Categories
Bitcoins Crypto News คู่มือคริปโต แนวโน้มราคา Bitcoin

แนวโน้มเหรียญ XRP 2023 – 2025 [บทวิเคราะห์]

XRP เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ในยุคแรกๆ และราคาก็เคยสูงขึ้นอย่างมากเมื่อปี 2017 แต่เหรียญก็ไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มมากนักตั้งแต่นั้นมา ด้วยปัญหาด้านกฎระเบียบต่างๆ ที่ทำให้การเติบโตของเหรียญหยุดชะงัก อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้ก็เป็นเพียงอดีต และเหรียญ XRP ก็กำลังจะมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างมั่นคง

บทความนี้จะกล่าวถึงแนวโน้มเหรียญ XRP ในเดือนและปีถัดๆ ไป โดยจะเน้นว่ามูลค่าของเหรียญ XRP อาจได้รับผลกระทบอย่างไร และแสดงวิธีลงทุนใน XRP ว่าลงทุนเหรียญ XRP ยังไง ซื้อเหรียญ XRP ได้ที่ไหน ในวันนี้แบบค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ

การคาดการณ์ราคา Ripple (XRP) 2023 – 2030

รายละเอียดด้านล่างคือภาพรวมโดยย่อของการคาดการณ์ราคา XRP ของเราในปีถัดๆ ไป เพื่อให้คุณมีไอเดียคิดคร่าๆ เกี่ยวกับศักยภาพของมูลค่าเหรียญ:

  • สิ้นปี 2023: ระดับ $1.90 จะเป็นจุดที่ท้าทายสำหรับ XRP ที่จะทะลุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาดิ่งลงครั้งล่าสุดที่เคยเข้าใกล้บริเวณนี้ ดังนั้นเหรียญจึงอาจมีราคาพุ่งไปที่ 1 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2023
  • ช่วงสิ้นปี 2023: ราคา $1.90 จะเป็นแนวต้านที่ยากจะทะลุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากราคาเหรียญเคยร่วงลงหลังเข้าใกล้ราคาช่วงนี้ แต่หาก XRP สามารถทะลุระดับแนวต้านนี้ได้ ราคาเหรียญก็อาจพุ่งเป็น $3 ก่อนสิ้นปี 2023
  • ช่วงสิ้นปี 2025: สมมติว่าราคาของ XRP สูงถึง $3 หมายความว่าเหรียญจะอยู่ในช่วง all-time highs เท่าปี 2017 เราคาดว่าจะเห็นเทรนด์ของเหรียญอย่างชัดเจนในช่วงนี้ และหาก XRP ทะลุแนวต้านนี้ไปได้ ราคาเหรียญก็อาจพุ่งไปที่ $5.50 ก่อนสิ้นปี 2025  
  • สิ้นปี 2030: การยอมรับเหรียญคริปโตที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความสนใจของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น ผลที่ตามมาคือ การเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินใหม่ๆ มากขึ้น และภาพรวมของนักลงทุนในเชิงบวกอาจส่งผลให้ XRP แตะ $9 ได้ภายในปี 2030

ไปยังเหรียญคริปโตอันดับ 1 ที่เราแนะนำในปี 2023

🔵 ชื่อเหรียญXRP
💲 ราคา$0.4723112
🔆 สัญลักษณ์XRP
⏳ ราคาเปลี่ยนแปลง 1 ชม0.07%
🌕 ราคาเปลี่ยนแปลง 24 ชม0.31%
💵 มูลค่าตามราคาตลาด$24,552,336,985
🥇 อันดับ6
🌐 ปริมาณ 24 ชม$398,656,586
🔄 อุปทานหมุนเวียน51,983,386,003
💰 อุปทานทั้งหมด99,988,920,499

XRP – ข่าวสารล่าสุด

  • ตามรายงานตลาดไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ของ Ripple โซลูชัน ODL ของ Ripple ซึ่งเปิดใช้งานการชำระเงินข้ามพรมแดนโดยใช้เหรียญคริปโต ได้เปิดตัวแล้วในฝรั่งเศส สวีเดน และแอฟริกา และมีให้บริการในตลาดการเงินประมาณ 40 แห่ง
  • ในระหว่างการพิจารณาคดีเครดิต LBRY ก.ล.ต. รับทราบว่าโทเค็นไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ โดยคำแถลงหลังจากการสรุปก็ได้รับคำชี้ขาด ซึ่ง Brad Garlinghouse หรือ CEO ของ Ripple กล่าวถึงเรื่องนี้กับ ก.ล.ต. ว่าแนวทางที่เป็นกลางของ ก.ล.ต. ไม่ใช่วิธีที่ดีในการควบคุมอุตสาหกรรมคริปโต
  • XRP ได้ปรับฐานราคา 5.8% ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และขณะนี้การซื้อขายอยู่ที่ 0.36 ดอลลาร์

ประวัติราคา XRP

สิ่งสำคัญของวิธีซื้อเหรียญคริปโตก็คือการตรวจสอบประวัติราคาและการเคลื่อนไหวของตลาด ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าคุณกำลังตัดสินใจอย่างถูกต้องและกำลังจะทำกำไรจากเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุด

ใครที่มองหาวิธีลงทุนในเหรียญคริปโตก็อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ XRP อยู่บ่อยๆ เนื่องจากเป็นเหรียญชั้นนำแห่ง ‘การปฏิวัติโลกคริปโต’ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาและอยู่ใน 10 อันดับเหรียญคริปโตที่มูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีช่วงที่ราคาเหรียญร่วงไปบ้างก็ตาม แต่เราจะมาดูกันว่าอะไรทำให้เหรียญมาถึงจุดนี้และราคาในอนาคตเหรียญ Ripple

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า XRP และ Ripple เป็นเหรียญเดียวกัน Ripple นั้นเป็นโปรโตคอลการชำระเงินแบบ blockchain (สร้างโดย Ripple Labs) ที่สามารถโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมี XRP เป็นเหรียญหลักของเครือข่าย Ripple และมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการโอนเงิน

ไอเดีย Ripple เกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นเวลาที่ก่อนเหรียญคริปโตจะโด่งดัง จนกระทั่งปี 2011 เจ็ด แมคคาเลบ ก็เริ่มพัฒนาเหรียญ XRP ด้วยการใช้เทคโนโลยี blockchain และก่อตั้งบริษัท Ripple ขึ้นมา โดย XRP เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2012 และเริ่มดึงดูดความสนใจจากธนาคารและหน่วยงานการเงินอื่นๆ มากมาย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา XRP ได้กลายเป็นหนึ่งใน altcoins ที่น่าสนใจเนื่องจากศักยภาพของ Ripple ในด้านการเงิน ธนาคารหลายแห่งเริ่มให้ความสนใจเครือข่าย Ripple (RippleNet) ในการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินข้ามพรมแดนที่รวดเร็วและราคาถูก เนื่องจากเครือข่าย SWIFT ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเริ่มล้าสมัยลงแล้ว และ RippleNet ดูเหมือนจะเริ่มเข้ามาแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆ

ราคาเหรียญพุ่งขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2017 กว่า 1200% ในเวลาไม่กี่สัปดาห์และทำ all time high ที่ $3.84 ซึ่งเป็นช่วงราคาที่มั่นคงอยู่สักพัก แม้ว่าจะมีช่วงที่ราคาร่วงลงไปบ้างจนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้ราคาเพิ่มขึ้นในช่วงนี้

XRP เริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายปี 2020 โดยเพิ่มขึ้น 184% และเพิ่มอีก 795% ตามลำดับ แม้ XRP จะไม่สามารถรักษาโมเมนตัมขาขึ้นนี้ได้ และราคาของเหรียญก็ลดลงทันที ด้วยแนวโน้มเหรียญ XRP ล่าสุดแบบนี้ทำให้ปัจจุบันเหรียญ XRP มีราคาอยู่ที่ $0.4997 ณ ขณะที่เขียน

นี่คือภาพรวมเหตุการณ์สำคัญของ XRP:

  • เริ่มพัฒนาในปี 2021 โดยโปรแกรมเมอร์ เจ็ด แมคคาเลบ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2012
  • ได้รับความสนใจจากธนาคารและหน่วยงานทางการเงินอื่นๆ ส่งผลให้ราคาเหรียญเพิ่มสูงในปี 2017
  • ทำ all time high ที่ $3.84 ในเดือนมกราคม 2018 แม้ว่าราคาจะร่วงลงทันทีที่ทำได้
  • ราคานิ่งจนกระทั่งปลายปี 2020 เมื่อตลาดเริ่มผันผวนอีกครั้ง
  • เหรียญได้พยายามรักษาโมเมนตัมขาขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีจุดราคาสูงสุดตามมาด้วยจุดต่ำสุด
  • ปัจจุบัน XRP ซื้อขายอยู่ที่ $0.36 ต่อโทเค็น

ซื้อ XRP ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

แนวโน้มเหรียญ XRP 2023

วิธีซื้อเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุดอย่างมีประสิทธิภาพในตลาดคริปโตก็คือการซื้อเหรียญคริปโตที่มีประโยชน์และมีค่าจริงๆ โดยเครือข่าย Ripple มีระบบการชำระเงินแบบปัจจุบัน (และน่าสนใจกว่า) เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่ยังคงใช้เครือข่าย SWIFT อยู่นั่นเอง

ความเร็วเฉลี่ยของการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนโดยใช้ RippleNet คือ 5 วินาที แต่ SWIFT คือ 30 นาที (บางครั้งอาจนานถึง 24 ชั่วโมง) การย้ายไปใช้เครือข่าย Ripple จึงเหมาะกับทุกหน่วยงาน เนื่องจากในปัจจุบันเศรษฐกิจมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

Ripple ยังมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าที่ 0.00001 XRP ต่อธุรกรรม ซึ่งถูกมากเสียจนแทบจะไม่มีนัยสำคัญใดๆ  แม้ว่าราคา Ripple XRP จะมีมูลค่ามากกว่า 10 เท่าก็ตาม ซึ่งถูกกว่าการใช้เครือข่าย SWIFT อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนถึง 3% เมื่อทำการชำระเงินระหว่างประเทศ

บทบาทของ XRP ในระบบการชำระเงินคือใช้ ‘สกุลเงินตัวเชื่อม’ ทำให้การทำธุรกรรมมีราคาถูกลง หากธนาคารต้องการแปลง USD เป็น EUR ก็สามารถซื้อ XRP โดยใช้ USD ได้ จากนั้นจึงใช้ XRP เพื่อซื้อ EUR เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน ถ้ารวมเข้ากับความเร็วของ RippleNet จึงทำให้เป็นเหรียญที่น่าสนใจอย่างมาก

หาก Ripple สามารถก้าวข้ามคดีความและเริ่มเติบโตอีกครั้ง เราน่าจะเห็นสถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มใช้ Ripple Network โดยสมมติว่าสิ่งนี้เกิดขึ้น การคาดการณ์ราคา XRP ของเราก็คาดการณ์ว่าเหรียญจะสามารถเข้าถึงราคาเกือบ $1 ภายในสิ้นปี 2023

แนวโน้มเหรียญ XRP 2024

ปัจจุบัน Ripple เผชิญกับการแข่งขันเพียงเล็กน้อยในตลาด เพราะเป็นบริษัทคริปโตที่โดดเด่นที่ให้บริการสถาบันการเงินทั่วโลก ด้วยเครือข่ายความร่วมมือที่ได้ขยายตัว มูลค่าของ XRP จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนทั้งหมดที่เปิดให้บริการโดย RippleNet

Ripple คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้เนื่องจากความสามารถรอบด้าน ซึ่งรวมถึงแอพพลิเคชั่นด้านบัญชี การลงทุน การดำเนินการตามสัญญาอัจฉริยะ และการโค้ดดิ้งแบบกระจายอำนาจ ยิ่งไปกว่านั้น XRP ยังโดดเด่นเหนือคู่แข่งจากราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย การลงทุนเพียงเล็กน้อยเพียงไม่กี่ดอลลาร์สามารถซื้อ XRP จำนวนมากได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนรายใหม่และนักลงทุนที่งบน้อย

เมื่อคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ แนวโน้มระยะกลางของ XRP ดูค่อนข้างสดใส โดย Altcoin สามารถดำเนินการต่อในแนวโน้มขาขึ้นไปยังช่วง $1.5-$2 หลังจากที่ราคาร่วงลงไม่กี่ครั้ง 

วิเคราะห์ XRP ในระยะยาว – การคาดการณ์แนวโน้มเหรียญ XRP ปี 2025

XRP อาจเป็นหนึ่งใน Cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในปัจจุบัน ซึ่งมีนักวิเคราะห์หลายคนเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เนื่องจาก RippleNet มีพันธมิตรรายใหญ่จำนวนมากอยู่แล้ว แม้จะมีประเด็นทางกฎหมายของบริษัทก็ตาม

ตามเว็บไซต์ของ Ripple เครือข่ายนี้ถูกใช้โดยบริษัทหลายร้อยแห่งใน 55 ประเทศ ได้แก่ Santander, Bank of America, และ Itau Unibanco สิ่งนี้ทำให้ XRP มีความน่าเชื่อถืออย่างมาก และอาจนำไปสู่การสร้างพันธมิตรอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคต

เทคโนโลยีของ XRP เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เหรียญมีอนาคตที่ดี เนื่องจากไม่ได้ใช้อัลกอริธึม Proof-of-Work (ขุดเหรียญ) เหมือนอย่าง Bitcoin แต่ XRP จะใช้โปรโตคอลของตนเอง โดยที่ผู้ตรวจสอบของเครือข่ายจะตรวจสอบธุรกรรม ซึ่งหากธุรกรรมได้รับการยินยอมจากเสียงส่วนมากก็จะยืนยันธุรกรรมนั้นๆ ได้

แนวทางนี้ใช้พลังงานน้อยกว่าโปรโตคอล PoW มาก ซึ่งหมายความว่า XRP อาจเป็นเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุนเชิงนิเวศ แม้ XRP จะเป็นแพลตฟอร์มแบบ ‘centralzied’ ที่กำกับโดย Ripple Labs นั่นจึงทำให้นักลงทุนคริปโตหลายคนอยากหลีกเลี่ยงการลงทุนในเหรียญ เนื่องจากไม่ใช่แพลตฟอร์ม decentralized

แต่โดยรวมแล้วก็ดูเหมือนว่า XRP จะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ โดยแนวโน้มราคา XRP ของเราในปี 2025 คาดการณ์ว่าเหรียญจะมีมูลค่าถึง $3.5

แนวโน้มเหรียญ XRP 2030

รายงานเทรนด์เหรียญคริปโตของ Ripple ชี้ให้เห็นว่า NFT และ CBDC เพิ่งเริ่มได้รับแรงผลักดัน และเมื่อเติบโตเต็มที่ ผลกระทบต่อเครือข่ายของ Ripple และอุตสาหกรรม Blockchain จะชัดเจนยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าในขณะที่บางคนคาดการณ์การเติบโตของมูลค่า XRP ในอนาคต คนอื่นๆ ก็ได้คาดการณ์ว่า XRP อาจเผชิญกับความยากลำบากในการเติบโตเนื่องจากตัวแปรมากมายที่ส่งผลต่อราคาในอนาคตของ XRP

ปัจจัยสำคัญที่กำหนดราคาของ XRP ในปีต่อๆ ไป ได้แก่ ผลการฟ้องร้องของ ก.ล.ต. ความร่วมมือกับองค์กรทางการเงิน การใช้งานอย่างแพร่หลาย การออกเหรียญคริปโตโดยธนาคารกลางเป็นต้น

เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยเหล่านี้แล้ว XRP จะยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากตลาดขาขึ้นพยายามที่จะทำลายแนวต้านในระยะยาว โดยเหรียญคริปโตดังกล่าวอาจทะลุจุดราคา $9 ได้ภายในปี 2030

ซื้อ XRP วันนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

จุดราคาสูงและต่ำของ XRP

ผู้ที่รู้วิธีซื้อ Bitcoin จะเข้าใจดีถึงความผันผวนของตลาดคริปโต ซึ่งเหรียญ XRP ก็เช่นเดียวกันเนื่องจากเหรียญเคยมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมากและก็ร่วงลงในทันทีเพียงไม่กี่วัน

ในการวิเคราะห์ XRP ของเรา เราสังเกตเห็นช่วงแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในกราฟราคา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในอนาคต เนื่องจากช่วงราคาเหล่านี้อาจทำเทรนด์ที่ชัดเจน, ทำให้ราคาร่วง, หรือทำให้เกิดความผันผวนในระยะสั้นได้

ตารางด้านล่างเป็นช่วงราคาดังกล่าว เพื่อให้คุณรู้ว่าต้องโฟกัสไปที่อะไรในปีถัดๆ ไป:

ปีจุดราคาสูงจุดราคาต่ำ
2023$1$0.2
2024$2$0.9
2025$3.5$2 
2030$9$3

เหรียญ XRP ดีไหมและทำอะไรได้บ้าง?

XRP มีกรณีการใช้งานที่มีมูลค่าจริง ซึ่งอาจช่วยผลักดันราคาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ก็มีเหตุผลอื่นๆ ที่จะถือ XRP นอกจากการประมวลผลการชำระเงินที่รวดเร็ว โดยเรามาเจาะลึกกรณีการใช้งานหลักของเหรียญ XRP:

การโอนเงินที่รวดเร็วและคุ้มค่า

การโอนเงินเป็นกรณีการใช้งานหลักของ XRP ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลายคนมองว่าเป็นเหรียญคริปโตราคาไม่ถึงบาท ที่ดีที่สุด เนื่องจากไม่มีโปรเจกต์ที่จะยิ่งใหญ่เท่า XRP ในตลาด โดยแม้เหรียญคริปโต Stellar จะมีบริการที่คล้ายกัน แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจเท่ากับ Ripple Network

และดูเหมือนว่า Ripple จะมีความได้เปรียบกว่าจากความสามารถในการขยายเครือข่าย ซึ่งรองรับธุรกรรมได้มากถึง 1,500 รายการต่อวินาที แม้ว่า XRP จะเป็นแพลตฟอร์ม centralized แต่ข้อดีก็คือได้รับการสนับสนุนจาก Ripple Labs ในแง่ของการตลาดและการสร้างพันธมิตร

การเก็งกำไร

นักลงทุนสามารถซื้อ XRP เพื่อเก็งกำไรได้ ด้วยการเติบโตของเหรียญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นทำให้สามารถซื้อ XRP ได้จากทุกกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดได้ทันทีเพราะเป็นเหรียญที่มีสภาพคล่องสูง

ภาพรวมของกราฟราคา XRP นั้นมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ลงทุนทั้งทั้งระยะสั้นและระยะยาว ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 43% ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะพุ่งขึ้น 165% ในช่วงกลางปี 2021 แต่ผลตอบแทนขนาดนี้ก็ไม่น่าจะหาได้จากสินทรัพย์อื่นๆ

ช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร

XRP สามารถนำไปใช้ในประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินและให้ผู้คนโอนเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หากสิ่งนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นก็จะเพิ่มความต้องการ XRP และส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนมากขึ้นในระยะยาวได้นั่นเอง

ตัวขับเคลื่อนราคาของ XRP คืออะไร?

เราได้พูดถึงการเคลื่อนไหวของราคา XRP และกรณีการใช้งานของเหรียญแล้ว แต่ตัวขับเคลื่อนราคาของ XRP คืออะไร? รายละเอียดด้านล่างเป็นปัจจัยหลักสามข้อที่มีอิทธิพลต่อราคา XRP ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว:

การต่อสู้ในชั้นศาล

การต่อสู้ในชั้นศาลอย่างต่อเนื่องระหว่างสำนักงาน ก.ล.ต. และ Ripple Labs เป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักของราคาของ XRP เพราะนักลงทุนลังเลที่จะซื้อ XRP เนื่องจาก Ripple อาจต้องจ่ายค่าปรับจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเติบโตในอนาคต

อ้างอิงจาก Yahoo Finance ทั้งสองฝ่ายจะต้องยื่นญัตติในเดือนนี้ ซึ่งเราอาจหวังได้ว่าจะมีข้อตกลงบางอย่าง แต่หากไม่มีข้อตกลงใดๆ เกิดขึ้น คดีความก็จะถูกพิจารณาคดีภายในปีนี้นั่นเอง

ความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต

ราคา XRP ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นของตลาด แม้จะไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับเหรียญอื่น แต่ XRP ยังคงมีโอกาสที่จะเป็นไปตามแนวโน้มโดยรวม แม้จะยังไม่มีข่าวคริปโตที่น่าสนใจในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค (เช่น สงครามในยูเครน) ก็ได้ทำให้ความเชื่อมั่นโดยรวมของเหรียญคริปโตลดลง และบังคับให้นักลงทุนต้องเข้าหาสินทรัพย์ ‘safe haven’ เช่น ทอง มากขึ้น

การเผาเหรียญทิ้ง

XRP มีกลไก ‘การเผาเหรียญทิ้ง’ ซึ่งหมายความว่า 0.00001 XRP จะถูกเผาทิ้งหลังจากการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง เนื่องจากมีโทเค็น XRP จำนวน 1 แสนล้านเหรียญ การเผานี้จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคามาก แต่ Brad Garlinghouse (CEO ของ Ripple) กล่าวว่าเขาไม่ได้ต่อต้านการเผาเหรียญที่เก็บไว้ในระบบเอสโครว์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานและราคาเหรียญอย่างมีนัยสำคัญ

ควรซื้อ XRP ที่ไหนดี

หากคุณต้องการซื้อ XRP วันนี้ คุณจะต้องสร้างบัญชีกับหนึ่งในกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด ที่มีเหรียญมากมาย แต่เราขอแนะนำให้เลือกใช้ eToro

eToro เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากกว่า 24 ล้านคน ซึ่งรองรับหุ้น, ETF, สินค้าโภคภัณฑ์, สกุลเงิน, และเหรียญคริปโตมากมาย ซึ่งปลอดภัยและได้รับการกำกับโดย FCA, ASIC, CySEC, FinCEN และ FINRA และเทรดเดอร์สามารถซื้อขายได้อย่างคุ้มค่าด้วยค่าธรรมเนียมแสนถูก

eToro จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ 1% บวกกับค่าสเปรด สิ่งนี้ทำให้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายบน eToro ถูกที่สุดในหมู่โบรกเกอร์ยอดนิยม และเนื่องจาก eToro มีการลงทุนแบบสัดส่วน ลูกค้าจึงสามารถซื้อขายเหรียญคริปโตได้ตั้งแต่ 10 ดอลลาร์

การฝากเงินก็ง่ายดาย เพราะผู้ใช้สามารถเติมเงินเข้าบัญชีโดยใช้บัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือ e-wallet ที่รองรับทั้ง PayPal, Skrill และ Neteller ได้ฟรีในสกุลเงิน USD ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีทันที (ยกเว้นการโอนเงินผ่านธนาคาร) โดยมีเกณฑ์การฝากขั้นต่ำคือ $10 ทำให้ง่ายสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการลงทุนทีละเล็กทีละน้อย

eToro มีฟีเจอร์ช่วยเทรดที่เป็นประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะ ‘CopyPortfolio’ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ลงทุนในพอร์ตที่มีการจัดการอย่างมืออาชีพแบบฟรีๆ eToro ยังเป็นหนึ่งใน Crypto Wallet ที่ดีที่สุด (eToro Money) ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี มีโปรโตคอลความปลอดภัยขั้นสูง และรองรับเหรียญคริปโตมากมาย

ข้อดี

  • มีค่าธรรมเนียมเทรดคริปโตต่ำ
  • มีเหรียญคริปโตมากกว่า 50 รายการให้เทรด
  • เป็นหนึ่งใน กระเป๋า XRP ที่ดีที่สุด
  • มีฟีเจอร์ CopyTrader ที่มีประโยชน์
  • ฝากเงินขั้นต่ำเพียง $10
  • กำกับโดยหน่วยงานชั้นนำมากมา

ข้อเสีย

  • ค่าธรรมเนียม 0.5% เมื่อทำการฝากเงินที่ไม่ใช่ USD
  • USD เป็นสกุลเงินหลักเดียวที่รองรับ

ซื้อ XRP ที่ eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

XRP น่าลงทุนไหม?

XRP มีศักยภาพที่จะเติบโตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเราเชื่อว่า โปรเจกต์ที่มีมูลค่าตลาดต่ำและการ Pre-sale ของโทเค็นใหม่เป็นเหรียญคริปโต altcoin ที่น่าสนใจต่อการลงทุนในปี 2023

Love Hate Inu – โปรเจกต์เหรียญที่ดีที่สุดของปี 2023 พร้อมยูทิลิตี้โซเชียลที่น่าสนใจ

เหรียญมีมมียูทิลิตี้ที่ไม่เหมือนใครอยู่เสมอที่อาจไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ แต่เหรียญมีมทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ขำๆ แทน แต่ Love Hate Inu ได้พลิกคอนเซ็ปต์และสร้างแพลตฟอร์ม Vote2Earn ที่ไม่เหมือนใครซึ่งให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมในแบบสำรวจความคิดเห็นทางโซเชียลมีเดียและรับโทเค็นได้

คอนเซ็ปต์มาจากทั้งเหรียญมีมและ DAO โดยเหรียญมีมนั้นมาจากกรณีการใช้งานทางสังคมที่ใช้ได้จริง และ DAO นั้นก็เป็นเชื้อเพลิงให้กับกลไกการลงคะแนนของแพลตฟอร์ม ผู้ใช้ต้อง Stake เพื่อลงคะแนนเสียง และอำนาจในการลงคะแนนก็จะพิจารณาจากจำนวนโทเค็นที่พวกเขาใช้ Stake

เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับการ Stake ผู้ถือจะได้รับผลตอบแทนต่อปี โดยระบบนิเวศที่เรียบง่ายนี้แบ่งออกเป็นสามองค์ประกอบ

อย่างแรกคือกลไกการลงคะแนนที่ผู้ใช้สามารถใช้เพื่อโหวตในเรื่องทางสังคม บันเทิง หรือการเมือง

กลไกแบบสำรวจให้ผู้ถือใช้โทเค็น LHINU เพื่อสร้างแบบสำรวจที่กำหนดเองโดยใช้เครื่องมือที่ติดตั้งมาพร้อมกับภาพประกอบ

กลไกสุดท้ายคือแดชบอร์ดที่ให้ผู้ใช้ตรวจสอบแบบสำรวจของตนเพื่อให้แน่ใจว่ามีการลงคะแนนอย่างยุติธรรม นอกจากนี้ยังรับประกันว่าจะไม่มีการดำเนินการของเหล่าวาฬที่ต้องการผลักดันการลงคะแนนไปในทิศทางเดียว

Love Hate Inu ได้เปิดตัวเพื่อกำหนดวิธีการโต้ตอบบนโซเชียลมีเดียใหม่โดยทำให้แบบสำรวจมาตรฐานแบบกระจายอำนาจและให้รางวัลมากขึ้น ด้วยวิธีง่ายๆ ที่นำไปใช้ได้จริง นี่คือเหตุผลที่การ Pre-sale ของโทเค็นมีการระดมทุนเพิ่มขึ้นถึง 3.4 ล้านเหรียญ

ผู้คนเริ่มสนใจโทเค็นนี้มากขึ้นเนื่องจากทีมได้ว่าจ้าง CEO คนใหม่ – Carl Dawkins โดยทีมงานเพิ่งจัดช่วงถาม-ตอบ ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1,000 คนเข้าร่วม

$LHINU Tokenomics

โทเค็นหลักของระบบนิเวศ LHINU มีจำนวนรวม 100 พันล้าน 90,000 ล้านของจำนวนนี้อุทิศให้กับการ Pre-sale และอีก 10% ที่เหลือมีไว้สำหรับสภาพคล่องและรางวัลสำหรับผู้ที่ลงคะแนนบนแพลตฟอร์ม

เริ่มพรีเซลล์8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำไม่มี
ลงทุนสูงสุดไม่มี

ไปยัง Love Hate Inu ตอนนี้

แนวโน้มเหรียญ XRP – บทสรุป

บทความนี้ได้กล่าวถึงแนวโน้มเหรียญ XRP ในเชิงลึกจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค รากฐาน และเศรษฐศาสตร์มหภาค แม้ราคาเหรียญจะไม่สู้ดีนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยคดีในชั้นศาลกับ ก.ล.ต. แต่ถ้า XRP ชนะคดีก็มีความเป็นไปได้สูงที่เหรียญจะเติบโตขึ้นได้

เรายังแนะนำ Love Hate Inu เป็นเหรียญคริปโต Altcoin ที่น่าลงทุน โดยได้ระดมทุนได้สูงถึง 3.4 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาสั้นๆ และนำเสนอโอกาสเพิ่มมูลค่าที่ยอดเยี่ยมสำหรับตลาด Utility Token

Categories
Bitcoins Crypto News Crypto Wallets คู่มือคริปโต

จัดอันดับ 8 กระเป๋า ethereum wallet ที่ดีที่สุดแห่งปี 2023 [แนะนำ!]

Ethereum เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดรองจากบิทคอยน์ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะซื้อ Ethereum มีปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรคำนึงถึง นั่นก็คือ วิธีการเก็บโทเค็น ETH อย่างไรให้ปลอดภัย

ในคู่มือนี้ เราจะเปรียบเทียบกระเป๋า ethereum wallet ที่ดีที่สุด ในปี 2023 โดยพิจารณาจากความปลอดภัย ค่าธรรมเนียม ฟีเจอร์ และความสะดวกใช้งาน

8 อันดับกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด

นี่คือ 8 กระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด ที่เป็นผู้นำตลาดในปี 2023:

  1. eToro – กระเป๋า ethereum โดยรวมที่ดีที่สุด ปี 2023
  2. Capital.com – กระเป๋า ethereum ค่าธรรมเนียมต่ำ ที่เติบโตเร็ว
  3. Crypto.com – กระเป๋า ethereum สำหรับการ Staking คริปโต
  4. DefiSwap – กระเป๋า ethereum ในรูปแบบของ decentralized
  5. PrimeXBT– กระเป๋า ethereum สำหรับนักลงทุนเริ่มต้น
  6. Binance – กระเป๋า ethereum ที่เหมาะกับนักลงทุนระดับกลางถึงสูง
  7. Bitstamp – กระเป๋า ethereumที่มีระบบความปลอดภัยสูงสุด
  8. Bitkub – กระเป๋า ethereum ที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยที่สุด

การเลือกแอปกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด อาจเป็นเรื่องที่ยาก เพราะกระเป๋าเงินที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุน จะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะบุคคลด้วย

ด้านล่างนี้ เราได้รวมรีวิวโดยละเอียดของผู้ให้บริการกระเป๋าเงินตามรายการด้านบน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถศึกษา และใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้

รีวิวกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด

กระเป๋า ethereum wallet ที่ดีที่สุดในตลาด ต้องมอบความสมดุลที่ดีระหว่างความปลอดภัย ความสะดวก และรูปแบบการใช้งาน

หลังจากวิเคราะห์ผู้ให้บริการหลาย ๆ ราย เราพบว่ากระเป๋า ethereum อันดับต้น ๆ ที่ควรต้องพิจารณา คือสิ่งที่จะกล่าวถึงด้านล่างนี้:

1. eToro – กระเป๋า ethereum โดยรวมที่ดีที่สุด ปี 2023

eToro เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัล ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก อนุญาตให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้มากกว่า 70 รายการ และรองรับการซื้อโทเค็น Ethereum โดยตรง ด้วยค่าธรรมเนียมเพียง 1% แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และ e-wallets

กระเป๋า ethereum ของ eToro ให้บริการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้า ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีของ eToro เพื่อเข้าถึงและจัดการเหรียญ Ethereum ได้อย่างสะดวก เนื่องจากแต่ละบุคคลสามารถถอนเงินจากการลงทุน ETH ออกจากพอร์ตของ eToro ได้โดยตรง

eToro ยังมีฟีเจอร์แอป Money App แยกต่างหาก ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งและรับเหรียญ Ethereum เข้าออกจากกระเป๋าเงินอื่น ๆ ได้  แอปนี้สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ใช้ได้ทั้งโทรศัพท์ iOS และ Android  นอกจากนี้ ยังรวมเข้ากับแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ของ eToro และสามารถเข้าถึงข้อมูลด้วยการเข้าสู่ระบบเดียวกันได้

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถซื้อ Ethereum และคริปโตเคอเรนซี่อื่น ๆ ได้โดยตรงภายในแอป Money wallet โดยจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่เพียงแค่ 10 ดอลลาร์เท่านั้น eToro ยังสามารถโอนเหรียญ Ethereum เข้าหรือออกจากแอป Money wallet ได้ฟรี อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังคงต้องชำระค่าธรรมเนียมการใช้งานเครือข่ายบล็อคเชน

นอกจากนี้ ผู้ใช้จะสามารถแลกเปลี่ยน Ethereum และคู่เงิน crypto-to-crypto อื่นๆได้กว่า 500 คู่ ผ่านแอปกระเป๋าเงิน ด้วยความเป็นกระเป๋าเงินที่มีการคุ้มครอง eToro ยังมีบริการกู้คืน private key ดังนั้น ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองได้

ในแง่ของความปลอดภัย แพลตฟอร์มการซื้อขายของ eToro ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดในหลายด้าน โดย SEC, FCA, CySEC และ ASIC ส่วนบัญชีผู้ใช้งานยังถูกป้องกันด้วย 2FA สำหรับกระเป๋าเงิน eToro ได้ใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยระดับสูงมากมาย เช่น การป้องกัน DDoS และโปรโตคอลมาตรฐาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีที่ไม่ได้รับอนุญาต

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียมดาวน์โหลดฟรี, ค่าธรรมเนียมการโอนเหรียญ Ethereum จาก eToro ไปยังกระเป๋าเงิน 0.5%
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum1% + ค่าสเปรด
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกเครื่องมือ copy trade, ถูกควบคุมหลายส่วน, การกู้คืน private key

ข้อดี

  • รองรับการกู้คืน private key
  • เปิดใช้งานคู่คริปโตได้มากถึง 500 คู่
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำมาก
  • ได้รับการควบคุมโดย FCA, ASIC, SEC และ CySEC
  • ซื้อและขายได้มากกว่า 70 โทเค็น ผ่านบัตรเดบิต/บัตรเครดิตหรือ e-wallet

ข้อควรพิจารณา

  • นักลงทุนประสบการณ์สูงอาจมองว่าแพลตฟอร์มค่อนข้างพื้นฐาน

ใช้งานกระเป๋าเงิน eToro ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

2.Capital.com – กระเป๋า ethereum ค่าธรรมเนียมต่ำ ที่เติบโตเร็ว

Capital.com เป็นกระเป๋า ethereum ที่น่าสนใจที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้ เพราะที่นี่มีแหล่งเรียนรู้มากมาย เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการลงทุน และยิ่งถ้าคุณเป็นมือใหม่ในวงการนี้ การได้รับตัวช่วยต่าง ๆ จะทำให้การซื้อขายมีโอกาสเกิดกำไรมากขึ้น อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ใน Capital.com มีการอัพเดทให้ทันกับปัจจุบัน และช่วยส่งเสริมกลยุทธ์การซื้อขาย ด้วยรูปแบบธุรกิจที่โปร่งใส 

ฐานผู้ใช้งานกระเป๋า ethereum wallet ของ capital.com เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในประเทศมากกว่า 180 ประเทศ

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียม0%
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumไม่ระบุ 
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจ, มีแอปเพื่อการศึกษา , ใช้คำสั่งซื้อหรือขายได้ตลอดเวลา

ข้อดี

  • ค่าสเปรดต่ำ ค่าคอมมิชชั่นการซื้อขาย 0% และไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก
  • ใช้เลเวอเรจได้

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่รองรับการลงทุนร่วมแบบดั้งเดิม

ไปยัง Capital.com ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

3. Crypto.com – กระเป๋า ethereum สำหรับการ Staking คริปโต

ตัวเลือกต่อไปสำหรับกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด คือ Crypto.com ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตในสิงคโปร์ เป็นกระเป๋าเงิน DeFi ที่รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 690 รายการ ซึ่วรวมถึง Ethereum ด้วย นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ลูกค้าส่ง รับ จัดเก็บ และ stake เหรียญ Ethereum ผ่านหน้าต่างใช้งานที่ใช้ง่าย

ข้อดีของ Crypto.com หรือกระเป๋าเงิน DeFi คือ ไม่เก็บ private key ของลูกค้าไว้ในระบบเซิร์ฟเวอร์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ กระเป๋าเงินแบบควบคุมเองได้ ซึ่งให้ผู้ใช้ควบคุม private key ได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าเงินยังแยกต่างหากจากแอป Crypto.com ดังนั้น ผู้ใช้งานแต่ละบุคคลสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินนี้ได้ โดยไม่ต้องระบุชื่อ

อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่จะเชื่อมกระเป๋าเงิน DeFi กับแอป Crypto.com เข้าหากัน เพื่อปลดล็อกให้แพลตฟอร์มทำงานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ Crypto.com ไม่คิดค่าธรรมเนียมโดยตรงสำหรับการดำเนินการฝากและถอน Ethereum แต่ผู้ใช้งานยังคงต้องเสียค่าบริการเครือข่าย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถ stake เหรียญ Ethereum และรับผลตอบแทนผ่านแพลตฟอร์ม DeFi เช่น Aave, Compound และ Cosmos ได้ ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าเงิน DeFi ของ Crypto.com ยังรองรับ NFTs หลายหลาย ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถซื้อของสะสมดิจิทัลผ่านตลาด NFT ของ Crypto.com และเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน DeFi ได้

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียมดาวน์โหลดฟรี , ค่าธรรมเนียมซื้อขายขั้นต่ำ 0.40%
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum2.99% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัต
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกตัวเลือกการเชื่อมต่อกับ Crypto.com, staking, รองรับ NFTs หลากหลาย

ข้อดี

  • Non-custodial wallet
  • ผสานกับแอป Crypto.com
  • ซื้อและ stake เหรียญ Ethereum ได้จากในกระเป๋าเงิน
  • รองรับการจัดเก็บ NFTs

ข้อควรพิจารณา

  • ซื้อ Ethereum ด้วยสกุลเงิน fiat ผ่านแอป iOS หรือ Android เท่านั้น 

ไปยังกระเป๋าเงิน Defi crypto.com ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

4.DefiSwap – กระเป๋า ethereum ในรูปแบบของ decentralized

หากคุณนึกถึงการซื้อขายคริปโตในรูปแบบ decentralized DefiSwap เป็นอีกหนึ่งกระเป๋า ethereum ที่มีการบริการที่หลากหลาย โดดเด่นตรงที่หน้าเว็บไซต์ที่เรียบง่าย และสามารถใช้งานผ่านคอมพิเตอร์หรือบนโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวก 

แพลตฟอร์มนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ สามารถเชื่อมวอลเล็ตกับทางแพลตฟอร์มได้โดยตรง เพื่อแลกเปลี่ยนโทเค็นโดยอาศัย liquidity pool และสามารถสร้างรายได้ทางอ้อมให้กับผู้ใช้งานได้อีกด้วย 

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียมไม่ระบุ
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumไม่ระบุ
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกระบบการให้รางวัลคงที่, การแลกเปลี่ยนโทเค็นด้วย liquidity pool, รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ MetaMask และ WalletConnect

ข้อดี

  • กระดานแลกเปลี่ยนเหรียญ DeFi ดีที่สุด
  • ระบบการให้รางวัลคงที่โดยการถือ DEFC

ข้อควรพิจารณา

  • เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลไม่มากเท่า ethereum wallet อื่น ๆ

ไปยัง Defi Swap ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

5. PrimeXBT – กระเป๋า ethereum สำหรับนักลงทุนเริ่มต้น

นี่เป็นกระเป๋า ethereum ที่สามารถใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นหรือ Forex ได้ด้วย ซึ่งก่อตั้งมาในปี 2018  ค่าธรรมเนียมของ PrimeXBT จะลดลงหากยอดเงินในบัญชีเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ดึงดูดให้ผู้นักลงทุนที่แสวงหาค่าธรรมเนียมต่ำ ๆ เข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น และยังใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง 

นอกจากนี้ ยังมีการสร้างกระเป๋า ethereum ยังเครื่องมือที่จะช่วยสนับสนุนการเทรด ระบบเทรดอัตโนมัติ และทำให้สามารถลงทุนด้วยเครื่องมือ Copy trade ได้ด้วย 

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียม0.01–0.05% , ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumไม่ระบุ
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกเครื่องมือ Copy trade, ฟังก์ชันการรับผลตอบแทน, ระบบเทรดอัตโนมัติ

ข้อดี

  • มีสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 150 รายการ ซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นหรือ Forex ได้ด้วย
  • ฟังก์ชันการรับผลตอบแทนที่จ่ายดอกเบี้ยให้ทุกวัน

ข้อควรพิจารณา

  • เหมาะกับนักลงทุนเริ่มต้นมากกว่า

ไปยัง PrimeXBT ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

6. Binance – กระเป๋า ethereum ที่เหมาะกับนักลงทุนระดับกลางถึงสูง

Binance เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายยอดนิยมโดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่มากประสบการณ์ เนื่องจากมีเครื่องมือให้นักลงทุนเลือกใช้มากมาย เพื่อทำให้สามารถใช้เทคนิคในการก้าวสู่ผลกำไรที่มุ่งหวัง นอกจากนี้ ยังสามารถฝากเงินได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย 

Binance สนับสนุนการเทรดคู่สกุลเงินภายในแพลตฟอร์มให้มีความง่ายดายมากขึ้น และสามารถใช้กระเป๋า ethereum ในการเก็บเหรียญได้อย่างสะดวก 

Binance ยินยอมให้มีการดาวน์โหลดกระเป๋า ethereum wallet ลงบนมือถือได้เช่นเดียวกัน และถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการซื้อ altcoin ยอดนิยม 

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียม0.10% 
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum4.5% + 0.5% สำหรับลูกค้าใน US
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกเครื่องมือวางแผนการเทรด, การลงทุนใน Leveraged Product, โอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไม่มีค่าธรรมเนียม

ข้อดี

  • แพลตฟอร์มลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • รายการสินทรัพย์ที่มากกว่า 250 รายการ

ข้อควรพิจารณา

  • มีข้อจำกัดและค่าธรรมเนียมเพิ่มสำหรับลูกค้าใน US

ไปยังกระเป๋าเงิน Binance ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุม 

7. Bitstamp – กระเป๋า ethereumที่มีระบบความปลอดภัยสูงสุด

Bitstamp เป็นกระเป๋า ethereum ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2011 มีผู้ใช้งานทั่วโลก เนื่องจากเชื่อถือในความปลอดภัย และสามารถที่จะใช้ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินชั้นนำระดับโลกได้มากมาย การใช้งานเว็บไซต์ก็สะดวกรวดเร็ว มีการแจ้งเตือนราคาแบบเรียลไทม์ และมีระบบสนับสนุนที่ให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง 

การเก็บรักษาเหรียญของ Bitstamp แตกต่างจาก ethereum wallet อื่น ๆ โดยจะมีการเก็บรักษาเหรียญและทรัพย์สินที่มีระบบปฎิบัติการแยกตัวจากระบบออนไลน์ จึงมั่นใจในความปลอดภัยกว่าเดิม

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียม0.5% 
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum5% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัต
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกจัดเก็บสินทรัพย์ใน Cold Storage, ระบบช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง, ควบคุมบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือ

ข้อดี

  • กระเป๋า ethereum wallet ที่มีมานานที่สุด
  • จัดเก็บสินทรัพย์ใน Cold Storage จึงเทรดได้อย่างปลอดภัย

ข้อควรพิจารณา

  • ค่าธรรมเนียมสูงกรณีใช้บัตรเครดิต/บัตรเดบิต

ไปยัง Bitstamp ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

8. Bitkub – กระเป๋า ethereum ที่ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยที่สุด

หากพูดถึงวงการคริปโตในคนไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก Bitkub ที่ได้รับการรับรองโดย กลต และเป็นหนึ่งในกระเป๋า ETH ไทยที่คนไทยนิยม ระบบการซื้อขายของ Bitkub รองรับโครงการอื่น ๆ ได้มากมาย และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานด้วยการเริ่มต้นลงทุนแค่ 10 บาท 

Bitkub เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่มีบริการ 24 ชั่วโมง คอยสแตนบายเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอดเวลา ทำให้เป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจของนักลงทุนในไทย ที่จะเลือกใช้บริการกระเป๋า ethereum นี้

ชนิดของกระเป๋าเงินกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 
โครงสร้างค่าธรรมเนียม0.25%
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumไม่ระบุ
ฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรกใช้เงินบาทในการเทรดได้, บริการความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง, ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

ข้อดี

  • กระเป๋า ETH ไทยที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย
  • ใช้เงินบาทในการเทรดได้ โดยเริ่มต้นลงทุนแค่ 10 บาท

ข้อควรพิจารณา

  • จำนวนรายการสินทรัพย์ที่ลงทุนได้น้อย

เปรียบเทียบสุดยอดกระเป๋า ethereum

ตารางด้านล่างนี้สรุปฟีเจอร์ที่โดดเด่นของกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด ที่เรากล่าวถึงข้างต้น

 ชนิดของกระเป๋าเงินค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
eToroกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Custodial ดาวน์โหลดฟรี, ค่าธรรมเนียมการโอนเหรียญ Ethereum จาก eToro ไปยังกระเป๋าเงิน 0.5%1% + ค่า spreadเครื่องมือ copy trade, ถูกควบคุมหลายส่วน, การกู้คืน private key
Capital.comกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 0%ไม่ระบุซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจ, มีแอปเพื่อการศึกษา , ใช้คำสั่งซื้อหรือขายได้ตลอดเวลา
Crypto.comกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodialดาวน์โหลดฟรี , ค่าธรรมเนียมซื้อขายขั้นต่ำ 0.40%2.99% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัตตัวเลือกการเชื่อมต่อกับ Crypto.com, staking, รองรับ NFTs หลากหลาย
DefiSwapกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial ไม่ระบุไม่ระบุระบบการให้รางวัลคงที่, การแลกเปลี่ยนโทเค็นด้วย liquidity pool, รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ MetaMask และ WalletConnect
PrimeXBTกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 0.01–0.05% , ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0ไม่ระบุเครื่องมือ Copy trade, ฟังก์ชันการรับผลตอบแทน, ระบบเทรดอัตโนมัติ
Binanceกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 0.10% 4.5% + 0.5% สำหรับลูกค้าใน USเครื่องมือวางแผนการเทรด, การลงทุนใน Leveraged Product, โอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไม่มีค่าธรรมเนียม
Bitstampกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 0.5%5% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัตจัดเก็บสินทรัพย์ใน Cold Storage, ระบบช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง, ควบคุมบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือ
Bitkubกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์แบบ Non-Custodial 0.25%ไม่ระบุใช้เงินบาทในการเทรดได้, บริการความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง, ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

กระเป๋าเงิน Ethereum คืออะไร?

พูดง่ายๆ ก็คือ กระเป๋า ethereum เป็นแอปพลิเคชันที่มีไว้ให้ผู้ใช้งานเก็บโทเค็น ETH ของตนได้ โดยทำงานร่วมกับเครือข่าย Ethereum และสามารถใช้เพื่อจัดการยอดเงิน ส่ง และรับเหรียญ ETH และเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแบบ decentralized ได้

กระเป๋า ethereum wallet มาพร้อมกับกุญแจสาธารณะและ private key  โดยกุญแจสาธารณะจะทำหน้าที่เป็นที่อยู่กระเป๋า ethereum ที่ผู้อื่นสามารถส่งสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ในทางกลับกัน private key จะทำหน้าที่จะเป็นรหัสผ่าน ทำให้เจ้าของกระเป๋าเงินสามารถควบคุมทรัพย์สินของตนเองได้

กระเป๋า ethereum ไม่ได้เก็บเพียงแค่เหรียญ ETH เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโทเค็นอื่น ๆ ที่สร้างขึ้นบนเครือข่ายเดียวกัน โดยกระเป๋า ethereum ยอดนิยมยังให้การสนับสนุนบิทคอยน์ และ altcoins ที่หลากหลาย บนบล็อคเชนที่แตกต่างกันด้วย

นอกจากที่คุณกำลังค้นหากระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับ Ethereum ในยุคปัจจุบัน คุณยังต้องค้นหาผู้ให้บริการที่รองรับฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การเข้าถึงเว็บแบบ decentralized ,ตัวเลือกในการแลกเปลี่ยน ETH และการสนับสนุน NFTs ด้วย

ทำไมถึงจำเป็นต้องมีกระเป๋า ethereum

ระบบนิเวศของ Ethereum เติบโตอย่างก้าวกระโดด และได้มีการเปิดใช้งานการสร้างแอปพลิเคชัน decentralized ในภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงการเงิน, เกม, ของสะสม และอื่นๆ

จากความนิยมนี้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้

  • อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาว่า จะต้องจัดเก็บโทเค็น ETH อย่างไรก่อนซื้อ
  • ตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อ Ethereum จากโบรกเกอร์ที่มีการควบคุม เช่น eToro ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการเลือก ethereum wallet
  • แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยนี้จะเพิ่มโทเค็น Ethereum ไปที่บัญชีโบรกเกอร์ของผู้ใช้งานโดยตรง
  • ดังที่กล่าวไว้ หากบุคคลนั้น ๆ ใช้กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ไม่ได้รับการควบคุม จะเป็นการดีที่สุดที่จะเก็บโทเค็น ETH ไว้ในกระเป๋าเงินที่ปลอดภัยแทน 

ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ระหว่างกระเป๋าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยรายละเอียดของกระเป๋า ethereumประเภทต่าง ๆ อธิบายโดยละเอียดในคู่มือนี้แล้ว

กระเป๋า ethereum ทำงานอย่างไร

กระเป๋า ethereum ถูกอธิบายว่าเป็นแอปพลิเคชันที่สามารถเก็บโทเค็น ETH ได้ อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิคแล้ว สกุลเงินดิจิทัล เช่น Ethereum ไม่ได้ถูก ‘จัดเก็บ’ ไว้ในกระเป๋าเงิน แต่จะถูกเก็บไว้บนบล็อคเชนเสมอ

ethereum wallet เชื่อมต่อโดยตรงกับโหนดบล็อคเชน และช่วยจัดการข้อมูลเกี่ยวกับโทเค็น ETH

ใครก็ตามที่มีกุญแจสาธารณะในกระเป๋า ethereum สามารถส่งทรัพย์สินไปยังที่อยู่นั้นได้ อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือ Swap เหรียญ ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมี private key ด้วย

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า private key ของกระเป๋าเงินปลอดภัยอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม หากใครมีความกังวลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของ private key สามารถเลือกใช้กระเป๋า ethereum ที่ปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองอย่าง eToro ได้

เนื่องจาก eToro ได้รับการควบคุม จึงต้องให้ความปลอดภัยต่อสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าเป็นอย่างมาก

ประเภทของกระเป๋า ethereum

การตัดสินใจเลือกกระเป๋า ethereum wallet ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดเก็บเหรียญคริปโต นักลงทุนควรเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินแต่ละประเภทก่อน

ในส่วนนี้ เราจะมาเจาะลึกอย่างละเอียดถึงตัวเลือกของกระเป๋าเงินสำหรับนักลงทุนคริปโตในปัจจุบัน

กระเป๋าเงินซอฟต์แวร์

กระเป๋าซอฟต์แวร์ มักจะเป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นสำหรับเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ

สามารถติดตั้งได้บนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ ซึ่งช่วยให้แต่ละคนเข้าถึงโทเค็น ETH ได้สะดวก, ทำธุรกรรม, จัดการยอดเงินคงเหลือในบัญชี และอื่นๆ อีกมากมาย

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น Ethereum wallet ที่ดีที่สุดที่จะมาพร้อมกับฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น กระดานแลกเปลี่ยน และการ staking integration

ตัวเลือกอันดับต้นของเราสำหรับแอปซอฟต์แวร์ Ethereum ที่ดีที่สุด ได้แก่ eToro และ Crypto.com

กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์

กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ จะช่วยให้ผู้ใช้งานเก็บคริปโตเคอเรนซี่ของพวกเขาแบบออฟไลน์ ดังนั้น จึงถือว่าเป็นทางเลือกการจัดเก็บ Ethereum ที่มีความปลอดภัยสูง 

อุปกรณ์จะต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าถึงโทเค็น ETH ที่จัดเก็บไว้ และจะได้รับการป้องกันด้วยรหัส PIN

ทุกครั้งที่ต้องการทำธุรกรรม ผู้ใช้งานจะต้องยืนยันตัวตน ด้วยป้อนรหัส PIN ผ่านอุปกรณ์

จากรายการกระเป๋า ethereum ที่กล่าวถึงข้างต้น Ledger Nano X และ Trezor จัดอยู่ในหมวดหมู่การจัดเก็บแบบฮาร์ดแวร์

ตามที่เราชี้ให้เห็นในรีวิวของเรา กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์สำหรับ Ethereum อาจมีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่สะดวกในการทำธุรกรรมแบบวันต่อวัน 

กระเป๋าเงินกระดาษ

กระเป๋าเงินกระดาษ คือ การพิมพ์ private key ลงบนกระดาษ ซึ่งหมายความว่าในการเข้าถึงโทเค็น ETH คุณจะต้องมีกระเป๋าเงิน Ethereum กระดาษนี้ก่อน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระเป๋าเงินกระดาษมีความเปราะบาง จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับระยะยาว

ท้ายที่สุด มีความเป็นไปได้ที่กระดาษจะถูกทำลายหรือถูกโยนทิ้งโดยไม่ได้ตั้งใจ ทางเลือกใหม่จึงอาจจะเป็นแผ่นไทเทเนียมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งไม่สามารถถูกทำลายได้ และทนต่อภัยธรรมชาติ

วิธีเลือกกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

การค้นหากระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย เนื่องจากมีตัวเลือกมากมาย

การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมจากรายการกระเป๋าเงิน Ethereum เราขอแนะนำให้คุณ พิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้

ความปลอดภัย

การเลือกกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด จำเป็นต้องพิจารณาถึงชื่อเสียงของผู้ให้บริการด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว หากผู้ให้บริการกระเป๋าเงินมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ สิ่งนี้ควรบ่งชี้ว่า ผู้ให้บริการรายนั้นจะให้บริการที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

  • ตัวอย่างเช่น eToro ไม่ได้เป็นเพียงโบรกเกอร์คริปโตที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังได้รับการควบคุมในหลายด้านอีกด้วย
  • การมีสินทรัพย์อยู่ในสถาบันสินเชื่อที่ได้รับอนุญาต หมายความว่าจะยังคงได้รับการคุ้มครองตลอดเวลา
  • eToro ยังใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม เช่น การป้องกัน 2FA และ DDoS
  • นอกจากนี้ eToro ยังมีระบบปกป้อง private key ของกระเป๋าเงิน ดังนั้น ผู้ใช้สามารถกู้คืนทรัพย์สินได้ และไม่ต้องกังวลว่ามันจะสูญหาย

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ คนที่เลือกใช้แอป eToro เก็บ Ethereum จะมั่นใจได้ว่า เงินของพวกเขาจะปลอดภัยแน่นอน

ประเภทของกระเป๋าเงิน

ก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึงกระเป๋า ethereum ประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่

หนึ่งในข้อผิดพลาดทั่วไปของนักลงทุนเริ่มต้น คือ ความไม่เข้าใจว่ากระเป๋าเงินประเภทต่าง ๆ ทำงานอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลือกการจัดเก็บ Ethereum ในแบบซอฟต์แวร์ 

ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้กระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ประเภท non-custodial  เช่น Coinbase และ MetaMask เราควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดในขั้นตอนการกู้คืน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อตั้งค่ากระเป๋าเงิน

ในกรณีที่ private key สูญหาย seed phrase จะเป็นวิธีเดียวที่จะกู้คืนสินทรัพย์ได้ ในทางกลับกัน เมื่อเลือก custodial wallet เช่น eToro ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

เหรียญที่รองรับ

กระเป๋า ethereum ออกแบบมาเพื่อเก็บโทเค็น ETH ตามที่กล่าวไปแล้ว ethereum wallet ที่ดีที่สุดควรเข้ากันได้กับเครือข่ายอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลหลาย ๆ เหรียญได้

ตัวอย่างเช่น eToro ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้กว่า 70 รายการ ด้วยวิธีการชำระเงินหลายวิธี

นอกจากนี้ ยังไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงินสำหรับการชำระเงินในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และมีอัตรา FX เพียง 0.5% สำหรับการประมวลผลสกุลเงิน fiat อื่น ๆ ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานไม่เพียงแต่สามารถจัดเก็บ Ethereum ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถซื้อและขายโทเค็นได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย

ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือ

ควรพิจารณาถึงความสะดวกในการใช้แอปกระเป๋า ethereum แม้ว่ากระเป๋าเงิน Ethereum แบบฮาร์ดแวร์จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความสะดวกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์

และในบรรดากระเป๋าเงินซอฟต์แวร์ Ethereum ประสบการณ์ผู้ใช้งานก็จะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละราย

กระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย NFT

Ethereum เป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อคเชนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในการสร้าง NFT ด้วยเหตุนี้ กระเป๋าเงิน NFT ที่ดีที่สุดบางอันจึงสามารถใช้เก็บโทเค็น ETH ได้

จากรายการกระเป๋า ethereum wallet ของเรา เราพบว่าตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบ non-custodial ภายใต้การดูแลของ Crypto.com เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการจัดเก็บและซื้อขาย NFTs

Crypto.com ผสานรวมกับตลาด NFT ได้อย่างราบรื่น และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อและขาย NFTs ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ ยังรองรับ NFTs ที่สร้างขึ้นทั้งบน Ethereum รวมถึง Polygon, Crypto.com Chain และ Cronos Beta โดยกระเป๋าเงิน DeFi นี้จะแสดง NFT ในรูปแบบแกลเลอรี และผู้ใช้งานยังสามารถแชร์ของสะสมบนโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย

วิธีสร้างกระเป๋า ethereum 

ตอนนี้เรามีความรู้พื้นฐานแล้ว ลองมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีสร้างกระเป๋า ethereumบ้าง

ในส่วนนี้ เราได้รวมคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับการสร้างกระเป๋า ethereum ของeToro หนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุด

ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชี

ในฐานะผู้ให้บริการกระเป๋าเงินแบบ custodial  eToro กำหนดให้ผู้ใช้งานสร้างบัญชีโบรกเกอร์ เพื่อเริ่มใช้งานกระเป๋าเงิน

เริ่มจากให้ไปที่หน้าแรกของ eToro และคลิกที่ปุ่ม “เข้าร่วม” เพื่อเปิดบัญชีใหม่ โดยผู้ใช้งานใหม่ต้องกรอกข้อมูล เช่น ชื่อ รายละเอียดการติดต่อ และอีเมล

ถัดไป คุณยังต้องส่งสำเนาบัตรประจำตัวที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น หนังสือเดินทาง หรือใบขับขี่

ทั้งนี้เนื่องจาก eToro ดำเนินการตามข้อบังคับสากล AML

ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดแอปกระเป๋าเงิน eToro Money Crypto

สำหรับ eToro คุณไม่จำเป็นต้องสร้างกระเป๋า ethereum แยกต่างหาก

แต่แพลตฟอร์มจะจัดสรรรายการให้กับผู้ใช้งานทั้งหมด ที่ถือบัญชีกับโบรกเกอร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งหมายความว่า ในการจัดการการลงทุน ETH ผู้ใช้งานสามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชีโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ได้เอง

ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอป eToro Money เพื่อส่งและรับโทเค็น ETH ไปยังอุปกรณ์ของตนได้ แอปนี้ใช้งานได้ฟรี และเข้ากันได้ทั้ง iOS และ Android

หลังจากดาวน์โหลดกระเป๋าเงินแล้ว ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งกระเป๋าเงินดังกล่าวบนอุปกรณ์ส่วนตัว และลงชื่อเข้าใช้ โดยใช้ข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบของบัญชี eToro

ขั้นตอนที่ 3: เพิ่ม Ethereum ไปยัง Crypto Wallet

ในการเพิ่ม Ethereum ไปยังกระเป๋าเงิน eToro Money ผู้ใช้งานสามารถคัดลอกที่อยู่สำหรับโทเค็น ETH เพื่อเป็นกุญแจสาธารณะได้

เพียงแค่ใช้ที่อยู่นี้เป็นที่อยู่ปลายทาง ก็จะส่ง Ethereum ไปยังกระเป๋าเงิน eToro ได้

อีกหนึ่งทางเลือก คือ ผู้ใช้งานสามารถซื้อโทเค็น Ethereum ด้วยสกุลเงิน fiat ได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ของ eToro ซึ่งรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิต/บัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น PayPal

จำนวนขั้นต่ำที่สามารถใช้ในการซื้อ Ethereum ผ่าน eToro ได้ เพียงแค่ 10 ดอลลาร์เท่านั้น นอกจากนี้ ในการขาย Ethereum ผู้ใช้งานสามารถไปที่พอร์ตโฟลิโอของ eToro และถอนเงินได้โดยตรง

บทสรุป

คู่มือของเราได้เปรียบเทียบกระเป๋า ethereum ที่ดีที่สุด ในแง่ของความปลอดภัย เหรียญที่รองรับ ความสะดวก ฟีเจอร์ต่าง ๆ และอื่น ๆ

ในการเริ่มต้นใช้งานแอป Ethereum ที่ดีที่สุด ให้ไปที่เว็บไซต์ eToro และสมัครเป็นผู้ใช้งาน

แพลตฟอร์มนี้ทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์คริปโต และยังเป็นกระเป๋าเงินสำหรับจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลเช่น Ethereum ได้ด้วย

ซึ่งหมายความว่า บุคคลทั่วไปไม่เพียงแต่สามารถส่งและรับ Ethereum ได้เท่านั้น แต่ยังซื้อและขายเหรียญคริปโตได้โดยตรงจาก กระเป๋า ethereum wallet ด้วย

ใช้งานกระเป๋าเงิน eToro ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

Categories
Bitcoins Crypto News Crypto Wallets คู่มือคริปโต

แนะนำ 8 กระเป๋า XRP ที่ดีที่สุด แห่งปี 2023 [ปลอดภัย!]

เหรียญ XRP ของ Ripple เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในตลาดตอนนี้ โดยมีศักยภาพในการปฏิวัติภาคการธนาคาร/การแปลงสกุลเงิน และพัฒนาการโอนเงินไปต่างประเทศ จึงมีนักลงทุนจำนวนมากต้องการหากระเป๋า XRP ที่ดีที่สุด

เราจะมาอธิบายว่าเหตุใดกระเป๋า XRP จึงมีความสำคัญ กระเป๋าประเภทต่างๆ และวิธีรับกระเป๋า XRP Wallet นอกจากนี้ เราจะอธิบายวิธีการเลือกกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดและรีวิวแอป XRP ที่ดีที่สุด

รายชื่อกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุด

  • Etoro – กระเป๋า XRP โดยรวมดีที่สุด
  • Capital – กระเป๋า XRP ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • Crypto.com – กระเป๋า XRP เหมาะสำหรับการ staking
  • DefiSwap – เก็บเหรียญ XRP พร้อมเข้าถึงเครื่องมือ Defi หลากหลายรูปแบบ
  • PrimeXBT – กระเป๋า XRP สำหรับนักเทรดมือใหม่
  • Binance – กระเป๋า XRP บนกระดานเทรดยอดนิยม
  • Bitstamp – กระเป๋า XRP ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด
  • Bitkub – กระเป๋า XRP ที่รองรับภาษาไทยและรับความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชม.

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

รีวิวกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุด

สำหรับนักลงทุนที่วางแผนจะซื้อเหรียญ XRP จำเป็นต้องมีกระเป๋าที่ปลอดภัยและมีฟีเจอร์มากมายให้เลือกใช้ อย่างไรก็ตาม มีแอปสำหรับเหรียญ XRP อยู่มากมาย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหา XRP Wallet ที่ดีที่สุด เราได้ทำการค้นคว้าและจัดอันดับกระเป๋าที่ดีที่สุดสำหรับเหรียญ XRP เพื่อให้แน่ใจว่านักลงทุนทุกคนสามารถสมัคร XRP Wallet และเก็บเหรียญ XRP ของตนเองได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

1. Etoro – กระเป๋า XRP โดยรวมดีที่สุด

eToro เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลซึ่งให้บริการกระเป๋า XRP ฟรีแก่ลูกค้า นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 eToro ได้ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 27 ล้านคนทั่วโลก และมีคริปโตกว่า 70 เหรียญที่ซื้อขายได้ eToro เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ยอดเยี่ยมในการจัดการสินทรัพย์ที่หลากหลาย

โดย eToro ใช้การเข้ารหัส SSL และ Cold Storage เพื่อรักษาความปลอดภัยทั้งเงินและข้อมูลของลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าคริปโตของ eToro Money ยังให้นักลงทุนสามารถรักษาความปลอดภัยให้กับเหรียญ XRP ของพวกเขาได้มากขึ้นด้วยการดูแลคีย์ส่วนตัวที่เชื่อมโยงกับกระเป๋า

eToro จึงเป็นกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ที่ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน แปลง และถอนเหรียญ XRP ได้อย่างง่ายดาย

eToro ยังเป็นกระเป๋า Cardano ที่ได้รับความนิยมเนื่องจากแพลตฟอร์ม eToro นั้นรองรับรางวัลการ Staking เหรียญ Cardano แต่ยังไม่มีการเปิดให้ Staking เหรียญ XRP ในปัจจุบัน

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Custodial / Non-Custodialค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 1% + สเปรด1%กระเป๋า eToro Moneyซื้อ/ขาย/เทรด XRPปลอดภัยมาก

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

2. Capital.com – กระเป๋า XRP ค่าธรรมเนียมต่ำ

Capital.com เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้ผู้ใช้ซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ด้วยค่าธรรมเนียม 0% และค่าสเปรดที่ราคาถูก และได้รับการกำกับดูแลในหลายด้านโดยหน่วยงานด้านการเงินที่มีชื่อเสียง โบรกเกอร์ได้รับอนุญาตจาก FCA ในสหราชอาณาจักร ASIC ในออสเตรเลีย CySEC ในไซปรัส และ NBRB ในเบลารุส

นอกจากนี้ Capital.com ยังรับวิธีการชำระเงินหลายวิธี รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร และไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากหรือถอนเงินที่ Capital.com

ทั้งหมดนี้ทำให้ Capital.com เป็นกระเป๋า XRP ที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถซื้อขายเหรียญ XRP ได้ด้วยค่าธรรมเนียม 0% และยังมีความปลอดภัยในระดับสูง

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Non-Custodial0%ไม่ระบุซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจ
มีแอปเพื่อการศึกษา ใช้คำสั่งซื้อหรือขายได้ตลอดเวลา

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน Capital.com

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

3. Crypto.com – กระเป๋า XRP เหมาะสำหรับการ staking

Crypto.com เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และเป็นหนึ่งในกระเป๋า XRP ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งรองรับการซื้อ ขาย และจัดเก็บ crypto รองรับสินทรัพย์มากกว่า 230 รายการและมาพร้อมกับฟีเจอร์ขั้นสูงมากมายที่ออกแบบมาเพื่อทำให้การดำเนินการต่างๆ ในตลาดคริปโตนั้นง่ายขึ้น

Crypto.com ให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัย โดย 98% ของเงินทุนของลูกค้าถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยแบบออฟไลน์ใน Cold Storage ซึ่งมีพนักงานเพียงไม่กี่คนในบริษัทเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้

กระเป๋า Crypto.com นั้นช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมทรัพย์สินของตนและเป็นเจ้าของคีย์ที่เชื่อมโยงกับกระเป๋าได้ ทำให้ไม่มีใคร (รวมถึง Crypto.com) เข้าถึงเงินของคุณได้ และยังสามารถกู้คืนสินทรัพย์ใดๆ ได้หากข้อมูลในการเข้าถึงบัญชีสูญหาย

ค่าธรรมเนียมบน Crypto.com นั้นคิดเพียง 0.4% สำหรับการซื้อขาย และอีก 2.99% สำหรับการทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิต/เดบิต สำหรับการถอน XRP ไปยังกระเป๋าสตางค์ภายนอก Crypto.com จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 0.25 XRP แต่เมื่อใช้กระเป๋า Crypto.com DeFi Wallet คุณจะจ่ายเฉพาะค่าธรรมเนียมเครือข่ายมาตรฐาน (0.00001 XRP) เท่านั้น

เนื่องจาก Crypto.com เป็นหนึ่งในกระดานซื้อขายคริปโตหลัก การขาย XRP ของคุณจึงสามารถทำได้ง่าย แม้ว่า Crypto.com จะไม่รองรับการ Stake เหรียญ XRP แต่นักลงทุนสามารถ Stake เหรียญ Stablecoin และรับผลตอบแทนสูงถึง 10%

Crypto.com เป็นแพลตฟอร์มที่มีความครบครัน กระเป๋าทั้งสองแบบสามารถใช้งานได้บนมือถือ และด้วยฟีเจอร์มากมายในแอป ทำให้ Crypto.com เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกระเป๋าสำหรับเหรียญ Ripple ที่ดีที่สุด

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Non-Custodialค่าธรรมเนียมการเทรด 0.4%0.4%ถอนเหรียญโดยมีค่าธรรมเนียมต่ำStaking เหรียญ Stable Coinแพลตฟอร์มมีการออกแบบมาอย่างดี

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน Crypto.com

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

4. Defi Swap – เก็บเหรียญ XRP พร้อมเข้าถึงเครื่องมือ Defi หลากหลายรูปแบบ

DeFi Swap เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม DeFi ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน เนื่องจากมีระบบการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย การเชื่อมโยงกระเป๋าเข้ากับแอปออนไลน์สามารถทำได้ในไม่กี่วินาที โดยปัจจุบัน DeFi Swap รองรับ MetaMask และ WalletConnect และเมื่อเชื่อมต่อแล้ว DeFi Swap มีเหรียญคริปโตยอดนิยมกว่า 50 รายการให้เลือกเทรด รวมถึง XRP

นอกจากการจัดเก็บเหรียญ XRP ไว้ในกระเป๋า DefiSwap ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังสามารถเข้าถึงเครื่องมือ Defi หลากหลายรูปแบบของแพลตฟอร์มแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการ Staking หรือการทำ Yeild Farming ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 75% ต่อปี

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Non-Custodialไม่ระบุไม่ระบุระบบการให้รางวัลคงที่การแลกเปลี่ยนโทเค็นด้วย liquidity poolรองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ MetaMask และ WalletConnect

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน Defi Swap

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

5. PrimeXBT – กระเป๋า XRP สำหรับนักเทรดมือใหม่

PrimeXBT เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 และสามารถซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่หลักอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum รวมถึง XRP และยังมีตัวช่วยในการเทรดที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือพื้นฐานอย่างเลเวอเรจบิทคอยน์ แผนภูมิราคาสกุลเงินคริปโต รวมถึงฟังก์ชันคัดลอกการเทรด

นักลงทุนสามารถใช้งานกระเป๋าของ PrimeXBT เพื่อเก็บเหรียญ XRP รวมถึงเหรียญอื่นๆ ในขณะเดียวกันยังสามารถเข้าถึงตัวเลือกในการลงทุนรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นหรือ Forex

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Non-Custodial0.01–0.05% , ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0ไม่ระบุเครื่องมือ Copy tradeฟังก์ชันการรับผลตอบแทนระบบเทรดอัตโนมัติ

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน PrimeXBT

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

6. Binance – กระเป๋า XRP บนกระดานเทรดยอดนิยม

Binance เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกที่มีจำนวนผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน โดยมีข้อดีทั้งด้านประสิทธิภาพ ความหลากหลาย และค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และมีการคิดค่าธรรมเนียมในการเทรดเพียง 01.0% เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อและเก็บเหรียญ XRP โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำ และมีกระเป๋าที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย

นักลงทุนยังสามารถดาวน์โหลด E-Wallet ของ Binance ลงในมือถือของตนเองได้อีกด้วย เพื่อเป็นอีกทางหนึ่งในการเก็บเหรียญ XRP อย่างปลอดภัย

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Custodial0.10%4.5% + 0.5% สำหรับลูกค้าใน USเครื่องมือวางแผนการเทรดการลงทุนใน Leveraged Productโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไม่มีค่าธรรมเนียม

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน Binance

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

7. Bitstamp – กระเป๋า XRP ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด

Bitstamp เป็นแพลตฟอร์มที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 และมีเหรียญคริปโตให้เลือกเทรดกว่า 70 เหรียญ รวมถึง XRP โดยนักเทรดทุกคนที่ใช้บริการบัญชีของ Bitstamp จะต้องผ่านการตรวจสอบแบบสองปัจจัย และ Bitstamp ระบุว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของสินทรัพย์คริปโตนั้นถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ใน Cold Storage และได้รับการปกป้องทั้งหมด จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่นักลงทุนสามารถเลือกเก็บเหรียญ XRP ของตนเองได้โดยมีความปลอดภัยในระดับสูง

แพลตฟอร์มแห่งนี้อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุนในคริปโต เนื่องจากโครงสร้างการชำระเงินที่เรียบง่ายและความสามารถในการซื้อเหรียญ XRP ได้โดยตรงโดยใช้เงินสด ซึ่งมีตัวเลือกในการจ่ายผ่านบัญชีออมทรัพย์ บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Non-Custodial0.5%5% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัตจัดเก็บสินทรัพย์ใน Cold Storageระบบช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงควบคุมบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือ

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน Bitstamp

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

8. Bitkub – กระเป๋า XRP ที่รองรับภาษาไทยและรับความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชม.

Bitkub ถือเป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตยอดนิยมในประเทศไทย ซึ่งให้บริการเทรดเหรียญคริปโตกว่า 56 เหรียญ รวมถึง XRP และยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเพียง 0.25% และไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มและกระเป๋าที่ดีในการเทรดและเก็บเหรียญ XRP ของคุณ

นักเทรดชาวไทยยังสามารถเทรดคริปโตได้อย่างอุ่นใจด้วยระบบสนับสนุนและฝ่ายบริการลูกค้าที่รองรับภาษาไทยทั้งหมด นอกจากนี้ Bitkub ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของก.ล.ต. ซึ่งสามารถเข้ามาช่วยเหลือในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ ได้อีกด้วย

ชนิดของกระเป๋าโครงสร้างค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมในการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
Non-Custodial0.25%ไม่ระบุใช้เงินบาทในการเทรดได้บริการความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

เปรียบเทียบกระเป๋า XRP ยอดนิยม

ตารางด้านล่างนี้เป็นการสรุปข้อมูลกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดบนแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงโครงสร้างค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุด

แพลตฟอร์มชนิดของกระเป๋าเงินค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมการซื้อ XRPฟีเจอร์ยอดนิยม 3 อันดับแรก
eToroCustodial0.5%1% + ค่า สเปรดเครื่องมือ copy trade, ถูกควบคุมหลายส่วน, การกู้คืน private key
Capital.comNon-Custodial0%ไม่ระบุซื้อขายได้ด้วยเลเวอเรจ, มีแอปเพื่อการศึกษา , ใช้คำสั่งซื้อหรือขายได้ตลอดเวลา
Crypto.comNon-Custodialดาวน์โหลดฟรี , ค่าธรรมเนียมซื้อขายขั้นต่ำ 0.40%2.99% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัตตัวเลือกการเชื่อมต่อกับ Crypto.com, staking, รองรับ NFT หลากหลาย
DefiSwapNon-Custodialไม่ระบุไม่ระบุระบบการให้รางวัลคงที่, การแลกเปลี่ยนโทเค็นด้วย liquidity pool, รองรับการเชื่อมต่อเข้ากับ MetaMask และ WalletConnect
PrimeXBTNon-Custodial0.01–0.05% , ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0ไม่ระบุเครื่องมือ Copy trade, ฟังก์ชันการรับผลตอบแทน, ระบบเทรดอัตโนมัติ
BinanceNon-Custodial0.10%4.5% + 0.5% สำหรับลูกค้าใน USเครื่องมือวางแผนการเทรด, การลงทุนใน Leveraged Product, โอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไม่มีค่าธรรมเนียม
BitstampNon-Custodial0.5%5% ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบัตจัดเก็บสินทรัพย์ใน Cold Storage, ระบบช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง, ควบคุมบัญชีผ่านโทรศัพท์มือถือ
BitkubNon-Custodial0.25%ไม่ระบุใช้เงินบาทในการเทรดได้, บริการความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง, ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

กระเป๋า XRP คืออะไร?

กระเป๋า XRP คือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ให้คุณสามารถจัดเก็บเหรียญ XRP บนเครือข่าย Ripple โดยกระเป๋าเงินจะต้องมีความเข้ากันได้กับเครือข่าย Ripple ซึ่งกระเป๋าคริปโตที่ดีที่สุดส่วนใหญ่ (รวมถึงกระเป๋า eToro) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดเก็บสินทรัพย์จากเครือข่ายต่างๆ ได้ในที่เดียว (เช่น ETH และ XRP ร่วมกัน) อย่างไรก็ตาม กระเป๋าบางส่วนได้รับการออกแบบมาสำหรับเครือข่ายหนึ่งโดยเฉพาะ และจะไม่สามารถเก็บเหรียญจากเครือข่ายอื่นได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงินที่คุณเลือกใช้นั้นรองรับสินทรัพย์ที่คุณต้องการจัดเก็บ

ทำไมคุณถึงต้องมีกระเป๋า XRP

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเหรียญ XRP คุณจำเป็นต้องมีแอป XRP หรือกระเป๋า XRP หากไม่มี คุณจะไม่สามารถเป็นเจ้าของเหรียญ XRP หรือทำธุรกรรมบนเครือข่ายได้

แอป XRP ที่ดีที่สุดควรรักษาทรัพย์สินของคุณให้ปลอดภัย ใช้งานสะดวก และตรงตามข้อกำหนดส่วนบุคคลของนักลงทุน โดยทั่วไปแล้ว กระเป๋าแบบรวมศูนย์หรือกระเป๋าของกระดานซื้อขายจะถือว่ามีความปลอดภัยน้อยที่สุด และกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์แบบ Non- custodial นั้นถือว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด

กระเป๋า XRP ทำงานอย่างไร?

กระเป๋า XRP ทำหน้าที่คล้ายกับธนาคาร ที่ช่วยเก็บสินทรัพย์และช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งหรือรับเหรียญได้

กระเป๋าเงินแต่ละใบมาพร้อมกับคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัว ซึ่งใช้สำหรับกระเป๋าเพื่อสร้างที่อยู่ อย่างไรก็ตาม คีย์ส่วนตัวเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในกระเป๋าของคุณ สามารถใช้คีย์ส่วนตัว (โดยปกติคือคำลำดับ 12 หรือ 24 คำ) เพื่อเข้าถึงกระเป๋าจากอุปกรณ์ใดก็ได้ และสามารถใช้เพื่อกู้คืนกระเป๋าได้ ดังนั้นคุณควรเก็บคีย์ไว้อย่างปลอดภัยและไม่นำไปเปิดเผยที่อื่น

มีกระเป๋าเงิน XRP หลายรูปแบบ แต่กระเป๋าสองประเภทนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นักลงทุนควรรู้จัก

  • กระเป๋าแบบ Custodial – กระเป๋าที่ผู้ให้บริการเป็นผู้ควบคุมคีย์ส่วนตัว (Coinbase, Crypto.com)
  • กระเป๋าแบบ Non-Custodial – กระเป๋าที่นักลงทุนเป็นผู้ควบคุมคีย์ส่วนตัว (eToro Money Crypto Wallet, Crypto.com DeFi wallet)

ประเภทของกระเป๋า XRP

กระเป๋า XRP จะแบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ กระเป๋าซอฟต์แวร์ (Software Wallet) กระเป๋าฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet) และเปเปอร์วอลเลต (Paper Wallet)

กระเป๋าซอฟต์แวร์

‘กระเป๋าซอฟต์แวร์’ เป็นคำกว้างๆ ที่ใช้อธิบายกระเป๋า XRP ที่ดาวน์โหลด (หรือใช้) จากอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม กระเป๋าซอฟต์แวร์อาจมีความแตกต่างกันมาก ตัวอย่างเช่น ทั้ง Atomic และ Coinbase ถือเป็นกระเป๋าซอฟต์แวร์ แต่กระเป๋าหนึ่งเป็นแบบ Custodial และอีกอันเป็นแบบ Non-Custodial ด้วยเหตุนี้ ให้ใช้ตารางเปรียบเทียบของเราเพื่อค้นหาว่ากระเป๋าเงินประเภทใดที่เหมาะกับคุณ

กระเป๋าฮาร์ดแวร์

กระเป๋าฮาร์ดแวร์ (มักเรียกว่า Cold storage) เป็นกระเป๋าแบบ Non-Custodial ที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางกายภาพในการเข้าถึง ต้องเสียบอุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์และปลดล็อกก่อนจึงจะสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ใดๆ ได้ ทำให้กระเป๋าฮาร์ดแวร์เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการจัดเก็บเหรียญคริปโต ข้อเสียคือมีความสะดวกน้อยที่สุด

เราขอแนะนำให้ใช้กระเป๋าฮาร์ดแวร์สำหรับการจัดเก็บเหรียญระยะยาว และเก็บเงินทุนในการซื้อขายไว้ในกระดานซื้อขาย

เปเปอร์วอลเลต

เปเปอร์วอลเลต XRP เป็นกระดาษที่พิมพ์คีย์ส่วนตัวและสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋า แม้ว่านี่จะไม่ใช่วิธีที่ดูเป็นเรื่องปกติในยุคปัจจุบัน แต่กระเป๋า XRP แบบเปเปอร์วอลเลตถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยอย่างยิ่งในการจัดเก็บทรัพย์สินของคุณ โดยระดับความปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับวิธีการจัดเก็บกระดาษที่มีคีย์ส่วนตัว แต่การใช้กระเป๋าเงิน XRP แบบเปเปอร์วอลเลตนั้นปลอดภัยกว่าการจัดเก็บคีย์ของคุณไว้ในไฟล์ข้อความอย่างมาก

วิธีเลือกกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ความปลอดภัย

หัวใจสำคัญของกระเป๋าคือคุณลักษณะด้านความปลอดภัย เนื่องจากการใช้งานหลักของกระเป๋าคือการเก็บสินทรัพย์ ตัวกระเป๋าจึงต้องมีความปลอดภัยเพียงพอสำหรับการถือครองระยะยาว

โดยทั่วไป กระเป๋า Cold Storage (กระเป๋าฮาร์ดแวร์) จะให้การรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด ส่วนกระเป๋าแบบ Hot Wallet คุณควรมองหาแพลตฟอร์มที่ใช้กระเป๋าแบบ Non-Custodial กระเป๋าเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมและจัดเก็บคีย์ส่วนตัว มอบความเป็นเจ้าของที่แท้จริงของสินทรัพย์ แต่ข้อเสียคือหากเจ้าของกระเป๋าเงินทำคีย์หาย พวกเขาอาจสูญเสียการเข้าถึงทรัพย์สินทั้งหมด

ส่วนกระเป๋าของกระดานซื้อขายหรือกระเป๋าแบบ Custodial มักจะเหมาะกับการจัดเก็บสินทรัพย์ระยะสั้นหรือการซื้อและขายบ่อยครั้ง

เหรียญที่รองรับ

เนื่องจากเป้าหมายของนักลงทุนส่วนใหญ่คือการมีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย จำนวนสินทรัพย์ที่มีอยู่จึงมีความสำคัญพอๆ กับคุณภาพของกระเป๋า และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มนั้นมีเหรียญคริปโตเคอเรนซี่เด่นๆ ให้เลือกซื้อขายอย่างครบถ้วน

โดยทั่วไปแล้ว แพลตฟอร์มส่วนใหญ่ควรรองรับเหรียญคริปโต 40 อันดับแรก ดังนั้นการมีสินทรัพย์อย่างน้อย 40 รายการที่สามารถซื้อขายได้จึงเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ดีในการพิจารณาแพลตฟอร์มเป้าหมาย

ค่าธรรมเนียม

กระเป๋าต้องทำให้นักลงทุนซื้อและขายสินทรัพย์ได้โดยไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ่อยๆ เนื่องจากค่าธรรมเนียมสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวัง ตามหลักการแล้ว กระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดจะช่วยให้นักลงทุนส่งเหรียญของตนได้โดยเสียแค่ค่าธรรมเนียมเครือข่ายเท่านั้น ระบบนี้ทำให้การโอน XRP ระหว่างกระเป๋าเงินและกระดานซื้อขายนั้นทำได้อย่างรวดเร็วและเกือบจะฟรี (ประมาณหนึ่งร้อยเซ็นต์)

ประสบการณ์การใช้งานบนมือถือ

ในโลกปัจจุบัน การเข้าถึงกระเป๋าคริปโตผ่านมือถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งสะดวกกว่าการนั่งที่โต๊ะและใช้คอมพิวเตอร์ และช่วยให้คุณจัดการทรัพย์สินได้จากทุกที่ในโลก ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะเลือกแพลตฟอร์มที่มีแอปบนมือถือที่ออกแบบมาอย่างดีและใช้งานง่าย

ความสะดวกในการใช้

ไม่มีใครอยากใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อทำความคุ้นเคยกับกระเป๋า XRP ใหม่ ดังนั้นจึงควรใช้กระเป๋าที่ใช้งานง่ายและใช้เวลาน้อยที่สุดในการทำความคุ้นเคย และดูให้แน่ใจว่ากระเป๋าไม่มีส่วนสำคัญที่ซ่อนอยู่ในเมนูย่อยและไม่ใช้คำศัพท์ที่ชวนสับสน เนื่องจากปัจจัยทั้งสองนี้ทำให้การเรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มใหม่เป็นเรื่องที่ปวดหัวมากเกินความจำเป็น

กระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย NFT

ด้วยความนิยมของ NFT ที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนเหรียญ XRP ส่วนใหญ่อาจต้องการมีส่วนร่วมในส่วนนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดังนั้นจึงควรเลือกกระเป๋าที่มีคุณสมบัติรองรับการซื้อขาย NFT ที่ดี จากกระเป๋าที่เราตรวจสอบแล้ว กระเป๋าของ Coinbase ทำให้การซื้อและขาย NFT ทำได้ง่ายที่สุด ด้วยคำสั่งที่ง่ายและรวดเร็ว นักลงทุนสามารถซื้อ NFT โดยใช้เครดิต/เดบิตในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้นี่เป็นกระเป๋า XRP ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย NFT

วิธีใช้กระเป๋า XRP

การหากระเป๋า XRP เพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อ่านของเรามีกระเป๋าที่ดีที่สุดสำหรับ Ripple เราจึงจะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมดในการสร้างกระเป๋า XRP

ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนกับ eToro

ก่อนที่จะซื้อหรือเก็บเหรียญ XRP คุณจะต้องสร้างบัญชีกับ eToro ก่อน โดยไปที่หน้าแรกของ eToro และทำตามขั้นตอนการลงทะเบียนให้เสร็จสิ้น คุณจำเป็นต้องระบุรายละเอียดพื้นฐานเพียงเล็กน้อย และกระบวนการนี้สามารถทำได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 2: ยืนยันบัญชี

eToro เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแล ดังนั้น เมื่อสร้างบัญชีด้วย eToro แล้ว คุณจะต้องได้รับการยืนยันตัวตน เอกสารที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนนี้คือบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย (บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบขับขี่) และหลักฐานที่อยู่ (รายการเดินบัญชีธนาคาร ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค)

ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน

ทันทีที่บัญชีได้รับการยืนยัน ก็ถึงเวลาฝากเงิน โดย eToro รองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือ e-wallets (PayPal, Skrill) ในการฝากเงิน เพียงกด ‘ฝากเงิน’ เลือกวิธีการชำระเงิน ตัดสินใจว่าจะลงทุนเท่าใด แล้วกด ‘ฝากเงิน’ เงินจะถูกส่งไปที่แพลตฟอร์มทันที แต่การฝากครั้งแรกอาจใช้เวลานานเล็กน้อย

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อ XRP

เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้ว ก็สามารถซื้อ XRP ได้ เพียงคลิกที่แถบค้นหาของ eToro พิมพ์ ‘XRP’ กด ‘เทรด’ จากนั้นตัดสินใจว่าจะซื้อ XRP จำนวนเท่าใดและกด ‘เปิดการเทรด’ ทันทีที่การซื้อเสร็จสมบูรณ์ กระเป๋าจะถูกสร้างขึ้นซึ่งมี XRP ที่ซื้ออยู่

บทสรุป

มีกระเป๋า XRP อยู่มากมาย ดังนั้นการเลือกกระเป๋าที่ดีที่สุดสำหรับเหรียญ XRP อาจเป็นเรื่องยาก การเลือกกระเป๋าที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการลงทุนในคริปโต ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้ถูกต้อง กระเป๋าทุกใบในรายการของเราเป็นตัวเลือกที่ดี แต่เราก็ได้เลือกกระเป๋าที่ดีที่สุดมาให้คุณแล้ว

eToro เป็นโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลซึ่งทำให้การซื้อและการจัดเก็บเหรียญ XRP เป็นเรื่องง่าย และมีทั้งตัวเลือกกระเป๋าแบบ Custodial และ Non-Custodial ให้เลือกตามความต้องการของนักลงทุนแต่ละประเภท

ซื้อและเก็บเหรียญ XRP บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

Categories
Crypto News Crypto Wallets

จัดอันดับ 6 Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุด 2023 [แนะนำ!] 

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของการลงทุนในเหรียญคริปโตคือการรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ ด้วยเหตุนี้การใช้กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดก็คือวิธีที่ปลอดภัยมากที่สุด ด้วยการถือครองสินทรัพย์แบบออฟไลน์  ก็จะไม่ต้องกังวลว่าเหรียญคริปโตจะถูกขโมยไป และช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยรวมอย่างมาก

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุด, อธิบายว่า Cold Wallet คืออะไร, Crypto Wallet อันไหนดี, และประโยชน์ของการใช้งาน Crypto Cold Wallet ต่างๆ

จัดอันดับ 6 Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุด

เพื่อให้แน่ใจว่าผู้อ่านของเราจะปลอดภัยในช่วงเวลาที่ตลาดคาดเดาไม่ได้ เราก็ได้รวบรวมลิสต์รายการ Cold Wallet แนะนําในตลาด และจะรีวิว Wallet แต่ละยี่ห้อในส่วนด้านล่าง

  • Ledger Nano X – Crypto Cold Wallet โดยรวมที่ดีที่สุด
  • Trezor – ผู้ผลิต Hardware Wallet ที่มีชื่อเสียง
  • Atomic Wallet – ซอฟต์แวร์ Crypto Cold Wallet
  • Keepkey – Crypto Cold Wallet ราคาถูก
  • Ledger Nano S – Wallet ราคาถูกจาก Ledger
  • SafePal S1 – Hardware Wallet ที่ได้รับทุนจาก Binance

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

รีวิว 6 อันดับ Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุด

หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้ Cold Wallet ยี่ห้อไหนดี เราก็ได้จัดอันดับ 6 Crypto Wallet ยอดนิยมในตลาดเอาไว้แล้ว

1. Ledger Nano X – Crypto Cold Wallet โดยรวมที่ดีที่สุด

Ledger น่าจะเป็นผู้ผลิต Hardware Wallet ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทขนาดใหญ่รวมถึงนักลงทุนหลายพันรายทั่วโลก Ledger Nano X เป็น Hardware Wallet ระดับเรือธงของบริษัท ทำให้เป็น Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดนั่นเอง

Ledger Nano X ปัญหาเดียวคือเรื่องของราคา ซึ่งมีราคาที่ 149 ดอลลาร์ ซึ่งไม่ใช่ราคาที่ถูกนัก แต่ก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพการป้องกันที่มีให้ ขั้นตอนการติดตั้ง Nano X นั้นตรงไปตรงมา แม้ว่าผู้ใช้ใหม่อาจจะเกิดความสับสนได้เล็กน้อย โดย Wallet ได้รับการรักษาความปลอดภัยด้วยชุดคำสุ่ม 24 ชุดและรหัส PIN ที่ตั้งโดยเจ้าของ Wallet ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ไม่หวังดีจะสามารถเข้าถึง Ledger Wallet ได้ แต่พวกเขาก็ยังต้องใช้รหัส PIN 6 ตัวหรือวลีการกู้คืนเพื่อให้เข้าถึงเงินใน Wallet ได้

Nano X สามารถจัดเก็บโทเค็นต่างๆ ได้มากกว่า 5,500 สกุล และมีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอที่จะเก็บสินทรัพย์ต่างๆ ได้ถึง 100 สกุลพร้อมกัน สำหรับนักลงทุนที่อาจจำเป็นต้องซื้อหรือขายสินทรัพย์ในช่วงเวลาต่างๆ ก็มีแอพ Ledger Live (ที่มาพร้อมกับทุกๆ Ledger Wallet) และมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว แม้ว่าค่าธรรมเนียมในกระดานซื้อขายจะสูงเล็กน้อย (เนื่องจากมีหน่วยงานที่คอยสนับสนุนกระดานแลกเปลี่ยน) แต่ก็ใช้งานง่ายอย่างมาก แม้จะไม่ใช่กระดานเทรดที่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาด แต่ถ้าคุณต้องการซื้อเหรียญคริปโตอย่างรวดเร็ว Ledger Nano X ก็คือคำตอบ

โดยรวมแล้ว Ledger Nano X เป็น Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดในตลาด ใช้งานง่าย มีสไตล์ จากบริษัทที่เชื่อถือได้ และที่สำคัญ ปลอดภัยสุดๆ เป็น Wallet ที่ยอดเยี่ยมและต้องมีสำหรับนักลงทุนที่คำนึงถึงความปลอดภัย และหากคุณมีคำถามว่า Hardware Wallet ซื้อที่ไหน? ก็มีเว็บไซต์หลายแห่งที่ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบเว็บไซต์ Ledger ดังนั้นจึงจำเป็นต้องซื้อ Wallet จากเว็บไซต์ Ledger โดยตรง

สำหรับการวิเคราะห์โดยละเอียดเพิ่มเติม โปรดอ่านรีวิว Ledger Nano X ของเรา

ข้อดี

  • ปลอดภัยสูง
  • บริษัทเชื่อถือได้
  • ได้รับความไว้วางใจจากหลายพันคน
  • รองรับโทเค็นหลักๆ ส่วนใหญ่
  • มีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว
  • Ledger Live

ข้อเสีย

  • ราคาแพง
  • ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสูง
ราคาฟีเจอร์เด่นมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว?ให้คะแนน (0 ถึง 5)
$149ความปลอดภัยระดับแนวหน้าของตลาดLedger Liveจัดเก็บทรัพย์สินได้มากถึง 100 สกุลมี5/5

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

2. Trezor – ผู้ผลิต Hardware Wallet ที่มีชื่อเสียง

Trezor Cold Wallet เป็นคู่แข่งหลักของ Ledger และให้บริการ Hardware Wallet ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับแบรนด์ชื่อดัง โดย Trezor เปิดตัวก่อน Ledger เมื่อปี 2013 แต่บริษัทก็ทำได้ดีในด้านการรักษาสถิติมูลค่าราคาที่ไร้จุดบกพร่อง

บริษัทมี Wallet 2 รุ่น ได้แก่ Trezor One และ Trezor Model T ซึ่งมีความแตกต่างที่สำคัญบางข้อที่คุณควรทราบ ข้อแรกคือ Trezor One ไม่รองรับเหรียญคริปโตยอดนิยมอย่าง ADA, XRP, XMR, EOS และ XTZ อย่างไรก็ตาม Model T รองรับทุกสินทรัพย์ดังกล่าว ดังนั้นนักลงทุนควรพิจารณาเสมอว่าจะเก็บเหรียญคริปโตใดไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ Trezor Model T ยังเก็บเหรียญคริปโตได้มากกว่า Trezor One อีกด้วย

ทั้ง Trezor Model T และ Trezor One เป็นอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยสูงซึ่งปฏิบัติตามหลักการความปลอดภัยเช่นเดียวกับ Ledger ในการเข้าถึงเงิน โดย Wallet จะต้องใช้พินเพื่อเข้าใช้งานอุปกรณ์ที่ราคา $74.99 และ $299,99 ตามลำดับ โดยทั้งสองตัวเลือกมีราคาแพงกว่า Ledger

ทั้ง Trezor One และ Trezor Model T เป็น Wallet ที่น่าเชื่อถือซึ่งมีระดับความปลอดภัยที่น่าอัศจรรย์ แม้ว่าแบบพรีเมียมจะดูมีราคาแพง แต่พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ขยายได้และหน้าจอสัมผัสก็ช่วยปรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้เหมาะสม แม้ Ledger จะดีกว่าเล็กน้อยในแง่ของประสบการณ์ผู้ใช้ แต่ทั้งสองบริษัทก็ได้สร้าง Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดและควรค่าแก่การพิจารณา

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

ข้อดี

  • ปลอดภัยสูง
  • เก็บเหรียญได้มากขึ้น (Trezor Model T เท่านั้น)
  • ติดตั้งง่าย
  • Hardware Wallet แบบดั้งเดิม

ข้อเสีย

  • มีราคาแพงกว่า Ledger
ราคาฟีเจอร์เด่นมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว?ให้คะแนน (0 ถึง 5)
$75-$300Trezor Suiteติดตั้งง่ายความปลอดภัยระดับแนวหน้าของตลาดมี4.5/5

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

3. Atomic Wallet – ซอฟต์แวร์ Crypto Cold Wallet

Atomic Wallet ฟรีและเชื่อถือได้ด้วยผู้ใช้กว่า 4 ล้านคนทั่วโลก แม้ว่าอาจไม่ได้ให้ความปลอดภัยในระดับเดียวกับ Ledger หรือ Trezor Cold Wallet แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องใช้ Hardware Wallet เพื่อเข้าถึงเงินของตน

Atomic Wallet เป็นซอฟต์แวร์และพร้อมใช้งานบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย รวมถึง Android, IOS และ Windows ซึ่งเป็น Wallet แบบกระจายอำนาจและเป็น Non-custodial Wallet หมายความว่านักลงทุนสามารถควบคุมและเป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อพิจารณาว่ามีหลายแพลตฟอร์มที่ระงับการถอนเงินออกในขณะนี้ การได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ทั้งหมดจึงถือเป็นข้อดีอย่างมาก

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน Atomic Wallet ก็คือคำตอบ เพราะรองรับเหรียญคริปโตมากมายรวมถึง XRP และ ADA โปรดอ่านแนวโน้มเหรียญ XRP นอกจากนี้ Atomic ยังมีกระดานเทรดในตัวที่ทำให้การซื้อขายเป็นเรื่องง่าย แม้ค่าธรรมเนียมในกระดานเทรดจะสูงเล็กน้อย (เป็นเรื่องปกติของ Wallet Exchange) แต่นักลงทุนสามารถรับเงินคืนสูงถึง 1% จากการซื้อซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อดี

โดยรวมแล้ว Atomic Wallet ถูกออกแบบมาอย่างดีและปลอดภัย แม้อาจจะไม่มีเทคโนโลยีที่ดีเท่ากับอุปกรณ์อย่าง Trezor หรือ Ledger Cold Wallet แต่ด้วยการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้เป็นอีกหนึ่ง Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดของเรา

ข้อดี

  • ฟรี
  • Decentralized
  • มีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว
  • ใช้งานง่าย
  • มีเงินคืน

ข้อเสีย

  • ปลอดภัยน้อยกว่า Hardware Wallet
  • กระดานแลกเปลี่ยนมีค่าธรรมเนียมสูง
ราคาฟีเจอร์เด่นมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว?ให้คะแนน (0 ถึง 5)
$0Non-custodialฟรีDecentralizedมี4/5

ซื้อเหรียญคริปโตที่ eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

4. Keepkey – Crypto Cold Wallet ราคาถูก

ไม่ใช่ทุกคนที่มีเงินหลายร้อยดอลลาร์เพื่อใช้จ่ายใน Bitcoin Cold Wallet อย่างไรก็ตาม Keepkey จาก ShapeShift ให้การป้องกัน Hardware Wallet ที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันกับ Wallet หลักๆ ในราคาเพียงแค่ครึ่งเดียว

KeepKey Wallet มีราคาเพียง $49 ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าทางเลือกอื่นๆ อย่างไรก็ตาม KeepKey รองรับเหรียญคริปโตน้อยกว่า 50 สกุล แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่เป็นปัญหามากนักสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบล่วงหน้าว่า Wallet รองรับสินทรัพย์ที่คุณต้องการจัดเก็บหรือไม่

KeepKey เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมจากบริษัทที่มีชื่อเสียง และเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ ShapeShift จึงมีกระดานแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถใช้สำหรับการซื้อและขายสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน KeepKey ก็เป็นตัวเลือกที่มีราคาถูกกว่า Crypto Cold Wallet ชื่อดัง และสำหรับนักลงทุนที่มองหาทางเลือกที่ใช้งานง่ายและถูกกว่า KeepKey ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

ข้อดี

  • ราคาถูก
  • มีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว
  • ออกแบบมาอย่างดี

ข้อเสีย

  • ไม่รองรับเหรียญคริปโตหลายๆ สกุล
ราคาฟีเจอร์เด่นมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว?ให้คะแนน (0 ถึง 5)
$49จากบริษัทที่มีชื่อเสียงใช้งานง่ายคุณภาพเกินราคามี4/5

5. Ledger Nano S – Wallet ราคาถูกจาก Ledger

ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการบลูทูธ จอแสดงผลขนาดใหญ่ และพื้นที่จัดเก็บสินทรัพย์ 100 รายการจากข้อเสนอระดับพรีเมียมของ Ledger และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Ledger Nano S สมบูรณ์แบบ

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าในขณะที่ Nano S เปิดขาย Ledger กลับหยุดผลิตอุปกรณ์และกำลังถูกยกเลิก โดยจะถูกแทนที่ด้วย Nano S Plus ซึ่งส่วนใหญ่มีฟีเจอร์เหมือนกันกับ Nano X แม้ว่าจะไม่มีบลูทูธหรือแบตเตอรี่ก็ตาม

Ledger Nano S มีราคาประหยัดและมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยส่วนใหญ่ที่เหมือนกันกับยี่ห้อที่มีราคาแพงกว่า แต่ก็มีบางฟีเจอร์ที่มีน้อยกว่ายี่ห้อราคาแพง ข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของ Nano S คือมีพื้นที่จัดเก็บเหรียญคริปโตขนาดเล็ก แต่ด้วยการเปิดตัว Nano S Plus เรื่องดังกล่าวก็ได้รับการแก้ไขแล้ว

Ledger Cold Wallet ทั้งสองเป็นอุปกรณ์ Crypto Cold Wallet ราคาประหยัดที่ยอดเยี่ยมและให้ความปลอดภัยที่เหนือชั้น

ข้อดี

  • ทางเลือก Nano X ที่ถูกกว่า
  • ออกแบบมาอย่างดี
  • มีซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยม (Ledger Live)

ข้อเสีย

  • เก็บเหรียญคริปโตได้น้อย
ราคาฟีเจอร์เด่นมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว?ให้คะแนน (0 ถึง 5)
$59ชิปความปลอดภัยLedger Liveรองรับสินทรัพย์มากกว่า 5,000 สกุลมี4.5/5

6. SafePal S1 – Hardware Wallet ที่ได้รับทุนจาก Binance

SafePal S1 เป็น Hardware Wallet ราคา $50 ในรูปแบบของบัตรเครดิต

SafePal S1 เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจ ซึ่งดึงดูดการลงทุนจาก Binance Labs ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าอุปกรณ์นั้นปลอดภัย ใช้งานแบบออฟไลน์ได้ 100% ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์จะไม่รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ, WiFi หรือ NFC

รองรับเหรียญคริปโตเกือบทุกสกุล (รวมถึงเหรียญคริปโตมาใหม่บางสกุล) และช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มและลบสินทรัพย์ออกจากอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย น่าแปลกใจสำหรับอุปกรณ์ราคาประหยัด SafePal S1 เพราะมีแบตเตอรี่ขนาด 400mAh ซึ่ง SafePal บอกว่าจะใช้งานได้ประมาณกว่า 20 วัน นอกจากนี้อุปกรณ์ยังมีกล้องในตัวที่ออกแบบมาเพื่อให้ระบุที่อยู่สแกนเนอร์ได้ง่าย

สรุปแล้ว SafePal S1 เป็นอุปกรณ์รอบด้านและมีราคาให้เลือกมากมาย แม้ว่า SafePal จะไม่ใช่บริษัทชื่อดัง แต่การได้รับเงินลงทุนจาก Binance ก็ได้ช่วยทำให้ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินนั้นถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนที่มีงบประมาณจำกัด

ข้อดี

  • ได้รับเงินลงทุนจาก Binance
  • คุ้มค่า
  • ออฟไลน์โดยสมบูรณ์
  • มีกล้องในตัว

ข้อเสีย

  • ไม่ใช่บริษัทที่มีชื่อเสียง
ราคาฟีเจอร์เด่นมีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว?ให้คะแนน (0 ถึง 5)
$50ออฟไลน์ 100%กล้องในตัวพลังงานแบตเตอรี่ไม่มี3.5/5

เปรียบเทียบ Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดสำหรับเหรียญคริปโต

อาจเป็นเรื่องยากที่จะกำหนดว่า Wallet ใดดีที่สุดจากแค่เพียงการอ่านรีวิว เราจึงได้รวมตารางอ้างอิงอย่างง่ายๆ ซึ่งครอบคลุมข้อมูลสำคัญๆ ในการเลือก Cold Wallet

Cold Walletประเภท Walletราคา Walletค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโตฟีเจอร์ 3 อันดับแรก
Ledger Nano XHardware Wallet$149กำกับโดยCoinify/Wyreความปลอดภัยระดับแนวหน้าของตลาดLedger Liveจัดเก็บทรัพย์สินได้มากถึง 100 สกุล
TrezorHardware Wallet$75 – $3001-5%Trezor Suiteติดตั้งง่ายความปลอดภัยระดับแนวหน้าของตลาด
Atomic WalletNon-custodial Walletฟรีกำกับโดย ChangellyNon-custodialฟรีDecentralized
KeepkeyHardware Wallet$49ค่าธรรมเนียมการแตกต่างกันไปจากบริษัทที่มีชื่อเสียงใช้งานง่ายคุณภาพเกินราคา
Ledger Nano SHardware Wallet$59กำกับโดยCoinify/WyreชิปความปลอดภัยLedger Liveรองรับสินทรัพย์มากกว่า 5,000 สกุล
SafePal S1Hardware Wallet$50ไม่ระบุออฟไลน์ 100%กล้องในตัวพลังงานแบตเตอรี่
ArmoryNon-custodial Walletฟรีไม่ระบุฟรีBitcoin เท่านั้นออกแบบมาเพื่อใช้งานแบบออฟไลน์
Wallet GeneratorPaper Walletฟรีไม่ระบุสร้าง paper Wallet ในไม่กี่วินาทีออกแบบมาอย่างดีปลอดภัยสูง
ColdCardHardware Wallet$157.94ไม่ระบุโอนเหรียญง่ายมีโหมดออฟไลน์ตลอดเวลาBitcoin เท่านั้น
BitboxHardware Wallet$131ไม่ระบุจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยมง่ายต่อการใช้งานBTC และเหรียญอีกมากมาย

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

Cold Wallet คืออะไร?

Crypto Cold Wallet เป็นซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บเหรียญคริปโต ซึ่งมีมากมายหลายยี่ห้อ โดยสิ่งที่ทำให้ Cold Wallet แตกต่างก็คือมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบออฟไลน์ สิ่งนี้ให้ข้อได้เปรียบด้านความปลอดภัยมากมายและปกป้องนักลงทุนจากการโดนขโมยเหรียญ

โดยปกติแล้ว Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดนั้นก็ยังใช้งานได้สะดวกน้อยกว่า Wallet ที่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจากนักลงทุนต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเข้าถึงเงินทุนของตน แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในด้านความปลอดภัยและการสร้างแรงจูงใจในการถือครองเหรียญคริปโต แต่ก็อาจเป็นผลเสียสำหรับนักเทรดหรือนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงเงินทุนของตนได้อย่างง่ายดายตลอดเวลา

Crypto Cold Wallet มีหลายรูปแบบ ได้แก่ Software Wallet, Hardware Wallet และ Paper Wallet แม้นักลงทุนจะมีทางเลือกมากมาย แต่ก็อาจทำให้เกิดความสับสนได้

Cold Crypto Wallet ทำงานอย่างไร?

Crypto Wallet และ Cold Crypto Wallet ทั่วไปทำงานคล้ายกัน โดยพื้นฐานแล้ว ทั้งสอง Wallet ได้รับการออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์เดียวกันคือเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางดิจิทัลให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น

ทุกๆ Wallet จะมีที่อยู่ ซึ่งคล้ายกับหมายเลขบัญชีธนาคารและ sort code ให้ผู้ใช้สามารถรับและจัดเก็บเหรียญคริปโตได้ นอกจากนี้เมื่อโอนเหรียญคริปโต ผู้รับจะสามารถเห็นที่อยู่ของ Wallet ต้นทางของการทำธุรกรรม ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามเครือข่าย แต่โดยทั่วไปทุกคนก็สามารถค้นหาที่อยู่ Wallet นั้นๆ ดูการถือครองและการทำธุรกรรมได้

ที่สำคัญคือ Crypto Wallet มี public key ซึ่งจะส่งไปให้ทุกคนอย่างปลอดภัยและเป็นที่อยู่ของ Wallet นั้นๆ แม้จะไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่ก็คุ้มค่าที่ต้องรักษาไว้ให้ปลอดภัย ในทางกลับกัน private key เป็นรหัสกู้คืนสำหรับ Wallet ดังนั้นจึงไม่ควรส่งให้ใคร เพราะหากมี private key ที่เชื่อมไว้กับ Wallet พวกเขาก็จะสามารถเข้าถึงบัญชีได้อย่างเต็มที่ โดยทั่วไปแล้ว private key จะอยู่ในรูปแบบของวลี 12-24 คำ

ประโยชน์ของ Crypto Cold Wallet

ประโยชน์หลักของ Crypto Cold Wallet คือความปลอดภัย Wallet ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมักมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กหรือถูกโจมตีทางดิจิทัล ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

ถ้าใช้ Hot Wallet โดยเฉพาะ Custodial Hot Wallet ก็จะเก็บ private key ของบัญชีไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่เสี่ยงต่อการถูกแฮ็ก นี่อาจหมายความว่าแม้ว่านักลงทุนจะทำทุกอย่างถูกต้อง (รหัสผ่านที่ไม่ซ้ำใคร, 2FA, หรืออื่นๆ) พวกเขาก็ยังคงเสี่ยงสูญเสียเงินโดยไม่ใช่ความผิดของตัวเอง แต่ Cold Wallet จะมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ด้วยการจัดเก็บ key ที่เชื่อมโยงกับ Wallet แบบออฟไลน์และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเว็บได้ ก็จะไม่มีทางที่แฮ็กเกอร์มือใหม่จะเข้าถึงเงินใดๆ ได้ และใครก็ตามที่มีโอกาสขโมยเงินจาก Cold Wallet พวกเขาจึงจำเป็นต้องใช้ Wallet นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ร้ายก็ยังต้องการหมายเลขพินเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ โดย Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดคือ Ledger Nano X ซึ่งมีระบบที่จะล็อกอุปกรณ์หากป้อนรหัส PIN ผิดหลายครั้งเกินไปเพื่อป้องกันการโดนแฮ็ก

Crypto Cold Wallet vs Hot Wallet

การถกเถียงกันระหว่าง Cold Wallet และ Hot Wallet ในวงการคริปโตนั้นมีมาหลายปีแล้ว นักลงทุนที่โฟกัสด้านความปลอดภัยจะไม่กล้าเก็บทรัพย์สินของตนไว้ใน Wallet ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต แต่นักลงทุนบางคนก็ต้องการความสะดวกสบายจากการกระดานเทรดหรือ Hot Wallet ซึ่งไม่มีคำตอบใดที่ถูกหรือผิด เพราะมันเป็นเรื่องของการจัดลำดับความสำคัญ

Hot Wallet จะใช้งานง่ายกว่า Cold Wallet และอาจดีกว่าสำหรับนักเทรดที่ต้องการการเข้าถึงเงินได้บ่อยๆ หรือในระหว่างการเดินทาง ซึ่งการใช้งาน Cold Wallet นั้นอาจใช้เวลานานกว่าหรือต้องใช้งาน Wallet ในการเข้าใช้ ทำให้ไม่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ย้ายสินทรัพย์อยู่บ่อยๆ

แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันคือ Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดนั้นมีความปลอดภัยมากกว่า Hot Wallet ทั่วๆ ไป สำหรับทุกคนที่ต้องการจัดเก็บเหรียญคริปโตจำนวนมากหรือถือครองทรัพย์สินของตนเป็นเวลานานๆ Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดจะให้ความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้งานที่ยุ่งยาก

วิธีเลือก Cold Bitcoin Wallet ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

Cold Wallet Crypto แนะนํานั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ซึ่งอาจดูยุ่งยากไปบ้าง เพื่อให้เลือกใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น เราก็ได้รวบรวมปัจจัยสำคัญๆ ในการเลือก Wallet ที่เหมาะกับคุณเอาไว้

ความปลอดภัย

หากนักลงทุนกำลังชั่งใจว่าควรใช้ Cold Wallet ความปลอดภัยก็มักจะเป็นข้อกังวลอันดับหนึ่งของพวกเขา เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนคริปโตที่มีโอกาสเติบโต สิ่งสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากสูญเสียก็คือเหรียญคริปโตของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ใช่จากความผิดของตน ดังนั้นการเลือก Wallet ที่มีความปลอดภัยระดับสูงจึงเป็นสิ่งจำเป็น และคุ้มค่าที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่า Wallet ดังกล่าวนั้นแตกต่างยังไง ใช้งานแบบออฟไลน์ได้หรือไม่ และมีชื่อเสียงแค่ไหน

เหรียญที่รองรับ

หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของ Cold Wallet คือการเก็บเหรียญเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ Cold Wallet ต้องรองรับเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุด เนื่องจากนักลงทุนทุกคนแตกต่างกัน จึงควรเก็บเหรียญที่ต้องการได้บน Wallet ที่รองรับนั่นเอง

ค่าธรรมเนียม/ค่าใช้จ่าย

ในการเลือก Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุด ก็ควรจะพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน คงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้จ่าย $300 ใน Wallet เพียงเพื่อจะเก็บเหรียญคริปโตมูลค่า $100 เอาไว้ ดังนั้นการพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายจึงเป็นความคิดที่ดี นอกจากนี้ Wallet บางยี่ห้อก็มีกระดานแลกเปลี่ยนในตัว ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมบนแพลตฟอร์มเหล่านั้นก่อนที่จะซื้อสินทรัพย์ใดๆ

การใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ

ด้วยอัตราจำนวนนักลงทุนบนมือถือที่เพิ่มขึ้น การมี Wallet พร้อมแอพมือถือที่ดีจึงมีประโยชน์ มี Cold Wallet จำนวนมากที่พร้อมใช้งานและมีความปลอดภัยบนมือถือ แต่ Ledger Nano X จะสามารถใช้งานได้กับบลูทูธและแอพมือถือ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุนมือถือนั่นเอง

ความสะดวก

หาก Wallet ใช้งานยากและซับซ้อน ก็อาจจะถือเป็นภาระมากกว่าความคุ้มค่า โดย Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดจะสะดวกและปลอดภัย และควรหลีกเลี่ยง Wallet ที่ใช้งานยากและให้ประสบการณ์ที่ย่ำแย่

บทสรุป

ในบทความนี้เราได้รีวิว Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดในตลาด รวมถึง Ledger Nano X รีวิว และ Trezor One รีวิว อธิบายว่า Cold Wallet คืออะไร ทำงานอย่างไร และยังมอบวิธีง่ายๆ ในการเลือก Wallet ที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการของนักลงทุนแต่ละคน โดยเราขอแนะนำ Ledger Nano X ซึ่งเป็น Crypto Cold Wallet ที่ดีที่สุดและทำงานได้ดีเยี่ยมในทุกด้าน

Ledger Nano X เป็น Wallet ที่ยอดเยี่ยม ใช้ง่าย มีความปลอดภัยสูง และได้รับความไว้วางใจจากผู้คนนับพันทั่วโลก โดยมีราคาราคาเพียง 149 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่ามีราคาถูกกว่า Wallet หลายๆ ยี่ห้อที่อ้างว่ามีราคาประหยัด โดยรวมแล้ว Nano X เป็น Cold Wallet ที่ยอดเยี่ยมที่จะให้บริการนักลงทุนได้เป็นอย่างดี

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

Categories
Crypto News Crypto Wallets คู่มือคริปโต

เปรียบเทียบ 10 Hardware Wallet อันไหนดี ฉบับปี 2023 [แนะนำ!]

ในวงการคริปโต เขาว่ากันว่า “ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของรหัส คุณก็ไม่ใช่เจ้าของเหรียญจริงๆ” หรือ แม้ว่านักลงทุนจะมีรหัสส่วนตัวใน Crypto Wallet แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเหรียญคริปโตได้อย่างเต็มที่นั่นเอง Hardware Wallet อันไหนดี

นี่คือจุดที่ Hardware Wallet มีประโยชน์ โดยจะอธิบายว่า Hardware Wallet คืออะไรและทำงานอย่างไร พร้อมรีวิวว่า Hardware Wallet อันไหนดี ที่สุดในตลาดตอนนี้

Hardware Wallet อันไหนดี ที่สุด 10 อันดับแรก

ด้วยตัวเลือกที่มีมากมาย การเลือก Hardware Wallet เพื่อเก็บเหรียญคริปโตจึงอาจเป็นเรื่องยาก

โดยด้านล่างนี้คือผู้ให้บริการ Hardware Wallet ชั้นนำที่มีความปลอดภัยสูง:

  1. Ledger Nano X – Crypto Hardware Wallet โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023 
  2. Trezor – Hardware Wallet เก็บเหรียญคริปโตชั้นนำ
  3. Keepkey – Crypto Hardware Wallet ราคาถูก
  4. BitBox02 – Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุด
  5. SecuX – Crypto Wallet พร้อมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร
  6. Ellipal Titan – Crypto Hardware Wallet แบบ Air-Gapped 
  7. SafePal S1 – Crypto Hardware Wallet ที่สนับสนุนโดย Binance
  8. Keystone Pro – Hardware Wallet พร้อมเครื่องสแกนลายนิ้วมือ
  9. CoolWallet Pro – Crypto Hardware Wallet ที่ใช้งานง่าย
  10. NGRAVE Zero – Crypto Wallet ที่มีความปลอดภัยสูง
  11. D’CENT – Biometric Hardware Wallet 

หากต้องการอ่านรีวิว Hardware Wallet ด้านบนแบบเจาะลึกเพิ่มเติม โปรดอ่านต่อ

รีวิว Hardware Wallet เก็บเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

การเลือก Wallet ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรกที่ต้องพิจารณาเมื่อลงทุนในเหรียญคริปโต

วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลคือการใช้ Hardware Wallet ซึ่งจะทำให้รหัสส่วนตัวออฟไลน์และทำให้แฮ็กเกอร์ เข้าถึงยาก

ในส่วนนี้ เราจะเจาะลึกว่า Hardware Wallet ตัวไหนดี โดยคำนึงถึงคุณสมบัติหลักและความปลอดภัย

1. Ledger Nano X – Crypto Hardware Wallet โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023

Ledger

ตัวเลือกอันดับหนึ่งของเราคือ Ledger Nano X ที่สร้างรหัสส่วนตัวผ่านตัวอุปกรณ์เองและรักษาความปลอดภัยด้วย PIN และยังใช้งานง่ายและรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 5,500 สกุล

ซึ่งถือว่ารองรับสกุลเหรียญคริปโตมากที่สุดในตลาด โดยตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับสาย USB-C และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือได้ นอกจากนี้ยังเปิดใช้งานบลูทูธเพื่อให้ส่งหรือรับเงินได้อย่างง่ายดาย

แต่ละคนยังสามารถเข้าถึง Ledger Live ซึ่งถือเป็น Hardware Wallet ใช้กับมือถือและคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่จัดเก็บไว้ได้ โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติในตัวหลายอย่าง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตได้

Ledger Live ยังให้ผู้ใช้ได้ Stake เหรียญคริปโตอย่างปลอดภัย รวมถึง Ethereum, Solana, Cosmos และอีกมากมาย เพื่อทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลบน Ledger Hardware Wallet งอกเงย โดย Ledger Nano X ยังสามารถจัดเก็บเหรียญได้กว่า 100 สกุลและรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม Web 3.0 ยอดนิยมอีกมากมาย

Ledger Nano X ยังจัดเก็บ NFT ได้อีกด้วย แต่ก็มาพร้อมกับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 149 ดอลลาร์ โดย Ledger ยังมี Wallet รุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น ได้แก่ Nano S และ Nano S Plus ซึ่งแม้ว่าจะมีราคาถูกกว่า แต่ก็มีคุณสมบัติและประโยชน์น้อยกว่า

ราคาของ Hardware Wallet$149
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับ 5,500+ สกุล, มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัย
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวมี
คะแนนของเรา5/5

2. Trezor – Hardware Wallet เก็บเหรียญคริปโตชั้นนำ

Trezor เป็นอีกหนึ่ง Hardware Wallet ยอดนิยมที่เหมาะกับบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ โดยมี Hardware Wallet หลายรุ่น ได้แก่ Trezor One แบบดั้งเดิมและ Model T

ข้อแตกต่างหลักระหว่างทั้งสองคือใน Trezor Model T จะมีการป้อน PIN และรหัสผ่านผ่านตัวอุปกรณ์เอง แต่สำหรับ Trezor One ผู้ใช้ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อป้อนข้อมูล ซึ่งหมายความว่า Trezor Model T เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย แต่ก็มีราคาแพงเช่นกันที่ 280 ดอลลาร์ต่อเครื่อง

โดย Trezor One มีราคาถูกกว่าที่ 77 ดอลลาร์ โดยมีซอฟต์แวร์เรือธงอย่าง Trezor Suite ซึ่งสามารถใช้ซื้อ แลกเปลี่ยน และใช้เหรียญคริปโตได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถจัดเก็บและจัดการมากกว่า 1,000 เหรียญคริปโตผ่าน Trezor wallet

มาพร้อมกับจอแสดงผลขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับ Ledger ทำให้อ่านง่าย แต่ไม่รองรับบลูทูธ ซึ่งทำให้ใช้ยากไปบ้าง แต่ Trezor ก็มาพร้อมกับการ์ด microSD ที่สามารถใช้เป็นข้อมูลสำรองเพื่อจัดเก็บรหัสผ่านได้

เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง Ledger และ Trezor ใช้งานได้กับ Exodus ซึ่งเป็น Non-custodial Software Wallet หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านรีวิว Exodus Wallet ฉบับเต็มของเราที่นี่

ราคาของ Hardware Walletสูงถึง $280
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกจอแสดงผลขนาดใหญ่, รองรับ 1,000+ โทเค็น, มีความปลอดภัยสูง
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวมี
คะแนนของเรา4/5

3. KeepKey – Crypto Hardware Wallet ราคาถูก

Ledger และ Trezor เป็นผู้นำตลาดด้าน Hardware Wallet อย่างไม่ต้องสงสัย แต่อาจถือว่าค่อนข้างแพง ดังนั้น ใครที่มองหาทางเลือกที่เหมาะสม ผู้ใช้ก็สามารถพิจารณา KeepKey ซึ่งอาจจะเป็น Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุดที่มีราคาไม่ถึง $50 

KeepKey เปิดตัวในปี 2015 เป็น Wallet แบบสแตนด์อโลน โดยในปี 2560 บริษัทถูกซื้อโดย ShapeShift ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อรวมเข้ากับ Non-custodial Wallet โดย KeepKey มีความคล้ายกับอุปกรณ์ USB และมีหน้าจอ OLED ขนาดเล็กที่สามารถควบคุมได้ด้วยปุ่มต่างๆ

แม้ว่า KeepKey Wallet นั้นดูเทอะทะเมื่อเทียบกับ Ledger Nano X หรือ Trezor หากต้องการใช้ KeepKey Wallet และจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล นักลงทุนก็จำเป็นต้องใช้งาน ShapeShift โดยข้อเสียหลักคือรองรับเหรียญคริปโตเพียง 40 สกุล ซึ่งน้อยกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในตลาดอย่างมาก

ราคาของ Hardware Wallet$49
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกCrypto Hardware Wallet ราคาถูก, หน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Shapeshift
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวผ่านกระดานเทรด Shapeshift
คะแนนของเรา3.5/5

4. BitBox02 – Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุด

BitBox02 มีการออกแบบที่เรียบง่ายและครอบคลุม โดยมีสองรูปแบบ – แบบหนึ่งสำหรับเก็บ Bitcoin โดยเฉพาะ และอีกแบบหนึ่งที่รองรับ Altcoin ต่างๆ ที่เก็บได้มากกว่า 1,500 เหรียญคริปโต

Hardware Wallet จากสวิสนี้มาพร้อมกับแอพที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อเหรียญคริปโตได้ และอุปกรณ์ยังเชื่อมต่อกับ Crypto Wallet อื่นๆ เช่น MyEtherWallet, Electrum และอีกมากมาย ส่วนการสำรองข้อมูลเพิ่มเติม BitBox02 ยังมีสล็อตเพื่อรองรับการ์ด microSD อีกด้วย

BitBox02 มีฟีเจอร์หลายบัญชี ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบธุรกรรมคริปโตได้ง่ายๆ  ทั้งยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับ dApps บนระบบนิเวศ Ethereum เช่น ตลาด NFT, กระดานแลกเปลี่ยน, และแพลตฟอร์ม DeFi อื่นๆ โดยมีราคาประมาณ 135 ดอลลาร์

ราคาของ Hardware Walletประมาณ 135 ดอลลาร์
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกดีไซน์โฉบเฉี่ยว, รองรับโทเค็นมากกว่า 1,500 สกุล, เชื่อมต่อกับ Software Wallet มากมาย
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวมี
คะแนนของเรา4/5

5. SecuX V20 – Crypto Wallet พร้อมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร

SecuX เป็นหนึ่งใน Crypto Wallet ที่ดีที่สุดในปี 2023 มี 3 รุ่น ได้แก่ W10, W20 และ V20 โดยรุ่น W10 ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ส่วน W20 และ V20 จะสามารถเชื่อมต่อกับทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือได้

โดยเราจะเน้นไปที่ V20 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดจาก SecuX ที่มาพร้อมกับดีไซน์วงกลมที่ไม่เหมือนใครและหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 2.8 นิ้ว โดยทำจากชิป infineon Secure Element เกรดที่ใช้ในทางการทหาร

ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับบลูทูธและ USB Type-C โดยสามารถจัดการบัญชีได้มากถึง 500 บัญชีและรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 1,000 สกุล หากอยากซื้อเหรียญคริปโต ผู้ใช้ SecuX จะต้องเชื่อมต่อ Wallet กับ Coinfy ซึ่งค่าธรรมเนียมโอนเหรียญเข้า Hardware Wallet จึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของ SecuX

ราคาของ Hardware Wallet$139
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับ microSD ,หน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวไม่มี
คะแนนของเรา3/5

6. Ellipal Titan – Crypto Hardware Wallet แบบ Air-Gapped

Ellipal Titan เป็น Hardware Wallet แบบAir-Gapped สำหรับเก็บเหรียญคริปโต ซึ่งจะเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้ แต่ Wallet ทำงานร่วมกับแอพ Ellipal ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะแทน ซึ่งจะส่งข้อมูลธุรกรรมไปยังอุปกรณ์ผ่าน QR Code

จากนั้นผู้ใช้สามารถยืนยันการทำธุรกรรมผ่าน Wallet โดยป้อน PIN ซึ่งจะสร้างอีก QR Code บนอุปกรณ์ซึ่งจะต้องสแกนผ่านแอพเพื่อยืนยัน แม้ว่าจะฟังดูยุ่งยากสำหรับมือใหม่ แต่ Wallet แบบ Air-Gapped ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บรหัสส่วนตัวแบบออฟไลน์

Ellipal Titan Wallet ยังมาพร้อมกับโหมดทำลายอัตโนมัติที่จะคืนค่าการตั้งค่าจากโรงงานเมื่อถูกดัดแปลง พร้อมรองรับโทเค็นมากกว่า 10,000 สกุลและเครือข่าย Blockchain กว่า 45 เครือข่าย พร้อมแอพ Ellipal ที่ใช้ซื้อหรือ Stake เหรียญคริปโตได้อีกด้วย

ราคาของ Hardware Wallet$119
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกอุปกรณ์ Air-gapped, รองรับ 10,000+ โทเค็น, หน้าจอขนาดใหญ่
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวมี
คะแนนของเรา4/5

7. SafePal S1 – Crypto Hardware Wallet ที่สนับสนุนโดย Binance

SafePal S1 เป็นอีกหนึ่ง Hardware Wallet แบบ Air-gapped พร้อมกลไกการทำลายตัวเอง โดยทำงานร่วมกับแอพ SafePal ซึ่งให้ผู้ใช้ซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโต โดยสามารถซื้อบิทคอยน์ด้วยบัตรเครดิตหรือด้วยช่องทางการชำระเงินยอดนิยมอื่นๆ ได้

ซึ่งรวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร, Bancontact, Sofortbanking และ Giropay นี่ยังเป็น Hardware Wallet แรกที่ Binance ลงทุน ด้วยการร่วมมือนี้ ผู้ใช้ SafePal จะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการการซื้อขาย Binance ภายใน Wallet App ได้

SafePal S1 ยังทำงานร่วมกับ dApps ยอดนิยมบน Ethereum, Tron และ Binance Smart Chain โดย SafePal อาจดูเหมือนบัตรเครดิตที่หนากว่าเล็กน้อยในแวบแรก โดยมีหน้าจอขนาด 1.3 นิ้ว พร้อมกล้องสำหรับสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรมคริปโต ทั้งยังรองรับ 33 Blockchain และโทเค็นมากกว่า 30,000 สกุล

ราคาของ Hardware Wallet$49.99
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกHardware WalletAir-gapped,  รองรับโทเค็น 30,000+ สกุล, รวมกับ Binance
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวผ่าน Binance
คะแนนของเรา4/5

8. Keystone Pro – Hardware Wallet พร้อมเครื่องสแกนลายนิ้วมือ

Keystone Pro ใช้เทคโนโลยี Air-gapped ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งใน Crypto Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในด้านความปลอดภัย โดยจะส่ง QR Code เพื่อตรวจสอบธุรกรรม พร้อมความปลอดภัยระดับธนาคารเพื่อให้มั่นใจได้ว่ารหัสส่วนตัวจะไม่หายไปจากอุปกรณ์ 

Keystone Pro ยังมีเซนเซอร์ลายนิ้วมือที่ให้ผู้ใช้ปลดล็อกอุปกรณ์และลงชื่อในการทำธุรกรรม โดยจะมีกลไกทำลายตัวเองที่จะล้างรหัสส่วนตัวเมื่อตรวจพบการปลอมแปลง

Keystone Pro ต้องเชื่อมต่อกับแอพเพื่อเชื่อมต่อกับ Blockchain พร้อมรองรับเหรียญคริปโตกว่า 800 สกุล แต่ ณ ตอนนี้ คุณไม่สามารถซื้อหรือแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตผ่านแอพ KeyStone Hardware Wallet ได้

ราคาของ Hardware Wallet$169
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกHardware Wallet Air-gapped, รองรับโทเค็น 800+ สกุล, เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่มีประโยชน์
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวไม่มี
คะแนนของเรา4.5/5

9. CoolWallet Pro – Crypto Hardware Wallet ที่ใช้งานง่าย

CoolWallet Pro เป็นหนึ่งใน Crypto Hardware Wallet ที่ทันสมัยที่สุดในตลาด โดยมีความหนาเพียง 0.8 มม. น้ำหนักเบา และยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธอีกด้วย พกพาสะดวกแม้ในขณะเดินทาง

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า CoolWallet Pro จะมีความปลอดภัยต่ำหรือคุณสมบัติหลักน้อยแต่อย่างใด เพราะถือเป็นหนึ่งใน Hardware Wallet เพียงไม่กี่ตัวที่รองรับบริการซื้อขาย NFT ในตัว นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ Binance DEX และ WalletConnect เพื่อให้ซื้อและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลได้

อุปกรณ์ยังรองรับการ Stake สำหรับใครที่อยากสร้างผลตอบแทนจากการถือเหรียญคริปโต ทั้งทำงานควบคู่กับแอพ CoolBitX ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ร่วม พร้อมความสามารถในการจัดเก็บเหรียญคริปโตกว่า 150 สกุล

ราคาของ Hardware Wallet$149
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกขนาดเท่าบัตรเครดิตทั่วไป, มาพร้อมกับแอพที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Binance DEX
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวมี
คะแนนของเรา4.5/5

10. NGRAVE Zero – Crypto Wallet ที่มีความปลอดภัยสูง

NGRAVE โฆษณาว่าเป็น Crypto Hardware Wallet แรกของโลกที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย EAL7 และเป็นแบบ Air-gapped โดยสมบูรณ์ ซึ่งจะไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายใดๆ เช่น ไวไฟ, บลูทูธ, NFC หรือ 4G ได้

การยืนยันทั้งหมดบน NGRAVE Zero จะต้องผ่าน QR Code โดยรองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 1,000 สกุล ซึ่งรวมถึงโทเค็น ERC-20 จำนวนมาก

NGRAVE Zero ยังสามารถเก็บ NFT ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum โดยในการเข้าถึงเหรียญคริปโตที่จัดเก็บไว้ใน Zero ผู้ใช้จะต้องดาวน์โหลดแอพ NGRAVE Liquid ก่อน

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าแอพดังกล่าวจะไม่ให้ผู้ใช้ซื้อหรือแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตได้ และมีราคาที่สูง ในขณะที่เขียน NGRAVE Zero มีราคาประมาณ 405 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Hardware Wallet ที่แพงที่สุดในตลาด Hardware Wallet อันไหนดี

ราคาของ Hardware Wallet$405
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกHardware Wallet Air-gapped, การรับรองความปลอดภัย EAL7, รองรับ 1,000 โทเค็น
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวไม่มี
คะแนนของเรา3/5

11. D’CENT – Biometric Hardware Wallet 

DCENT Shop

D’Cent เป็น Hardware Wallet ที่มีการตรวจสอบแบบ Biometric พร้อมหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือมือถือโดยใช้บลูทูธหรือสาย USB ได้

เหรียญคริปโตบน Wallet จะสามารถจัดการได้ผ่านแอพมือถือ D’CENT พร้อมรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม DeFi และตลาด NFT โดยขณะที่เขียนอยู่ D’CENT Wallet สามารถใช้เก็บเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ได้มากกว่า 2,700 สกุล

D’CENT ยังมีกระเป๋าใส่บัตรซึ่งออกแบบให้บางลง โดยผู้ใช้สามารถแตะบัตรบนมือถือที่รองรับเทคโนโลยี NFC เพื่อตรวจสอบธุรกรรมได้ แต่นักลงทุนจะต้องซื้อการ์ดแยกต่างหากสำหรับโทเค็นบนเครือข่าย Ethereum และ Klatyn

ราคาของ Hardware Wallet$139
คุณสมบัติ 3 อันดับแรกการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับโทเค็น 2,700+ , การตรวจสอบแบบ Biometric
กระดานแลกเปลี่ยนในตัวไม่มี
คะแนนของเรา3/5

เปรียบเทียบ Hardware Wallet ที่ดีที่สุด

การเลือก Crypto Wallet ที่เหมาะที่สุดอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แม้แต่นักลงทุนที่มีประสบการณ์ก็ตาม

โดยเราได้ใช้ตารางด้านล่าง – ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญทั้งหมดเกี่ยวกับ Crypto Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ

จำนวนโทเค็นราคาเครื่องค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโตคุณสมบัติ 3 อันดับแรก
Ledger Nano X5,500+$1494.5% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต 1.7% สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคารการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับโทเค็นมากกว่า 5,500 สกุล, มาพร้อมกับ Ledger Live
Trezor1,000+$77 สำหรับ Trezor One, $280 สำหรับ Trezor Model Tอิงตามกระดานเทรดจอแสดงผลขนาดใหญ่, รองรับ 1,000+ โทเค็น, มีความปลอดภัยสูง
KeepKey40+$49อิงตามกระดานเทรด ShapeShiftCrypto Hardware Wallet ราคาถูก, หน้าจอขนาดใหญ่ที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Shapeshift
BitBox021,500+$1354.9% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต 1.9% สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคารดีไซน์โฉบเฉี่ยว, รองรับ 1,500+ โทเค็น, มาพร้อมกับ BitBoxApp
SecuX V201,000+$1395% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต 1% สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคารผ่าน Coinfyรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับ microSD, หน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว
Ellipal Titan10,000+$139อิงตามกระดานเทรดอุปกรณ์ Air-gapped, 10,000+ โทเค็น, หน้าจอใหญ่
SafePal S130,000+$49.99ค่าบริการ 0.3% สำหรับคำสั่ง Swap, ค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโตHardware WalletAir-gapped,  รองรับโทเค็น 30,000+ สกุล, รวมกับ Binance
Keystone Pro800+$169ไม่มีHardware Wallet Air-gapped, รองรับโทเค็น 800+ สกุล, เครื่องสแกนลายนิ้วมือที่มีประโยชน์
CoolWallet Pro150+$149สูงถึง 5% ผ่านแพลตฟอร์มเทรดขนาดเท่าบัตรเครดิตทั่วไป, มาพร้อมกับแอพที่ใช้งานง่าย, ทำงานร่วมกับ Binance DEX
NGRAVE Zero1,000+$405ไม่มีHardware Wallet Air-gapped, การรับรองความปลอดภัย EAL7, มีเครื่องสแกนลายนิ้วมือ
D’CENT 2,700+$139ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงตามกระดานเทรดการเชื่อมต่อบลูทูธ, รองรับโทเค็น 2,700+ , การตรวจสอบแบบ Biometric

Hardware Wallet คืออะไร?

Hardware Wallet เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเก็บรหัสส่วนตัวและการทำธุรกรรม เพียงเสียบอุปกรณ์นี้เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือมือถือ ผู้ใช้ก็สามารถจัดการและใช้เหรียญคริปโตได้ 

ธุรกรรมและการตรวจสอบเหรียญคริปโตทุกด้านจะได้รับการจัดการผ่านอุปกรณ์ เนื่องจากรหัสส่วนตัวจะไม่ถูกเปิดเผย เพื่อการโกงและแฮ็กเกอร์ได้อย่างแข็งแกร่ง

โดยผู้ใช้จะได้เก็บคีย์ส่วนตัวของเหรียญคริปโต ซึ่งจะสามารถควบคุมโทเค็นได้อย่างเต็มที่

ส่วน Hardware Wallet อันไหนดีที่ดีที่สุดในปัจจุบันยังมาพร้อมกับคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น การรองรับการเทรดเหรียญคริปโต ผู้ให้บริการอย่าง Ledger ยังเป็นแพลตฟอร์ม Staking จากภายใน Wallet App อีกด้วย  Hardware Wallet อันไหนดี

Crypto Hardware Wallet ทำงานอย่างไร?

ใครสงสัยว่า Hardware Walletใช้ยังไง? เราก็ขออธิบายว่าเหรียญคริปโตไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ Hardware Wallet แต่จะถูกเก็บไว้ผ่านที่อยู่เฉพาะบน Blockchain

ให้เราอธิบายกระบวนการจัดเก็บเหรียญคริปโต ดังนี้

  • เมื่อสร้าง Crypto Wallet จะมีการสร้างรหัสสองประเภท
  • รหัสสาธารณะใช้เพื่อสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน – และนักลงทุนสามารถแบ่งปันกับผู้อื่นเพื่อรับเหรียญคริปโต
  • และรหัสส่วนตัวที่เป็นลายเซ็นดิจิทัลจะใช้เพื่อยืนยันการทำธุรกรรม
  • ใครก็ตามที่มีรหัสส่วนตัวของ Wallet จะสามารถอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโทเค็นได้

ซึ่งควรเก็บรหัสส่วนตัวไว้อย่างปลอดภัย เมื่อใช้ Hardware Wallet รหัสส่วนตัวจะถูกสร้างขึ้นภายในอุปกรณ์และจัดเก็บแบบออฟไลน์

การทำธุรกรรมคริปโตจะต้องได้รับการยืนยันผ่านอุปกรณ์จริง ซึ่งจะเพิ่มการป้องกันโดยรวม

Hardware Wallet ยังสร้างรหัสกู้คืนในช่วงการตั้งค่าเริ่มต้น ซึ่งเป็นชุดคำแบบสุ่มที่สามารถใช้เพื่อเข้าถึงเหรียญคริปโตได้ในกรณีที่รหัสส่วนตัวสูญหาย

และยังทำหน้าที่เป็นรหัสสำรองในกรณีที่ Hardware Wallet สูญหายหรือถูกขโมย

ประโยชน์ของ Hardware Crypto Wallet

นี่คือเหตุผลบางข้อที่นักลงทุนควรพิจารณาซื้อ Hardware Wallet

ความปลอดภัยสูง

เมื่อเก็บเหรียญคริปโตไว้ใน Custodial Wallet นักลงทุนจะต้องละทิ้งความเป็นเจ้าของโทเค็นนั้นๆ และต้องไว้วางใจกระดานแลกเปลี่ยนอย่างเต็มที่ในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของตนให้ปลอดภัย 

แต่ถ้ากระดานแลกเปลี่ยนถูกแฮ็ก นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมด แต่เมื่อใช้ Hardware Wallet ผู้ใช้จะมั่นใจได้ว่าเหรียญคริปโตของตนปลอดภัยและห่างไกลจากเงื้อมมือของแฮ็กเกอร์ 

การควบคุมเหรียญคริปโต 

 เราได้เน้นย้ำว่า Hardware Wallet จะให้ผู้ใช้ได้ควบคุมเหรียญของตนได้อย่างเต็มที่

ให้เราอธิบายเพิ่มเติม ดังนี้ 

  • สมมติว่านักลงทุนกำลังจัดเก็บเหรียญคริปโตในกระดานแลกเปลี่ยน
  • หากกระดานแลกเปลี่ยนปิดการถอนเหรียญหรือปิดปรับปรุงเว็บไซต์ นักลงทุนจะทำอะไรไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องยุ่งยากในกรณีที่ตลาดกำลังผันผวน 
  • หรือ อาจมีสถานการณ์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดได้ 

แต่เมื่อใช้ Hardware Wallet นักลงทุนสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ของตนได้ทุกเวลา หากกระดานแลกเปลี่ยนปิดปรับปรุง ผู้ใช้ก็สามารถโอนสินทรัพย์ของตนไปยังอีกกระดานเพื่อเทรดได้  Hardware Wallet อันไหนดี

ฟังก์ชันเพิ่มเติม

ขั้นต้น Hardware Wallet ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการเก็บเหรียญคริปโต

แต่ในบทความ Hardware Wallet อันไหนดีของเราก็มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมาย

นักลงทุนมักจะสามารถซื้อ, ขาย, Stake, และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลได้จากภายใน Wallet App

Hardware Wallet จำนวนมากยังรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม DeFi และยังสามารถจัดเก็บ NFT ได้อีกด้วย กล่าวคือ ไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานอีกต่อไป

Hardware Crypto Wallets vs Software Wallets

นักลงทุนมีสองตัวเลือกในการเก็บเหรียญคริปโต

ต่อไปนี้ เราจะพิจารณาความแตกต่างระหว่างทั้งสอง Wallet อย่างละเอียดยิ่งขึ้น

Software Wallet

Software Wallet คือแอพพลิเคชั่นที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ และอาจเป็นส่วนขยายของเบราว์เซอร์ได้ด้วย ซึ่งมีมากมายในตลาด

ส่วนใหญ่ดาวน์โหลดฟรีและใช้งานสะดวก ทุกคนสามารถเลือกได้ระหว่าง Custodial Wallet หรือ Non-custodial Software Wallet ขึ้นอยู่กับรูปแบบการลงทุนและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

ปัญหาคือรหัสส่วนตัวยังคงอยู่ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต จึงมีความเสี่ยงที่จะอาจถูกแฮ็กจากระยะไกลได้

Hardware Wallet

ผู้ใช้ควรพิจารณาจัดเก็บรหัสส่วนตัวไว้ใน Cold Wallet ทำให้ Hardware Wallet ถือเป็นตัวเลือกการจัดเก็บเหรียญที่ปลอดภัยที่สุด

Hardware Wallet ได้รับการปกป้องด้วยรหัส PINและรหัสกู้คืน หากมีคนครอบครองอุปกรณ์ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะรู้รหัสโดยไม่ต้องเดารหัส PIN

วิธีเลือกว่า Hardware Wallet อันไหนดีที่สุด

ให้เราอธิบายวิธีการเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ

เมื่อค้นหาว่า Hardware Wallet อันไหนดีที่สุด นักลงทุนก็สามารถพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้ได้ 

ความปลอดภัย 

เหตุผลหลักคือเรื่องความปลอดภัย โดยผู้ให้บริการบางรายก็มีกลไกด้านความปลอดภัยที่ดีกว่ารายอื่นๆ

ยกตัวอย่างเช่น มีผู้ให้บริการที่นำเสนอโซลูชันแบบ Air-gapped ซึ่งเป็นการป้องกันในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้

แต่ Air-gapped Wallet อาจใช้งานยุ่งยากไปบ้าง โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ เช่น Ledger Nano X Wallet ที่มีความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและฟังก์ชันการทำงานโดยไม่ไม่ได้ลดระดับความปลอดภัยลง

เหรียญที่รองรับ

สำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง จำนวนโทเค็นที่รองรับก็ถือเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญ

ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินเกือบทั้งหมดที่กล่าวถึงในวันนี้สนับสนุนโทเค็นมากกว่า 1,000 สกุล รวมถึงเหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดตอนนี้

ค่าธรรมเนียม

ผู้ใช้ควรคำนึงถึงราคาของ Hardware Wallet ด้วย

โดย Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในตลาดมีราคาอย่างต่ำ $100 ส่วนบาง Wallet เช่น NGRAVE Zero ก็มีราคาประมาณ 400 ดอลลาร์เลยทีเดียว

ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนที่จะตัดสินใจว่าจะจ่ายได้เท่าไหร่และคาดหวังคุณสมบัติอะไรใน Wallet นั้นๆ

โปรดทราบว่านี่เป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียว Hardware Wallet สามารถใช้งานได้หลายปีและราคาของอุปกรณ์นั้นก็คุ้มค่ากับการลงทุนเมื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยที่มอบให้

ประสบการณ์ผู้ใช้

Hardware Wallet อาจใช้ยากไปบ้าง

แต่การออกแบบ Hardware Wallet ก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และทุกวันนี้ อุปกรณ์ต่างๆ ก็ใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก

หลายๆ Crypto Hardware Wallet มาพร้อมกับหน้าจอสีขนาดใหญ่ และบางรุ่นยังมีการยืนยันตัวตนแบบ Biometric ซึ่งทำให้การยืนยันธุรกรรมง่ายยิ่งขึ้นไปอีก Hardware Wallet อันไหนดี

บทสรุป

Hardware Wallet อันไหนดี ใครมองหาการป้องกันระดับสูงสุดสำหรับเหรียญคริปโตควรพิจารณาว่า Hardware Wallet อันไหนดี โดย Bitcoin Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในปัจจุบันไม่เพียงแต่มีความปลอดภัยสูง แต่ยังใช้งานง่ายอีกด้วย 

สรุปแล้ว เราพบว่า Ledger Nano X เป็นส่วนผสมที่เหมาะสมที่สุดระหว่างความปลอดภัยและความสามารถในการใช้งาน

รองรับเหรียญดิจิทัลกว่า 5,500 สกุล พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธ และยังเชื่อมต่อกับแอพ Ledger Live ได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย และ Stake เหรียญคริปโตได้อย่างง่ายดาย

Categories
Crypto News กลุ่มคริปโต & Socials Media คู่มือคริปโต

จัดอันดับ 12 รวมเหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุด 2023 [แนะนำ!]

Pantip เป็นกระทู้หรือพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในการขอคำแนะนำด้านการลงทุน ซึ่งรวมถึงการพูดคุยเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มมักจะมีการคาดเดาราคาของเหรียญที่ดีที่สุด และมีผู้ที่ชื่นชอบการลงทุนในเหรียญที่แตกต่างกันมากมาย ส่งผลให้มีการพูดคุยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ดีอย่างมาก รวมไปถึงยังเป็นแหล่งรวมของในการแนะนำเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ที่จะเติบโตขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ในบทความนี้เราจะแนะนำเหรียญคริปโต pantip ที่ดีที่สุด จากแนวโน้มล่าสุดในการพูดคุยของชาว pantip และการสำรวจในกระทู้ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ บนแพลตฟอร์ม รวมไปถึงยังจะแสดงวิธีการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ ด้วยวิธีการที่มีค่าธรรมเนียมต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยเช่นกัน

12 เหรียญคริปโต pantip ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้

ก่อนที่เราจะเริ่มลงทุนหรือซื้อคริปโต pantip ควรทำความเข้าใจเสียก่อนว่าสกุลเงินดิจิทัลตัวไหนมีศักยภาพ และแนวโน้มการเติบโตมากที่สุด ซึ่ง 12 เหรียญคริปโตในรายการด้านล่างนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดตามคำแนะนำของ Pantip ในขณะนี้

  1. AiDoge (AI) – แพลตฟอร์มสุดล้ำที่เป็นกระสนบน Pantip ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อสร้างมีมที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโตที่น่าสนใจ AiDoge ทำให้ตัวเองแตกต่างจากโปรเจกต์อื่นๆ ด้วยรางวัล Stake และวิธีการที่มุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้เป็นหลัก
  2. Love Hate Inu (LHINU) – แพลตฟอร์มการลงคะแนนที่ขับเคลื่อนด้วย Blockchain ให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ Stake โทเค็น และรับรางวัลผ่านระบบ Vote to Earn
  3. Ecoterra (ECOTERRA) – โปรเจกต์รักษ์โลกที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการรีไซเคิลผ่านระบบนิเวศ Recycle2Earn แพลตฟอร์มนี้ยังประกอบด้วยตลาดวัสดุรีไซเคิล ตลาดชดเชยคาร์บอน และแพลตฟอร์มโซเชียลที่ติดตามผลกระทบได้
  4. Launchpad XYZ (LPX) – โปรเจกต์ที่ให้ตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลาย เช่น Utility Token, NFT, เกม P2E, และ ICO ทำให้กระบวนการง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนในการเข้าร่วมในระบบนิเวศ Web 3.0 ที่กำลังขยายตัว
  5. DeeLance (DLANCE) – แพลตฟอร์มที่มุ่งปฏิวัติอุตสาหกรรมฟรีแลนซ์โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อกระบวนการที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น และโปร่งใสมากขึ้น แพลตฟอร์มจะจัดเก็บข้อมูลบน Blockchain โดยใช้บัญชีเอสโครว์ที่ปลอดภัยและให้บริการโลก Metaverse สำหรับชุมชน การ Pre-sale ของโทเค็น DLANCE ก็เพิ่งเริ่มขึ้นไม่นาน
  6. yPredict (YPRED) – แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ตลาดคริปโตขั้นสูงและแพลตฟอร์มการรวบรวมข้อมูลในตลาดที่สนับสนุนโดยเทคโนโลยี AI ที่ทันสมัยและอินเทอร์เฟซการเทรดที่คล่องตัว
  7. RobotEra – เกมที่ให้ผู้เล่นซื้อ แลกเปลี่ยน และทรัพยากรในเกมและหุ่นยนต์ NFT โดยที่ TARO จะใช้บริหารเศรษฐกิจในโลก
  8. Tamadoge – Multi-Utility Token ของ Tamaverse อย่าง Tamadoge ที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมในเกม P2E และแข่งขันเพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็น TAMA
  9. Battle Infinity (IBAT) – ระบบเกม P2E ที่รวมเกมกับ NFT ไว้ในโลก Metaverse แพลตฟอร์มนี้จะให้ผู้ใช้สร้างทีมและต่อสู้กับผู้อื่นเพื่อชิงอันดับสูงสุดในลีกและรับรางวัลเป็นโทเค็นหลัก $IBAT
  10. Lucky Block (LBLOCK) – คาสิโนคริปโตอันดับต้นๆ ที่ลงทะเบียนง่ายๆ พร้อมเกมนับพันและโบนัสต้อนรับที่น่าดึงดูดใจ โดยให้บริการเกมสล็อตและสปอร์ตบุ๊คกีฬามากกว่า 2,700 รายการ
  11. Polkadot (DOT) – แพลตฟอร์มที่ให้แต่ละเครือข่ายแบ่งปันข้อมูล ปรับปรุงความสามารถในการขายเครือข่าย และโทเค็น DOT หลักจะใช้สำหรับการลงคะแนนเสียงและการ Stake
  12. Bitcoin (BTC) – เหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าตลาด โดยมีธุรกิจหลายพันแห่งทั่วโลกที่ยอมรับเป็นวิธีการชำระเงิน

ไปยังเหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุด

ทำความรู้จักกับเหรียญคริปโต pantip ที่ดีที่สุดอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น

4 ตัวเลือกของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ที่ได้กล่าวถึงไปในข้างต้น นับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเหรียญ ที่เราสามารถเลือกซื้อกันในช่วงเวลานี้จากคำแนะนำของ pantip ด้วยการมีทีมพัฒนาที่มีศักยภาพ และโอกาสในการเติบโตสูง ดังนั้น เราจะทำการเจาะลึกแต่ละเหรียญให้คุณได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลในการลงทุน ที่มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

1. AiDoge (Ai) – ใช้งานตัวสร้างมีม AI เพื่อเป็นประสบการณ์เหรียญคริปโตที่ไม่ซ้ำใคร

มีมกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์มอย่าง Pantip การเกิดขึ้นของ AiDoge ในตลาดจึงหมายถึงบทบาทใหม่สำหรับโลกแห่งมีม AiDoge รวบรวมความเป็นกระแสของอุตสาหกรรมคริปโตผ่านมีมที่ร่วมสมัย สนุกสนาน และมีน่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างขึ้นโดยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย

ณ เวลาปัจจุบัน สามารถซื้อโทเค็น $AI ด้วยราคาเพียง $0.000026 USDT ต่อหนึ่งโทเค็น โดยราคานี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.0000336 USDT

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ AiDoge คือระบบสร้างมีมอัตโนมัติ ผู้ใช้จะได้รับความสามารถในการสร้างมีมอย่างง่ายดายด้วยการแจ้งข้อความเป็นข้อความ AI ที่ซับซ้อนของแพลตฟอร์มใช้ข้อความแจ้งเหล่านี้เพื่อสร้างมีมตลกๆ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ที่ชื่นชอบคริปโต สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าคนที่มีหรือไม่มีความชำนาญในการสร้างมีมก็สามารถสนุกกับการสร้างมีมได้

AiDoge ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการ Pre-sale ในฐานะหนึ่งในเหรียญ AI ใหม่ล่าสุด ที่อาจมีความเสี่ยงที่สูงกว่าเหรียญคริปโตที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงมาเกี่ยวข้อง แต่ด้วยกระแสทางโซเชียลที่เพิ่มขึ้นของ AiDoge บนแพลตฟอร์ม Pantip ก็สามารถส่งผลในเชิงบวกต่อประสิทธิภาพของเหรียญได้ ชุมชนที่มั่นคงและมีคึกคักจะสามารถกระตุ้นความสนใจและความต้องการเหรียญให้เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของมูลค่าได้นั่นเอง

ตามเอกสารข้อมูล AiDoge โทเค็น $AI ถือเป็นกระดูกสันหลังของระบบนิเวศ AiDoge ผู้ใช้สามารถใช้โทเค็นนี้เพื่อซื้อเครดิตการสร้างมีมเพื่อสนับสนุนการเติบโตและความยั่งยืนของแพลตฟอร์ม สมาชิกชุมชนได้รับการสนับสนุนให้สร้างคอนเทนต์ไวรัลและโหวตมีมโดยใช้โทเค็น $AI ซึ่งสามารถใช้ซื้อเครดิตและ Stake เพื่อรับรางวัลรายวัน

กลไกการ Stake ของ AiDoge เป็นจุดดึงดูดที่สำคัญ เนื่องจากส่งเสริมความมุ่งมั่นในระยะยาว ผู้ใช้ที่ Stake โทเค็น $AI สามารถเข้าถึงรางวัลเครดิตรายวัน การมีสิทธ์รับเทมเพลตมีมใหม่ก่อนใคร การแข่งขันพิเศษ และฟีเจอร์ที่ได้รับการปรับปรุงทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ การ Stake อาจทำให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ออกเสียงในการกำกับแพลตฟอร์มอีกด้วย

ฟีดมีมของ AiDoge และระบบการโหวตมอบความเพลิดเพลินยิ่งขึ้นภายในแอพ มีมล่าสุดที่สร้างโดย AI จะจัดแสดงบนวอลล์สาธารณะ ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถแชร์ผลงานการสร้างสรรค์ของพวกเขา สำรวจผลงานของผู้อื่น และโหวตในหัวข้อต่างๆ บนวอลล์สาธารณะ โดยการโหวตชอบหรือไม่ชอบในมีมจะช่วยให้ผู้ใช้ได้เพิ่มความโดดเด่นให้ผู้สร้างมีมและเพิ่มรางวัลที่ได้รับ

หากต้องการรับข้อมูลเกี่ยวกับการอัพเดตล่าสุดบนแพลตฟอร์ม คุณสามารถเข้าร่วมชุมชน AiDoge Telegram ได้

เพดานเงินทุน$14,900,000
โทเค็นทั้งหมด1 ล้านล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์500 พันล้าน
Blockchainเครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็นERC-20
ซื้อขั้นต่ำ100 โทเค็น
ซื้อด้วยUSDT, ETH, BNB, บัตรเครดิต

ไปยัง AiDoge Presale

2. Love Hate Inu (LHINU) – เหรียญคริปโต pantip แบบ Vote to Earn ที่น่าซื้อในตอนนี้

แม้ว่าโทเค็นมีมและเหรียญที่มีประโยชน์จริงจะไปด้วยกันไม่ได้ แต่ Love Hate Inu จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการเหรียญคริปโตด้วยแพลตฟอร์ม Vote to Earn

$LHINU เป็นเหรียญหลักของ Love Hate Inu และระดมทุนไปได้แล้ว $120,000 ในวันแรกของพรีเซล ตอนนี้ระดมทุนได้มากกว่า 7.5 ล้านเหรียญในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ เพราะให้ผู้ใช้ได้ Stake โทเค็น ทำให้การโหวตเป็นไปอย่างไม่เปิดเผยตัวตนในหัวข้อระดับโลกและรับรางวัล แล้วแพลตฟอร์มทำงานอย่างไรกันแน่? 

Love Hate Inu คืออะไร? 

Love Hate Inu เป็นแพลตฟอร์มโหวตบน blockchain แห่งแรกของโลกที่ให้ผู้ใช้เข้าร่วมการโหวตแบบออนไลน์

ด้วยการสร้างบน Ethereum blockchain สัญญาอัจฉริยะของ Love Hate Inu ก็ได้รับการทดสอบมาอย่างดี โดยเอกสารข้อมูลของโปรเจกต์อธิบายว่าจะมีองค์ประกอบ 3 อย่างหลักๆ โดยอย่างแรกคืออินเทอร์เฟซ ซึ่งผู้ใช้สามารถโหวตได้แบบเรียลไทม์ตามหัวข้อต่างๆ ได้แก่ การเมือง ความบันเทิง และปัญหาระดับโลก

โดยผ่านการส่งผลโหวตในแพลตฟอร์ม ที่ให้ผู้ใช้ได้ส่งผลโหวตใหม่บนแพลตฟอร์ม และยังมีหน้าแดชบอร์ดที่ได้รับการจัดการเพื่อให้ผลโหวตเป็นไปอย่างปลอดภัย

Stake-to-Vote 

ผู้เล่นจะต้อง Stake โทเค็น $LHINU ของตนบนแพลตฟอร์ม Vote to Earn เพิ่มเข้าร่วม โดย Love Hate Inu อธิบายไว้ว่าโทเค็นจะต้องถูก Stake อย่างน้อย 30 วัน

ผู้ใช้สามารถโหวตในหัวเรื่องต่างๆ และรับโทเค็น $LHINU เป็นรางวัล โดยแต่ละโพลจะถูกให้ทุนโดยครีเอเตอร์ ซึ่งจะแจกโทเค็นให้กับคนโหวตแต่ละคน โดยยิ่ง Stake มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคะแนนเสียงมากขึ้นเท่านั้น 

ซื้อ $LHINU ในช่วงพรีเซล

Love Hate Inu มุ่งเน้นไปที่การสร้างความเชื่อใจและเปิดขายโทเค็นมากมายในช่วงพรีเซล จากทั้งหมด 100 พันล้านโทเค็น โดย 90 พันล้านโทเค็นจะถูกขายในพรีเซลทั้ง 8 รอบ โดยจะแบ่งขาย 11.25 พันล้านโทเค็นในแต่ละรอบ ซึ่งคล้ายกันกับเหรียญมีมที่ประสบความสำเร็จ เช่น Tamadoge โดย Love Hate Inu ก็ได้เป็นเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุดเรียบร้อย

แต่ละรอบของการ Pre-sale จะแจกจ่าย 11.25 พันล้านโทเค็นและจะใช้เวลา 7.5 วัน โดยกำหนดวันปิดการขายในวันที่ 24 พฤษภาคม

เช่นเดียวกับโทเค็นมีมที่ประสบความสำเร็จอื่นๆ เช่น Tamadoge ซึ่ง Love Hate Inu ก็ได้กลายเป็นหนึ่งเหรียญคริปโต Pre-sale ที่ดีที่สุดแล้วเรียบร้อย ปัจจุบันโทเค็นมีราคาอยู่ที่ $0.000145 ในรอบสุดท้าย 

เข้าร่วมกลุ่ม Telegram เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญคริปโตนี้ 

เริ่มพรีเซล8 มีนาคม 2023
การชำระเงินETH, USDT, บัครเครดิต
เชนEthereum
เพดานเงินทุน$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale

3. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตรักษ์โลกบน Pantip ที่น่าซื้อที่สุดในปี 2023

Ecoterra ได้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ใน Pantip สำหรับเหรียญ altcoin ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด

Ecoterra เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตรักษ์โลก เนื่องจากมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน โดยให้รางวัลแก่ผู้คนสำหรับการรีไซเคิลผ่านระบบนิเวศของ Recycle2Earn

โปรเจกต์นี้ได้สร้างโซลูชันที่ก้าวล้ำซึ่งให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการรีไซเคิลสิ่งของของตน โดยมอบแรงจูงใจที่เพียงพอให้พวกเขาช่วยสร้างประโยชน์ในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากการให้รายได้แก่ผู้ใช้โดยการรีไซเคิลแล้ว Ecoterra ยังมีตลาดวัสดุรีไซเคิล ตลาดชดเชยคาร์บอน และแพลตฟอร์มโซเชียลที่ติดตามผลงานได้ในแอพพลิเคชัน แพลตฟอร์มดังกล่าวมีความตั้งใจที่จะสร้างโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ซึ่งจะช่วยให้โลกมีความยั่งยืนมากขึ้น

คอนเซ็ปต์ของ Recycle2Earn นั้นแปลกใหม่ โดยนำส่วนต่างๆ จาก play-to-earn และ move-to-earn เพื่อพัฒนาภาค GameFi ใหม่ แพลตฟอร์มนี้ทำให้ผู้ใช้ได้รับรายได้จากการรีไซเคิลผ่านขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ที่ระบุไว้ในแอพพลิเคชันได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

ขั้นตอนแรกคือการสแกนผลิตภัณฑ์ที่กำลังรีไซเคิล เพื่อค้นหาข้อมูลที่ตรงกันในฐานข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Ecoterra

ถัดมา แอพพลิเคชันจะแนะนำเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) ที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้ผู้ใช้ไปรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ของตน เมื่อรีไซเคิลแล้ว ผู้ใช้ต้องถ่ายรูปใบเสร็จและอัปโหลดไปยังแอพพลิเคชันเพื่อรับรางวัล

โปรเจกต์กำลังจัด Pre-sale โทเค็นหลัก ECOTERRA ซึ่งจะใช้เป็นเหรียญสำหรับระบบนิเวศและจำเป็นในการทำธุรกรรมทั้งหมดบนแอพพลิเคชัน นอกจากนี้ยังจะเป็นแหล่งรางวัลหลักสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับรางวัลบนแพลตฟอร์มผ่านการรีไซเคิล

รอบแรกของการ Pre-sale เพิ่งเปิดตัวไป ด้วยโทเค็นราคา $0.007 ดอลลาร์ พร้อมกลไกการกำหนดราคาที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ – เมื่อถึงรอบที่ 9 และรอบสุดท้าย โทเค็นจะมีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 0.01 ดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ลงทุนก่อนหน้านี้จะได้รับประโยชน์ จากราคาที่ถูกลง

จากอุปทานสูงสุด 2 พันล้านโทเค็น 50% ของโทเค็นจะขายในช่วง Pre-sale โดยไม่มีช่วงให้สิทธิ์ และมูลค่าสูงสุด 6.7 ล้านดอลลาร์ ระดมทุนได้มากกว่า $600,000 ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ และนักลงทุนยังสามารถใช้ประโยชน์จากโปรแกรมแนะนำเพื่อน USDT 5% ได้อีกด้วย

Ecoterra ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยทีมงานที่ผ่านการรับรองและยืนยัน KYC ได้สร้างโซลูชันใหม่ที่มีศักยภาพในการกระตุ้นให้ผู้คนรีไซเคิลและผลักดันโลกไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

กลุ่ม Ecoterra Telegram ยังมีข่าวล่าสุดและเอกสารข้อมูลก็มีข้อมูลเพิ่มเติม และเราก็ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีซื้อโทเค็น ECOTERRA เอาไว้เช่นกัน

ไปยัง Ecoterra Presale ตอนนี้

4. Launchpad XYZ – เพิ่มความคล่องตัวในการเข้าถึง Web 3.0 ผ่านการลงทุนที่หลากหลายในโทเค็น, NFT, เกม, และ ICO

Launchpad XYZ เป็นโปรเจ็กต์มาใหม่ขึ้นซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Pantip โปรเจกต์นี้ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติวิธีที่นักลงทุนที่มีระดับทักษะต่างกันมีจะสามารถเข้าใช้งานตลาด Web 3.0 

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการลงทุนในโลกแบบ Decentralized ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึง Utility Token, NFT, เกม Play to Earn, และการเสนอขายเหรียญ (ICO)

ในช่วง Pre-sale ปัจจุบัน นักลงทุนสามารถรับโทเค็น $LPX ได้ในราคาเพียง $0.035 USDT ต่อเหรียญ การ Pre-sale จะมีทั้งหมด 10 รอบ โดยราคาจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึง $0.07 USDT ต่อโทเค็นเมื่อเหรียญถูกลิสต์

เครื่องมือ Launchpad Quotient สุดล้ำของแพลตฟอร์มช่วยให้ผู้ใช้สำรวจตลาดคริปโตที่ซับซ้อนโดยให้ข้อมูลเชิงลึกและเทคนิคที่ล้ำสมัย

แพลตฟอร์มนำ Decentralized Exchange (DEX) สำหรับการแลกเปลี่ยนโทเค็นและการซื้อขาย NFT, ICO ส่วนตัว, การทดสอบเบต้าของเกม Play to Earn, และโอกาสการลงทุนแบบสัดส่วนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์และรถยนต์สุดหรู

เมื่อใช้ DEX ของ Launchpad XYZ ผู้ใช้สามารถได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยและความง่ายดายของการแลกเปลี่ยนแบบ Decentralized และยังลดความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างกะทันหันผ่านการใช้งานเลเวอเรจ

การซื้อโทเค็นในช่วง Pre-sale ของ Launchpad XYZ จะให้นักลงทุนสามารถประหยัดเงินได้ก่อนที่โทเค็นจะขายบนกระดานแลกเปลี่ยน แต่การเปิดขายเหรียญในกระดานเทรดคริปโตก็อาจทั้งสร้างกำไรหรืออาจทำให้ขาดทุนจำนวนมากได้ ตัวอย่างเช่น Tamadoge ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง หลังจากประสบความสำเร็จในการ Pre-sale เพื่อให้ตัดสินใจอย่างมีข้อมูล ให้เริ่มจากการประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อน

ตามที่ระบุไว้ในเอกสารข้อมูล Launchpad XYZ โทเค็น $LPX ทำหน้าที่สองอย่างในฐานะวิธีการชำระเงินและสินทรัพย์ภายในระบบนิเวศของโปรเจกต์ ผู้ใช้สามารถ Stake โทเค็น LPX สำหรับการขยายตัวในอนาคตและเพื่อลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเมื่อได้รับสินทรัพย์แบบสัดส่วน การครอบครองโทเค็น $LPX ยังทำให้ค่าธรรมเนียมลดลงสำหรับนักเทรด Launchpad DEX

หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดใจหลักของ Launchpad XYZ คือโอกาสในการถือหุ้นส่วนน้อยเพื่อหวังผลกำไร สุดท้ายนี้ คุณสามารถเข้าร่วมกลุ่ม Launchpad Telegram สำหรับการอัพเดตการพัฒนาล่าสุด

เพดานเงินทุน$12,500,000
โทเค็นทั้งหมด1 พันล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์250 ล้าน
Blockchainเครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็นERC-20
ซื้อขั้นต่ำ100 โทเค็น
ซื้อด้วยUSDT, ETH, BNB, บัตรเครดิต

ไปยัง Launchpad XYZ  ตอนนี้

5. DeeLance – เหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุดที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงวงการฟรีแลนซ์

DeeLance เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุดเนื่องจากจะเปลี่ยนวิธีการเข้าหางานฟรีแลนซ์สำหรับธุรกิจและคนทั่วไป

แพลตฟอร์มดังกล่าวถูกจะนำโลกของการจ้างงานมาสู่ Web3 โดยยกเลิกการใช้ตัวกลางราคาแพงและใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อทำให้กระบวนการฟรีแลนซ์รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และโปร่งใสมากขึ้น

ด้วย DeeLance ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บไว้ใน Blockchain และสามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ รวมถึงระบบความคิดเห็นที่ได้รับการตรวจสอบแบบ peer-reviewed ซึ่งช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถอ้างอิงได้ว่ากำลังจะทำธุรกิจกับใคร

นายจ้างสามารถตรวจสอบได้ว่าฟรีแลนซ์มีประวัติที่ดีในการส่งมอบงานที่ดีตรงเวลาหรือไม่ และบุคคลสามารถตรวจสอบได้ว่าธุรกิจมีความยุติธรรมและพร้อมรับการชำระเงินหรือไม่

DeeLance จะใช้บัญชีเอสโครว์ที่ปลอดภัยเพื่อรับประกันว่าฟรีแลนซ์จะได้รับเงินสำหรับบริการที่พวกเขาทำ โดยเอสโครว์จะปลอดภัยบน Blockchain จนกว่างานจะเสร็จสิ้นตามข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้

แพลตฟอร์มดังกล่าวจะยกเลือกตัวกล่งที่อาจจำกัดศักยภาพในการหารายได้ของฟรีแลนซ์ โดย DeeLance สัญญาว่าจะให้ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นต่ำกว่าคู่แข่งยอดนิยมของ Web2

การชำระเงินจะทำผ่านเหรียญคริปโตทำให้ไม่เปลี่ยนแปลงและปลอดภัย แต่ก็รวดเร็วเกือบจะทันทีและกำจัดความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหรือจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม

งานที่เสร็จสมบูรณ์จะเปลี่ยนเป็น NFT และจัดเก็บไว้ใน Blockchain ช่วยให้เกิดความชัดเจนในการเป็นเจ้าของและป้องกันการฉ้อโกงการชำระเงินหรือการละเมิดลิขสิทธิ์ที่อาจเกิดขึ้น

DeeLance ยังสร้าง Metaverse ของตัวเองซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับชุมชนของตน โดยผู้ใช้สามารถใช้เวลาในพื้นที่ชุมชนเพื่อสร้างเครือข่ายหรือทำงานร่วมกันกับผู้ใช้รายอื่น หรือซื้อที่ดินเสมือนและสร้างสำนักงานเพื่อจัดการประชุม ตลอดจนลงโฆษณาเกี่ยวกับงานของตนเอง

การ Pre-sale ของโทเค็น DLANCE เพิ่งเริ่มต้นขึ้น โดยโทเค็นกำลังมีราคาอยู่ที่ $0.029 ดอลลาร์ในรอบปัจจุบัน – โทเค็นดังกล่าวจะมอบประโยชน์มากมายภายในโปรเจกต์ ซึ่งจะถูกใช้เพื่อชำระค่าบริการรวมถึงสกุลเงินใน metaverse

ในรอบที่ 6 และรอบสุดท้าย โทเค็นจะขายในราคา $0.035 โดยโปรเจกต์จะคิดเป็น 30% ของอุปทาน 1 พันล้านรายการ โดยไม่มีระยะเวลาให้สิทธิ์ และกำหนดเป้าระดมทุนไว้ที่ 6 ล้านดอลลาร์ ขณะนี้ระดมทุนได้แล้วกว่า 537,000 ดอลลาร์ พร้อมเสนอโปรแกรมแนะนำเพื่อน USDT

โปรเจกต์นี้ยังได้รับการพัฒนาโดยทีมงานที่ได้รับการตรวจและยืนยัน KYC หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ DeeLance โปรดอ่านเอกสารข้อมูล หรือเข้าร่วมกลุ่ม Telegram

เริ่มพรีเซลล์30 มีนาคม
วิธีการซื้อETH, USDT, บัตรเครดิต
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ$10
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

6. yPredict – เพิ่มขีดความสามารถให้กับเทรดเดอร์ด้วยการวิเคราะห์ตลาดคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการรวบรวมข้อมูลขั้นสูง

yPredict เป็นแพลตฟอร์มที่ให้การวิเคราะห์ crypto ที่ซับซ้อน ความสามารถในการรวบรวมข้อมูล และอินเทอร์เฟซการเทรดที่ราบรื่น การใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และวิธีการต่างๆ ของ AI โดยทาง yPredict ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญ AI เพื่อสร้างแบบจำลองการคาดการณ์แนวโน้มราคาที่แม่นยำ

ในช่วงพรีเซลล์ คุณสามารถลงทุนในโทเค็น $YPRED แต่ละเหรียญได้ในราคา $0.05 USDT โดยโทเค็นจะขึ้นราคาในรอบถัดไปเป็น $0.07 USDT ยิ่งไปกว่านั้น ราคาพรีเซลที่ $0.10 USDT นั้นน่าดึงดูดใจกว่าเมื่อเทียบกับราคาลิสเหรียญเข้ากระดานที่ $0.12 USDT

นักคณิตศาสตร์การเงินและผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์แนวโน้มราคาของ yPredict โดยกล่าวถึงภาคส่วนการเทรดแบบอัลกอริทึมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โมเดลเหล่านี้ใช้เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของตลาดและการประเมินมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ

yPredict ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินความเชื่อมั่นของโทเค็นหลายรายการพร้อมกัน และตัวบ่งชี้การเทรดอัตโนมัติของแพลตฟอร์มและการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้ข้อได้เปรียบเพิ่มเติม การใช้อัลกอริธึมการจดจำรูปแบบเฉพาะของ yPredict กับแผนภูมิจะตรวจจับทั้งแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นและลดลง

ตามที่ระบุไว้ในเอกสารข้อมูล yPredict โทเค็น $YPRED สามารถ stake เหรียญเพื่อสร้างแหล่งรายได้แบบพาสซีฟ โดยอัตราการแจกจ่ายปัจจุบันสำหรับผู้ถือโทเค็นคือ 10% ของค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิก

ในช่วงพรีเซลล์ โทเค็นจะถูกปลดล็อกในอัตรา 50% ที่งาน Token Generation (TGE) โดยมียอดสูงสุด 6.5 ล้านดอลลาร์ ปริมาณอุปทานโทเค็นทั้งหมดถูกจำกัดไว้ที่ 1 พันล้าน

สัญญาสมาร์ทโทเค็น yPredict ได้ผ่านการตรวจสอบโดย Coinsult และได้รับการพัฒนาบนบล็อกเชน Polygon ที่คล่องตัวโดยทีมงานที่โปร่งใสและตรวจสอบ KYC อย่างสมบูรณ์

รับข่าวสารโดยเข้าร่วมช่อง yPredict Telegram สำหรับการอัปเดตล่าสุด

เริ่มพรีเซลไตรมาสที่ 1 2023
วิธีชำรเงินMATIC, ETH, BNB, USDT, Card
เชนPolygon
จำนวนซื้อขั้นต่ำ200 YPRED
จำนวนซื้อสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง yPredict ตอนนี้

7. RobotEra – โทเค็น Metaverse หลายมิติใหม่ที่เปิดตัวขายพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน 2022

ข่าวรายงานอุตสาหกรรมคริปโตจาก DappRadar ระบุว่าโทเค็นเกมคริปโต นั้นแข็งแกร่งกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ ในช่วงตลาดซบเซาปี 2022

ซึ่งเหรียญคริปโตขนาดใหญ่ตัวต่อไปที่เป็นไปได้ในตลาดขนาดใหญ่นั้นคือ TARO ซึ่งเป็นคริปโตเคอเรนซี่หลักของโครงการเกม RobotEra sandbox

ในตอนนี้ กำลังเปิดขายพรีเซลรอบแรก จากทั้งหมดสามรอบ โดยโทเค็น TARO จะใช้สำหรับบริหารเศรษฐกิจในโลกของ metaverse หลายมิติของ ในระบบนิเวศของ RobotEra ผู้เล่นจะซื้อและแลกเปลี่ยน Robot NFT และที่ดินเสมือนจริง โลกของ RobotEra ประกอบด้วย 7 ทวีป – ที่ซึ่งผู้เล่นสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิง สำรวจภูมิภาคต่างๆ และรับรางวัลในเกมจากการขุด การโฆษณา และการแลกเปลี่ยน

โทเค็น TARO ช่วยให้ผู้เล่นสามารถซื้อ Robot NFTs ที่ดินที่สร้างขึ้นแบบดิจิทัล และแม้แต่เหมืองแร่ ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน utility token ที่มีแนวโน้มดีมากที่สุด ทาง RobotEra มีศักยภาพที่จะเป็น The Sandbox ตัวต่อไป – ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,000 เท่าในช่วง ICO (การเสนอขายเหรียญเริ่มต้น)

RobotEra ยังเป็นโครงการ LBank Labs ซึ่งดึงดูดนักลงทุนคริปโตReddit ที่ต้องการศึกษาภูมิหลังและศักยภาพในการเติบโตของโครงการในเชิงลึก

นักลงทุนรายแรกๆสามารถซื้อ RobotEra ในรอบพรีเซลล์รอบแรกได้ในราคาเพียง 0.020 USDT เท่านั้น จากอุปทานคงที่ 1.8 พันล้านถึง 270 ล้าน โทเค็นจะถูกแบ่งขายในสามรอบของการพรีเซล โดยการขายพรีเซลของ TARO มีเป้าหมายอยู่ที่ 6.93 ล้านดอลลาร์ และได้ระดมทุนไปแล้วกว่า $1.1 ล้าน ณ ตอนนี้

เข้าร่วมช่อง RobotEra Telegram และอ่านเอกสารข้อมูล RobotEra เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ

พรีเซลเริ่มต้นไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase MethodsETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ1,000 TARO
ลงทุนสูงสุดN/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

8. Tamadoge – เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ตัวใหม่ ที่สิ้นสุดพรีเซลไปไม่นานมานี้

เหรียญตัวแรกที่เราจะแนะนำให้ในวันนี้ คือ Tamadoge เหรียญคริปโตเคอเรนซี่และโทเค็นอเนกประสงค์จาก Tamaverse โดยในการสร้างรายได้จาก Tamadoge จะสามารถทำได้ในลักษณะของการเล่นเกม P2E และการแข่งขันเพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็น TAMA

โปรเจกต์นี้ได้เปิดตัวเกม Tamadoge Arcade ทั้งหมดในระบบแล้ว – Super Doge, Rocket Doge, To The Moon, Tama Blast และ Tamadoge Run – สู่ความสำเร็จและความตื่นเต้นครั้งใหญ่ในชุมชน โดย TAMA ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 30% นับตั้งแต่เริ่มต้นปีได้ไม่นาน

โดยเกมบนแพลตฟอร์มนั้นทั้งน่าติดตามและสนุกสนาน ซึ่งมีทั้งแบบเล่นฟรีและ play-to-earn และให้ผู้เล่นคว้ารางวัลรายสัปดาห์และรายเดือนด้วยการสะสมเหรียญเพื่อให้กลายเป็นที่หนึ่งในกระดานผู้นำ

เกมหลักของ Tamadoge ซึ่งจะวางจำหน่ายในปลายปีนี้จะให้ผู้เล่นสร้าง ผสมพันธุ์สัตว์ และซื้อขายสุนัขเสมือน ซึ่งรู้จักกันในชื่อสัตว์เลี้ยง Tamadoge

สัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะถูกสร้างเป็น NFT ผ่านสัญญาอัจฉริยะและสามารถซื้อได้บน OpenSea สัตว์เลี้ยงแต่ละตัว NFT มีลักษณะเฉพาะ ข้อดีและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน และราคาขั้นต่ำสำหรับสัตว์เลี้ยงระดับ Ultra-Rare (ซึ่งมีค่าสถานะที่สูงที่สุด) คือ 2 ETH

ผู้ใช้ต้องเสริมความแข็งแกร่งและเติบโตสัตว์เลี้ยงของตนเมื่อเวลาผ่านไปก่อนที่จะนำไปแข่งขันกับชุมชนเพื่อรับคะแนนบนกระดานผู้นำรายเดือน จากนั้นจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น TAMA

ที่สำคัญสำหรับโปรเจ็กต์มีมนี้ TAMA มี tokenomics ที่มั่นคงซึ่งทำให้แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Dogecoin และ Shiba Inu

โดยมีอุปทานสูงสุดเพียง 2 พันล้านโทเค็นและยังเป็นทรัพย์สินที่จะมีอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดย 5% ของโทเค็นที่ใช้ที่ร้านสัตว์เลี้ยง (ซึ่งเป็นที่ซื้อทรัพย์สินในเกม) จะถูกเผา

ในที่สุด Tamadoge จะให้บริการแอพ Augmented Reality (AR) แก่ผู้ใช้ ซึ่งจะคงฟีเจอร์ P2E ของเกมบนเว็บไว้

TAMA ทำ All Time High ที่ 0.194 ดอลลาร์เมื่อเปิดตัวครั้งแรก และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทะลุแนวต้านในปี 2023 โดยคาดว่าสภาวะตลาดจะดีขึ้น

คุณสามารถติดตามช่อง Tamadoge ทาง Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Tamadoge 

แอดมินจะไม่ติดต่อหรือ DM หาคุณก่อน

ไปยังเกม Tamadoge  ตอนนี้

9. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโต pantip ตัวใหม่ที่ดีที่สุด และกำลังมาแรงในขณะนี้

เมื่อพูดถึงเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุด ที่น่าซื้อบน pantip หนึ่งในเหรียญที่พอจะนึกถึงได้ ก็คือ Battle Infinity ที่ถึงแม้จะเป็นเพียงเกมใหม่เพิ่งเปิดตัว แต่กระแสระบบการเล่นเกม play-to-earn (P2E) บนโซเชียลมีเดียที่ได้เพิ่มมากขึ้นด้วยการเปิดตัวของกลุ่ม Telegram ที่ใช้เป็นช่องทางการสื่อสารของสมาชิกชุมชน เพื่อใช้ในการปรึกษาเกี่ยวกับตัวเหรียญโดยตรง (ในการสื่อสารช่องทางนี้แอดมิน จะไม่ทำการติดต่อหาคุณก่อนหากคุณไม่ได้เริ่มการสนทนา) 

Battle Infinity เป็นแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชน ที่รวมตัวเกม P2E เข้ากับ NFT บนโลก Metaverse  ไอเท็มต่าง ๆ ภายในเกม ถูกขนานนามว่าเป็น NFT น่าลงทุนที่สุด ซึ่ง NFT เหล่านี้สามารถนำไปขายในตลาด NFT ภายในแพลตฟอร์ม ซึ่งไอเท็มในเกม ที่ดินเสมือน หรือแม้กระทั่งตัวผู้เล่น ต่างก็เป็น NFT ภายในเกมกีฬา Battle Infinity นี้ 

ตัวเกมนี้จะให้ผู้เล่นสามารถสร้างทีมและต่อสู้กับผู้อื่น เพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดภายในลีก โดยผู้ใช้งานสามารถรับรางวัลเป็น $IBAT ที่เป็นโทเค็นหลักของ Battle Infinity ซึ่งโทเค็นเหล่านี้จะสามารถทำการส่งต่อให้ผู้อื่นได้ผ่านทาง Battle Swap ที่เป็นฟีเจอร์ของระบบ

นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้งานคริปโต Staking และคุณสมบัติของ P2E ภายในระบบของตัวเกม ให้คุณสามารถทำทุกอย่างได้อย่างครบครันภายในแพลตฟอร์ม ในแง่ของความน่าเชื่อถือ ทาง Battle Infinity ได้รับการตรวจสอบ KYC จาก CoinSniper และยังได้รับการรับรองจาก SolidProof.io ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยของเยอรมนีอีกด้วย

การขายพรีเซลของ Battle Infinity ขายหมดภายใน 24 วัน และราคา IBAT ดีดตัวสูงขึ้น หลังจากได้รับการลิสบนกระดานเทรดคริปโต ด้วยมูลค่าตลาด 40 ล้านดอลล่าร์ และจะลิสบนกระดานเทรดอื่นในเร็วๆนี้ ทำให้ IBAT เป็นอีกเหรียญที่มีโอกาสเติบโตสูง

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

10. Lucky Block (LBLOCK) – เหรียญคริปโต pantip ที่มีโอกาสเติบโตสูง

อีกตัวเลือกสำหรับเหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุดคือ Lucky Block ซึ่งเป็นหนึ่งในคาสิโนคริปโตที่ดีที่สุด ในตลาดที่เสนอการลงทะเบียนอันง่ายดาย พร้อมเกมนับพันและโบนัสต้อนรับที่น่าดึงดูด

ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมสล็อตมากกว่า 2,700 เกม เช่นเดียวกับคาสิโนคลาสสิกดั้งเดิม เช่น โป๊กเกอร์ รูเล็ต และแบล็คแจ็ค พร้อมดีลเลอร์สดและแบบเสมือน

Lucky Block ยังมีสปอร์ตบุ๊คชั้นนำที่มีตลาดก่อนเกมและระหว่างเล่นหลายพันรายการตั้งแต่ NBA, NFL และ Premier League ไปจนถึง Kabbadi และอีสปอร์ต

ไม่จำเป็นต้องมีการยืนยัน KYC ในการลงทะเบียน และผู้เล่นสามารถดำเนินการได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาทีด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง $1 แม้ว่าบางคนจะต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์ม

ผู้เล่นใหม่จะได้รับเงินฝากครั้งแรก 200% (สูงสุด 10,000 ยูโร) บวก 50 ฟรีสปินกับเกมสล็อตชั้นนำอย่าง Dead or a Wild

ทั้งยังรองรับเหรียญคริปโตมากมาย – รวมถึง BTC, ETH และ DOGE – พร้อมโทเค็น LBLOCK หลักที่จะเพิ่มในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

มูลค่า LBLOCK เพิ่มขึ้นเกือบ 80% หลังจากเปิดตัวคาสิโนและยังเป็นเหรียญที่อุปทานจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไปด้วยการเผาโทเค็น 1% ทิ้งต่อเดือน

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

11.Polkadot (DOT) – เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีศักยภาพการทำงานร่วมกันกับโปรโตคอลในระยะยาว

ถ้าคุณกำลังมองหาเหรียญคริปโต pantip ที่ดีที่สุดและมีศักยภาพในระยะยาวแล้ว Polkadot ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย โดย Polkadot เป็นหนึ่งใน altcoins ที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาการทำงานร่วมกันกับโปรโตคอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เครือข่ายบล็อคเชนมีปัญหามาตลอดหลายปี ด้วยการเป็นเครือข่ายแบบ multi-chain Polkadot จะช่วยให้แต่ละเครือข่ายสามารถแบ่งปันข้อมูลกันได้ ช่วยให้การปรับเปลี่ยนขนาดของแต่ละเครือข่ายพัฒนาไปได้ดีมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ Polkadot ยังอนุญาตให้เจ้าของแต่ละเครือข่าย ควบคุมการทำงานได้ตามความเหมาะสม ช่วยให้เครือข่ายสามารถได้รับประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ในขณะที่ยังคงความเป็นอิสระของแต่ละเครือข่ายไว้ได้ โดยโทเค็นดั้งเดิมของ Polkadot คือ DOT ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในระบบ เนื่องจากถูกใช้สำหรับการลงคะแนนเสียงและการใช้เป็นตัวค้ำประกัน และจากการนักพัฒนามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้ dApps มีความสามารถในการทำงานมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ Polkadot จัดว่ามีความั่นคงในอนาคตเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน

ซื้อ Polkadot ตอนนี้

คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

12. Bitcoin (BTC) – ผู้นำของเหรียญคริปโคเคอเรนซี่ ที่สามารถซื้อขายได้ในราคาที่กำลังลดลง

Bitcoin เป็นตัวที่ไม่จำเป็นจะต้องแนะนำมากนัก จากการเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการวัดจากมูลตลาดตาม CoinMarketCap โดยแม้ว่าราคาของ BTC จะค่อนข้างมีความผันผวนในช่วงตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ส่วนพื้นฐานต่าง ๆ ก็ยังนับว่ามีความคงที่ ทำให้มีธุรกิจมากกว่า 15,000 แห่งทั่วโลกยอมรับให้สามารถชำระเงินได้ Bitcoinในขณะที่ยังคงมีตู้ ATM กว่า 14,000 เครื่อง ที่เปิดให้บริการเกี่ยวกับ Bitcoin อีกด้วย

ตัวเลขเหล่านี้เน้นย้ำให้เห็นได้ถึงการเข้าถึงมากมายใน BTC ทั่วโลก ซึ่งจะเติบโตต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Bitcoin ได้รับการสนับสนุนอย่างมากใน Reddit ด้วยการมีในกลุ่ม Bitcoin subreddit มากกว่า 4 ล้านคน และมีความคิดเห็นในเชิงบวกมากมาย แม้จะเผชิญกับการขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ โดยมีชาว Reddit หลายคนมีความเห็นว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน BTC จากราคาซื้อขายในตลาดที่กำลังลดลง

ซื้อ Bitcoin ตอนนี้

คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

แหล่งซื้อคริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุด

จากที่เราได้แนะนำไปน่าจะทำให้คุณได้รู้จักกับคริปโต pantip ที่น่าสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นต่อมาเราจึงควรทำความรู้จักกับขั้นตอนในการซื้อกันได้แล้ว โดยจากที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Lucky Block และ DeFi Coin จัดเป็นตัวเลือกที่มีคนกล่าวถึงมากที่สุดบน pantip ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะไม่สามารถซื้อผ่านตัวกลางแบบ Cetralized ได้ ดังนั้น หากคุณต้องการซื้อ Lucky Block หรือ DeFi Coin คุณก็จะต้องใช้ DEX อย่าง PancakeSwap ในการซื้อ

อย่างไรก็ตาม หากคุณสนใจสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ในบทความนี้ เราอยากจะแนะนำให้คุณใช้งานโบรกเกอร์ ที่มีการควบคุมด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดอย่าง 

eToro – แหล่งซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุด

eToro ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จากการมีผู้ใช้งานลงทะเบียนมากกว่า 24 ล้านคน ที่สำคัญตัวแพลตฟอร์มก็ยังมีกฎระเบียบที่มีมาตรฐาน และยังอยู่ภายใต้การดูแลของ FCA, ASIC, CySEC, FinCEN และ FINRA อีกด้วย

หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจของ eToro คือ โครงสร้างการเก็บค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส โดยเมื่อคุณทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ทาง eToro จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคงที่ 1% (บวกกับค่าสเปรด) ซึ่งในการเริ่มต้นการลงทุน eToro จะอนุญาตให้สามารถเปิดได้ที่ 10 ดอลล่าร์ ส่งผลให้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นการลงทุนในงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก และจากการที่ eToro มีสกุลเงินที่ซื้อและขายได้มากกว่า 60 สกุล ก็ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว 

eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากหรือการสมัครสมาชิกแบบรายเดือน รวมไปถึงยังมีเกณฑ์ในการฝากขั้นต่ำอยู่เพียง 10 ดอลล่าร์เพียงเท่านั้น โดยในการเติมเงินเข้าสู่บัญชีคุณจะสามารถทำได้ง่ายดาย ด้วยการใช้งานบัตรเครดิตหรือเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการใช้งาน e-wallet และในช่วงหลัง eToro จะมีตัวเลือกให้สามารถเติมเงินได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ผ่านทาง PayPal, Skrill และ Neteller ซึ่งช่วยให้คุณมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นอย่างมากในการฝากเงินเข้าสู่บัญชี

สุดท้าย eToro ยังมีชื่อเสียงที่โดดเด่นในด้านการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกผ่านฟีเจอร์ “Copy Trader” บนแพลตฟอร์ม โดยคุณลักษณะนี้จะช่วยให้คุณสามารถคัดลอกการซื้อขายของผู้ใช้งานคนอื่น ที่สามารถลงทุนและสร้างผลกำไรดีได้อย่างง่ายดาย แบบไม่เสียค่าธรรมเนียมเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังสามารถทำการซื้อขายได้แบบอัตโนมัติ และยังเป็นหนึ่งในวิธีการที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการลงทุนและกำลังเรียนรู้ความแปลกใหม่ ไปจนถึงความซับซ้อนของตลาดอีกด้วย 

ซื้อคริปโตเคอเรนซี่บน eToro ตอนนี้

คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ไม่มีการควบคุมทำให้มีความแปรปรวนสูง และไม่ได้รับความคุ้มครองในสหราชอาณาจักรหรือสหภาพยุโรป

ข่าวเหรียญคริปโตบน Pantip ล่าสุด

สุดท้ายนี้ มาดูหัวข้อข่าวเหรียญคริปโตยอดนิยมบางส่วนที่มีการพูดคุยกันใน Pantip ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • เป็นสัปดาห์ที่น่าผิดหวังสำหรับนักลงทุนคริปโต เนื่องจากเหรียญและโทเค็นส่วนมีมูลค่าลดลงอย่างมาก มูลค่าของ Bitcoin ลดลง 9.03% ในขณะที่ราคาของ Ethereum ลดลง 12.16%
  • หนึ่งในข่าวที่ใหญ่ที่สุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือนักลงทุนมหาเศรษฐี Chamath Palihapitiya กล่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐกำลังควบคุมภาคตลาดคริปโต โดยความเดือดดาลของ Chamath มุ่งไปที่ Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต.
  • Redditors ยังได้กล่าวถึงการประกาศของ Visa เกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินด้วย Stablecoin ก่อนหน้านี้ Visa ได้ร่วมมือกับ Circle เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและกำลังขยายไปสู่ตลาดคริปโต

สุดยอดคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุด – บทสรุป

ในบทสรุปทั้งหมดนั้นบทความนี้ได้ทำการเจาะลึกถึงคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุดในการลงทุน และตัวเลือกของเหรียญที่น่าสนใจ รวมไปถึงวิธีการลงทุนคริปโตเคอเรนซี่ มาไว้ให้กับคุณแล้วในวันนี้ โดยข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้นำมาให้คุณได้เรียนรู้ จะเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาก ทั้งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นการลงทุนและผู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้คุณก็ยังสามารถติดตามข่าวสาร และการเปลี่ยนแปลงของเหรียญที่คุณสนใจได้มากยิ่งขึ้น ในบทความอื่น ๆ ของเราด้วยเช่นกัน

AiDoge เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับเหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุด เนื่องจากเป็นโทเค็นมีมที่ให้ประโยชน์จริง AiDoge ปฏิวัติวงการมีมคริปโต โดยการรวมการสร้างมีมที่ทำโดย AI และองค์ประกอบของเหรียญคริปโต โดยผู้ใช้สามารถสร้างมีมที่น่าสนใจได้อย่างง่ายดายในขณะที่ใช้ประโยชน์จากโทเค็น $AI หลักของแพลตฟอร์ม โอกาสในการ Stake ที่มั่นคง และรางวัลที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน ทำให้สถานะของโปรเจกต์ AiDoge แข็งแกร่งขึ้นในตลาด

Categories
Bitcoins Crypto News กลุ่มคริปโต & Socials Media คู่มือคริปโต

กลุ่ม Telegram สัญญาณซื้อขาย Crypto ที่ดีที่สุด – รับสัญญาณฟรีวันนี้ 

การซื้อขายในตลาดคริปอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะหากคุณเป็นมือใหม่ อย่างไรก็ตาม ด้วยการใช้สัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุด ก็จะทำให้ไม่ต้องศึกษาหรือวิเคราะห์เกี่ยวกับเหรียญคริปโตมากนัก และให้คุณสามารถเสริมฝีมือการเทรดด้วยการซื้อขายแบบรายวันและรายสัปดาห์ Telegram สัญญาณซื้อขาย Crypto

บทความนี้จะรีวิวสัญญาณการซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุดในตลาด อธิบายว่าผู้ให้บริการรายใดมีบริการที่ดีที่สุด และวิธีการเริ่มต้นใช้งานหนึ่งในผู้ให้บริการสัญญาณคริปโตชั้นนำในปัจจุบันในเวลาเพียงไม่กี่นาที

รายการสัญญาณเทรด Crypto

รายละเอียดด้านล่างเป็นรายการผู้ให้บริการสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุดในตลาด:

  1. Dash 2 Trade – แพลตฟอร์มสัญญาณซื้อขาย crypto โดยรวมที่ดีที่สุด พร้อมข้อมูลมากมาย
  2. CryptoSignals.org – สัญญาณซื้อขาย crypto ยอดนิยมสำหรับมือใหม่
  3. Learn2Trade – สัญญาณซื้อขาย crypto รายวันที่มีผู้ใช้กว่า 10,000 ราย

ไปยังผู้ให้บริการ Cryptobot Signal ที่ดีที่สุดตอนนี้

รีวิวกลุ่ม Signal Crypto Telegram ที่ดีที่สุด

หากคุณกำลังสงสัยถึงวิธีซื้อเหรียญคริปโต โดยไม่ต้องใช้เวลามากมายกับกราฟราคา การใช้สัญญาณซื้อขาย crypto จึงเป็นอีกวิธีที่สามารถเสริมฝีมือการเทรดได้อย่างมาก

ด้านล่างนี้คือกลุ่ม Signal crypto Telegram ที่ดีที่สุดสามกลุ่มเพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของตัวเอง

1. Dash 2 Trade – แพลตฟอร์มสัญญาณซื้อขาย crypto โดยรวมที่ดีที่สุด พร้อมข้อมูลมากมาย

Dash 2 Trade เป็นแพลตฟอร์มสัญญาณซื้อขาย crypto มาใหม่ที่เพิ่งเปิดระดมทุนพรีเซลล์และกำลังดึงดูดการลงทุนมหาศาล

ในรอบที่ 1 ของการพรีเซลล์ก็สามารถระดมทุนได้เกือบ 500,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ซึ่งนักลงทุนได้ให้ความสนใจอย่างมากกับแดชบอร์ดตัวใหม่นี้

จากผู้พัฒนาเดียวกับ Learn2Trade (ด้านล่าง) และจะเป็นศูนย์กลางเพื่อช่วยให้นักเทรดและนักลงทุนตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับกลยุทธ์การซื้อขายและเพิ่มผลกำไรสูงสุด

ทั้งยังมีข้อมูลมากมาย รวมถึงสัญญาณการซื้อขาย แนวโน้มทางสังคม การวิเคราะห์แบบออนไลน์เพื่อระบุแนวโน้มตั้งแต่เนิ่นๆ และเครื่องมือสร้างกลยุทธ์ พร้อมกับเครื่องมือการซื้อขายทางสังคม

ผู้ใช้สามารถทดสอบกลยุทธ์ใหม่ย้อนหลังได้ก่อนที่จะนำไปลงทุนจริง โดยตัวสร้างกลยุทธ์จะแสดงถึงสภาวะตลาดจริงในทุกจุดข้อมูล รวมถึงปริมาณ ความผันผวน และคำสั่งซื้อจากกระดานเทรดใหญ่ๆ

ผู้ถือ D2T จะสามารถประเมินได้ว่ากลยุทธ์ดังกล่าวทำกำไรได้หรือไม่ จากนั้นสามารถประเมินใหม่และปรับเปลี่ยนได้หากจำเป็น ซึ่งสามารถทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังเพิ่มเติมได้

เทรดเดอร์สามารถตั้งค่ากลยุทธ์การซื้อขายอัตโนมัติตามตัวชี้วัดที่เชื่อมโยงกับ API ของโบรกเกอร์ ทั้งยังมีแฟ้มความเสี่ยงเพื่อช่วยให้การซื้อขายมีกำไรอย่างสม่ำเสมอ

แดชบอร์ดยังช่วยให้นักลงทุนพบกับโปรเจกต์มาใหม่ที่ดีที่สุดได้ล่วงหน้า พร้อมกับระบบการให้คะแนนเพื่อค้นหาโปรเจกต์ที่ดีที่สุด และแจ้งเตือนเพื่อให้นักลงทุนเข้าซื้อได้ก่อนเหรียญจะถูกลิสลงกระดานเทรด

Dash 2 Trade จะมีระดับการสมัครสมาชิกสามระดับ ได้แก่ ฟรี, เริ่มต้น, และพรีเมียม ซึ่งจะมีข้อมูลและการใช้งานที่แตกต่างกันไป

  • ฟรี – ในระดับนี้ไม่ต้องการให้ผู้ใช้ถือโทเค็น D2T ใดๆ ซึ่งจะอนุญาตให้เข้าถึงเทอร์มินัลข้อมูลตลาดได้เท่านั้น พร้อมการกำหนดราคาที่เทรดเดอร์ทุกคนควรใช้ โดยอิงตามตัวชี้วัดของตลาดและสังคม
  • เริ่มต้น – ระดับเริ่มต้นจะมีค่าสมัครสมาชิกรายเดือน 400 โทเค็น D2T ซึ่งมีข้อมูลขั้นสูงและเชิงลึกเกี่ยวกับโปรเจกต์พรีเซลล์เด่นๆ สามารถเข้าถึงเครื่องมือคริปโตการซื้อขายอัตโนมัติและแพลตฟอร์มการสร้างกลยุทธ์และการทดสอบย้อนกลับ นอกจากนี้ยังมี Discord สำหรับสมาชิกเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกและความเห็น
  • พรีเมียม – ระดับพรีเมียมจะให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมด รวมถึงการเข้าถึงการแข่งขันการซื้อขายรายไตรมาส โดย 5% ของค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกจะจัดสรรลงในกองรางวัลรวม ซึ่งมีราคา 1,000 โทเค็น D2T ต่อเดือน (ถูกลง 20% ในแบบรายปี) สามารถเข้าถึงข้อมูลออนไลน์, การแจ้งเตือนกระเป๋าวาฬ, และตัวชี้วัดตลาดระดับมืออาชีพได้อย่างเต็มที่ โดยจะบอกแนวโน้มตลาดทางสังคมแบบเรียลไทม์
ราคาต่อรอบจำนวนเงินระดมทุนต่อรอบโทเค็นที่เปิดให้ซื้อต่อรอบ
$0.0476$1,666,00035,000,000
$0.0500$3,500,00070,000,000
$0.0513$3,591,00070,000,000
$0.0533$4,663,75087,500,000
$0.0556$4,865,00087,500,000
$0.0580$5,075,00087,500,000
$0.0606$5,302,50087,500,000
$0.0635$5,556,25087,500,000
$0.0662$5,792,50087,500,000

พรีเซลล์ที่เพิ่งเปิดตัวก็ได้รับความสนใจอย่างมาก สามารถอ่านวิธีซื้อ Dash 2 Trade ของเราได้ที่นี่

โดยพรีเซลล์จะมีทั้งหมดเก้ารอบ และเปิดขาย 700 ล้านจาก 1 พันล้านโทเค็น ซึ่งตั้งเป้าระดมทุนไว้ที่ 40 ล้านดอลลาร์

รอบที่ 1 จะมีทั้งหมด 35 ล้านโทเค็นในราคา $0.0476 ต่อเหรียญ ซึ่งก่อนรอบสุดท้าย ราคาโทเค็นจะเพิ่มเป็น $0.0662 ต่อโทเค็นหรือเพิ่มขึ้น 39%

นอกจากนี้ยังมีการแจกโทเค็น D2T มูลค่า $150,000 ในระหว่างช่วยพรีเซลล์

อ่านเอกสารข้อมูล Dash 2 Trade สำหรับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโปรเจกต์ และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ที่นี่

เริ่มพรีเซลล์19 ตุลาคม
วิธีการซื้อETH, USDT, Transak
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ1,000 D2T
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

2. CryptoSignals.org – สัญญาณซื้อขาย crypto ยอดนิยมสำหรับมือใหม่

CryptoSignals.org เปิดตัวในปี 2014 โดยทีมงาน CryptoSignals.org มีทั้งเทรดเดอร์ที่มีทักษะสูงจำนวนมากที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้กระบวนการลงทุนราบรื่นสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์ โดย CryptoSignals.org จะส่งสัญญาณผ่านกลุ่ม Telegram โดยตรงไปไปยังโทรศัพท์มือถือของคุณ

ปัจจุบัน CryptoSignals.org มุ่งเน้นไปที่เหรียญ BTC, ETH, ADA, DOT, LINK และ XRP ซึ่งสามารถรับสัญญาณซื้อขาย crypto ผ่านกลุ่มกลุ่มคริปโต Telegram และกลุ่ม VIP Bitcoin ทำให้เป็นหนึ่งในเว็บไซต์แจ้งเตือน crypto ที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 ในกลุ่มฟรีผู้ใช้จะได้รับสัญญาณสามครั้งต่อสัปดาห์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนกลุ่มวีไอพีจะให้สัญญาณการซื้อขาย crypto 2-3 ครั้งทุกๆ วัน โดยมีอัตราความสำเร็จที่ 82%

ไม่ว่าคุณกำลังมองหาวิธีซื้อบิทคอยน์ หรือหนึ่งในสินทรัพย์ที่รองรับอื่นๆ CryptoSignals.org ก็รับรองว่าราคาจะสามารถเข้าถึงได้สำหรับเทรดเดอร์ โดยกลุ่มวีไอพีจะมีราคา 35 ปอนด์ต่อเดือน และมีราคาเพียง 175 ปอนด์ในแบบรายปีเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น CryptoSignals.org ยังรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน หากบริการไม่เป็นไปตามที่เทรดเดอร์คาดหวังไว้อีกด้วย

สุดท้ายนี้นอกเหนือจากจะส่งสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุดในตลาดแล้ว CryptoSignals.org ยังมีสื่อการเรียนรู้มากมายบนเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังมีข่าวในตลาดพร้อมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคของเหรียญคริปโตยอดนิยมเป็นประจำ โดยผู้ใช้สามารถติดต่อทีม CryptoSignals.org ผ่านทางโทรศัพท์หรืออีเมลได้หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบริการ

สัญญาณคริปโตเพื่อซื้อหรือขายนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การซื้อขายที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น โปรดเก็บเหรียญคริปโตของคุณไว้ในที่ปลอดภัย โดยเทรดเดอร์คริปโตหลายคนจึงเลือกใช้ crypto cold wallet ที่ดีที่สุดในตลาด

เข้าร่วม CryptoSignals.org ตอนนี้

3. Learn2Trade – สัญญาณซื้อขาย crypto รายวันที่มีผู้ใช้กว่า 10,000 ราย

หากคุณกำลังมองหากลุ่มกลุ่มคริปโต Telegram อื่นๆ นอกจาก CryptoSignals.org เราก็ขอแนะนำ Learn2Trade ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการลงทุนในบิทคอยน์ (หรือเหรียญคริปโตอื่นๆ อีกมากมาย) เนื่องจากมีเทรดเดอร์กว่า 10,000 รายที่ใช้บริการนี้ สัญญาณคริปโตของ Learn2Trade จัดทำโดยทีมงานเทรดเดอร์มืออาชีพ ซึ่งทุกคนมีประสบการณ์ในตลาดมานานกว่า 15 ปี

Learn2Trade มีกลุ่มคริปโต Telegram ทั้งแบบฟรีและ VIP ซึ่งเป็นสัญญาณซื้อขาย crypto ฟรีที่ดีที่สุดในตลาด โดยจะส่งสัญญาณสามครั้งต่อสัปดาห์และมีอัตราความสำเร็จที่ 76% ผ่านกลุ่ม Telegram แบบฟรี ส่วนผู้ใช้ที่เลือกใช้กลุ่มวีไอพีจะได้รับสัญญาณ 3-5 ครั้งทุกวัน ซึ่งจะมีข้อมูลจุดเข้าซื้อ, จุด stop loss, และจุดทำกำไร

กลุ่มเทรดคริปโต VIP จะมีราคา 35 ปอนด์ต่อเดือน โดย Learn2Trade รองรับการชำระเงินมากมาย รวมถึง ‘การเป็นสมาชิกถาวร’ ที่มีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่ 250 ปอนด์ นอกจากสัญญาณการซื้อขายแล้ว สมาชิกของกลุ่ม Telegram ของ Learn2Trade ยังสามารถเข้าถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบรายวัน การสัมมนาทางเว็บรายสัปดาห์ และการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจอีกด้วย

สุดท้ายนี้กลุ่มสัญญาณคริปโต Telegram ก็มีชื่อเสียงมากมายในคอมมิวนิตี้ เนื่องจากเว็บไซต์มีรายละเอียดการรีวิวมากมายจาก Trustpilot นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีแหล่งข้อมูลการเรียนรู้มากมาย เช่น การรีวิวโบรกเกอร์ หลักสูตรการซื้อขาย และฟีดข่าวเหรียญคริปโตต่างๆ

สัญญาณเทรด Crypto คืออะไร?

สัญญาณเทรด Crypto คือไอเดียการซื้อขายที่จะส่งถึงคุณโดยผู้ให้บริการสัญญาณ สัญญาณเหล่านี้คือข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการซื้อและขาย ทำให้ไม่ต้องศึกษาหรือวิเคราะห์เกี่ยวกับเหรียญคริปโตและช่วยให้กระบวนการซื้อขายง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

สัญญาณซื้อขาย crypto มักจะมีข้อมูลต่อไปนี้:

  • ชื่อสินทรัพย์
  • ทิศทางการเทรด
  • จุดเข้า
  • จุดตั้ง Stop-loss
  • จุดทำกำไร

ส่วนใหญ่สัญญาณซื้อขาย crypto จะถูกส่งไปยังกลุ่มคริปโต Telegram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการแชทกลุ่มขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เทรดเดอร์หลายพันรายจึงเข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มแชทใหญ่ได้ โดยจะมีทีมเทรดเดอร์มากประสบการณ์ที่จะคอยให้สัญญาณ crypto ภายในกลุ่ม

การใช้สัญญาณคริปโตนั้นเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกประเภท เทรดเดอร์มือใหม่จะสามารถซื้อขายอย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องเข้าใจตลาดคริปโตในระดับลึกซึ้ง เทรดเดอร์ระดับกลางและระดับสูงยังได้ประโยชน์จากการซื้อขายเป็นแบบ ‘อัตโนมัติ’ ช่วยให้มีเวลาทำสิ่งอื่นนอกจากการทดสอบย้อนหลังและการวิเคราะห์เพียงอย่างเดียว

สัญญาณซื้อขาย Crypto ทำงานอย่างไร?

หากคุณสนใจที่จะใช้สัญญาณเทรด Crypto เพื่อซื้อ XRP, Solana, Binance Coin และ altcoins ยอดนิยมอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการทำงาน โดยผู้ให้สัญญาณจะส่งข้อความพร้อมข้อมูลห้าอย่าง (สินทรัพย์, ทิศทางการซื้อขาย, จุดเข้า, จุดทำกำไร, และจุด stop-loss) ลงในกลุ่ม Telegram

เมื่อได้รับสัญญาณ คุณต้องเริ่มซื้อขายโดยเร็วที่สุด เนื่องจากโอกาสในการซื้อขายในตลาดอาจมีเวลาเพียงไม่กี่นาที (หรือวินาที) ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มซื้อขายตามสัญญาณทันที ซึ่งคุณควรลงทะเบียนกับโบรกเกอร์หรือกระดานเทรดคริปโตที่มีชื่อเสียงเอาไว้ เพื่อให้คุณพร้อมเทรดได้ทันที

โดยพารามิเตอร์สำหรับการออกจากสถานะจะถูกตั้งค่าด้วยจุด stop loss และจุดทำกำไร ดังนั้นผู้ซื้อขายจึงไม่จำเป็นต้องคอยดูการซื้อขายใดๆ โดยผู้ให้บริการเช่น Dash 2 Trade และ CryptoSignals.org มีบริการสุดพิเศษที่ส่งสัญญาณมากมายทุกวัน ดังนั้นคุณจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายได้ตลอดเวลา ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดคริปโตรายวัน

เคยสงสัยหรือไม่ว่าคุณควรเก็บสินทรัพย์คริปโตไว้ที่ไหนดี? เราขอแนะนำ crypto wallet ที่ดีที่สุดอย่าง eToro Money Crypto wallet เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายขั้นสูงสุด

กลุ่ม Cryptocurrency Telegram

การส่งสัญญาณซื้อ crypto จะถูกส่งผ่านทางกลุ่มเทรดคริปโต ซึ่งสามารถเข้าร่วมได้ฟรีหรือจากการสมัครบริการที่มักจะมีฟีเจอร์หรือสัญญาณซื้อขาย crypto เพิ่มเติม โดย Telegram คือแพลตฟอร์มแชทสำหรับข้อมูลและมียังมีกลุ่ม VIP Bitcoin

คุณสามารถเข้าร่วมกลุ่มเทรดคริปโตได้อย่างง่ายดาย เพราะ Telegram เปิดให้ใช้งานทั้งบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต ซึ่งผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะส่งลิงค์อีเมลในการเข้าร่วมกลุ่ม Telegram หลังจากชำระเงิน (หากเป็นกลุ่มแบบชำระเงิน)

บางกลุ่มจะมีข้อมูลเพิ่มเติม เช่น วิดีโอ การสัมมนาทางเว็บรายสัปดาห์ หรือการวิเคราะห์ทางเทคนิครายวันของเหรียญคริปโต หากคุณต้องการดูเนื้อหาวิดีโอเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายและติดตามสัญญาณ โปรดดูรายการช่อง Youtube คริปโตที่ดีที่สุดของเรา

Pantip ก็ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในด้านการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (FA) ซึ่งช่วยในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้ในระยะยาว

วิธีเลือกสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุด

การเลือกผู้ให้บริการสัญญาณ crypto อาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะเมื่อผู้ให้บริการส่งสัญญาณเท็จหรือตรวจสอบไม่ได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่าปัจจัยใดที่ควรระมัดระวังในการเลือกบริการสัญญาณที่น่าเชื่อถือ

โดยด้านล่างคือปัจจัยสำคัญๆ ที่ควรพิจารณาเมื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับกลุ่ม Telegram Crypto ไทย:

โอกาสสำเร็จ

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคืออัตราความสำเร็จของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการที่เปิดเผยประวัติผลลัพธ์ต่อสาธารณะมักจะน่าเชื่อถือกว่าสูงและถูกต้องตามกฎหมาย

บ่อยครั้ง ผู้ให้บริการจะแสดงข้อมูลสรุปรายเดือนบนเว็บไซต์โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราการสำเร็จและสัญญาณ แต่อัตราสำเร็จในอดีตจะไม่ได้รับประกันผลลัพธ์ในอนาคต และบางสัญญาณก็ไม่ได้รับการยืนยัน โปรดระมัดระวัง

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมก็ควรพิจารณาเช่นกัน เนื่องจากผู้ให้บริการสัญญาณส่วนใหญ่จะต้องสมัครสมาชิกรายเดือน โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการหลายราย (เช่น CryptoSignals.org) ที่ต้องสมัครสมาชิกรายไตรมาส ราย 6 เดือน และรายปี ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าแบบรายเดือน  ซึ่งผู้ให้บริการชั้นนำที่เราแนะนำก็มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน และมีการป้องกันสำหรับลูกค้าที่ไม่พอใจกับประสบการณ์ที่ได้รับ

รีวิวจากผู้ใช้

สัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุดจะต้องได้รับการรีวิวในเชิงบวกสูง ที่สำคัญ การรีวิวดังกล่าวยังต้องมาจากแหล่งที่มาที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว เช่น Trustpilot มิฉะนั้น จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าการรีวิวดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยผู้ให้บริการบางรายจะโชว์การรีวิวจากเทรดเดอร์ที่เคยประสบความสำเร็จลงในสัญญาณคริปโต

จำนวนสมาชิก

กลุ่มคริปโต Telegram ที่มีสมาชิกจำนวนมากมักจะมีชื่อเสียงมากที่สุดและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งสมเหตุสมผลแล้วเพราะว่ากลุ่มที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือมีการหลอกลวง ก็จะไม่มีสมาชิกจำนวนมากๆ นั่นเอง โดยตัวอย่างของกลุ่มกลุ่มวาฬ Telegram ที่มีชื่อเสียงคือ CryptoSignals.org ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 10,000 คนในปัจจุบัน 

ความถี่ของสัญญาณ

ความถี่ของสัญญาณเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่มีความสมดุล เนื่องจากการมีสัญญาณมากเกินไปอาจบอกเป็นนัยว่าผู้ให้บริการกำลังใช้วิธีกระจายและสุ่มว่าบางสัญญาณจะได้ผล ในทางกลับกัน สัญญาณที่มีน้อยเกินไปก็จะหมายความว่าเทรดเดอร์จะไม่ได้รับโอกาสทางการซื้อขายมากนักและทำให้ยากต่อการสร้างผลกำไรนั่นเอง

เปรียบเทียบสัญญาณซื้อขาย crypto แบบฟรีกับชำระเงิน

ดังที่คุณอาจสังเกตเห็นในขณะที่อ่านรีวิวของเราก่อนหน้านี้ ผู้ให้บริการสัญญาณหลายรายจะมีทั้งบริการทั้งแบบฟรีและแบบชำระเงิน ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเทรดเดอร์ แต่แบบไหนที่ดีที่สุด? โดยเราจะมาเจาะลึกอย่างละเอียดในส่วนด้านล่าง:

สัญญาณคริปโตแบบฟรี vs สัญญาณคริปโตแบบชำระเงิน

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสัญญาณคริปโตแบบฟรีและสัญญาณคริปโตแบบชำระเงินคือความถี่ของสัญญาณ เพราะยิ่งมีสัญญาณมากเท่าใด ก็จะยิ่งมีโอกาสสร้างผลกำไรมากขึ้นเท่านั้น โดยถือว่าผู้ให้บริการสัญญาณมีคุณภาพสูง ส่วนตัวอย่างของบริการแบบฟรีและแบบชำระเงินก็สามารถดูได้ที่ด้านล่าง โดยจะอ้างอิงจาก CryptoSignals.org:

  • แบบฟรี: 3 สัญญาณคริปโตต่อสัปดาห์ 12 สัญญาณต่อเดือน
  • แบบชำระเงิน: 2-3 สัญญาณคริปโตต่อวัน 40-60 สัญญาณต่อเดือน

อย่างที่คุณเห็น เมื่อเลือกใช้แผนแบบชำระเงิน คุณจะได้รับสัญญาณมากกว่าแบบฟรีประมาณ 4 เท่าต่อเดือน นอกจากนี้เนื่องจาก CryptoSignals.org มีอัตราความสำเร็จสูงถึง 82% ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างมากในระยะยาว 

สัญญาณคริปโตฟรีที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแบบชำระเงินจะให้สัญญาณบ่อยครั้งกว่า แต่แบบฟรีบางแผนก็คุ้มค่าที่จะลองใช้หากคุณต้องการทดสอบบริการก่อนที่จะเลือกแผนแบบ VIP โดยกลุ่มคริปโต Telegram ฟรีของ Learn2Trade จะให้สัญญาณสามครั้งต่อสัปดาห์ โดยจะเน้นไปที่ ‘บริการทดลองใช้’ 

สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับแผนแบบฟรีของ Learn2Trades คือสัญญาณที่มีให้นั้นจะมีโครงสร้างเดียวกับแผนแบบชำระเงิน ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ที่ให้สัญญาณฟรีแต่ไม่มีจุด stop loss หรือทำกำไรให้ ด้วยเหตุนี้สัญญาณประเภทนี้จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบการซื้อขายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่ามีจุดออกจากสถานะที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเป็นแผนที่ต้องชำระเงินใน Learn2Trade 

แอพสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุด

จากการศึกษาตลาดและทดสอบอย่างละเอียด เราพบว่าผู้ให้บริการสองรายที่ให้บริการแอพสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุดคือ Dash 2 Trade และ CryptoSignals.org โดยจะส่งสัญญาณการซื้อขายผ่านกลุ่มคริปโต Telegram ซึ่งเป็นแอพแชทยอดนิยม ด้วยวิธีนี้เทรดเดอร์จะได้รับสัญญาณซื้อขาย crypto ทันทีจากเหรียญคริปโตน่าเทรด

ทั้ง Dash 2 Trade และ CryptoSignals.org มีทั้งบริการฟรีและแบบชำระเงิน โดยบริการแบบฟรีนั้นจะเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดสอบสัญญาณก่อนสมัครแผนชำระเงิน เมื่อเลือกใช้แผนชำระเงิน เทรดเดอร์จะได้รับสัญญาณมากมายทุกวัน การสัมมนาผ่านเว็บรายสัปดาห์ และการแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญในตลาดเกิดขึ้น และด้วยการใช้งาน Dash 2 Trade หรือ CryptoSignals.org ผู้ใช้ก็จะสามารถเข้าถึงสัญญาณซื้อขาย crypto ได้ทุกเมื่อได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากแอพ Telegram มีให้บริการทั้งบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต 

วิธีรับสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุด

สุดท้ายนี้เมื่อคุณเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาณคริปโตที่ดีที่สุดแล้ว เราจะมาพูดถึงกระบวนการซื้อขายกัน ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ Learn2Trade เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่เราแนะนำ เนื่องจากมีอัตราความสำเร็จสูงและใช้งานง่ายเป็นพิเศษ

เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้แล้ว นี่คือสี่ขั้นตอนวิธีเริ่มรับสัญญาณจาก Learn2Trade วันนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

ขั้นตอนที่ 1 – ลงทะเบียนสำหรับแผน VIP ของ Learn2Trade

Learn2Trade มีทั้งแผนแบบฟรีและแบบ VIP ซึ่งจะมีสัญญาณรายวันด้วยอัตราความสำเร็จที่ 76% โดย Learn2Trade ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแผนชำระเงินที่เหมาะสมกับตนเองได้ โดยมีข้อเสนอการสมัครสมาชิกทั้งแบบรายเดือน รายไตรมาส รายปักษ์ และรายปี หรืออีกทางหนึ่ง ผู้ใช้ก็สามารถเลือกสมัครสมาชิกแบบถาวรได้ด้วยค่าธรรมเนียมครั้งเดียวที่ 250 ปอนด์

ขั้นตอนที่ 2 – เข้าร่วมกลุ่ม Learn2Trade Telegram

หลังจากเสร็จสิ้นการลงทะเบียนและชำระเงินสำหรับกลุ่ม VIP แล้ว คุณจะได้รับอีเมลพร้อมลิงค์เพื่อเข้าร่วมกลุ่ม Learn2Trade Telegram ซึ่งพร้อมใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ต เพื่อให้คุณสามารถซื้อขายได้บนอุปกรณ์ที่คุณสะดวก

ขั้นตอนที่ 3 – เปิดการแจ้งเตือนและรอสัญญาณ

เพราะสัญญาณคริปโตถูกส่งผ่านแอพ คุณจะต้องเปิดการแจ้งเตือนเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดโอกาส มีบ่อยครั้งที่โอกาสการเทรดนั้นอาจหลุดไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการซื้อขายตามสัญญาณทันทีจึงมีความสำคัญ

ขั้นตอนที่ 4 – ทำการซื้อขายกับโบรกเกอร์ที่คุณเลือก

เมื่อสัญญาณถูกส่งลง Telegram ก็จะมีชื่อสินทรัพย์, ทิศทางของการซื้อขาย, จุดเข้าซื้อ, จุด stop loss, และจุดทำกำไร

ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องทำการวิเคราะห์เบื้องต้น เนื่องจากมีการให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว โดยหลังจากได้รับสัญญาณแล้ว สิ่งที่ต้องทำถัดไปคือใช้โบรกเกอร์หรือกระดานเทรดคริปโตเพื่อทำการซื้อขาย

โดยกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดคือ eToro.com ที่มีค่าสเปรดและเงินฝากขั้นต่ำที่แสนถูก

โดยสถานะจะมีจุด stop loss และจุดทำกำไรที่ถูกกำหนดเอาไว้ คุณจึงไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามและปล่อยการซื้อขายให้ดำเนินการไปเอง 

eToro ยังมีสัญญาณซื้อขาย crypto พื้นฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเหรียญคริปโตนั้นๆ ควรซื้อหรือขาย ซึ่งจะอัพเดตตามเวลาจริง รวมถึงสามารถเลียนแบบนักลงทุนมืออาชีพที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงโดยใช้ฟีเจอร์ copy trading ได้ฟรีๆ

เปิดบัญชี eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

กลุ่มสัญญาณซื้อขาย crypto – บทสรุป

บทความนี้ได้อธิบายกลุ่มสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุด รีวิวแพลตฟอร์มอันดับต้นๆ และแสดงวิธีเริ่มต้นกับกลุ่มที่มีชื่อเสียงในวันนี้ ด้วยการใช้ประโยชน์จากสัญญาณที่ได้รับจากกลุ่มคริปโต Telegram ดังกล่าว ก็จะช่วยเพิ่มให้ประสิทธิภาพในการเทรดเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง

แม้ว่าจะมีผู้ให้บริการมากมาย แต่เราได้เลือก Dash 2 Trade ให้เป็นผู้ให้บริการสัญญาณซื้อขาย crypto ที่ดีที่สุด ซึ่งกำลังประสบความสำเร็จในช่วงพรีเซลล์และจะช่วยให้นักเทรดและนักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นว่าเมื่อใดควรซื้อ ขาย หรือถือโดยการวิเคราะห์จากข้อมูลต่างๆ

แดชบอร์ดยังช่วยให้นักลงทุนนำหน้าตลาดด้วยการให้คะแนนโปรเจกต์พรีเซลล์มาใหม่ที่ดีที่สุดและคอยแจ้งเตือนการลิสเหรียญใหม่ๆ อีกด้วย

Categories
Bitcoins Crypto News กระดานซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุด คู่มือคริปโต

กระดาน ซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด 2023 – กระดานเทรด altcoin ที่ถูกที่สุด 

หากคุณต้องการซื้อคริปโตเคอเรนซี่ที่นอกเหนือจาก Bitcoin คุณจำเป็นต้องมีบัญชีในกระดานซื้อขาย altcoin ชั้นนำ ไม่เพียงแค่เลือกกระดานแลกเปลี่ยนที่มี altcoin ที่คุณต้องการเท่านั้น แต่ควรมีค่าธรรมเนียมต่ำ และมีความปลอดภัยสูงด้วย

ในคู่มือนี้ เราจะเปรียบเทียบกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด ในปี 2023 และให้ข้อมูลว่า altcoin เล่นยังไง ผ่านการรีวิวดังต่อไปนี้

กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด ในปี 2023

ด้านล่างนี้ คือรายการของกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดที่ควรค่าแก่การพิจารณาในวันนี้

  • OKX – กระดานซื้อขาย altcoin ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีเหรียญมากกว่า 340 เหรียญ
  • eToro – กระดานซื้อขาย altcoin โดยรวมดีที่สุด ปี 2023
  • Capital.com – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • Crypto.com – กระดานซื้อขาย altcoin ที่เหมาะกับการรับดอกเบี้ย
  • DefiSwap – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ใช้งานง่าย
  • PrimeXBT – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ทดลองเทรดได้
  • Binance – กระดานซื้อขาย altcoin ที่มีเหรียญให้เลือกมากที่สุด
  • Bitstamp – – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ความปลอดภัยสูง
  • Bitkub – กระดานซื้อขาย altcoin ที่เริ่มลงทุนได้ด้วยเงิน 10 บาท

ไปยังกระดานเทรดที่ดีที่สุดตอนนี้

หากคุณกำลังตามหากระดานเทรด altcoin ที่ดีที่สุด คุณอาจสนใจในกระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน 

ซึ่งคุณจะพบการรีวิวกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดอย่างละเอียดด้านล่างนี้

รีวิว 9 สุดยอดกระดานซื้อขาย altcoin

เมื่อต้องค้นหากระดานแลกเปลี่ยน altcoinที่ดีที่สุดในตลาด เราจะพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  • กฎระเบียบและความน่าเชื่อถือ
  • ตลาด Altcoin ที่รองรับ
  • การใช้เลเวอเรจและมาร์จิ้น
  • ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น
  • เครื่องมือและฟีเจอร์ในการซื้อขาย
  • ข้อกำหนดการฝากเงินขั้นต่ำ
  • และอื่น ๆ

เราใช้ปัจจัยข้างต้นนี้ในการรีวิว 9 กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด ในปี 2023

1.OKX – กระดานซื้อขาย altcoin ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีเหรียญมากกว่า 340 เหรียญ

OKX เป็นหนึ่งในกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดที่มีเหรียญให้เลือกมากมายกว่า 340 รายการ รวมถึงเหรียญใหม่ ๆ จำนวนมากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก และมีค่าธรรมเนียมต่ำ การซื้อขายใน OKX มีต้นทุนเพียง 0.10% และเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ก็มีส่วนลดเพิ่มเติม

OKX มีเครื่องมือสำหรับการซื้อขาย altcoin รวมถึงแผนภูมิ และแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ นักลงทุนสามารถดูรายการคำสั่งซื้อของกระดานแลกเปลี่ยน และศึกษาทางเทคนิคกับแผนภูมิของพวกเขาได้ OKX ยังรองรับคำสั่งเทรดตั้ง limit stop loss และคำสั่งเงื่อนไขอื่นๆ ได้ เพื่อให้นักลงทุนควบคุมความเสี่ยงได้มากขึ้น

 นอกจากนี้ OKX ยังมีเหรียญคริปโตใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเหรียญคริปโตออกใหม่อันดับต้น ๆ ใน OKX  ได้แก่:

  • Tamadoge (TAMA)
  • Sweatcoin (SWEAT)
  • Ethereum PoW (ETHW)
  • City Coin (CITY)
  • Amazy (AZY)

OKX มีผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคน ในกว่า 200 ประเทศ โดยชำระเงินได้ด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต e-wallets และการโอนเงินผ่านธนาคาร และไม่ต้องการเงินฝากขั้นต่ำเพื่อสร้างบัญชีใหม่ OKX ยังมีกระดานแลกเปลี่ยน decentralized แบบ P2P และแอพมือถือที่มีกระเป๋าเงินคริปโตในตัว ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บ altcoin อย่างปลอดภัย

จำนวน Altcoin340
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตไม่ระบุ
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.1%
จำนวนฝากขั้นต่ำไม่มี

สิ่งที่เราชอบ:

  • มีคริปโตมากกว่า 340 เหรียญ
  • ค่าธรรมเนียม 0.10% ต่อการสมัคร
  • รองรับ P2P สำหรับ altcoin ยอดนิยม
  • แผนภูมิชั้นสูง และเครื่องมือการวิเคราะห์
  • อัพเดต altcoins เหรียญใหม่
  • กระเป๋าเงินแบบ Integrated mobile
  • CEX & DEX

ซื้อ Tamadoge บน OKX CEX

ซื้อ Tamadoge บน OKX DEX

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง

2. eToro – กระดานซื้อขาย altcoin โดยรวมดีที่สุด ปี 2023

เริ่มต้นที่กระดานซื้อขาย altcoin โดยรวมดีที่สุด และเป็นกระดานแลกเปลี่ยนมาร์จิ้นสูงที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก eToro แพลตฟอร์มนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกของ Coinbase ที่ดีที่สุด และเป็นที่อยู่ของ altcoin จำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถซื้อขายด้วยวิธีที่ปลอดภัย ในราคาเริ่มต้นเพียง 10 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ

ตัวอย่างเช่น ในขณะที่หลาย ๆ กระดานเทรดคริปโตคิดค่าธรรมเนียมการฝากเงินผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตมากกว่า 3% ลูกค้าของ eToro ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเลย นอกจากนี้ ยังสามารถฝากเงินแบบไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่าน Paypal, Skrill, ACH, การโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ และอื่น ๆ โดยเริ่มต้นเปิดบัญชีและฝากเงินเพียง 10 ดอลลาร์เท่านั้น

ที่ eToro มีหลายเหรียญ Altcoin ที่น่าสนใจที่ควรซื้อ เช่น Ethereum, BNB, Cardano, EOS, Dash และอื่น ๆ และคุณยังสามารถลงทุนในเหรียญ DeFi เช่น Decentraland, AAVE, Cosmos และ SushiSwap ได้ด้วย

อีกหนึ่งวิธีซื้อเหรียญคริปโตที่ eToro คือ การซื้อผ่าน smart portfolio ตัวช่วยจัดการมืออาชีพของ eToro ดังนั้น คุณจึงสามารถลงทุนในโทเค็นดิจิทัลและรับเงินแบบพาสซีฟได้

eToro เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม copy trading ที่ดีที่สุดในตลาดคริปโต สำหรับผู้ที่ไม่รู้ เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถเลียนแบบการลงทุนคริปโตจากเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ แบบ like-for-like ได้ ซึ่งความหมายว่า คุณสามารถซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลในแบบง่าย ๆ ได้ นอกจากคริปโตแล้ว eToro ยังเป็นแหล่งรวมหุ้น, ETF, forex, สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีต่าง ๆ อีกด้วย

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย eToro มี Crypto Wallet ของตัวเอง ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องกังวลว่ากุญแจส่วนตัวของคุณจะถูกแฮ็ก eToro ยังมีบริการกระเป๋าเงินคริปโตบนมือถือผ่านแอป iOS และ Android ซึ่งจะเชื่อมต่อกับบัญชี eToro หลักของคุณ จึงทำให้สามารถซื้อ ขาย และจัดเก็บคริปโต ได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม บางทีเหตุผลสำคัญที่สุดที่เราเชื่อว่า eToro เป็นกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดในตลาด ก็เพราะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด สิ่งนี้นำไปสู่คำถามสำคัญว่า eToro ปลอดภัยหรือไม่? ใบอนุญาตของกระดานแลกเปลี่ยนนี้มาจาก SEC, FCA, ASIC และ CySEC โดยที่ eToro ยังเป็นสมาชิกของ FINRA ด้วย ข้อสุดท้ายคือข้อกำหนดของ eToro และจำนวนคำสั่งซื้อขั้นต่ำ ที่เป็นสาเหตุให้ผู้คนมากกว่า 20 ล้านคนเลือกใช้กระดานแลกเปลี่ยนนี้ในการลงทุน สำหรับข้อมูลโดยสรุปของตัวชี้วัดหลัก และฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มการซื้อขายยอดนิยมนี้ คุณสามารถอ่านรีวิว eToro vs Coinbase ของเราได้

จำนวน Altcoin58
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตฟรี
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumค่าสเปรด + 1%
จำนวนฝากขั้นต่ำ10 ดอลลาร์

สิ่งที่เราชอบ:

  • มีคริปโตให้ซื้อขายมากมาย
  • ฝากขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์
  • ได้รับการควบคุมโดยหน่วยงานระดับสูงจำนวนมาก
  • รับบัตรเครดิต/บัตรเดบิต และ PayPal
  • แอพใช้งานง่าย
  • ค่าธรรมเนียมต่ำมาก
  • เมื่อเปรียบเทียบ eToro กับ Robinhood eToro มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า และรองรับการ copy trading

ไปยัง eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

3. Capital.com – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

การเริ่มต้นลงทุน altcoin ที่ Capital.com เป็นเรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มเข้ามาสู่วงการนี้ เพราะกระดานเทรดแห่งนี้มีเครื่องมือที่จะช่วยแจ้งเตือนการปรับเปลี่ยนราคา หรือทำให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดตลอด 24 ชั่วโมง และนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์การลงทุนของตัวเองได้

ในขณะที่นักลงทุนที่มีประสบการณ์สูง ก็สามารถใช้เครื่องมือในกระดานซื้อขาย altcoin เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการลงทุนให้มากขึ้นได้กว่าเดิม ภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม

ที่สำคัญคือไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากการถอน ทำให้โอกาสการสร้างกำไรสูงมากขึ้นไปกว่าเดิม

จำนวน Altcoins68+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตไม่ระบุ
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.0%
จำนวนฝากขั้นต่ำ20 ดอลลาร์

สิ่งที่เราชอบ:

  • มีระบบช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงทุกวัน
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • รองรับบัญชีทดลอง
  • ระบบรักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยม

ไปยัง Capital.com ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง

4.Crypto.com – กระดานซื้อขาย altcoin ที่เหมาะกับการรับดอกเบี้ย

Crypto.com มี altcoins ให้เลือกมากกว่า 250 เหรียญ ดังนั้น หากคุณต้องการกระจายเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุด กระดานแลกเปลี่ยนนี้ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า การเปิดบัญชีใน Crypto.com ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และเมื่อได้รับการยืนยัน ก็สามารถซื้อคริปโตได้ทันทีผ่านบัตรเดบิต ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 2.99% ทั้งนี้ ลูกค้าใหม่มักจะได้รับการยกเว้น

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายได้โดยโอนเงินผ่าน ACH หรือการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ ซึ่งจะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่จะจ่ายเพียง 0.40% ต่อครั้ง Crypto.com อยู่เบื้องหลัง เหรียญ altcoin ที่น่าสนใจอย่าง CRO ที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถลดค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายได้

นอกจากนี้ Crypto.com ยังเป็นหนึ่งในกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด เพื่อรับดอกเบี้ยจากการถือคริปโต บัญชีเงินฝากคริปโตรองรับ altcoin มากมาย และให้ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ล็อคโทเค็นไว้ ซึ่งเลือกได้ระหว่างหนึ่งถึงสามเดือน หรือไม่มีการล็อคเลย

นอกจากนี้ โทเค็น CRO ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ยังช่วยให้คุณเพิ่มผลตอบแทนต่อปีได้ ฟีเจอร์ยอดนิยมอีกหนึ่งอย่างของกระดานเทรด altcoin นี้ คือ เงินกู้คริปโต ที่จะทำให้คุณได้เงินในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่ต้องถูกบังคับให้ขายเรียญคริปโตของคุณ และสุดท้าย Crypto.com มีแอพกระเป๋าเงินในมือถือที่ปลอดภัย เช่นเดียวกับ NFT marketplace

จำนวน Altcoins250+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต2.99% (ลูกค้าใหม่ได้รับการยกเว้น)
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.4%
จำนวนฝากขั้นต่ำ20 ดอลลาร์ เมื่อใช้ ACH

สิ่งที่เราชอบ:

  • รองรับเหรียญคริปโตมากกว่า 250 เหรียญ
  • รับบัตรเดบิต/บัตรเครดิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร
  • มีชื่อเสียง
  • มีบัญชีเงินฝากคริปโต และบริการสินเชื่อ
  • ค่าธรรมเนียมแข่งขันได้
  • มีบัตรเครดิตคริปโตที่ดีที่สุดในตลาด

ไปยัง Crypto.com ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง

5.DefiSwap – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ใช้งานง่าย

DefiSwap เป็นกระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized (DEX) บน Binance Smart chain (BSC) ที่สามารถใช้ได้ทั้งนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือนักลงทุนขั้นสูงที่ต้องการ staking หรือใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ 

กระดานซื้อขาย altcoin ของ DefiSwap แตกต่างจากกระดานเทรดอื่น ๆ ตรงที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวตน หรือตรวจสอบ KYC และสามารถจับคู่กับ MetaMask และ WalletConnect ได้อย่างง่ายดาย 

การใช้งาน DefiSwap สามารถใช้ได้ทั้งบนมือถือและผ่านเว็บไซต์ ซึ่งมีความซึ่งออกแบบหน้าต่างใช้งานให้เรียบง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน พร้อมโอกาสการสร้างรายได้แบบพาสซีพ 

จำนวน Altcoins50+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตไม่ระบุ
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumไม่ระบุ
จำนวนฝากขั้นต่ำไม่ระบุ

สิ่งที่เราชอบ:

  • รองรับการเชื่อมต่อกับ MetaMask และ WalletConnect ได้
  • ไม่ต้องตรวจสอบ KYC
  • ใช้งานง่าย
  • มีโอกาสสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

ไปยัง Defi Swap ตอนนี้

6.PrimeXBT – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ทดลองเทรดได้

หากคุณต้องการที่จะลงทุน altcoin สามารถใช้งานกระดานแลกเปลี่ยน PrimeXBT ได้เช่นเดียวกัน เพราะที่นี่มีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานทดลองเทรดแบบไม่ต้องใช้เงิน เพื่อฝึกซ้อมก่อนจะลงสนามจริง ซึ่งปราศจากความเสี่ยง และรองรับการซื้อขายหลาย ๆ สินทรัพย์

รวมไปถึงเครื่องมือการ Copy Trading เพื่อสร้างกำไรจากการเลียนแบบการลงทุนตามนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย 

กระดานซื้อขาย altcoin นี้คิดค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตเพียง 0.05% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และช่วยทำให้เริ่มต้นลงทุนในเหรียญที่ต้องการได้อย่างง่าย

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ PrimeXBT บนสมาร์ทโฟนได้แล้ววันนี้ ทั้งระบบ iOS และ Android

จำนวน Altcoins100+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตไม่ระบุ
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.01–0.05%
จำนวนฝากขั้นต่ำ0.001 BTC

สิ่งที่เราชอบ:

  • รองรับการซื้อขายหลายสินทรัพย์
  • สามารถฝึกฝนและทดลองเทรดแบบไม่ต้องใช้เงิน 
  • ถอนเงินจากการเทรดคริปโตได้ทุกเวลา
  • ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ฟรี ทั้ง iOS และ Android

ไปยัง PrimeXBT ตอนนี้

7.Binance – กระดานซื้อขาย altcoin ที่มีเหรียญให้เลือกมากที่สุด

Binance เป็นกระดานซื้อขาย altcoin ที่มีรายการของสินทรัพย์ให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ และถือเป็นกระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งในแง่ของปริมาณและสภาพคล่อง 

การเลือก ลงทุน altcoin ที่นี่ จึงเป็นหนึ่งทางเลือกการลงทุนยอดนิยม และสามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้ 

Binance เหมาะสำหรับการลงทุนทั้งในระดับกลางและระดับสูง เนื่องจากมีฟังก์ชันเพิ่มเติมที่โดดเด่นมากกว่ากระดานแลกเปลี่ยนอื่น ๆ แม้จะไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ SEC

จำนวน Altcoins1000+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต4.5% + 0.5% สำหรับลูกค้าใน US
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.1%
จำนวนฝากขั้นต่ำ0

สิ่งที่เราชอบ:

  • รองรับการลงทุนที่หลากหลาย
  • เครื่องมือการลงทุนหลากหลาย
  • ค่าธรรมเนียมการซื้อขายไม่แพง
  • กระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ไปยัง Binance ตอนนี้

8.Bitstamp – กระดานซื้อขาย altcoin ที่ความปลอดภัยสูง

Bitstamp ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2011 และเป็นกระดานซื้อขาย altcoin ที่มีเหรียญให้เลือกมากกว่า 50 รายการ นักลงทุนสามารถที่จะลงทุน altcoin ได้ด้วยค่าธรรมเนียมราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 0.5% ต่อการซื้อขาย โดยค่าธรรมเนียมจะลดลงหากคุณมียอดการลงทุนที่สูงขึ้น และการฝากเงินผ่าน ACH ทำได้ฟรีแบบไม่มีค่าธรรมเนียม

เพื่อความสะดวกในการซื้อขายคริปโต คุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของ Bitstamp ไว้บนมือถือผ่าน Google Play และ App Store เพื่อลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา 

จุดเด่นที่สำคัญของ Bitstamp คือ การเก็บรักษาสินทรัพย์ของคุณในระบบปฏิบัติการที่แยกจากออนไลน์ ซึ่งทำให้มีความมั่นใจสูงขึ้น ว่าสินทรัพย์ของคุณจะไม่ถูกแฮ็กอย่างแน่นอน

จำนวน Altcoins50+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต5%
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.5%
จำนวนฝากขั้นต่ำไม่ระบุ

สิ่งที่เราชอบ:

  • ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • หากฝากผ่าน ACH จะไม่มีค่าธรรมเนียม 
  • มีแพลตฟอร์มการเทรดมากมายให้เลือก
  • มีระบบยืนยันตัวตนบนแอป

โหลด Bitstamp ตอนนี้เลย

9.Bitkub – กระดานซื้อขาย altcoin ที่เริ่มลงทุนได้ด้วยเงิน 10 บาท

กระดานซื้อขาย altcoin ของไทย ที่ได้รับการกำกับดูแลจาก กลต มีเหรียญให้เลือกลงทุนมากกว่า 56 เหรียญ โดยสามารถเริ่มลงทุนได้ที่ 10 บาท Bitkub เป็นกระดานซื้อขายที่ถูกรับรองและควบคุมจากก.ล.ต. เพื่อทำให้คนไทยมั่นใจว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นจะปลอดภัย

นักลงทุนสามารถเปิดบัญชี Bitkub ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที และใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 10 บาท อีกทั้ง ยังการันตีเรื่องความปลอดภัย ที่จะช่วยให้เพิ่มโอกาสการลงทุน altcoin ให้มากขึ้น ทั้งนี้ กระดานเทรด altcoin นี้จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.25% ต่อครั้ง

จำนวน Altcoin31+
ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตไม่ระบุ
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereum0.25%
จำนวนฝากขั้นต่ำ10 บาท

สิ่งที่เราชอบ:

  • มีทีมงานดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
  • ถูกรับรองและควบคุมจากก.ล.ต.
  • เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีความน่าเชื่อถือสูง
  • จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำแค่ 10 บาท

เปรียบเทียบกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด

จากข้อมูลทั้งหมด สามารถสรุปข้อมูลของกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 ได้ตามตาราง

กระดานซื้อขาย altcoinจำนวน Altcoinค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตค่าธรรมเนียมการซื้อ Ethereumจำนวนฝากขั้นต่ำ
OKX340ไม่ระบุ0.1%ไม่มี
eToro58ฟรีค่าสเปรด + 1%$10
Capital.com68+ไม่ระบุ0.0%$ 20
Crypto.com250+2.99%0.40%$20 เมื่อใช้ ACH
DefiSwap50+ไม่ระบุไม่ระบุไม่ระบุ
PrimeXBT100+ไม่ระบุ0.01–0.05%0.001 BTC
Binance1000+4.5% + 0.5% สำหรับลูกค้าใน US0.10%0
Bitstamp70+5%0.5% ต่อรายการซื้อขายไม่ระบุ
Bitkub31+ไม่ระบุ0.25%ไม่ระบุ

กระดานซื้อขาย altcoin คืออะไร?

กระดานซื้อขาย altcoin จะช่วยให้คุณเข้าถึงคริปโตที่นอกเหนือจาก Bitcoin ได้ แม้ว่าจะมีเหรียญ altcoin หมุนเวียนมากกว่า 18,000 เหรียญ แต่กระดานแลกเปลี่ยนที่ได้รับคะแนนสูงสุดในตลาดนี้ มักมีข้อจำกัดที่ทำให้เหลือตัวเลือกเพียงไม่กี่ร้อย ท้ายที่สุดแล้ว หลาย ๆ Altcoin กลับมีมูลค่าตลาดเพียงเล็กน้อย และไม่ค่อยดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนคริปโตได้เท่าไหร่นัก

กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด ที่เรารีวิวในวันนี้ มีวิธีการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน โดยต้องเริ่มจากการเปิดบัญชีและฝากเงินก่อน หากเลือกฝากเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐ คุณจะต้องมีรหัสประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล เพื่อใช้ในกระดานเทรด altcoin 

กระดานซื้อขาย altcoin ทั้งหมดนี้ ยังไม่รวมค่าบริการหรือค่าธรรมเนียม นั่นหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นสำหรับคำสั่งซื้อและขายในแต่ละรายการ จากการศึกษาของเรา กระดานแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ยกเว้น eToro จะต้องชำระค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน เมื่อจ่ายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

วิธีการเลือกกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?

เนื่องด้วย CoinMarketCap มีกระดานเทรด altcoin มากกว่า 300 รายการ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่ากระดานเทรดแบบใดที่เหมาะสมกับคุณ

ด้านล่างนี้ จะชี้ให้เห็นถึงปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ควรพิจารณา เพื่อเลือกกระดานแลกเปลี่ยน Altcoin ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

กฎระเบียบ

ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ปัจจุบันมีกระดานซื้อขาย altcoin มากกว่า 300 รายการให้เลือก อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่กระดานซื้อขาย altcoin โดยส่วนใหญ่มีเหมือนกัน คือ พวกเขาไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานทางการเงิน

นั่นหมายความว่า คุณไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเงินของคุณจะปลอดภัย หรือกำลังซื้อขายในสภาวะตลาดที่ยุติธรรมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กระดานเทรด altcoin ที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดีข้างต้น ล้วนแต่มีกฎระเบียบกำกับดูแลชัดเจน

ตัวอย่างเช่น eToro ที่ได้รับอนุญาตจาก SEC และลงทะเบียนกับ FINRA เช่นเดียวกับ Coinbase และ Gemini ที่มีใบอนุญาตจากกระทรวงบริการทางการเงินแห่งรัฐนิวยอร์ก

มี Altcoin ที่ซื้อขายได้

การจะเลือกกระดานซื้อขาย altcoin ใด คุณควรแน่ใจว่ากระดานซื้อขายนั้นรองรับโทเค็นที่คุณต้องการ

เพราะจะเป็นความล้มเหลวอย่างยิ่ง หากคุณยังไม่แน่ใจว่าตลาด altcoin ไหนที่คุณสนใจ 

คู่เหรียญ altcoin-USD

เมื่อคุณใช้กระดานซื้อขายที่ได้รับการรับรองให้ขายคริปโตแก่ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาได้ คุณจะสามารถซื้อขาย altcoins ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐได้

ตัวอย่างเช่น ที่ eToro คุณสามารถซื้อ Ethereum, EOS, Cardano, AAVE, Dogecoin, Shiba Inu และ altcoins อื่น ๆ อีกมากมายได้ด้วย USD สิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการสร้างพอร์ตการลงทุน altcoin ของคุณ

คู่เหรียญ altcoin-USDT

หากคุณพบกระดานซื้อขายที่ไม่ได้รับอนุญาต คุณอาจสังเกตเห็นว่า ไม่สามารถการซื้อขาย altcoins ด้วย USDT หรือ Tether ได้ 

สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ Tether เป็นเหรียญที่มีมูลค่าคงที่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานส่วนกลาง  ซึ่งหมายความว่าสามารถออกโทเค็นใหม่ได้บ่อยครั้งตามที่เห็นสมควร

แม้ว่าฉันทามติโดยทั่วไปของ Tether จะอ้างว่าโทเค็น USDT แต่ละรายการเทียบเท่าดอลลาร์สหรัฐ ในอัตรา 1 ต่อ 1 แต่จริงๆแล้วมูลค่าไม่ได้ตรงตามนั้น

คู่เหรียญ altcoin-กับ altcoin อื่นๆ

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูง และรับได้กับความผันผวนในระดับที่สูงขึ้น คุณอาจพิจารณากระดานแลกเปลี่ยน Altcoin ที่เป็นคู่เหรียญ altcoin กับ altcoin อื่นๆ

สกุลเงินคู่นี้เป็นคู่ของ Altcoin สองตัว หรือหมายความว่า คุณจะไม่ได้ซื้อขายเหรียญคริปโตได้ด้วยดอลลาร์สหรัฐ ตัวอย่างเช่น คู่ ALGO/BNB จะเป็นการแลกเปลี่ยนมูลค่าในอนาคตระหว่าง Algorand กับ BNB 

ค่าธรรมเนียม

กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดที่เรารีวิวในวันนี้ล้วนแต่มีค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไม่ใช่เฉพาะแค่กระดานแลกเปลี่ยนต่างกัน แต่ขึ้นอยู่กับบริการที่คุณต้องการด้วย

ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน

คุณอาจสังเกตเห็นว่ารีวิวกระดานซื้อขาย altcoin ของเรา มีค่าธรรมเนียมการฝากแตกต่างไปตามวิธีการชำระเงิน โดยวิธีการชำระเงินที่แพงที่สุดมักจะเป็นการจ่ายด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต

ที่ Coinbase มีค่าใช้จ่าย 3.99% ต่อการทำธุรกรรม ส่วนที่ Binance คิดที่ 4.5% บวกกับค่าธรรมเนียมการซื้ออีก 0.5% ในทางตรงข้าม eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ จากการฝากเงินด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิตในสกุลเงินดอลลาร์

กระดานเทรด altcoin จำนวนมากยังอนุญาตให้คุณฝากเงินผ่าน ACH หรือการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่การชำระเงินด้วยวิธีนี้อาจใช้เวลาดำเนินการ 2-3 วัน 

แต่ Crypto.com เป็นข้อยกเว้น เนื่องจากสามารถฝากผ่าน ACH ได้ในทันที และไม่มีค่าธรรมเนียม

ค่าคอมมิชชั่น

ค่าคอมมิชชั่นเกี่ยวข้องกับการซื้อและขาย กล่าวคือในแต่ละคำสั่งการซื้อและขาย คุณจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับกระดานซื้อขาย altcoin ที่คุณเลือก

ตัวอย่างเช่น:

  • Crypto.com คิดค่าคอมมิชชั่นระดับเริ่มต้น 0.40% ต่อครั้ง
  • หากคุณซื้อ Altcoin มูลค่า 2,000 ดอลลาร์ จะต้องจ่ายค่าคอมมิชชันที่ 8 ดอลลาร์
  • หากคุณขาย Altcoin ออกเมื่อเหรียญมีมูลค่า 3,000 ดอลลาร์ คุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่ 12 ดอลลาร์

เมื่อเปรียบเทียบกับ Coinbase ที่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 1.49% หมายความว่า คำสั่งซื้อและขายในตัวอย่างข้างต้น จะมีค่าคอมมิชชั่น 29.80 ดอลลาร์ และ 44.70 ดอลลาร์ ตามลำดับ

ดังนั้น กระดานแลกเปลี่ยน Altcoin ที่คิดค่าคอมมิชชั่นต่ำจึงมีความสำคัญ

ค่าธรรมเนียมการโอน

กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดในตลาด จะช่วยให้คุณสามารถโอนเหรียญคริปโตไปยังกระเป๋าเงินส่วนตัวได้ หากคุณต้องการโอนเหรียญ ควรต้องตรวจสอบด้วยว่ามีค่าธรรมเนียมการโอนหรือไม่

ในกรณีส่วนใหญ่ ค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับ Altcoin ที่คุณต้องการโอน

  • ตัวอย่างเช่น ที่ Binance คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 0.002 ETH เพื่อถอน Ethereum ไปยังกระเป๋าเงินส่วนตัว
  • จากราคา Ethereum ในขณะที่เขียน การโอนเหรียญครั้งนี้จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 6.60 ดอลลาร์
  • ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง หากคุณเลือกโอนเพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ที่ eToro จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนเพียง 0.5% ซึ่งถูกกว่ามาก โดยเฉพาะเมื่อต้องการโอนเหรียญจำนวนไม่มาก

กระเป๋าเงิน

กระดานซื้อขาย altcoin ทั้งหมดที่เรารีวิวในวันนี้ใช้สำหรับเหรียญคริปโตหลัก อย่างไรก็ตาม แต่ละกระเป๋าเงินที่ใช้ซื้อขาย altcoin จะแตกต่างกันไปในด้านความปลอดภัย ค่าธรรมเนียม โทเค็นที่รองรับ และประเภทของอุปกรณ์

ตัวอย่างเช่น eToro มีทางเลือกเป็นกระเป๋าเงิน 2 ใบ ใบแรกจะจัดเก็บ Altcoin ไว้ในเว็บกระเป๋าเงิน eToro ซึ่งใช้งานได้อย่างสะดวก หรือคุณจะโอนเหรียญไปยังแอปกระเป๋าเงินใบที่ 2 ของ eToro ก็ได้เช่นกัน 

ทั้ง Coinbase Crypto.com และ Binance มีตัวเลือกที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม Binance ยังมีกระเป๋าเงินแบบ decentralized ที่เรียกว่า Trust ซึ่งช่วยให้คุณเข้าถึงการซื้อขาย altcoins บน Binance Smart Chain ได้

สภาพคล่อง

เมื่อต้องเลือกกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด อย่าลืมคำนึงถึงสภาพคล่องด้วย สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ สภาพคล่อง หมายถึง จำนวนเงินทุนที่มีอยู่ในกระดานแลกเปลี่ยนที่คุณเลือก

หากมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการซื้อขายในราคาที่เสียเปรียบ และจะเป็นปัญหาใหญ่เมื่อต้องการถอนเงิน เนื่องจากคุณจะต้องขาย Altcoin ของคุณในราคาที่ต่ำมาก จึงจะสามารถขายได้ 

กระดานเทรด altcoin ทั้งหมดที่เรารีวิวในวันนี้มีสภาพคล่องสูงมาก ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องดิ้นรนในการซื้อหรือขายเพื่อผลกำไรเลย

เครื่องมือและฟีเจอร์

ความแตกต่างอีกประการหนึ่งที่เราพบเมื่อรวบรวมรายชื่อของกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดในปี 2023 คือ เครื่องมือการซื้อขายและฟีเจอร์ต่าง ๆ

เครื่องมือและฟีเจอร์เด่นที่ควรสนใจ มีดังนี้:

เครื่องมือวิเคราะห์แผนภูมิ

หากคุณต้องการซื้อขาย Altcoin ในระยะสั้น โดยใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณจะต้องมีกระดานแลกเปลี่ยนที่มีเครื่องมือวิเคราะห์แผนภูมิ

รวมถึงตัวชี้วัดทางเทคนิค ข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์ ที่รวมเข้ากับ TradingView

Copy Trading

เราชอบเครื่องมือ Copy Trading ของ eToro ที่ช่วยให้คุณซื้อขาย altcoins ได้อย่างง่ายดาย แนวคิดหลักนี้คือ หลังจากที่คุณได้เลือกนักลงทุนคริปโตที่ประสบความสำเร็จเพื่อคัดลอกการลงทุน สิ่งเหล่านี้จะแสดงในบัญชีของคุณ

จำนวนเงินที่ Stake จะเป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนตาม Copy Trader ซึ่งต้องใช้เงินทุนขั้นต่ำ 200 ดอลลาร์ และคุณสามารถหยุดคัดลอกการลงทุนได้ตลอดเวลา แบบไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ข่าวสารและข้อมูลเชิงลึกของตลาด Altcoin

กระดานซื้อขาย altcoin ชั้นนำ จะแจ้งข่าวสารล่าสุดและข้อมูลเชิงลึกของตลาดเกี่ยวกับเหรียญยอดนิยม ที่จะช่วยให้คุณติดตามการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับ Altcoin ที่สนใจได้ เช่น การสร้างพันธมิตรใหม่ หรือ การได้รับการรับรอง

ตัวอย่างเช่น เมื่อ Elon Musk ประกาศว่าเขาเป็นเจ้าของโทเค็น Dogecoin ก็ทำให้ Altcoin นี้มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

การแจ้งเตือน

ตลาด Altcoin เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  ดังนั้น จึงควรเลือกกระดานซื้อขายที่มีการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการการแจ้งเตือนเมื่อ Ethereum มีราคาเกิน 4,000 ดอลลาร์

การแจ้งเตือนราคาผ่านแอพมือถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เนื่องจากการแจ้งเตือนจะส่งไปที่สมาร์ทโฟนโดยตรง

วิธีการชำระเงิน

คุณจะต้องลงทุน Altcoin ด้วยเงินสด เว้นแต่ว่าคุณต้องการซื้อ Bitcoin

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ กระดานซื้อขาย altcoin ทั้งหมดรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร ส่วน eToro และ Coinbase ยังสามารถชำระผ่าน PayPal ได้ด้วย

นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมแล้ว ให้ตรวจสอบด้วยว่ากระดานเทรด altcoin ใช้เวลาดำเนินการเท่าไหร่ สำหรับวิธีการชำระเงินที่คุณเลือก

บริการลูกค้า

กระดานซื้อขาย altcoin ชั้นนำในปี 2023 มีระบบสนับสนุนลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม การแชทสดเป็นวิธีการติดต่อที่ดี เนื่องจากคุณจะได้รับการตอบกลับแบบเรียลไทม์

ในขณะที่ การตอบกลับทางโทรศัพท์ค่อนข้างหายาก เนื่องจากกระดานแลกเปลี่ยนเหล่านี้มีลูกค้าจากทั่วโลก และดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน

แอปมือถือ

สุดท้าย คุณควรตรวจสอบด้วยว่า ผู้ให้บริการที่คุณเลือกมีแอพคริปโตสำหรับการซื้อขาย Altcoin ที่เข้าได้กันกับสมาร์ทโฟนของคุณหรือไม่

โดยส่วนใหญ่ แอพกระดานซื้อขาย altcoin มักจะพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้ใช้ได้กับทั้ง iOS และ Android

การดาวน์โหลดแอปกระดานแลกเปลี่ยนนี้ จะทำให้คุณสามารถลงทุน altcoin ได้โดยไม่พลาดโอกาสในการซื้อขาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

วิธีใช้กระดานซื้อขาย altcoin

หากคุณไม่เคยใช้กระดานซื้อขาย altcoin มาก่อน เราขอแนะนำขั้นตอนที่จำเป็นเมื่อใช้ eToro

คุณจะได้เรียนรู้วิธี:

  • เปิดบัญชี
  • ยืนยันตัวตน
  • ฝากเงินดอลลาร์
  • ลงทุน altcoin เพียง 10 ดอลลาร์

โดยขั้นตอนที่จำเป็นทั้งหมดนี้ ทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที

ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชีคริปโต eToro

คุณสามารถเปิดบัญชีกับ eToro เพื่อซื้อขาย altcoin ได้ โดยกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เลือกชื่อผู้ใช้งานและตั้งรหัสผ่าน เพื่อลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีของคุณได้ในอนาคต

eToro จะขอให้คุณกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน และกรอกข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การเทรด

ขั้นตอนที่ 2: อัปโหลด ID

หากต้องการยืนยันบัญชี eToro ทันที ให้อัปโหลดสำเนาใบขับขี่ บัตรประจำตัวของรัฐ หรือหนังสือเดินทาง

นอกจากนี้ ต้องอัปโหลดหลักฐานที่อยู่อาศัยที่มีชื่อและที่อยู่ของคุณ โดยอาจจะเป็นใบแจ้งยอดธนาคารหรือบิลค่าไฟฟ้า เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน

คุณจะต้องทำการฝากเงินเพื่อให้สามารถซื้อขาย Altcoin ได้ โดยเงินฝากขั้นต่ำสำหรับลูกค้าใหม่เพียงแค่ 10 ดอลลาร์

คุณสามารถเลือกวิธีการชำระเงินได้หลากหลาย แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกใช้บัตรเดบิต/บัตรเครดิต ทั้งนี้ วิธีการชำระเงินทั้งหมดจะไม่เสียค่าธรรมเนียม เมื่อฝากเงินในสกุลดอลลาร์

ขั้นตอนที่ 4: ค้นหา Altcoin

หลังจากเปิดบัญชี eToro แล้ว ให้คุณคลิกที่ปุ่ม “Discover” ตามด้วย “Crypto” หน้าจอจะแสดงรายการ Altcoin ทั้งหมดที่ eToro รองรับ

หากคุณทราบแล้วว่า ต้องการลงทุน altcoin ตัวไหนในพอร์ตการลงทุน คุณสามารถพิมพ์ชื่อโทเค็นในช่องค้นหาได้

ขั้นตอนที่ 5: ซื้อ Altcoin

จากนั้น คุณจะต้องทำการสั่งซื้อ Altcoin ที่คุณเลือก โดยให้กรอกจำนวนเงินในช่อง ‘Amount’ ตามจำนวนที่ต้องการ

ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการลงทุน altcoin ที่มีมูลค่าสูงเช่น Ethereum หากต้องการยืนยันการซื้อขาย altcoin กดที่ปุ่ม ‘Open Trade‘

บทสรุป

กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุด ในปี 2023 ได้รับการรีวิวไปแล้วข้างต้น โดยมุ่งเน้นไปที่ตัวชี้วัดหลัก  เช่น ความปลอดภัย ค่าคอมมิชชั่น เครื่องมือการซื้อขาย การบริการลูกค้า และตลาด Altcoin ที่รองรับ

หากคุณต้องการลงทุน altcoin ในตอนนี้ ให้พิจารณาที่ eToro เพราะ eToro ช่วยให้คุณสามารถฝากเงินดอลลาร์ได้ฟรีด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต และเป็นกระดานแลกเปลี่ยน Altcoin ที่ใช้งานง่าย

เปิดบัญชี eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง

Categories
Crypto News กระดานซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุด คู่มือคริปโต

5 Decentralized Exchange ที่ดีที่สุด 2023 – เปรียบเทียบ DEX ชั้นนำ

Decentralized Exchange (DEX) คือกระดานซื้อขายคริปโตแบบไร้ศูนย์กลาง ที่ให้นักลงทุนสามารถซื้อและขายคริปโตเคอร์เรนซีได้โดยไม่มีคนกลาง ซึ่งแลกเปลี่ยนโดยตรงกับผู้อื่นที่ต้องการขายหรือซื้อเหรียญคริปโตเหรียญเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการเปิดเผยตัวตน และข้อดีอีกมากมาย

ในบทความนี้ เราจะแนะนำ Decentralized Exchange ที่ดีที่สุด สำหรับปี 2023 ไปดูกันว่าD ecentralized Exchange คืออะไร Decentralized Exchange ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง
และอธิบายว่าเพราะเหตุใดเหล่านักลงทุนจึงควรลองใช้กระดานเทรด DEX สำหรับการซื้อขายเหรียญคริปโต

จัดอันดับ 5 Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023

นักลงทุนหลายคนคงอยากรู้ว่า DEX มีอะไรบ้าง และที่ใดดีที่สุด เราได้ทดสอบ DEX ชั้นนำหลายสิบแห่งเพื่อค้นหากระดานซื้อขายที่ดีที่สุด และนี่คือ 5 Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023

  1. OKX –  Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดที่มีเหรียญคริปโตให้เลือกกว่า 340+ เหรียญ
  2. DefiSwap – Decentralized Exchange ชั้นนำพร้อมคุณสมบัติในการเทรดที่เป็นประโยชน์มากมาย
  3. Binance – Decentralized Exchange ชั้นนำของโลกที่มีระบบซื้อขายคริปโตแบบ P2P
  4. Uniswap – Decentralized Exchange ยอดนิยมสำหรับ DeFi
  5. PancakeSwap – DEX อันดับต้นๆ สำหรับการค้นหาและลงทุนในเหรียญคริปโตใหม่ๆ

ซื้อเหรียญคริปโตบน OKX

รีวิว Decentralized Exchange ที่ดีที่สุด

อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดหรือไม่ เราจะพาไปเจาะลึกว่าจุดเด่นและข้อดีสำหรับนักเทรดคริปโตและนักลงทุนของแต่ละ Decentralized Exchange มีอะไรบ้าง

1. OKX –  Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดที่มีเหรียญคริปโตให้เลือกกว่า 340+ เหรียญ

OKX เป็นหนึ่งใน Decentralized Exchange ชั้นนำระดับโลก โดยมีผู้ใช้มากกว่า 20 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งที่ OKX ผู้ใช้สามารถซื้อขายเหรียญคริปโตได้มากกว่า 340 เหรียญ โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 0.10% ต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง

ที่ OKX ยังมีการซื้อขายแบบ peer-to-peer (P2P) แบบไร้ศูนย์กลางสำหรับเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการแลกเปลี่ยน ซึ่งรวมถึง Bitcoin, Ethereum, Tether, USD Coin, TrueUSD และ Maker นักเทรดสามารถกำหนดราคาของตนเองในการแลกเปลี่ยนแบบไร้ศูนย์กลางของ OKX และสามารถเลือกวิธีการชำระเงินที่มีให้เลือกมากกว่า 900 วิธี โดยการรับเงินในสกุลเงินใดก็ได้ที่ผู้ขายต้องการสามารถทำได้ง่ายมาก

นอกจากนี้ OKX ไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายใดๆ สำหรับการแลกเปลี่ยนแบบ P2P โดยจะมีการเรียกเก็บเงินเฉพาะในกรณีทีนักเทรดต้องการสร้างโฆษณาสำหรับการเทรดของตนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดรายอื่นเจอสิ่งที่พวกเขาเสนอเพื่อซื้อหรือขายบน DEX

การสร้างคำสั่งซื้อแบบไร้ศูนย์กลางบน OKX นั้นง่ายมาก เพียงเลือกเหรียญ จำนวนที่ต้องการซื้อหรือขาย และวิธีการชำระเงิน จากนั้นการเทรดนี้จะถูกส่งไปยังนักเทรดรายอื่นใน OKX ทันที นอกจากนี้ การติดตามนักเทรดบน OKX ยังทำได้ง่าย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกหากมีนักเทรดเฉพาะที่มีวิธีการชำระเงินที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายใช้บ่อยให้เลือก

OKX รับเงินฝากด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือ e-wallet นอกจากนี้ยังมีแอปวอลเลตสำหรับ iOS, Android และเว็บเบราว์เซอร์ ทำให้การจัดเก็บเหรียญคริปโตอย่างปลอดภัยได้ง่ายและเข้าถึงการแลกเปลี่ยนแบบ P2P ของ OKX เพื่อทำการแลกเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ตัววอลเลตยังมีศูนย์รวมแอปไร้ศูนย์กลาง (dApps) ที่กำลังเติบโตอยู่ด้วย

ลองใช้ OKX วันนี้เพื่อเริ่มต้นการลงทุนผ่าน Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023!

ซื้อเหรียญคริปโตบน OKX

2.DefiSwap – Decentralized Exchange ชั้นนำพร้อมคุณสมบัติในการเทรดที่เป็นประโยชน์มากมาย

DefiSwap เป็นหนึ่งใน Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดที่โฮสต์บน Binance Smart Chain (BSC) โดยให้บริการการเทรดเหรียญคริปโตที่หลากหลาย รวมถึงการ Swap การ Stake และการทำ Yield Farming ซึ่งทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์มบนเบราว์เซอร์ที่สะดวกของ DeFi Swap

เช่นเดียวกับ DEX อื่นๆ DeFi Swap สามารถเชื่อมโยงกับ crypto wallet ที่ดีที่สุดได้หลากหลายแบบ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตัวกลางใดๆ สิ่งนี้ทำให้ DeFi Swap แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องยืนยันตัวเองหรือทำการตรวจสอบ KYC และในแง่ของผู้ให้บริการวอลเลต DeFi Swap สามารถจับคู่กับวอลเลตของ MetaMask และ WalletConnect โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

เมื่อเชื่อมโยงวอลเลตแล้ว คุณสามารถใช้ DeFi Swap เพื่อแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตหนึ่งเป็นเหรียญอื่นได้อย่างราบรื่น โดย DeFi Swap รองรับ Altcoin ที่ดีที่สุด รวมถึง Stablecoin กว่า 50 เหรียญ รวมถึง BNB, USDC, USDT, DAI และเหรียญอื่นๆ คุณยังสามารถปรับแต่งค่าเผื่อส่วนต่างราคา และกำหนดเวลาในการทำธุรกรรมให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของคุณและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนแล้ว DeFi Swap ยังให้บริการ Stake และการทำ Yeild Farming อีกด้วย ทั้งสองวิธีนี้จะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการถือครองเหรียญคริปโต โดยผู้ใช้ที่ถือเหรียญ DEFC (เหรียญหลักของ DeFi Swap) จะได้รับรายได้แบบพาสซีฟผ่านระบบ ‘รางวัลคงที่’ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเหรียญนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการอื่นอีกมากมายที่นำเสนอในระบบนิเวศที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนนี้

ซื้อเหรียญคริปโตบน DefiSwap เลย

3.Binance – Decentralized Exchange ชั้นนำของโลกที่มีระบบซื้อขายคริปโตแบบ P2P

Binance เป็น Decentralized Exchange ชั้นนำระดับโลกอีกแห่งที่นำเสนอการซื้อขายเหรียญคริปโตที่น่าเทรดที่สุดในปี 2023 หลายร้อยเหรียญ กระดานซื้อขายแห่งนี้ยังมีแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบ P2P ที่ผู้ใช้สามารถซื้อและขายเหรียญคริปโตได้โดยตรงจากกันและกัน

บน Binance DEX ผู้ค้าสามารถซื้อ Ethereum, BTC, BNB, Maker, Tether และ Binance USD ได้ โดยชำระเงินได้ผ่านสกุลเงินกว่า 50 สกุล และมีวิธีการชำระเงินหลายสิบวิธีสำหรับสกุลเงินแต่ละสกุลเงิน ดังนั้น นักเทรดทุกที่บนโลกจึงสามารถค้นหานักเทรดในภูมิภาคของตนได้อย่างง่ายดาย

การแลกเปลี่ยนแบบ P2P ของ Binance จะไม่มีการเปิดเผยตัวตนเมื่อผู้ซื้อใช้เงินสด ดังนั้นความเป็นส่วนตัวจึงเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับ DEX นี้ นอกจากนี้ ผู้ซื้อและผู้ขายที่ยอมรับคำสั่งซื้อที่ถูกลิสท์ในกระดานก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ มีเพียงผู้ใช้ที่ต้องการโฆษณาการซื้อหรือขายของตนเองที่จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเล็กน้อย

ข้อดีอีกอย่างของการแลกเปลี่ยนแบบ P2P ของ Binance คือมีความปลอดภัยสูง แพลตฟอร์มนี้จะนำเงินทั้งหมดเข้าสู่บัญชีเอสโครว์ในขณะที่ทำธุรกรรม ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายจะสามารถยกเลิกข้อตกลงหลังจากที่ส่งเงินไปแล้ว ระบบนี้ช่วยให้บุคคลทั้งสองฝั่งทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นและช่วยให้มั่นใจว่าทุกธุรกรรมนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น

ซื้อเหรียญคริปโตบน Binance

4.Uniswap – Decentralized Exchange ยอดนิยมสำหรับ DeFi

Uniswap เป็นหนึ่งใน Decentralized Exchange ที่ใหญ่ที่สุดที่ทำงานบนเชน Ethereum นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 DEX นี้ได้ประมวลผลปริมาณธุรกรรมมากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันมีการรวมระบบมากกว่า 300 รายการและผู้แทนชุมชนมากกว่า 4,400 คนที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย

มีโทเค็น ERC20 หลายร้อยเหรียญให้ซื้อและขายบน Uniswap ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ DEX นี้ทำให้การลิสท์เหรียญคริปโตใหม่ๆ เป็นเรื่องง่าย ผู้ถือเหรียญใหม่ๆ เพียงแค่ต้องเพิ่มเหรียญดังกล่าวในกระดานซื้อขาย โดยการจัดหาเงินทุนในจำนวนที่เท่ากับ Ethereum เพื่อสร้างกองทุนสภาพคล่องใหม่ ซึ่งหมายความว่า Uniswap เป็นศูนย์รวมของเหรียญคริปโตใหม่ๆ จำนวนมากที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น

Uniswap มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำที่สุดในบรรดา Decentralized Exchange ชั้นนำ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถได้รับดอกเบี้ยจากการ Stake เหรียญในกองทุนสภาพคล่อง สิ่งนี้ทำให้การซื้อขายเหรียญคริปโตดังกล่าวง่ายขึ้น และยังเปิดโอกาสในการทำ Yield Farming เหรียญคริปโตด้วย

Uniswap ยังมีเหรียญเป็นของตัวเองคือ UNI ซึ่งผู้ถือเหรียญ UNI สามารถโหวตข้อเสนอแบบเปิดบน Uniswap และมอบเป็นรางวัลแก่ผู้ที่สนับสนุนกระดานซื้อขายแห่งนี้และทำให้ Uniswap สามารถแข่งขันกับกระดานซื้อขายอื่นๆได้

ซื้อเหรียญคริปโตบน Binance

5.PancakeSwap – DEX อันดับต้นๆ สำหรับการค้นหาและลงทุนในเหรียญคริปโตใหม่ๆ

PancakeSwap เป็นหนึ่งใน Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับการค้นหาเหรียญคริปโตมาใหม่ ก่อนที่เหรียญเหล่านั้นจะได้รับความนิยมในวงกว้าง โดย PancakeSwap มักจะเป็นกระดานซื้อขายทางเลือกหลักสำหรับการทำ ICO โปรเจ็กต์คริปโตใหม่ๆ เนื่องจากกระบวนการลิสท์เหรียญที่เรียบง่ายของแพลตฟอร์มและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ โปรเจ็กต์ดังๆ ที่เคยลิสท์เหรียญเป็นที่แรกใน PancakeSwap ได้แก่ Battle InfinityLucky Block และอื่นๆ

PancakeSwap เดิมสร้างขึ้นบน Binance Smart Chain ทำให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Uniswap และ SushiSwap แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเปิดตัวการรวมเชมใหม่เข้ากับเชน Ethereum ทำให้ตอนนี้ PancakeSwap ทำงานได้บนบล็อคเชนทั้งสองแบบ และผู้ใช้สามารถเข้าถึงเหรียญคริปโตนับพันเหรียญ และมีสภาพคล่องมากขึ้น

การแลกเปลี่ยนจากเหรียญหนึ่งไปยังอีกเหรียญหนึ่งบน PancakeSwap นั้นทำได้ง่ายและใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที แพลตฟอร์มนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนพิเศษสำหรับเหรียญ Stablecoin ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเกือบจะเป็นศูนย์ และลดความต่างของราคาลงด้วย

PancakeSwap ยังเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจสำหรับ DeFi โดยมีแหล่งรวมกองทุนสภาพคล่องจำนวนมากที่นักลงทุนสามารถ Stake เหรียญของตนได้ รวมถึงการทำ Yield Farming ที่ให้ผลตอบแทนต่อปีจากดอกเบี้ยสูงถึง 778%  และสามารถ Stake เหรียญ CAKE ซึ่งเป็นเหรียญของแพลตฟอร์ม PancakeSwap ควบคู่ไปกับ Stablecoin เช่น BUSD และ USDT เพื่อรับผลตอบแทนสูงถึง 50%

Decentralized Exchange คืออะไร?

Decentralized Exchange คือกระดานซื้อขายเหรียญคริปโตที่นักเทรดสามารถซื้อและขายเหรียญคริปโตได้โดยตรงจากกันและกัน ไม่มีพ่อค้าคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้องในการซื้อขาย และกระบวนการซื้อขายนั้นเป็นแบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์เพื่อความปลอดภัยและความใช้งานง่าย

Decentralized Exchange อาจเรียกว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ยุ่งกับใครที่ควบคุมโดยองค์กรอิสระกระจายอำนาจ (DAO) เช่น Uniswap หรือ PancakeSwap หรือเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบ P2P ภายในกระดานซื้อขายแบบรวมศูนย์ เช่น OKX, Binance และ Huobi

Decentralized Exchange ทำงานอย่างไร?

Decentralized Exchange ไม่มีพ่อค้าคนกลางที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขาย แต่พึ่งพากระบวนการอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ซื้อได้รับเหรียญและผู้ขายได้รับการชำระเงิน

เมื่อมีการเริ่มต้นธุรกรรม เหรียญของผู้ขายจะถูกใส่ลงในบัญชีเอสโครว์ นี่คือบัญชีที่ปลอดภัยซึ่งเหรียญจะอยู่ภายใต้การควบคุมของสัญญาอัจฉริยะ หรืออัลกอริทึมที่ควบคุม DEX เมื่อการชำระเงินของผู้ซื้อไปถึงผู้ขาย เหรียญในบัญชีเอสโครว์จะถูกโอนไปยังผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ หากไม่มีการชำระเงิน เหรียญที่อยู่ในบัญชีเอสโครว์ก็สามารถส่งคืนให้กับผู้ขายได้

DEX มีสองประเภท: คือกระดานสำหรับแลกเปลี่ยนและแบบรวบรวมคำสั่งซื้อและขาย

กระดานแบบแลกเปลี่ยน เช่น Uniswap และ PancakeSwap ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักเทรดสามารถเปลี่ยนเหรียญหนึ่งเป็นเหรียญอื่นได้ โดยพึ่งพากองทุนสภาพคล่องที่มีคู่เหรียญนั้นๆ เช่น ETH/USDT

หากนักเทรดต้องการแลกเปลี่ยน ETH เป็น USDT หรือจาก USDT เป็น ETH  เหรียญสำหรับการซื้อขายจะมาจากกองทุนสภาพคล่องตามขั้นตอนเอสโครว์ด้านบน ผู้ใช้สามารถ Stake เหรียญกับกองทุนสภาพคล่องเพื่อให้มีสภาพคล่อง เพื่อแลกกับดอกเบี้ยจากเหรียญที่นำมา Stake

กระดานแบบรวบรวมคำสั่งซื้อและขาย เช่น OKX, Binance และ Huobi จะช่วยให้นักเทรดสามารถแสดงรายการเหรียญที่ต้องการซื้อหรือขายพร้อมกับราคาและวิธีการชำระเงินที่พวกเขายินดีรับ ในกรณีนี้ นักเทรดกำลังซื้อหรือขายเหรียญโดยตรงจากอีกฝ่ายหนึ่ง

เหรียญและวิธีการชำระเงินที่มีให้ซื้อขายอาจแตกต่างกันอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป โดยขึ้นอยู่กับนักเทรดที่จะต้องค้นหาคำสั่งซื้อหรือขายสำหรับการเทรดที่พวกเขาสนใจ

ประโยชน์ของ Decentralized Exchange

Decentralized Exchange มีประโยชน์เหนือกว่า Centralized Exchange หรือกระดานซื้อขายแบบรวมศูนย์ดังต่อไปนี้

ตัวเลือกเหรียญ

ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของการใช้ Decentralized Exchange คือตัวเลือกเหรียญจำนวนมาก และ DEX ยังช่วยให้การลิสท์เหรียญใหม่ทำได้ง่าย ดังนั้นนักเทรดและนักลงทุนสามารถเข้าถึงเหรียญคริปโตออกใหม่ได้ตั้งแต่เนิ่นๆและมีเหรียญจำนวนมากที่ราคาพุ่งขึ้นสูงหลังจากเปิดให้ซื้อขายบน DEX ดังนั้นนี่อาจเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักเทรดในการค้นหาเหรียญคริปโตที่มีศักยภาพเหรียญต่อไป

ความเป็นส่วนตัว

โดยทั่วไป การใช้ Decentralized Exchange นั้นไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนหรือมาตรการอื่นๆ ในกระบวนการทำความรู้จักลูกค้าของคุณ (KYC) ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าสามารถซื้อและขายเหรียญคริปโตบนกระดานซื้อขายได้โดยที่ไม่ต้องระบุตัวตน

ค่าธรรมเนียมต่ำ

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายเหรียญคริปโตใน Decentralized Exchange นั้นมักจะต่ำกว่า Centralized Exchange นั่นเป็นเพราะมีภาระงานและความเสี่ยงน้อยกว่า เนื่องจากไม่ต้องใช้คนกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย

การเข้าถึง DeFi

Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดหลายแห่งยังเป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่เสนอการ Stake เหรียญคริปโต นักเทรดที่ใช้ DEX สามารถ Stake เหรียญของตนกับกองทุนสภาพคล่องเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกระดานซื้อขายและรับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน

Decentralized Exchange vs Centralized Exchange

Decentralized Exchange นั้นแตกต่างจาก Centralized Exchange ตรงที่Centralized Exchange เป็นพ่อค้าคนกลางเพื่อจับคู่คำสั่งซื้อและขายสำหรับเหรียญใดเหรียญหนึ่งโดยเฉพาะ

Centralized Exchange มักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าและมีคริปโตเคอเรนซีให้เลือกน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Decentralized Exchange อย่างไรก็ตาม Centralized Exchange ก็มีประโยชน์บางอย่าง เช่น การสนับสนุนลูกค้าที่มากขึ้นและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ง่ายขึ้น Centralized Exchange หลายแห่งยังมีวอลเลตแบบที่ให้บริการและควบคุมโดยบุคคลที่สามเพื่อให้ลูกค้าสามารถเก็บเหรียญคริปโตของตนเองไว้บนกระดานซื้อขายได้ ซึ่งผู้ใช้บางคนอาจพบว่าการทำแบบนี้ง่ายกว่าการจัดเก็บเหรียญคริปโตไว้ในวอลเลตส่วนตัว

Centralized Exchange และ Decentralized Exchange นั้นมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันในระบบนิเวศของคริปโต Centralized Exchange นั้นช่วยให้เข้าถึงคริปโตได้ง่ายและให้ประสบการณ์ที่คล้ายกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมมากกว่า ส่วน Decentralized Exchange นั้นทำหน้าที่เป็นกระดูกสันหลังของระบบ DeFi และทำให้นักลงทุนคริปโตระดับสูงสามารถแลกเปลี่ยนเหรียญและรับผลตอบแทนได้

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่า Centralized Exchange จำนวนมากมีแพลตฟอร์ม Decentralized Exchange อยู่ภายใน แพลตฟอร์มการซื้อขายแบบ P2P ที่ OKX, Binance และ Huobi ต่างก็เป็น Decentralized Exchange ภายในแพลตฟอร์ม Centralized Exchange ขนาดใหญ่เหล่านี้

วิธีการใช้งาน Decentralized Exchange

พร้อมที่จะซื้อเหรียญคริปโตใน Decentralized Exchange แล้วหรือยัง? เราจะมาแนะนำกระบวนการซื้อ Tamadoge ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 จาก OKX ซึ่งเป็น DEX ที่มีคะแนนสูงสุดของเรา

ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียน

วิธีการเริ่มต้น ให้ไปที่เว็บไซต์ OKX แล้วคลิกสมัคร ป้อนที่อยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์และรหัสผ่าน จากนั้นคลิกที่ ลงชื่อสมัครใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2: ไปที่กระดานซื้อขายแบบ P2P

จากแดชบอร์ด OKX ให้เลือก “ซื้อคริปโต” จากเมนูการนำทาง จากนั้นเลือก กระดานซื้อขายแบบ P2P

ขั้นตอนที่ 3: ซื้อเหรียญคริปโต

ในหน้าต่างการซื้อขายแบบ P2P ให้เลือก ซื้อ แล้วเลือกเหรียญที่จะซื้อ OKX มีการซื้อขายแบบกระจายศูนย์สำหรับเหรียญ BTC, ETH, USDT, USDC, TUSD และ DAI ป้อนสกุลเงินและวิธีการชำระเงิน จากนั้นเลือกข้อเสนอที่มีให้ คลิกซื้อและชำระเงินเพื่อซื้อเหรียญที่เลือก

ขั้นตอนที่ 4: แปลงเป็นเหรียญ TAMA

ตอนนี้เหรียญคริปโตที่ซื้อมาสามารถนำแปลงเป็น Tamadoge ได้ จากเมนูบน OKX ให้เลือก ‘เทรด’ แล้วเลือก ‘แปลง’ เลือกเหรียญที่ซื้อจาก DEX และเลือก TAMA เป็นเหรียญที่จะแปลงเป็น จากนั้นคลิกแปลงเพื่อรับเหรียญ TAMA

บทสรุป

Decentralized Exchange ที่ดีที่สุดช่วยให้นักเทรดสามารถซื้อหรือขายเหรียญคริปโตได้โดยไม่ต้องใช้คนกลาง มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำ มีความเป็นส่วนตัว และตัวเลือกเหรียญที่มากขึ้น และการเข้าถึงการ Stake เหรียญ DeFi ที่ให้ผลตอบแทน

Decentralized Exchange ที่ดีที่สุด ในปี 2023 คือ OKX ซึ่งให้บริการซื้อขายแบบ P2P โดยไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับเหรียญคริปโตยอดนิยมหลายเหรียญ ไปที่ OKX เพื่อซื้อคริปโตตอนนี้

ซื้อเหรียญคริปโตบน OKX

Categories
Crypto News กระดานซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุด คู่มือคริปโต

จัดอันดับ 3 กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด 2023 [แนะนำ!]

กระดานแลกเปลี่ยน P2P (Peer-to-peer) ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากให้นักลงทุนแต่ละคนซื้อขายคริปโตกันได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคนกลางหรือบุคคลที่สาม ระหว่างการทำธุรกรรม

คอนเซปนี้พัฒนามาจากการให้ยืมเหรียญคริปโตแบบ P2P (P2P crypto lending) ซึ่งให้ผู้ใช้งานสามารถให้นักลงทุนคนอื่นยืมคริปโตเคอเรนซี่ของตัวเองได้ คอนเซปทั้งสองนี้มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากนักลงทุนสามารถกำหนดอัตราการซื้อและอัตราการยืมสินทรัพย์ของตนเองได้

ในคู่มือ กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด’ นี้ เราจะรีวิวกระดานซื้อขาย P2P ที่ดีที่สุด และให้รายละเอียดในสิ่งที่คุณต้องรู้ เพื่อเริ่มต้นการแลกเปลี่ยน P2Pอย่างปลอดภัย

กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด ในปี 2023

คุณกำลังมองหากระดานแลกเปลี่ยน P2P และตลาด P2P ที่ดีที่สุดอยู่หรือไม่? ไม่ต้องมองหาที่ไหนแล้ว 3 อันดับกระดานซื้อขาย P2P มีดังต่อไปนี้:

  1. OKX – กระดานแลกเปลี่ยน P2P โดยรวมที่ดีที่สุดที่รองรับสกุลเงินมากมาย
  2. Binance – กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่มีวิธีการชำระเงินมากกว่า 300 รูปแบบ และไม่มีค่าธรรมเนียม
  3. Huobi – กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด ที่พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ระบุไว้ข้างต้น ล้วนแต่มีบริการและเครื่องมือที่หลากหลาย กระดานแลกเปลี่ยน bitcoin แบบ P2P บางแห่ง มุ่งเน้นไปที่บริการสำหรับ bitcoin เท่านั้น แต่ก็ยังมีกระดานแลกเปลี่ยนอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถซื้อขายแบบ P2P ในเหรียญคริปโตได้มากกว่า 70 สกุลเงิน

การค้นหากระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่เหมาะสม อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ ว่าปลอดภัยไหม? ราคาถูกไหม? เราศึกษาข้อมูลเหล่านี้อย่างหนัก เพื่อมารีวิวกระดานแลกเปลี่ยน P2P

ที่ดีที่สุด 3 อันดับแรก ด้านล่างนี้

ไปยังกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

3 อันดับกระดานแลกเปลี่ยน P2P สำหรับ Bitcoin 

สิ่งสำคัญในการเลือกกระดานเทรดคริปโต แบบ P2P คือ ต้องมั่นใจว่าปลอดภัยจริงหรือไม่ เพราะเป็นการซื้อขายโดยตรงกับนักลงทุนรายอื่น โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย

สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ ต้องมั่นใจว่ากระดานซื้อขาย P2P มีปริมาณคริปโตที่เพียงพอต่อการทำธุรกรรม และดูว่ามีผู้ใช้งานมากพอที่จะทำให้เกิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดหรือไม่ ผู้ใช้งานประสบการณ์สูงอาจมองหาการบริการเพิ่มเติม เช่น การ Staking, การเทรดแบบ Margin หรือเครื่องมือการให้ยืมคริปโตแบบ P2P

เราได้สรุปกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด ดังนี้

1. OKX – กระดานแลกเปลี่ยน P2P โดยรวมที่ดีที่สุดที่รองรับสกุลเงินมากมา

OKX เป็นกระดานแลกเปลี่ยน P2P อันดับต้น ๆ ในปี 2023 เพราะที่ OKX นักลงทุนสามารถกำหนดอัตราการแลกเปลี่ยนในสกุลเงิน USDT, USDC, BTC, ETH, TUSD และ DAI ได้ การไม่มีค่าธรรมเนียมเมื่อซื้อขายแบบ P2P ทำให้ OKX กลายเป็นกระดานซื้อขาย P2P ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนที่ต้องการทำข้อตกลงในระหว่างการเทรด

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Decentralized Exchange คือวิธีการชำระเงิน นักลงทุน P2P บน OKX สามารถกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงิน fiat ได้มากมาย เลือกได้จากหลายธนาคาร หรือมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลายในแต่ละสกุลเงิน โดยรวมแล้ว OKX รองรับวิธีการชำระเงินได้มากกว่า 900 วิธี สำหรับนักลงทุนทั่วโลก

สำหรับนักลงทุนที่สนใจเทรดคริปโตแบบ P2P ทาง OKX ช่วยให้การค้นหาคำสั่งซื้อที่คุณสนใจง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยกระดานแลกเปลี่ยนนี้จะมีเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองหัวข้อต่าง ๆ เช่น ผู้ใช้ที่เทรดเดอร์ที่ติดตาม, ชนิดเหรียญ, ขนาดคำสั่งซื้อ และอื่น ๆ นอกจากนี้ OKX ยังมีวิดีโอแนะนำการเทรดแบบ P2P บนกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักลงทุนที่ยังใหม่ต่อวิธีซื้อแบบ P2P นี้

OKX รองรับการฝากเงินที่หลากหลาย ทั้งการฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขายใหม่ รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต และ e-wallets ยอดนิยม แอพมือถือ OKX ยังมีกระเป๋าเงินดิจิทัลในตัว ทำให้นักลงทุนสามารถจัดเก็บคริปโตที่พวกเขาซื้อจากกระดานซื้อขาย P2P ได้อย่างปลอดภัย

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อขายแบบ P2P บนแพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยน centralized ของ OKX มีคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 340 สกุล ให้เลือกเทรดด้วยค่าธรรมเนียมเริ่มต้นเพียง 0.10% ต่อการซื้อขาย และ OKX ยังมีการลิสเหรียญคริปโตออกใหม่อยู่เสมอ ทำให้เป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุดในการค้นหาเหรียญใหม่มาแรง โดยเหรียญ altcoin ที่ดีที่สุดที่ลิสบน OKX ในปัจจุบัน ได้แก่:

  • Tamadoge (TAMA)
  • Sweatcoin (SWEAT)
  • Lingose (LING)
  • Amazy (AZY)
  • Ethereum PoW (ETHW)

OKX ยังรองรับบัญชีออมทรัพย์คริปโต, การ staking คริปโต และการให้ยืมคริปโต ในอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีอีกด้วย 

สกุลเงินที่รองรับ:USDT, USDC, BTC, ETH, TUSD, DAI
การกำหนดราคา:ขึ้นกับนักลงทุน
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Bitcoin:ไม่มี

ไปยัง OKX ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

2. Binance – กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่มีวิธีการชำระเงินมากกว่า 300 รูปแบบ และไม่มีค่าธรรมเนียม

Binance เป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด และเป็นกระดานเทรดมาร์จิ้นที่ดีที่สุดในโลก รวมถึงมีปริมาณการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดด้วย โดยมีมูลค่าการทำธุรกรรมผ่านกระดานแลกเปลี่ยน Binance อยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อวัน ในขณะที่ กระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกทำเงินได้ที่ 6.6 พันล้านดอลลาร์ 

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Binance กลายเป็นกระดานแลกเปลี่ยน P2P โดยรวมดีที่สุด ก็เพราะช่วยเชื่อมโยงนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกที่ทำธุรกรรมในสกุลเงิน fiat และลงทุนในสินทรัพย์คริปโตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เหรียญ altcoin, การเทรดแบบ spot , การแลกเปลี่ยนแบบ P2P, การลงทุนแบบฟิวเจอร์ส, ออปชั่น และมาร์จิ้น

กระดานแลกเปลี่ยน P2P ของ Binance ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถขายหรือซื้อบิทคอยน์ (BTC), Ethereum (ETH), DogeCoin (DOGE), Binance Coin (BNB) และ stablecoins เช่น Binance USD (BUSD), Tether (USDT) และ MakerDAO (DAI) ได้

ผู้ใช้งานสามารถซื้อเหรียญเหล่านี้ได้โดยตรงจากนักลงทุนรายอื่น หรือเลือกที่จะขายเหรียญของตนเองให้กับนักลงทุนรายอื่นก็ได้เช่นกัน โดยเลือกเทรดผ่านสกุลเงินได้มากกว่า 70 สกุล เช่น ดอลลาร์ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์ (GBP), หยวน (CNY) ) และอื่น ๆ อีกมากมาย

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบ P2P จะแตกต่างกันไปตามสกุลเงิน fiat ที่ใช้ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอยู่ระหว่าง 0% ถึง 0.35% ตัวอย่างเช่น การซื้อขายคริปโตในสกุลเงินดอลลาร์จะมีค่าธรรมเนียมที่ 0.35% สำหรับผู้ขาย แต่การซื้อขายในสกุลเงินยูโรหรือปอนด์อังกฤษนั้นมีค่าธรรมเนียมเป็นศูนย์ ส่วน Maker คือผู้ที่โพสต์ขาย

การซื้อและขายคริปโตเคอเรนซี่จากโพสต์บนแพลตฟอร์ม P2P หรือที่เรียกว่า taker จะไม่มีค่าธรรมเนียม เพราะคอนเซปต์ของการซื้อขายแบบ P2P คือให้นักลงทุนสามารถกำหนดราคาขายได้เอง หรือซื้อจากนักลงทุนรายอื่นโดยไม่มีคนกลาง จึงไม่มีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้น

อีกเหตุผลหนึ่งที่ Binance ถูกมองว่าเป็นกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด คือ ผู้ขายต้องกำหนดราคาและขายผ่าน Binance P2P Merchant Program ซึ่งในนี้จะมีโปรโมชั่นพิเศษ, ช่องทางบริการลูกค้า, เครื่องหมายการตรวจสอบยืนยัน, บัตรของขวัญ และ การป้องกันเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนมือใหม่

สกุลเงินที่รองรับ:USDT, BTC, BUSD, BNB, ETH, DOGE, DAI
การกำหนดราคา:ขึ้นกับนักลงทุน
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Bitcoin:ไม่มี

ไปยัง Binance ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

3. Huobi – กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด ที่พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

Huobi ถือเป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด และปัจจุบันก็ถือเป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลกด้วยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 3.4 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน

ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการเทรดแบบ P2P ด้วย Huobi ในสกุลเงิน USDT, BTC, ETH และ HT (โทเค็น Huobi) และอีก 50 สกุลเงินจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ยังไม่คิดค่าคอมมิชชั่นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Huobi เป็นหนึ่งในกระดานซื้อขาย P2P ที่ดีที่สุด คือ การที่ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการหน่วยงานสนับสนุนลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งการบริการเช่นนี้ค่อนข้างหาได้ยากในการซื้อขายแบบ P2P ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากเมื่อการทำธุรกรรมล้มเหลวหรือติดขัด

Huobi ยังมีสกุลเงิน fiat ที่หลากหลายสำหรับการทำธุรกรรมและวิธีการชำระเงินเกือบ 100 วิธี กระดานแลกเปลี่ยน P2P นี้ใช้งานง่าย และยังสามารถใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอื่น ๆ ได้ เช่น การซื้อขายแบบสปอต และการซื้อขายมาร์จิ้น รวมถึงบริการให้ยืมคริปโตแบบ P2P ที่ดีที่สุด

สกุลเงินที่รองรับ:USDT, BTC, ETH, HT
การกำหนดราคา:ขึ้นกับนักลงทุน
ค่าธรรมเนียมการซื้อ Bitcoin:ไม่มี

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

กระดานแลกเปลี่ยน P2P คืออะไร?

กระดานแลกเปลี่ยน P2P เป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่ให้นักลงทุนสามารถซื้อขายคริปโตแบบบุคคลกับบุคคลได้ (peer to peer) หรือการซื้อขายโดยตรงกับนักลงทุนรายอื่น โดยไม่ต้องมีบุคคลที่สามหรือคนกลางได้

การเทรดแบบ P2P แต่ละครั้งจะให้ผู้ใช้งานสามารถขายหรือซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ เช่น bitcoin หรือ stablecoin เช่น Tether ได้ โดยปัจจุบัน Binance เป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่มีคริปโตเคอเรนซี่ให้เลือกซื้อหรือขายผ่านวิธีแลกเปลี่ยน P2P มากที่สุด

ในการซื้อขายแบบ P2P ผู้ขายสามารถโพสต์เกี่ยวกับจำนวนเหรียญคริปโตที่ต้องการขาย ราคา และวิธีการชำระเงิน เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถค้นหาข้อเสนอต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม P2P และเข้ามาซื้อเหรียญคริปโตได้โดยตรง

โดยทั่วไปแล้ว กระดานแลกเปลี่ยน P2P จะถือคริปโตไว้ในระบบเอสโครว์ และเมื่อผู้ขายยืนยันการรับเงิน เหรียญคริปโตนั้นก็จะถูกส่งให้กับผู้ซื้อ

กระดานแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ P2P ทำงานอย่างไร?

กระดานแลกเปลี่ยน bitcoin แบบ P2P ทำงานเหมือนกับกระดานแลกเปลี่ยน P2P ทั่วไป แต่จะมีการซื้อขายแบบ P2Pใน bitcoin เท่านั้น กระดานแลกเปลี่ยน bitcoin แบบ P2P ที่ดีที่สุด จะมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ และมีวิธีการชำระเงินหลากหลายช่องทาง

บนกระดานแลกเปลี่ยน bitcoin แบบ P2P จะมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้ซื้อสามารถซื้อและขาย bitcoin ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมหรือไม่มีค่าคอมมิชชั่น เนื่องจากกระดานแลกเปลี่ยนมักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขายเมื่อการขายเสร็จสิ้น 

ด้วยวิธีการซื้อขายแบบนี้ จึงทำให้ผู้ซื้อสามารถซื้อ bitcoin ได้ในราคาที่ดีที่สุด โดยสามารถทำธุรกรรมได้ด้วยสกุลเงิน fiat ที่หลากหลาย และมีวิธีการชำระเงินมากมาย ส่วนผู้ขายจะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้การขาย bitcoin ในจำนวนหนึ่ง ๆ อยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม

โดยพื้นฐานแล้ว กระดานแลกเปลี่ยน P2P ทำให้นักลงทุนคริปโต มีอิสระในการเทรดคริปโตได้ในราคาที่ต้องการ

ประโยชน์ของกระดานแลกเปลี่ยน P2P

มีประโยชน์มากมายเมื่อใช้กระดานซื้อขาย P2P ที่ดีที่สุด ดังนี้

การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว 

กระดานแลกเปลี่ยน P2P เช่น Binance ทำให้คุณสามารถแลกเปลี่ยน bitcoin ได้ด้วยเงินสด โดยไม่ต้องผ่านบัญชีธนาคารหรือกระเป๋าเงินออนไลน์ วิธีซื้อขาย P2P อย่างมีประสิทธิภาพนี้ เกิดขึ้นแบบ decentralized ซึ่งหมายความว่าไม่มีคนที่คอยรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ จึงทำให้มีระดับความเป็นส่วนตัวที่สูงมาก

วิธีการชำระเงินหลากหลาย

เมื่อคุณซื้อคริปโตจากกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized มักจะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับวิธีการชำระเงิน ธนาคารบางแห่งปฏิเสธที่จะให้บริการการทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโต ในขณะที่ธนาคารบางแห่งก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากมายในการดำเนินการ

แต่เนื่องจากกระดานแลกเปลี่ยน P2P เป็นเพียงการจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขาย พวกเขาจึงสามารถใช้วิธีการชำระเงินได้อย่างหลากหลาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้วิธีการชำระเงินได้มากกว่า 350 วิธี เมื่อใช้แพลตฟอร์ม Binance P2P

ซื้อขายในราคาที่ต้องการ

คอนเซปหลักของการเทรดแบบ P2P คือ การให้อิสระแก่นักลงทุนในการซื้อขายคริปโตในราคาที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย คุณสามารถโพสต์โฆษณา และกำหนดราคาของคุณเองได้

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า

กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบทั่วไป มักจะมีค่าธรรมเนียมในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเทรด แต่กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด จะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อคริปโต

โดยทั่วไป ค่าธรรมเนียมจะถูกคิดกับผู้ขายในการโพสต์โฆษณา แต่ก็ถือว่าต่ำกว่ามาก

เข้าถึงได้ทั่วโลก

แพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยน P2P เชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้งานสามารถซื้อขายกับนักลงทุนรายอื่นได้อย่างไร้ข้อจำกัด และเนื่องจากแพลตฟอร์มคริปโตนี้ไม่ได้เป็นแบบ centralized จึงไม่สามารถสั่งปิดโดยรัฐบาลได้

ไปยัง Binance กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด 

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

กระดานแลกเปลี่ยนP2P vs กระดานแลกเปลี่ยน OTC

ในขณะที่ กระดานแลกเปลี่ยนและแพลตฟอร์ม P2P ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่วิธีการดั้งเดิมในการเทรดผ่านกระดานแลกเปลี่ยน OTC ก็ยังคงมีปริมาณการซื้อขายมากที่สุด

กระดานแลกเปลี่ยน OTC (Over the Counter) เป็นการทำธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยให้ซื้อและขายสินทรัพย์ที่แตกต่างกันได้ โดยพื้นฐานแล้ว กระดานแลกเปลี่ยน OTC ทำหน้าที่เป็นเหมือนสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และดึงดูดนักลงทุนชั้นสูง โดยทำหน้าที่เป็นกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized 

ส่วนกระดานแลกเปลี่ยน OTX จะช่วยให้นักลงทุนซื้อขายได้ในปริมาณมาก เนื่องจากโดยปกติแล้ว จะมีผู้ซื้อและผู้ขายมากมายที่ทำธุรกรรมผ่านช่องทางนี้  จึงเหมาะกับนักลงทุนรายย่อยมากกว่า เนื่องจากจำนวนเงินที่ใช้ทำธุรกรรมจะน้อยกว่ามาก

นักลงทุนบางรายชอบใช้กระดานแลกเปลี่ยน OTC เพราะไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน กระดานแลกเปลี่ยนนี้จะจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขาย และส่งคำสั่งซื้อไปยังสมุดคำสั่งซื้อ ในขณะที่ กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ P2P กำหนดให้ผู้ขายต้องโพสต์เกี่ยวกับจำนวนเหรียญและราคาที่ต้องการขาย 

การซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกระดานแลกเปลี่ยนทั้งสองประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทั้งนี้ ที่ Binance ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายคริปโตได้ทั้งแบบ OTC และ P2P

ข้อจำกัดของกระดานแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ P2P

ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนใด ๆ ล้วนแต่ต้องมีข้อจำกัดบางประการ สิ่งที่ต้องระมัดระวังเมื่อใช้กระดานแลกเปลี่ยน P2P มีดังนี้

สภาพคล่องต่ำ

เป็นเรื่องปกติที่แพลตฟอร์มซื้อขายแบบ P2P จะมีสภาพคล่องต่ำกว่ากระดานแลกเปลี่ยน OTC แม้ว่ากระดานแลกเปลี่ยน P2P

จะให้ผู้ใช้กำหนดราคาและปริมาณการขายของตนเองได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว

ในขณะที่ กระดานแลกเปลี่ยน OTC มีบุคคลทุกประเภทที่พร้อมจะทำธุรกรรมในทุกระดับราคา เนื่องจากประกอบไปด้วยนักลงทุนระยะสั้น, นักลงทุนระยะยาว, หุ่นยนต์เก็งกำไรด้วยอัลกอริธึม, นักลงทุนทำฟาร์มผลตอบแทน และอื่น ๆ อีกมากมาย

ดังนั้น คำสั่งซื้อของคุณจึงมีโอกาสที่จะจับคู่กับผู้ซื้อหรือผู้ขายรายอื่น ๆ ได้ในทันที

การทำธุรกรรมช้า

เนื่องจากการเทรดแบบ P2P มีสภาพคล่องต่ำกว่า จึงทำให้ความเร็วในการทำธุรกรรมช้ากว่ากระดานแลกเปลี่ยนแบบ OTC ด้วย เนื่องจากเมื่อผู้ซื้อต้องการซื้อคริปโตจากผู้ขาย พวกเขาต้องรอให้เงินส่งไปถึงผู้ขายก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการในการชำระเงิน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในทันที หรือใช้เวลาหลายวันก็ได้

เมื่อผู้ขายได้รับเงินแล้ว พวกเขาจะต้องแจ้งกลับไปที่กระดานแลกเปลี่ยน P2P เพื่อให้แพลตฟอร์มส่งเหรียญคริปโตที่เก็บไว้ในระบบเอสโครว์ให้กับผู้ซื้อได้

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจจะยกเลิกคำสั่งในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้บนกระดานแลกเปลี่ยน OTC

ความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง

เนื่องจากกระดานแลกเปลี่ยน P2P ส่วนใหญ่ ไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกหลอกลวงและฉ้อโกง ผู้ใช้งานสามารถสร้างโปรไฟล์ปลอม และให้รายละเอียดอันเป็นเท็จ เพื่อหลอกล่อนักลงทุนมือใหม่ให้ส่งเงินให้ หรือขโมยรายละเอียดส่วนบุคคลได้

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกใช้กระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ได้รับความนิยมสูง และมีขนาดใหญ่ เพราะจะมีความปลอดภัยที่มากกว่า นอกจากนี้ ยังควรใช้กระดานแลกเปลี่ยนที่มีระบบช่วยเหลือลูกค้า เกี่ยวกับปัญหาการเทรดที่อาจเกิดขึ้น

วิธีใช้กระดานแลกเปลี่ยน Crypto

ด้านล่างนี้เป็นวิธีการซื้อและขายคริปโตทีละขั้นตอน โดยใช้ Binance กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชี

การสร้างบัญชีกับ Binance ทำได้ง่ายและรวดเร็ว เริ่มจากเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Binance แล้วเลือกไปที่ไอคอน “register” จากนั้นจะต้องกรอกรายละเอียดส่วนบุคคล เช่น อีเมลและรหัสผ่าน เพื่อสร้างบัญชี

คุณควรอ่านข้อกำหนดการให้บริการของ Binance ก่อนกดตกลง จากนั้น บัญชีจะถูกสร้างขึ้นพร้อมลิงก์ยืนยันที่ส่งไปยังอีเมลที่กรอกข้อมูลไว้

ขั้นตอนที่ 2: ยืนยัน ID ของคุณ

เนื่องจาก Binance เป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบบางประการที่ผู้ใช้งานต้องปฏิบัติตาม เช่น การตรวจสอบบัตรประจำตัวและที่อยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบมาตรฐานที่ว่าด้วยการต่อต้านการฟอกเงิน

เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบออนไลน์ดำเนินการอย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว ผู้ใช้งานจะต้องให้ข้อมูลพื้นฐานบางอย่าง เช่น ชื่อนามสกุล วันเกิด และที่อยู่อาศัย ตามข้อกำหนดในการตรวจสอบ

ขั้นตอนต่อไปในกระบวนการตรวจสอบ คือ การส่งเอกสารยืนยันตัวตนและที่อยู่ โดยคุณสามารถอัปโหลดภาพถ่าย หรือถ่ายภาพโดยใช้เว็บแคมหรือกล้องมือถือก็ได้

หลังจากการตรวจสอบนี้ ผู้ใช้งานจะสามารถฝากและถอนเงินได้ หากต้องการชำระเงินในจำนวนที่สูงขึ้น ให้กรอกแบบฟอร์ม KYC เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน

Binance มีวิธีฝากเงินที่หลากหลาย วิธีที่ง่ายที่สุด คือ คลิกไปที่ “Buy Crypto” ที่ด้านบนของแพลตฟอร์ม ก็จะสามารถฝากเงินเข้าไปในกระเป๋าเงิน Binance ของคุณ และพร้อมสำหรับการซื้อขายได้แล้ว

คุณสามารถฝากเงินได้หลากหลายสกุลเงิน เช่น USD, GBP หรือ EUR การฝากเงินด้วยวิธีการโอนเงินผ่านธนาคารจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุด สำหรับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต จะมีค่าธรรมเนียมที่ 1.8% ทั้งนี้ มีตัวเลือกการชำระเงินเมื่อซื้อคริปโตผ่าน P2P ด้วยวิธีอื่น ๆ อีกมากกว่า 350 รายการ รวมไปถึง PayPal ด้วย

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อคริปโตผ่าน P2P

หากต้องการซื้อคริปโตผ่านเพียร์ทูเพียร์ ให้คลิกที่ ‘Buy Crypto’ ที่ด้านบนของแพลตฟอร์ม และเลือก ‘P2P trading’ Binance จะมีตัวกรองโดยละเอียด เพื่อช่วยให้คุณค้นหาเหรียญที่ดีที่สุดโดยมีตัวกรองในหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น สกุลเงินดิจิทัล, สกุลเงิน fiat, ประเภทการชำระเงิน, ประเทศของผู้ขาย และอื่น ๆ

Binance จะแสดงรายชื่อของผู้ขายคริปโตโดยละเอียด โดยเรียงจากราคาต่ำสุดไปราคาสูงสุด, จำนวนเหรียญที่ขาย,  วิธีการชำระเงินที่ผู้ขายยอมรับ และข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ขาย เช่น ประวัติคำสั่งซื้อที่เสร็จสมบูรณ์

เมื่อคำสั่งซื้อได้รับการยืนยันจากผู้ขายแล้ว คุณจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้ขายผ่านวิธีการชำระเงินที่แนะนำ หลังจากจ่ายเงินแล้ว  ให้คลิกที่ ‘Transferred, notify seller’ เพื่อให้ Binance แจ้งเตือนไปที่ผู้ขาย

ผู้ขายจะยืนยันการรับเงินกับ Binance จากนั้น กระดานแลกเปลี่ยนจะส่งคริปโตไปยังกระเป๋าเงิน Binance ของคุณ

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานสามารถซื้อและขายคริปโตผ่านกระดานแลกเปลี่ยน Binance เพื่อดำเนินการในทันที ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการ ทั้งนี้ Binance มีเหรียญคริปโตให้เลือกเทรดจำนวนมาก เช่น Litecoin (LTC), Ethereum (ETH), Bitcoin Cash (BCH) และคู่เหรียญอื่น ๆ อีกมากมาย

ขั้นตอนที่ 5: ขายคริปโตผ่าน P2P

วิธีซื้อขาย P2P ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อคริปโตได้ในราคาที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังขายคริปโตได้ในราคาที่ต้องการอีกด้วย ซึ่งทำได้ง่ายเพียงแค่คลิกที่ไอคอน ‘Sell‘ บนกระดานแลกเปลี่ยน P2P

การดำเนินการนี้จะให้ผู้ใช้งานกรอกจำนวนคริปโตและราคาที่ต้องการขาย โดยสามารถกำหนดราคาของตนเองได้อย่างเต็มที่ และ Binance มีวิธีการชำระเงินเพื่อรับเงินจากผู้ซื้อได้มากถึง 20 วิธี 

ความสะดวกในการใช้งาน และการทำงานของแพลตฟอร์มการซื้อขาย Binance P2P คือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Binance เป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุด

ไปยัง Binance ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

บทสรุป

เห็นได้ชัดว่าวิธีซื้อขาย P2P มีความยืดหยุ่นในการเทรดคริปโตมากกว่า แนวคิดนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถกำหนดราคา  ปริมาณ และวิธีการชำระเงิน เพื่อให้สามารถซื้อและขายคริปโตเคอเรนซี่ได้เอง

แม้ว่าจะมีกระดานแลกเปลี่ยน P2P มากมาย แต่ OKX ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เริ่มต้นเปิดบัญชีฟรีตอนนี้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ไปยัง OKX ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย