตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กับสาธารณชนในวงกว้างขึ้นโดยการจัดหาช่องทางในการซื้อ NFT ที่ได้รับการสนับสนุนจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งจะทำกำไรให้กับผู้ถือ

Metropoly เป็นตลาด NFT แห่งแรกของโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคในโลกจริง ผ่าน NFT Marketplace โดยนักลงทุนสามารถเริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของพวกเขาได้ในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยเงินเพียง $100 สิ่งนี้ทำได้โดยการถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน ซึ่งสินทรัพย์จะถูกแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพื่อซื้อ

การเป็นเจ้าของหนึ่งใน NFT อสังหาริมทรัพย์ของ Metropoly ช่วยให้ผู้ถือได้รับประโยชน์ทั้งหมดที่คุณคาดหวังจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตัวอย่างเช่น สามารถขาย NFT ได้ตลอดเวลาในตลาดเพื่อใช้ประโยชน์จากมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ NFT ยังสร้างกำไรแบบพาสซีฟสำหรับผู้ถือ โดยรายได้ค่าเช่าที่ได้รับจากผู้เช่าจะกระจายตามสัดส่วนระหว่างผู้ถือ NFT ทั้งหมดในแต่ละเดือนและชำระเป็น USDT

การถือครองหนึ่งใน NFT สร้างรายได้แบบพาสซีฟในขณะที่ทีม Metropoly จัดการทรัพย์สินทั้งหมดในพอร์ตการลงทุน โดยดูแลและบำรุงรักษาทรัพย์สินทั้งหมดและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีผู้เช่าจะจ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือน

สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ Metropoly คือพวกเขาได้สร้างแพลตฟอร์มที่สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อย่าง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้เอกสาร ธนาคาร หรือการตรวจสอบเครดิต นอกจากนี้ยังไม่มีข้อจำกัดด้านประเทศที่อยู่ของผู้ลงทุน ทุกคนบนโลกจึงสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บน Metropoly ได้ เป็นการทำให้อสังหาริมทรัพย์สามารถเข้าถึงได้กับทุกคนอย่างแท้จริงและให้ความสามารถแก่นักลงทุนในการกระจายความเสี่ยงไปยังประเภทสินทรัพย์ที่บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด 1% อันดับแรกของโลกใช้เพื่อสร้างกำไร

ขณะนี้ Metropoly อยู่ระหว่างพรีเซลล์สำหรับโทเค็น METRO ซึ่งจะเป็น utility token และโทเค็นรางวัลบนแพลตฟอร์ม โดยขณะนี้พรีเซลล์อยู่ในรอบที่ 8 และขาย METRO ในราคา 0.05 ดอลลาร์

โดยรวมแล้ว Metropoly พร้อมที่จะปฏิวัติตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยสิ้นเชิง โดยได้เปิดตัวตลาดเวอร์ชันเบต้าซึ่งคุณสามารถเข้าถึงได้ในหน้าพรีเซลล์

ไปยัง Metropoly Presale ตอนนี้

5. Swords of Blood – เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ สำหรับ GameFi ในปี 2023

Swords of Blood เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ แห่งวงการ GameFi เนื่องจากพร้อมที่จะเปลี่ยนวิธีแบบ play-to-earn โดยแนะนำรูปแบบ play-to-win และ play-to-own เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ Swords of Blood ยังเป็นแนว RPG แนวแฮ็กแอนด์สแลชคุณภาพ AAA

เกมดังกล่าวเป็นเกมล่าสุดจาก Hit Box Games LLC ซึ่งซื้อสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับเกมเวอร์ชัน Web2 เวอร์ชันแรก โดยเวอร์ชัน Web2 เรียกว่า Blood Bound ซึ่งเผยแพร่โดย Artifex Mundi ในปี 2019 ซึ่งจัดการเพื่อดึงดูดการดาวน์โหลดมากกว่าสี่ล้านครั้ง เกมดังกล่าวยังคงมีชุมชนเกมที่ใช้งานอยู่โดยมียอดผู้เล่นที่คงที่ยอดเยี่ยม และตอนนี้ HitBox Games ยังมาพร้อมกลไกแบบ play-to-own และ play-to-win ในเกม Web2 และนำเข้ามาสู่วงการ Web3

เกมแฮ็คแอนด์สแลชที่น่าดื่มด่ำจะเต็มไปด้วยสุดยอดตำนานแห่ง World of Ezura ที่โลกต้องประสบกับความมืดมิดเป็นเวลากว่า 1,000 ปีหลังจากที่ Dragon Betrayer ได้กวาดล้าง Bladebound Order ที่สาบานว่าตนจะปกป้องโลก

เคราะห์ดีที่เทพธิดานิรันดร์ชุบชีวิตคนสุดท้ายในเชื้อสายของ Bladebound Order เพื่อนำ Ezura กลับสู่สภาพเดิม

ในเกม ผู้เล่นสามารถกลายเป็นนักตระเวนดันเจี้ยน จอมเวทย์ หรือนักรบที่ทรงพลัง ผู้เล่นต้องฟันฝ่าผ่านโหมดแคมเปญ ต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ในโหมดดันเจี้ยนล่ามอนสเตอร์ หรือร่วมทีมกับเพื่อนๆ เพื่อต่อสู้กับบอสตัวร้ายใน Boss Fortress

ระหว่างทาง ผู้เล่นสามารถสร้างอาวุธเวทมนตร์และดาบที่ทรงพลัง ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าอาวุธนั้นๆ เสริมความเชี่ยวชาญในอาวุธที่หลากหลาย และสร้างการผสมผสานการโจมตีทำลายล้างเพื่อให้มีพลังมากขึ้น

ทีมงาน Swords of Blood นำโดย James Seamon ผู้ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 35 ปีในวงการเกม พวกเขาต้องการให้ Swords of Blood เป็นประตูสำหรับเกมเมอร์แบบดั้งเดิมที่หันมาใช้เกม Web3 ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนที่จะเปิดตัว Swords of Blood เป็นผลิตภัณฑ์ข้ามแพลตฟอร์มบนมือถือและเดสก์ท็อป

โปรเจ็กต์พร้อมที่จะโฮสต์การ Pre-sale สำหรับโทเค็นหลัก $SWDTKN โดยโทเค็นหลักจะเป็น utility token หลักในเกม โดยค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม และรางวัลทั้งหมดจะจ่ายเป็น $SWDTKN นอกจากนี้ ผู้เล่นจำเป็นต้องซื้อโทเค็นเพื่อความก้าวหน้าในเกมและก้าวผ่านระดับฮีโร่ที่กำหนดไว้

เกมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากค่ายรุ่นใหญ่ในอุตสาหกรรม เช่น Fundamental Labs, Solana Ventures และ Gate.io Labs

โดยรวมแล้ว Swords of Blood มีองค์ประกอบทั้งหมดของโปรเจกต์พิเศษที่พร้อมจะยกระดับวงการ GameFi ทั้งหมดและดึงดูดผู้ใช้หลักให้เล่นเกมบน Blockchain

ไปยัง Swords of Blood ตอนนี้

6. RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse มาใหม่ที่เปิดตัวพฤศจิกายน 2022

RobotEra เป็นแพลตฟอร์มเกม metaverse ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมโปรโตคอล NFT และวิธีการหารายได้ในเกมโดยใช้ประโยชน์จาก TARO เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของแพลตฟอร์ม

เช่นเดียวกับที่โทเค็น metaverse เช่น The Sandbox ได้ให้ผลตอบแทน 1,000 เท่าในช่วง ICO (การเสนอขายเหรียญเริ่มต้น) RobotEra ตั้งเป้าที่จะบรรลุจุดสูงสุดที่ใกล้เคียงกันผ่านการรอบพรีเซลของ TARO

RobotEra เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 TARO เสนอขายโทเค็น 270 ล้านโทเค็นก่อนการขาย ซึ่งคิดเป็น 15% ของอุปทานโทเค็นทั้งหมด (1.8 พันล้านเหรียญ) และขายโทเค็นไปแล้วมากกว่า 200,00o ดอลลาร์

ด้วย TARO นักลงทุนสามารถมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ metaverse ที่เหมือนดาวเคราะห์ของ RobotEra ในฐานะหุ่นยนต์

หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบ NFT บน Ethereum blockchain และมีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 ตัว มีหุ่นยนต์ NFT ที่แตกต่างกัน 7 ตัว ซึ่งมีอยู่ใน 7 ทวีปบนดาวเคราะห์ทาโร

ผู้เล่นสามารถเข้าถึงระบบนิเวศโดยการซื้อ Robot NFT และเข้าถึงที่ดิน NFT พิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นแบบดิจิทัล และกิจกรรมการขุดเพื่อรับรางวัล

ผู้เล่นสามารถสร้างบนแปลง metaverse ของพวกเขาและสร้างรายได้จากมันได้หลายวิธีตั้งแต่การขายตั๋วไปจนถึงงานอีเวนต์ไปจนถึงการขายโครงสร้างหรือขายพื้นที่ป้ายโฆษณาให้กับผู้ลงโฆษณา

โทเค็น ERC-20, TARO สามารถนำไป stake เพื่อมีส่วนร่วมในองค์กรปกครองตนเองแบบกระจายอำนาจ (DAO) โดย RobotEra DAO ช่วยให้ผู้เล่นตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาในเกมและกระจายอำนาจให้กับผู้เล่นของแพลตฟอร์ม

ในขณะที่เหรียญคริปโตขนาดใหญ่เช่น Bitcoin ได้รับการปรับฐานราคาในปี 2023 การขายรอบพรีเซลของ crypto กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง ขณะนี้ TARO อยู่ในช่วงแรกของพรีเซลล์ทั้งหมดสามรอบ โดยซื้อขายที่ราคา $0.020 ณ ตอนนี้

นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อโทเค็นราคาถูกเนื่องจากราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.032 ดอลลาร์ในรอบพรีเซลสุดท้าย

อ่านเอกสารข้อมูลของ RobotEra และเข้าร่วมช่อง RobotEra Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดด้วยสกุลเงินดิจิทัลราคาไม่ถึงบาทใหม่นี้

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

7. Tamadoge – เหรียญคริปโตมาใหม่ ในโลก Metaverse

สินทรัพย์เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่น่าลงทุนคือเหรียญ Tamadoge (TAMA) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของ Tamaverse เกม play-to-earn ที่ให้ผู้ใช้สามารถผสมพันธุ์และสร้างสัตว์เลี้ยง Tamadoge ผู้ใช้สามารถต่อสู้กันเองเพื่อไต่อันดับบนกระดานอันดับรายเดือนและรับรางวัลเป็น TAMA

เมื่อวันที่ 18 กันยายน Tamadoge ได้เสร็จสิ้น Pre-sale หลังจากรวบรวมเงินได้ 19 ล้านเหรียญ แม้จะอยู่ในช่วงตลาดขาลง แต่โทเค็นก็สามารถขาย Pre-sale ในระยะเวลา 90 วันได้ภายในเวลาเพียงแปดสัปดาห์ และมูลค่าเหรียญก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นในกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งสูงถึงเกือบ 2,000% สำหรับนักลงทุนรายแรกๆ

เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ เป็น multi-utility token ที่มีอุปทานสูงสุด 2 พันล้านโทเค็น ด้วย TAMA ผู้ใช้สามารถซื้อสัตว์เลี้ยง Tamadoge NFT ได้ที่ร้านค้า Tama – ซึ่งเป็นตัวแทนหลักของระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจนี้

ข้อดีอีกอย่างของ TAMA คือการเป็นสินทรัพย์ที่อุปทานจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งแตกต่างจาก Dogecoin ซึ่งได้เพิ่มอุปทานสูงสุดจาก 100 พันล้านเป็น 132 พันล้านโทเค็น TAMA จะลดอจำนวนเหรียญในปัจจุบันในระยะยาว เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นซื้อสินค้าจากร้าน Tama 5% ของ Tamadoge ที่ใช้ไปทั้งหมดจะถูกเผาทิ้ง นอกจากนี้ 30% ของโทเค็นที่ใช้ไปจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ส่วนอีก 65% ที่เหลือจะถูกแจกจ่ายใน P2E Prize Pool เป็นรางวัล

โดยอีก 50% ของจำนวนโทเค็นได้เปิดขายไปแล้วในช่วง Pre-sale แต่อีก 20% ของ TAMA ถูกเก็บไว้สำหรับการลิสต์ในอนาคตบน decentralized และ centralized exchange

ตามแผนงานของแพลตฟอร์ม Tamadoge คาดว่าจะสร้างหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์กับหลายๆโครงการ metaverse ในอีกไม่กี่ปี แพลตฟอร์มดังกล่าวจะเปิดตัว Tamadoge Onramper ให้ผู้ใช้ซื้อ TAMA ด้วยสกุลเงินที่เหมาะสมผ่าน MetaMask และ Wallet Connect ทีม Tamadoge ยังต้องการปล่อยแอป Augmented Reality (AR) และจะเริ่มเปิดตัวเว็บไซต์ในอีกไม่กี่ปีนี้ ทำให้ Tamadoge เป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่สุด

เหรียญยังอยู่ในเหรียญมีม 10 อันดับแรกนับตั้งแต่เปิดตัวและดูเหมือนว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อสภาพตลาดกลับมาฟื้นตัว โดย Tamadoge จะมีการเปิดตัวครั้งใหญ่ในระบบนิเวศในปี 2023

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

8. Battle Infinity (IBAT) – สุดยอดเหรียญคริปโตแห่งปี 2023

นักลงทุนที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึงบาทไม่ควรมองข้าม Battle Infinity ด้วยระบบนิเวศแบบ metaverse ที่เหมือนจะเป็นกระแสในตลาดเหรียญคริปโต ด้วยองค์ประกอบ play-to-earn (P2E) มากมายที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างรายได้ ทั้งยังรวมระบบ NFT เข้าด้วยกัน ทำให้ Battle Infinity เป็นแพลตฟอร์ม ‘all-in-one’ ขนานแท้ ซึ่งได้รับการยืนยัน KYC โดย CoinSniper แล้ว

องค์ประกอบหกส่วนที่มอบประสบการณ์ Battle Infinity คือ แต่ละอย่างให้คุณสามารถสร้างรายได้ที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งรวมถึงกลไกการ staking เหรียญคริปโต (ที่ทำได้ทั้งแบบเดี่ยว/คู่) และตลาด NFT ในตัว ทั้งยังมี ‘ร้านค้าเกม’ ที่มีเกม NFT มากมาย พร้อมกับระบบ P2E ของตนเอง

Battle Infinity จะมอบประสบการณ์ลีกกีฬาแฟนตาซีสุดพิเศษ ซึ่งโฮสต์บนบล็อกเชนที่รวมเข้ากับ NFT ผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็น $IBAT จากการเล่นที่ต้องใช้ทักษะ ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Battle Infinity โดยจะมี supply รวม 10,000 ล้านโทเค็น พร้อมระบบ ‘ภาษีอัตโนมัติ’ ที่เรียกเก็บเงินจำนวนเล็กน้อยในแต่ละธุรกรรมโทเค็น และจะสามารถใช้งานได้หลากหลายภายในระบบนิเวศ

ทุกอย่างบน Battle Infinity จะรวมเข้ากับโลกเสมือนจริงที่เรียกว่า ‘Battle Arena’ ผู้ใช้สามารถสร้างอวาตาร์ที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระ เชื่อมต่อกับผู้ใช้รายอื่น รวมทีม และพิชิตชาเลนจ์ต่างๆด้วยกัน ซึ่งกลุ่ม Telegram ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็เริ่มเติบโตแล้ว (โปรดจำไว้ว่าแอดมินจะไม่ส่งข้อความหาคุณก่อน) เหรียญคริปโตราคาถูกนี้เหมือนว่ากำลังจะได้รับความสนใจอย่างมากในอนาคต

กำหนดพรีเซลล์ Battle Infinity 90 วัน ได้หมดในเวลาเพียง 24 วัน ซึ่งแผนการพัฒนากำลังจะเข้าสู่เฟสถัดไปเร็วขึ้น IBAT ได้ถูกลิสบน PancakeSwap และ LBank และมีมูลค่าตามราคาตลาดที่ 1.4 พันล้านบาท โดยกำลังจะถูกลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนเจ้าใหญ่ในอีกไม่ช้า

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

9. Lucky Block – เหรียญคริปโตตัวท็อป แห่งโลกคริปโตเกมมิ่ง

Lucky Block เปิดตัวในเดือนมกราคม 2022 และกำลังกลายเป็นตัวเลือกเด็ดสำหรับเหรียญคริปโตราคาไม่ถึงบาท เราจะอธิบายว่าอะไรทำให้นี่เป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$

นี่เป็นเกมคริปโตและเป็นแพลตฟอร์มการแข่งขันที่ ‘ทุกคนคือผู้ชนะ’ ด้วยการจับรางวัลโดยใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ บล็อกเชนช่วยให้ทำธุรกรรม ทำเอกสาร และทำการควบคุมได้เร็วขึ้น โดยไม่คำนึงถึงจำนวนเงินรางวัลภายในเกม

นอกจากนี้ บล็อกเชนยังตรวจสอบทั้งผู้เล่นและตั๋ว เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงหรือการทำข้อมูลสูญหาย แน่นอนว่าการจับรางวัลแบบดั้งเดิมก็สำคัญ เพราะมักจะมีผลต่อการจ่ายเงินและรายได้สำหรับการแจกจ่ายรางวัล

ไม่ต้องบอกเลยว่าถ้าเกมสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ก็แปลว่าผู้เล่นก็จะได้ทั้งความก้าวหน้าทางเทคนิคและได้เงินรางวัลที่มากขึ้น Lucky Block จะลดระยะเวลาการจับรางวัลให้สั้นลงและให้เล่นหลายๆเกมได้ตลอดทุกวัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะของผู้เล่นในขณะที่ค่าใช้จ่ายก็จะลดลงไปด้วย

ระบบอัตรากำไรต่ำสามารถให้ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมการแข่งขันของ Lucky Block ที่ตรงกับระดับความเสี่ยงของตนเพื่อได้รับโอกาสที่ดีขึ้น Lucky Block ยังได้พัฒนาโทเค็น NFT ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 เหรียญ นอกจากจะเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ NFT มาใหม่ที่ดีที่สุดแล้ว มันยังเป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่เหมาะสำหรับพอร์ตการลงทุนของทุกคน 

Lucky Block กำลังเสนอรางวัลใหญ่ ซึ่งตอนนี้ได้รวมวันหยุดสุดพิเศษ รถลัมโบร์กินี มูลค่า 10 ล้านบาท บ้านมูลค่า 36 ล้านบาท และบิตคอยน์มูลค่า 36 ล้านบาท

โครงการได้เปิดตัวโทเค็น V2 ซึ่งอยู่บน Ethereum และลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลง 12% ของโทเค็น V1 ซึ่งขณะนี้มีลิสอยู่ในการกระดานแลกเปลี่ยนบางเจ้า และกำลังจะเพิ่มมากขึ้น ผู้ถือ LBLOCK V1 สามารถแปลงเป็น V2 ได้ในวันที่ 3 ตุลาคมเมื่อเริ่มเปิดใช้งาน โดยจะเผา 1% ของโทเค็นต่อเดือน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน เพื่อลด supply

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

10. DeFi Coin – เหรียญคริปโต DeFi ที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่มีคอมมูนิตี้สนับสนุนในการซื้อและถือยาว

DeFi Coin เป็นโครงการที่ถูกขับเคลื่อนโดยคอมมูนิตี้อย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่ดีที่สุดในตอนนี้ เหรียญคริปโตราคาถูกตัวนี้เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมระบบนิเวศแบบ decentralized finance (DeFi) โดยแพลตฟอร์มที่ลิสเหรียญ DeFi Coin ก็เริ่มมีมากขึ้น

จำนวนโทเค็น DeFi Coin ที่มีอยู่จะถูกจำกัดไว้ที่ร้อยล้าน โดยโครงการ DeFi Coin ใช้การสะท้อน การเผาเหรียญเอง และการซื้อ LP ซึ่งทั้งหมดล้วนถูกออกแบบมาเพื่อรักษาระบบนิเวศของ DeFi Coin ให้คงอยู่และมีคุณภาพ

เว็บไซต์ DeFiCoins.io ก็ได้รับการสนับสนุนจากโทเค็นนี้ ส่วน DeFi Coin ถูกสร้างขึ้นบน Binance Smart Chain ซึ่งทำให้โครงการสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วรวดเร็วและยังมีค่าแก๊สต่ำ

DeFi Coin จะให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนของแบบเดียวกับการซื้อขาย NFT โดยทุกคนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม 10% ให้กับเครือข่าย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ถือ DeFi Coin ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

จุดประสงค์ของการทำแบบนี้เพื่อลดความผันผวนของราคา ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมครึ่งหนึ่งจะถูกส่งคืนให้ผู้ถือ DeFi Coin ในขณะที่อีก 5% ที่เหลือจะถูกสำรองไว้เพื่อให้มีสภาพคล่องสำหรับการแลกเปลี่ยนแบบ decentralized 

การซื้อและถือโทเค็น DeFi Coin มีข้อดีมากมาย หนึ่งในนั้นคือมันจะรวบรวมเงินปันผลผ่านโครงสร้างรางวัลแบบคงที่ โดยพื้นฐาน หากคุณลงทุนในเหรียญคริปโตนี้ คุณจะสามารถเพิ่มจำนวนโทเค็น DeFi Coin ที่คุณมีได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าคุณอยากซื้อเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุด โปรดอ่านคำแนะนำของเราเพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม

ซื้อ DeFi Coin ตอนนี้

เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ คืออะไร?

เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$คล้ายกันกับหุ้น ด้วยราคาไม่ถึง 5 ดอลล่าร์ หรือน้อยกว่า 180 บาทต่อเหรียญ ถือว่าราคาไม่แพงที่จะลงทุนแม้จะมีความเสี่ยงสูง ซึ่งมันน่าดึงดูดต่อนักเทรดคริปโตไม่น้อย

วันนี้เราจะอธิบายเรื่องเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ ที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่คุณต้องมั่นใจว่าคุณได้ศึกษามาดีแล้ว ก่อนที่จะเอาเงินที่หามาอย่างลำบากไปเสี่ยงกับเหรียญคริปโตราคาถูกที่สุดแบบนี้

เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ เป็นการลงทุนที่ดีไหม?

เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ ที่ดีควรมีมูลค่าเพิ่มเมื่อเวลาผ่านไป มิฉะนั้น การเพิ่มมันลงบนพอร์ตการลงทุนอาจฟังดูไร้สาระ

ด้านล่างนี้เราจะพูดถึงเหตุผลบางข้อ ที่จะช่วยคุณตัดสินใจซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ 

คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินในบัญชีเยอะ เพื่อซื้อเหรียญคริปโตราคาถูก

ข้อดีที่ชัดเจนที่สุดของการเรียนรู้วิธีซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ คือ คุณไม่จำเป็นต้องมียอดเงินในบัญชีมากมาย

จากโทเค็นทั้งหมดที่ราคาต่ำกว่า 180 บาท คุณสามารถลงทุนในเหรียญคริปโตต่างๆ หลายร้อยสกุลในราคาที่ถูกกว่า Bitcoin หรือ Ethereum เหรียญเดียว

แพลตฟอร์มเหรียญคริปโตที่มีการรับรอง อย่าง eToro.com ให้คุณฝากขั้นต่ำเพียง 360 บาทสำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ

เหมือนการซื้อหุ้นที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่ดีที่สุด เพื่อกระจายการลงทุนของคุณ

เช่นเดียวกับการซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ คุณสามารถลดความเสี่ยงโดยการไม่นำเงินหลายร้อยหรือหลายพันล้านบาทไปลงในสินทรัพย์เก็งกำไรเพียงอย่างเดียว

แม้จะยังมีความเสี่ยงอยู่ แต่คุณไม่จำเป็นต้องทุ่มหมดหน้าตักลงในสิ่งเดียว ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างพอร์ตคริปโตแบบกระจายการลงทุน ด้วยเงินเพียงเล็กน้อย

eToro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เสนอเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่เราได้พูดถึงในวันนี้

ยังมีเจ้าอื่นๆ อีกมากมาย ที่ค่าคอมมิชชั่นต่ำ ลงทุนแค่ 360 บาท และคุณยังสามารถเข้าถึงเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์สหรัฐ ด้วยค่าคอมมิชชั่น 0%

วิธีซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ – เหรียญ LHINU

คำแนะนำของเราสำหรับเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในการลงทุนคือ LHINU

• ขั้นตอนที่ 1 – สร้าง Cryptocurrency Wallet: ดาวน์โหลด crypto wallet เช่น MetaMask และเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ Love Hate Inu
• ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ ETH/USDT และเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน: LHINU สามารถแลกเปลี่ยนกับโทเค็น ERC-20 อื่นๆ เช่น USDT หรือ Ethereum สามารถซื้อได้จากกระดานแลกเปลี่ยน crypto ที่เหมาะสมและโอนไปยังกระเป๋าเงิน crypto ที่เกี่ยวข้องของคุณ หรือซื้อโดยตรงจากเว็บไซต์ของ Love Hate Inu ผ่าน Transak หลังจากซื้อโทเค็นแล้ว ให้ไปที่เว็บไซต์แล้วคลิก ‘เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน’
• ขั้นตอนที่ 3 – ซื้อ LHINU: หลังจากเชื่อมต่อกระเป๋าเงินแล้ว ให้เลือกซื้อ LHINU ด้วย Ethereum หรือ USDT เลือกจำนวนโทเค็นที่คุณต้องการซื้อ และดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้นโดยเลือก ‘แปลง’
• ขั้นตอนที่ 4 – รับเหรียญ LHINU: หลังจากการขายรอบพรีเซลของ Love Hate Inu สิ้นสุดลง ผู้ค้าสามารถเข้าถึงโทเค็นของตนได้จากเว็บไซต์ของแพลตฟอร์ม

ไปยัง Love Hate Inu ตอนนี้

ซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ได้ที่ไหน

หากคุณสนใจที่จะซื้อเหรียญคริปที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ อื่นๆ ที่เราได้กล่าวถึงในวันนี้ eToro เป็นที่ที่ดีที่สุดในการลงทุนของคุณ และนี่คือเหตุผล

eToro – แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ 2023

eToro เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ แห่งปี 2023 เพราะแพลตฟอร์มมอบสิทธิประโยชน์มากมาย ด้วยต้นทุนการเทรดที่ต่ำ บน eToro คุณต้องจ่ายเพิ่มเพียง 1% เพื่อเทรดเหรียญคริปโตราคาถูกที่คุณเลือก ทาง eToro ยังให้คุณเข้าถึง 59 เหรียญคริปโต รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ มากมาย

eToro มีแอปสำหรับเก็บเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ด้วยวอลเล็ต eToro Money ที่มาในรูปแบบของแอปคริปโต ซึ่งจะป้องกันการลงทุนของคุณด้วยระบบความปลอดภัยมากมาย โดยมีทั้งโปรโตคอลมาตรฐาน การป้องกัน DDoS กลไกแบบซับซ้อนที่เป็นจุดเด่น และอื่นๆ

โบรกเกอร์นี้ให้บริการเทรดเดอร์มากกว่า 25 ล้านคนและอยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง รวมถึง ก.ล.ต. และ FCA โดยคริปโตวอลเล็ตที่ได้อธิบายไปก็ได้รับการรับรองโดย GFSC ส่วนกระดานเทรดหลักก็ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

นักลงทุนที่ไม่สะดวกใจที่จะคอยจับตาดูกระเป๋าเงินหรือกุญแจส่วนตัว ก็สามารถทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นด้วยการเลือกซื้อเหรียญคริปโตบนกระดานเทรดหลัก เมื่อคุณทำการสั่งซื้อ eToro จะเพิ่มโทเค็นลงในพอร์ตของคุณ ให้คุณเข้าถึงได้ทุกเวลาเมื่อคุณล็อกอินเข้าสู่ระบบ

ทั้งยังสามารถถอนเงินออกง่ายๆ โดยโบรกเกอร์จะซื้อโทเค็นคืน ซึ่งเงินลงทุนขั้นต่ำคือ 360 บาท บน eToro หากคุณตัดสินใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาแพงกว่าทีหลัง แพลตฟอร์มยังรองรับการเทรดโดยใช้เงินเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้ ซึ่งคุณยังสามารถเข้าถึงหุ้นและ ETF ด้วยค่าคอมมิชชั่น 0% หากคุณต้องการกระจายความเสี่ยงในภายหลัง

คุณสามารถเลือกใช้แนวทางการเทรดได้หากต้องการ eToro นำเสนอพอร์ตการลงทุนอัจฉริยะที่เน้นไปที่เหรียญคริปโต ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถจัดสรรเงินไปลงโทเค็นที่เลือกสรรมาอย่างดี โดยมีให้เลือกถึง 12 แบบ และอีกมากมายที่เน้นไปที่ตลาดอื่นนอกจากคริปโต 

การเทรด copy trade เป็นหนึ่งในระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบน eToro และก๊อปปี้เทรดเดอร์ก็ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เฉลี่ย 30.4% ในปีที่แล้ว เลือกเทรดเดอร์มืออาชีพที่ลงทุนในตลาดคริปโต และลงทุนเงินบางส่วนของคุณให้พวกเขา ทุกครั้งที่พวกเขาเทรดเหรียญคริปโต พอร์ตของคุณก็จะเทรดตามไปด้วย ตามสัดส่วนจำนวนเงินที่คุณจัดสรรเอาไว้

ตัวเลือกการชำระเงินก็มีมากมาย ตั้งแต่ e-wallets เช่น Skrill, PayPal และ Neteller คุณยังสามารถลงเงินทุนในการลงทุนเหรียญคริปโตโดยใช้บัตรเครดิต/เดบิต โอนเงินผ่านธนาคาร หรือธนาคารออนไลน์ และจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน สำหรับลูกค้าในประเทศไทย

ซื้อเหรียญคริปโตบน eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

ข่าวล่าสุด

สุดท้าย มาดูเหตุการณ์ข่าวคริปโตเพนนีที่สำคัญสำหรับสัปดาห์ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2023 อย่างรวดเร็ว เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ล่าสุด:

• การศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดย RockawayX พบว่าการลงทุน VC ในบริษัทสตาร์ทอัพคริปโตทั่วยุโรปพุ่งสูงสุดเป็น All Time High ในปีที่แล้ว โดยมีการลงทุนรวม 5.7 พันล้านดอลลาร์ในสตาร์ทอัพเหล่านี้ ซึ่งขณะนี้รวมแล้วกว่า 3,900 บริษัท
• MakerDAO องค์กรที่ควบคุม DAI Stablecoin ได้ลงมติให้ USDC เป็นสินทรัพย์หลักประกันหลัก มีการลงคะแนนเสียงในเรื่องนี้ โดย 79% ของชุมชนเลือกที่จะใช้งาน USDC ต่อไป
• มูลค่า Cardano (ADA) พุ่งขึ้นกว่า 17% ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากทำสถิติต่ำสุดใหม่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม จากการเคลื่อนไหวล่าสุดของธนาคารกลางของสหรัฐฯ รวมกับการเปิดตัวการอัปเกรดเครือข่ายใหม่ของ Cardano ที่ได้ช่วยเพิ่มแรงผลักดันจากนักลงทุน

สรุป

ในคู่มือนี้ เราได้วิเคราะห์เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1$ ที่น่าซื้อที่สุด รวมถึงหุ้นที่เน้นบล็อกเชน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุนในตลาด ในแง่ของวิธีการซื้อเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ เราขอแนะนำแพลตฟอร์มที่มีการรับรองอย่าง eToro 

เราถือว่าหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือ LHINU ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลักของระบบนิเวศ Vote to Earn ของ Love Hate Inu โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ 0.000095 USDT ในช่วงพรีเซลล์ ซึ่ง LHINU พร้อมให้ซื้อในราคาแสนถูก เมื่อเทียบกับราคาลิสต์เหรียญลงกระดานเทรด

เหรียญคริปโตที่มีการเผาโทเค็นทิ้ง จะทำให้อุปทานหมุนเวียนลดลง เช่น  Dash 2 Trade (D2T), BNB หรือ Terra Classic (LUNC) ซึ่งจะช่วยรักษามูลค่าได้ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ในคู่มือนี้ เราได้รวบรวมเหรียญคริปโตอุปทานลดลง ที่อัปเดตล่าสุดในปี 2023 จากตัวอย่าง Terra Classic มีอัตราการเผาเหรียญคริปโตทิ้ง 1.2% เพื่อลดอุปทานทั้งหมด และจากข่าวดังกล่าวส่งผลให้ในเดือนกันยายน ราคาของ LUNC เพิ่มขึ้นมากกว่า 70% ภายในวันเดียว และเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ภายในหนึ่งสัปดาห์ 

แนะนำ “เหรียญคริปโตอุปทานลดลง”

• FightOut – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงโดยรวมดีที่สุด ที่ควรซื้อในช่วงพรีเซล
• Tamadoge (TAMA) – เหรียญมีมใหม่ล่าสุดที่มีอัตราการเผาเหรียญคริปโต 5%
• Lucky Block (LBLOCK) – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่มีอัตราการเผาเหรียญคริปโตที่ 1% ของภาษีธุรกรรม
• Terra Classic (LUNC) – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่มีอัตราการเผาเหรียญคริปโต ทิ้ง 1.2% ในปี 2023  
• Binance Coin (BNB) – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง

ไปยัง FightOut ตอนนี้

ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเหรียญคริปโตอุปทานลดลง

• ตามกฎของอุปสงค์และอุปทาน หากสินทรัพย์มีปริมาณลดลง จะทำให้มูลค่าต่อหน่วยที่แท้จริงเพิ่มขึ้น
• ความขาดแคลนและอุปทานที่ลดลงอย่างจำกัด เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ราคาโทเค็นสูงขึ้น
• สินทรัพย์ที่มีอุปทานไม่จำกัด ต้องพยายามที่จะรักษามูลค่าของเหรียญเอาไว้ เช่น Dogecoin (DOGE), Green Satoshi Token (GST)
• โครงการคริปโตที่ดีที่สุดหลายโครงการ รวมกลไกการเผาเหรียญทิ้งด้วยตนเองและกลไกการเผาเหรียญทิ้งอัตโนมัติเข้าด้วยกัน อัปเดต – การประกาศล่าสุดของ Terra Classic ส่งผลให้ราคา LUNC พุ่งสูงขึ้นทันที

ซื้อ Terra Classic บน eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง และไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

รีวิวเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่ดีที่สุด

ด้านล่างนี้จะเป็นการเจาะลึกเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่ดีที่สุด รวมถึงวิธีการทำงานของแต่ละเหรียญ:

1. FightOut – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงโดยรวมดีที่สุด ที่ควรซื้อในช่วงพรีเซล

โทเค็น $FGHT เป็นเหรียญคริปโตหลักของ FightOut อยู่ระหว่างการขายพรีเซล และนักลงทุนมีเวลาจำกัดก่อนที่ปริมษโทเค็นในช่วงพรีเซลจะลดลงเพราะมีการแจกโบนัสโทเค็น 50% ซึ่งจะมีเหรียญน้อยลงเมื่อการขายล่วงหน้าสิ้นสุดลง

ระบบนิเวศนี้ได้จัดสรรเพียง 10% ของอุปทานเหรียญทั้งหมดเพื่อแลกเปลี่ยนสภาพคล่อง FightOut ระดมทุนได้มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่วันนับตั้งแต่เปิดตัว และจะต้องระดมทุนอีก 2.8 ล้านดอลลาร์เท่านั้นก่อนที่จะไม่มีการแจกโบนัสโทเค็นอีกต่อไป ซึ่งจะลดจำนวนโทเค็นที่มีอยู่ในการขายล่วงหน้าลงอย่างมาก

การขายล่วงหน้าประกอบด้วย 90% ของการจัดสรรโทเค็น 10 พันล้านโทเค็น และเสนอแต่ละโทเค็นที่ $0.016

ผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นโทเค็นสำหรับการใช้ชีวิตที่แอคทีฟ เนื่องจาก FightOut จะสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้ที่ออกกำลังกายและเอาชนะชาเลนจ์ต่างๆได้สำเร็จ ขยายชุมชน และได้รับตรา ระบบนิเวศนำเสนอสกุลเงิน REPS ในแอปและช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกรับการสมัครสมาชิก สินค้า และแม้แต่การเป็นสมาชิกโรงยิม FightOut ซึ่งจะตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลก

การพัฒนาความแข็งแกร่งของผู้ใช้จะถูกถ่ายโอนไปยังอวาตาร์ของพวกเขา เมื่ออวาตาร์แข็งแกร่งพอ ก็สามารถเข้าสู่เมตาเวิร์สและแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นเพื่อชนะทัวร์นาเมนต์และรับโทเค็นรางวัล

FightOut โดดเด่นกว่าระบบนิเวศ move to earn ส่วนใหญ่ เนื่องจากที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ที่เคลื่อนไหว ขยับร่างกาย หรือนับจำนวนก้าว การเข้าร่วมคลาสออกกำลังกาย และการออกกำลังกายบอดี้เวท

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญนี้มีอยู่ในกลุ่ม Telegram และเอกสารรายงาน FightOut

โทเค็น presale ส่วนใหญ่จะถูกลบในไม่ช้า ดังนั้นนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ราคาต่ำจำเป็นต้องดำเนินการตอนนี้และซื้อโทเค็น FGHT

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. Dash 2 Trade – นวัตกรรมเหรียญ Crypto Signals ที่มีอุปทานจำกัด

เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในช่วงตลาดซบเซา คืออะไร? คงไม่มีเหรียญไหนที่ดีไปกว่า D2T เพราะด้วยปริมาณโทเค็นที่จำกัดเพียงแค่ 1 พันล้านโทเค็น ทำให้ Dash 2 Trade (D2T) กลายเป็นสุดยอดเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่น่าลงทุนในปี 2023 โทเค็น D2T เป็นโทเค็นหลักของ Dash 2 Trade ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครื่องมือวิเคราะห์ครบวงจร ที่ช่วยให้นักลงทุนขั้นสูงและมือใหม่ ตัดสินใจเทรดคริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โทเค็น D2T มีอุปทานที่วางขายในช่วงพรีเซลรวม 700 ล้านเหรียญ ซึ่งทยอยให้ลงทุนผ่านการพรีเซลทั้ง 9 รอบ

ในขณะนี้ อยู่ในระหว่างการพรีเซลรอบ 3 โดยราคาของ D2T อยู่ที่ 0.0513 ต่อโทเค็น หลังจากการขายพรีเซลสิ้นสุดลง ไวท์เปเปอร์ของ Dash 2 Trade ระบุไว้ว่าแดชบอร์ดของแพลตฟอร์มจะเปิดตัวให้ใช้งานได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2023

นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากโทเค็นของตน ในการสมัครสมาชิกระดับเริ่มต้นหรือระดับพรีเมี่ยมได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ที่ 400 และ 1,000 D2T ตามลำดับ ซึ่งในกรณีนี้ เท่ากับว่าค่าสมัครสมาชิกระดับพรีเมี่ยมจะอยู่ที่ประมาณ 51 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในการขายพรีเซลรอบที่ 9 ราคาโทเค็นจะเพิ่มเป็น  0.0662 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 32.4%

เพื่อให้การเข้าถึงแพ็คเกจพรีเมี่ยมใช้เงินน้อยที่สุด นักลงทุนจึงควรซื้อโทเค็นในระหว่างการพรีเซลรอบที่ 3 ที่กำลังดำเนินอยู่ โดยสมาขิกระดับพรีเมี่ยมจะสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย เช่น ฟีเจอร์การเทรดอัตโนมัติ, การเข้าถึงโครงการพรีเซล, การแจ้งเตือนราคาใหม่ และดัชนีชี้วัดทางเทคนิคและกระแสสังคม นอกจากนี้ Dash 2 Trade ยังมีแพลตฟอร์มการตรวจสอบย้อนหลัง, โปรไฟล์วิเคราะห์ความเสี่ยง และสัญญาณการเทรดต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนในการเข้าซื้อคริปโตเคอเรนซี่ออกใหม่

เหรียญคริปโตที่อุปทานลดลงจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากจะส่งผลให้ความต้องการเหรียญเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมากต้องการสมัครแพ็คเกจเริ่มต้นหรือพรีเมี่ยม โดยปัจจุบัน D2T ระดมทุนไปแล้วมากกว่า 7 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เริ่มเปิดขายพรีเซลเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นอกจากนี้ Dash 2 Trade ยังมีการแจกรางวัล D2T มูลค่า 150,000 ดอลลาร์ ให้แก่ผู้โชคดีที่ซื้อโทเค็นในช่วงพรีเซล

เริ่มขายพรีเซล	19 ตุลาคม
วิธีการชำระเงิน	ETH, USDT, Transak
เชน	Ethereum
เงินลงทุนขั้นต่ำ	1,000 D2T
เงินลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

เข้าร่วม Telegram ของ Dash 2 Trade เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุด และการพัฒนาของสุดยอดเหรียญคริปโตอุปทานลดลงนี้

ในงาน AMA ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า Tim Ottowitz ได้กล่าวไว้ว่า ‘เราจะมีการเผาเหรียญคริปโตบางส่วนของเราต่อไป’ อ่านบทสัมภาษณ์ของเขาในงาน AMA ที่นี่

ไปยัง Dash 2 Trade ตอนนี้

3. IMPT – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่ช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

การเป็นทั้งเหรียญคริปโตอุปทานลดลงและการมุ่งเน้นแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ IMPT เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม คริปโตเคอเรนซี่ที่น่าจับตามองในขณะนี้ IMPT สร้างขึ้นบน Ethereum เพื่อเป็นโปรแกรมการชดเชยคาร์บอน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละบุคคล

คุณกำลังสนใจวิธีการซื้อคาร์บอนเครดิต อยู่หรือไม่? IMPT มีตลาดสำหรับการช็อปปิ้ง ที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าจากแบรนด์จำนวนมากที่เป็นพันธมิตรกับ IMPT เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หลังจากซื้อสินค้าแล้ว ผู้ซื้อจะได้รับโทเค็น IMPT ซึ่งขึ้นกับเปอร์เซ็นต์ของกำไรในแต่ละสินค้า หลังจากสะสมโทเค็นได้เพียงพอ สามารถนำโทเค็นของตนไปซื้อคาร์บอนเครดิต ซึ่งอยู่ในรูปแบบของ NFT และคาร์บอนเครดิตนี้จะเป็นตัวแทนของ CO2 จำนวน 1 ตัน

คาร์บอนเครดิตสามารถซื้อได้จากตลาดของ IMPT และจะถูกเก็บไว้ในบัญชีแยกประเภทแบบ decentralized เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับได้ ผู้ที่มีคาร์บอนเครดิตมี 2 ทางเลือก ได้แก่ การนำไปขายหรือเผาคาร์บอนเครดิตทิ้ง และทำให้โทเค็นหายไปจากบล็อกเชน ซึ่งการที่แต่ละคนเลือกกำจัดคาร์บอนเครดิตทิ้ง จะเป็นช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ และเพื่อเป็นการตอบแทน นักลงทุนที่เผาคาร์บอนเครดิต จะได้รับของขวัญเป็น NFT ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษบนแพลตฟอร์ม

นอกเหนือจากการเผาเหรียญคาร์บอนเครดิตแล้ว IMPT ยังมีโทเค็นที่จำกัดเพียงแค่ 3 พันล้านโทเค็น ดังนั้น นักลงทุนอาจพบว่าความต้องการของเหรียญสูงขึ้น เนื่องจาก IMPT เป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลงนั่นเอง ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ในช่วงพรีเซลของ IMPT ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งในขณะนี้สามารถระดมทุนไปได้มากกว่า 13 ล้านดอลลาร์

อัปเดต – พรีเซลรอบที่หนึ่งขายหมดไปแล้ว เนื่องจากเหรียญเป็นที่ต้องการสูง

ผู้อ่านที่สนใจสามารถซื้อ IMPT ได้ในราคาเพียง 0.023 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ในการพรีเซลรอบที่สอง ก่อนที่ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.028 ดอลลาร์ ในการพรีเซลรอบสุดท้าย ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2022

เข้าร่วม Telegram ของ IMPT เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุด และรับเรื่องราวใหม่ ๆ เกี่ยวกับเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่กำลังมาแรงนี้

ซื้อ IMPT ตอนนี้

4. Tamadoge (TAMA) – เหรียญมีมใหม่ล่าสุดที่มีอัตราการเผาเหรียญคริปโต 5%

Tamadoge เป็นเกมดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนจริง ที่ผู้เล่นสามารถสร้างสัตว์เลี้ยงในรูปแบบของ NFT และสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติ, จุดแข็ง และจุดอ่อนที่แตกต่างกัน จากนั้นผู้เล่นจะต้องเลี้ยงดู ให้อาหาร และฝึกซ้อมลูกสุนัขให้โตเต็มวัย คล้ายกับการเล่น ‘Tamagotchi’

เมื่อผู้เล่นซื้ออาหารและอุปกรณ์เสริมในร้าน Tamadoge จะต้องมีการใช้โทเค็น TAMA ซึ่งค่าใช้จ่าย 5% จากการทำธุรกรรมจะถูกเผาทิ้งอย่างถาวร เพื่อให้กลายเป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลง จากอุปทานเริ่มต้นทั้งหมด 2 พันล้านเหรียญ

ไวท์เปเปอร์ของ Tamadoge

Tamadoge ขายพรีเซลบน buy.tamadoge.io หมดก่อนกำหนด โดยสามารถระดมทุนไปได้กว่า 19 ล้านดอลลาร์ จากที่คาดการณ์ไว้แค่ 10 ล้านดอลลาร์ เท่านั้น เราจึงจัดอันดับให้เป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นโครงการพรีเซล และเหรียญคริปโต pre-ICO ที่มักจะให้มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำที่สุด

ราคาของเหรียญ Dogecoin ที่บันทึกครั้งแรกหลังจาก ICO บนกระดานแลกเปลี่ยน คือ 0.00055 ดอลลาร์ และตอนนี้ Dogecoin มีราคาอยู่ที่ 0.06 ดอลลาร์ ด้วยมูลค่าตลาด 8 พันล้านดอลลาร์ 

Dogecoin ถือว่าเป็นเหรียญที่ประสบความสำเร็จแม้ว่าจะมีอุปทานเพิ่มขึ้น โดยจริงๆแล้วคแล้ว Dogecoin เป็นเหรียญที่มีอุปทานที่ไม่จำกัด และมีอุปทานเพิ่มขึ้น เล็กน้อย จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2013 อุปทานรวมของ Dogecoin เพิ่มขึ้นจาก 1 แสนล้านเมื่อตอนเปิดตัวเป็น 1.326 แสนล้านในปัจจุบัน

Tamadoge ตั้งเป้าหมายที่จะมีประโยชน์ใช้งานที่มากกว่า Dogecoin โดยให้รางวัลเป็นโทเค็นในแอพเล่นเกม Tamadoge P2E และมินิเกมต่าง ๆ ทำให้ Tamadoge สามารถชะลอการร่วงของราคาที่รุนแรงได้ เมื่อเทียบกับ DOGE ที่ราคาร่วงลง 92% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดที่ 0.74 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม 2021 ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับวิธีซื้อ Tamadoge

ซื้อ TAMA ตอนนี้

5. Lucky Block V1 (LBLOCK) – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่มีอัตราการเผาเหรียญคริปโตที่ 1% ของภาษีธุรกรรม

แพลตฟอร์มการแข่งขัน Lucky Block NFT จะมีโทเค็นหลัก 2 ตัว โดยโทเค็นที่มีการอัปเกรดล่าสุด คือ โทเค็นบน Ethereum chain ที่ใช้สำหรับกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต และเหมาะสำหรับการเทรดรายวัน เนื่องจากปลอดภาษี ที่มีชื่อว่า LBLOCK V2

ส่วนโทเค็นหลักอย่าง LBLOCK V1 ที่อยู่บน Binance Smart Chain ใช้ในการเล่นเกมแจ็คพอต และถือไว้เพื่อรับรางวัล ยังคงเป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลง เพราะ 1% ของภาษีธุรกรรม 12%  จะถูกเผาทิ้งเพื่อลดอุปทานหมุนเวียน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Lucky Block ใน Discord ซึ่งอธิบายโทเค็นทั้งสองอย่างละเอียด

จากการเป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลง LBLOCK V1 มีแนวโน้มที่จะเป็น Cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยราคาได้ลดลงจากราคาขายพรีเซลประมาณ 2 เท่า หลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้นถึง 65 เท่าเมื่อต้นปี 2022

LBLOCK V1 (และ V2) มีตัวเร่งหลายตัวที่จะทำให้ราคากลับมาเป็นขาขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ประการแรกคือ โทเค็น ERC20 V2 ได้รับการลิสบน Gate.io ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด (ติดอันดับ 1 ใน 10 ของ CoinMarketCap) ทำให้มีโอกาสการเติบโตมากขึ้น และเป็นประโยชน์ที่ดีต่อโทเค็น V1 

ประการที่สองคือ ทีมพัฒนา Lucky Block กำลังใช้ Ethereum bridge ที่ผ่านการตรวจสอบโดย CertiK เพื่อช่วยให้โทเค็น V1 และ V2 ที่มีโครงสร้างต่างกัน ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น อ่านการคาดการณ์ราคา LBLOCK V2 ของเรา และรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ETH bridge

ซื้อ LBLOCK ตอนนี้

6. Terra Classic (LUNC) – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่มีอัตราการเผาเหรียญคริปโต ทิ้ง 1.2% ในปี 2023  

หลังจากที่โทเค็น Terra (LUNA) ล่มสลายไปพร้อมกับ UST เหรียญนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Terra Classic (LUNC) และปัจจุบันยังสามารถซื้อได้บนกระดานแลกเปลี่ยนที่ปลอดภัย เช่น eToro

ตอนนี้ LUNC อาจเป็นเหรียญคริปโตที่ปลอดภัยในการลงทุน  เนื่องจากได้มีการประกาศการเผาเหรียญคริปโต เพื่อลดช่วยอุปทานหมุนเวียน เพราะเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เหรียญนี้เคยล้มเหลว คือ การที่มีอุปทานมากเกินไป ซึ่งเพิ่มจาก 350 ล้านโทเค็น เป็น 6.5 ล้านล้านโทเค็น และเป็นผลให้ราคาต่อโทเค็นลดลงกว่า 99.99% ในเดือนพฤษภาคม 2022

ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ LUNA ใหม่ หรือ LUNA เก่า การรีแบรนด์ของ LUNC ยังทำงานได้ไม่ดีนักในช่วงแรก หลังจากมีการเปลี่ยนระบบใหม่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ณ เดือนกันยายน การเพิ่มขึ้นของราคา LUNC กำลังจะเป็นจริง เมื่อในที่สุดก็มีการลงคะแนนให้มีการเผาเหรียญทิ้งได้

จึงทำให้ LUNC กลายเป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลง ในวันที่ 12 กันยายน โดยมีรายงานอัตราการเผาเหรียญคริปโตทิ้งอยู่ที่ 1.2% เมื่อมีการทำธุรกรรมทั้งหมดบนเครือข่าย บัญชี Twitter ที่ชื่อว่า ‘LUNC burn’ (@LunaBurn_13) ได้มีการรายงานว่า มีโทเค็น LUNC จำนวน 3.08 พันล้านโทเค็นได้ถูกเผาทิ้งก่อนวันดังกล่าว

ทำให้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2022 ราคาของ Terra Classic พุ่งสูงขึ้นกว่า 70% ภายในวันเดียว ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับวิธีซื้อ Terra Luna

ซื้อ LUNC ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง และไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย 

7. Binance Coin (BNB) – เหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง

เหรียญ Binance (BNB) เป็นโทเค็นหลักของกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในตลาด เมื่อพิจารณาในด้านปริมาณการเทรด ซึ่ง Binance รองรับคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 600 สกุลเงิน

BNB เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดตลอดกาล และเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุดเป็นอันดับที่ 5 รองจาก Bitcoin, Ethereum, Tether (USDT) และ USD Coin (USDC)

เครือข่าย Binance มีการซื้อเหรียญกลับ และเผาเหรียญคริปโตทิ้งในแต่ละไตรมาสเป็นประจำ เพื่อลดปริมาณโทเค็น BNB ที่หมุนเวียน ตัวอย่างเช่น เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม มีการเผาเหรียญรายไตรมาสครั้งที่ 20 ทิ้งไปถึง 1,959,595.29 โทเค็น

เมื่อตอนที่ BNB เปิดตัวในปี 2017 ปริมาณรวมของเหรียญ Binance อยู่ที่ 200 ล้าน แต่ในเดือนกันยายน 2022 มีโทเค็นเหลือเพียง 161 ล้าน ซึ่งลดลงไปเกือบ 20% เมื่อเดือนธันวาคม 2021 มีการใช้โปรโตคอลการเผาเหรียญคริปโตอัตโนมัติ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นว่า อัตราการการเผาเหรียญทิ้งมีความโปร่งใสมากขึ้น

เช่นเดียวกับ Binance ปัจจุบัน BNB เป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่ถูกลิสบนกระดานเทรดคริปโตมากมาย ซึ่งรวมไปถึง eToro ด้วย

ซื้อ BNB ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง และไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

บทสรุป

สองเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา คือ BNB และ FTX ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตที่อุปทานลดลง แม้ว่าความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากการเป็นโทเค็นหลักของกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่สำคัญ แต่การเป็นเหรียญคริปโตอุปทานลดลงก็มีบทบาทเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หนึ่งใน Deflationary Cryptocurrency ที่ดีที่สุดที่ควรลงทุนคือ FightOut (FGHT) ซึ่งมีการจัดหาโทเค็นต่ำเพียง 10 พันล้านเหรียญ ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับโทเค็นโบนัส 50% ในระยะเวลาจำกัด และเหรียญจะหายากมากเมื่อจดทะเบียนในกระดานแลกเปลี่ยน เนื่องจากมีเพียง 10% ของอุปทานทั้งหมดสำหรับสภาพคล่อง

เหรียญคริปโตเกิดใหม่เป็นโปรเจกต์บล็อกเชนที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเหรียญคริปโตประเภทนี้จะเปิดให้นักลงทุนเข้าซื้อ ก่อนที่เหรียญจะไปอยู่ในตลาดที่ใหญ่กว่า

ในคู่มือนี้ เราจะแนะนำ 12 เหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณาไว้วันนี้ ไปดูกันว่ามีโทเค็นมาใหม่ที่ดีที่สุด เหรียญไหน อะไรบ้าง!

รายการเหรียญคริปโตเกิดใหม่ตัวท็อปแห่งปี 2023

เราศึกษาตลาดเพื่อค้นหาเหรียญคริปโตใหม่ๆ ที่ดีที่สุด และพบว่าโปรเจกต์ด้านล่างควรค่าต่อการพิจารณาลงทุน:

1. Love Hate Inu — เหรียญ Meme ออกใหม่ที่มูลค่าจะพุ่งสูงขึ้นในปีนี้
2. DeeLance – แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์แบบกระจายอำนาจที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและมีความโปร่งใสสูง
3. Ecoterra – เหรียญคริปโตออกใหม่รักษ์โลกที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการรีไซเคิล
4. RobotEra – โทเค็นเกม metaverse ที่กำลังเปิดตัวขายพรีเซลแล้วตอนนี้
5. Tamadoge – เกม NFT แบบ P2E ที่เอาสัตว์เลี้ยงมาแบทเทิล และผสมพันธุ์เพื่อรับของรางวัล
6. Battle Infinity – โปรเจกต์ Metaverse และ NFT ที่ให้บริการเกม P2E แบบ Decentralized มากมาย
7. DeFi Coin – กระดานแลกเปลี่ยนใหม่แบบ Decentralized ที่มีบริการ Yield
8. The Sandbox – ระบบนิเวศแห่ง Metaverse ที่ให้ซื้อที่ดิน และสัมผัสประสบการณ์โลกเสมือน
9. Shiba Inu – เหรียญมีมยอดนิยมที่มีผู้ติดตามมากมาย
10. Ape Coin – โปรเจกต์เหรียญคริปโตเปิดใหม่จากผู้พัฒนา Bored Ape NFT
11. Cosmos – โทเค็นที่สามารถแก้ปัญหาการทำงานร่วมกันของบล็อกเชน
12. Basic Attention Token – เว็บเบราว์เซอร์แบบ Decentralized ที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้เมื่อชมโฆษณา

ไปยัง Love Hate Inu ตอนนี้

มาเจาะลึกกับเหรียญคริปโตออกใหม่ที่น่าลงทุน

คุณกำลังค้นหาเหรียญคริปโตมาแรงในปี 2023 อยู่หรือไม่? มีเหรียญคริปโตใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดในทุกๆ สัปดาห์ จึงทำให้นักลงทุนเสียเวลาอย่างมากในการค้นหาและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญคริปโตเปิดใหม่ที่ดีที่สุด

โดยเรื่องหลักๆ ที่ควรพิจารณา ประกอบไปด้วย วัตถุประสงค์ของโปรเจกต์ เป้าหมายการพัฒนา การแข่งขันในตลาด และประสิทธิภาพในการเพิ่มมูลค่าของเหรียญดังกล่าว

ด้านล่างนี้ เราได้จัดอันดับและวิเคราะห์ 12 เหรียญคริปโตเปิดใหม่ที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้

1.  Love Hate Inu – เหรียญ Meme ออกใหม่ที่มูลค่าจะพุ่งสูงขึ้นในปีนี้

LoveHateInu (LHINU) เป็นเหรียญมีมออกใหม่และเป็นโปรเจกต์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก โปรเจกต์ตั้งใจที่จะเป็นแพลตฟอร์ม Vote-to-Earn ชั้นนำ ซึ่งผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญคริปโตสำหรับการ Stake โทเค็นและการลงคะแนนในแบบสำรวจมีม

เป้าหมายสูงสุดของแพลตฟอร์มคือการพลิกโฉมตลาดแบบสำรวจออนไลน์ด้วยการนำเสนอโปรเจ็กต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Blockchain เป็นครั้งแรกโดยเฉพาะเพื่อการลงคะแนนเสียง ด้วยการใช้เทคโนโลยี Blockchain ทำให้สามารถให้ผลการลงคะแนนที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ ป้องกันสแปมและการโกง และยังให้ผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้อย่างสมบูรณ์และไม่ระบุตัวตนอีกด้วย

Love Hate Inu ถูกสร้างบนเครือข่าย Ethereum ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและได้รับการพิสูจน์แล้วสำหรับการสร้าง dApps ที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และใช้งานง่าย สำหรับแพลตฟอร์ม เมื่อเปิดตัวอย่างสมบูรณ์แล้วจะประกอบด้วยส่วนสำคัญหลายอย่าง รวมถึง UI ส่วนการส่งการโหวต และแดชบอร์ดการจัดการ ซึ่งจะช่วยให้การลงคะแนนเสียงดำเนินการในลักษณะที่ปลอดภัยต่อชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรเจกต์จะขายโทเค็น 90% ให้กับชุมชนในช่วง Pre-sale

ในการทำเช่นนี้ จะเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับโปรเจกต์ โดยที่ชุมชนเป็นผู้ถือครองเงินทุนและมีส่วนได้เสียในความสำเร็จของโปรเจกต์ แดชบอร์ดจะถูกใช้เพื่อให้โปรเจกต์โฮสต์แบบสำรวจที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนที่แพลตฟอร์มจะสร้างขึ้นเอง

โทเค็นของแพลตฟอร์ม LHINU พร้อมให้ซื้อผ่านแพลตฟอร์ม Pre-sale แล้วตอนนี้ โดยโทเค็น LHINU แต่ละเหรียญมีราคา 0.000085 USDT และราคาของโทเค็นจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.000145 USDT ต่อเหรียญใน Pre-sale รอบถัดไป จนถึงขณะนี้ โปรเจกต์นี้สามารถระดมทุนได้ $175,167.1 จากเป้าหมาย $956,250 โทเค็น 90% พร้อมให้ซื้อในแต่ละรอบของการ Pre-sale โดย 10% เก็บไว้สำหรับสภาพคล่อง ค่าธรรมเนียมการลิสต์ และรางวัลชุมชน

ผู้ใช้จะสามารถ Stake โทเค็น LHINU เพื่อลงคะแนนได้ และการลงคะแนนจะให้เหรียญเป็นรางวัล โดยการลงคะแนนไม่สามารถทำได้โดยไม่ได้ Stake โทเค็น และยังเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้เข้าร่วมต้อง Stake โทเค็นเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วันจึงจะสามารถลงคะแนนได้ หลังจากนั้น โพลแต่ละรายการที่โพสต์จะได้รับเงินสนับสนุนจากผู้สร้าง และจะเป็นผู้สร้างที่จะมอบ LHINU ให้กับผู้ลงคะแนน

Love Hate Inu มีแผนใหญ่สำหรับอนาคต โดยมีแผนที่จะสร้างรายได้จากข้อมูลการโหวตผ่านข้อตกลงแบรนด์และรวมเข้ากับโลก Metaverse ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตออกใหม่ที่น่าจับตามอง คุณสามารถเข้าร่วมกลุ่ม Love Hate Inu Telegram สำหรับการอัปเดทล่าสุด

เริ่มพรีเซลล์	8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
เพดานเงินทุน	$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำ	ไม่มี
ลงทุนสูงสุด	ไม่มี

ไปยัง Love Hate Inu Presale

2. DeeLance – แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์แบบกระจายอำนาจที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและมีความโปร่งใสสูง 

อุตสาหกรรมฟรีแลนซ์กำลังประสบปัญหาด้านความโปร่งใสของการเป็นเจ้าของงานและค่าธรรมเนียมฟรีแลนซ์ที่สูง แต่ด้วยประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain แพลตฟอร์ม DeeLance เสนอแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์แบบกระจายอำนาจที่จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและฟรีแลนซ์ 

ด้วยการใช้ $DLANCE ซึ่งเป็นโทเค็นหลัก เราจะสามารถเข้าถึงโลก Metaverse อย่างตลาด NFT และรับเงินทันที แม้ว่า $DLANCE จะมีราคาอยู่ที่ $0.025 ในช่วง Pre-sale รอบแรก แต่ราคาจะพุ่งไปที่ $0.030 ในรอบที่สามและรอบสุดท้าย 

แต่ทำไมคุณควรซื้อโทเค็นนี้ ข้อแรก สามารถใช้ $DLANCE เพื่อซื้อที่ดินเสมือนและเช่าพื้นที่ในโบก Metaverse โดยโลกเสมือนดังกล่าวจะให้ฟรีแลนซ์เชื่อมต่อกับลูกค้า มีส่วนร่วมในการประชุมและทำงานในโปรเจกต์ต่างๆ 

กิจกรรมทั้งหมดระหว่างทั้งสองฝ่ายจะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ใน Blockchain สาธารณะเพื่อความโปร่งใส เมื่อใช้ตัวเลือกการชำระเงินเอสโครว์ ลูกค้าจะต้องชำระค่าบริการล่วงหน้า ซึ่งจะถูกโอนไปยังฟรีแลนซ์หลังจากโปรเจกต์เสร็จสิ้น

ฟรีแลนซ์สามารถโอนความเป็นเจ้าของงานได้อย่างง่ายดายด้วยการแปลงโปรเจ็กต์เป็น NFT สามารถสร้าง NFT ในตลาดของ DeeLance และเข้าถึง NFT อื่นๆ ผ่านงานโชว์เคสและแคตตาล็อก 

DeeLance จะเสนอแพลตฟอร์มการจัดหางาน เพื่อให้ฟรีแลนซ์เชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าที่ดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับค่าธรรมเนียมฟรีแลนซ์ 20% ที่แพลตฟอร์มอย่าง Upwork คิด แต่ DeeLance คิดค่าคอมมิชชันเพียง 10% เท่านั้น 

นอกจากนี้ ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น 2% ซึ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำที่สุดในตลาด ด้วยการ Pre-sale ของ $DLANCE ที่ระดมทุนได้มากกว่า $100,000 นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็นนี้ได้ก่อนที่ราคาจะสูงขึ้นในรอบที่สอง 

อ่านเอกสารข้อมูล DeeLance และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาของโปรเจกต์ทั้งหมด

เริ่มพรีเซลล์	30 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

3. Ecoterra – เหรียญคริปโตออกใหม่รักษ์โลกที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการรีไซเคิล 

Ecoterra เป็นแพลตฟอร์มเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนซึ่งให้โทเค็นฟรีแก่ผู้ที่รีไซเคิลขยะ หากต้องการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ ผู้ใช้ก็สามารถซื้อ $ECOTERRA ซึ่งเป็นโทเค็นหลัก 

โดยจะสามารถรับ $ECOTERRA ได้ฟรีๆ เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ฝากของเสียลงใน RVM (เครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล) แพลตฟอร์ม Ecoterra สามารถเข้าถึงได้จากทุกๆ เครื่อง RVM ทั่วโลก โดยผู้ใช้ต้องรีไซเคิลผลิตภัณฑ์และสแกนขั้นตอนนี้ในแอพ EcoTerra การทำเช่นนี้จะทำให้ได้รับโทเค็น $ECOTERRA ฟรี 

โทเค็นสามารถใช้ในกิจกรรมการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การทำความสะอาดมหาสมุทร การปลูกต้นไม้ และการเข้าถึงโปรแกรมการศึกษาบนแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ของ Ecoterra ท่านสามารถ Stake โทเค็นเพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟและผลตอบแทนจากเงินปันผล 

เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดดังกล่าวยังมีตลาดชดเชยคาร์บอนซึ่งผู้ใช้และธุรกิจสามารถใช้โทเค็นเพื่อซื้อ Verified Carbon Credits (VCU) เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยแต่ละคนได้รับความสำเร็จเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาดูแลสิ่งแวดล้อมและสามารถแปลงความสำเร็จเหล่านี้เป็น NFT ได้นั่นเอง 

ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจ Ecoterra และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการติดตามกิจกรรมการลงทุนด้านพลังงานสีเขียวทั้งหมดของคุณภายในแพลตฟอร์มเดียว ธุรกิจยังสามารถซื้อวัสดุรีไซเคิลได้โดยตรงผ่านผู้รีไซเคิลผ่านตลาดวัสดุรีไซเคิลของ Ecoterra 

ด้วยทีมงานของ Ecoterra ที่มีประสบการณ์ที่เคยบริหารหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังเป็นพันธมิตรกับ Delhaize ซึ่งเป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ 

ปัจจุบัน $ECOTERRA มีราคาอยู่ที่ $0.004 ต่อโทเค็นในช่วง Pre-sale รอบแรก โดยผู้อ่านที่สนใจสามารถซื้อโทเค็นนี้ได้ก่อนที่ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น $0.01 ในรอบที่เก้าและรอบสุดท้าย นับตั้งแต่เปิดขาย Pre-sale เหรียญ Ecoterra ก็สามารถระดมทุนได้มากกว่า 500,000 ดอลลาร์แล้ว 

ผู้ใช้สามารถอ่านเอกสารข้อมูล Ecoterra และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตนี้ 

เริ่มพรีเซลล์	29 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Ecoterra Presale ตอนนี้

4. RobotEra – โทเค็นเกม metaverse ที่กำลังเปิดตัวขายพรีเซลแล้วตอนนี้

หนึ่งในตลาดได้รับความนิยมมากที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโต คือตลาดเกมมิ่งที่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่ถึงระดับ 12 พันล้านดอลลาร์ของการลงทุน VC-based ในปี 2022

หนึ่งในเหรียญคริปโตออกใหม่ที่น่าลงทุนในตลาดนี้คือ RobotEra ผู้เล่นสามารถใช้ประโยชน์จากโปรโตคอลในเกมและรับโทเค็นโดยการเข้าร่วมในการสร้างที่ดิน สร้าง และซื้อขายผ่าน TARO

TARO พร้อมให้ซื้อในช่วงพรีเซล โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุน 6.93 ล้านดอลลาร์ ในอดีต ICO เกมได้รับผลตอบแทนที่น่าเหลือเชื่อ – ยอดไลค์ของ The Sandbox เพิ่มขึ้น 1,000 เท่าตั้งแต่เปิดขาย ด้วย TARO สมาชิก RobotEra สามารถมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจในเกม ผู้เล่นสามารถซื้อ Robots ซึ่งเป็นตัวละคนที่อยู่ใน ‘Taro Planet’ บน metaverse สร้างเป็นสัญญาอัจฉริยะ ERC 721 หุ่นยนต์เป็น NFT ที่มีจำนวนจำกัด 10,000 ตัว

ผู้เล่นสามารถเข้าถึงโลกเสมือนที่เหลือได้โดยการซื้อหุ่นยนต์ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น บน RobotEra สมาชิกสามารถซื้อที่ดินได้ ซึ่งสร้างเป็น NFT ที่ดินสามารถใช้เพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ สามารถใช้สำหรับการขุด และยังสามารถเช่าเพื่อหารายได้ได้อีกด้วย ผู้เล่นสามารถสร้าง Robot Companions ซึ่งเป็น NFT ที่จะสนับสนุนการสร้างภายในเกม ในที่สุด เอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่าโครงการนี้จะมอบโอกาสให้คุณสร้าง NFT ของคุณเอง ส่งผลงานศิลปะของคุณ และแข่งขันในภารกิจต่างๆ

เหรียญคริปโตออกใหม่นี้เพิ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 มีการขายพรีเซลทั้งหมด 3 รอบ แต่ละรอบจะจัดสรรโทเค็น 90 ล้านโทเค็น ราคาของ TARO อยู่ที่ $0.02 ในรอบที่หนึ่ง และจะเพิ่มเป็น $0.032 ในรอบที่แล้ว ภายในหนึ่งสัปดาห์ของการเปิดตัวก่อนการขาย RobotEra สามารถขายโทเค็นได้มากกว่า 3.3 ล้านโทเค็นและระดมทุนได้ 68,000 ดอลลาร์

อ่านคู่มือวิธีซื้อเหรียญคริปโต RobotEra ของเราเพื่อเริ่มลงทุนในการขายพรีเซล ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าร่วม Telegram Channel เพื่อรับข่าวสารล่าสุด

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

5. Tamadoge – เกม NFT แบบ P2E ที่เอาสัตว์เลี้ยงมาแบทเทิล และผสมพันธุ์เพื่อรับของรางวัล

อาจกล่าวได้ว่า Tamadoge เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดในตอนนี้นี้ หลังจากที่ได้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญมีมอันดับต้น ๆ ของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ทั้งหมด

หลังจากเปิด Pre-sale โดยได้เงินลงทุนไปกว่า 19 ล้านดอลลาร์ เหรียญ TAMA ก็พุ่งขึ้นสู่ระดับ All Time High ที่ 0.194 ดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนในช่วง Pre-sale ได้รับผลตอบแทนเกือบ 2,000% ในช่วงตลาดขาลง

โทเค็นดังกล่าวจะมีอุปทานลดลงและสามารถได้รับจากโลก Metaverse แบบ play-to-earn ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกำไรมากขึ้นในปี 2023 เมื่อสภาวะตลาดดีขึ้น

เกม play-to-earn ดังกล่าวกำลังสร้างโลก Metaverse รุ่นต่อไปที่เรียกว่า ‘Tamaverse’ ซึ่งะมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำให้กับผู้ใช้ที่ต้องการรับรางวัลเป็นการตอบแทนจากการเล่นเกมสนุกๆ

เกมดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่สุนัขเสมือน ซึ่งแต่ละตัวจะเป็น NFT และจะมีความสามารถบางอย่างซึ่งบางความสามารถนั้นจะหายากกว่าความสามารถอื่นๆ โดยหลักการก็คือยิ่ง NFT ยากก็จะยิ่งมีมูลค่ามากขึ้นในตลาดเปิด โดยเหตุผลก็คือ Tamadoge จะให้ผู้เล่นใช้สุนัข NFT ต่อสู้กันเองได้

ผู้ที่ชนะจะได้รับรางวัล – ซึ่งแจกจ่ายในเหรียญคริปโตเคอเรนซี่หลักของโปรเจกต์ – TAMA นอกจากนี้ จะมีกระดานผู้นำรายเดือนที่ติดตามความคืบหน้าจากภายในเกม ซึ่งหมายความว่าจะเป็นวิธีเพิ่มเติมสำหรับการรับรางวัล

ฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมอีกอย่างของระบบนิเวศ Tamadoge คือช่วยให้ผู้เล่นผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยง NFT ของพวกเขาได้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการสร้างสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ดังนั้น Tamadoge อาจเป็นหนึ่งในเกม nft ที่ดีที่สุดนั่นเอง

มินิเกมอื่นๆ ก็อยู่ในระหว่างการพัฒนา เช่นเดียวกับแอพเสมือน (AR)

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

6. Battle Infinity – โปรเจกต์ Metaverse และ NFT ที่ให้บริการเกม P2E แบบ Decentralized มากมาย

Battle Infinity เป็นหนึ่งในโปรเจกต์เหรียญคริปโตเปิดใหม่ที่ดีที่สุดในตอนนี้ โดยตัวเกมเรียกตัวเองว่าเป็น ‘multiverse’ หมายความว่าจะมีความหลากหลายภายในระบบนิเวศ metaverse ของตน โดยจะเน้นไปที่เกมแบบ decentralized ที่ให้รางวัลและแรงจูงใจในการเล่นผ่านโมเดลแบบ P2E

ตัวอย่างเช่น IBAT Premier League ที่เป็น “เกมกีฬาแฟนตาซีบนบล็อกเชนแบบ decentralized เกมแรกของโลกที่รวมเข้ากับ metaverse” ซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลกจากลักษณะการเล่นแบบเกมกีฬาการแข่งขัน

ระบบนี้รวมเข้ากับการสร้างทีมกีฬาที่ถูกปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และสะสมคะแนนตามที่นักกีฬาแต่ละคนทำได้ในชีวิตจริง ตัวอย่างเช่น ทีมแฟนตาซี มีนักฟุตบอลที่สามารถทำสองประตูได้ในเกมถัดไป ทำให้ผู้ใช้จะได้รับคะแนนภายในเกมไปด้วย

ภายในโลก metaverse ของ Battle Infinity ผู้เล่นจะรับรางวัลได้สองวิธี วิธีที่หนึ่ง เป็นการได้รับ NFT ที่เป็นสินทรัพย์ภายในเกม โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความคืบหน้าในเกม และทำให้เอาชนะผู้ใช้รายอื่นได้ในที่สุด

วิธีที่สอง ผู้เล่นสามารถรับรางวัลในรูปแบบของโทเค็น IBAT ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลักของโปรเจกต์ โดยคอนเซ็ปต์ multiverse ของ Battle Infinity จะขยายไปสู่กระดานเทรดแบบ decentralized (DEX) ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อและขายเหรียญ IBAT ได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ staking ที่ให้ดอกเบี้ยจากการถือเหรียญ IBAT ในระยะยาวอีกด้วย

ใครที่ต้องการมีส่วนร่วมใน NFT ของเกม Battle Infinity ไม่ว่าจะซื้อหรือจะขาย ก็สามารถเทรดผ่านตลาดของแพลตฟอร์มได้ ซึ่งผู้ใช้จะได้ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำจากแต่ละส่วนของระบบนิเวศในเกม สรุปได้ว่า Battle Infinity เป็นโปรเจกต์ที่จะต่อยอดคอนเซ็ปต์โลก metaverse ไปอีกขั้น จากการแข่งขันกับเกม Axie Infinity และ Decentraland

ไปยังเว็บไซต์ Battle Infinity เพื่อดาวน์โหลดเอกสารข้อมูลของโปรเจกต์ โดยการพรีเซลล์ของ IBAT ได้ขายหมดเกลี้ยงในเวลาเพียง 24 วัน และได้เปิดตัวใน PancakeSwap และ LBank และกำลังจะถูกลิสในกระดานเทรดอื่นๆ ในอนาคต

Telegram ของ Battle Infinity ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมสำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญ IBAT (แอดมินจะไม่ขอ seed phrase หรือส่งข้อความหาคุณก่อนเด็ดขาด)

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

7. DeFi Coin – กระดานแลกเปลี่ยนใหม่แบบ Decentralized ที่มีบริการ Yield

Defi Coin เป็นโปรเจกต์ต่อไปที่จะต้องพิจารณาไว้ในรายการเหรียญคริปโตเกิดใหม่ที่ดีที่สุดของเรา Defi Coin เกี่ยวข้องโดยตรงกับอนาคตของการเงินแบบ decentralized (DeFi) โดยมี DeFi Swap เป็นตัวชูโรง ซึ่งเป็นกระดานเทรดแบบ decentralized (DEX) ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้โดยไม่ต้องใช้บุคคลที่สาม อย่าง ธนาคาร

แต่ DeFi Swap DEX จะใช้โปรโตคอล Automated Market Maker (AMM) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับโทเค็นได้โดยไม่จำเป็นต้องนำเหรียญไปขายในตลาด นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้สมุดบันทึกคำสั่งซื้อขายบน DeFi Swap แบบที่กระดานเทรด centralized ใช้เเพราะว่าการใช้สมุดบันทึกคำสั่งซื้อขายอาจถูกดัดแปลงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ DeFi Swap อยากจะยกระดับกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตไปอีกขั้น ในแง่ของสภาพคล่อง DeFi Swap ก็มีเครื่องมือ yield farming และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเมื่อฝากเงินไปในเครื่องมือ yield farming ผู้ใช้จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ถูกรวบรวมโดย DeFi Swap

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสร้างรายได้ผ่านเครื่องมือ staking ที่ให้ผลตอบแทนสูง โดย DeFi Coin ให้ผลตอบแทนต่อปีที่น่าดึงดูด สูงถึง 75% โดยทาง DeFi Swap กำลังจะเปิดตัวตลาด NFT แบบ decentralized และแอปมือถืออย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตอนนี้ ผู้ใช้สามารถเทรดผ่านเว็บไซต์ DeFi Swap บนมือถือที่ถูกพัฒนามาเป็นอย่างดี

ผู้ที่ต้องการซื้อ DeFi Coin สามารถทำได้ผ่าน PancakeSwap หรือ DeFi Swap เมื่อดูจากกราฟราคาล่าสุด DeFi Swap อาจเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุด ช่วงขาลง ทำให้คุณสามารถซื้อของดีในราคาถูกเมื่อเทียบกับระดับราคาสูงสุดครั้งก่อน

ซื้อ DeFi Coin ตอนนี้

8. The Sandbox – ระบบนิเวศแห่ง Metaverse ที่ให้ซื้อที่ดิน และสัมผัสประสบการณ์โลกเสมือน

แม้ว่าผู้พัฒนาจะก่อตั้งโปรเจกต์ขึ้นตั้งแต่ปี 2012 แต่ The Sandbox ก็ยังเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตเกิดใหม่ที่ควรจับตามอง เหตุผลก็คือ Sandbox กำลังสร้างโลก metaverse ที่ให้ผู้ใช้ซื้อที่ดิน และสัมผัสประสบการณ์โลกเสมือน ซึ่งยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานได้ในตอนนี้

แต่โลก metaverse ของ The Sandbox จะเปิดให้กลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีบัตรผ่าน Alpha เท่านั้น โดยบัตรผ่านนี้ช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์โลกเสมือนของ The Sandbox ในรูปแบบปัจจุบันได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้คาดการณ์โปรเจกต์นี้เอาไว้สูง เมื่อพิจารณาจากที่ดินเสมือนบางแปลงที่ขายไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์

อันที่จริง การซื้อขายที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก metaverse ของ The Sandbox มีราคามากกว่า 4 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ผู้ใช้จะสามารถสร้างและเล่นเกมด้วยประสบการณ์ 3 มิติอย่างสมจริง และยังได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนอย่าง คอนเสิร์ตและหนังของโลก metaverse บนแพลตฟอร์ม The Sandbox 

ตัวอย่างเช่น Snoop Dogg ได้ซื้อที่ดินใน The Sandbox และกำลังวางแผนที่จะแสดงคอนเสิร์ตในคฤหาสน์เสมือนของเขา ส่วนด้านการลงทุนในเหรียญคริปโตเกิดใหม่อย่าง The Sandbox ผู้ใช้จะต้องซื้อเหรียญ MANA ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม โดยมีให้ซื้อบน eToro ในราคาขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์

ซื้อ MANA

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

9. Shiba Inu – เหรียญ Meme ยอดนิยมที่มีผู้ติดตามมากมาย

Shiba Inu เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตเปิดใหม่ 2023 ที่น่าจับตามอง เหรียญมีมนี้เปิดตัวครั้งแรกในช่วงกลางปี 2020 และถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum นับตั้งแต่เปิดตัวช่วงพรีเซลล์ Shiba Inu ได้กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพที่สุดตลอดกาล ทำให้ Shiba Inu เป็นโทเค็นที่มีมูลค่าตลาดสูง

ตัวอย่างเช่น เมื่อ Shiba Inu แตะ all-time-high ในช่วงปลายปี 2021 ทำให้มีมูลค่าตลาดเกิน 40 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูหนาวคริปโต ณ ปัจจุบัน มูลค่า Shiba Inu ได้ลดลงเหลือ 5 พันล้านดอลลาร์ แต่ Shiba Inu ยังมีสาวกอยู่จำนวนมาก ทั้งใน Pantip และ Telegram โดยโปรเจกต์กำลังจะเข้าสู่โลก metaverse ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ซื้อ SHIB

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

10. Ape Coin – โปรเจกต์เหรียญคริปโตเปิดใหม่จากผู้พัฒนา Bored Ape NFT 

Ape Coin เป็นหนึ่งในโปรเจกต์คริปโตใหม่ล่าสุดในตลาด โดยเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งโปรเจกต์มีหลายแง่มุมน่าสนใจที่ทำให้เป็นเหรียญคริปโตออกใหม่ที่น่าสนใจที่สุด Ape Coin ถูกสร้างขึ้นโดยทีมพัฒนาเดียวกับ Bored Ape NFT

คอลเลกชันดังกล่าวได้สร้างความฮือฮาอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่จะดึงดูดดารานักลงทุนอย่าง Eminem และ Snoop Dogg เท่านั้น แต่ NFT บางรายการยังขายออกได้หลายล้านดอลล่าร์ นอกจากนี้ Ape Coin เป็นเหรียญคริปโตหลักในด้าน metaverse ซึ่งให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงสำหรับผู้ถือ Bored Ape NFT รวมถึงผู้ที่เป็น A-listers 

อีกอย่างที่ควรทราบคือในวันแรกที่โทเค็นเปิดตัวสู่สาธารณะ Ape Coin ได้ถูกลิสในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกทันที รวมถึง Binance, FTX และอื่นๆ สรุปแล้ว กระแสของเหรียญยังไม่ได้ลดน้อยลงไปในตอนนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเหรียญ Ape Coin เป็นเหรียญคริปโตเกิดใหม่ที่น่าลงทุนที่สุด

ซื้อ APE

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

11. Cosmos – โทเค็นที่สามารถแก้ปัญหาการทำงานร่วมกันของบล็อกเชน

Cosmos ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 และเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเครือข่ายแบบ decentralized ที่ต้องการทำงานร่วมกันของบล็อกเชน โปรเจกต์นี้ช่วยให้เครือข่ายบล็อกเชนจากสองเครือข่ายหรือมากกว่าสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลระหว่างกันได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยในเมื่อก่อน

เนื่องจาก Cosmos กำลังอยู่ในช่วงสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง ส่งผลให้โทเค็นหลักอย่าง ATOM กลายมาเป็นเหรียญประจำพอร์ตคริปโตของใครหลายคน โดยเหรียญ ATOM เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ที่ราคาเพียง 7.50 ดอลลาร์ ซึ่งได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 44 ดอลลาร์

ซื้อ ATOM

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

12. Basic Attention Token – เว็บเบราว์เซอร์แบบ Decentralized ที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้เมื่อดูโฆษณา

Basic Attention Token ได้สร้างเว็บเบราว์เซอร์แห่งนวัตกรรมอย่าง Brave ที่ให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลตอบแทนจากการชมโฆษณา เป็นมุมของของวงการโฆษณาแบบกระจายอำนาจทั่วโลกซึ่งปัจจุบัน ถูกผูกขาดโดยบริษัทใหญ่ๆ กล่าวคือ ผู้ใช้จะถูกบังคับให้ดูโฆษณาที่พวกเขาไม่ได้สนใจอยู่บ่อยๆ

Basic Attention Token กำลังจะเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่นี้ โดยจะมีเฉพาะโฆษณาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ หน่วยงานการตลาดจะสามารถจัดสรรโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเบราว์เซอร์ Brave จะจัดหาแต่โฆษณาที่เหมาะสมกับผู้ใช้ให้ โดยเหรียญ BAT เป็นโทเค็นหลักในระบบนิเวศของ Brave

ซื้อ BAT

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

วิธีหาเหรียญคริปโตเกิดใหม่ที่ดีที่สุด

เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่เข้ามาในตลาด มักจะเกิดมาจากเหตุการณ์ต่างๆ อาจเป็นเพราะแผนการพัฒนาที่เป็นไปตามเป้าหมาย หรืออาจเป็นเพราะการได้สร้างพันธมิตรรายใหม่ก็ตาม

ไม่ว่าจะเพราะอะไร มีหลากหลายวิธีในการค้นหาเหรียญคริปโตออกใหม่ ซึ่งเราจะอธิบายเพิ่มเติมด้านล่าง

• การสร้างพันธมิตร – เมื่อเหรียญคริปโตเกิดใหม่ได้สร้างพันธมิตรกับบริษัทดังๆ และข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ อาจส่งผลให้โทเค็นนั้นเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคอยติดตามการพัฒนาหลักๆ ภายในตลาดคริปโต
• แผนการพัฒนา – บางโปรเจกต์ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะบรรลุแผนการพัฒนาที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มเห็นชัดเจนว่าโปรเจกต์กำลังจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ กระแสการลงทุนก็จะตามมา พร้อมกับมูลค่าของเหรียญที่เพิ่มสูงขึ้น
• กระแสของตลาด – เมื่อโปรเจกต์ได้รับการรับรองโดยคนดัง ก็อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าของโทเค็น ตัวอย่างเช่น เมื่อ Elon Musk ประกาศว่าเขาเป็นผู้ถือ Dogecoin เมื่อต้นปี 2021 มูลค่าของเหรียญดังกล่าวก็เพิ่มกว่าหลายพันเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

จากที่กล่าวมา หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการค้นหาเหรียญคริปโตเกิดใหม่ในปี 2023 คือการตามดูการเปิดตัวดีๆ ในช่วงพรีเซลล์

นี่จะทำให้นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็นในราคาที่ถูกที่สุด โดยหวังว่าเหรียญดังกล่าวจะกลายเป็นเหรียญที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะ Battle Infinity และ Tamadoge ที่พึ่งสิ้นสุดการพรีเซลล์ไปไม่นาน

เหรียญคริปโตออกใหม่เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

การซื้อเหรียญคริปโตใหม่ๆ ที่พึ่งเข้ามาในตลาด อาจไม่ได้เป็นการลงทุนที่ดีเสมอไป ดังนั้น นักลงทุนจะต้องศึกษาให้ละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว

ควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้เมื่อค้นหาเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุด:

เพื่อลงทุนในแนวโน้มขาขึ้น

เมื่อเหรียญคริปโตเคอเรนซี่เข้ามาในตลาด อาจสามารถบ่งชี้ได้ว่าเหรียญได้พุ่งทะลุแนวต้านเป็นที่เรียบร้อย จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และอาจเป็นสัญญาณของตลาดขาขึ้น หรือที่รู้จักกันดีว่า ตลาดกระทิง

ดังนั้น โอกาสในการเพิ่มมูลค่าของเหรียญอาจมีมาก หากเลือกลงทุนในแนวโน้มขาขึ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไป อย่างไรก็ตาม การรู้จังหวะในการขายทำไร อาจเป็นเรื่องท้าทายพอกัน เพราะเหรียญไม่ได้มีแนวโน้มขาขึ้นตลอดไป

มีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าสูง

หากเหรียญคริปโตเคอเรนซี่เข้ามาในตลาดครั้งแรก เหรียญมักมีมูลค่าหลักทรัพย์เพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจหมายความว่าเหรียญมีโอกาสเติบโตเพิ่มมูลค่าเช่นกัน

วิธีซื้อเหรียญคริปโตออกใหม่

วิธีการซื้อเหรียญคริปโตเกิดใหม่ จะขึ้นอยู่กับว่าโปรเจกต์กำลังอยู่ในขั้นไหนในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น หากเป็นโปรเจกต์ใหม่ก็อาจถูกลิสแค่ในกระดานเทรดแบบ decentralized เท่านั้น

ในตัวอย่าง เป็นวิธีการซื้อเหรียญที่ eToro

วิธีการซื้อเหรียญคริปโตออกใหม่ในช่วงพรีเซล

• ขั้นตอนที่ 1 – สร้าง Crypto Wallet: ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม Pre-sale ของ LoveHateInu นักลงทุนจะต้องสร้าง Crypto Wallet ก่อน โดย MetaMask เป็น Wallet ยอดนิยมที่ใช้งานได้กับแพลตฟอร์ม
• ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ ETH/USDT และเชื่อมต่อ Wallet: LHINU สามารถแลกเปลี่ยนกับเหรียญ ETH หรือ USDT เพียงซื้อ ETH/USDT จากกระดานเทรดคริปโตยอดนิยมที่คุณเลือกและโอนไปยัง Crypto Wallet หรือนักลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์จาก Love Hate Inu Pre-sale ผ่าน Transak และเข้าถึงตัวเลือกการชำระด้วยสกุลเงินทั่วไป เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว ให้ไปที่เว็บไซต์ Pre-sale และคลิกที่ ‘Connect Wallet’ และเชื่อมต่อ Crypto Wallet ของคุณกับการ Pre-sale
• ขั้นตอนที่ 3 – ซื้อโทเค็น LHINU: ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่ใน Crypto Wallet ให้เลือก ‘Buy with ETH’ หรือ ‘Buy with USDT’ ป้อนจำนวน LHINU ที่คุณต้องการรับ และเลือกที่ปุ่ม ‘Confirm’
• ขั้นตอนที่ 4 – รับเหรียญ LHINU: นักลงทุนจะสามารถรับสิทธิ์การถือ LHINU ของพวกเขาบนเว็บไซต์ Pre-sale ได้หลังจากรอบ Pre-saleสิ้นสุดลง

ไปยัง Love Hate Inu Presale ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

บทสรุป

เหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดสามารถเพิ่มมูลค่าได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น เราขอแนะนำ Love Hate Inu (LHINU) เป็นเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2023 โปรเจกต์นี้นำเสนอแพลตฟอร์มการ Stake เพื่อการป้องกันจากการฉ้อโกง และโอกาสในการพลิกโฉมตลาดแบบสำรวจออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์มการลงคะแนนที่ขับเคลื่อนด้วย Blockchain แห่งแรกของโลกที่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน

LHINU ซึ่งเป็นโทเค็นหลักพร้อมให้ซื้อในช่วง Pre-sale ในราคาเพียง 0.000085 USDT โดยสามารถระดมทุนได้มากกว่า $173,919.26 ในขณะที่เขียน

โทเค็น ERC20 คือ โทเค็นที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้มาตรฐาน ERC20 บนบล็อกเชน Ethereum ด้วยการควบคุมของ Ethereum และระบบสัญญาอัจฉริยะ จึงทำให้คริปโตเคอเรนซี่ยอดนิยมโดยส่วนใหญ่ มักจะเป็นโทเค็น ERC20

มีโทเค็น ERC20 จำนวนมากมายให้นักลงทุนเลือกซื้อ แล้วซื้อเหรียญ ERC20 ไหนดี ? ในคู่มือนี้ เราจะรีวิว 6 โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุด น่าซื้อ 2023 และอธิบายทุกสิ่งที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ ERC20

6 โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุด น่าลงทุน!

เราได้รวบรวมอันดับของสุดยอดเหรียญบนเครือข่าย Ethereum ที่เป็น 6 โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2023:

1. Love Hate Inu (LHINU) – โทเค็น ERC-20 ที่ดีที่สุดโดยรวมพร้อมส่วนลดในช่วง Pre-sale
2. RobotEra (TARO) – โทเค็น ERC20 พร้อมกับเกม metaverse ใหม่
3. Tamadoge (TAMA) – โทเค็น ERC20 เหรียญมีมยอดนิยม
4. Lucky Block (LBLOCK) – โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ได้ลุ้นแจ็คพอต
5. Chainlink (LINK) – โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Ethereum
6. Ethereum (ETH) – โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกเหรียญ

ซื้อโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดตอนนี้

เจาะลึกโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่น่าซื้อ

คุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ควรจะลงทุนในปี 2023 หรือไม่ ? เราได้รวบรวมรีวิวโดยละเอียดของ 6 โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดมาแล้ว

1. Love Hate Inu (LHINU) – โทเค็น ERC-20 ที่ดีที่สุดโดยรวมพร้อมส่วนลดในช่วง Pre-sale

ประเดิมลิสต์จัดอันดับโทเค็น ERC-20 ที่ดีที่สุดของเราในตอนนี้คือ Love Hate Inu แพลตฟอร์มบน Ethereum ที่ให้ผู้ใช้โหวตว่าพวกเขา ‘รัก’ หรือ ‘เกลียด’ หัวข้อหรือผู้คนได้แบบเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มสามารถนำเสนอแบบสำรวจโดยอิงจากบุคคลสำคัญทางการเมือง ผู้มีอิทธิพล หรือเหตุการณ์สำคัญในปัจจุบัน

ผู้ใช้แพลตฟอร์มจะได้รับโทเค็น ERC-20 หลักอย่าง LHINU โดยกระบวนการลงคะแนนนั้นคล่องตัวและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งหมายความว่าจะมีโอกาสในการสร้างรายได้ที่ไม่จำกัดผ่านกลไก ‘Vote-to-Earn’ (V2E) ที่น่าตื่นเต้นนี้

ตามเอกสารข้อมูล Love Hate Inu แพลตฟอร์มกำหนดให้ผู้ใช้ซื้อและ Stake โทเค็น LHINU เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วันก่อนจึงจะสามารถลงคะแนนได้ วิธีการนี้มีความสำคัญ เนื่องจากช่วยกำจัดบอทและบัญชีสแปม ด้วยเหตุนี้ ผลแบบสำรวจความคิดเห็นจึงมีความแม่นยำมากขึ้น โดยเป็นการแสดงความ ‘จริง’ ของคอมมิวนิตี้ที่มีต่อหัวข้อต่างๆ

การใช้งานสำหรับเรื่องนี้ไม่มีขีดจำกัด เนื่องจากแบรนด์สามารถร่วมมือกับ Love Hate Inu เพื่ออำนวยความสะดวกในแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้สนับสนุนเพื่อวัดความรู้สึกที่มีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ อันที่จริงแล้ว ทีมงาน Love Hate Inu ได้ระบุไว้ในแผนการพัฒนาแล้วว่าโพลที่ได้รับการสนับสนุนเหล่านี้กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยผู้เข้าร่วมสามารถรับรางวัลพิเศษ เช่น สินค้าและส่วนลด NFT ได้

เมื่อมองไปในอนาคต ทีมพัฒนาได้นำเสนอแผนการที่จะเปิดแบบสำรวจความคิดเห็นที่ผู้ใช้สร้างขึ้นควบคู่ไปกับการรวมโลก Metaverse ไว้ด้วยกัน แผนเหล่านี้ช่วยให้ Love Hate Inu สร้างกระแสมหาศาลได้ภายในคอมมิวนิตี้คริปโต ซึ่งมีสมาชิกกว่า 14,000 คนที่ได้เข้าร่วมช่อง Telegram

ผู้ที่สนใจ Love Hate Inu สามารถซื้อ Love Hate Inu ($LHINU) ผ่านช่วง Pre-sale ของโปรเจกต์ โดยการ Pre-sale มีแปดขั้นตอน โดยจัดสรร LHINU จำนวน 11.25 พันล้านให้กับแต่ละขั้นตอน วิธีการนี้กระตุ้นให้นักลงทุนซื้อโทเค็นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากราคา LHINU จะเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ

เริ่มพรีเซลล์	7 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, BNB
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	10 LHINU
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale ตอนนี้

2. RobotEra (TARO) – โทเค็น ERC20 พร้อมกับเกม metaverse ใหม่ที่กำลังเปิดขายพรีเซล

TARO สร้างขึ้นบน Ethereum blockchain เป็นโทเค็น ERC-20 และเป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของ RobotEra

คริปโตเคอเรนซีใหม่นี้นำเสนอมัลติเวิร์สที่ใช้ร่วมกันซึ่งผู้เล่นสามารถสร้าง สำรวจ สร้างและแลกเปลี่ยนโปรโตคอลและสินทรัพย์ NFT ต่างๆ ได้ – ขณะนี้ TARO กำลังขายพรีเซลทั้งหมดสามรอบ โดย RobotEra วางแผนที่จะระดมทุนเกือบ 7 ล้านดอลลาร์ในช่วงพรีเซล

ผู้ใช้ RobotEra สามารถเหรียญ TARO เพื่อซื้อ Robots ซึ่งเป็นคอลเล็กชัน NFT หลักภายในแพลตฟอร์ม โดยมี Robots อยู่ใน ‘Taro Planet’ ซึ่งเป็นโลก metaverse เสมือนของ RobotEra

ผู้เล่นใช้หุ่นยนต์เป็นตัวแทนของตัวละครในเกมและมีจำนวนจำกัดที่ 10,000 NFT บน Taro Planet ผู้เล่นสามารถเข้าถึง 7 ทวีปและซื้อที่ดินในภูมิภาคต่างๆ สร้างโครงสร้างพื้นฐานและสร้างมันขึ้นมาใหม่เพื่อสร้าง Taro

ที่ดินถูกสร้างเป็น NFT ผ่านสัญญาอัจฉริยะ ERC-721 และผู้เล่นสามารถสร้าง NFT ใหม่ สร้างชุมชนของตนเอง และขุดดินเพื่อดึงทรัพยากรใหม่ๆได้

มีโอกาสมากมายในการสร้างรายได้ในระบบนิเวศนี้ โดยผู้เล่นสามารถสร้างและขาย NFT ของพวกเขา คิดค่าเข้าชมงานอีเวนต์และคอนเสิร์ต และขายพื้นที่ป้ายโฆษณาให้กับผู้ลงโฆษณา

โทเค็น TARO ยังสามารถใช้ stake และมีประโยชน์เพิ่มเติมโดยทำหน้าที่เป็นสิทธิ์ในการออกเสียงใน RobotEra DAO

โค้ดสัญญาอัจฉริยะของ RobotEra ได้รับการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์โดย SharkTeam และโครงการได้รับการตรวจสอบ KYC โดย CoinSniper

เนื่องจากคาดว่าโลกเกม metaverse จะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงตลาดซบเซา หลายคนกำลังมองหาซื้อสกุลเงินดิจิทัลหลักของ RobotEra ตั้งแต่ในช่วงพรีเซลล์

เอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่า TARO มีการจัดหาโทเค็นคงที่จำนวน 1.8 พันล้านเหรียญ โดย 15% ของอุปทานจะถูกแจกจ่ายผ่านสามขั้นตอนก่อนการขาย

แต่ละรอบของการขายพรีเซลจะจัดสรรโทเค็น 90 ล้านโทเค็น – โดยรอบแรกที่กำลังขายอยู่กำหนด TARO มีราคา $0.02 ราคาของโทเค็นจะเพิ่มขึ้นเป็น $0.032 ในรอบสุดท้าย – คิดเป็นราคาพุ่งขึ้น 60%

RobotEra ตั้งเป้าหมายการขายล่วงหน้าสูงสุดไว้ที่ 6.93 ล้านดอลลาร์ หากต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการ ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมกลุ่ม RobotEra Telegram

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

3. Tamadoge (TAMA) – โทเค็น ERC20 โดยรวมดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2023

Tamadoge เป็นคริปโตเคอเรนซี่ ERC20 มีมใหม่ล่าสุดที่เพิ่งขายพรีเซลจบไป ระดมทุนไปได้กว่า 19 ล้านดอลล่าร์Tamadoge (TAMA) เป็นคริปโตเคอเรนซี่หลักของเกม Play to Earn ในชื่อเดียวกัน ในเกม Tamadoge ผู้เล่นสามารถใช้โทเค็น TAMA เพื่อสร้างสัตว์เลี้ยง NFT เสมือนจริงได้ โดยสัตว์เลี้ยง NFT แต่ละตัวจะมีความสามารถและจุดแข็งที่ไม่เหมือนกัน และวิธีการที่เจ้าของ NFT เลี้ยงสัตว์เลี้ยงของพวกเขาจนเติบโต ก็จะส่งผลต่อการแสดงออกของพวกมันเช่นกัน

เมื่อสัตว์เลี้ยงโตเต็มวัย ผู้เล่นสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาต่อสู้กันได้ ผู้ชนะจะขึ้นสู่อันดับสูงสุดของกระดานผู้นำ Tamadoge และรับโทเค็น TAMA เป็นรางวัล จากนั้น พวกเขาสามารถใช้ TAMA เพื่อซื้อสัตว์เลี้ยง NFT เพิ่มเติม หรือใช้อัพเกรดสิ่งต่าง ๆ เกม เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในเกม

ที่สำคัญ TAMA เป็นสินทรัพย์มีอุปทานลดลงที่อัตรา 5% ของทุก ๆ การทำธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นสร้าง NFT ใหม่ หรือการอัพเกรด ดังนั้น เมื่อมีผู้เล่นเข้าร่วม Tamadoge และสร้างสัตว์เลี้ยง NFT มากขึ้น อุปทานของ TAMA ก็จะลดลงเร็วขึ้นด้วย สำหรับนักลงทุนรายแรก ๆ จะได้รับประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอุปสงค์เพิ่มขึ้นในขณะที่อุปทานลดลง ซึ่งทำให้ราคาของเหรียญคริปโตออกใหม่นี้พุ่งสูงขึ้นได้

ข้อดีอีกประการหนึ่งของ TAMA คือ ไม่มีภาษีธุรกรรม ดังนั้น นักลงทุนจะไม่ถูกเรียกเก็บเงินสำหรับการทำธุรกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการซื้อหรือขาย TAMA ซึ่งนี่ไม่ใช่กรณีที่พบทั่วไปในคริปโตเคอเรนซี่มาใหม่

ปัจจุบัน TAMA มีการซื้อขายบนกระดานแลกเปลี่ยน LBank OKX และ MEXC Global แล้ว นักลงทุนสามารถซื้อ TAMA ได้ด้วยบัตรเครดิต Ethereum หรือ Tether

ซื้อ Tamadoge

4. Lucky Block (LBLOCK) – โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ได้ลุ้นแจ็คพอต

Lucky Block เป็นแพลตฟอร์มการแข่งขันออนไลน์ที่สร้างขึ้นบนบล็อคเชน แพลตฟอร์มนี้มีการแข่งขันหลายรายการ รวมถึงการแจกของรางวัลรายวัน ซึ่งผู้เล่นที่โชคดีหนึ่งคนสามารถรับรางวัลรวมมูลค่าได้หลายหมื่นดอลลาร์

ในการเข้าร่วมการแข่งขันเหล่านี้ ผู้เล่นต้องถือ NFT ที่ทำหน้าที่เป็นตั๋ว NFT บางรายการของ Lucky Block เช่น คอลเลกชัน NFT Platinum Rollers Club จะมีจำนวนจำกัด เพื่อควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมในการแจกรางวัลในแต่ละครั้ง และในการซื้อ Lucky Block NFT ผู้เล่นจะต้องใช้ ERC20 ซึ่งโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม LBLOCK

สิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับโทเค็น LBLOCK คือ ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องชนะเพื่อได้เงินจากเหรียญ ERC20 นี้ เพราะส่วนหนึ่งของเงินรางวัลในแต่ละวัน จะถูกเก็บไว้เป็นรางวัลสำหรับผู้ถือโทเค็น นั่นหมายความว่าทุกคนที่ถือโทเค็น Lucky Block จะได้รับผลตอบแทนด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบเกี่ยวกับโทเค็น LBLOCK คือ การสนับสนุนองค์กรการกุศล โดยส่วนหนึ่งของเงินรางวัลในแต่ละวัน จะบริจาคให้กับองค์กรการกุศล และผู้ถือโทเค็นจะได้ลงคะแนนว่าองค์กรการกุศลใดที่พวกเขาต้องการสนับสนุน สำหรับนักลงทุนคริปโตที่สนใจทำบุญ นี่จึงเป็นแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร

แม้ว่ามูลค่าของรางวัลการแข่งขันใน Lucky Block จะไม่เปลี่ยนแปลงตามตลาด แต่มูลค่าของโทเค็น LBLOCK เปลี่ยนแปลงไปเสมอ โดยตอนนี้เหรียญ LBLOCK ราคาตกจนใกล้ถึงระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี นั่นหมายความว่า นักลงทุนสามารถซื้อ LBLOCK ได้ในราคาถูก และเมื่อซื้อ NFT ก็จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน และเริ่มรับรางวัลมากมาย พวกเขายังได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของราคา เนื่องจากการดีดตัวของ LBLOCK ในอนาคตด้วย

ซื้อ Lucky Block ตอนนี้ 

5. Chainlink (LINK) – โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Ethereum

Chainlink มีบทบาทสำคัญในบล็อคเชน Ethereum และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ blockchain oracle ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากโลกปัจจุบัน เชื่อมโยงกับสัญญาอัจฉริยะได้ ตัวอย่างเช่น หากสัญญาอัจฉริยะขึ้นอยู่กับคะแนนของเกมกีฬา หรือมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐ Chainlink สามารถส่งต่อข้อมูลนั้น ๆ ให้กับสัญญาอัจฉริยะได้

นั่นทำให้ Chainlink เป็นเหมือนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบล็อคเชน Ethereum หากเปรียบเทียบกับท่อ น้ำที่ไหลภายในท่อไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึง LINK ด้วย ซึ่ง LINK ก็คือ การชำระเงินที่จำเป็นสำหรับการใช้งานที่สำคัญหลาย ๆ อย่างในเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นการรับข้อมูล และการจ่ายเงินผู้ให้แก่ผู้บริการข้อมูล เพื่อให้ Chainlink ทำงานได้อย่างราบรื่น

อุปทานของ LINK จำกัดที่ 1 พันล้านโทเค็น และจะไม่มีทางเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อเครือข่าย Chainlink มีการใช้งานมากขึ้น หรือมีความต้องการ LINK ที่เพิ่มขึ้น อุปทานก็ยังคงเท่าเดิม ทำให้นักลงทุนที่ถือ LINK มีอำนาจในการควบคุมราคา LINK ที่สูงขึ้นได้ 

ซื้อ Chainlink ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง

6. Ethereum (ETH)  – โทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกเหรียญ

Ethereum เป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่ใช้สำหรับซื้อโทเค็น ERC20 อื่น ๆ ทั้งหมดในรายการที่กล่าวถึงนี้ โดย Ether (ETH) เป็นคริปโตเคอเรนซี่หลักของบล็อคเชน Ethereum ซึ่งสร้างเหรียญ ERC20 ทั้งหมดขึ้นมา

ETH ไม่ได้ผันผวนเหมือนกับคริปโตเคอเรนซี่อื่น ๆ เนื่องจากมีมูลค่าตลาดมหาศาลถึง 28.8 พันล้านดอลลาร์ และนั่นอาจเป็นเรื่องดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยง ETH ยังคงเป็นเหรียญหลักในตลาดคริปโต แต่ราคาไม่แกว่งเหมือนกับคริปโตเคอเรนซี่ที่เป็น ERC20 ที่มีขนาดเล็กกว่าจำนวนมาก

อีกเหตุผลหนึ่งที่นักลงทุนควรพิจารณา ETH ในตอนนี้ ก็คือบล็อคเชน Ethereum ได้รับการคาดการณ์ว่าในที่สุดจะเปลี่ยนเป็น proof-of-stake การเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า ‘The Merge‘ ซึ่งจะทำให้ Ethereum ใหม่ถูกสร้างขึ้นได้ยาก และจะให้ใช้แพลตฟอร์ม Staking สำหรับ Ethereum ได้ สิ่งนี้จะทำให้อุปทานลดลง และอาจเพิ่มมูลค่าของ ETH ได้

ซื้อ Ethereum ตอนนี้ 

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง

โทเค็น ERC20 คือ อะไร ?

ERC20 คือ มาตรฐานทางเทคนิคที่ใช้สำหรับสร้างโทเค็นบนบล็อคเชน Ethereum ดังนั้น โทเค็น ERC20 จึงเป็นโทเค็นที่สร้างขึ้นโดยใช้มาตรฐาน ERC20

มาตรฐาน ERC20 ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นที่แตกต่างกันโดยใช้บล็อคเชน Ethereum ได้ นักลงทุนจึงสามารถแลกเปลี่ยน Uniswap เป็น Tamadoge หรือ ApeCoin เป็น Lucky Block ได้ เนื่องจากทุกเหรียญใช้มาตรฐาน ERC20 ทั้งสิ้น

มาตรฐาน ERC20 ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2015 ในขณะนั้น มีการสร้างเหรียญใหม่หลายร้อยเหรียญ เพื่อใช้ประโยชน์จากสัญญาอัจฉริยะ ที่นำมาใช้บนบล็อคเชน Ethereum นักลงทุนและนักพัฒนาต้องการหาวิธีง่าย ๆ ในการแลกเปลี่ยนเหรียญต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่เช่นนั้นเหรียญคริปโตทั้งหมดที่สร้างขึ้นบนบล็อคเชน Ethereum จะมีวิธีการทำงานที่แตกต่างกันของใครของมัน

มาตรฐาน ERC20 ช่วยให้ครีเอเตอร์ยอมรับข้อกำหนดพื้นฐานทางเทคนิคชุดหนึ่งได้ เหรียญใหม่ทั้งหมดที่สร้างขึ้นโดยใช้มาตรฐานนี้ จะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ในขณะที่ ยังคงมีประโยชน์ใช้งานเฉพาะตัว และเป็นอิสระต่อกัน ERC20 ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดยชุมชน Ethereum ในปี 2017 ทำให้โทเค็นสัญญาอัจฉริยะเกือบทั้งหมดที่สร้างขึ้นบนบล็อคเชน Ethereum หลังจากเวลานั้น ล้วนเป็นไปตามมาตรฐาน ERC20

ทำไมต้องลงทุนในเหรียญ ERC20 ?

เมื่อพูดถึงการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ นักลงทุนมีตัวเลือกมากมายนอกเหนือจากโทเค็น ERC20 แล้วเหตุใดพวกเขาจึงควรลงทุนในโทเค็น ERC20 ?

เหตุผลหลักในการลงทุนในโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุด คือ สามารถใช้แลกเปลี่ยนกันได้กับโทเค็น ERC20 อื่น ๆ ทำให้ง่ายต่อการซื้อและขาย หรือใช้ประโยชน์จากโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ บน บล็อคเชน Ethereum

สมมติว่านักลงทุนซื้อ Ethereum และถือไว้ในเวลาหนึ่ง เมื่อโอกาสการลงทุนอื่น เช่น Tamadoge มาถึง เนื่องจากทั้ง Ethereum และ Tamadoge เป็นโทเค็น ERC20 นั่นหมายความว่า นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยน Ethereum เป็น Tamadoge ได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และราคาถูก เพียงเท่านี้ นักลงทุนก็จะมีโอกาสลงทุนในเหรียญคริปโตใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้แล้ว

หากนักลงทุนต้องการเพิ่มหรือลดความเสี่ยงก็ทำได้อย่างง่ายดาย โดยหากนักลงทุนอยากเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนไปเป็นเหรียญ stablecoin เช่น Tether ซึ่งเป็นหนึ่งในโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่ให้ผลตอบแทน หรือโอกาสการลงทุนในโครงการ metaverse ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่หากนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากเหรียญคริปโตใหม่ พวกเขาก็สามารถสลับกลับมาเป็น Ethereum ได้

ที่สำคัญ โทเค็น ERC20 ได้รับความนิยมอย่างมาก จนมาตรฐานเหรียญที่ใช้กับบล็อคเชนหลักอื่น ๆ ก็เข้ากันได้กับมาตรฐานนี้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น มาตรฐาน BEP20 ที่ใช้บน Binance Smart Chain สามารถเข้ากันได้กับมาตรฐาน ERC20 บนบล็อคเชน Ethereum ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถสลับโทเค็น ERC20 กับ โทเค็น BEP20 เช่น BNB, Pancakeswap และ Binance USD ได้

วิธีซื้อโทเค็น ERC20

พร้อมที่จะซื้อโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 แล้วหรือยัง ? เราจะขอแนะนำขั้นตอนการซื้อ Love Hate Inu ซึ่งเป็นเหรียญคริปโต pre-sale ที่วางขายในช่วงเวลาจำกัด

• ขั้นตอนที่ 1 – ดาวน์โหลด Crypto Wallet: นักลงทุนสามารถเข้าถึง Love Hate Inu presale ได้โดยดาวน์โหลดกระเป๋าเงิน crypto ที่ใช้งานร่วมกันได้ ตัวอย่างเช่น Wallet Connect และ MetaMask เป็นกระเป๋าเงิน cryptocurrency ที่ได้รับความนิยมซึ่งสามารถดาวน์โหลดเพื่อเข้าถึงการขายล่วงหน้า
• ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ ETH/USDT: สามารถซื้อ LHINU ด้วยโทเค็น ERC-20 รวมถึง Ethereum (ETH) และ USDT ซื้อโทเค็นเหล่านี้จากการแลกเปลี่ยน crypto และโอนกลับไปยังกระเป๋าเงิน crypto นักลงทุนยังสามารถซื้อ ETH หรือ USDT ได้จากเว็บไซต์ Love Hate Inu ผ่าน Transak และเข้าถึงตัวเลือกการชำระเงิน fiat
• ขั้นตอนที่ 3 – เชื่อมต่อ Wallet กับ Presale: หลังจากซื้อสินทรัพย์และโอนไปยังกระเป๋าเงิน crypto แล้ว ให้ตรงไปที่เว็บไซต์ Love Hate Inu ตอนนี้ คลิกที่ ‘เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน’ และทำตามคำแนะนำที่ปรากฏบนหน้าจอ
• ขั้นตอนที่ 4 – ซื้อโทเค็น LHINU: นักลงทุนสามารถเลือก ‘ซื้อด้วย ETH/USDT’ ขึ้นอยู่กับโทเค็นที่พวกเขาถืออยู่ในกระเป๋าเงิน หลังจากนั้น ป้อนจำนวนโทเค็นที่คุณต้องการซื้อและคลิก ‘แปลง’ คุณจะสามารถรับโทเค็นบนแพลตฟอร์มการขายล่วงหน้าได้ หลังจากที่การขายล่วงหน้าสิ้นสุดลง

ไปยังLove Hate Inuตอนนี้

บทสรุป

โทเค็น ERC20 สามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายกับโทเค็น ERC20 อื่น ๆ ทำให้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยังคงมองหาคริปโตเคอเรนซี่มูลค่าสูงในอนาคต

เราคิดว่า Love Hate Inu เป็นโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุดที่น่าซื้อในปี 2023 โดยส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มดังกล่าวคือจะให้ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น ERC-20 ได้มากขึ้นด้วยการเข้าร่วมแบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังเป็นที่นิยม

การขายโทเค็นล่วงหน้าได้ระดมทุนมากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่วัน และนักลงทุนควรรีบเร่งหากต้องการรับโทเค็นโบนัส 50%

โดยทั่วไปแล้ว คริปโตเคอเรนซี่ เป็นอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นอนาคต เป้าหมายหลักของหลายๆ เหรียญคริปโต คือการเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกปัจจุบัน ดังนั้น การหาเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด จะถือเป็นการลงทุนที่ดี ไปอีกเป็นเดือนหรือหลายปีต่อจากนี้ 

โดยบทความนี้ จะพูดเหรียญคริปโตในอนาคตที่น่าซื้อ รวมถึงอธิบายวิธีการค้นหาสินทรัพย์ที่เข้าใจยากเหล่านี้ และคาดการณ์อนาคตของเหรียญคริปโตบางเหรียญ มาเริ่มต้นเจาะลึกกันเลย

11 เหรียญคริปโตในอนาคตที่น่าซื้อ ปี 2023

เพื่อให้การค้นหาเหรียญคริปโตที่มีอนาคตดีที่สุดง่ายขึ้น นี่คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเรา :

1. Love Hate Inu – เหรียญคริปโตในอนาคตมีม ที่น่าซื้อในปี 2023
2. DeeLance – โปรเจกต์คริปโตที่น่าตื่นเต้นที่จะมาปฏิวัติอนาคตของวงการฟรีแลนซ์
3. Ecoterra – เหรียญคริปโตในอนาคตเพื่อสิ่งแวดล้อมที่จะมาช่วยในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
4. Metropoly – วิธีแห่งอนาคตในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
5. RobotEra – เหรียญคริปโต P2E ที่เปิดตัวขายพรีเซล มอบผลตอบแทนมากมายหลายแบบ
6. Tamadoge – เกมคริปโต P2E ที่อุปทานจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป พร้อมโอกาสทำกำไรในอนาคต
7. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่เป็นระบบการเล่นแบบ P2E   
8. Lucky Block (LBLOCK) – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่มีรูปแบบของการจับรางวัล
9. Defi Coin (DEFC) – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่มีฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
10. Quant – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่เชื่อมต่อเครือข่ายการทำงานเข้าหากัน
11. XRP – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่เชื่อมโยงระหว่างคริปโตเคอเรนซี่และการเงินแบบดั้งเดิม

ซื้อเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุดตอนนี้

รีวิวเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุดที่น่าลงทุน

เมื่อพูดถึงเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด อาจทำให้เกิดความคิดเห็นแตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าได้รวมรวบรายการเหรียญคริปโตที่ถูกต้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เหรียญคริปโต อนาคตไกล หรือเหรียญคริปโต IDO และ IEO ใหม่ ที่แต่ละโครงการล้วนแต่มีศักยภาพอย่างมหาศาลในอนาคต มีทีมพัฒนาที่ดี และมีประโยชน์ใช้งานอันยอดเยี่ยม

1. Love Hate Inu – เหรียญคริปโตในอนาคตมีม ที่น่าซื้อในปี 2023

เมื่อพยายามค้นหาเหรียญคริปโตในอนาคตมีม ที่น่าซื้อ จำนวนโปรเจกต์คริปโตที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ยากต่อการตัดสินว่าเหรียญใดเหมาะและมีศักยภาพในระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาการปฏิบัติจริงของโปรเจกต์และประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาในโลกจริง

Love Hate Inu เป็น utility คริปโตบน web 3.0 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ stake เหรียญหลักของโปรเจกต์ $LHINU เพื่อรับรางวัลในขณะที่เข้าร่วมแบบสำรวจความคิดเห็น

Love Hate Inu ได้เข้าสู่โลกของเหรียญคริปโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้ใช้จำนวนมากและระดมทุนได้ 2.8 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนนับตั้งแต่เปิดตัว Pre-sale

ขณะนี้ $LHINU สามารถซื้อได้ในราคาเพียง $0.000105 during stage 4 อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การพรีเซลล์ดำเนินต่อไปในแปดรอบ ราคาจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น $0.000145 USDT ซึ่งเพิ่มขึ้น 38% จากราคาปัจจุบัน 

ผู้ที่ชื่นชอบเหรียญคริปโตจะสามารถซื้อโทเค็นเหล่านี้ได้โดยใช้ USDT/Ethereum หรือบัตรเครดิตผ่านทางเว็บไซต์พรีเซลล์ของแพลตฟอร์ม

Love Hate Inu คืออะไร?

Love Hate Inu เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เหมือนใครพร้อมระบบ “vote-to-earn” ที่ให้รางวัลจากการ staking และการโหวตในแบบสำรวจมีม

โปรเจกต์กำลังได้รับความสนใจบนโซเชียลมีเดียเนื่องจากการใช้งานจริง เช่น การสำรวจปัญหาสังคม เช่นเดียวกับ utility token มีมยอดนิยมอื่นๆ เช่น Dogecoin, Shiba Inu และ Tamadoge โดย Love Hate Inu มีศักยภาพที่จะกลายเป็น utility token มีมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

Stake-to-Vote

ระบบการลงคะแนนบน Blockchain ของ Love Hate Inu อาจปฏิวัติแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ด้วยการนำเสนออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แดชบอร์ดผู้ดูแลระบบ และระบบการลงคะแนนที่ทำให้การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะเป็นเรื่องง่าย 

ตามเอกสารข้อมูล Love Hate Inu ผู้ใช้สามารถลงคะแนนโดยไม่ระบุชื่อโดยการ stake โทเค็น โดยจะได้รับรางวัลโทเค็นตามสัดส่วนของคะแนนโหวตโดยไม่ต้องกลัวการสแปมหรือการดัดแปลง

นอกจากนี้ ผู้ซื้อสามารถอ่านคู่มือสำหรับมือใหม่ได้ที่วิธีซื้อโทเค็น Love Hate Inu ($LHINU)

ทำไมต้องลงทุนใน $LHINU?

แพลตฟอร์มนี้ใช้เทคโนโลยีบัญชี ledger ที่รับประกันความสมบูรณ์และความถูกต้องของข้อมูลที่ประมวลผลทั้งหมด

การพรีเซลล์มีเป้าหมายที่จะขาย 90% ของโทเค็นสูงสุด 100,000 ล้านโทเค็น เพื่อป้องกันการร่วงของราคาอย่างกะทันหันหรือการฉ้อโกง นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจะเก็บ 10% ของโทเค็นทั้งหมดเพื่อให้มีสภาพคล่องในระยะยาว ค่าธรรมเนียมการลิสลงกระดานเทรด และสร้างแรงจูงใจให้กับชุมชน นักลงทุนสามารถเข้าร่วมช่อง Love Hate Inu Telegram เพื่อรับข้อมูลอัพเดตล่าสุด

เริ่มพรีเซลล์	8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
เพดานเงินทุน	$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำ	10 $LHINU
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยังLove Hate Inu Presale

2. DeeLance – โปรเจกต์คริปโตที่น่าตื่นเต้นที่จะมาปฏิวัติอนาคตของวงการฟรีแลนซ์

DeeLance โปรเจกต์คริปโตที่น่าตื่นเต้นที่จะมาปฏิวัติอนาคตของวงการฟรีแลนซ์ ทำให้มีความปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับทั้งนายจ้างและฟรีแลนซ์

โปรเจกต์เพิ่งเปิดตัวเฟสแรกของการ Pre-sale ของโทเค็น DLANCE และก็ได้รับกระแสความตื่นเต้นอย่างมากในตลาด

DeeLance สัญญาว่าค่าธรรมเนียมจะถูกกว่าคู่แข่งชั้นนำของ Web2 และจะเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของฟรีแลนซ์โดยตัดคนกลางออกไป

ที่น่าสนใจคือโปรเจกต์นี้กำลังพัฒนา Metaverse ของตัวเอง ซึ่งผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ ทำงานร่วมกัน โฆษณาบริการ หรือจัดการประชุมในพื้นที่สำนักงาน

แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดยทีมงานที่ผ่านการรับรองและยืนยัน KYC โดยจะมีระบบข้อเสนอแนะที่มองเห็นได้ซึ่งช่วยให้ผู้จ้างสามารถค้นหาผู้สมัครและฟรีแลนซ์คุณภาพสูงเพื่อหลีกเลี่ยงเหล่าฟรีแลนซ์ที่มีคุณภาพต่ำ

DLANCE จะถูกใช้เพื่อจ่ายค่างาน – รวมทั้งใช้เป็นสกุลเงินใน Metaverse – โดยจะชำระเงินเกือบจะทันทีและตัดค่าธรรมเนียม เช่น ค่าคอมมิชชั่นการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

DeeLance จะระงับการชำระเงินในเอสโครว์ที่ปลอดภัยซึ่งจะจ่ายทันทีเมื่องานเสร็จสิ้นตามข้อกำหนดที่ตกลงไว้ ซึ่งหมายความว่าฟรีแลนซ์จะไม่ต้องคอยทวงเงินกับผู้จ้างแต่อย่างใด

งานที่เสร็จสมบูรณ์จะถูกแปลงเป็น NFT และจัดเก็บไว้ใน Blockchain ช่วยลดการฉ้อโกงการชำระเงินและปัญหาลิขสิทธิ์ที่อาจเกิดขึ้น

เฟสแรกของการ Pre-sale​ของ DLANCE กำลังดำเนินอยู่ โดยมีราคาโทเค็นอยู่ที่ $0.025 และเพิ่มขึ้นเป็น $0.035 ในรอบที่หกและรอบสุดท้าย โปรเจกต์นี้จัดสรรจำนวนไว้ที่ 30% ของจำนวนสูงสุด 1 พันล้านโทเค็นโดยไม่มีระยะเวลาล็อคเหรียญและตั้งเป้าระดมทุนที่ 6.8 ล้านดอลลาร์

ผู้สนใจโปรดเข้าร่วมกลุ่ม Telegram หรืออ่านเอกสารข้อมูลของ DeeLance หรือสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มพรีเซลล์	30 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

3. Ecoterra – เหรียญคริปโตในอนาคตเพื่อสิ่งแวดล้อมที่จะมาช่วยในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

Ecoterra เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโต Presale ที่เพิ่งเปิดตัวซึ่งกำลังจัดการกับหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในอนาคต – ภาวะโลกร้อน

ผู้ใช้สามารถช่วยต่อสู้กับวิกฤตโลกร้อนด้วยคอนเซ็ปต์หม่ของโปรเจกต์ นั่นคือ Recycle-to-Earn ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Ecoterra ได้รับรางวัลง่ายๆ จากการรีไซเคิลวัสดุ

กระบวนการดังกล่าวจะทำได้โดยการนำวัสดุที่รีไซเคิลได้ เช่น ขวดแก้วหรือพลาสติกใส่ลงเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) ซึ่งพบได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก

เมื่อใช้แอพมือถือ Ecoterra บาร์โค้ดจะถูกสแกนแล้วฝาก แโดยต่ละรายการมีค่าและผู้ใช้จะได้รับโทเค็น ECOTERRA สำหรับความพยายามรักษาสิ่งแวดล้อม

โทเค็น ERC-20 นั้นสามารถขายในกระดานแลกเปลี่ยน ถือเป็นการลงทุนและ Stake เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

นอกจากนี้ Ecoterra ยังให้ผู้ใช้ใช้โทเค็น ECOTERRA เพื่อสมทบทุนเพิ่มเติมสำหรับความพยายามรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดมหาสมุทรหรือการปลูกต้นไม้ รวมถึงการซื้อเครดิตคาร์บอนที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

แอพมือถือยังมีตลาดซื้อขายวัสดุรีไซเคิล เชื่อมโยงบุคคลและบริษัทเข้ากับผู้รีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย โดยการดำเนินการทั้งหมดจะถูกติดตามและมองเห็นได้

ซึ่งจะส่งเสริมความพยายามที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่ผู้ใช้ยังได้รับรางวัลอื่นๆ เช่น NFT เมื่อบรรลุเหตุการณ์สำคัญบางอย่าง

การ Pre-sale​ของ ECOTERRA ยังอยู่ในรอบแรกเท่านั้น แต่เป็นโทเค็นที่มีศักยภาพสูงโดยราคาจะเพิ่มขึ้น 150% – จาก 0.004 ดอลลาร์เป็น 0.01 ดอลลาร์ – ในทั้งแปดรอบ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านเอกสารข้อมูล หรือเข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram

เริ่มพรีเซลล์	29 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Ecoterra Presale ตอนนี้

4. Metropoly – วิธีแห่งอนาคตในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การรวมเทคโนโลยี Blockchain เข้ากับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้เปิดช่องทางมากมายสำหรับการสร้าง utility token และหลายโปรเจกต์ก็กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งมีโอกาสมากมายสำหรับการลงทุนที่ให้ผลกำไรในวงการนี้สำหรับคนที่รู้ว่าควรลงทุนในโปรเจกต์ใด

Metropoly เป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อโอกาสการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกโดยมีข้อกำหนดในการเข้าต่ำเริ่มต้นที่ 100 ดอลลาร์ แพลตฟอร์มใช้ประโยชน์จากการถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน ทำให้หลายฝ่ายสามารถเป็นเจ้าของส่วนแบ่งในทรัพย์สินได้ ความเป็นเจ้าของจะถูกบันทึกผ่าน NFT ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสินทรัพย์จริง

โดบ Utility Token ERC-20 ของ Metropoly อย่าง METRO ทำหน้าที่เป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์ม ช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินและรางวัล การ Pre-sale ของโทเค็น METRO ได้มาถึงรอบสุดท้ายแล้ว โดยระดมทุนได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวนทั้งหมดของโทเค็น METRO คือ 1 พันล้านโดยแต่ละโทเค็นมีราคาอยู่ที่ $0.0714 และสามารถซื้อได้โดยใช้ USDT, ETH หรือ BNB

นักลงทุนที่เข้าร่วมในการ Pre-sale​ จะได้รับสิทธิ์เข้าสู่ Platinum Member’s Club โดยอัตโนมัติ โดยมีข้อดีหลายประการ เช่น การเข้าถึง Metropoly Beta และ NFT ก่อนใคร โดยรางวัลจะเพิ่มขึ้นตามระดับการลงทุนที่สูงขึ้น รวมถึง NFT ที่มีมูลค่า 10,000 ดอลลาร์และเงินคืนจากรายได้ค่าเช่า ซึ่งนักลงทุนรายแรกๆ จะได้รับโบนัสมากมายกว่าผู้ที่เข้าร่วมในภายหลัง

การถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนส่วนเปิดโอกาสให้ได้รับรายได้แบบพาสซีฟผ่านอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ทำให้เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานานในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Metropoly ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายในเวลาเพียง 20 วินาที โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเครดิตใดๆ

ด้วยการลงทุนผ่าน Metropoly นักลงทุนสามารถขยายพอร์ตการลงทุนและลดผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อโดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์จากทั่วโลก ผู้ใช้ยังสามารถสำรวจฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้โดยใช้ตัวต้นแบบของสินทรัพย์นั้นๆ

Metropoly มีศักยภาพในการทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เข้าถึงได้อย่างกว้างขาวง ทำให้เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับบุคคลทั่วโลก นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกที่ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไปยัง Metropoly Presale

5. RobotEra – เหรียญคริปโต P2E ที่เปิดตัวขายพรีเซล มอบผลตอบแทนมากมายหลายแบบ

RobotEra ได้พัฒนาโทเค็น $TARO เพื่อใช้เป็นสกุลเงินดิจิตอลสำหรับเล่นเกมในอนาคตที่ให้รางวัลแก่ผู้เล่นในรูปแบบต่างๆ

เหรียญนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเกม play to earn ที่ยิ่งใหญ่เพื่อรับโทเค็นในช่วงพรีเซลล์ที่น่าดึงดูดใจ

นักลงทุนสามารถซื้อ TARO ในช่วงแรกได้ในราคา 0.02 ดอลลาร์ โดยเป็นสินทรัพย์ที่แข็งค่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 0.025 ดอลลาร์ในรอบที่สอง และรอบที่สามให้ผลตอบแทนสูงถึง 60% สำหรับนักลงทุนรายแรกๆ – พร้อมขายโทเค็นในราคา 0.032 ดอลลาร์

RobotEra ได้จำกัดการจัดสรรโทเค็น TARO ไว้ที่ 1.8 พันล้าน แต่มีเพียง 270 ล้านโทเค็นเท่านั้นที่มีให้ในช่วงพรีเซลล์

เหรียญจะหายากมากยิ่งขึ้นในช่วงที่ทำการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนที่คาดไว้ โดยมีเพียง 3% ของอุปทานทั้งหมดที่กำหนดให้เป็นสภาพคล่องสำหรับกระดานแลกเปลี่ยน

คาดว่าจะมีความต้องการสูงสำหรับโทเค็น TARO เมื่อได้รับความสนใจมากขึ้นในกระดานแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นักลงทุนค้นพบวิธีต่างๆ ที่พวกเขาสามารถรับรางวัลสำหรับเกม P2E นี้

ด้วยอวาตาร์หุ่นยนต์ ผู้เล่นจะสร้างดาวเคราะห์ทาโรที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่ ผู้เล่นจะต้องเป็นเจ้าของโทเค็น TARO เพื่อซื้อที่ดิน metaverse ซึ่งใช้สำหรับรวบรวมวัตถุดิบ ขุดแร่ และปลูกต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

เป็นกิจกรรมทั้งหมดที่ RobotEra ให้รางวัลเป็นโทเค็น และยังมีอีกมากมาย

ผู้เล่นสามารถสร้างหุ่นยนต์คู่หูด้วยเครื่องมือในเกม ปรับแต่งและอัพเกรดพวกมัน แล้วขายเป็น NFT ในตลาดเปิด

เกมดังกล่าวยังช่วยให้ผู้เล่นได้รับโทเค็นจากการขายป้ายโฆษณาให้กับผู้ลงโฆษณา การเข้าร่วมคอนเสิร์ตและการจัดงานอีเวนต์ที่สามารถเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมได้

วิธีอื่นในการรับโทเค็นคือการขายที่ดิน stake เหรียญ และทำกิจกรรมต่างๆบนทวีปอิสระ ตามข้อมูลในเอกสารไวท์เปเปอร์ของ RobotEra

ด้วยข้อจำกัดเล็กน้อยในการสร้าง – และไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด – นักพัฒนา RobotEra (ที่ได้รับการตรวจสอบและรับรอง KYC แล้ว) คาดหวังช่องทางรายได้ที่มากขึ้นในการพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อผู้เล่นสร้างโลกของพวกเขาเอง

นักลงทุนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TARO สามารถรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดได้ทางช่องทาง Telegram

ก่อนที่เหรียญจะเข้าสู่รอบที่สองและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น นักลงทุนควรเข้าซื้อตั้งแต่ราคา TARO ยังต่ำๆเพื่อไม่ให้พลาดของดีราคาถูก

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

6. Tamadoge –เกมคริปโต P2E ที่อุปทานจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป พร้อมโอกาสทำกำไรในอนาคต

ใครๆ ก็สนใจใน Tamadoge เพราะมันคือเหรียญคริปโตแห่งปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากตอนนี้ขายพรีเซลสิ้นสุดไปแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ โดยระดมทุนไปได้กว่า 19 ล้านดอลลาร์ จากนักลงทุนกว่าหมื่นคน

Tamadoge (TAMA) ยังได้เปิดตัวบนกระดานแลกเปลี่ยนและเพิ่มกำไรเกือบ 2,000% ในเดือนตุลาคม

Tamadoge สามารถกลายเป็นเหรียญแห่งอนาคตได้เนื่องจากการพัฒนาหลายอย่างที่จะทำให้โปรเจกต์นี้จะมีมูลค่าสูงขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นรอบถัดไป

เกม Tamadoge หลักคาดว่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้ โดยผู้เล่นจะผสมพันธุ์และขยายพันธุ์สัตว์เลี้ยงของตนก่อนที่จะต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นเพื่อชิงรางวัล

การพัฒนาอีกอย่างคือการรวมเข้ากับ Metaverse โดยผู้เล่นสามารถใช้มือถือเพื่อพาสัตว์เลี้ยง NFT ไปเดินเล่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ Tamaverse ในแอพเสมือน

การทำเช่นนี้ จะทำให้ผู้เล่นได้รับคะแนน และถูกนำไปจัดอันดับบนกระดานผู้นำ ผู้เล่นที่ได้อันดับสูงสุด จะได้รับรางวัลใหญ่ที่สุดจากกองเงินรางวัลรวม ซึ่งคิดเป็น 65% ของเหรียญ Tamadoge ที่ใช้ไปทั้งหมด ดังนั้น เกมนี้จึงไม่ได้เล่นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เล่นได้รับเงินอีกด้วย

อีกหนึ่งการพัฒนาครั้งใหญ่ก็คือการเพิ่มแอพ Tamadoge และเกม P2E Arcade โดยทั้ง 5 เกมมาในสไตล์เกมย้อนยุคก็ได้เปิดให้เล่นและก็ได้รับกระแสตอบรับเชิงบวกอย่างล้นหลามในชุมชน

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังเผา 5% ของเหรียญ TAMA ทั้งหมดที่ใช้บนแพลตฟอร์มทิ้ง ทำให้อุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งแตกต่างจาก Dogecoin ซึ่งมีอุปทานที่ไม่จำกัดและเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และอุปทานหมุนเวียนในปัจจุบันมากกว่า 130 พันล้านเหรียญ

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

7.Battle Infinity –  เหรียญคริปโตในอนาคต ที่เป็นระบบการเล่นแบบ P2E  

เมื่อพูดถึงเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด ก็มีไม่กี่เหรียญที่เป็นคู่แข่งที่เทียบเคียงกับ Battle Infinity (IBAT) ได้ ในแง่ของศักยภาพและประโยชน์ใช้งาน เนื่องจากเหรียญนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะรวบรวมองค์ประกอบที่ดีที่สุดจากภาคส่วนยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น กีฬาแฟนตาซี, NFTs, Metaverse และการเล่นเพื่อหารายได้

ด้วยการนำองค์ประกอบจากภาคส่วนต่าง ๆ มารวมกัน ทำให้ Battle Infinity ได้สร้างระบบนิเวศแบบครบวงจร ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้ในทุก ๆ ความสนใจ ซึ่งนี่เป็นการเปิดโอกาสศักยภาพอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้ใช้งานของ Battle Infinity ซึ่งมีความต้องการมากเพียงพอ ที่จะขับเคลื่อนโครงการสู่การเป็นผู้นำของตลาดคริปโต

Battle Infinity ถูกแบ่งออกเป็น 6 แพลตฟอร์มที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์ต่างๆของตัวเอง ที่ทำให้ระบบนิเวศของ Battle Infinity ใช้งานง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ ได้แก่ IBAT พรีเมียร์ลีก (ลีกกีฬาแฟนตาซี), IBAT Battle Swap (กระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized), IBAT Battle Market (ตลาด NFT), IBAT Battle Games (แพลตฟอร์มเกม P2E), IBAT Battle Area (โลก Metaverse) และสุดท้าย IBAT Battle Stake (แพลตฟอร์มการ Staking)

สิ่งที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศของ Battle Infinity คือ โทเค็น BEP-20 – $IBAT ด้วยอุปทานทั้งหมดที่ 1 หมื่นล้านโทเค็น จึงมีจำนวนโทเค็นมากมายให้ใช้งาน แต่ด้วยปริมาณความต้องการของนักลงทุน จึงเป็นการดีที่ร่วมลงทุนในตอนนี้ ดีกว่าลงทุนในภายหลัง โทเค็น $IBAT ถูกนำไปใช้งานมากมาย ทั้งการให้รางวัลการ Staking, การให้รางวัลแก่ผู้เล่น และสนับสนุนการทำธุรกรรม โทเค็นนี้มีประโยชน์หลากหลาย และทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่า หาก $IBAT เข้าสู่ตลาดเปิด จะมีปริมาณความต้องการที่สูง และทำให้มูลค่าเหรียญนี้พุ่งขึ้นสูงมาก 

โดยรวมแล้ว Battle Infinity อัดแน่นไปด้วยประโยชน์ใช้งาน และทีมพัฒนาที่วางแผนเก่ง ทำให้ถือเป็นเหรียญคริปโตที่มีอนาคตที่ดีที่สุด และเนื่องจากทีมงานจะมีการอัปเดตบ่อยครั้ง แนะนำให้ควรเข้าร่วมกลุ่ม Battle Infinity ใน Telegram (แอดมินจะไม่ DM หาคุณก่อน หรือขอ seed phrase) เพื่อจะได้ไม่พลาดข่าวสารล่าสุด

ข้อมูลอัปเดต – ตอนนี้การขายพรีเซลของ Battle Infinity หมดแล้ว โดยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภายใน 24 วัน และระดมทุนได้ 5 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถซื้อ IBAT ที่มีมูลค่าตลาด 40 ล้านดอลลาร์ ได้บน PancakeSwap และ LBank และจะมีการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนอื่น ๆ ที่จะประกาศให้ทราบในเร็วๆนี้

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

8. Lucky Block – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่มีรูปแบบของการจับรางวัล

ด้วยรูปแบบการจับรางวัลที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ Lucky Block (LBLOCK) โดดเด่นกว่าโปรเจกต์อื่นๆ

การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการจับรางวัล ทำให้ Lucky Block ได้สร้างระบบที่ยุติธรรมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงมีการให้รางวัลแบบที่ไม่มีใครเทียบได้

สรุปแล้ว Lucky Block อาจเป็นเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด ที่น่าซื้อสำหรับคนที่รักในการเสี่ยงโชค เพราะ lucky Block ทั้งมีประโยชน์ใช้งาน มีการให้รางวัลผู้ถือเหรียญ และแสดงศักยภาพอย่างมหาศาล ในเดือนและปีต่อ ๆ ไป

รางวัลที่นำเสนอในปัจจุบัน ได้แก่ รถยนต์ลัมโบร์กินีมูลค่า 300,000 ดอลลาร์, บ้านมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ และเหรียญบิทคอยด์มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Lucky Block เพิ่งเปิดตัวเหรียญ LBLOCK V2 ซึ่งลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลง 12% จากเหรียญ V1 และช่วยให้สามารถลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized ได้ง่ายขึ้น

LBLOCK V2 ได้รับการลิสบน MEXC, LBank และ Gate.io และจะมีการลิสเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ บนกระดานแลกเปลี่ยนอื่น ๆ และ Scott Ryder ผู้เป็น CEO ได้ประกาศอัตราการเผาเหรียญทิ้งรายเดือนไว้ที่ 1% ทำให้ Lucky Block ดูเหมือนจะพร้อมรับการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคต

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

9.DeFi Coin – เหรียญคริปโตในอนาคต ที่มีฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การลงทุนในเหรียญคริปโตในอนาคตที่ควรนำพิจารณาอีกหนึ่งเหรียญ ก็คือ DeFi Coin ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตที่มีการซื้อขายแบบ decentralize ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นเหรียญคริปโต อนาคตไกลอีกเหรียญหนึ่ง

Defi Coin (DEFC) เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตที่มอบประโยชน์ใช้งานที่หลากหลาย โดยผู้ที่ถือ DEFC จะมีรายได้แบบพาสซีฟผ่านการทำฟาร์มที่ให้ผลตอบแทน หรือใช้เพื่อสร้างผลตอบแทนผ่านการให้ยืมโทเค็นบนกระดานแลกเปลี่ยนของ liquidity pools 

DEFC เชื่อมโยงกับ Difi Swap กระดานแลกเปลี่ยนแบบ Defi ที่ดีที่สุด และสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจให้กับผู้ถือเหรียญ โดยทีมพัฒนามีการเก็บค่าธรรมเนียม 10% เมื่อใดก็ตามที่มีคนซื้อหรือขาย และรายได้ที่ได้ จะถูกแจกกลับไปให้กับผู้ถือโทเค็น 50% ในขณะที่อีก 50% ที่เหลือจะถูกดึงกลับไปที่  liquidity pools ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักลงทุนมีแรงจูงใจที่จะถือโทเค็น รวมถึงมีกลไกการเผาเหรียญด้วยตัวเอง เพื่อกำจัดโทเค็นออกอย่างถาวร จึงช่วยลบอุปทานของเหรียญ ที่เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้เป็นเหรียญคริปโตในอนาคตที่ราคาจะสูงขึ้นกว่าเดิม 

Defi Coin เป็นเหรียญที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น และการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง แต่หากคุณกำลังมองหาเหรียญคริปโตในอนาคตที่โอกาสการเติบโตสูง ก็ต้องลองศึกษาข้อมูลของ DEFC อย่างละเอียด ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน

ซื้อเหรียญ DeFi ตอนนี้

10. Quant – เหรียญคริปโตในอนาคตที่เชื่อมต่อเครือข่ายการทำงานเข้าหากัน

Quant (QNT) เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2021 และแม้ว่าราคาจะลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่นักลงทุนหลายคนก็ยังคงเชื่อมั่นว่าจะเป็นเหรียญคริปโตในอนาคตที่มีศักยภาพ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา QNT มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัว โดยราคาขึ้นจาก 50 กว่าดอลลาร์ เป็นมากกว่า 100 ดอลลาร์ และเพราะการขยับราคาที่สูงขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนจะสงสัยว่า QNT อาจเป็นเหรียญคริปโต อนาคตไกลที่ดีที่สุดที่น่าลงทุน

วัตถุประสงค์หลักของ Quant คือ การเชื่อมต่อบล็อคเชนและเครือข่ายต่างๆ จำนวนมากเข้าหากัน ในขณะเดียวกันก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ลดประสิทธิภาพลง หลาย ๆ คนเชื่อว่า การที่จะนำคริปโตมาใช้เป็นสินทรัพย์หลักนั้น ต้องแก้ไขปัญหาความสามารถในการทำงานร่วมกันก่อน ซึ่งในปัจจุบันมีอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างบล็อกเชน โดย Quant ได้ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว และด้วยเทคโนโลยี Overledger ที่น่าทึ่งของโครงการ ซึ่งถูกนำไปใช้ในเครือข่ายขนาดใหญ่หลายแห่งแล้ว จึงทำให้ Quant อาจเป็นเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุดก็เป็นได้

เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ว่า Quant จะเป็นทางออกที่แท้จริงสำหรับการทำงานร่วมกันหรือไม่ ถ้าประสบความสำเร็จ จะทำให้ราคาโทเค็นพุ่งสูงกว่าที่เคย แม้ว่าจะมีคู่แข่งอีกหลาย ๆ เหรียญในภาคส่วนนี้ (เช่น Polkadot) แต่ QNT ก็ทำได้ดีในด้านการสร้างพันธมิตรขนาดใหญ่ 2-3 แห่ง ซึ่งช่วยขับเคลื่อนมูลค่าของโทเค็นให้สูงขึ้นได้

ซื้อ Quant บน eToro

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

11. XRP – เหรียญคริปโตในอนาคตที่เชื่อมโยงระหว่างคริปโตเคอเรนซี่และการเงินแบบดั้งเดิม

XRP (XRP) ถูกสร้างขึ้นโดย Ripple และ XRP เป็นเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส ที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ XRP ยังมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการปรับเปลี่ยนขนาดและประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งปัจจัยทั้งสองส่งผลกระทบอย่างมากต่อ Ethereum ที่จะนำไปสู่ความนิยมสูงสุดของ NFT ในขณะที่โครงการกำลังอยู่ภายใต้การพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) กรณีนี้ดูจะเป็นประโยชน์ของ Ripple ซึ่งอาจช่วยให้ XRP กลายเป็นเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด

เหรียญนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย David Schwartz, Jed McCaleb และ Arthur Britto เพื่อเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าบิทคอยน์ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เปิดตัว เหรียญนี้เติบโตพัฒนาสัญญาอัจฉริยะและความสามารถของ Defi พร้อมกับ NFT ในอีกไม่ช้า  

Ripple คือบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง XRP และได้ร่วมมือกับหน่วยงานระดับชาติหลายแห่ง รวมถึง Bank of America และมูลนิธิ Digital Pound ด้วย

ในขณะที่ XRP กำลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดีความโดย SEC เมื่อสิ้นสุดลง เราจะเห็นการเติบโตของโทเค็นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.35 ดอลลาร์ และราคาที่สูงสุดในประวัติการณ์มากกว่า 3 ดอลลาร์ ทำให้ XRP อาจเป็นเหรียญคริปโตที่มีอนาคตที่ดีที่สุดในการลงทุนเพื่อผลตอบแทน สำหรับนักลงทุนที่สนใจใน XRP เรามีบทความที่ยอดเยี่ยมในการคาดการณ์ราคา XRP

ซื้อ XRP บน eToro

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

วิธีค้นหาเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด

เพราะเหรียญคริปโตที่น่าตื่นตาตื่นใจมีอยู่หลายพันเหรียญ โดยเฉพาะโปรเจกต์เหรียญ AI และมีการปล่อยออกมามากขึ้นทุกวัน การค้นหาเหรียญคริปโตน่าลงทุน ในอนาคตที่ดีที่สุด จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น ข้อมูลด้านล่างนี้ เราได้แบ่งปันเทคนิคง่าย ๆ สองสามข้อ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อที่จะค้นหาเหรียญคริปโตที่มีอนาคตที่น่าซื้อได้

โดยเหรียญคริปโตในอนาคตอื่นๆ ที่อาจถูกมองข้ามอย่าง คือ เหรียญ Pi สำหรับเจาะลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญที่น่าสนใจนี้ ลองอ่านบทความ การคาดการณ์แนวโน้มราคาเหรียญ Pi ของเราดู

โซเชียลมีเดีย

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด และพบได้บ่อยที่สุด ในการค้นหาเหรียญคริปโตในอนาคตที่น่าตื่นตาตื่นใจ คือ การค้นหาในโซเชียลมีเดีย เมื่อเห็นว่าเหรียญคริปโตใดถูกพูดถึงโดยผู้คนจริงๆ จะช่วยให้นักลงทุนได้ข้อสันนิษฐานบางอย่างเกี่ยวกับแนวโน้มตลาด และเห็นว่าความต้องการอยู่ในระดับใด นอกจากนี้ การสังเกตที่หน้าโปรไฟล์โซเชียลมีเดียของเหรียญคริปโตต่างๆ ก็ช่วยให้นักลงทุนสัมผัสได้ว่า โปรเจกต์เหรียญนั้น ๆ จริงจังแค่ไหน และมีแนวโน้มทิศทางที่จะดำเนินไปอย่างไร แต่เนื่องจากสถิติของโซเชียลมีเดียเปลี่ยนแปลงได้ง่ายพอสมควร จึงแนะนำให้ใช้เทคนิคด้านล่างอย่างน้อยอีกหนึ่งวิธี เพื่อพิจารณาร่วมกับการใช้โซเชียลมีเดีย

ไวท์เปเปอร์

เหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุดทุกเหรียญ ควรมีไวท์เปเปอร์ที่นำเสนอข้อมูลไว้อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับนักลงทุนที่มองหาโครงการใหม่ เพราะการอ่านไวท์เปเปอร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่สำคัญ เช่น tokenomics เป้าหมายการพัฒนา และประโยชน์ใช้งาน ทุก ๆ เหรียญคริปโตที่มีอนาคต ควรมีไวท์เปเปอร์ที่มีเนื้อหาครอบคลุมและเข้าใจง่าย อย่างไม่มีข้อยกเว้น เพราะหากไม่มี ก็ไม่มีทางที่นักลงทุนจะทราบข้อมูลเชิงลึกในสิ่งที่ทีมพัฒนาตั้งใจจะทำอย่างแท้จริง ดังนั้น จึงคุ้มค่าที่จะศึกษาไวท์เปเปอร์ของโครงการ เพื่อตรวจสอบความไม่ถูกต้องหรือความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงลบอย่างมากของเหรียญคริปโต

แผนงาน

เมื่อพูดถึงการพยายามค้นหาเหรียญคริปโตในอนาคตที่ดีที่สุด การวิเคราะห์แผนงานของเหรียญคริปโต สามารถนำเสนอภาพรวมที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อเป้าหมายของโครงการ และกำหนดแผนพัฒนาได้ โดยทั่วไปแล้ว แผนงานที่กำหนดวันที่โดยมีเป้าหมายควบคู่ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถกำหนดทิศทางของเหรียญ และคาดการณ์แนวทางการพัฒนาที่สำคัญได้คร่าวๆ ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อตัดสินการทำงานของโครงการ ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนยังสามารถเห็นได้ว่าทีมพัฒนาทำตามสัญญาได้ดีเพียงใด

สำหรับมือใหม่ อาจต้องพิจารณาเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นลงทุน

อ่านเพิ่มเติม: มีเงิน 100,000 ลงทุนอะไรดี ให้งอกเงย

บทสรุป

เกือบทุกโครงการ crypto ที่สำคัญมีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่คริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุดในอนาคตสัญญาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง โครงการ crypto ในอนาคตที่น่าตื่นเต้นที่สุดโครงการหนึ่งคือ Love Hate Inu ซึ่งจะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมแบบสำรวจและโพลออนไลน์ที่มีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ 

ด้วยรูปแบบการ vote-to-earn ​ของโปรเจกต์และการผสมผสานความเป็นเหรียญมีมกับระบบการลงคะแนนแบบ Blockchain จะดึงดูดผู้ใช้และนักลงทุนจำนวนมากขึ้นในอนาคตที่จะถึงนี้

การ Pre-sale ของ Love Hate Inu ช่วยให้ผู้ใช้และนักลงทุนมีโอกาสซื้อ LHINU ในราคาที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยระดมทุนได้มากกว่า 2.8 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนนับตั้งแต่เปิดตัว

หลังจากเกมคริปโต Play to Earn ได้รับการยอมรับมากขึ้นในปี 2021 ซึ่งเริ่มต้นมาจากการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของ Axie Infinity (AXS) จากนั้นโครงการแอปและเหรียญคริปโต Move to Earn (M2E) ก็เริ่มเข้ามามีบทบาท

เกม Move to Earn เข้ามาตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ชอบรับ Bitcoin ฟรี หรือโทเค็นหลักที่แปลงเป็น BTC ได้ และเหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกาย ซึ่งความนิยมในเหรียญคริปโต Move to Earn ที่มากขึ้นทำให้มีช่องทางในการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ในปี 2023 เหรียญคริปโตเกม move-to-earn หลายเหรียญมีมูลค่าลดลง เกิดอะไรขึ้น ? เหรียญคริปโต M2E เกิดภาวะฟองสบู่หรือไม่ ?

บทความนี้จะแสดงเหรียญคริปโต Move to Earn ที่ดีที่สุด โดยกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น  และโครงการคริปโต M2E ที่น่าจับตามองที่กำลังเปิดตัว ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

รวมเหรียญคริปโต Move to Earn (M2E) ที่ดีที่สุด

เราได้เลือก 9 เหรียญหลักในโครงการ Move to Earn ที่อยู่ในช่วงต้นของแผนงานแทนที่จะเป็นเหรียญดังที่ราคาพุ่งขึ้นแล้ว

1. FightOut (FGHT)- เหรียญคริปโต Move to Earn ที่ดีที่สุด ที่สร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกาย
2. Tamadoge (TAMA) – รับคริปโตด้วยการพาสุนัขเสมือนจริงเดินเล่นในเกม NFT
3. RobotEra (TARO) – เหรียญ staking เกม P2E ที่สามารถสร้างรายได้จริงจากหลากหลายช่องทาง
4. Battle Infinity (IBAT) – เกมกีฬาแฟนตาซี Metaverse ที่เล่นด้วยชุดหูฟัง AR
5. STEPN (GMT) – โทเค็น Governance ของแอป StepN ที่ยอดนิยม โดยใหญ่ที่สุดตามมูลค่าตลาด
6. Green Satoshi Token (GST) – เป็นโทเค็นของรางวัลของ StepN และคริปโต M2E ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 2
7. Step App (FITFI) – คู่แข่งหลักของ StepN เป็นแอปสำหรับนักวิ่ง และนักเดิน
8. Genopets (GENE) – เกมเหรียญคริปโต Move to Earn อีกเกมที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2023
9. Dotmoovs (MOOV) – แพลตฟอร์ม Move to Earn ในการแข่งขันกีฬา

ไปยังเหรียญคริปโต Move to Earn ที่ดีที่สุด

รีวิวแอปเกมและเหรียญคริปโต Move to Earn ที่ดีที่สุด

โดยสองโครงการแรกที่จะกล่าวถึงเป็นโครงการใหม่ และอีกสี่โครงการจะเรียงลำดับตามมูลค่าตลาด ซึ่งมีโครงการคริปโต Move to Earn เพียงสี่อันดับแรกเท่านั้นที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์บน CoinGecko

1.FightOut (FGHT)- เหรียญคริปโต Move to Earn ที่ดีที่สุด ที่สร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกาย

FightOut เป็นโครงการ M2E ใหม่ที่ให้รางวัลแก่ผู้คลั่งไคล้การออกกำลังกายสำหรับการใช้ชีวิตที่แอคทีฟ ข้อแตกต่างที่สำคัญของ FightOut คือติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ด้วย ไม่ใช่แค่จำนวนก้าว

การเลือก FightOut หมายถึงการใช้แพลตฟอร์มที่ให้สิทธิ์เข้าถึงแอปฟิตเนสและเครือยิมในราคาย่อมเยาที่จำลองไลฟ์สไตล์การออกกำลังกาย ระบบนิเวศให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการออกกำลังกายและเอาชนะชาเลนจ์ที่ท้าทายต่างๆได้สำเร็จ รับป้ายสถานะ และทำให้ชุมชนเติบโต

ข้อดีอีกอย่างของ FightOut คือมันพัฒนาอวาตาร์ NFT ของผู้ใช้อันเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางร่างกายของผู้ใช้ เมื่ออวาตาร์ของผู้ใช้ได้รับความแข็งแกร่งเพียงพอ จะสามารถเข้าสู่เมตาเวิร์สของ FightOut เพื่อให้ผู้เล่นสามารถทดสอบร่างกายของตนกับสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ ได้

ผู้ใช้สามารถสร้างโปรแกรมออกกำลังกายที่รอบรู้และปรับแต่งการออกกำลังกายเพื่อเน้นเฉพาะด้านได้ แอป FighOut ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมาย ประวัติการออกกำลังกาย และประเภทการออกกำลังกายที่ต้องการได้

เครื่องมือสร้างการออกกำลังกายของแอปจะปรับแต่งกิจวัตรเดี่ยว และวิดีโอแนะนำคุณภาพสูงช่วยให้ผู้ใช้กำหนดรูปแบบที่เหมาะสมและกำหนดเป้าหมายบริเวณกล้ามเนื้อที่ต้องการได้

FightOut ยังเสนอคลาสออกกำลังกายตามความต้องการและเซสชันสด เข้าร่วมในแอพหรือที่โรงยิม FightOut ระบบนิเวศนี้กำลังดำเนินการสร้างโรงยิมจริงในสถานที่สำคัญทั่วโลก และกำลังทาบทามนักสู้และโค้ชมืออาชีพเพื่อเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งจะนำเสนอเนื้อหาการฝึกอบรมสไตล์มาสเตอร์คลาสด้วย

ผู้ใช้จะได้รับสกุลเงิน REPS สำหรับการทำงานและทำชาเลนจ์ต่างๆได้สำเร็จ สกุลเงินในแอปนี้ช่วยให้เข้าถึงแพลตฟอร์มได้ และผู้ใช้สามารถซื้อ REPS เพิ่มเติมได้ด้วย $FGHT

เทคโนโลยีอัจฉริยะถูกนำมาใช้เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการออกรางวัลถูกต้อง ซึ่งสามารถแลกเป็นสินค้า FightOut สมัครสมาชิกแพลตฟอร์มและ NFT

โทเค็น $FGHT อยู่ระหว่างการขายล่วงหน้าและพร้อมให้ซื้อในราคา $0.016 FightOut จัดสรรโทเค็น 90% ให้กับการขายล่วงหน้า ดังนั้นการรอให้เหรียญเข้ลิสในกระดานแลกเปลี่ยนอาจสายเกินไป เป็นการดีที่สุดที่จะซื้อโทเค็น $FGHT ตอนนี้ เพื่อลงทุนในเหรียญตอนที่ราคายังถูกอยู่

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. Tamadoge (TAMA)

Tamadoge เป็นเกม NFT มาใหม่ โดยจะมีฟีเจอร์เกม Move to Earn ตามแผนงานหลังจากเปิดตัว อ่านรายละเอียดได้ที่ tamadoge.io 

ผู้เล่นเลี้ยงสุนัขเสมือนจริงได้ (ตามธีม Doge) ด้วยการใช้แอป AR และชุดหูฟัง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสมือนจริง ที่สามารถพาสุนัขไปเดินเล่นและเล่นมินิเกมสไตล์อาร์เคดได้

TAMA เป็นโทเค็นรางวัลและสกุลเงินในเกม และด้วยการรวม AR / VR และแพลตฟอร์ม Metaverse ของพวกเขาหรือ Tamaverse จะทำให้เป็นคริปโตทั้ง P2E และ M2E ซึ่งให้การเล่นทางกายภาพมากกว่าเกมคริปโตสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงที่คล้ายกับ CryptoKitties

Tamadoge เป็นเหรียญคริปโต Move to Earn ที่ดีที่สุดอันดับต้นๆ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วการลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆจะสามารถทำกำไรได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการขายไพรเวท, พรีเซล, ICO, IDO ฯลฯ 

ปัจจุบันการขายพรีเซลสิ้นสุดแล้ว ระดมทุนไปได้กว่า 19 ล้านเหรียญดอลล่าร์ ปัจจุบันเหรียญ TAMA ถูกลิสบนกระดานเทรดชั้นนำอย่าง OKX สามารถอ่านวิธีซื้อ Tamadoge ได้ที่นี่

ปัจจุบัน Telegram ของ Tamadoge มีสมาชิกมากกว่า 22,000 คน

ซื้อ Tamadoge ตอนนี้

3. RobotEra (TARO) – เหรียญ staking เกม P2E ที่สามารถสร้างรายได้จริงจากหลากหลายช่องทาง

TARO ไม่เชิงว่าเป็นเหรียญคริปโต Move to Earn ซะทีเดียวแต่เป็นเหรียญคริปโตให้ผู้เล่นได้รับโทเค็นมากขึ้นในหลากหลายวิธี รวมถึงการ staking การซื้อที่ดิน metaverse การซื้อขาย NFT และอีกมากมาย

มันเป็นโทเค็นหลักของเกม play to earn ที่ชื่อว่า RobotEra และขณะนี้เหรียญ TARO กำลังขายช่วงพรีเซลในราคาเพียง $0.02

นักลงทุนที่ต้องการซื้อเหรียญคริปโตในราคาที่ดีที่สุดควรลงทุนตั้งแต่ช่วงพรีเซลของ TARO ในขณะที่เหรียญอยู่ในการขายรอบแรก เมื่อ TARO เข้าสู่รอบถัดไปของการพรีเซล ราคาเหรียญจะเพิ่มขึ้น

รอบที่สองจะเห็นการขายโทเค็นในราคา $0.025 และ $0.032 ในรอบสุดท้าย ทำให้นักลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆได้รับสินทรัพย์ที่แข็งค่าขึ้นถึง 60% เมื่อถึงลิสเหรียญบนกระดานแลกเปลี่ยน

RobotEra ได้จัดสรรเพียง 15% ของอุปทานที่จำกัดไว้ 1.8 พันล้านรายการในการขายพรีเซล ซึ่งหมายความว่าเหรียญจะหายากยิ่งขึ้นเมื่อมีการลิสเหรียญในกระดานแลกเปลี่ยน

RobotEra ช่วยให้ผู้เล่นได้รับโทเค็นโดยการสร้างรายได้จากที่ดินของพวกเขาผ่านการเช่าป้ายโฆษณา การขุดแร่ และเพิ่มกิจกรรมต่างๆ – เช่น พิพิธภัณฑ์หรือคอนเสิร์ต

หนึ่งในวิธีสำคัญที่ผู้เล่นสร้างดาวเคราะห์ Taro ที่ถูกทำลายขึ้นมาใหม่คือการ stake เหรียญ แต่ยังรวมถึงการเข้าร่วมในคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์ต่างๆ โดยกิจกรรมต่างๆ จะได้รับรางวัลตอบแทน

โลกมัลติเวิร์สของเกมช่วยให้ผู้เล่นสำรวจโลกอื่นโดยเชื่อมต่อกับพวกเขาและสร้างแพลตฟอร์ม metaverse ใหม่กับชุมชน NFT อื่น ๆ

ผู้เล่นยังสามารถสร้าง ปรับแต่ง และอัปเกรดหุ่นยนต์คู่หู ซึ่งสามารถขายในตลาดเป็น NFT

เอกสารข้อมูลของ RobotEra ให้คำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับวิธีการใช้โทเค็น TARO ในขณะที่ผู้เล่นยังสามารถรับข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางช่อง Telegram ของ RobotEra

ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อโทเค็น TARO เนื่องจาก RobotEra ได้จัดสรรเพียง 3% ของอุปทานที่จำกัดเพื่อแลกเปลี่ยนสภาพคล่อง ในขณะที่โทเค็นการขายพรีเซลไม่มีระยะเวลา vesting

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

4. Battle Infinity (IBAT)

Battle Infinity เป็นอีกหนึ่งโครงการคริปโตใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งขายพรีเซลได้หมดก่อนกำหนดหลังจากมีความต้องการซื้อสูง และตอนนี้กำลังลิสโทเค็น IBAT บน PancakeSwap และกำลังจะลิสใน CEX ต่างๆ

มีเป้าหมายในการสร้าง ‘ความหลายหลากของ Metaverse’ โดยมี Battle Arenas ประเภทต่างๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถสวมชุดหูฟังเสมือนจริง ทำให้เกมมีองค์ประกอบทั้งทางกายภาพและสัมผัสโลกเสมือนจริง ดังนั้น Battle Infinity จะรวมกลไก Move to Earn บางอย่างเข้าด้วยกัน อ่านรายละเอียดและแผนงานได้ที่ battleinfinity.io

ธีมเกมจะมีตั้งแต่การต่อสู้แห่งอนาคตไปจนถึงการแข่งขันกีฬาแฟนตาซีเพื่อแข่งขันกับทีมระดับนานาชาติอื่นๆ ที่ผู้เล่นสร้างขึ้นสำหรับการจัดอันดับลีก จากนั้นผู้เล่นจะได้รับโทเค็น IBAT เป็นของรางวัลแบบ P2E ที่เป็น M2E ร่วมด้วย

โครงการ M2E Altcoin ใหม่ที่เราเลือกมานั้นอาขไม่ได้เป็นโครงการ Move to Earn 100% แต่จัดอันดับให้อยู่ใน คริปโตที่น่าลงทุนที่สุดที่เกี่ยวข้องกับ Move to Earn และวิธีที่ดีที่สุดในการลงทุนในเหรียญคริปโต Move to Earn คือการซื้อถูก ขายแพง

ดังที่กล่าวไว้ในเกม blockchain ที่น่าลงทุน Battle Infinity ได้รับการเผยแพร่ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมคริปโต เช่น Bitcoinist, BeinCrypto, CryptoPotato, CryptoNews.com และอีกมากมาย รวมถึง Yahoo Finance

Telegram ของ Battle Infinity มีผู้ติดตามมากกว่า 16,000 คน

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

5. STEPN (GMT)

STEPN เป็นแอป Move to Earn บางครั้งสะกดว่า StepN โดยราคา STEPN ได้ลดลงนับตั้งแต่ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นเหรียญคริปโต Move to Earn ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด

มูลค่าตลาดของ GMT วันนี้อยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ใน 100 อันดับแรกของคริปโต และ GMT เป็นโทเค็น Governance ของแพลตฟอร์ม Move to Earn โดย GMT มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงขาขึ้น พุ่งแตะ ATH ที่ 4.18 ดอลลาร์บน Binance

StepN และโทเค็นหลัก GMT (หรือ Green Metaverse Token) ยังคงเป็นเกมและเหรียญคริปโต Move to Earn ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแง่ของกระแสความสนใจ, เทรนด์ของ Google และข้อมูล LunarCrush เห็นได้จากการลงทุนจากบริษัทร่วมทุนรายใหญ่ของคริปโต ซึ่งรวมถึง Binance Labs และ Alameda Research

การใช้แอป Move to Earn นี้ ผู้เล่นต้องซื้อรองเท้าผ้าใบ NFT ก่อน ซึ่งเพิ่งลดราคาฐานจาก 14 SOL เหลือเพียง 1.35 SOL บน Magic Eden ทำให้ระบบนิเวศ Move to Earn ของ STEPN ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีเพราะตอนนี้ราคาต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เชื่อว่าราคาจะฟื้นตัวในระยะยาว

สาเหตุหนึ่งที่ราคาลดลง คือ จีนแบน STEPN เนื่องจากมีผู้เล่นเกมคริปโต Move to Earn จำนวนมากในเอเชีย ซึ่งจะได้รับคริปโตฟรีขณะวิ่ง จ๊อกกิ้ง หรือเดิน แต่หัวหน้าการตลาดของ STEPN ยังมั่นใจว่าแอป M2E จะประสบความสำเร็จ โดยระบุว่า “NFT คืออนาคตของการออกกำลังกาย”

ซื้อ GMT ตอนนี้ บน Binance

6. Green Satoshi Token (GST)

ในขณะที่ GMT เป็นโทเค็น Governance ของ StepN และมีแต่ผู้เล่นที่มีระดับสูงในแอปเกมเท่านั้นที่จะได้รับ ส่วน GST นั้น ผู้เล่นทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับ และถูกมองว่าเป็นสกุลเงินเริ่มต้นในเกม เป็น utility token และโทเค็นรางวัล

Green Satoshi Token ไม่มีอุปทานคงที่ และอุปทานสามารถเพิ่มขึ้นได้ ต่างจาก GMT โดยปกติผู้เล่นจะได้รับเงินจริงทันทีที่หาได้ ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่การลงทุนที่ดีเมื่อเทียบกับ GMT ที่อาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอันสะท้อนความสำเร็จของแอปและจากนั้นมูลค่าจะคงตัว

บางคนอาจต้องการซื้อ GST เมื่อราคาดิ่งลง โดยไม่สนว่ามูลค่าเคยลดลงมากกว่า 99% นับตั้งแต่ราคาสูงเป็นประวัติการณ์ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้พุ่งขึ้น 450% จากจุดต่ำสุด แม้ว่าจะย้อนรอยส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวนั้นไปแล้วก็ตาม

GST ยังอยู่ในอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับ GMT และเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต Move to Earn ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก GMT ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ โดยหากแอป Move to Earn และ NFT ของ StepN กลับมาฟื้นตัว และราคา GMT และ GST อาจกลับมาแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

อย่างไรก็ตาม Tamadoge ที่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ไม่มีอุปทานเพิ่มขึ้น และมีอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไปโดยทุกธุรกรรมของร้าน Tamadoge จะมีการเผาโทเค็น 5% ดังนั้น GST จะเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น เนื่องจากกราฟด้านบนเป็นขาลงอย่างชัดเจน และจะชะลอการลงทุนเนื่องจากคล้ายกับเหรียญ Terra (LUNA)

ซื้อ GST ตอนนี้ ที่ Bybit

7. Step App (FITFI)

หนึ่งในคู่แข่งหลักของ StepN ในกลุ่มแอป Move to Earn คือ Step App ซึ่งมีชื่อที่คล้ายกัน และ Step App มีโทเค็นหลัก คือ FITFI โดย GMT เป็นเจ้าแรกในตลาด (เปิดตัวบน Binance 9 มีนาคม 2022) แต่ FITFI ก็ทำได้ดีในช่วงแรก (เปิดตัวบน Crypto.com 27 เมษายน)

จากนั้นราคา FITFI ก็ดิ่งลงช่วงกลางปี ​​2022 แม้ว่าราคา Altcoin ทั้งหมดจะลดหลัง LUNA และ UST ดิ่งลง ทำให้ตลาดคริปโตสั่นสะเทือน จากนั้น Celsius ก็ล้มละลายและทำให้นักลงทุนหลายคนหวั่นกลัว ทำให้ Bitcoin ตกลงไปที่ 17,600 ดอลลาร์ และ Ethereum ลดลงเหลือ 1,200 ดอลลาร์

บางคนมองว่าราคา FITFI ที่ต่ำในวันนี้เป็นโอกาสในการซื้อ และราคาอาจฟื้นตัว โดยมีนักลงทุนหลายๆคนกำลังรอการกลับตัวของราคา

ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ปี 2022 มีข่าวว่า Step App ลงนามความร่วมมือกับ Usain Bolt นักกรีฑาที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ซึ่งอาจดีต่อราคา FITFI ในระยะยาว หากการสร้างการจดจำแบรนด์ของเขาช่วยให้แอป Move to Earn นี้มีฐานผู้ใช้ที่กว้างขึ้น

ซื้อ FITFI ตอนนี้ บน Crypto.com

8. Genopets (GENE)

Genopets เป็นเกม Move to Earn แนว RPG (เกมโรลเพลย์) คล้ายกับ Battle Infinity ที่เป็นเกมกีฬาแฟนตาซีแห่งแรก

ยังไม่มีวันเปิดตัว Genopets ที่แน่นอน (สักช่วงในปี 2023) แต่เว็บไซต์ Genopets.me ให้ผู้ใช้บางส่วนเข้าถึงเกม M2E ได้ก่อนกำหนด

โทเค็นหลักของโครงการนี้ หรือ GENE ได้เปิดตัวแล้วช่วงปลายปี 2021 เริ่มต้นด้วยราคาพุ่งขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตั้งแต่นั้นมาราคา GENE ก็เปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะนักลงทุนเริ่มใจร้อนกับเกมที่ยังไม่เปิดตัว

Genopets ได้รับการสนับสนุนมากมาย เช่น Pantera Capital และ Anomica Brands ซึ่งช่วยสร้างเกม Otherside Metaverse กับ Yuga Labs โดยโทเค็นหลักของระบบนิเวศ หรือ ApeCoin ก็เป็นการลงทุนที่ดี เนื่องจาก Yuga Labs เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน GENE มีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 30 ล้านดอลลาร์ และไม่ได้อยู่ใน 500 อันดับแรกของคริปโต แต่อยู่อันดับที่ 4 ในส่วนเหรียญคริปโต Move to Earn

ซื้อ GENE ตอนนี้ ที่ Bybit

 9. Dotmoovs (MOOV)

Dotmoovs มีมูลค่าตลาด 8 ล้านดอลลาร์ 

โครงการ M2E นี้มีเป้าหมายคือ ‘เล่นเกมกีฬาบนแพลตฟอร์ม P2E ที่ขับเคลื่อนโดยบล็อกเชนและระบบ AI ที่ล้ำสมัยในการวิเคราะห์วิดีโอของผู้เข้าแข่งขัน’

สโลแกนของ dotmoovs.com คือ ‘เล่นกีฬาที่คุณรักและได้เงินจากมัน’ โดยผู้เล่นใช้แอป Move to Earn และ แพลตฟอร์ม Metaverse ที่น่าสนใจ เพื่อรับเหรียญคริปโต

ตั้งแต่เปิดตัวกลางปี ​​2021 โทเค็นหลัก MOOV ล้มเหลวในการดึงดูดความสนใจ หลังจากช่วงขาขึ้นในปี 2021 และอีกครั้งในปี 2022 ราคา MOOV กำลังอยู่ในช่วงไซด์เวย์

MOOV ยังไม่ได้ถูกลิสบนกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุด แต่มีอยู่ใน KuCoin และ PancakeSwap เว็บไซต์ Dotmoovs ได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจร่วมลงทุนหลายรายรวมถึง Moonrock Capital และ Morningstar Ventures แต่ยังคงเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดต่ำเพียง 4.5 ล้านดอลลาร์

สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อลงทุนในเหรียญคริปโต M2E 

จากโปรเจกต์ที่เลือกมาด้านบน หลายๆเหรียญคริปโต Move to Earn อยู่ในช่วงขาลง นับตั้งแต่กระแสความสนใจช่วงก่อน ไปดูกันว่าหากจะลงทุนในเหรียญคริปโต Move to Earn ต้องพิจารณาอะไรบ้าง

ภาวะฟองสบู่คริปโต?

บางคนวิเคราะห์ว่าเหรียญ Move to Earn เป็นกระแสที่มาไวไปไว ผู้เล่นจะรู้สึกเบื่อและหมดความสนใจเนื่องจากมูลค่าของเหรียญหลักลดต่ำลงเมื่อเวลาผ่านไป เหมือนกับ Axie Infinity หลังจากเกิดภาวะขาขึ้น(160,000%) ผู้เล่นเริ่มหมดความสนใจเนื่องจากราคา AXS ลดลง

ที่เราเลือกมาข้างบนส่วนใหญ่เป็นเกม Play to Earn ที่มี NFT และ Metaverse เป็นองค์ประกอบแทนที่จะเป็น Move to Earn อย่างเดียว

มูลค่าตลาดต่ำ

เหรียญคริปโต Move to Earn มีมูลค่าตลาดต่ำ ทำให้เสี่ยงต่อการปั่นราคาและมีความผันผวน

นี่คือรายชื่อเหรียญคริปโต Move to Earn ที่อยากแนะนำ:

• DOSE (DOSE)
• Digital Fitness (DEFIT)
• MoveZ (MOVEZ)
• Calo (CALO)
• Sweatcoin (SWEAT)

อย่างไรก็ตามโครงการที่ใหญ่ที่สุดข้างต้น คือ DOSE แต่ยังคงมีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์

การผสานโลก Metaverse 

โครงการคริปโตที่มีแนวโน้มที่จะมีแพลตฟอร์ม Metaverse เป็นของตัวเองมากที่สุด โดยผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ Decentraland, The Sandbox เป็นต้น – ดูจัดอันดับ  เหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุด

อันดับต้นๆ ได้แก่ Tamadoge และ Battle Infinity มีแผน Metaverse ในภายหลัง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในคู่มือฉบับสมบูรณ์ของเรา Battle Infinity

อุปทาน

โทเค็นคริปโตที่มีอุปทานที่ไม่มีที่สิ้นสุดหรือมีอุปทานสูงมาก จะทำให้มูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไปตามกฎอุปสงค์อุปทาน

Green Satoshi Token มีอุปทานที่ไม่คงที่และไม่ใช่การลงทุนที่ดีสำหรับคนที่กลัวจะตกกระแส ซึ่ง Tamadoge มีอุปทานที่จำกัด ต่างจากเหรียญมีมทั่วไปที่มีอุปทานไม่จำกัด อย่าง Dogecoin ซึ่ง Tamadoge มีเป้าหมายว่าจะให้ประโยชน์ใช้งานมากกว่า

วิธีซื้อเหรียญคริปโต Move to Earn

ทำตามขั้นตอนนี้เพื่อซื้อ Tamadoge (TAMA):

• สมัครบัญชี OKX
• ยืนยันตัวตน
• ฝากเงิน – โดยใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือการโอนผ่านธนาคารโดยตรง
• ค้นหา Tamadoge
• ซื้อเหรียญ TAMA

บทสรุป – เหรียญคริปโต move to earn ที่ดีที่สุด

Move to Earn หนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ใหม่ล่าสุดและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าหลายๆ แอป Move to Earn และโทเค็นหลักของพวกเขาจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าในปี 2022 รวมถึง Altcoin จำนวนมากได้รับผลกระทบ เช่น DeFi ในปี 2022 ‘ช่วงตลาดคริปโตซบเซา’ มีการปรับฐานราคาลง

เหรียญคริปโต Move to Earn บางเหรียญประสบปัญหาอุปทานเยอะเกินไป และโทเค็นอื่นๆ ถูกประเมินมูลค่าสูงเกินไป เหรียญ GMT เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 10 เซนต์เป็นมากกว่า 4 ดอลลาร์ภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์ และคาดว่าจะมีการกลับตัว

เหรียญ M2E อาจเป็นการลงทุนที่ดี เนื่องจากตลาดคริปโตเริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัว หาก Bitcoin กลับมาที่ 25,000 ดอลลสร์ และ Ethereum ที่ประมาณ 2,000 ดอลลาร์

ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับโครงการ M2E คือ FightOut นอกเหนือจากการติดตามการเคลื่อนไหวร่างกายและจำนวนก้าวแล้ว FightOut ยังให้รางวัลแก่ผู้ใช้ด้วยสกุลเงินในแอปสำหรับการออกกำลังกายและการเอาชนะชาเลนจ์ต่างๆ และทำให้ชุมชนเติบโต ยิมในโลกแห่งความจริงจะพร้อมใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้สามารถฝึกผ่านสตรีมสดหรือเข้าร่วมชั้นเรียนด้วยตนเอง

ในขณะที่โลกกำลังตามล่าหาคริปโตเคอเรนซี่ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะแยกเหรียญที่ไม่น่าสนใจ ออกจากเหรียญที่มีโอกาสการเติบโตสูง

คู่มือนี้จะรีวิว 7 เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด รวมถึงอธิบายว่าเหรียญ proof of stake คืออะไร เหรียญ proof of stake มีอะไรบ้าง ข้อดี ข้อเสีย proof of stake และดูว่า Proof of Work vs Proof of Stake ต่างกันยังไง ไปดูกัน

สุดยอด 7 เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดในปี 2023

เราได้สรุป 7 เหรียญ proof of stake ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหาโครงการที่จะเติบโตในอนาคตได้ง่ายขึ้น และรีวิวเหรียญ pos โดยละเอียดด้านล่างนี้

1. Fight Out – ระบบนิเวศ M2E พร้อมโทเค็นโบนัสและรางวัลสำหรับไลฟ์สไตล์แอคทีฟ
2. C+Charge – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืน ให้รางวัลไดร์เวอร์ EV Drivers สำหรับการชาร์จรถยนต์
3. RobotEra – โทเค็น ERC-20 เพิ่งเปิดตัว Presale พร้อมแหล่งรายได้ที่หลากหลาย
4. IMPT – เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่เปลี่ยนโทเค็นให้เป็นคาร์บอนเครดิต
5. Tamadoge – เหรียญมีม proof of stake ยอดนิยม
6. Lucky Block – เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่ใช้แพลตฟอร์มการแข่งขันบนบล็อคเชน
7. Battle Infinity – เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่เป็นเกม P2E ในระบบ DeFi

ไปยัง Fight Out ตอนนี้

รีวิวสุดยอดเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่น่าซื้อ

คงจะไม่มีเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด หากไม่มีการรีวิวในส่วนต่อไปนี้

1. Fight Out – ระบบนิเวศ M2E พร้อมโทเค็นโบนัสและรางวัลสำหรับไลฟ์สไตล์แอคทีฟ

Fight Out เป็นแพลตฟอร์ม M2E ที่เสนอโทเค็นโบนัส $FGHT แก่นักลงทุนที่เข้าร่วมในรอบแรกของการขายพรีเซล โดยรอบแรกใกล้จะหมดแล้วเนื่องจากมีการระดมทุนมากกว่า 3 ล้านดอลลาร์ และวงเงินสูงสุดอยู่ที่ 5 ล้านดอลลาร์

เมื่อถึงขีดจำกัดสูงสุดหรือวันที่กำหนดไว้สิ้นสุดลง โทเค็นโบนัสจะไม่แจกอีกต่อไป การลงทุนเริ่มต้นที่ 500 ดอลลาร์จะทำให้นักลงทุนได้รับโบนัส 10% และอีก 10% สำหรับการเลือกระยะเวลาการให้สิทธิ 6 เดือน

ในการรับโบนัสสูงสุด 50% นักลงทุนจำเป็นต้องซื้อโทเค็น $FGHT มูลค่า $50,000 และเลือกรับระยะเวลาการให้สิทธิ์ 24 เดือน

รอบแรกของการขายรอบพรีเซลกำหนดราคาเหรียญไว้ที่ 0.02516 ดอลลาร์ การขายรอบพรีเซลจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2023 และโทเค็น $FGHT จะเข้าลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนในวันที่ 5 เมษายน 2023 ราคาในรายการจะดันราคาของ $FGHT ไปที่ $0.033 USDT ต่อโทเค็น

Fight Out ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ในการติดตามไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟและเสนอ REPS สกุลเงินในแอปสำหรับการออกกำลังกายให้เสร็จ รับรางวัล และทำให้ชุมชนเติบโต

ผู้ใช้สามารถแลกใช้ REPS สำหรับเซสชันระยะไกลกับผู้ฝึกสอน สินค้า และส่วนลดในการสมัครสมาชิก Fight Out กำลังดำเนินการเปิดโรงยิมในเมืองหลักต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ผู้ใช้แพลตฟอร์มสามารถใช้อุปกรณ์และเข้าร่วมการออกกำลังกายในชั้นเรียนได้

ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาโทเค็น $FGHT และระบบนิเวศโดยสมัครรับข้อมูลช่อง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูล Fight Out

มีเพียง 5% ของการจัดสรรโทเค็น 10 พันล้านโทเค็นเท่านั้นที่จัดสรรให้กับสภาพคล่อง นักลงทุนมีโอกาสที่ดีกว่าในการซื้อโทเค็น Fight Out ในช่วงพรีเซลล์ในราคาที่ต่ำ

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. C+Charge – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืน ให้รางวัลไดร์เวอร์ EV Drivers สำหรับการชาร์จรถยนต์

C+Charge กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มแบบ peer-to-peer ที่ให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สามารถใช้โทเค็น $CCHG เป็นค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ และรับคาร์บอนเครดิตเป็นรางวัล

นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น $CCHG ในรอบที่ 4 ได้ที่ $0.017 ระบบนิเวศได้ระดมทุนมากกว่า $1.7 ล้าน USD รอบถัดไปราคาโทเค็น $CCHG จะเพิ่มเป็น $0.018

C+Charge ได้จัดสรร 40% ของอุปทานโทเค็น 1 พันล้านเหรียญให้กับการขายพรีเซล หลังจากการขายพรีเซลสิ้นสุดลง โทเค็น $CCHG จะถูกกำหนดไว้สำหรับการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนในวันที่ 31 มีนาคม 2023

ด้วยการทำให้คาร์บอนเครดิตเป็นประชาธิปไตย C+Charge ตั้งเป้าที่จะเร่งการนำ EV มาใช้ แพลตฟอร์มการชำระเงินจะได้รับการอำนวยความสะดวกโดยแอพมือถือ ซึ่งจะมีกระเป๋าเงินคริปโตและคุณสมบัติการติดตามคาร์บอนเครดิต

หลังจากการชาร์จทุกครั้ง เจ้าของ EV จะได้รับรางวัล พวกเขายังสามารถใช้แอพเพื่อค้นหาสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดและรับราคาและเวลารอ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็น $CCHG และระบบนิเวศ ให้เข้าร่วมช่องทาง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูล C+Charge

C+Charge ได้จัดสรร 8% ของเหรียญทั้งหมดเพื่อแลกเปลี่ยนสภาพคล่อง นักลงทุนอาจรีบซื้อโทเค็นที่เหลือเมื่อทำการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ราคาของสินทรัพย์สูงขึ้น รอบพรีเซลขายโทเค็น $CCHG ราคาไม่แพงและมีปริมาณเหรียญมากที่สุดในอุปทานรวมทั้งหมด

ไปยัง C+Charge พรีเซลตอนนี้

3. RobotEra – โทเค็น ERC-20 เพิ่งเปิดตัว Presale พร้อมแหล่งรายได้ที่หลากหลาย

TARO เป็นเหรียญ proof of stake มาใหม่ และเป็นโทเค็นหลักของโครงการที่ดิน P2E และ Metaverse ทาง RobotEra และทำการ staking เหรียญ TARO เป็นหนึ่งในหลายวิธีในการรับโทเค็นมากขึ้นในระบบนิเวศ

ผู้เล่นใช้อวตาร์หุ่นยนต์ NFT เพื่อซื้อที่ดิน metaverse บนดาวเคราะห์ Taro ที่ถูกทำลายเพื่อสร้างมันขึ้นมาใหม่ โดยผู้เล่นจะได้รับรางวัลจากการขุดแร่ ปลูกต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และรวบรวมวัตถุดิบ

นี่เป็นเพียงช่องทางเล็กๆ น้อยๆ ในการรับโทเค็นจากโครงการ โดยผู้เล่นยังสามารถขายพื้นที่โฆษณาบนที่ดินของตนให้กับแบรนด์ต่างๆ ได้ รวมทั้งเรียกเก็บค่าเข้าชมสำหรับกิจกรรมและคอนเสิร์ตจากผู้เล่นรายอื่น

เกมดังกล่าวมีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เล่นสร้างคู่หูหุ่นยนต์ อัปเกรดและปรับแต่งพวกมันด้วยความสามารถและทักษะเฉพาะตัว

RobotEra ซึ่งเป็นโครงการ LBank Labs ที่ให้ผู้เล่นถือหรือขายสหายเป็น NFT ในตลาดเปิด

ผู้เล่นยังสามารถเลือกที่จะขายที่ดินของพวกเขาเมื่อพวกเขาสร้างมันขึ้นมาพร้อมโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งปลูกสร้าง ในขณะที่สิ่งต่าง ๆ เช่น เสียง ฉาก 3 มิติ การโต้ตอบกับผู้ใช้ และฟิสิกส์ สามารถเพิ่มเข้าไปใน metaverse ได้

ผู้เล่น RobotEra ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ดด้วยเครื่องมือแบบกำหนดเองที่มีให้ – และนักพัฒนาคาดว่ากรณีการใช้งานใหม่และกระแสรายได้จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ เมื่อผู้เล่นสร้างโลกของพวกเขาเอง

ระบบนิเวศของเกมยังช่วยให้ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกที่แตกต่างและเชื่อมต่อกับชุมชนออนไลน์และออฟไลน์อื่น ๆ.

จากเอกสารข้อมูล RobotEra ได้พัฒนาโทเค็น ERC-20 และจำกัดอุปทานไว้ที่ 1.8 พันล้านเหรียญ โดยมีเพียง 3% ของอุปทานทั้งหมดที่จัดสรรไว้สำหรับสภาพคล่องในกระดานแลกเปลี่ยน

และราคาของเหรียญอาจพุ่งสูงขึ้นเมื่อมีลิสเหรียญ เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากขึ้นแห่เข้ามาลงทุน

ค้นหาวิธีทั้งหมดในการรับ TARO โดยสมัครรับข้อมูลจากช่อง RobotEra Telegram

ขณะนี้เหรียญอยู่ระหว่างการขายรอบพรีเซลและวางจำหน่ายในราคา 0.02 ดอลลาร์ในช่วงแรก โดยราคาจะเพิ่มขึ้นตลอดสามช่วง

เมื่อการขายอบพรีเซลสิ้นสุดลง แต่ก่อนที่จะมีการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน โทเค็น TARO จะแข็งค่าขึ้น 60% และขายในราคา $0.032

นักลงทุนยังคงมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในช่วงต้นเพื่อใช้ประโยชน์จากผลตอบแทนเหล่านั้น

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

4. Meta Masters Guild – เหรียญคริปโต Play to Earn ที่มีเกมชั้นนำมากมายที่ให้รางวัลคริปโต

Meta Masters Guild (MMG) ขายโทเค็น $MEMAG ในรอบพรีเซล ซึ่งระดมทุนได้ 50,000 ดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัว นักลงทุนต่างเข้ารีบซื้อโทเค็นที่เหลือของรอบแรก ทำให้ยอดระดมทุนเพิ่มขึ้นอีก 500,000 ดอลลาร์ภายในหนึ่งสัปดาห์และขายรอบที่ 1 หมดแล้ว

โทเค็น $MEMAG ขายในรอบที่ 2 ของการขายพรีเซลที่ราคา 0.01 ดอลลาร์ — มูลค่าเพิ่มขึ้น 43% ตั้งแต่รอบที่ 1 เหรียญเหล่านี้จะเพิ่มมูลค่าผ่านรอบอื่นๆ จนกระทั่งราคาอยู่ที่ 0.023 ดอลลาร์ในรอบที่ 7 หรือรอบสุดท้ายในที่สุด

นักลงทุนที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนรอบแรกควรทราบว่ารอบที่ 2 มีมูลค่าสูงสุด 1.12 ล้านดอลลาร์ หลังจากถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว โทเค็น $MEMAG จะมีราคาอยู่ที่ $0.013 ในรอบที่ 3

MMG คือระบบการเล่นและรับรายได้ที่จะเปิดตัวเกมแบบโต้ตอบและมีส่วนร่วม 3 เกม โดยให้รางวัลแก่ผู้เล่นสำหรับการมีส่วนร่วม การมีส่วนร่วม และชัยชนะ รางวัลจะออกเป็น Gems ซึ่งสามารถแปลงเป็น $MEMAG แล้วแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินอื่นได้

ผู้เล่นยังสามารถใช้อัญมณีเพื่อซื้อ NFT เกมอื่นๆ จะถูกเพิ่มเข้ามาในแพลตฟอร์ม และทุกเกมจะมีอัญมณีเป็นรางวัล

รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็น $MEMAG และเกมที่กำลังจะมีขึ้นโดยเข้าร่วมช่อง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูล

MMG ได้จัดสรรเพียง 15% ของ 1 พันล้านโทเค็นเพื่อกระดานแลกเปลี่ยนและสภาพคล่อง นักลงทุนที่ซื้อโทเค็น $MEMAG ในช่วงพรีเซลล์และถือโทเค็นไว้อย่างน้อย $150 ในวันที่จับรางวัลจะมีโอกาสชนะรางวัลโทเค็นมูลค่า $100,000

ไปยัง Meta Masters Guild ตอนนี้

5. IMPT – เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่เปลี่ยนโทเค็นให้เป็นคาร์บอนเครดิต

IMPT เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้บล็อคเชน ด้วยเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่สิ่งแวดล้อม คริปโตเคอเรนซี่นี้เชื่อมโยงผู้ขายหลายพันแบรนด์เข้ากับนักลงทุน เพื่อให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมกับโครงการนี้โดยตรง นักลงทุนสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งของ IMPT และรับโทเค็นของ IMPT ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของกำไรจากการขายที่แต่ละแบรนด์กำหนดไว้

เพื่อสนับสนุนการเทรดคาร์บอนเครดิต โทเค็น IMPT สามารถใช้ซื้อคาร์บอนเครดิตได้ ซึ่งเป็นโทเค็น NFT ที่แสดงถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ ตามไวท์เปเปอร์ของ IMPT 1 คาร์บอนเครดิตเทียบเท่ากับการปล่อย CO2 ประมาณ 1 ตัน ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะแลกเปลี่ยน NFT เหล่านี้ในตลาดของ IMPT หรือเผาเหรียญทิ้งเพื่อลดการปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ และจะได้รับรางวัลเป็น NFT ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถซื้อขายได้ในตลาดของ IMPT เช่นกัน

ตามเอกสารข้อมูลของ IMPT คาร์บอนเครดิต 1 เครดิตเทียบเท่ากับการปล่อย CO2 ประมาณ 1 ตัน และบลูมเบิร์กประเมินว่าตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจจะเพิ่มขึ้นจาก 2 พันล้านดอลลาร์เป็น 100 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2573

ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะแลกเปลี่ยน NFT เหล่านี้ในตลาดของ IMPT หรือเผาคาร์บอนเครดิตทิ้ง

การเบิร์นโทเค็นจะกำจัดการปล่อย CO2 ของสินทรัพย์เฉพาะออกจากบรรยากาศ และให้รางวัลแก่ผู้ถือด้วย NFT เฉพาะ ซึ่งสามารถซื้อขายได้ในตลาดของ IMPT

โทเค็นยังช่วยให้นักลงทุนเข้าถึง IMPT DAO (องค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ)

IMPT สามารถเดิมพันเพื่อรับการกำกับดูแลและสิทธิ์ในการออกเสียงในการเลือกซัพพลายเออร์ของโครงการ แผนงาน และอื่นๆ หากต้องการแลกเปลี่ยนโทเค็น IMPT คุณสามารถดูการแลกเปลี่ยนยอดนิยม เช่น Uniswap, LBank, Gate.io, Bitmart และ Coinstore ซึ่งแสดงรายการอยู่

รับการอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาของโครงการนี้ในช่อง IMPT Telegram

ซื้อโทเค็น IMPT ตอนนี้

6. Tamadoge – เหรียญมีม proof of stake ยอดนิยม

Tamadoge (TAMA) เป็นเหรียญมีมขายพรีเซลที่รวมหลาย ๆ องค์ประกอบที่ดี เช่น NFT, การเล่นเกมเพื่อหารายได้ (P2E) และ Metaverse เพื่อที่จะเป็นหนึ่งในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด

ในปัจจุบัน เนื่องจากตอนนี้ Tamadoge ขายพรีเซลหมดลงแล้วอย่างรวดเร็ว ทำให้เหรียญนี้เต็มไปด้วยโอกาสในการเติบโต ซึ่งเหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกคน

เพื่อที่จะสร้างมูลค่าให้กับผู้ใช้งาน ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกเสมือนจริงที่เรียกว่า Tamaverse และเลี้ยงสัตว์เลี้ยง 3 มิติที่เคลื่อนไหวได้เพื่อรับรางวัล การเพิ่มเลเวลของสัตว์เลี้ยงทำได้ด้วยการใช้ไอเท็มจากร้านค้าในเกม และผู้เล่นจะได้รับ Dogepoints ซึ่งช่วยเพิ่มอันดับในกระดานผู้นำได้ และทำให้ได้รับส่วนแบ่งรางวัลที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดของเกม หลังจากนี้ ทีมพัฒนา Tamadoge จะเปิดตัวชุดเกมอาร์เคดที่สามารถซื้อขายได้ด้วยโทเค็น (Q3 2023) นอกจากนี้ การมีชุดหูฟัง VR และแอพ AR จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถนำสัตว์เลี้ยงออกมาสู่โลกแห่งความจริงได้ ซึ่งมีแผนที่จะเปิดตัวสองสิ่งนี้ในปี 2023 ดังนั้น ตอนนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ควรลงทุนใน Tamadoge ก่อนที่การอัปเดตทั้งหมดจะเกิดขึ้น และทำให้ความต้องการเพิ่มสูงสุด

Tamadoge ใช้มาตรฐาน ERC แม้ว่าโครงการนี้อาจจะเป็นเหรียญคริปโตมาใหม่ที่ดีที่สุดในตลาด แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ใช้ระบบ proof of stake (PoS) อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Ethereum จะเปลี่ยนไปใช้ระบบ PoS หลังจากการควบรวมแล้ว Tamadoge จึงกลายเป็นหนึ่งในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดในภายหลัง และเป็นหนึ่งในอันดับเหรียญ pos ของเรา

เหรียญนี้ได้รับการลิสแล้วบนกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized อย่าง LBank และราคาขายค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เนื่องจากมีจำนวนโทเค็นมากถึง 100 ล้านโทเค็นที่ขายไปแล้ว จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน TAMA เพื่อราคาที่ดีที่สุด และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ Tamadoge เพื่อติดตามข่าวสารและการลิสล่าสุด

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

7. Lucky Block – เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่ใช้แพลตฟอร์มการแข่งขันบนบล็อคเชน

ด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่ทันสมัยบนแพลตฟอร์ม ทีมพัฒนา Lucky Block (LBLOCK) จึงสามารถสร้างแพลตฟอร์มการจับรางวัลที่ยุติธรรม ซึ่งสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ใช้งาน และสิ่งนี้กลายเป็นความนิยมอย่างยิ่งในกลุ่มนักลงทุนคริปโต ทั้งความต้องการด้านการบริการ และโทเค็น LBLOCK ที่ดังเป็นพลุแตกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

แพลตฟอร์มนี้จะให้ผู้ใช้งานเข้าร่วมการแข่งขันต่าง ๆ โดยใช้ NFT เป็นตั๋วในการจับรางวัล ซึ่งสามารถซื้อได้จาก marketplace ของ NFT Launchpad ทุก ๆ Lucky Block NFT จะเป็นการออกแบบที่แตกต่าง และมีตัวเลขไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ Luck Block สามารถจัดการจับรางวัลได้หลายครั้ง และทำให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในการจับรางวัลที่พวกเขาสนใจได้ง่ายขึ้น

แม้ว่าการใช้งานหลักของ Lucky Block NFT จะเป็นตั๋วจับรางวัล แต่มันก็ยังให้มูลค่าระยะยาวในรูปแบบของรางวัลรายวันที่ได้มาจากกองเงินรางวัลรวม นอกเหนือจากการแข่งขันทั่วไปแล้ว Lucky Block ยังจัดการแข่งขันระดับแพลตทินัม สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของคอลเลกชั่น Platinum Rollers Club NFT พร้อมรางวัลมากมาย รวมถึงลัมโบร์กินี

แม้ว่าเดิมที Lucky Block จะใช้มาตรฐาน BEP แต่ภายหลังได้เปลี่ยนไปใช้ ERC เพื่ออำนวยความสะดวกในการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน และกำจัดภาษีในการทำธุรกรรม สิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการใช้งาน LBLOCK และก็ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมในการทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด เมื่อการควบรวม Ethereum เสร็จสมบูรณ์

Lucky Block เป็นเหรียญคริปโตที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ที่เพิ่งเริ่มต้นการเดินทางสู่จุดสูงสุดของตลาดคริปโต ซึ่งตอนนี้มีการลิสแล้วบน LBank, MEXC และ Gate.io และมีแนวโน้มว่าจะมีการประกาศการลิสครั้งต่อไป ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุด และจะกระตุ้นความต้องการ LBLOCK ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นในไม่ช้า เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครพลาดโอกาสนี้ เราขอแนะนำให้รีบซื้อ Lucky Block ตอนนี้

ซื้อ Lucky Block ตอนนี้

8. Battle Infinity – เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่เป็นเกม P2E ในระบบ DeFi

การเล่นเกม P2E และการบริการทางการเงินแบบ decentralized (DeFi) เป็นสองส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในคริปโตเคอเรนซี่ และ Battle Infinity (IBAT) ได้รวมสองอย่างนี้เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบนิเวศแบบครบจบในตัว ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองนักลงทุนทุกรูปแบบ

เนื่องจากมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากมาย ระบบนิเวศ IBAT จึงถูกแบ่งออกเป็น 6 แพลตฟอร์ม เพื่อให้ใช้งานได้ง่าย

แพลตฟอร์มทั้งหก ได้แก่ ลีกกีฬาแฟนตาซีที่ชื่อว่า IBAT พรีเมียร์ลีก, เวที Metaverse ที่ชื่อว่า IBAT Battle Arena, คอลเล็กชั่นเกม P2E ที่ชื่อว่า เกม IBAT Battle, NFT marketplace ชื่อ IBAT Battle Market, กระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ที่ชื่อว่า IBAT Battle Swap และแพลตฟอร์มการ Staking ที่ชื่อว่า IBAT Battle Stake

การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ มีความสำคัญต่อความสำเร็จของแพลตฟอร์ม P2E หรือ DeFi ใด ๆ โทเค็น IBAT ใช้มาตรฐาน BEP20 ของ Binance ด้วยเหตุนี้ การทำธุรกรรมจึงรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ เนื่องจาก IBAT ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ BEP จึงทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด และมีกลไกตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม

แม้กระทั่งตอนนี้ ความต้องการ IBAT ก็ยังมีอยู่อย่างมหาศาล Battle Infinity ขายพรีเซลหมดก่อนกำหนดถึง 65 วัน และระดมทุนได้มากมาย และต้องการเพิ่มทุนให้มากกว่าเดิมอีก 4 เท่าหลังจากการลิสบน PancakeSwap นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์ที่จะค่อย ๆ เปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความต้องการ IBAT มีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้น ดังนั้น แนะนำว่าให้ลงทุนตั้งแต่เนิ่น ๆ ในเหรียญคริปโตที่มีอุปทานต่ำที่ดีที่สุด

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้ และเข้าร่วม Telegram ของ IBAT เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปีก่อนใคร

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

เหรียญ proof of stake คืออะไร ?

แม้ว่าการทำความเข้าใจการรับและส่งข้อมูลบนบล็อคเชนอาจเป็นเรื่องยาก แต่การอ่านคู่มือที่จะเราจะอธิบายกลไกของ proof of stake จะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เพื่อการทำธุรกรรมบนบล็อคเชนอย่างปลอดภัย แต่ละธุรกรรมต้องได้รับการตรวจสอบโดยโหนด มิฉะนั้น อาจจะมีบางคนที่ใส่ข้อมูลธุรกรรมที่เป็นเท็จลงในบัญชีแยกประเภท ซึ่งจะทำให้ความถูกต้องของเครือข่ายทั้งหมดผิดพลาด

เพื่อให้แน่ใจว่าการทำธุรกรรมถูกต้องตามกฎหมาย คริปโตเคอเรนซี่จะต้องมีระบบฉันทามติต่าง ๆ Proof of stake เป็นหนึ่งในตัวอย่างของระบบเหล่านี้ ที่ให้ผู้ที่มีคริปโตเคอเรนซี่จำนวนหนึ่ง สามารถตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมได้ เพียงแค่ทำการ staking และใช้เป็นหลักประกันเพื่อให้ได้โอกาสในการได้รับรางวัลจากการ Staking

เนื่องจากรางวัลที่ผู้ตรวจสอบจะได้รับ เป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนโทเค็นที่มีการ stake กลไกนี้จึงไม่จูงใจผู้ไม่หวังดี เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก นอกจากนี้ การ Stake ไม่ต้องใช้พลังงานในการประมวลผลมากเท่ากับเหรียญ proof of work เช่น Bitcoin เหรียญ proof of stake จึงถูกมองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

แม้ว่าจะมีรูปแบบของเหรียญ pos ที่หลากหลาย (เช่น proof of staked authority, pure proof of stake ฯลฯ) แต่ทั้งหมดล้วนคล้ายคลึงกัน เพราะกำหนดให้นักลงทุนต้อง stake โทเค็นจำนวนหนึ่ง จึงจะสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้

Proof of Work vs Proof of Stake คือ

ระบบฉันทามติที่เป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ Proof of Work และ Proof of Stake แม้ว่าทั้งสองจะคล้ายกัน แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญบางประการ Proof of work ใช้พลังงานในการคำนวณเพื่อตรวจสอบธุรกรรม โดยนักขุดจะต้องตั้งค่าคอมพิวเตอร์และแก้ปริศนาคริปโตกราฟฟิค เพื่อยืนยันความถูกต้องของธุรกรรม โดยทั่วไป จะต้องใช้พลังงาน GPU จำนวนมาก ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ใช้อาจจะเสื่อมเร็ว และต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้ค่อนข้างไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในทางกลับกัน เหรียญ proof of stake จะใช้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง โดยการใช้โทเค็นเป็นหลักประกัน ส่งผลให้ระบบสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงานลงอย่างมาก และทำให้เป็นเหรียญคริปโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกเหนือจากการปรับปรุงความปลอดภัยและลดการใช้พลังงานแล้ว proof of stake ยังช่วยป้องกันการ centralization ในเครือข่ายของ proof of stake เนื่องจากมีผู้ให้บริการขุดเหมืองค่อนข้างน้อย แม้ว่าสิ่งนี้จะฟังดูดี แต่สิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตคือ เนื่องจากต้นทุนเริ่มต้นที่สูงขึ้นจากการทำ proof of stake บล็อคเชน ทำให้เครือข่ายนี้มักจะตกเป็นของผู้ที่มีเงินทุนสำรองจำนวนมาก

โดยรวมแล้ว แม้ว่าระบบฉันทามติทั้งสองจะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีทำแตกต่าง เนื่องจากปริมาณคริปโตเคอเรนซี่ที่เพิ่มขึ้น และระบบการตรวจสอบการใช้พลังงานที่ละเอียดมากขึ้น จึงดูเหมือนว่า ในอนาคตจะต้องพึ่งพาระบบ proof of stake มากกว่า

เหรียญ proof of stake เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่ ?

เนื่องจากมีเหรียญ proof of stake ที่แตกต่างกันมากมายในตลาด และบางเหรียญก็เป็นการลงทุนที่ดีกว่าแบบอื่น อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสำคัญบางประการที่เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดต้องมี

ความยั่งยืน

สื่อมักตอกย้ำว่าคริปโตเคอเรนซี่เป็นสินทรัพย์ที่ได้มาจากการใช้พลังงานสูง ทำให้เหรียญ proof of stake ดูน่าสนใจมากกว่า เหรียญ proof of work ในขณะที่บล็อคเชน pow ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีโอกาสเสื่อมลงอย่างรวดเร็วและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนระบบ pos ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูง แต่เมื่อลงทุนเสร็จสรรพแล้วก็สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างตลาดคริปโต เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก 

เทคโนโลยีที่เหนือกว่า

ระบบ proof of work อย่าง Bitcoin ได้รับความนิยมมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่า Bitcoin จะเปิดตัวในปี 2011 และไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม Proof of Stake เป็นแนวคิดที่ใหม่กว่ามาก ซึ่งหมายความว่าสามารถได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงคริปโตกราฟฟิค และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งนี้  proof of stake ก็ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่ยอดเยี่ยม

มุ่งสู่อนาคต

จากข้อมูลก่อนหน้านี้ คริปโตเคอเรนซี่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับโครงการที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งในตลาด proof of stake ถือเป็นอนาคตของการตรวจสอบความถูกต้องทางธุรกรรม Ethereum ถือเป็นเหรียญคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ซึ่งในไม่ช้าจะย้ายไปเป็นระบบ proof of stake รวมถึงทุกโปรเจกต์คริปโต ERC ด้วย 

ด้วยเหตุนี้ จึงมีแนวโน้มว่าเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของเหรียญ pos มากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับเหรียญคริปโตในอนาคต

วิธีซื้อเหรียญ proof of stake

เพื่อให้การซื้อเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดเป็นเรื่องง่าย เราได้สรุปขั้นตอนทั้งหมดไว้ด้านล่างนี้

ขั้นตอนที่ 1: เปิดใช้กระเป๋าเงินคริปโต

ขั้นตอนแรกคือการสร้างกระเป๋าเงินคริปโตที่รองรับโทเค็น ERC20 และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการขายพรีเซลของ Fight Out

ตัวอย่างเช่น MetaMask หรือ Wallet Connect ถือเป็นตัวเลือกกระเป๋าเงินยอดนิยม ที่สามารถดาวน์โหลดเพื่อเข้าถึงการขายพรีเซลได้

ขั้นตอนที่ 2: ซื้อโทเค็น ETH/USDT

ก่อนซื้อ Fight Out นักลงทุนต้องซื้อ Ethereum หรือ USDT ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นโทเค็น Fight Out ได้ นักลงทุนต้องซื้อหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่เหล่านี้จากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่เหมาะสม และโอนกลับไปยังกระเป๋าเงินคริปโตของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับแพลตฟอร์มการขายพรีเซล Fight Out

ไปที่เว็ปไซต์ Fight Out และคลิกที่  ‘Connect Wallet’

เลือกกระเป๋าเงินคริปโตของคุณ และเชื่อมต่อกับการขายรอบพรีเซลของ Fight Out

ไปยัง Fight Out ตอนนี้

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อโทเค็น MEMAG

เมื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงินแล้ว ให้คลิกที่ ‘Buy Fight Out with ETH/USDT‘ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่

กรอกจำนวน Fight Out ที่คุณต้องการซื้อ และคลิกที่ ‘Convert ETH’ หรือ ‘Convert USDT’ และคุณจะได้รับโทเค็นหลังจากการขายพรีเซลสิ้นสุดลง

บทสรุป

ในบทความนี้ เราได้พิจารณา 7 เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่มีในปัจจุบัน และอธิบายว่าเหรียญ pos ​​แตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ อย่างไร โดยการอธิบายกลไกการทำงานอย่างละเอียด

ระหว่างการศึกษาของเรา เราพบว่ามีหนึ่งเหรียญที่โดดเด่นในด้านของโอกาสการเติบโตสูง Fight Out ป็นหนึ่งในเหรียญ presale ที่ได้รับความนิยมซึ่งกำลังเสนอโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าสู่ presale ที่ได้รับความนิยมอย่างมากซึ่งชื่นชมมูลค่าของเหรียญเมื่อเข้าสู่แต่ละรอบต่างๆ