Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

เหรียญโตไวที่สุด

‘เหรียญโตไวที่สุด‘ ถูกค้นหาใน Google มากกว่าหนึ่งพันครั้งต่อเดือน เนื่องจากหลาย ๆ คนต้องการเลือกซื้อเหรียญ altcoin ที่ดี ในเวลาที่เหมาะสม อาจได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากว่าการซื้อเหรียญ Bitcoin อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการขาดความอดทนของนักลงทุนมือใหม่ที่อยากจะรวยเร็ว จากการพยายามหาคริปโตเคอเรนซี่ที่จะ go to the moon ตัวใหม่ และเชื่อว่าเหรียญนั้น ๆ จะมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในอีกไม่ช้า

โดยปกติแล้ว นักลงทุนรายย่อยมักจะเข้าซื้อเหรียญเมื่อราคาขึ้นถึงจุดสูงสุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า ติดดอยทำให้ได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ‘คริปโตเคอเรนซี่ที่เติบโตเร็วที่สุดคือเหรียญใด’ แต่มันก็เป็นจุดสิ้นสุดของช่วงขาขึ้นแล้ว ตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤษภาคม 2021 เมื่อ Elon Musk ไปออกรายการ SNL และพูดถึงเหรียญ Shiba Inu นี้ ทำให้ราคาของ Dogecoin แตะระดับสูงสุดในเดือนตุลาคม และราคาก็ค่อย ๆ ลดลงหลังจากนั้นเป็นต้นมา ในคู่มือนี้ เราจะให้คำตอบว่าเหรียญโตไวที่สุดคือเหรียญไหน และวิเคราะห์ด้วยว่า เหรียญโตไวที่สุดนี้ เป็นวิธีการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ที่ถูกต้องหรือไม่

8 อันดับเหรียญโตไวที่สุดแห่งปี 2023

เราได้รวบรวม 8 อันดับเหรียญคริปโตล่าสุด ซึ่งอาจจะเป็นเหรียญที่มีโอกาสเติบโตสูง:

  1. FightOut – เหรียญโตไวที่สุดโดยรวมที่ให้รางวัลจากการออกกำลังกาย
  2. RobotEra – เหรียญ Metaverse โตไวที่สุดที่กำลังอยู่ในช่วงขายพรีเซล
  3. Dash 2 Trade – เหรียญโตไวที่สุดที่ขายพรีเซลได้อย่างต่อเนื่อง
  4. IMPT – เหรียญโตไวที่สุดที่ส่งเสริมการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์
  5. Tamadoge – เหรียญมีมโตไวที่ให้ utility ใหม่ล่าสุด
  6. Lucky Block – เหรียญโตไวที่สุดในไตรมาสที่ 1 ของปี 2022
  7. Battle Infinity – เหรียญโตไวที่สุดในรูปแบบเกม Metaverse ที่ขายพรีเซลหมดก่อนกำหนด
  8. Defi Coin– เหรียญโตไวที่สุดที่ราคาพุ่งขึ้น 500% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2022

เหรียญโตไวที่สุดอันดับ #1 แนะนำ

รีวิว 8 เหรียญโตไวที่สุด

8 อันดับเหรียญเติบโตไวที่สุด มีตั้งแต่เหรียญที่ยังไม่ถูกลิสบนกระดานเทรดคริปโต ไปจนถึงเหรียญที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นบนกระดานเทรดคริปโตชื่อดัง เราจะอธิบายว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น:

1.FightOut – เหรียญโตไวที่สุดโดยรวมที่ให้รางวัลจากการออกกำลังกาย

สกุลเงินหลักของ FightOut คือเหรีย ย$FGHT ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดโดยระดมทุนได้มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ในช่วงพรีเซลล์ในเวลาไม่กี่วัน การเพิ่มยอดขายล่วงหน้าเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เนื่องจากเมื่อโทเค็น $FGHT เข้าลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน เหรียญนี้จะได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในเหตุผลหลักที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อเหรียญ crypto นี้เป็นจำนวนมากคือการขายช่วงพรีเซลเสนอโทเค็นโบนัส นักลงทุนจะได้รับโทเค็นเพิ่มเติมเมื่อซื้อในราคาเพียง $0.016 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนลงทุนเริ่มต้นและระยะเวลาการให้สิทธิ์

อีกเหตุผลหนึ่งคือ FightOut ได้จัดสรร 90% ของการจัดหาโทเค็นทั้งหมด 10,000 ล้านโทเค็นให้กับการขายล่วงหน้า เมื่อ $FGHT เข้าลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 นักลงทุนจะรีบเก็บอุปทานที่เหลืออีก 10% นั่นน่าจะทำให้ราคาของเหรียญพุ่งสูงขึ้น พิสูจน์ให้เห็นว่า $FGHT เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุด

นอกจากราคาสินทรัพย์ที่ต่ำแล้ว นักลงทุนยังชอบใจที่ FightOut เสนอโทเค็นรางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการใช้ชีวิตที่แอคทีฟ แอพของ FightOut มีวิดีโอแนะนำ ชาเลนจ์ต่างๆ และการออกกำลังกายแบบกำหนดเอง เร็วๆ นี้ FightOut จะเปิดโรงยิมทั่วโลกเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมด้วยตนเองได้

ราคา $FGHT จะสูงขึ้นแน่นอน เนื่องจาก FightOut กำลังทาบทามกับนักสู้มืออาชีพเพื่อเป็นแบรนแอมบาสเซเดอร์ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ความต้องการโทเค็นสูงขึ้น

เมื่อได้รับโทเค็นแล้ว ผู้ใช้สามารถแลกเป็นสินค้า NFT การสมัครสมาชิก และเซสชันการฝึกอบรมทางไกล

เพื่อให้ทันกับ crypto นี้ นักลงทุนสามารถเข้าร่วมช่องทาง Telegram อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้ในเอกสารข้อมูลของ FightOut

ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง FightOut กับระบบ move to earn คือให้รางวัลแก่การเคลื่อนไหวขยับร่างกายและนับจำนวนก้าว ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับรางวัลสำหรับกิจกรรม ผู้ใช้สามารถซื้อโทเค็น FGHT แล้วแลกเปลี่ยนเป็น REPS สกุลเงินในแอปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อ

เริ่มต้นขายพรีเซล14 ธันวาคม
วิธีชำระเงินETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. RobotEra – เหรียญ Metaverse โตไวที่สุดที่กำลังอยู่ในช่วงขายพรีเซล

RobotEra (TARO) เป็นคริปโตเคอเรนซี่แบบ metaverse มาใหม่ในปี 2023 โดยใช้ TARO ซึ่งเป็นโทเค็น ERC20 เป็นโทเค็นหลัก RobotEra ช่วยเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้จากเกมบนระบบนิเวศเสมือนจริง ปัจจุบันสามารถซื้อพรีเซลรอบแรกได้แล้ว และราคา TARO จะเพิ่มขึ้น 60% ตลอดช่วงพรีเซล

ใน Metaverse ของ RobotEra คุณคือหุ่นยนต์ที่คอยจัดการที่ดินดิจิทัลที่คุณสร้างขึ้น โดยที่หุ่นยนต์ถูกสร้างขึ้นเป็น NFT ผ่านสัญญาอัจฉริยะในระบบนิเวศนี้ RobotEra แบ่งคลาสของหุ่นยนต์เป็น 7 คลาส โดยแต่ละคลาสจะมีคุณสมบัติและคุณลักษณะเฉพาะ ส่วนที่ดินก็เป็นอีกหนึ่ง NFT ที่ซื้อขายได้ คล้ายกับ Decentraland และ The Sandbox ที่คุณสามารถสร้าง ให้เช่า และขุดดิน เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม

ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นสามารถสร้างสวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยว หรือมีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าในโรงงาน ไวท์เปเปอร์ของ RobotEra ระบุว่า กิจกรรมทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้ด้วย RobotEra Editor ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ใช้งานสร้างโครงสร้างเฉพาะตัวบนที่ดินของตัวเอง หรือสร้างสินทรัพย์ NFT ที่ซื้อขายได้ เพื่อสร้างระบบนิเวศของตัวเอง คุณสามารถ stake TARO เพื่อเข้าร่วมในองค์กร DAO ซึ่งจะช่วยให้มีสิทธิออกเสียงเพื่อตัดสินอนาคตของ RobotEra

แผนงานของ RobotEra ระบุไว้ว่า แพลตฟอร์มนี้จะเกิดองค์ประกอบเสมือนจริงภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2023  ในขณะที่ ฟีเจอร์ทั้งหมดจะสามารถใช้ได้โดยต้องซื้อโทเค็น TARO ก่อน ซึ่งปัจจุบันราคาของ TARO อยู่ที่ 0.02 ดอลลาร์ในช่วงพรีเซลล์รอบแรก และราคาของ TARO จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.032 ดอลลาร์ในช่วงพรีเซลรอบสุดท้าย ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 60%

การขายพรีเซล 270 ล้านโทเค็น คิดเป็น 15% ของอุปทานทั้งหมดที่ 1.8 พันล้านโทเค็น ซึ่ง RobotEra คาดหวังว่าจะระดมทุนได้ 7 ล้านดอลลาร์จากการขายพรีเซลนี้ อ่านคู่มือวิธีซื้อเหรียญคริปโต RobotEra เพื่อเริ่มการลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วม Telegram ของ RobotEra เพื่อติดตามการอัปเดตเพิ่มเติมได้

เริ่มขายพรีเซลไตรมาสที่ 4 ปี 2022
วิธีการชำระเงินETH, USDT
เชนEthereum
เงินลงทุนขั้นต่ำ1,000 TARO
เงินลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

3. Dash 2 Trade – เหรียญโตไวที่สุดที่ขายพรีเซลได้อย่างต่อเนื่อง

D2T เป็นคริปโตเคอเรนซี่หลักของ Dash 2 Trade ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ใช้วิเคราะห์เหรียญคริปโตแบบครบจบในตัว ปัจจุบัน กำลังวางขายพรีเซลที่แบ่งออกเป็น 9 รอบ โดยราคาของโทเค็น D2T อยู่ที่ 0.05 ดอลลาร์ หลังจากสิ้นสุดพรีเซลนี้ จะส่งผลให้นักลงทุนที่ซื้อตั้งแต่รอบแรกจะทำกำไรทันที 39% เนื่องจากราคาของ D2T จะเพิ่มขึ้นจาก 0.0476 ดอลลาร์ เป็น 0.0662 ดอลลาร์

ตามไวท์เปเปอร์ของ Dash 2 Trade แพลตฟอร์มนี้จะเปิดให้ใช้ข้อมูลแดชบอร์ดภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 โดยการซื้อแพ็คเกจเริ่มต้นหรือพรีเมี่ยม ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้ชุดเครื่องมือการเทรด ที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจลงทุนคริปโตได้อย่างมีข้อมูล นักลงทุนสามารถใช้ดัชนีชี้วัดกระแสเหรียญคริปโต ที่ช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต ผ่านการวิเคราะห์การมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดียและแนวโน้มตลาด

ผู้ใช้งานสามารถฝึกใช้กลยุทธ์การเทรดผ่านแพลตฟอร์มการทดสอบย้อนหลัง และ Dash 2 Trade ยังมีโปรไฟล์แฟ้มความเสี่ยง ที่ช่วยแจ้งเตือนการลิสเหรียญคริปโตใหม่ และให้คะแนนเหรียญที่วางขายพรีเซล เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงโอกาสการลงทุนในเหรียญใหม่ก่อนใคร ผู้ถือโทเค็น D2T จะมีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันการเทรดรายสัปดาห์ ซึ่งผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด จะได้รับโทเค็นเป็นรางวัล

สมาชิกระดับพรีเมียมที่จ่าย 1,000 D2T ต่อเดือน จะได้สิทธิการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งราคาปัจจุบันของ D2T อยู่ที่ 0.05 ดอลลาร์ต่อโทเค็น 1,000 D2T จึงเทียบเท่ากับการจ่ายที่ 50 ดอลลาร์ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม คริปโตเคอเรนซี่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ จะมีราคาเพิ่มขึ้นอีก 32.5% จากราคาพรีเซลรอบล่าสุด และหลังจากการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนทั่วโลก อาจมีผลให้ D2T มีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นหนึ่งในเหรียญเติบโตไวที่สุด

นับตั้งแต่เริ่มขายพรีเซล D2T ระดมทุนไปแล้วมากกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์ และราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.0513 ดอลลาร์ต่อโทเค็น หลังจากที่มีจำนวนเงินทุนที่ระดมได้มากกว่า 5.16 ล้านดอลลาร์ สามารถติดตาม Dash 2 Trade ผ่านกลุ่ม Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเหรียญโตไวที่สุดเหรียญนี้ได้

เริ่มขายพรีเซล19 ตุลาคม
วิธีการชำระเงินETH, USDT, Transak
เชนEthereum
เงินลงทุนขั้นต่ำ1,000 D2T
เงินลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

เข้าร่วมการขายพรีเซล D2T เพื่อลุ้นรับรางวัลเป็นโทเค็น D2T มูลค่า 150,000 ดอลลาร์

ไปยัง Dash 2 Trade ตอนนี้

4. IMPT – เหรียญโตไวที่สุดที่ส่งเสริมการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์

IMPT เปิดพรีเซลไปได้เพียงไม่กี่วัน ก็ระดมทุนไปได้แล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งเหรียญโตไวที่สุด ความต้องการเหรียญที่สูงขึ้น ผลักดันให้ราคาเหรียญเพิ่มจาก 0.018 ดอลลาร์ เป็น 0.023 ดอลลาร์ เมื่อเข้าสู่การขายพรีเซลรอบสอง และเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้

เหรียญคริปโตเหรียญนี้กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุน เพราะให้ประโยชน์ใช้งานหลักถึงสองประการ ประการแรกคือ การให้โทเค็น IMPT แก่นักลงทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุด เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการซื้อสินค้ากับแบรนด์พันธมิตร และช่วยให้นักลงทุนสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้

การซื้อสินค้ากับแบรนด์พันธมิตรของ IMPT จะช่วยให้นักลงทุนมีส่วนร่วมโดยตรงกับแบรนด์ที่มุ่งมั่นจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และบริจาคเงินให้กับองค์กรที่แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน

IMPT ช่วยให้แบรนด์และบุคคลสามารถติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของตนเองผ่านคาร์บอนเครดิตที่ขึ้นอยู่กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ การมีส่วนร่วมในเชิงบวก จะช่วยให้นักลงทุนได้รับรางวัลเป็นคาร์บอนเครดิต และนักลงทุนสามารถแปลงโทเค็น IMPT เป็นคาร์บอนเครดิตเพื่อเผาทิ้งได้ 

หรือนักลงทุนจะเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตให้เป็น NFT เพื่อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์และขายในภายหลังก็ได้เช่นกัน ไวท์เปเปอร์ของ IMPT มีรายละเอียดทุกอย่างที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการลงทุนในเหรียญที่มีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็วนี้

และยังมีวิธีอื่น ๆ ในการรับข้อมูลเพิ่มเติมจากช่องทาง Telegram ของ IMPT 

ซื้อโทเค็น IMPT ตอนนี้

5. Tamadoge (TAMA) – เหรียญมีมโตไวที่ให้ utility ใหม่ล่าสุด

ตัวเลือกเหรียญโตไวที่สุดตัวต่อไป คือ Tamadoge (TAMA) เหรียญมีมที่ให้ประโยชน์ใช้งานหลากหลายในระบบนิเวศการเล่นเกมเพื่อหารายได้ (P2E) อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหรียญมีมตั้งแต่ช่วงแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณลงทุนในช่วงราคาเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่น ๆ และได้กำไรเมื่อราคาขึ้นถึงจุดสูงสุด ปัจจุบัน สามารถซื้อ Tamadoge ได้บนกระดานแลกเปลี่ยนชั้นนำ เช่น OKX และ LBank โดยก่อนหน้านี้ Tamadoge ระดมทุนได้ถึง 19 ล้านดอลลาร์ในช่วงการขายพรีเซล

นักลงทุนรายแรก ๆ ที่ซื้อเหรียญ Shiba Inu สร้างกำไรได้หลายพันล้านดอลลาร์จากการลงทุนในโทเค็นขนาดเล็ก ซึ่งเขาสามารถเพิ่มมูลค่าของเหรียญ SHIB จาก 8,000 ดอลลาร์ ให้กลายเป็น 5.7 พันล้านดอลลาร์ได้ และกลายเป็นข่าวใหญ่ใน Business Insider และ Yahoo

แม้ว่า Shiba Inu จะไม่ได้มีประโยชน์ใช้งานอะไรเลย ยกตัวอย่างเช่น เหรียญ Dogecoin ที่ส่วนใหญ่จะเริ่มจากเรื่องตลก และใช้มีมตลก ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Elon Musk บน Twitter ในขณะที่ Tamadoge (TAMA) เริ่มต้นด้วยแผนงานที่ชัดเจน และเป็นเกม play to earn  ภายในระบบนิเวศของ Tamadoge ผู้เล่นจะสามารถสร้างสัตว์เลี้ยงของตัวเองได้ในรูปแบบของ Tamadoge NFT หลังจากนั้น ก็สามารถผสมพันธุ์ ฝึกฝน และนำสัตว์เลี้ยงไปต่อสู้กับผู้เล่นรายอื่น ๆ เพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดบนกระดานผู้นำรายเดือน และรับรางวัลเป็นโทเค็น Tamadoge 

TAMA มีอุปทานคงที่สูงสุด 2 พันล้านโทเค็น และไม่มีการเพิ่มอุปทานเหมือนกับ Dogecoin ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ Dogecoin ไม่เติบโตหลังจากผ่านช่วงที่คนแย่งกันซื้อ หลังการขายพรีเซล โทเค็น TAMA ถูกลิสในราคา 0.03 ดอลลาร์บน OKX ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนระดับโลก ที่มีนักลงทุนมากกว่า 20 ล้านคน และราคาโทเค็นก็ขึ้นไปแตะระดับสูงสุด (ATH) ที่ 0.19 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 5.5 เท่าเมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้น นี่จึงถือเป็นหนึ่งในเหรียญโตไวที่สุดในใจเรา

TAMA พร้อมให้ซื้อแล้วบน OKX กระดานแลกเปลี่ยน decentralized และ centralized ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้แบบไร้ข้อจำกัด และไม่จำกัดพรมแดนนอกจากนี้ โทเค็นยังถูกลิสบน LBank และ Uniswap เช่นกัน

ซื้อ Tamadoge บน OKX CEX

ซื้อ Tamadoge บน OKX DEX

6. Lucky Block (LBLOCK) – เหรียญโตไวที่สุดในไตรมาสที่ 1 ของปี 2022

Lucky Block เป็นเหรียญโตไวที่สุดสูงถึง 65 เท่า หลังการขายพรีเซลจบลงในต้นเดือนมกราคม 2022 โดยในช่วงแรกของการขายพรีเซล LBLOCK มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 0.0015 ดอลลาร์

หนึ่งเดือนต่อมา Lucky Block ถูกลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน LBank ซึ่งเป็นรายการ CEX แรก ทำให้เหรียญมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 0.0097 ดอลลาร์ ตลาดขาขึ้นของ LBLOCK เป็นหนึ่งในเหรียญเติบโตไวที่สุดในมูลค่าตลาด 1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับคริปโตเคอเรนซี่ใด ๆ

มูลค่าที่เพิ่มขึ้นถึง 6,500% ตกลงไปอย่างมากในช่วงตลาดซบเซาในปี 2022 อย่างไรก็ตาม ราคาของ LBLOCK ยังคงมากกว่าราคาขายพรีเซลอยู่ถึง 7 เท่า

Lucky Block ถูกลิสเพิ่มบน CEX ในปี 2022 และในเดือนสิงหาคม ก็มีการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน MEXC และ Gate.io ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่ใหญ่เป็นอันดับห้า 

ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นจากการลิสบน CEX จำนวนมาก น่าจะช่วยให้ LBLOCK ทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลในอดีตได้

ปัจจัยที่ช่วยเร่งการเติบโตอีกหนึ่งสิ่ง คือ แผนงานของโครงการที่เสร็จสิ้นบางส่วน โดย LBLOCK เพิ่งอัปเกรดเป็นมาตรฐานโทเค็น V2 ซึ่งสร้างขึ้นบน Ethereum และลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากเดิมที่ 12% เป็น 0% ซึ่งโทเค็น V2 เปิดใช้งานไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม

นอกจากนี้ ผู้ก่อตั้ง Lucky Block ยังประกาศด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน LBLOCK จะมีอัตราการเผาเหรียญทิ้งรายเดือนที่ 1% ซึ่งจะช่วยลดอุปทานลงอย่างมาก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lucky Block แพลตฟอร์มการจับรางวัล NFT แบบ decentralized ที่เต็มไปด้วยการแจกของรางวัล และการร่วมทุนเพื่อการกุศลอื่น ๆ ในหัวข้อการคาดการณ์ราคา Lucky Block ของเรา

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

7. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญโตไวที่สุดในรูปแบบเกม Metaverse ที่ขายพรีเซลหมดก่อนกำหนด

คำแนะนำที่พบบ่อยที่สุดในวงการคริปโตเคอเรนซี่และการเทรดโดยทั่วไป คือ “ซื้อถูก ขายแพง” เพื่อให้ได้ถือเหรียญโตไวที่สุด จำเป็นต้องเริ่มต้นซื้อจากจุดที่ราคาต่ำ แม้ว่าราคาจะไม่ได้ขึ้นเป็นเส้นตรงเสมอไป

คริปโตเคอเรนซี่ เป็นประเภทสินทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดได้ 2 ทิศทาง ทั้งราคาขึ้นและราคาลง โดยราคาอาจจะพุ่งขึ้นสูงมาก และขึ้นไปเรื่อย ๆ หรือ ‘ราคาตกลง’ เพื่อทดสอบแนวรับในอดีต ซึ่งแตกต่างจากตลาดหุ้นอย่าง S&P 500 ที่มีการเติบโตเฉลี่ยช้ากว่า และคงที่ที่ 10.5% ต่อปี ตั้งแต่ปี 1957

คริปโตเคอเรนซี่สามารถทำกำไรได้มากกว่า 1,000% ในหนึ่งเดือน แบบ Shiba Inu ที่เคยทำได้ในเดือนตุลาคม 2021 แต่หลังจากนั้น ราคาก็ตกลงไป 90% ในอีกแปดเดือนถัดมา ซึ่งเหรียญ altcoin จำนวนมากประสบปัญหานี้ และ SHIB ยังคงมีแนวโน้มราคาขาลงไปอีกหลายปี Ethereum ก็เช่นกัน โดยมีราคาลดลง 95% ก่อนที่จะกลับมาทำราคาสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งใน 3 ปีต่อมา (ม.ค. 2018 – ม.ค. 2021, จาก 1440 ดอลลาร์ ลงไปที่ 80 ดอลลาร์)

ตัวเลือกเหรียญโตไวที่สุดในใจเรา คือ เหรียญคริปโตที่มีสินทรัพย์ metaverse แบบใหม่ ซึ่งดึงดูดความสนใจของนักลงทุนในช่วงการขายพรีเซลได้ในระดับสูง และเป็นเหรียญที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2023

Battle Infinity ผ่านช่วงซอฟต์แคปหนึ่งสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงพรีเซล 90 วัน จากนั้น ราคาแตะระดับสูงสุดที่ 16,500 BNB ภายในเวลาเพียง 24 วัน ปริมาณการซื้อในช่วงเริ่มต้น ส่งผลให้ IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Battle Infinity กลายเป็นเหรียญเติบโตไวที่สุด และยังเป็นเหรียญที่มีการค้นหามากที่สุดแห่งปี เนื่องจากมีให้ซื้อขายบนกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตหลายแห่ง

IBAT เป็นโทเค็น BEP-20 ที่มีอุปทานคงที่ 1 หมื่นล้าน ซึ่งการเป็นเหรียญที่กำหนดอุปทานสูงสุดเหมือน Bitcoin จะมีโอกาสเติบโตได้ดีที่สุดในระยะยาว

อัปเดต – IBAT มีราคาเพิ่มขึ้น 700% จากราคาขายพรีเซล เมื่อลิสบน PancakeSwap และราคาพุ่งขึ้นอีกครั้งหลังจากลิสเพิ่มบน LBank กระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized 

ขณะนี้ราคา IBAT อยู่ที่ 0.0040 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 165% จากราคาขายพรีเซลที่ 0.0015 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์ และจะเข้าลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่อื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

เข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ Battle Infinity เพื่ออัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ (โปรดทราบว่าแอดมินจะไม่ DM หาคุณก่อน ไม่มีการขอ seed phrase หรือขอให้คุณตรวจสอบ MetaMask หรือ Trust Wallet)

อ่านไวท์เปเปอร์และแผนงานของเกมกีฬาแฟนตาซีที่ใช้ NFT เกมนี้ที่ battleinfinity.io การค้นหาเหรียญโตไวที่สุดส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจากการศึกษาตลาดอย่างรอบคอบก่อนที่เหรียญจะเติบโต และมักจะสายเกินไปถ้าคุณลงทุนในเหรียญที่เติบโตไปแล้วด้วยอาการ FOMO (กลัวว่าจะตกกระแส)

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

8. DeFi Coin (DEFC) – เหรียญโตไวที่สุดที่ราคาพุ่งขึ้น 500% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2022

DeFi Coin เป็นเหรียญที่ราคาเพิ่มขึ้น 40 เท่า จากราคาพรีเซลที่ 0.10 ดอลลาร์ ไปเป็น 4 ดอลลาร์ หลังจากถูกลิสครั้งแรกบน Bitmart ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนแบบ CEX ในเดือนกรกฎาคม 2021 หลังจากนั้น ก็มีการลิสเพิ่มเติมบน PancakeSwap กระดานแลกเปลี่ยนแบบ Dex

ตอนนี้ คุณสามารถซื้อ DeFi Coin ในราคาขายเท่ากับตอนพรีเซลที่ 0.1 ดอลลาร์ได้แล้ว เนื่องจากราคาร่วงลงมาถึง 97.5% แม้ว่าผลการดำเนินงานของ DEFC ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจะไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ก็สามารถ staking เพื่อรับผลตอบแทนต่อปี (APY) ที่สูงขึ้นได้

DEFC สามารถ stake เพื่อรับอัตราดอกเบี้ย APY ได้สูงถึง 75% บนกระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ของ DeFi Swap ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอัตราผลตอบแทนต่อปีดีกว่าอัตราดอกเบี้ยจากบัญชีธนาคารทั่วไป

DEFC แตกต่างจากแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมแบบ centralized ที่ล้มละลายไปแล้วในปี 2022 เช่น Celsius และ Voyager ซึ่งแพลตฟอร์มการ Staking DeFi นี้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบที่แตกต่างออกไป และไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DeFi Coin และวิธีการทำงานของ DeFi Swap ในหัวข้อการคาดการณ์ราคา DEFC ของเรา

ไปยัง DeFi Coin ตอนนี้

ปัจจัยการพิจารณาเหรียญโตไวที่สุด

นี่คือปัจจัยที่เราใช้พิจารณาเพื่อรวบรวมพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายของเหรียญคริปโต แต่ละเหรียญที่อาจเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเติบโต อาจเกิดขึ้นได้หลายกรณี:

  • เป็นคริปโตเคอเรนซี่ใหม่หรือไม่ – เหรียญคริปโตมาใหม่มีโอกาสเป็นเหรียญเติบโตไวที่สุด โดยเฉพาะเหรียญ ICO และการขายพรีเซลที่เริ่มจากราคาต่ำสุด
  • ประเภทของสินทรัพย์เป็นที่นิยมมากแค่ไหน – หลังจากที่เหรียญคริปโตแบบ metaverse เริ่มได้รับความนิยมอย่างสูงในปี 2021 เหรียญนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องเรื่อยมา
  • การเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ – โลกเกมมิ่ง และกีฬาแฟนตาซี มีความน่าสนใจและสามารถเชื่อมโยงกับคริปโตเคอเรนซี่และเทคโนโลยีบล็อคเชนได้ดี
  • ประสิทธิภาพในตลาดซบเซา – ตัวชี้วัด DappRadar บนบล็อกเชน แสดงให้เห็นว่าเหรียญ metaverse สามารถรักษามูลค่าได้ดีจนถึงปี 2022
  • ประสิทธิภาพในตลาดขาขึ้น – เหรียญมีมเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนรายย่อยในช่วงตลาดขาขึ้น
  • Utility – ประโยชน์ใช้งาน เช่น การเล่นเพื่อหารายได้ ที่สร้างแรงจูงใจให้ถือเหรียญต่อไป และช่วยให้เป็นเหรียญที่มีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
  • Staking – ความสามารถในการ stake โทเค็นคริปโต เพื่อรับผลตอบแทนต่อปีที่สูง ช่วยลดแรงกดดันในการขาย และเป็นสร้างการเติบโตอีกทางหนึ่ง
  • คริปโตเคอเรนซี่มีความมั่นคงแค่ไหน –หลาย ๆ เหรียญ altcoin ที่น่าสนใจใช้เวลาเป็นตัวพิสูจน์แล้วว่ามีโอกาสเติบโตต่อไป เนื่องจากคริปโตเคอเรนซี่ยังคงมีมูลค่าตลาดทั้งหมดต่ำกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ
  • เปรียบเทียบประสิทธิภาพกับ Bitcoin – หาก altcoin มีประสิทธิภาพต่ำกว่า BTC นักลงทุนมักจะเลือกถือ Bitcoin มากกว่า แม้ว่าเหรียญเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปก็ตาม
  • การสนับสนุน – เหรียญที่ได้รับการสนับสนุนโดยมหาเศรษฐี, กระดานแลกเปลี่ยน, มีการนักลงทุนมาร่วมทุน หรือการเป็นเหรียญคริปโตที่มีทองคำหนุนหลัง ฯลฯ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากกว่า 
  • สภาพคล่อง – การลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนหลายแห่ง หรือมีการลิสบน CEX ทำให้มีโอกาสมากขึ้นสำหรับการติดอันดับเหรียญคริปโตล่าสุด

ตัวเลือกที่บ่งบอกถึงโอกาสการเติบโตอื่น ๆ ได้แก่ เหรียญ Solana ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก SBF และเป็นหนึ่งในระบบนิเวศเหรียญโตไวที่สุด ในขณะที่ Avalanche ก็เป็นแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะที่โตเร็วที่สุด และหลายคนมองว่าเป็นบล็อกเชนที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน

บทสรุป

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้คริปโตเคอเรนซี่กลายเป็นเหรียญโตไวที่สุด ทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ที่มั่นคงหลากหลายประเภท ที่ตรงตามเกณฑ์พิจารณาข้างต้น ซึ่งจะมอบโอกาสที่ดีที่สุด ในการเป็นเหรียญที่มีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ยั่งยืน

เหรียญคริปโตหลาย ๆ เหรียญที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็วไปยังจุดสูงสุดโดยไม่มีแรงสนับสนุน สามารถเกิดการร่วงอย่างหนักของราคาได้ อย่าลืมว่า การจะเรียกว่ากำไรได้นั้น เกิดเมื่อผลตอบแทนอยู่ในมือคุณแล้วเท่านั้น 

ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับเหรียญโตไวที่สุดถัดไปในปลายปี 2022 และในปี 2023 คือ FightOut (FGHT) ปัจจุบันมีจำหน่ายล่วงหน้า โทเค็น $FGHT มีจำหน่ายที่ 0.016 ดอลลาร์ และการขายล่วงหน้าสามารถระดมทุนได้มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ในไม่กี่วัน

Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

Shitcoins ที่ดีที่สุด

คำว่า “Shitcoin” นั้นมีได้หลายความหมาย อาจหมายถึงเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ไม่มีประโยชน์ชัดเจนหรือเหรียญมีม อาจจะหมายถึงโปรเจกต์ที่ถูกประเมินราคาต่ำเกินไป หรือโปรเจกต์ที่มีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ก็ได้

เช่นเดียวกับนักลงทุนหลายๆ คน ถ้าคุณอยากจะลองเสี่ยงกับเหรียญที่หลายคนอาจมองข้ามไป โปรดอ่านคู่มือนี้เพื่อศึกษา shitcoin ที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปี 2023

นอกจากนี้ เรายังมี shitcoins ดีๆ มากมายและมีรีวิวฉบับเต็มของกระดานเทรดที่ดีที่สุดในการซื้อโทเค็นที่คุณเลือกอีกด้วย

Shitcoins ที่น่าลงทุนที่สุดแห่งปี 2023

เมื่อนักลงทุนเหรียญคริปโตอยากคิดนอกกรอบและอยากเพิ่มความเสี่ยงของตัวเอง บางครั้ง พวกเขาอาจคิดถึง shitcoins อย่างเหรียญมีมที่ดีที่สุด

ด้วยเหตุนี้เราจึงได้รวมลิส shitcoin ที่ดีที่สุดที่จะซื้อเอาไว้ด้านล่าง

  1. Love Hate Inu – Shitcoins โดยรวมที่ดีที่สุด ที่คาดว่าจะมาแรงในอนาคต
  2. Metropoly – นวัตกรรมตลาดอสังหาริมทรัพย์ NFT พร้อมยูทิลิตี้ในโลกจริง
  3. Tamadoge – Shitcoin โดยรวมที่ดีที่สุดที่ขายหมดในช่วงพรีเซลล์กว่า $19 ล้าน
  4. Battle Infinity – Shitcoin มาใหม่ที่น่าเทรดที่สุด
  5. Lucky Block – Shitcoin ที่กำลังจะถูกลิสบนกระดานเทรด CEX
  6. DeFi Coin – โทเค็น DeFi ที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับการสร้าง Passive Income

ไปยัง Love Hate Inu ตอนนี้

ต่อไป เราจะวิเคราะห์ลิสโทเค็นทั้งหมดด้านบนในปี 2023 ซึ่งคุณจะสามารถตัดสินใจได้ว่าเหรียญใดที่คุณควรเพิ่มลงในพอร์ตการลงทุน

เจาะลึกกับ Shitcoins ยอดนิยม

การเลือกโปรเจกต์ที่ใช่เมื่อคุณลงทุนในเหรียญคริปโตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากมีโทเค็นนับพันและมีโปรเจกต์ที่แตกต่างกันมากมาย

เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มเจาะลึกกับ shitcoins ที่ดีที่สุดกันเลย

หมายเหตุ: โปรดจำไว้ว่าเหรียญคริปโตเคอเรนซี่มีความผันผวนสูงซึ่งถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน ดังนั้น มูลค่าตามราคาตลาดจึงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตัวเลขต่างๆ ที่อยู่ในบทความนี้ ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวัดมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล และใช้เสนอแนะแนวทางแก่นักลงทุนที่มีประสบการณ์เท่านั้น

1: Love Hate Inu – Shitcoins โดยรวมที่ดีที่สุด ที่คาดว่าจะมาแรงในอนาคต

Shitcoins ที่ดีที่สุดที่น่าซื้อตอนนี้คือ Love Hate Inu โปรเจกต์เหรียญมีมใหม่ล่าสุดนี้จะเหมือนกับความสำเร็จก่อนหน้าของเหรียญอย่าง DOGE และ SHIB แต่เพิ่มความแปลกใหม่ที่น่าจะดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกลงไป

พูดง่ายๆ ก็คือ Love Hate Inu เป็นแพลตฟอร์มบน Ethereum ที่ให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในแบบสำรวจความคิดเห็นในหัวข้อสำคัญต่างๆ แบบสำรวจเหล่านี้อาจเป็นอะไรก็ได้ เช่น ‘ผู้คนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ Andrew Tate’ หรือ ‘คนชอบ Donald Trump หรือไม่?’ ผู้ใช้ Love Hate Inu สามารถตัดสินใจว่าพวกเขา ‘รัก’ หรือ ‘เกลียด’ บุคคล/หัวข้อที่เป็นประเด็นด้วยการโหวตกับ LHINU ได้นั่นเอง

ตามที่เอกสารข้อมูลระบุ LHINU เป็นโทเค็น ERC-20 หลักของแพลตฟอร์มและต้อง Stake เพื่อเข้าร่วมการโหวตความคิดเห็น ซึ่งจะเป็นการลบบอทออกไป และแบบสำรวจจะเป็นความคิดเห็นของชุมชนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จุดขายหลักคือการ Stake และการลงคะแนน ซึ่งผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น LHINU เพิ่มเติมสำหรับการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศดังกล่าว

นอกจากนี้ ยิ่งใครมีโทเค็น LHINU มากเท่าไหร่ คะแนนเสียงในการโหวตก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้ด้วยกลไก ‘Vote to Earn’ อันน่าตื่นเต้นจะไม่มีที่สิ้นสุด เนื่องจากจะมีแบบสำรวจใหม่ๆ มาให้โหวตเสมอ ซึ่งจะถูกเลือกโดยทีมพัฒนาและสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ

ในอนาคต ทีมพัฒนายังมีแผนที่น่าตื่นเต้นสำหรับโปรเจ็กต์ Love Hate Inu ซึ่งรวมถึงการลิสต์เหรียญลง CEX/DEX ข้อตกลงกับแบรนด์ และแม้แต่การรวม LHINU เข้ากับโลก Metaverse สุดยิ่งใหญ่! แผนพัฒนาเหล่านี้ได้ทำให้เกิดกระแสฮือฮาในชุมชนไปแล้ว โดยมีสมาชิกหลายพันคนที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Love Hate Inu Telegram แล้ว

โปรเจกต์ดังกล่าวอยู่ในช่วงพรีเซลล์ โดยระดมทุนได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์ในช่วง 4 ชั่วโมงแรกของการเปิดตัว นักลงทุนรายแรกๆ สามารถซื้อโทเค็น LHINU ได้ในราคาเพียง 0.000084 USDT ต่อโทเค็น และด้วยปริมาณการซื้อขั้นต่ำเพียง 10 LHINU ทุกคนจึงสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างแน่นอน!

เริ่มพรีเซลล์8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อETH, USDT, บัตรเครดิต
เชนEthereum
เพดานเงินทุน$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ซื้อ LHINU ตอนนี้

2: Metropoly – นวัตกรรมตลาดอสังหาริมทรัพย์ NFT พร้อมยูทิลิตี้ในโลกจริง

Metropoly ไม่ใช่ Shitcoins แต่เป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ NFT ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สุดที่สามารถมอบประโยชน์ในโลกจริงให้กับนักลงทุนได้ โปรเจกต์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้อสังหาริมทรัพย์เป็นเข้าถึงได้ทุกคนโดยการเปิดตลาดให้กับนักลงทุนทั่วโลก โดยไม่คำนึงถึงที่อยู่ ขนาดเงินฝาก และประวัติเครดิต

Metropoly Marketplace ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์หลังแรกได้ในไม่กี่วินาที ด้วยเงินเพียง $100 สินทรัพย์ทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็นสัดส่วนบนแพลตฟอร์ม ซึ่งหมายความว่าสินทรัพย์จะมีมูลค่าไม่มาก โดยเจ้าของ NFT มีสิทธิ์ได้รับรายได้ค่าเช่าที่เกิดจากอสังหาริมทรัพย์ โดยกระจายตามสัดส่วนตามสัดส่วนการถือหุ้น และมีอิสระที่จะใช้ประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่าของทุนโดยการขาย NFT ของตนเมื่อใดก็ได้

สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของหนึ่งใน NFT ที่ได้รับการสนับสนุนจากอสังหาริมทรัพย์จาก Metropoly คือการสร้างรายได้แบบพาสซีฟอย่างแท้จริง โดยสามารถทำได้เนื่องจากทีมงานจัดการทรัพย์สินทั้งหมดในพอร์ตการลงทุนของ Metropoly จะรับรองว่าผู้เช่าจะจ่ายค่าเช่าและจัดการค่าบำรุงรักษาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเสมอ ทำให้นักลงทุนต้องซื้อ NFT สำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟทันที

Metropoly Marketplace มียูทิลิตี้ที่หลากหลาย ผู้ใช้ของ Metropoly Marketplace สามารถ;

  • ซื้อ NFT อสังหาริมทรัพย์เพื่อรับรายได้ค่าเช่ารายเดือน
  • ขาย NFT อสังหาริมทรัพย์ในตลาด
  • ประมูลอสังหาริมทรัพย์ NFT ด้วยราคาที่ดีที่สุด
  • ซื้อขาย NFT ได้อย่างง่ายดาย
  • ยืมอสังหาริมทรัพย์ NFT ของพวกเขาในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและอัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่า
  • โอนกรรมสิทธิ์และย้ายเข้าโดยการซื้อหุ้นอสังหาริมทรัพย์ NFT แบบ 100% ในสัญญาสิทธิล่วงหน้า
  • สิทธิออกเสียงในทรัพย์สิน

พรีเซลล์สำหรับโทเค็นกำลังอยู่ในรอบที่แปด โดยขาย METRO ในราคา $0.05 ต่อเหรียญ นักลงทุนที่เข้าร่วมการพรีเซลล์จะลงทะเบียนโดยอัตโนมัติใน Platinum Members Club ซึ่งมอบ NFT ฟรีและเงินคืนสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อในตลาด

นอกจากนี้ Metropoly ได้เปิดบริการ Marketplace รุ่นเบต้าแล้ว ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงได้ในหน้าการพรีเซลล์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสามารถเพียงพอที่จะเปิดตัวระบบนิเวศของโปรเจกต์ โดยรวมแล้ว โปรเจกต์นี้อยู่ในแนวทางที่ดีในการปฏิวัติภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดและเปิดประตูสู่นักลงทุนทั่วโลกหลายล้านคน

ซื้อ METRO ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

3. Tamadoge – Shitcoin โดยรวมที่ดีที่สุดที่ระดมทุนได้กว่า $19 ล้าน

หลังจากวิเคราะห์เหรียญ shitcoins ยอดนิยมในตลาดแล้ว เราขอแนะนำ Tamadoge ในฐานะ shitcoin ที่น่าซื้อที่สุดตอนนี้ Tamadoge (TAMA) เป็นโทเค็นหลักของระบบนิเวศ Tamaverse ที่ทางผู้พัฒนาได้สัญญาว่าจะไม่ได้เป็นแค่เพียง shitcoin เท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์ม NFT แบบ play-to-earn (P2E) ที่ผสมผสานการเล่นเกมกับองค์ประกอบ DeFi (decentralized finance) อีกด้วย

Tamadoge ขายหมดเกลี้ยงในช่วงพรีเซลล์และระดมทุนได้ถึง $19 ล้าน โดยเป้าหมายต่อไปของ Tamadoge ก็คือการลิสบนกระดานเทรด OKX ซึ่งเป็นกระดานเทรดแบบ centralized อื่นๆ เร็วๆ นี้ นักลงทุนสามารถรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการลิสอื่นๆ ในอนาคตผ่านกลุ่ม Telegram ของ Tamadoge 

Tamaverse จะเป็นระบบนิเวศเสมือนที่ให้ผู้เล่นสร้าง ผสมพันธุ์ และแลกเปลี่ยนสัตว์เลี้ยง Tamadoge ของตน โดยสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะถูกซื้อขายเป็น NFT ผ่านเทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะ สัตว์เลี้ยงเสมือนเหล่านี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผู้เล่นสามารถนำไปใช้เป็นความได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้เล่นจะได้แข่งขันกันเองเพื่อไต่อันดับในกระดานผู้นำประจำเดือน ซึ่งผู้เล่นที่อยู่ในอันดับต้นๆ จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ TAMA จาก “dogepool” 

ผู้เล่นสามารถซื้อสัตว์เลี้ยง Tamadoge ไอเท็ม และสินทรัพย์อื่นๆ ที่เป็น NFT ด้วยเหรียญ TAMA ได้ในร้านค้า Tama ทีมผู้พัฒนาได้สัญญาว่า TAMA จะเป็น shitcoin ที่ไม่เหมือนใครเพราะอุปทานจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งไม่เหมือนกับ dogecoin ที่มีเหรียญไม่จำกัด ส่วน TAMA จะมีเหรียญทั้งหมดที่ 2 พันล้านโทเค็น

ทุกครั้งที่ผู้เล่นซื้อสินทรัพย์ในร้านค้า Tama อัตรา 5% ของเหรียญ TAMA ที่ใช้ไปจะถูกนำไปเผาทิ้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าจำนวนเหรียญ TAMA จะลดลงในระยะยาว ทำให้โทเค็นมีมูลค่ามากขึ้นเนื่องจากเหรียญจะหายากขึ้น

ผู้พัฒนาได้เก็บ 20% ของเหรียญทั้งหมดไว้สำหรับการลิสบนกระดานเทรดแบบ DEX และ CEX ในอนาคต ส่วนอีก 30% ที่เหลือจะถูกเก็บไว้ให้ขุดและจะปล่อยให้ใช้งานไปอีก 10 ปี ในอนาคต ทีมงาน Tamadoge ยังมีแผนที่จะสร้างแอพพลิเคชันโลกเสมือน (AR) ซึ่งจะยังคงระบบ P2E และทำงานเหมือนกับแพลตฟอร์มของเว็บไซต์ตามเดิม

ซื้อ Tamadoge บน OKX CEX

ซื้อ Tamadoge บน OKX DEX

4. Battle Infinity – Shitcoin มาใหม่ที่น่าเทรดที่สุด

หากพูดถึงโปรเจกต์เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดแห่งอนาคตแล้วล่ะก็ Battle Infinity (IBAT) ก็อาจตอบโจทย์ขอนี้ได้ในแง่ของโอกาสการเพิ่มมูลค่าและประโยชน์การใช้งาน โปรเจกต์นี้มุ่งเน้นไปที่การรวบรวมองค์ประกอบที่ดีที่สุดจากภาคการแข่งขันกีฬาแฟนตาซี, NFTs, โลก Metaverse, และการเล่นแบบ play-to-earn

ด้วยการนำองค์ประกอบจากส่วนต่างๆ เข้ามาในเกม ทำให้ Battle Infinity มีระบบนิเวศแบบ all-on-one ที่น่าดึงดูดใจแก่นักลงทุนทุกประเภท นี่เป็นการโอกาสให้ผู้ใช้เข้ามาในเกม Battle Infinity อย่างล้นหลาม ทำให้มีอุปสงค์เพียงพอที่จะขับเคลื่อนโปรเจกต์ไปสู่แถวหน้าของตลาดเหรียญคริปโตได้อีกด้วย

Battle Infinity ถูกแบ่งออกเป็น 6 แพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์เป็นของตังเอง ทำให้ระบบนิเวศของ Battle Infinity สามารถเข้าถึงง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ได้แก่ IBAT Premier League (ลีกกีฬาแฟนตาซี), IBAT Battle Swap (กระดานเทรดแบบ decnetralized), IBAT Battle Market (ตลาด NFT), IBAT Battle Games (แพลตฟอร์มเกม P2E), IBAT Battle Area (โลก Metaverse) และสุดท้าย IBAT Battle Stake (แพลตฟอร์มการ stake)

Battle Infinity

ระบบนิเวศของเกม Battle Infinity จะถูกขับเคลื่อนด้วยโทเค็น BEP-20 อย่างเหรียญ $IBAT โดยมีจำนวนเหรียญที่ 10 พันล้าน ทำให้มีโทเค็นมากมายเหลือให้ใช้งาน แต่ด้วยอุปสงค์ที่สูงลิ่วของนักลงทุน การรีบเข้ามาลงทุนในแพลตฟอร์มนั้นจึงดีกว่าอย่างเห็นได้ โทเค็น $IBAT มีกรณีการใช้งานมากมาย ได้แก่ การ stake ของรางวัล, การแจกจ่ายรางวัล, และใช้ในการสนับสนุนการทำธุรกรรม $IBAT นั้นมีประโยชน์และกรณีการใช้งานเพียงพอ ทำให้มั่นใจได้ว่าเหรียญจะเป็นที่ต้องการและราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเหรียญเข้ามาในตลาด

โดยรวมแล้ว Battle Infinity มาพร้อมกับประโยชน์การใช้งานและทางทีมงานก็วางแผนอนาคตเอาไว้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นเหรียญคริปโตที่น่าซื้อที่สุด โดยทางทีมงานก็มีการอัปเดทข้อมูลข่าวสารอย่างสม่ำเสมอภายในกลุ่ม Telegram ของแพลตฟอร์ม (แอดมินจะไม่ขอ seed phrase หรือส่งข้อความหาคุณก่อนโดยเด็ดขาด)

ล่าสุด – การพรีเซลล์ของ Battle Infinity ได้ขายหมดไปแล้วภายใน 24 วันและระดมทุนได้กว่า $5 ล้าน ตอนนี้ นักลงทุนสามารถซื้อ IBAT ที่มีมูลค่าตลาดที่ $40 ล้านได้ใน PancakeSwap และ LBank ซึ่งจะมีการลิสบนกระดานเทรดอื่นอีกในเร็วๆ นี้

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

5. DeFi Coin – โทเค็น DeFi ที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับการสร้าง Passive Income

อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ควรจับตาดูเอาไว้ก็คือ DeFi Coin (DEFC) ซึ่งเป็นโทเค็น BEP-20 หลักของกระดานเทรด DeFi Swap ที่ให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนโทเค็นและได้รับประโยชน์จากกองรางวัล โดยมีเหรียญ DeFi Coin อยู่ทั้งหมด 100 ล้านโทเค็น ซึ่งจะมีกลไกการ “เผาเหรียญในตัว” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดจำนวนเหรียญในระยะยาว

แม้ shitcoins ส่วนใหญ่จะไม่มีประโยชน์ในการใช้งานจริง แต่ไม่ใช่กับเหรียญ DeFi Coin ในความเป็นจริง DeFi Coin มีกรณีการใช้งานที่น่าสนใจมากมายและการเก็บภาษีของโทเค็นก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของโปรเจกต์ การเก็บภาษีที่ว่าหมายถึงค่าธรรมเนียม 10% ที่นักลงทุนจะต้องจ่ายเมื่อซื้อหรือขายเหรียญ DEFC ซึ่งครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่รวบรวมได้จะถูกแจกจ่ายกลับไปยังผู้ถือ DEFC รายอื่นๆ

การทำแบบนี้ไม่เพียงแค่จะสร้าง passive income อย่างสม่ำเสมอได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการจูงใจให้นักลงทุนถือโทเค็นไว้ในระยะยาวอีกด้วย ทั้งยังช่วยลดความผันผวนและทำให้โปรเจกต์ยั่งยืน หากรวมเข้ากับกลไกการเผาเหรียญทิ้งแล้ว นี่จะทำให้ DEFC เป็นสินทรัพย์ที่อุปทานจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

ผู้ถือเหรียญ DEFC ยังสามารถใช้โทเค็นในการแลกเปลี่ยนเป็นโทเค็นอื่นผ่าน DeFi Swap ซึ่งเป็นกระดานเทรด DEX ที่ดีที่สุดในตลาด เนื่องจาก DeFi Coin นั้นเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม DeFi Swap โดยตรง จึงทำให้เหรียญมีมูลค่าสูงขึ้นในขณะนี้ โดยมีมูลค่าพุ่งไปประมาณ 300% หลังจากเปิดตัว DeFi Swap ในช้วงต้นพฤษภาคม เหรียญ DEFC ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกโซเชียล และอาจเป็นเวลาที่เหมาะที่จะเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของโปรเจกต์เพื่อรับข่าวสารล่าสุด

ซื้อ DeFi Coin ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

Shitcons คืออะไร?

ดังที่เราได้กล่าวไปว่า shitcoin นั้นมีได้หลายความหมาย อาจจะเป็นเหรียญมาใหม่ก็ได้

โปรดอ่านคำอธิบายสั้นๆ ว่า shitcoin คืออะไรด้านล่าง:

  • คำว่า “Shitcoin” สามารถใช้ได้กับเหรียญมีมต่างๆ ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้าอย่าง Dogecoin และ Shiba Inu
  • Shitcoin ประเภทนี้มักจะเริ่มจากการเป็นโปรเจกต์ที่ค่อนข้างเสี่ยง ไปสู่โปรเจกต์ที่จริงจังมากขึ้น
  • เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ไม่มีจุดประสงค์ชัดเจนก็จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของ shitcoin เช่นกัน
  • ส่วน Cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นหรือเหรียญที่มีมูลค่าตลาดต่ำก็อาจจะถือว่าเป็น shitcoins ในตลาดได้เหมือนกัน

Shitcoins หลายๆ เหรียญอาจมีมูลค่าเพิ่มได้เพียงแค่มีชื่ออยู่ในตลาดเฉยๆ หรืออาจจะได้รับความนิยมทันทีเมื่อมีเหล่าคนดังพูดถึง เกิดกระแสในโลกโซเชียล หรือการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ

หากกราฟราคาเหรียญ altcoin ยังนิ่งและมีปริมาณการซื้อขายต่ำนานหลายปี โปรเจกต์ดังกล่าวอาจถูกเรียกว่าเป็น shitcoin

Shitcoins เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหรียญ shitcoins ยอดนิยมนั้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น เราจะช่วยให้คุณตัดสินใจว่าเหรียญคริปโตประเภทนี้เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุนของคุณแล้วหรือไม่

บางครั้ง Shitcoins ก็ได้รับการสนับสนุนจากคอมมิวนิตี้ที่แข็งแกร่ง

อย่างที่ได้กล่าวไป shitcoins เป็นสินทรัพย์เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตลาดต่ำมากๆ และไม่ได้มีกรณีการใช้งานจริงๆ

แม้ว่าที่จริงแล้ว เหรียญ shitcoins จะไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตยอดนิยมได้ แต่นักลงทุนหลายคนก็ยังซื้อ shitcoins ลงในพอร์ตการลงทุนของตนอยู่ดี

  • มูลค่าของ Shitcoins บางเหรียญก็อาจจะฟื้นกลับมาได้ เนื่องจากมีการสนับสนุนจากคอมมิวนิตี้ที่แข็งแกร่ง
  • ตัวอย่างเช่น ในช่วงแรกของการเปิดตัว Dogecoin ถูกมองว่าเป็นแค่มุขตลกที่มีมูลค่าต่ำกว่าสตางค์นานนับปี
  • แต่กลับมีเหล่าคนดังและดาราที่ให้ความสนใจในเหรียญ Dogecoin ช่วงต้นปี 2021 และได้เกิดเป็นกระแสฮือฮา
  • เพียงเวลาไม่กี่เดือน มูลค่าเหรียญ Dogecoin ก็พุ่งขึ้นกว่า 12,000%

โดยพื้นฐานแล้ว การลงทุนใน shitcoin ต่างๆ อย่าง Dogecoin และ Shiba Inu ได้สร้างผลตอบแทนระดับสูงในระยะเวลาอันสั้น

จากที่กล่าวมา ยังมีโปรเจกต์อีกมากมายที่ไร้ค่าภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากกระแสการเปิดตัว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหรียญมีมบางส่วน

แม้อาจจะสร้างผลตอบแทนได้มาก แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเพื่มเติมที่ต้องพิจารณาอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเช็คได้ว่าคอมมิวนิตี้ shitcoin นั้นมีความแข็งแกร่งแค่ไหนก่อนคิดจะลงทุน

Shitcoins บางเหรียญอาจเป็นได้ทั้งความเสี่ยงและการทำกำไรระยะสั้น

หากคุณกำลังมองหา shitcoin ที่ดีที่สุดในการลงทุนระยะสั้น คุณอาจโชคดีแล้ว เพราะถึงแม้ shitcoins จะเสี่ยงไปบ้าง แต่ก็อาจทำกำไรให้คุณได้มากเช่นเดียวกัน

หากนำตัวอย่างดีๆ ของเหรียญมีมอย่าง Doge มาประกอบการพิจารณา ถ้าคุณซื้อโทเค็น DOGE ในวันที่ 1 มกราคม 2021 แล้วคาดเวลาขายเหรียญทำกำไรได้อย่างสมบูรณ์แบบในวันที่ 8 พฤษภาคม 2021 คุณจะได้รับผบกำไรอยู่ที่ราวๆ 14,700%

ซื้อ Shitcoins ได้ที่ไหน

แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญคริปโต โดยเฉพาะกับ 5 เหรียญ shitcoins ที่เราได้พูดถึงในวันนี้ก็คือ eToro เพราะต้องการเงินฝากขั้นต่ำเพียง $10 หมายความว่าคุณสามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ

eToro – แพลตฟอร์มยอดนิยมให้คุณเข้าถึง Shitcoins ที่ดีที่สุดในปี 2023

หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อเหรียญ shitcoins ที่ไหน eToro เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับทั้งนักลงทุนมือใหม่และมือเก๋า ซึ่งมีเหรียญกว่า 70 รายการ เรื่องค่าธรรมเนียมการเทรดก็ไม่ได้แพง เพราะ eToro จะเก็บค่าคอมมิชชั่นคุณเพียงแค่ 1% เมื่อทำการซื้อเหรียญคริปโต 

คุณสามารถซื้อ shitcoins ได้ที่แพลตฟอร์ม eToro ในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยแพลตฟอร์มจะเพิ่มโทเค็นลงในพอร์ตการลงทุน ทำให้คุณเข้าถึงเหรียญได้อย่างอิสระ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มี private keys ส่วนแพลตฟอร์มก็ได้รับการดูแลกำกับจาก ก.ล.ต. จึงทำให้คุณเทรดได้อย่างปลอดภัย

การขายเหรียญก็เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน เพราะ eToro เพียงแค่ซื้อโทเค็นคืนเมื่อคุณปิดสถานะ และยังรองรับการลงทุนแบบสัดส่วน ซึ่งแพลตฟอร์มจะให้คุณลงทุนขั้นต่ำเพียงแค่ $10 เมื่อคุณต้องการที่จะซื้อเหรียญ shitcoin ที่ดีที่สุด และหากคุณต้องการจะกระจายความเสี่ยงในภายหลัง คุณก็สามารถเลือกลงทุนในกองทุน ETF และหุ้นได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นใดๆ

นอกจากนี้ eToro ยังมี crypto wallet ที่เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ซึ่งมาพร้อมกับมาตรการรักษาความปลอดภัยมาตรฐานอุตสาหกรรมมากมาย ได้แก่ ระบบการลงรายมือชื่อขั้นสูง และระบบป้องกันการโจมตีเครือข่ายองค์กร (DDoS) และแอพคริปโตที่ดีที่สุดยังได้รับการกำกับดูแลโดย GFSC อีกด้วย

eToro มีฟีเจอร์ดีๆ ที่จะช่วยให้คุณศึกษาการลงทุนได้อย่างรวดเร็ว หมายความว่าคุญสามารถเทรด shitcoins ได้อย่างไม่ต้องกังวล แถมยังมีสินทรัพย์เพิ่มเติมในพอร์ตการลงทุนอีกด้วย อีกหนึ่งฟีเจอร์ยอดนิยมของ eToro ก็คือ copy trade ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้คุณจัดสรรเงินทุนให้กับนักลงทุนมืออาชีพที่เชียวชาญด้านเหรียญคริปโตเคอเรนซี่

หากนักลงทุนดังกล่าวเลือกซื้อ Dogecoin ด้วยเงิน 20% ของ $1,000 ที่คุณจัดสรรเอาไว้ คุณจะได้รับโทเค็น DOGE มูลค่า $200 เพิ่มลงในพอร์ตการลงทุนของคุณ ง่ายๆ แบบนั้นเลย eToro ยังมีพอร์ตการลงทุนอัจฉริยะที่มีเหรียญคริปโตมากมาย คุณสามารถเลือกแผนการลงทุน จัดสรรเงินไว้สักหน่อย แล้ว eToro จะจัดการและปรับสมดุลสินทรัพย์เหรียญคริปโตอย่างสม่ำเสมอโดยอัตโนมัติ

eToro ให้คุณฝากเงินขั้นต่ำที่ $10 คุณสามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิตหรือโอนเงินผ่านธนาคารเพื่อใช้ในการลงทุนในเหรียญ shitcoins นอกจากนี้ eToro ยังรองรับ Netelle, Skrill, และ PayPal อีกด้วย ซึ่งผู้ใช้ที่ฝากและถอนเงินเป็นสกุลดอลลาร์จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

ซื้อ Shitcoins ที่ eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

Lucky Block – อีกหนึ่งทางเลือกของ Shitcoins ที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมาย

หากคุณยังไม่รู้ว่าจะซื้อเหรียญ shitcoins ไหนดี Lucky Block ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดี นอกจากนี้ คุณสามารถศึกษาสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเหรียญ LBLOCK ด้ายการอ่านคู่มือที่มีประโยชน์ของเราอย่างวิธีซื้อ Lucky Block

Lucky Block เป็นแพลตฟอร์มการแข่งขันและจับรางวัลออนไลน์ยอดนิยมที่มอบรางวัลที่ไม่มีใครเทียบได้

เราจะอธิบายโปรเจกต์บล็อกเชนนี้ให้คุณทราบ:

  • นี่แพลตฟอร์มรางวัลและการแข่งขันออนไลน์ที่มอบรางวัลชั้นนำของตลาด
  • ซึ่งรวมไปถึง Bitcoin มูลค่า $1 ล้าน, บ้านมูลค่า $1 ล้าน, และรถลัมโบร์กีนีมูลค่า $300,000
  • LBLOCK เปิดตัวในเดือนมกราคมและได้สร้างผลตอบแทนกว่า 6,000%
  • การเปิดตัวเหรียญ LBLOCK V2 ขจัดค่าธรรมเนียมธุรกรรม 12% ของเหรียญ V1
  • มีการลิสบนกระดานเทรด CEX รายใหญ่ๆ และกระดานเทรดอื่นๆ ในอนาคต
  • มีกลไกการเผาเหรียญทิ้ง 1% ทุกๆ เดือน เพื่อทำให้อุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

ซื้อ Lucky Block ตอนนี้

บทสรุป

วันนี้เราได้พูดถึงเหรียญ shitcoins ที่ดีที่สุดที่น่าซื้อในปี 2023 โดยเหรียญทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ที่ eToro ซึ่งมีค่าธรรมเนียมไม่แพง แต่เหรียญ shitcoin ที่ยังไม่มีใน eToro แต่มีโอกาสทำกำไรสูงคือ Love Hate Inu

โปรเจกต์ใหม่ล่าสุดนี้ใช้กลไก ‘Vote to Earn’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับโทเค็นง่ายๆ เพียงเข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็น นักลงทุนรายแรกๆ สามารถซื้อโทเค็น LHINU ผ่านการพรีเซลล์ในราคาเพียง 0.000084 USDT ซึ่งจะถูกลง 70% จากราคาการลิสต์เหรียญลงกระดานเทรด!

Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

เหรียญน่าขุดที่สุด

การขุดเหรียญคริปโตเป็นกระบวนการนำเหรียญดิจิทัลใหม่เข้าสู่การหมุนเวียนในตลาด นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างผลตอบแทนจากตลาดเหรียญคริปโต โดยไม่ต้องซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านกระดานเทรดหรือโบรกเกอร์

ในบทความนี้เราจะพูดถึงเหรียญน่าขุดที่สุด ในปี 2023 โดยเราจะรีวิวอย่างละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในการขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่อย่างง่ายดายและคุ้มค่า

 จัดอันดับ 7 เหรียญน่าขุดที่สุดในปี 2023

เพื่อช่วยคุณตัดสินใจ เราได้วิเคราะห์ตลาดเหรียญคริปโตเพื่อระบุเหรียญน่าขุดที่สุดในตอนนี้

ลองดูตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเราด้านล่าง:

  1. Bitcoin – เหรียญน่าขุดที่สุดโดยรวมในปี 2023
  2. Ethereum – เหรียญคริปโตน่าลงทุนที่ดีที่สุดในระยะยาว
  3. Dogecoin – เหรียญมีมน่าขุดยอดนิยม
  4. Ethereum Classic – นวัตกรรมแห่ง Ethereum
  5. Helium – เหรียญคริปโต LongFi ที่สนับสนุน Internet of Things
  6. Solana – Blockchain ที่มีสัญญาอัจฉริยะ
  7. Cardano –  Blockchain ที่มั่นคงและยั่งยืน

ขุดเหรียญคริปโตที่ ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

ในส่วนถัดไปเราจะอธิบายว่าทำไมเหรียญข้างต้นจึงเป็นเหรียญน่าขุด 2023

เจาะลึกกับเหรียญน่าขุดที่สุด

กล่าวอย่างง่ายๆ เหรียญน่าขุดที่สุดคือเหรียญที่สร้างผลตอบแทนสูงจากการ staking อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนจากเหรียญจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในแง่ของการเคลื่อนไหวของราคาเหรียญ

ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะต้องทำการศึกษาอย่างจริงจังเพื่อหาว่าเหรียญใดที่สามารถกำไรได้มากที่สุดในปี 2023

ด้านล่างนี้เราได้รีวิวเหรียญคริปโตที่ขุดได้อันดับต้นๆ ในการสร้างผลกำไร 

1. Bitcoin – เหรียญน่าขุดที่สุดโดยรวมในปี 2023

นับตั้งแต่ที่เปิดตัวกว่าทศวรรษที่ผ่านมา Bitcoin ยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และความต้องการโทเค็นดิจิทัลนี้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ Bitcoin จึงเป็นหนึ่งในเหรียญน่าขุดที่สุดโดยเฉพาะจากมุมมองการลงทุน

ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 20,000 USD เหรียญในขณะที่เขียน แต่เมื่อไม่นานมานี้ในเดือนพฤศจิกายน 2021 มูลค่าของ 1 โทเค็น BTC ก็สูงถึงระดับ all-time high ที่ประมาณ 68,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ Bitcoin มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านโทเค็นเท่านั้น

ซึ่งหมายความว่ามูลค่าของ Bitcoin อาจเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความต้องการเหรียญยังคงสูงอยู่ แม้การขุด Bitcoin แบบทั่วๆ ไปจะถือว่าสิ้นเปลืองทรัพยากรและมีราคาแพง แต่วิธีหนึ่งในการแก้ปัญหานี้คือการใช้แพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์อย่าง ECOS

นักลงทุนสามารถซื้อสัญญาการขุด Bitcoin จาก ECOS และรับผลตอบแทน BTC ลงในบัญชีของตน ด้วยวิธีนี้ ECOS จะให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากการขุด Bitcoin อย่างง่ายดายในแบบพาสซีฟ ECOS ยังให้ผู้ใช้ได้ลงทุนในบิทคอยน์ผ่านพอร์ตการลงทุนที่ถูกออกแบบเอาไว้ได้อีกด้วย

เราได้รีวิวแพลตฟอร์ม ECOS ฉบับสมบูรณ์ไว้ในบทความนี้เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ในส่วนล่าง

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

2. Ethereum – เหรียญคริปโตน่าลงทุนที่ดีที่สุดในระยะยาว

Ethereum ครองตำแหน่งสกุลเงินดิจิตอลที่มีค่าที่สุดเป็นอันดับสอง (รองจาก Bitcoin) ซึ่งเครือข่าย Ethereum เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ให้บริการมากมาย เช่น สัญญาอัจฉริยะและ NFT นี่จึงเป็น blockchain ที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในการสร้างและปรับใช้แอพพลิเคชันในแบบ decentralized

จากกรณีการใช้งานดังกล่าว นักลงทุนหลายคนจึงมองว่า Ethereum เป็นหนึ่งในโทเค็นในช่วงตลาดซบเซาที่ดีที่สุดที่น่าซื้อตอนนี้ โดยเหรียญเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ในราคาเหรียญ ICO เพียง $0.30 และในขณะที่เขียน 1 โทเค็น ETH ก็มีราคาที่ประมาณ 1,500 ดอลลาร์

ซึ่งหมายความว่าเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 500,000% นอกจากนี้ Ethereum เปลี่ยนไปใช้กลไกการ staking (PoS) ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมถูกลงและรวดเร็วมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ Ethereum จึงอาจเป็นเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนระยะยาวนั่นเอง

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

3. Dogecoin – เหรียญมีมน่าขุดยอดนิยม

Dogecoin โด่งดังมาจากการเป็นหนึ่งในเหรียญมีมที่ดีที่สุดในตลาดคริปโต แม้ว่าเหรียญจะไม่ได้มีประโยชน์ใช้งานจริง แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากคอมมิวนิตี้ที่ช่วยผลักดันราคาของโทเค็นอย่างมั่นคง ดังที่กล่าวไปว่าแนวโน้มของตลาดมีมมีความผันผวนสูง และราคาเหรียญก็มีความผันผวนสูงเช่นกัน

โดยการขุดเหรียญ Dogecoin ก็เป็นการลงทุนที่ดีที่สุดในตอนนี้ ซึ่งแม้จะทำธุรกรรมใน mining pool แต่ก็ใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการตรวจสอบโทเค็น DOGE และเพิ่มไปยังบัญชีแยกประเภท blockchain และแน่นอนว่าโอกาสในการทำกำไรจะขึ้นอยู่กับราคาตลาดของโทเค็น

แม้ว่าราคาตลาดของ Dogecoin จะลดลงจากระดับ all time high เมื่อปี 2021 แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเหรียญก็กำลังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้นในด้านการชำระเงิน ซึ่งสามารถซื้อผ่านกระดานเทรดคริปโตส่วนใหญ่ได้ โดยเทรดเดอร์สามารถพิจารณาพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติของ ECOS เมื่อลงทุนใน Dogecoin

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

4. Ethereum Classic – นวัตกรรมแห่ง Ethereum

Ethereum Classic ใช้กลไกการ proof-of-work และให้ผู้ขุดได้รักษาความปลอดภัยของเครือข่าย สกุลเงินดิจิทัลนี้เป็นนวัตกรรม (hard fork) ของ Ethereum และยังสนับสนุนสัญญาอัจฉริยะอีกด้วย อย่างไรก็ตามก็ยังไม่แน่ชัดนักว่าโปรเจกต์จะสำเร็จเหมือนกับ Ethereum ในแง่ของราคาตลาดและผู้ถือโทเค็นได้

ที่กล่าวว่าถ้า Ethereum เปลี่ยนเป็น proof of stake หมายความว่านักขุดบางคนสามารถจะข้ามไปลงทุนใน Ethereum Classic แทนได้ ซึ่งอาจช่วยให้ Ethereum Classic มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้เหรียญ ETC แตกต่างจาก ETH ตรงที่มีจำนวนโทเค็นกว่า 2 พันล้านโทเค็น

และอีกยังมีอีกปัจจัยที่แตกต่างกันสองสามข้อเพื่อให้เกิดการยอมรับในเหรียญ Ethereum Classic ในระยะยาวได้ ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงแย้งว่า Ethereum Classic เป็นหนึ่งในเหรียญน่าขุดที่สุดตอนนี้ แต่ความสามารถในการทำกำไรของการขุด Ethereum Classic จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเหรียญในตลาดเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง 

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

5. Helium – เหรียญคริปโต LongFi ที่สนับสนุน Internet of Things

ก่อนการลงทุน เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักจะดูกรณีการใช้งานจริงของสกุลเงินดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ Helium จึงอาจเป็นเหรียญน่าขุดที่สุดในตอนนี้ โดยเป้าหมายของเครือข่าย Helium คือการอำนวยความสะดวกเพื่อให้อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อมีความยั่งยืนมากขึ้น

ผู้ใช้สามารถติดตั้งเราเตอร์ Helium ที่บ้านหรือที่อื่นๆ และรับเหรียญ HNT จากการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงโทเค็น Helium ผ่านการขุดได้อีกด้วย อันที่จริง Helium มีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในเหรียญที่ขุดง่ายที่สุดอีกด้วย

เช่นเดียวกับเหรียญคริปโตส่วนใหญ่อื่นๆ ราคา Helium กำลังอยู่ในช่วงซบเซาในขณะที่เขียน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าประโยชน์ของเครือข่ายอาจเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้นจึงการขุด Helium ในปี 2023 จึงอาจสร้างกำไรได้นั่นเอง

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

6. Solana – Blockchain ที่มีสัญญาอัจฉริยะ

เช่นเดียวกับ Ethereum และ Ethereum Classic โทเค็น Solana เป็นอีกหนึ่ง blockchain ที่รองรับสัญญาอัจฉริยะ ดังนั้นนักพัฒนาจึงสามารถใช้ Solana เพื่อสร้างแอพแบบ decentralized โดยจุดดึงดูดหลักของ blockchain นี้คือช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและมีราคาถูก

นอกจากนี้ Solana Pay ยังได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์ทั่วโลกในฐานะที่เป็นระบบการชำระเงินที่ใช้งานได้ฟรี ส่วนในด้านการออกแบบ Solana ก็ใช้โปรโตคอลที่ผสมผสานการ staking และการลดระยะเวลาการทำธุรกรรมลง ซึ่งหมายความว่าโทเค็น SOL จริงๆ แล้วจะไม่สามารถขุดได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ก็สามารถเข้าร่วม mining pool และ staking โทเค็น SOL โดยบุคคลทั่วไปจะสามารถหาแพลตฟอร์ม staking เหรียญคริปโต และฝากโทเค็น Solana เพื่อสร้างดอกเบี้ยได้ สำหรับนักลงทุนที่เชื่อในอนาคตของ Solana จากกลไกการ staking SOL เพื่อการรายได้แบบพาสซีฟก็อาจเป็นการลงทุนที่ควรพิจารณา

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

7. Cardano – Blockchain ที่มั่นคงและสามารถแก้ไขได้

คู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Solana ในตลาดคริปโตคือ Cardano ซึ่งเป็น blockchain ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะและอำนวยความสะดวกในด้านการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว โดยมีข้อได้เปรียบจากการเป็น blockchain แรกที่ได้รับการพัฒนาโดยใช้วิธีการตามหลักฐานและการศึกษาที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ

แผนการพัฒนาของ Cardano จะแบ่งออกเป็นห้าขั้นตอน ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่สาม และในขั้นตอนถัดๆ ไป เครือข่ายจะเพิ่มการสนับสนุนสำหรับเชนอื่นๆ และมีการกำกับดูแลอีกด้วย โดยโทเค็นหลัก ADA ของ Cardano จะสามารถขุดได้จากการ staking เช่นเดียวกับเหรียญ Solana

ซึ่งเป็นทั้งแพลตฟอร์มแบบ centralized และ decentralized ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกจากการ staking ใน Cardano โดยการฝากเหรียญ ADA ลงใน staking pool และนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนโดยไม่ต้องดำเนินการใดๆ ด้วยตนเอง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับจะเป็นสัดส่วนตามจำนวนเหรียญ ADA ที่ถูกฝากเอาไว้นั่นเอง

สำหรับผู้ที่สนใจขุดเหรียญ ADA อย่าลืมตรวจสอบการคาดการณ์แนวโน้มราคา Cardano ของเรา

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

ขุดเหรียญคริปโตได้ที่ไหน?

โดยทั่วไปแล้วการขุดจะทำได้โดยใช้ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถถอดรหัสสมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและเงินลงทุนในระดับสูง

ด้วยเหตุนี้การขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่โดยทั่วไปจึงถือว่ามีค่าใช้จ่ายสูงและไม่ค่อยให้ผลตอบแทนมากสักเท่าไหร่

  • อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการขุดเหรียญคริปโต โดยไม่ต้องมีเงินหลายพันดอลลาร์เพื่อซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพงได้
  • ซึ่งเรียกว่าบริการการขุดบนคลาวด์
  • กล่าวอย่างง่ายๆ ผู้ขุดจะสามารถจ้างอุปกรณ์จากผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่ใช้แก้สมการผ่านสัญญาการขุดบนคลาวด์ได้

ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นในการซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพงหรือความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคใดๆ และบุคคลทั่วไปจะสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้เพียงแค่ทำสัญญากับแพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์

ECOS – แพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์ที่ดีที่สุด

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะขุดเหรียญคริปโตอย่างง่ายดายและคุ้มค่าได้อย่างไร ECOS ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งรวมบริการที่มีประโยชน์หลายอย่างไว้ด้วยกัน เช่น กระดานเทรดคริปโต พอร์ตการลงทุนที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า และที่ขาดไม่ได้ก็คือการขุดบนคลาวด์ ซึ่ง ECOS จะทำให้นักลงทุนสามารถเช่าแรงขุดที่จำเป็นต่อการขุดเหรียญ Bitcoin ได้

หมายความว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ขุดราคาแพง กังวลเกี่ยวกับค่าไฟที่สูงลิ่ว หรือค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ แต่ ECOS จะจัดการส่วนนั้นทั้งหมดเอง และผู้ใช้จะสามารถได้รับผลตอบแทน BTC ได้โดยการซื้อสัญญาจากแพลตฟอร์มนี้

ผู้ใช้จะต้องจ่ายจำนวนเงินตามที่ระบุเพื่อใช้อุปกรณ์การขุดที่อยู่ในศูนย์ข้อมูลของ ECOS โดยต้นทุนขั้นต่ำของสัญญาการขุดบนคลาวด์ ECOS จะมีราคา $149 ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของสัญญา เช่น ระยะเวลา, มูลค่า BTC ที่คาดการณ์, และค่าบริการ

เพื่อให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น ECOS ยังมาพร้อมกับเครื่องคำนวณในตัวที่ช่วยแสดงรายได้การขุดรายวันที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะคิดค่าธรรมเนียม 1TH/ ต่อวัน โดยหักจากเหรียญ BTC ที่ผู้ใช้ขุดได้

นอกจากนี้ผู้ใช้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเมื่อถอนผลตอบแทนออก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความแออัดของเครือข่าย blockchain ณ เวลาที่ถอน โดย ECOS จะให้ผู้ใช้เลือกว่าจะถอนแบบปกติหรือถอนอย่างรวดเร็ว

ECOS มีบริษัทหลักอยู่ที่ประเทศอาร์เมเนียและเป็นบริษัท Free Economic Zone ของประเทศดังกล่าว ดังนั้น ECOS จึงปลอดภาษี (ทั้งภาษีนำเข้า/ส่งออก) นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ ECOS สามารถให้ผลตอบแทนสูงจากการขุดบนคลาวด์แก่ผู้ใช้ทั่วโลกได้นั่นเอง

อย่างที่รู้กันว่าการขุดเหรียญคริปโตนั้นอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน หากคำนึงถึงสิ่งนี้ ECOS ก็มีพอร์ตการลงทุนเหรียญคริปโต ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้กระจายความเสี่ยง เช่น แทนที่จะต้องซื้อ EthereumBitcoin และ Dogecoin แยกกัน ผู้ใช้ก็สามารถลงทุนตามดัชนี Elon Musk ของ ECOS และรับผลตอบแทนจากโทเค็นเหล่านี้ได้ในคลิกเดียว

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถนำกำไรที่ได้จากการขุดบนคลาวด์มาลงทุนใหม่โดยการซื้อสัญญาอื่นๆ ซึ่งผลตอบแทนจากการขุดยังสามารถนำไปใช้ลงทุนในดัชนี ECOS ได้อีกด้วย และสิ่งที่น่าสนใจคือ ECOS ยังจำหน่ายเครื่องขุด ASIC ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของอุปกรณ์ขุดที่ถูกโฮสต์บน ECOS ได้อีกด้วย

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

วิธีค้นหาเหรียญน่าขุดที่สุด

เราได้อธิบายวิธีการทำงานของการขุดเหรียญคริปโตแล้ว ตอนนี้เราจะมาพิจารณาปัจจัยสำคัญอย่างการเลือกโทเค็นดิจิทัลที่เหมาะสมในการขุดกันบ้าง

น่าเสียดายที่ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามดังกล่าว แต่ผู้ใช้จะต้องคำนึงถึงตัวแปรบางอย่างที่เราจะอธิบายในด้านล่าง 

ศักยภาพในอนาคตของเหรียญ

ปัจจัยที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งที่ควรพิจารณาคือประสิทธิภาพของสกุลเงินดิจิทัลในตลาด ไม่ว่าจะขุดได้กี่โทเค็น ถ้าเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ไม่มีความต้องการในตลาด การลงทุนในการขุดเหรียญทั้งหมดก็จะสูญเปล่า

นี่คือเหตุผลที่นักลงทุนทุกคนควรพิจารณาถึงกรณีการใช้งานของโทเค็น หากจะค้นหาเหรียญคริปโตที่ขุดได้ที่ดีที่สุด 

ตัวอย่างเช่น ทั้ง Bitcoin และ Ethereum ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่ดีเนื่องจากมีการนำไปใช้ในวงกว้างและมีมูลค่าตลาดสูง

ในทำนองเดียวกัน เหรียญคริปโตเคอเรนซี่อย่าง Solana และ Cardano ก็มีมูลค่าที่ทำให้น่าสนใจในแง่ของการลงทุน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คืออาจเป็นความคิดที่ดีที่จะขุดเหรียญที่มีโอกาสเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้

เช่นเดียวกันนักลงทุนควรระมัดระวังก่อนที่จะทำการขุดเหรียญคริปโตใหม่ๆ ที่บอกว่าจะให้ผลตอบแทนสูง

และการมองหาสกุลเงินดิจิทัลมาใหม่เพื่อขุดอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและไม่มีการรับประกันว่าโปรเจกต์จะประสบความสำเร็จหรือไม่

ต้นทุนการขุด

หากเรายังไม่ได้ชี้แจงให้ชัดเจน การขุดเหรียญคริปโตแบบเดิมๆ จะมีค่าใช้จ่ายสูง

  • แม้ว่าผู้ขุดจะเลือกการ์ดจอหรือซีพียูแทน ASIC ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งกว่าหลักพันดอลลาร์
  • ข้อกำหนดของฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นในการเริ่มขุดเหรียญคริปโตก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย
  • นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเสมอๆ เช่น ค่าไฟฟ้าและค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์

แม้ว่าค่าใช้จ่ายอาจไม่ใช่ปัญหาหลักสำหรับทุกคน แต่สำหรับนักขุดบางคน นี่ก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ดังนั้นจึงควรเลือกเหรียญน่าขุดที่สุดตามเงินที่ต้องการลงทุน

ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าแพลตฟอร์มคลาวด์จะให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการขุดเหรียญคริปโตโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใดๆ ทำให้ขุดได้โดยไม่ต้องจ่ายแพง

ผลตอบแทนจากการขุด

แพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์ที่ดีที่สุดจะมีเครื่องคำนวณที่สะดวกสบายซึ่งช่วยแสดงรายละเอียดผลตอบแทนจากเหรียญคริปโตที่เลือกขุด

ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำ ECOS ที่จะคำนวณผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้เป็นเปอร์เซ็นต์ ทำให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าพวกเขาจะทำกำไรได้มากเท่าไหร่จากการขุดเหรียญคริปโต

การใช้ข้อดีที่ว่ามานั้นเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกเหรียญที่จะขุดเพื่อทำกำไร แต่โปรดทราบว่าผลตอบแทนจะไม่มีการรับประกันและกำไรการขุดก็จะขึ้นอยู่กับภาวะตลาด

วิธีขุดเหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

บทความของเราได้กล่าวถึงทุกสิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาในการค้นหาเหรียญน่าขุดที่สุด

โดยเราจะอธิบายรายละเอียดขั้นตอนการขุดเหรียญอย่างง่ายดายที่ ECOS

ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชี ECOS

ผู้ใช้จะต้องเปิดบัญชี ECOS โดยไปที่เว็บไซต์ ECOS และคลิกที่ปุ่ม ‘Sign Up’ ในหน้าแรก

ในการลงทะเบียน ผู้ใช้จะต้องระบุที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของตน โดย ECOS จะส่งรหัสผ่านไปยังที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อยืนยัน

ผู้ใช้จะต้องตั้งรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัยของบัญชี โดยขั้นตอนการลงทะเบียนก็สามารถทำได้ผ่านแอพมือถือ ECOS ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งบนอุปกรณ์ Android และ iOS

ไปยัง ECOS ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

ขั้นตอนที่ 2: เลือกสัญญาการขุด

ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ECOS มีบริการการขุดบนคลาวด์ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อสัญญาการขุดจาก ECOS และรับผลตอบแทนเพิ่มเติมได้อย่างสม่ำเสมอ

ในขณะที่เขียน ECOS รองรับเฉพาะการขุด Bitcoin เท่านั้น แต่ ECOS จะสนับสนุนสัญญาการขุดที่หลากหลายซึ่งมีเหรียญคริปโตให้เลือกมากมายแทน

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ ECOS สามารถเลือกจากหนึ่งในสัญญาที่ได้รับการออกแบบเอาไว้ หรือจะสร้างแผนขุดแบบกำหนดเองโดยใช้การคำนวณสมการของแพลตฟอร์ม

ระยะเวลาของสัญญาจะนับเป็นเดือน  โดยขั้นต่ำคือ 12 เดือนและระยะเวลาสัญญาจะสูงสุดได้ถึง 50 เดือน ในสัญญาแบบกำหนดเองผู้ใช้จะมีตัวเลือกในการกำหนดราคาที่ต้องการจ่ายและระยะเวลาได้

หากข้อมูลจากการคำนวณยังไม่เพียงพอ ผู้ใช้ก็สามารถติดต่อทีมสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อสร้างสัญญาที่ปรับแต่งได้ นอกจากนี้ ECOS ยังมีฟีเจอร์ทดลองการทำเหมืองที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มใช้งานครั้งแรกได้อีกด้วย

ขั้นตอนที่ 3: ซื้อสัญญา 

หลังจากเลือกสัญญาแล้ว ผู้ใช้จะสามารถดำเนินการชำระเงินได้ โดย ECOS จะรองรับการชำระเงินผ่าน Bitcoin บัตรเครดิต/เดบิต หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร และจะมีการคิดค่าธรรมเนียมการดำเนินการ 2.5% หากชำระผ่านบัตรเครดิต/เดบิต 

โปรดทราบว่าค่าใช้จ่ายของสัญญาจะไม่รวมค่าบริการ 1TH/s ต่อวัน ซึ่งจะถูกหักออกจากบัญชีในภายหลัง เมื่อทำการซื้อแล้ว สัญญาจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ

จากนั้นผู้ใช้จะสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีส่วนตัวของตน ซึ่งสามารถติดตามผลตอบแทนและผลกำไรได้ในแต่ละวัน

แม้ว่า ECOS จะเป็นแพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์ แต่ก็มีบริการเทรดเหรียญคริปโตด้วย

บทสรุป

การขุดเหรียญคริปโตเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนในโทเค็นดิจิทัล โดยบทความของเราได้อธิบายถึงเหรียญน่าขุดที่สุดในปี 2023 และศักยภาพในการทำกำไร

อย่างไรก็ตามการขุดคริปโตจะต้องใช้ทั้งเวลา เงิน และความพยายาม แต่ด้วยแพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์อย่าง ECOS จะทำให้คุณเข้าถึงการขุดได้ง่ายกว่าที่เคยและยังรองรับการ Bitcoin ผ่านสัญญาคราวด์ได้อีกด้วย

ผู้ใช้สามารถซื้อสัญญาและนั่งรอผลกำไรจาก Bitcoin ในบัญชีส่วนตัว ECOS ของตน

Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

จัดอันดับ 8 เหรียญคริปโตทำกำไรมากที่สุด ในปี 2023

คริปโตเคอเรนซี่ได้สร้างผลตอบแทนระดับสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งตรงกันข้ามกับตลาดการลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น S&P 500 หรือ Dow Jones

เพื่อเป็นการแนะนำเพิ่มเติม เราจะมากล่าวถึงเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดในปี 2023 เพื่อลงทุนในตอนนี้ เทรดคริปโตที่ไหนดี และช่วยให้คุณเทรดคริปโตให้ได้กำไร

8 เหรียญคริปโตที่ทำกำไรมากที่สุดในปี 2023

  1. FightOut – เหรียญคริปโตที่ทำกำไรมากที่สุดโดยรวมน่าซื้อที่สุดในช่วงพรีเซลตอนนี้
  2. C+Charge – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่ให้รางวัลไดรเวอร์ EV สำหรับการชาร์จรถยนต์
  3. Dash 2 Trade – เหรียญคริปโตที่ให้ผลกำไรสูงสุดในการพรีเซลตอนนี้
  4. RobotEra – โปรเจ็กต์ GameFi ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนซึ่งมีกระแสรายได้มหาศาล
  5. IMPT – เหรียญคริปโตใหม่ที่ทำกำไร ซึ่งให้รางวัลแก่การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
  6. Tamadoge – เกม P2E แนวสัตว์เลี้ยงที่มาพร้อมการต่อสู้ การเพาะพันธุ์ และการเป็นเจ้าของ NFT
  7. Battle infinity – โปรเจ็กต์ Metaverse ใหม่พร้อมเกม NFT และประสบการณ์ที่สมจริง
  8. Lucky Block – เหรียญคริปโตของโปรเจ็กต์ NFT มาแรงที่ผู้ใช้มีโอกาสลุ้นรับรางวัลมากมาย 
  9. Defi Coin – ระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจพร้อมด้วยการ Swap เหรียญและการทำ Yiled Farming

ไปยังเหรียญคริปโตที่ทำกำไรมากที่สุด

ต่อไปเราจะมาเจาะลึกเหรียญแต่ละเหรียญที่เราคิดว่าจะเป็นเหรียญที่ทำกำไรได้ดีที่สุดในปีนี้

เจาะลึก 8 เหรียญคริปโตที่ทำกำไรมากที่สุด

นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเพิ่มโปรเจ็กต์คริปโตต่างๆ ลงในพอร์ตการลงทุนของคุณ

เหตุผลก็คือตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 คริปโตเคอเรนซี่ได้เข้าสู่ภาวะตลาดหมี ดังนั้นจึงมีเหรียญคริปโตดีๆ จำนวนมากให้เลือกลงทุนในราคาถูก เมื่อเทียบกับระดับราคาสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้านี้ และเปิดโอกาสให้คุณสามารถเทรดคริปโตกำไรวันละ 500 หรือมากกว่านั้น

ในส่วนถัดไป เราจะมาเจาะลึกเหรียญคริปโตทำกำไรได้มากที่สุดที่น่าลงทุนในปี 2023

1. FightOut – เหรียญคริปโตที่ทำกำไรมากที่สุดโดยรวมน่าซื้อที่สุดในช่วงพรีเซลตอนนี้

FightOut เปิดตัวเหรียญคริปโต move to earn ชื่อว่า $FGHT เพื่อให้รางวัลแก่ผู้ใช้ที่ใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ ออกกำลังกาย และนักลงทุนที่ซื้อ crypto นี้ในช่วง presale จะได้รับโทเค็นโบนัสขึ้นอยู่กับการลงทุนและระยะเวลาการให้สิทธิ์ เมื่อเหรียญ $FGHT ได้รับการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน นั่นคือเวลาที่พวกเขาสามารถมอบผลกำไรให้กับนักลงทุนได้อย่างจริงจัง

ระบบนิเวศนี้ได้จัดสรรเพียง 10% ของอุปทานทั้งหมดเพื่อแลกเปลี่ยนสภาพคล่อง นั่นหมายความว่าเหรียญจะหายากทันทีที่มีการลิสในตลาดแลกเปลี่ยนในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 นักลงทุนจะถูกกดดันให้หาเหรียญ $FGHT ในราคาที่ต่ำ เนื่องจากนักลงทุนรีบเร่งที่จะตักตวงเหรียญที่เหลืออยู่

ในช่วงพรีเซลล์ $FGHT จะมีราคาอยู่ที่ 0.016 ดอลลาร์ FightOut ได้จัดสรร 90% ของอุปทาน 10 พันล้านต่อยอดให้กับการขายล่วงหน้า ไม่เพียงแต่มีโทเค็นมากขึ้นในช่วงพรีเซลล์เท่านั้น แต่มีโอกาสสูงที่โทเค็นจะไม่ถูกตั้งราคาอีกครั้งในมูลค่าพรีเซล

หนึ่งในเหตุผลที่นักลงทุนสนใจโครงการนี้คือการเสนอโทเค็นรางวัลให้กับผู้ใช้ที่ออกกำลังกายและเอาชนะชาเลนจ์ต่างๆสำเร็จ สกุลเงินในแอปคือ REPS ซึ่งได้รับจากการเติบโตของชุมชนและรับตรา ผู้ใช้สามารถแลกใช้แอพของตนเพื่อสมัครสมาชิก สินค้า อุปกรณ์ และแม้แต่การเป็นสมาชิกโรงยิม FightOut ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใกล้จะถึงทั่วโลกในเมืองหลัก

FightOut ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ REPS มากขึ้นโดยการซื้อด้วยโทเค็น $FGHT

ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมชั้นเรียนผ่านแอพหรือด้วยตนเองเมื่อยิมเปิดตัว มีวิดีโอแนะนำการใช้งานจากผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ช่วยให้ผู้ใช้กำหนดเป้าหมายกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนและรับประกันรูปร่างที่ดีขึ้น

อีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ FightOut ได้รับความสนใจมากขึ้นและอาจทำให้สกุลเงินนี้มีกำไรมากขึ้นเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น นั่นก็คือ FightOut เริ่มเป็นที่รู้จักในเหล่าคนดัง ทาง FightOut กำลังหานักสู้มืออาชีพเพื่อทาบทามมาเป็นแบรนด์แอมบาสเซเดอร์ และยังจัดหาเนื้อหาการฝึกอบรมระดับมาสเตอร์คลาสสำหรับผู้ใช้

รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้ารหัสลับนี้โดยเข้าร่วมช่องทาง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูลของ FightOut

FightOut ระดมทุนได้แล้วกว่า 2 ล้านเหรียญในเวลาไม่กี่วัน โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นแล้วและเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุน ดังนั้นตอนนี้ถึงเวลาซื้อโทเค็น FightOut

เริ่มต้นขายพรีเซล14 ธันวาคม
วิธีชำระเงินETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. C+Charge – C+Charge – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่ให้รางวัลไดรเวอร์ EV สำหรับการชาร์จรถยนต์

C+Charge มีโทเค็นหลักคือ $CCHG ที่กำลังการขายรอบพรีเซลอยู่ ซึ่งระดมทุนไปแล้วกว่า 300,000 ดอลลาร์ นักลงทุนยังคงสามารถซื้อเหรียญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ได้ในช่วงแรกที่ราคา 0.013 ดอลลาร์

รอบที่สองของการขายพรีเซลจะเพิ่มมูลค่าของเหรียญเป็น 0.0165 ดอลลาร์ เหรียญจะมีราคาสูงขึ้นในช่วงหลังของการขายพรีเซล

นักลงทุนมีเวลาจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมเพื่อเข้าร่วมการขายรอบพรีเซล เนื่องจาก $CCHG จะเข้าลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนในวันที่ 31 มีนาคม 2023 การขายพรีเซลเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ควรเข้าลงทุนเนื่องจากโทเค็นนั้นหาได้ง่ายมากกว่า เพราะ C+Charge ได้จัดสรร 40% ของอุปทานหมุนเวียนให้กับการขายรอบพรีเซล

C+Charge กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มแบบ peer-to-peer ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สามารถชำระเงินด้วยโทเค็น $CCHG เพื่อชาร์จรถยนต์ของตนได้  โดยทางแพลตฟอร์ม C+Charge จะให้รางวัลแก่ผู้ขับขี่ด้วยคาร์บอนเครดิต

แอปของ C+Charge จะช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการทั้งหมด ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้แอพเพื่อค้นหาสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดและกำหนดราคาและเวลารอ

แอปเก็บโทเค็น $CCHG ไว้ในกระเป๋าเงินและติดตามยอดคงเหลือของคาร์บอนเครดิตที่ผู้ขับขี่ได้รับ

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็น $CCHG และระบบนิเวศโดยเข้าร่วมช่อง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูล C+Charge

มีเพียง 8% ของโทเค็น 1 พันล้านโทเค็นเท่านั้นที่มีสภาพคล่องในกระดานแลกเปลี่ยน ทำให้การขายพรีเซลเป็นเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากมีโทเค็นพร้อมให้ลงทุนมากมายในราคาไม่แพง

ไปยัง C+Charge พรีเซลตอนนี้

3. RobotEra – โปรเจ็กต์ GameFi ที่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนซึ่งมีกระแสรายได้มหาศาล

เหรียญ TARO ซึ่งเป็นเหรียญหลักของเกมแนว P2E ที่ชื่อว่า RobotEra กำลังกลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุด และผู้เล่นสามารถสร้างรายได้และผลกำไรได้หลายวิธี

ขณะนี้เหรียญยังอยู่ในช่วงพรีเซล ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญได้ในราคาต่ำ และแม้ว่ายังอยู่ในช่วงพรีเซล แต่นักลงทุนในช่วงแรกก็มีโอกาสได้รับผลกำไรเช่นกัน

เหรียญ Taro เปิดขายในราคา 0.02 ดอลลาร์ในช่วงแรก แต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 0.025 ดอลลาร์ในช่วงที่สอง และจากนั้นจะมีราคา 0.032 ดอลลาร์ในช่วงที่สามและช่วงสุดท้าย

ราคาที่เพิ่มขึ้นนั้นหมายความว่าเหรียญ TARO ให้ผลตอบแทนสูงถึง 60% แก่นักลงทุน หากนักลงทุนซื้อเหรียญไว้ก่อนที่เหรียญจะถูกลิสท์บนกระดานซื้อขาย โดยมี LBank กระดานซื้อขายแบบรวมศูนย์เป็นนักลงทุนรายแรกๆ ในโปรเจ็กต์นี้ และเป็นปลายทางสำหรับการเสนอขายเหรียญครั้งแรก (IEO)

RobotEra เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถรับเหรียญ TARO ได้หลายวิธี

ไม่ว่าจะด้วยการสร้างดาวเคราะห์ Taro ที่เสียหายขึ้นใหม่ ผู้เล่นจะได้รับรางวัลสำหรับการขุดแร่ ปลูกต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และเพิ่มทรัพย์สินเพื่อประดับที่ดินเมตาเวิร์สที่พวกเขาซื้อไว้

ผู้เล่นสามารถใช้เครื่องมือในเกมเพื่อสร้างเพื่อนหุ่นยนต์ และเกมจะให้เหรียญตอบแทนแก่การสร้างและการขาย NFT โดยผู้เล่นสามารถส่งหุ่นยนต์ต้นฉบับเพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ได้

RobotEra ยังมีระบบนิเวศแบบมัลติเวิร์สที่ช่วยให้ผู้เล่นเชื่อมต่อกับโลกอื่นได้

เกมนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างเมต้าเวิร์สกับชุมชน NFT อื่นๆ ดำเนินการในพื้นที่อิสระและมีส่วนร่วมในคอนเสิร์ต

การเพิ่มชุมชนเหล่านี้ในที่ดินของคุณจะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ TARO เช่นเดียวกับการเข้าร่วมและจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมต่างๆ

ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากที่ดินของพวกเขาโดยการขายป้ายโฆษณาให้กับผู้ลงโฆษณาและขายที่ดินเพื่อหากำไรหลังจากเพิ่มมูลค่าผ่านโครงสร้างพื้นฐาน และยังสามารถสร้าง ปรับแต่ง และอัปเกรดหุ่นยนต์ ซึ่งเป็น NFT และขายนำไปขายในตลาด

RobotEra ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้รับรายได้แบบพาสซีฟจากการ Stake เหรียญซึ่งมีความสำคัญต่อการกู้คืน Taro ตามไวท์เปเปอร์ของ RobotEra

นอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ $TARO ได้โดยการเข้าร่วมช่อง Telegram RobotEra

เนื่องจากมีเหรียญ Taro เพียง 15% ของอุปทานทั้งหมด (270 ล้านเหรียญจาก 1.8 พันล้านเหรียญ) เท่านั้นที่ถูกจัดสรรให้กับการพรีเซล นักลงทุนจึงควรซื้อเหรียญ TARO ในตอนนี้

ช่วง พรีเซลเริ่มต้นไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ1,000 TARO
ลงทุนสูงสุดN/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

4. Meta Masters Guild – เหรียญคริปโตทำกำไรมากที่สุด โดยรวมน่าซื้อที่สุด

Meta Masters Guild (MMG) สามารถระดมทุนได้ 50,000 ดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัว presale ระบบนิเวศของการเล่นและสร้างรายได้นี้ทำให้สามารถระดมทุนได้อีก 500,000 ดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์แรก

ช่วงแรกซึ่งตั้งราคา $MEMAG ไว้ที่ $0.007 ขายหมดอย่างรวดเร็ว แต่นักลงทุนยังมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนรอบแรก รอบที่สองขายโทเค็น $MEMAG ที่ $0.01 นั่นคือมูลค่าของเหรียญเพิ่มขึ้น 43% นับตั้งแต่เปิดตัว

เหรียญ MMG จะเพิ่มมูลค่าเมื่อเข้าสู่รอบถัดๆไป จนกระทั่งในที่สุดราคาอยู่ที่ 0.023 ดอลลาร์ในรอบสุดท้าย นอกจากการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงแล้ว นักลงทุนยังต้องการเข้าร่วมตอนนี้เพื่อลุ้นรับรางวัลโทเค็นมูลค่า $100,000 ซึ่งนักลงทุนต้องเป็นเจ้าของโทเค็นอย่างน้อย $150 $MEMAG เพื่อเข้าร่วม

MMG กำลังสร้างแพลตฟอร์มที่จะนำเสนอเกมมากมาย ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสะสมรางวัลสำหรับการเข้าร่วม มีส่วนร่วมกับระบบนิเวศ และคว้าชัยชนะ

ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนรางวัลเป็น NFT หรือแปลงเป็นโทเค็น $MEMAG ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ได้

ติดตามความคืบหน้าล่าสุดโดยสมัครรับข้อมูลช่อง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูลเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนิเวศ

MMG ได้จัดสรร 35% ของอุปทานหมุนเวียน 1 พันล้านโทเค็นให้กับการขายรอบพรีเซล ช่วงเริ่มต้นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการซื้อโทเค็น $MEMAG เพราะมีเพียง 15% ของโทเค็นเท่านั้นที่ถูกจัดสรรให้กับการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนและสภาพคล่อง

ไปยัง Meta Masters Guild ตอนนี้

5. IMPT – เหรียญคริปโตใหม่ที่ทำกำไร ซึ่งให้รางวัลแก่การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

เหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มักจะแสดงสัญญาณของความสำเร็จตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นของโปรเจ็กต์ และ IMPT ก็เป็นเช่นนั้น ด้วยการระดมทุนได้มากกว่า 12 ล้านดอลลาร์ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนนับตั้งแต่พรีเซล

ในการพรีเซลช่วงที่สอง เหรียญจะเปิดขายในราคา 0.023 ดอลลาร์ หลังจากขายครั้งแรกในราคา 0.018 ดอลลาร์

ในช่วงที่สามและช่วงสุดท้ายของการพรีเซล เหรียญ IMPT จะวางขายในราคา 0.028 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% จากราคาปัจจุบันและเพิ่มขึ้น 55% จากช่วงแรก

ผลกำไรไม่ได้เป็นเพียงผลประโยชน์เดียวที่เหรียญ IMPT มอบให้ นักลงทุนยังสามารถรับเหรียญ IMPT เป็นรางวัลจากการซื้อของจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และส่งเสริมสิ่งแวดล้อม

IMPT ได้สร้างความร่วมมือกับหลายฝ่ายในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนักลงทุนและธุรกิจยังสามารถติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของตนเองได้โดยใช้ฟีเจอร์โซเชียลของ IMPT

ผู้ใช้แต่ละคนจะได้รับคะแนนตามการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผู้ใช้จะได้รับเหรียญเป็นรางวัลสำหรับการมีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม

นักลงทุนสามารถเริ่มลงทุนได้โดยการซื้อเหรียญ IMPT ซึ่งเป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด ซึ่งสามารถแปลงเป็นคาร์บอนเครดิตได้ ผู้ที่เผาคาร์บอนเครดิตจะได้รับคะแนนเพิ่มเติม หรือสร้างเป็น NFT และใช้เป็นสินทรัพย์

นักลงทุนสามารถศึกษาประโยชน์ คุณสมบัติ และโปรเจ็กต์โดยละเอียดได้ในไวท์เปเปอร์ของ IMPT และสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญ IMPT ที่ให้ผลกำไรนี้อยู่ในช่อง Telegram ของ IMPT

ซื้อเหรียญ IMPT ตอนนี้

6. Tamadoge – เกม P2E แนวสัตว์เลี้ยงที่มาพร้อมการต่อสู้ การเพาะพันธุ์ และการเป็นเจ้าของ NFT

Tamadoge กำลังสร้างระบบนิเวศเมตาเวิร์สที่จะสนับสนุนการเล่นเกมและการเป็นเจ้าของ NFT โดยแนวคิดหลักของ Tamadoge คือการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างสัตว์เลี้ยง ซึ่งสัตว์แต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เนื่องจากสัตว์เลี้ยงใน Tamadoge แต่ละตัวที่เป็น NFT และมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าสัตว์เลี้ยง Tamadoge บางตัวจะหายากกว่าสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ทำให้ตามทฤษฎีแล้ว นี่จะเป็นการสะท้อนถึงการประเมินมูลค่าตลาดของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ในระดับสูง และเมื่อสร้างสัตว์เลี้ยง ระบบนิเวศของ Tamadoge จะช่วยให้ผู้เล่นแต่ละคนสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาต่อสู้กันเองได้

Tamadoge ทํากําไร คริปโต

ผู้ชนะการต่อสู้จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ TAMA เหรียญหลักของเกมนี้ โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นอีกอย่างที่ทีม Tamadoge กำลังพัฒนาอยู่คือความสามารถในการเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงเสมือนจริงของพวกเขา

ระบบเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงจะส่งผลให้มีการสร้าง NFT สัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่มีลักษณะเฉพาะ และตามแผนงานของโปรเจ็กต์ จะมีการสร้างแอปมือถือ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่สมจริงผ่านระบบ AR และเมตาเวิร์ส

หลังจากที่ระดมทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ในช่วงพรีเซลล์ เหรียญ TAMA ได้ถูกลิสท์บน OKX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตระดับโลก โดยมีผู้ใช้มากกว่า 20 ล้านคน โดยเหรียญ TAMA เปิดตัวบน OKX ที่ราคา $0.03 และแตะระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ $0.19 ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 530%

ปัจจุบันเหรียญ TAMA มีราคาซื้อขายที่ 0.035 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญ

ซื้อ Tamadoge บน OKX CEX

ซื้อ Tamadoge บน OKX DEX

7. Battle Infinity – โปรเจ็กต์ Metaverse ใหม่พร้อมเกม NFT และประสบการณ์ที่สมจริง

เหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดเป็นอันดับสองคือ Battle Infinity โดยมูลค่าเหรียญของ Battle Infinity ไม่ได้ร่วงลงตามภาวะตลาดหมีเหมือนกับเหรียญคริปโตอื่นๆ เนื่องจากเพิ่งมีการเปิดตัวเหรียญเมื่อเร็วๆ นี้และยังมีผลตอบแทนที่ดีในช่วงต้น

การพรีเซลเหรียญ IBAT ขายหมดในเวลาเพียง 24 วัน โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ และหลังจากที่เหรียญถูกลิสท์ใน PancakeSwap และ LBank มูลค่าตลาดของเหรียญก็พุ่งขึ้นถึง 40 ล้านดอลลาร์

Battle Infinity กำลังสร้างระบบนิเวศร่วมกับเทคโนโลยีเมตาเวิร์ส บล็อคเชน และ NFT และจะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่หลากหลายซึ่งจัดโดย Battle Infinity รวมถึง IBAT Premier League

ตัวเกมจะเป็นเกมกีฬาแนวแฟนตาซี และจะช่วยให้ผู้ใช้จากทั่วทุกมุมโลกได้รับรางวัล แนวคิดคือการสร้างทีมผู้เล่นจากกีฬาเฉพาะ เช่น ฟุตบอลหรือคริกเก็ต และหลังจากการแข่งขันในโลกแห่งความเป็นจริงจบลงแต่ละครั้ง ผู้ใช้จะได้รับคะแนนตามประสิทธิภาพของผู้เล่นแต่ละคนภายในทีมของพวกเขา

และหากสะสมคะแนนได้มากกว่าผู้เล่นอื่น ผู้ใช้ Battle Infinity จะได้รับเหรียญ IBAT เหรียญหลักของโปรเจ็กต์เป็นรางวัล นอกจากนี้ผู้เล่นยังมีโอกาสได้รับ NFT จากภายในเกมอีกด้วย และเหรียญ IBAT จะสามารถซื้อขายได้บนกระดานซื้อขายทั้งแบบกระจายอำนาจและแบบรวมศูนย์ เช่นเดียวกับเหรียญคริปโตอื่นๆ

เหรียญ IBAT จะซื้อขายได้ใน Battle Infinity DEX ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการซื้อและขายเหรียญผ่านบุคคลที่สาม นอกจากนี้ยังมีตลาด Battle Infinity เพื่อแลกเปลี่ยน NFT ในเกม นักลงทุนระยะยาวยังสามารถเลือก Stasking เหรียญ IBAT ของตนในระบบนิเวศของ Battle Infinity เพื่อสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้เช่นกัน

เหรียญ IBAT มีแผนที่จะลิสท์บนกระดานซื้อขายอีกหลายแห่ง และด้วยความสนใจที่เพิ่มมากขึ้น จึงมีโอกาสที่เหรียญนี้จะสร้างผลกำไรระดับสูงให้กับเหล่านักลงทุน

เข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ Battle Infinity เพื่อเข้าร่วมกับนักลงทุนอื่นๆ และรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้

ซื้อเหรียญ IBAT จาก Battle Infinity

8. Lucky Block – เหรียญคริปโตของโปรเจ็กต์ NFT มาแรงที่ผู้ใช้มีโอกาสลุ้นรับรางวัลมากมาย

Lucky Block เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าจับตามอง แม้ว่าโปรเจ็กต์นี้จะปิดแคมเปญพรีเซลในต้นปี 2022 ไปแล้วก็ตาม โดย Lucky Block ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการพรีเซลคริปโตที่ดีที่สุดตลอดกาล เพราะมีราคาพุ่งขึ้นสูงกว่า 6,000% ภายในหนึ่งเดือนหลังจากเปิดตัว

สำหรับผู้ที่พลาดโอกาส Lucky Block ได้เข้าสู่การปรับฐานของตลาดพร้อมกับเหรียญคริปโตอื่นๆ โดย Lucky Block มองตัวเองเป็นแพลตฟอร์ม NFT เพื่อการลุ้นรับรางวัล โดยผู้เล่นจะมีโอกาสได้รับรางวัลเมื่อเข้าร่วมการออกรางวัลต่างๆ

ตัวอย่างเช่น การลุ้นรับรางวัลที่ดำเนินการโดย Lucky Block ในขณะที่เขียนบทความนี้คือการลุ้นรับรถยนต์ Lamborghini, Bitcoin มูลค่า 1 ล้านเหรียญ, ทรัพย์สินมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ, แพ็คเกจท่องเที่ยว 5 วัน และแพ็คเกจวีไอพีสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA ในการเข้าร่วมชมการแข่งขันดังกล่าว โดยผู้ใช้จะต้องซื้อ Lucky Block NFT เพื่อเข้าร่วมการลุ้นรับรางวัลเหล่านี้

NFT แต่ละรายการจะเชื่อมโยงกับการจับรางวัลเฉพาะ ซึ่งไม่เพียงแต่ให้สิทธิ์เข้าถึงการออกรางวัลเท่านั้น แต่ยังมอบรางวัลอย่างต่อเนื่องอีกด้วย รางวัลเหล่านี้จะมอบเป็นเหรียญ LBLOCK เหรียญหลักของระบบนิเวศของ Lucky Block ผู้ใช้จึงมีแรงจูงใจในการเข้าร่วมการจับรางวัลของ Lucky Block พร้อมมอบรางวัลให้แม้ว่าผู้ถือ NFT จะไม่ชนะรางวัลก็ตาม การจับรางวัล NFT ทั้งหมดรับประกันความเป็นธรรมผ่านสัญญาอัจฉริยะที่กระจายอำนาจ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถล็อคผลลัพธ์ของการแข่งขันแต่ละครั้งได้

โปรเจ็กต์นี้ได้เปิดตัวเหรียญ LBLOCK V2 ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 ซึ่งช่วยให้ลิสท์บนกระดานแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ได้ง่ายขึ้น และลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม โดย 12% ของโทเค็น V1 ทางซีอีโอ สกอตต์ ไรเดอร์ยังประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ว่าการเบิร์นเหรียญจำนวน 1% ต่อเดือนจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ซึ่งจะทำให้อุปทานของเหรียญลดลงอย่างมาก

นักลงทุนสามารถซื้อ LBLOCK ได้บนกระดานซื้อขายคริปโตยอดนิยม ซึ่งรวมถึง MEXC และ LBANK

ซื้อ LBLOCK ตอนนี้

วิธีที่เราเลือกเหรียญคริปโตที่ให้ผลกำไรมากที่สุด

ในขณะที่คริปโตเคอเรนซี่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงการปรับฐานราคาครั้งใหญ่ตั้งแต่ภาวะตลาดหมีเริ่มต้นขึ้น การรู้ว่าโปรเจ็กต์คริปโตได้ที่ยังน่าลงทุนอยู่ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายวิธีที่เราเลือกคริปโตเคอเรนซี่ที่ทำกำไรได้มากที่สุดในการเทรด

แนวคิดและแผนงานของโปรเจ็กต์

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการค้นหาเหรียญเพื่อทํากําไรคริปโตได้มากที่สุดคือดูแนวคิดของโปรเจ็กต์ควบคู่ไปกับเป้าหมายแผนงาน

  • ตัวอย่างเช่น เมื่อ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 ก็ได้กลายเป็นระบบการชำระเงินแบบกระจายศูนย์ระบบแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน
  • นับแต่นั้นมา ผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ทำธุรกรรมด้วย Bitcoin อย่างน้อยหนึ่งครั้ง และก็มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

แนวคิดที่ครอบคลุมของ Battle Infinity ก็เป็นสิ่งที่ชัดเจน ด้วยโครงการที่สร้างระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจที่รวมทั้งเกม NFT, เมตาเวิร์ส และการให้รางวัลเป็นเหรียญคริปโต

นอกเหนือจากการสำรวจแนวคิดของโครงการเมื่อค้นหาเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดแล้ว ก็ควรศึกษาแผนงานของโปรเจ็กต์ด้วยเช่นกัน

ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินว่าโปรเจ็กต์นั้นๆ กำลังดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในไวท์เปเปอร์ต้นฉบับหรือไม่

มุ่งเน้นไปที่โปรเจ็กต์ที่มั่นคง และมีราคาเหรียญที่ถูกกว่าปกติ

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการค้นหาเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้คือการมองหาโปรเจ็กต์ที่มั่นคง และมีราคาเหรียญลดลงอย่างมากตามตลาดหมี

ตัวอย่างเช่น Ethereum ที่ซื้อขายที่ราราเกือบ 5,000 ดอลลาร์ก่อนที่จะเกิดตลาดหมี แล้วราคาของ Ethereum ก็แตะระดับต่ำสุดเพียง 1,000 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022

ดังนั้นผู้ที่ซื้อ Ethereum ในราคานี้อาจมองกำไรระยะกลางที่ประมาณ 400% หากราคาเหรียญฟื้นกลับไปที่ระดับสูงสุดก่อนหน้านี้

จำนวนผู้ถือเหรียญ

วิธีที่มีประสิทธิภาพในการหาเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดในการลงทุนคือการประเมินจำนวนผู้ถือเหรยีญ โดยการดูจำนวนกระเป๋าส่วนบุคคลที่ถือเหรียญที่คุณพิจารณาอยู่

ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้ เหรียญ Shiba Inu มีผู้ติดตามทางออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้ถือเหรียญมากกว่า 1 ล้านคน ดังนั้นยิ่งโปรเจ็กต์มีชุมชนขนาดใหญ่ ก็จะยิ่งมีผู้ถือเหรียญมากขึ้นตามไปด้วย

ที่สำคัญ หากเหรียญบางเหรียญมีมูลค่าตลาดสูง แต่มีจำนวนผู้ถือเหรียญเพียงไม่กี่ราย นี่อาจหมายความว่าเหรียญส่วนใหญ่นั้นอยู่ในทีมหรือกลุ่มของวาฬ และคุณควรหลีกเลี่ยงโปรเจ็กต์เหล่านี้

ช่วงตลาดหมีก่อนหน้า

เหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดที่เราแนะนำในวันนี้ยังไม่ได้เผชิญกับภาวะตลาดหมี แต่เหรียญอื่นๆ อย่าง Bitcoin, Dogecoin และ Ethereum นั้นได้ผ่านตลาดหมีมาแล้วหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน

แต่ละโปรเจ็กต์ดังกล่าวได้ฟื้นตัวจากการขาดทุนในตลาดหมีและได้สร้างราคาสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ดังนั้นเหรียญเหล่านี้จึงมีโอกาสจะทำแบบเดิมอีกครั้งเมื่อตลาดฟื้นตัว

เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อคริปโตเพื่อผลกำไรสูงสุด

นอกเหนือจากการรู้ว่าจะซื้อคริปโตที่ไหน และหาเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดเพื่อซื้อแล้ว นักลงทุนยังต้องพิจารณาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อด้วย

การประเมินจังหวะของตลาดให้ดีเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้ซื้อคริปโตที่ดีในราคาที่เหมาะสม

นี่คือสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อประเมินเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญคริปโตเพื่อผลกำไรสูงสุด:

ช่วงพรีเซล

วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการซื้อเหรียญเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดคือการซื้อเหรียญระหว่างการพรีเซล

การพรีเซลช่วยให้โปรเจ็กต์คริปโตต่างๆ ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่สามารถระดมทุนจากนักลงทุน และเพื่อเป็นการตอบแทน ราคาเหรียญพรีเซลมักจะถูกกว่าปกติ

ตัวอย่างเช่น ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ แคมเปญระดมทุนของ Ethereum ในปี 2014 นั้น เหรียญ ETH มีราคาเพียง 0.30 ดอลลาร์

โปรเจ็กต์อย่าง Battle Infinity และ Tamadoge ที่เราได้แนะนำไปก็อยู่ในช่วงพรีเซลเหรียญเช่นกัน จึงมีโอกาสที่ดีที่จะได้รับผลกำไรสูงสุด

เราจะมาอธิบายวิธีการลงทุนในช่วงพรีเซลเหรียญเพิ่มเติมในบทความนี้

เข้าลงทุนโดยเร็วที่สุดหากพลาดการพรีเซล

การพรีเซลมักจะเกิดขึ้นและผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหตุผลก็คือการพรีเซลนั้นจำกัดเหรียญที่ขาย เมื่อพลาดช่วงเวลานี้ไป นักลงทุนจะต้องรอให้ถึงช่วง ICO หลักหรือรอให้เหรียญถูกลิสท์บนกระดานเทรด

ตัวอย่างที่สำคัญคือการพรีเซลของ Battle Infinity นั้นขายหมดในเวลาเพียง 24 วัน ดังนั้นผู้ซื้อจึงจำเป็นต้องซื้อในช่วง ICO โดยในกรณีของเหรียญ IBAT จะเป็นช่วง IDO (การเสนอขายช่วงเริ่มต้นบน DEX) บน PancakeSwap ในวันที่ 17 สิงหาคม

Tamadoge ก็มีความสนใจซื้อในช่วงพรีเซลในระดับสูงเช่นเดียวกัน

ประเด็นสำคัญคือผู้ที่พลาดการพรีเซลยังสามารถเข้าลงทุนในตำแหน่งที่ดีได้โดยการซื้อเหรียญในช่วงต้นๆ แต่หากเหรียญประสบความสำเร็จในช่วงพรีเซล ก็มีโอกาสที่มูลค่าของเหรียญจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เหรียญถูกนำไปขายบนกระดานซื้อขายสาธารณะ

ตัวอย่างเช่น Lucky Block จากราคาพรีเซลล์ที่ 0.00015 ดอลลาร์ กลายเป็นมีราคามากกว่า 0.009 ดอลลาร์เมื่อลิสท์บน Pancakeswap ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

ช่วงตลาดหมี

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญคริปโตเพื่อให้ได้กำไรสูงสุดคือในช่วงตลาดหมีที่ยืดเยื้อ

เหรียญที่ทำกำไรได้มากที่สุดบางส่วนได้เข้าสู่การปรับฐานราคาในช่วงตลาดหมีอย่างน้อย 70%

บางโปรเจ็กต์ เช่น Shiba Inu และ Decentraland มีราคาลดลงถึง 85% เมื่อเทียบกับราคาสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้านี้

แม้แต่โปรเจ็กต์ที่ดีที่สุดที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ก็ยังมีมูลค่าลดลงจำนวนมาก

นี่ไม่ใช่ความผิดเฉพาะของโปรเจ็กต์ แต่เป็นเพราะตลาดหมี เช่นเดียวกับในการซื้อขายหุ้น ที่ราคาเหรียญทุกตัวต่างลดลงกันหมด

จากมุมมองการลงทุน นี่เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างพอร์ตการลงทุนในเหรียญคริปโตคุณภาพสูงในราคาที่ไม่แพง

ช่วงปรับฐานของตลาด

การปรับฐานของตลาดนั้นแตกต่างจากตลาดหมีตรงที่มีระยะเวลาสั้นกว่า

การปรับฐานของตลาดมักเกิดขึ้นเมื่อคริปโตมีราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นเวลานาน และนักลงทุนกำลังมองหาเงินสดจากผลกำไรของพวกเขา แต่เนื่องจากเป็นการร่วงลงของราคาเป็นเพียงชั่วคราว มีหลายครั้งที่ภาพรวมของราคายังอยู่ในทิศทางขาขึ้นเหมือนเดิม

ตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายนปี 2021 หลังจากแนวโน้มราคาขาขึ้นที่ยาวานาน ราคา Bitcoin ได้ลดลงจาก 51,000 ดอลลาร์เป็น 41,000 ดอลลาร์ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งแสดงถึงการปรับฐานของตลาดเกือบ 20%

แต่หลังจากพ้นช่วงปรับฐาน ราคา Bitcoin ก็เปลี่ยนจาก 41,000 ดอลลาร์ไปสู่ระดับราคาสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่มากกว่า 68,000 ดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าผู้ที่เข้าสู่ตลาดระหว่างการปรับฐานจะได้รับผลกำไรมากกว่า 65%

วิธีการเทรดคริปโตเคอเรนซี่เพื่อให้ได้กำไร

ดังที่เราได้อธิบายไป หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเทรดคริปโตเคอเรนซี่เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดคือการซื้อเหรียญในช่วงพรีเซล 

ด้านล่าง เราจะอธิบายวิธีเข้าสู่ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับการขายพรีเซลของสกุลเงินดิจิทัลที่อาจทำกำไรซึ่งเปิดใช้งานอยู่ในขณะนี้ – MMG ($MEMAG)

  • ขั้นตอนที่ 1 – สร้าง Crypto Wallet: ก่อนซื้อ $MEMAG นักลงทุนต้องสร้างกระเป๋าเงินคริปโตที่เข้ากันได้กับแพลตฟอร์ม presale ตัวอย่างเช่น Wallet Connect และ MetaMask เป็นสองตัวเลือกกระเป๋าเงินยอดนิยมที่สามารถใช้เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มการขายพรีเซลของ Meta Masters Guild
  • ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ ETH/USDT: นักลงทุนสามารถซื้อ $MEMAG ด้วยโทเค็น ERC-20 เช่น Ethereum (ETH) และ Tether (USDT) ซื้อหนึ่งในโทเค็นเหล่านี้จากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต และโอนไปยังกระเป๋าเงิน crypto ของคุณ ในทางกลับกัน นักลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์ได้จากเว็บไซต์ Meta Masters Guild ผ่าน Transak
  • ขั้นตอนที่ 3 – เข้าถึงแพลตฟอร์มการขายพรีเซล: เข้าถึงแพลตฟอร์มการขายล่วงหน้า: หลังจากซื้อ ETH/USDT แล้ว ให้ไปที่เว็บไซต์ MMG เพื่อเริ่มเชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณกับแพลตฟอร์มการขายพรีเซล คลิกที่ ‘เชื่อมต่อ Wallet’ และเลือกระหว่าง MetaMask หรือ Wallet Connect
  • ขั้นตอนที่ 4 – ซื้อโทเค็น MEMAG: เลือก ‘ซื้อด้วย ETH/USDT’ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณ นักลงทุนสามารถป้อนจำนวน MEMAG ที่ต้องการรับได้แล้ว หลังจากป้อนจำนวนโทเค็นที่จะซื้อแล้ว ให้เลือก ‘แปลง’ เพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้น นักลงทุนสามารถได้รับเหรียญบนเว็บไซต์ Meta Masters Guild หลังจากการขายพรีเซลสิ้นสุดลง

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

บทสรุป

บทความนี้ได้เจาะลึกและจัดอันดับเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดเพื่อลงทุนในขณะนี้ เราได้พิจารณาโปรเจ็กต์ที่มีพื้นฐานที่มั่นคงและราคาต้นทุนที่ดูดีเกินกว่าจะปฏิเสธได้ตามภาวะตลาดหมีในปัจจุบัน

เราขอแนะนำ Meta Masters Guild เป็นเหรียญคริปโตที่ทำกำไรได้มากที่สุดที่น่าซื้อในปี 2023 โดย $MEMAG จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่หายากหลังจากการขายพรีเซลเนื่องจากอุปทานที่จำกัดสำหรับการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน และการขายพรีเซลกำลังขายโทเค็นนี้ในราคาต่ำสุด

เมื่อพิจารณาว่า MEMAG มีราคาเพียง $0.01 ต่อโทเค็นในช่วงพรีเซลล์และมีการเสนอโทเค็นโบนัส เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อสินทรัพย์นี้คือตอนนี้

Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุด 

จัดอันดับ 10 เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุด 2023

ในการรับมือกับความผันผวนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนจึงกำลังมองหาเหรียญที่คนค้นหามากที่สุดและได้รับความนิยมในปี 2023 นอกเหนือจากสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแล้ว เราก็กำลังเห็นความสนใจไปที่การเพิ่มขึ้นของโปรเจกต์เหรียญคริปโตใหม่ๆ ซึ่งบางโปรเจกต์นั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า แม้จะอยู่ในช่วงตลาดขาลงในปี 2023 ก็ตาม

เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดมักจะมีความผันผวนในระดับสูงและมีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นในอนาคตเช่นกัน บทความนี้จะรีวิวเกี่ยวกับ 10 เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดในปีนี้

จัดอันดับ 10 เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุด 2023

ด้านล่างคือรายการแนะนำ 10 อันดับเหรียญที่คนค้นหามากที่สุดในขณะนี้:

  1. Fight Out – แพลตฟอร์ม Move to Earn Platform ที่ให้รางวัล Active Lifestyle
  2. C+Charge –ทำให้คาร์บอนเครดิตเป็นประชาธิปไตยและให้รางวัลแก่ผู้ขับขี่ EV สำหรับการชาร์จรถยนต์
  3. RobotEra – โทเค็น P2E และ Metaverse พร้อมรางวัลมากมายในช่วงพรีเซลล์
  4. Tamadoge – เหรียญที่คนค้นหามากที่สุดในปี 2023
  5. Battle Infinity – แพลตฟอร์ม Metaverse ที่กำลังจะเปิดตัว ทำกำไรได้ถึง 7 เท่า
  6. Lucky Block – แพลตฟอร์ม NFT พร้อมโทเค็นเวอร์ชันใหม่
  7. Bitcoin – เหรียญคริปโตน่าลงทุนที่สุดตลอดกาล
  8. Ethereum – เหรียญ Altcoin ที่มีการค้นหามากที่สุดในปี 2023
  9. Dogecoin – เหรียญมีมคริปโตยอดนิยม
  10. Polygon – โครงสร้าง Web 3.0 บน Ethereum

ซื้อเหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดตอนนี้

เจาะลึกกับเหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุด

ด้านล่างคือการรีวิวเหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดในแง่ของความนิยมล่าสุด กราฟราคา และฟีเจอร์เพิ่มเติม

1. Fight Out – Fight Out – แพลตฟอร์ม Move to Earn Platform ที่ให้รางวัล Active Lifestyle

Fight Out เป็นแพลตฟอร์ม move to earn ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนตั้งแต่เพิ่งเปิดตัวช่วงพรีเซล ในเวลาไม่กี่สัปดาห์ Fight Out สามารถระดมทุนได้มากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงแรกของการขายรอบพรีเซล

การขายรอบพรีเซลของเหรียญ $FGHT ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของ Fight Out ปัจจุบันโทเค็นสามารถซื้อได้ในราคา $0.02393 ราคาจะพุ่งไปที่ $0.0333 ในรอบสุดท้าย ทำให้นักลงทุนรายแรกมีโอกาสซื้อโทเค็นนี้ได้ในราคาที่ต่ำกว่า

หลังจากช่วงพรีเซลสิ้นสุดลง Fight Out จะแสดงลิสสกุลเงินดิจิทัลหลักบนกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ในวันที่ 5 เมษายน 2023

เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต move to earn ที่ดีที่สุด โดยเหรียญ Fight Out กำลังพัฒนาแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมในการออกกำลังกายและรับรางวัลที่เรียกว่า REPS สำหรับการดำเนินการให้เสร็จสิ้น ขยายชุมชนและรับเหรียญตรา

REPS สามารถแลกเป็นสินค้า ส่วนลดในการสมัครสมาชิก และเซสชันทางไกลกับผู้ฝึกสอน ผู้ใช้สามารถซื้อ REPS ได้มากขึ้นด้วยโทเค็น $FGHT

Fight Out กำลังดำเนินการเปิดโรงยิมที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหญ่ ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำและโค้ชมืออาชีพที่จะเสนอเซสชันแบบมาสเตอร์คลาส

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็น Fight Out โดยอ่านเอกสารข้อมูลและเข้าร่วมช่องทาง Telegram

ลงทุนใน FightOut ตอนนี้

2. C+Charge –ทำให้คาร์บอนเครดิตเป็นประชาธิปไตยและให้รางวัลแก่ผู้ขับขี่ EV สำหรับการชาร์จรถยนต์

C+Charge กำลังทำให้คาร์บอนเครดิตเป็นประชาธิปไตย ซึ่งทำให้นักลงทุนจำนวนมากสงสัยว่าพวกเขาสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้และรับรางวัลสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) ได้อย่างไร

ระบบนิเวศนี้ใช้โทเค็นหลัก $CCHG เพื่อให้ผู้ขับขี่ EV สามารถชำระค่าชาร์จรถยนต์ของตนและรับคาร์บอนเครดิตเป็นรางวัล

นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญ $CCHG ได้ที่ $0.017 ในรอบที่ 4 โดยรวมแล้ว C+Charge จะมีแปดรอบการขายรอบพรีเซล ราคาของ C+Charge จะขึ้นไปถึง $0.0235 ในรอบสุดท้าย C+Charge จะช่วยอำนวยความสะดวกในระบบนิเวศผ่านแอพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถระบุตำแหน่งสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดและรับข้อมูล เช่น ราคาและเวลารอ

คุณลักษณะกระเป๋าเงินของแอปจะเก็บโทเค็น $CCHG และติดตามคาร์บอนเครดิตที่คนขับได้รับ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปและ $CCHG ให้สมัครรับข้อมูลจากช่อง Telegram และอ่านเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับ C+Charge

หลังจากการขายรอบพรีเซลสิ้นสุดลง โทเค็น $CCHG จะเข้าลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนในวันที่ 31 มีนาคม 2023 เมื่อพิจารณาว่า C+Charge ได้จัดสรร 40% ของการจัดหาโทเค็น 1 พันล้านโทเค็นให้กับการขายรอบพรีเซล ตอนนี้เป็นเวลาที่เหรียญสามารถเข้าถึงได้มากที่สุด

ไปยัง C+Charge พรีเซลตอนนี้

3. RobotEra – โทเค็น P2E และ Metaverse พร้อมรางวัลมากมายในช่วงพรีเซลล์

TARO เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุด เพราะตัวเกมนั้นแตกต่างจากเกม play to earn ในตลาด

RobotEra มีวิธีให้ผู้เล่นได้รับรางวัลโทเค็นและรับรายได้แบบพาสซีฟมากมาย ทำให้น่าดึงดูดใจอย่างมาก

อีกเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนสนใจก็คือมันเป็นสินทรัพย์ที่ราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ขั้นตอนแรกของการขายรอบพรีเซลของ TARO ช่วยให้นักลงทุนได้รับเหรียญในราคา $0.02 ในขณะที่ราคาของเหรียญจะเพิ่มขึ้นในรอบที่สองเป็น $0.025 และมากถึง 60% ($0.032) เมื่อการขายรอบพรีเซลสิ้นสุดลง

ผู้เล่นได้ค้นหาเหรียญคริปโตที่มีรางวัลมากมาย และผู้พัฒนา RobotEra ก็พร้อมให้รางวัลนั้น

หลังจากซื้อที่ดินบนดาว Taro แล้ว ผู้เล่นจะใช้ตัวละครหุ่นยนต์เพื่อพัฒนาขึ้นมาใหม่โดยซื้อแปลงที่ดิน metaverse และรวบรวมวัตถุดิบ ขุดแร่ และสร้างหุ่นยนต์คู่หูด้วยเครื่องมือในเกม

ซึ่งจะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น พร้อมกันกับได้สำรวจระบบนิเวศแบบ multiverse ผู้เล่นสามารถสร้างแพลตฟอร์ม metaverse ใหม่กับคอมมิวนิตี้ NFT อื่นๆ และรับรางวัลจากการขาย NFT ได้ในตลาด

ผู้เล่นสามารถรับโทเค็นได้จากการสร้างรายได้จากที่ดินผ่านการเช่าพื้นที่โฆษณาและขายออกหลังจากที่มีมูลค่าเพิ่มเนื่องจากสินทรัพย์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาผู้เล่นไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมใน RobotEra ซึ่งเป็นโปรเจกต์จาก LBank Labs โดยผู้เล่นจะได้ใช้เครื่องมือในเกมเพื่อพัฒนาสิ่งต่างๆ เช่น เสียง การโต้ตอบกับผู้ใช้ ฟิสิกส์ และฉาก 3 มิติ

ผู้ก่อตั้งยังได้รับการรับรองจาก doxxed และ KYC ซึ่งเชื่อว่าระบบสาธารณูปโภคและแหล่งรายได้ใหม่จะถูกสร้างขึ้นเมื่อผู้เล่นสร้างระบบนิเวศได้ด้วยข้อจำกัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ตามเอกสารข้อมูล RobotEra ผู้เล่นยังสามารถรับรางวัลจากการควบคุมทวีปอิสระ

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่กลุ่ม Telegram

เพื่อรับผลประโยชน์ดังกล่าว ผู้เล่นจะต้องเป็นเจ้าของโทเค็น TARO และนี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะเข้าร่วม

RobotEra ได้จัดสรรเพียง 3% ของเหรียญทั้งหมดที่ 1.8 พันล้านเพื่อเป็นสภาพคล่องแก่กระดานแลกเปลี่ยน ส่วน 15% ก็เปิดให้ซื้อในช่วงพรีเซลล์

เริ่มพรีเซลล์สิ้นสุดแล้ว
วิธีการซื้อETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ1,000 TARO
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง RobotEra วันนี้

4. Meta Masters Guild – เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดในปี 2023

Meta Masters Guild (MMG) ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทันทีที่เปิดตัว โดย $MEMAG ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม ระดมทุนได้ 4.7 ล้านดอลลาร์ผ่านการขายรอบพรีเซลของสกุลเงินดิจิทัล

$MEMAG จะถูกใช้เพื่อมีส่วนร่วมในเกมมือถือ cryptocurrency ที่น่าตื่นเต้นหลายเกมบนแพลตฟอร์ม Meta Masters Guild หนึ่งในเหตุผลที่นักลงทุนแห่กันไปที่แพลตฟอร์มนี้คือภารกิจในการกำหนดนิยามเกม P2E ใหม่โดยการพัฒนาระบบการเล่นและสร้างรายได้

โปรเจกต์นี้มุ่งเน้นไปที่การนำเสนอเกมที่มีส่วนร่วมสูงและโต้ตอบได้ ซึ่งจะให้รางวัลแก่ผู้เล่นสำหรับเวลาที่ใช้ในเกม ชัยชนะ และการมีส่วนร่วมต่อระบบนิเวศ

นอกจาก $MEMAG แล้ว ผู้ใช้สามารถรับและซื้อ GEMS ซึ่งเป็นสกุลเงินในเกมได้ โทเค็นเหล่านี้สามารถรับได้จากการมีส่วนร่วมในสามโครงการที่กำลังจะมีขึ้นใน Meta Masters Guild หนึ่งในเกมที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่คือ Meta Kart Racers ซึ่งเป็นเกมการแข่งขันเพื่อสร้างรายได้ที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมแบบตัวต่อตัวและรอบเดี่ยว

ในช่วงพรีเซล ราคาของ $MEMAG พุ่งขึ้นจาก $0.007 เป็น $0.023 ในรอบสุดท้าย ขณะนี้การขายรอบพรีเซลเสร็จสิ้นแล้ว โครงการจะเตรียมแสดงรายการโทเค็นในเร็วๆ นี้

ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุดโดยสมัครรับข้อมูลช่อง Telegram และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนิเวศโดยอ่านเอกสารข้อมูลของ Meta Masters Guild

นักลงทุนที่ต้องการซื้อโทเค็น $MEMAG จะเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในช่วงพรีเซลล์ เนื่องจาก MMG ได้จัดสรร 35% ของการจัดสรรโทเค็น 1 พันล้านเหรียญให้กับการระดมทุนรอบแรก

ลงทุนใน $MEMAG ตอนนี้

5. Tamadoge – เหรียญที่คนค้นหามากที่สุดในปี 2023

Tamadoge (TAMA) เป็นแพลตฟอร์มคริปโตแบบ play-to-earn (P2E) ที่รวมเกมเข้ากับโอกาสในการสร้างรายได้คริปโตสำหรับผู้เล่น TAMA เป็นโทเค็นหลักของ Tamaverse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม decentralized ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี blockchain เพื่อมอบรางวัลในเกม

ในปี 2022 Tamadoge กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดเนื่องจากการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จ จากการเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด TAMA ระดมทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ระหว่างการเปิดตัวโทเค็นครั้งแรกก่อนที่จะถูกลิสต์ในกระดานเทรด ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 500% จากราคาเดิมและสูงกว่า 2,000% จากราคาพรีเซลล์

ความนิยมของโปรเจกต์ได้รับการสังเกตและพูดถึงโดยสำนักข่าวออนไลน์หลายแห่ง รวมถึง Yahoo Finance, Market Watch และ Economic Times

นอกจากนี้ยังเป็นเหรียญมีมที่ดีที่สุด 5 อันดับแรกตั้งแต่เปิดตัวตามปริมาณการซื้อขาย เป็นเหรียญที่คนค้นหามากที่สุดบนโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเหรียญที่มีการเข้าชมมากที่สุด 10 อันดับแรกใน CoinMarketCap

การเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จเป็นผลมาจาก tokenomics ที่มั่นคงของโปรเจกต์ ซึ่งมีโทเค็นทั้งหมดเพียง 2 พันล้านโทเค็นเท่านั้น

โดย 5% ของโทเค็นทั้งหมดที่ใช้ไปในระบบนิเวศจะถูกเผาทิ้ง ทำให้ TAMA เป็นหนึ่งในนั้นเหรียญคริปโตอุปทานลดลงที่ดีที่สุด

ส่วนอีก 30% ของโทเค็นที่ใช้ไปจะเก็บไว้เพื่อใช้ในการตลาด และ 65% ที่เหลือจะถูกแจกจ่ายเป็นรางวัลในกลุ่มรางวัล P2E

ในแง่ของกรณีการใช้งาน ผู้เล่นสามารถใช้ TAMA เพื่อซื้อสัตว์เลี้ยง Tamadoge ซึ่งเป็น NFT สุนัข ซึ่งสามารถใช้เพื่อรับรางวัลเหรียญคริปโตผ่านการแข่งขันภายในคอมมิวนิตี้ โดย TAMA ยังใช้สำหรับการอัปเกรดและเป็นสินทรัพย์ในเกม เช่น ของเล่น อาหาร และขนม

เมื่อสัตว์เลี้ยง NFT เปิดตัวก็ได้กลายเป็นคอลเล็กชันยอดนิยมบน OpenSea หลังจากระดมทุนได้กว่า 250 ETH

Tamadoge ยังคงพัฒนาอย่างต่อเรื่องเพื่อเปิดตัวเกมเต็มในปี 2023 และดูเหมือนว่าจะเตรียมทะลุแนวต้านหากภาวะตลาดมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น

ติดตามกลุ่ม Telegram ของ Tamadoge เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับตัวโปรเจกต์ แอดมินกลุ่มจะไม่ส่งข้อความถึงคุณก่อนเด็ดขาด

ซื้อ Tamadoge บน OKX

6. Battle Infinity – แพลตฟอร์ม Metaverse ที่กำลังจะเปิดตัว ทำกำไรได้ถึง 7 เท่า

จากการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทางการตลาด Battle Infinity ได้โปรโมตแพลตฟอร์มด้วยการใช้คนดังในการโฆษณากรณีการใช้งานเหล่านี้ทั้งหมด โดย Irfan Pathan นักคริกเก็ตชื่อดังของอินเดีย และ Urvashi Rautela อดีต Miss Universe ก็เป็นหนึ่งในคนดังที่ร่วมเปิดตัวแพลตฟอร์มผสมผสานกับสภาพแวดล้อมแบบ P2E ที่มีกรณีการใช้งานที่หลากหลาย Battle Infinity (IBAT) ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์เหรียญคริปโตยอดนิยมที่สุด

Battle Infinity ให้บริการ 6 สภาพแวดล้อมแบบ P2E ที่ผู้เล่นสามารถ stake โทเค็น แข่งขันด้วย NFT และเข้าถึงสนาม metaverse โดยมีโทเค็นที่ใช้เพื่อกำกับดูแลเป็นเหรียญ IBAT ซึ่งสามารถซื้อและแลกเปลี่ยนกับเหรียญคริปโตอื่นๆ ได้ที่ IBAT Battle Swap ซึ่งเป็น decentralized exchange ของ Battle Infinity (IBAT)

ผู้เล่นสามารถซื้อ NFT ในเกม ซึ่งใช้เป็นบัตรผ่านเพื่อเข้าร่วม IBAT Premier League ซึ่งเป็นลีกกีฬาแฟนตาซีแบบกระจายอำนาจบน Battle Infinity นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถเข้าถึง Battle Arena ระบบนิเวศเสมือนที่ตัวละครและไอเท็มทั้งหมดจะเป็น NFT โดยใช้โปรโตคอลสัญญาอัจฉริยะ ERC 721

Battle Infinity ได้โปรโมตแพลตฟอร์มด้วยการใช้คนดังในการโฆษณากรณีการใช้งานเหล่านี้ทั้งหมด โดย Irfan Pathan นักคริกเก็ตชื่อดังของอินเดีย และ Urvashi Rautela อดีต Miss Universe ก็เป็นหนึ่งในคนดังที่ร่วมเปิดตัวแพลตฟอร์ม

โซเชียลมีเดียวที่กำลังเติบโตบน Twitter และ Telegram ช่วยให้ Battle Infinity ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้การพรีเซลล์ของโทเค็นประสบความสำเร็จ และกลายเป็นหนึ่งในเหรียญ ICO ที่ดีที่สุดแห่งปี 2023 ซึ่งขายหมดภายใน 24 วันหลังเปิดพรีเซลล์

โทเค็นเปิดตัวบน PancakeSwap ในเดือนสิงหาคม 2022 โดยทำ all time high ที่ 0.0105 ดอลลาร์ โดยราคาเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าจากราคาพรีเซลล์ที่ 0.0015 ดอลลาร์ ปัจจุบัน IBAT ซื้อขายอยู่ที่ $0.0034 ต่อโทเค็น

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

7. Lucky Block – แพลตฟอร์ม NFT พร้อมโทเค็นเวอร์ชันใหม่

หากคุณกำลังมองหาเหรียญคริปโตใหม่ๆ Lucky Block (LBLOCK) ก็เป็นแพลตฟอร์มการแข่งขันที่ใช้ NFT และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี blockchain ในการสร้างวิธีการที่ยุติธรรมและโปร่งใสเพื่อเข้าร่วมการจับรางวัล NFT และเหรียญคริปโตรายสัปดาห์ ที่ Lucky Block นักลงทุนจะมีโอกาสได้รับรางวัลอันน่าตื่นเต้น ซึ่งรวมถึงบ้านมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ นาฬิกาสุดหรู และรถลัมโบร์กีนี

Lucky Block ได้ให้การสนับสนุนนักมวยรุ่นเฮฟวีเวต Dillian Whyte ในการแข่งขันชกมวยกับ Tyson Fury ที่รอคอยกันมานานในช่วงต้นปี 2022

ทั้งยังเป็นเจ้าภาพในการจับรางวัล NFT สุดพิเศษ โดยผู้เข้าร่วมจะต้องถือ NFT สุดพิเศษที่สร้างขึ้นบนระบบนิเวศของ Lucky Block เดิมที LBLOCK ถูกสร้างขึ้นเป็นโปรโตคอล BEP-20 และเปิดตัวในเดือนมกราคม 2022 ภายในสองสัปดาห์หลังจากถูกลิสต์ ราคาโทเค็นก็ได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 1,100%

LBLOCK กลายเป็นหนึ่งในเหรียญที่คนค้นหามากที่สุดหลังจากเปิดตัวโทเค็นเวอร์ชันใหม่ ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ถูกลิสต์บน centralized exchange

เดิมที เหรียญ V1 ของ LBLOCK (โปรโตคอล BEP-20) เรียกเก็บภาษีการขาย 12% ส่วนโทเค็น ERC-20 (V2) ส่วนเหรียญที่มาใหม่จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีการขายเพิ่มเติมและก็ได้ถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยนยอดนิยมอย่าง MEXC รวมทั้งมีประกาศว่า LBLOCK V2 จะถูกลิสต์บน Gate.io (กระดานเทรด centralized ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5) ก็ได้ทำให้เหรียญ LBLOCK เป็นเหรียญคริปโตน่าซื้อวันนี้

ปัจจุบัน LBLOCK V2 ซื้อขายที่ $0.00053 ต่อโทเค็น

ซื้อ LBLOCK V2

8. Bitcoin – เหรียญคริปโตน่าลงทุนที่สุดตลอดกาล

Bitcoin (BTC) เป็นเหรียญอันดับต้นๆ ที่มีการค้นหามากที่สุดบน Google ในวันนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2008 ราคา Bitcoin ก็ได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ สู่การทำ all time high ที่ 70,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021

ปัจจุบัน โทเค็นได้สูญเสียมูลค่าไปแล้วกว่า 72% หลังจากความไม่แน่นอนของตลาดหลังจากการปรับขึ้นราคาครั้งใหญ่ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และความวุ่นวายทั่วโลกหลังความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย

แม้จะมีการปรับฐานราคา Bitcoin ก็ยังเป็นหนึ่งในประเภทสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2021 โดย Bitcoin อยู่ในอันดับที่ 76 ในรายชื่อคำที่ใช้ค้นหามากที่สุดใน Google โดยมีปริมาณการค้นหาที่ 23.6 ล้านครั้งต่อเดือน

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Bitcoin คือเป็นโทเค็นที่อุปทานจะลดลงตลอดเวลา โดยมีโทเค็นสูงสุดเพียง 21 ล้านโทเค็นเท่านั้น Bitcoin นั้นเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในปี 2023 โดยมีมูลค่าตลาด 367 พันล้านดอลลาร์ ซื้อขายที่ 19,180 ดอลลาร์ ด้วยศักยภาพภาพในอดีตที่ Bitcoin ทำไว้ในทศวรรษที่ผ่านมา โทเค็นนี้จึงสามารถเป็นหนึ่งในนั้นเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุดที่น่าลงทุนในตอนนี้

ซื้อ Bitcoin บน eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

9. Ethereum – เหรียญ Altcoin ที่มีการค้นหามากที่สุดในปี 2023

อีกหนึ่งเหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดคือ Ethereum (ETH) ซึ่งเป็น altcoin ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาด โดยมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 161 พันล้านดอลลาร์และราคา 1,316 ดอลลาร์ ทำให้ Ethereum กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลแรกที่ใช้สัญญาอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มของตน

ด้วยการใช้สัญญาอัจฉริยะ นักพัฒนาสามารถเปิดตัวเครื่องมือ DeFi ต่างๆ และ DApps (แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ) ได้อย่างง่ายดาย รวมถึง NFT และโปรโตคอลอื่นๆ บนเครือข่าย Ethereum

อย่างไรก็ตาม เดิมทีโทเค็นเคยมี all time high มูลค่าตลาดที่ 571 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ตอนที่มีราคา 4,900 ดอลลาร์ต่อโทเค็น

หลังจากการปรับฐานราคาในปี 2022 เหรียญ Ethereum ก็ถูกคาดว่าจะกลายเป็นหนึ่งในนั้นเหรียญคริปโตช่วงตลาดซบเซาที่ดีที่สุดในปีนี้

ความนิยมดังกล่าวจากการอัปเกรดใหม่ของเหรียญซึ่งจะแปลง Ethereum จากเหรียญ Proof of Work (PoW) เป็นโปรโตคอล Proof of Stake (PoS) อย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน Ethereum กำลังเผชิญกับปัญหาหลักๆจากค่าก๊าซบนเครือข่ายที่สูงและปัญหาด้านความสามารถในการขยายเครือข่าย

ในวันที่ 15 กันยายน 2022 Vitalik Buterin (ผู้สร้าง Ethereum) ได้ทวีตเพื่อยืนยันว่าเมื่อ Ethereum merge นั้นใช้งานได้จริง การอัปเกรดใหม่นี้ก็คาดว่าช่วยเพิ่มการทำธุรกรรมของ Ethereum ต่อวินาที (TPS) เป็นประมาณ 100,000 รายการ โดยปัจจุบัน เครือข่ายทำธุรกรรมได้เฉลี่ยที่ 17 TPS

หากการอัปเกรดใหม่แก้ปัญหาบน Ethereum ได้สำเร็จ นักพัฒนาและนักเทรดก็จะสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นได้ในราคาที่ถูกกว่ามาก ดังนั้น นักลงทุนจำนวนมากอาจต้องการถือโทเค็นนี้เอาไว้ในช่วงที่มีราคาถูกนั่นเอง

ลงทุนใน Ethereum ผ่าน eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

10. Dogecoin – เหรียญมีมคริปโตยอดนิยม

Dogecoin เปิดตัวในปี 2013 และถือเป็นหนึ่งในเหรียญมีมยอดนิยมที่ดีที่สุดในตลาดคริปโต โดยหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้โทเค็นได้รับความนิยมก็มาจากการได้รับการสนับสนุนจาก Elon Musk ซึ่งเป็น CEO ของ Tesla

Elon Musk ได้ทวีตข้อความมากมายที่สนับสนุน Dogecoin ซึ่งส่งผลให้เหรียญมีทั้งราคาสูงขึ้นและลดลงอย่างช้าๆ นอกจากนี้ Dogecoin ยังมีผู้ติดตามมากกว่า 143,000 คนในกลุ่ม DogeCoin Thai Club

Dogecoin ให้ผลตอบแทนที่น่าทึ่งแก่นักลงทุนตลอดทั้งปี 2021 จากที่เคยซื้อขายที่ 0.01 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี สู่ 0.7 ดอลลาร์ภายในเดือนพฤษภาคม 2022 ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นถึง 6,900% แต่ปัจจุบันโทเค็นมีการซื้อขายอยู่ที่ 0.06 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตลาดเกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ แม้จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 10 ในแง่ของมูลค่าตลาด แต่ DOGE ก็ได้ซื้อขายต่ำกว่าจุด all time high เดิมที่ 0.7 ดอลลาร์ถึง 92%

ในปี 2022 สกุลเงินดิจิทัลสูญเสียส่วนแบ่งหลักในของมูลค่าเนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาดเศรษฐกิจที่แพร่หลายและเหรียญก็ยังขาดกรณีการใช้งานอยู่นั่นเอง

ไปยัง eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

11. Polygon – โครงสร้าง Web 3.0 บน Ethereum

Polygon (MATIC) เป็นโครงสร้าง Web 3.0 ที่ยืดหยุ่นบนเครือข่าย Ethereum เป็นโซลูชันการทำธุรกรรมนอกเชน

เครือข่าย Polygon ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Optimistic Rollup ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นโซลูชันการขยาย L2 ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขยายเครือข่ายของสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ โดยเฉลี่ยแล้ว เครือข่าย Polygon สามารถทำธุรกรรมต่อวินาทีได้ประมาณ 65,000 TPS ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับนักพัฒนาเครือข่าย

โดยเปิดตัวในปี 2019 เหรียญ MATIC ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างรวดเร็ว ราคาโทเค็นเพิ่มขึ้นจาก $0.0035 และทำ all time high ที่ $2.92 ในเดือนธันวาคม 2021 อย่างไรก็ตาม ราคา MATIC ก็ลดลงเป็น $0.745 ต่อโทเค็น

ด้วยคอมมิวนิตี้ Twitter ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.6 ล้านราย MATIC จึงมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูงได้ในระยะยาว

ซื้อ Polygon บน eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

บทสรุป

การวิเคราะห์เหรียญคริปโตที่มีการค้นหามากที่สุดในปี 2023 นั้นอาจเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์หากต้องการลงทุนแบบใหม่ในตลาดคริปโต ปัจจุบัน มีสกุลเงินดิจิทัลจำนวนน้อยมากที่ให้ผลตอบแทนในเชิงบวกเนื่องจากตลาดคลิปโตที่อยู่ในช่วงขาลง

อย่างไรก็ตาม เราก็ขอแนะนำ FGHT ในฐานะเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนที่สุดในตอนนี้

ในขณะที่โทเค็นอย่าง BTC สูญเสียมูลค่าไป 60% ของการประเมินมูลค่าตั้งแต่ปี 2021 เหรียญ Fight Out ได้รับการทะยานผ่าน presale ปัจจุบันโทเค็นมีราคาอยู่ที่ 0.02393 ดอลลาร์ โดยการขายรอบพรีเซลได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์

Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุด

จัดอันดับ 10 เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุด ที่น่าลงทุน 2023 [แนะนำ!]

แม้ว่า Bitcoin เป็นเหรียญคริปโตเหรียญแรกที่สร้างกระแสคริปโตเคอเรนซี่ต่ออุตสาหกรรมทั่วโลก แต่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นประเด็นสำคัญด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงมีโปรเจ็กต์ทางเลือกเกิดขึ้นมากมาย เพื่อเสนอทางเลือกที่ ‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ หรือเป็นเหรียญคริปโตพลังงานสะอาดสำหรับนักลงทุน

บทความนี้จะกล่าวถึงโปรเจ็กต์เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดในปี 2023 โดยเจาะลึกว่าเหรียญคริปโตใดบ้างที่สร้างประโยชน์สูงสุดต่อสิ่งแวดล้อม และนำเสนอกลยุทธ์ที่มีค่าเพื่อช่วยให้นักลงทุนในการค้นหาเหรียญที่มีความยั่งยืนเพื่อการลงทุนต่อไป

แนะนำ 10 โปรเจ็กต์เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุด แห่งปี 2023

แม้ว่าผู้คนหลายแสนคนทั่วโลกยังคงลงทุนใน Bitcoin ต่อไป แต่โปรโตคอลแบบ ‘Proof-of-Work’ (PoW) ของเหรียญนั้นมาพร้อมกับการใช้พลังงานนั้นมหาศาล โชคดีที่เหรียญคริปโตอื่นๆ ได้พยายามเลือกแนวทางอื่นเพื่อพยายามลดการใช้พลังงานลง

เหรียญคริปโตที่มีความยั่งยืนทั้ง 10 เหรียญด้านล่างนี้ได้ปฏิวัติตลาดคริปโตด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราจะมาเจาะลึกถึงเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดเหล่านี้ในส่วนต่อไป โดยพูดถึงกรณีการใช้งานและโอกาสเติบโตในอนาคต

  1. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดในปี 2023 พร้อมรางวัลสำหรับการรีไซเคิล
  2. Cardano (ADA) – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนสูงสุดยอดนิยมในปี 2023
  3. Polygon (MATIC) – เหรียญบล็อคเชนเลเยอร์ 2 ที่มาพร้อม ‘ปณิธานด้านสิ่งแวดล้อม’
  4. Algorand (ALGO) – เครือข่ายบล็อคเชนลดการปล่อยคาร์บอนที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย
  5. Chia (XCH) – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดพร้อมกลไกการทำงานที่ไม่เหมือนใคร
  6. Solana (SOL) – เครือข่ายบล็อกเชนใช้พลังงานน้อยกว่า Ethereum ถึง 99%
  7. Nano (XNO) – เหรียญคริปโตทางเลือกนอกจาก Bitcoin ที่ยั่งยืน
  8. Hedera (HBAR) – ทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเทคโนโลยีบล็อคเชน
  9. SolarCoin (SLR) – หนึ่งในเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สร้างแรงจูงใจให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
  10. Stellar (XLM) –โปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนที่กำลังมาปฏิวัติระบบการชำระเงิน

ไปยังเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุด ตอนนี้

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

เจาะลึกเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดที่น่าลงทุน

คนส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อเหรียญคริปโตเพื่อทำกำไร แต่ไม่สนใจผลกระทบของโปรเจ็กต์ต่อสิ่งแวดล้อม ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น Bitcoin เป็นตัวอย่างที่สำคัญของเรื่องนี้ เนื่องจากการขุดบิทคอยน์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นประเด็นร้อนในตลาด

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าคริปโตไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่? แต่บรรดาโปรเจ็กต์เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดที่เราแนะนำด้านล่างนี้มอบทั้งโอกาสสร้างผลตอบแทนอันน่าดึงดูดและภารกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราจะมาเจาะลึกและดูโปรเจ็กต์เหล่านี้กันอย่างละเอียดยิ่งขึ้น:

1. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดในปี 2023 พร้อมรางวัลสำหรับการรีไซเคิล

เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดในปี 2023 ของเราคือ Ecoterra ซึ่งให้รางวัลแก่ผู้ใช้ในการป้องกันภาวะโลกร้อน

ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Ecoterra โดยการมีส่วนร่วมกับแอพ Recycle2Earn บนแพลตฟอร์ม โทเค็นเหล่านี้สามารถบันทึก ลงทุน หรือใช้เพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การทำความสะอาดชุมชนและโครงการพลังงานทดแทน

ผู้ซื้อสามารถรับโทเค็น $ECOTERRA ในราคาเพียง $0.004 USDT โดยหน้า Pre-sale ของโปรเจกต์จะรองรับการชำระเงินเป็น ETH/USDT หรือผ่านบัตรเครดิต ทำให้ซื้อเหรียญได้อย่างง่ายดาย

แอพ Recycle2Earn จะให้ผู้ใช้ตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านหน้าโปรไฟล์ส่วนตัว แอพนี้มีโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ตรวจสอบผลงานการดูแลสิ่งแวดล้อมของแต่ละคน ในทำนองเดียวกัน ธุรกิจต่างๆ ก็สามารถเข้าถึง “โปรไฟล์ที่ติดตามผลงานของตนได้” 

ผู้ใช้สามารถรับวัสดุได้หลากหลายจากผู้ใช้ผ่านแพ็คเกจผลกระทบที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อลดผลเสียที่ตามมาของกิจกรรมการผลิตของตน วิธีนี้จะปลูกฝังการเปิดกว้างและการอุทิศตนเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ Ecoterra ยังนำเสนอฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น ตลาดสำหรับการชดเชยคาร์บอนและวัสดุรีไซเคิล

เอกสารข้อมูล Ecoterra เผยให้เห็นว่าสามารถใช้โทเค็น Ecoterra ในตลาดชดเชยคาร์บอนเพื่อสนับสนุนโครงการลดคาร์บอนที่ผ่านการตรวจสอบจากทั่วโลก โดยความสำเร็จในการชดเชยคาร์บอนจะสามารถเปลี่ยนเป็น NFT ได้

โซลูชันดังกล่าวนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ใช้เครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) เพื่อการรีไซเคิล ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถในการปรับตัวของระบบยังตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี แฟชั่น และการบริการ

Recycle2Earn เป็นระบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เข้ากันได้กับเครื่องรีไซเคิลทั่วโลก ซึ่งสามารถรองรับผู้ใช้หลายร้อยล้านคนทั่วโลก ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมได้ที่กลุ่ม Ecoterra Telegram เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดตและการพัฒนาล่าสุด

เพดานเงินทุน$6,700,000
โทเค็นทั้งหมด2,000,000,000
โทเค็นทในช่วงพรีเซลล์1,000,000,000
Blockchainเครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็นERC-20
ซื้อขั้นต่ำ$10
ซื้อด้วยUSDT, ETH, บัตรเครดิต

ไปยัง Ecoterra Presale

3. Cardano (ADA) – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนสูงสุดยอดนิยมในปี 2023

อีกหนึ่งเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดในปีนี้คือ Cardano ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์บล็อกเชนที่ใช้โปรโตคอล ‘Proof-of-Stake’ (PoS) เพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรม ตรงกันข้ามกับโปรโตคอล ‘Proof-of-Work’ (PoW) ของ Bitcoin

ตามที่ระบุไว้ในบทความโดย NBC บล็อกเชน PoS นั้นประหยัดพลังงานมากกว่า PoW มาก นี่เป็นเพราะใช้ ‘ตัวตรวจสอบความถูกต้อง’ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมมากกว่าการขุด ซึ่งต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล

ท้ายที่สุด สิ่งนี้ทำให้ Cardano เป็นเหรียญคริปโตพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เนื่องจากการทำธุรกรรมแต่ละครั้งที่ทำบนเครือข่ายมีผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่ามาก ดังนั้น ผู้เข้าร่วมสามารถ ‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ ได้ง่ายๆ โดยใช้เครือข่าย PoS เช่น Cardano

ซื้อ ADA บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

4. Polygon (MATIC) – เหรียญบล็อคเชนเลเยอร์ 2 ที่มาพร้อม ‘ปณิธานด้านสิ่งแวดล้อม’

Polygon เป็นเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เครือข่าย Ethereum สามารถปรับขนาดได้มากขึ้น ในฐานะที่เป็น ‘บล็อกเชนเลเยอร์ 2’ Polygon จะเชื่อมโยงกับ Ethereum และช่วยจัดการภาระงานบางส่วน โดย Polygon สามารถทำธุรกรรมได้มากถึง 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS)

Polygon ใช้โปรโตคอลแบบ PoS เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ซึ่งดีต่อสภาพแวดล้อมมากกว่าวิธีอื่น ยิ่งไปกว่านั้นบล็อกโพสต์ของ Polygonเพิ่งเผยแพร่ ‘ปณิธานด้านสิ่งแวดล้อม’ ของเครือข่ายที่มีแผนการที่จะมีระดับลดการปล่อยคาร์บอนในปี 2023

นอกจากนี้ Polygon ยังให้เงินทุนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์แก่โปรเจ็กต์ริเริ่มใหม่ๆๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับผลกระทบด้านลบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรวมถึงการซื้อเครดิตคาร์บอน BCT และ MCO2 มูลค่า 400,000 ดอลลาร์เพื่อชดเชยการปล่อยมลพิษ

ซื้อ MATIC บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

5. Algorand (ALGO) – เครือข่ายบล็อคเชนลดการปล่อยคาร์บอนที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย

Algorand เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดของปี 2021 โดยเสนอทางเลือกที่ปรับขนาดได้มากกว่า Ethereum เครือข่ายบล็อกเชนนี้สร้างขึ้นโดยศาสตราจารย์ Silvio Micali จาก MIT โดยสามารถรองรับธุรกรรมได้ประมาณ 1,000 รายการต่อวินาที

Algorand ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมผ่านโปรโตคอล ‘Pure Proof-of-Stake’ โปรโตคอลนี้หมายความว่าจำนวนพลังงานที่ต้องใช้ต่อการทำธุรกรรมจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่ TPS ยังคงเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Algorand ยังร่วมมือกับบริษัทชั้นนำอย่าง ClimateTrade เพื่อช่วยชดเชยการปล่อยคาร์บอนและสนับสนุนโปรเจ็กต์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Algorand ยังชดเชยการใช้คาร์บอนด้วยการซื้อคาร์บอนเครดิตโดยตรงผ่านสัญญาอัจฉริยะ ด้วยกระบวนการนี้ ทีมงานของ Algorand รับประกันว่าเครือข่ายจะยังคงปล่อยคาร์บอนเป็นลบตามเกณฑ์สุทธิ

ซื้อ ALGO บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

6. Chia (XCH) – เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดพร้อมกลไกการทำงานที่ไม่เหมือนใคร

หนึ่งในโปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนที่ดีที่สุดคือ Chia ตามเว็บไซต์ของ Chia เครือข่ายนี้ใช้พลังงานเพียง 0.16% ของการใช้พลังงานต่อปีของ Bitcoin และ 0.36% ของ Ethereum

การคาดการณ์แนวโน้มราคาเหรียญ Chia ของนักลงทุนเป็นไปในเชิงบวกอย่างมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากกลไก ‘Proof-of-Space-and-Time’ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเครือข่ายได้ขจัดความจำเป็นในการขุดและใช้พื้นที่เก็บข้อมูลที่ว่างอยู่แทนเพื่อรักษาความปลอดภัยเครือข่าย โดย ‘นักฟาร์ม’ สามารถเขียน ‘พื้นที่’ บน HDD และ SDD ของพวกเขา ซึ่งจากนั้นจะใช้เพื่อสร้างบล็อกและสร้างรางวัล

เนื่องจากวิธีการนี้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานในปัจจุบัน เครือข่าย Chia จึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยอย่างมาก กลยุทธ์การขุดคริปโตที่ยั่งยืนนี้ช่วยให้เหรียญ XCH เหรียญหลักของเครือข่ายมีมูลค่าตลาดสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้พร้อมให้ซื้อขายในกระดานซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุดในโลกหลายแห่ง

ซื้อ Chia บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

7. Solana (SOL) – เครือข่ายบล็อกเชนใช้พลังงานน้อยกว่า Ethereum ถึง 99%

Solana เป็นโปรเจ็กต์คริปโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มอบความเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น และยังมีฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนา dApp ในการโฮสต์ผลงานสร้างสรรค์ของพวกเขา และทำให้ Solana เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่เหมาะสำหรับโปรเจ็กต์ DeFi และ NFT

Solana เป็นหนึ่งใน โปรเจ็กต์เหรียญโตไวที่สุดในปี 2021 สาเหตุหลักมาจากแนวทาง ‘ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม’ เครือข่ายนี้ใช้อัลกอริธึม ‘Proof-of-History’ ที่ไม่เหมือนใครในการตรวจสอบธุรกรรม ทำให้ Solana จัดการธุรกรรมได้ประมาณ 65,000 TPS โดยแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมากๆ

ธุรกรรม Solana หนึ่งรายการเท่ากับค่าใช้จ่ายเพียง 2,707 จูล ซึ่งต่ำกว่าธุรกรรมของ Ethereum ประมาณ 99% ยิ่งไปกว่านั้น Solana Foundation ยังทำให้เครือข่ายมีความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2021 จนถึงปี 2022 และ Solana ยังเผยแพร่ ‘สรุปการวิเคราะห์ฟุตพริ้นท์ด้านสภาพภูมิอากาศ’ ซึ่งเน้นย้ำว่าเหตุใดนี่จึงเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนที่สุด

ซื้อ SOL บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

8. Nano (XNO) – เหรียญคริปโตทางเลือกนอกจาก Bitcoin ที่ยั่งยืน

Nano เป็นระบบการชำระเงินแบบ peer-to-peer ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับคริปโตได้อย่างรวดเร็วและกระจายอำนาจ แม้ว่าจะคล้ายกับ BTC แต่ Nano สร้างความแตกต่างโดยใช้ ‘โครงสร้างข้อมูลแบบบล็อกแลตทิซ’ วิธีการนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานโดยการแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนต่างๆ

หมายความว่าผู้เข้าร่วมเครือข่ายไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเครือข่ายทั้งหมด ทำให้ Nano เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า Bitcoin ยิ่งไปกว่านั้น Nano ใช้โปรโตคอลที่คล้ายกับ PoS แต่ช่วยให้ผู้ถือ NANO สามารถลงคะแนนว่าใครจะเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่าย

Nano ยังให้ผลลัพธ์ที่เกือบจะในทันทีและสามารถรองรับธุรกรรมได้ประมาณ 1,000 TPS เนื่องจากประสิทธิภาพและกลไกที่ประหยัดพลังงาน Nano จึงกลายเป็นหนึ่งใน โปรเจ็กต์เหรียญคริปโตรักษ์โลกสำหรับผู้ที่ต้องการโอนเหรียญอย่างรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ

ซื้อคริปโตบน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

9. Hedera (HBAR) – ทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเทคโนโลยีบล็อคเชน

Hedera เป็นโปรเจ็กต์ที่ใช้ ‘Hashgraph’ แทนบล็อคเชนเพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรม วิธีการนี้ช่วยให้เครือข่าย Hedera ดำเนินธุรกรรมได้สูงสุด 10,000 TPS และยังคงใช้พลังงานในระดับต่ำ

หนึ่งในค่านิยมหลักของ Hedera คือความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลให้ทีมพัฒนาต้องซื้อการชดเชยคาร์บอนทุกไตรมาส โดย Hedera มุ่งมั่นที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายสำหรับการชดเชยคาร์บอนเพื่อชดเชยการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นเมื่อเครือข่ายเติบโตขึ้น

ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงแห่กันไปซื้อ Hedera Hashgraph เพื่อเป็นช่องทางในการมีส่วนร่วมโปรเจ็กต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานของ Hedera เพิ่งเปิดตัว ‘กองทุนผลกระทบที่ยั่งยืน’ มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะลงทุนในโซลูชันเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนและช่วยเหลือธรรมชาติ

ซื้อ HBAR บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

10. SolarCoin (SLR) – หนึ่งในเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สร้างแรงจูงใจให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์

เหรียญที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าที่ยั่งยืนอีกเหรียญที่ต้องจับตามองคือ SolarCoin ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจูงใจผู้คนให้เปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ภารกิจของโปรเจ็กต์คือการทำให้พลังงานแสงอาทิตย์ใช้งานได้ฟรีโดยการแจกจ่ายเหรียญ SLR ให้กับผู้ที่ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์

ทีมงานของ SolarCoin หวังว่าจะช่วยให้มูลค่าของเหรียญ SLR สูงกว่าต้นทุนการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์กลายเป็นสิ่งที่ ‘ฟรี’ ในทางทฤษฎี ในขณะที่เขียนบทความนี้ ทีมงานของ SolarCoin จะมอบ 1 SLR ต่อ 1 MWh ของการผลิตไฟฟ้าที่ตรวจสอบแล้ว ซึ่งเป็นแรงจูงใจทางการเงินที่ชัดเจนในการเปลี่ยนมาใช้แหล่งพลังงานแสงอาทิตย์

อย่างไรก็ตาม เหรียญ SLR ยังไม่ได้เป็นหนึ่งใน Utility Token ที่ดีที่สุดเนื่องจากไม่สามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าหรือบริการได้ทุกที่ อย่างไรก็ตาม SolarCoin ยังคงเป็นเหรียญคริปโตที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์และสิ่งแวดล้อม

ซื้อคริปโตบน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

11. Stellar (XLM) – โปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนที่กำลังมาปฏิวัติระบบการชำระเงิน

โปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนที่สุดอีกโปรเจ็กต์หนึ่งคือ Stellar ซึ่งเป็นเครือข่ายการชำระเงินแบบกระจายอำนาจที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงเครือข่ายการชำระเงิน ‘แบบดั้งเดิม’ เครือข่ายเหล่านี้มักจะช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ในขณะที่ Stellar สามารถอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมแบบกระจายอำนาจด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก

เป้าหมายโดยรวมของ Stellar คือการช่วยให้หน่วยงานทางการเงินและบุคคลทั่วไปทำการโอนเงินให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าในปัจจุบัน โดยทำสิ่งนี้ผ่าน ‘Stellar Consensus Protocol’ ซึ่งตรวจสอบการทำธุรกรรมโดยใช้โหนด ธุรกรรมสามารถดำเนินการได้ในเวลาเพียงห้าวินาที ซึ่งเร็วกว่าเครือข่าย SWIFT แบบทวีคูณ

ด้วย Stellar Consensus Protocol นี้ Stellar ใช้พลังงานน้อยกว่า Bitcoin มากในการตรวจสอบการทำธุรกรรม ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ต้องการเป็นผู้ตรวจสอบบนเครือข่ายไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ขั้นสูงในการทำเช่นนั้น และยังช่วยลดการใช้พลังงาน และทำให้มั่นใจได้ว่า Stellar ยังคงเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า BTC

ซื้อ XLM บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

สิ่งใดที่ทำให้เหรียญคริปโตยั่งยืน?

เราได้พูดถึงเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนอันดับต้นๆ ไปแล้ว คราวนี้เราจะมาเน้นที่คุณสมบัติที่ทำให้โปรเจ็กต์คริปโต เป็นการลงทุนที่ยั่งยืนกัน โดยการพูดถึงความยั่งยืนส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวกับจำนวนการใช้พลังงานของเครือข่ายบล็อกเชน โดยเฉพาะ Bitcoin

รายงานจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์พบว่าเครือข่าย Bitcoin ใช้ไฟฟ้าประมาณ 150 เทราวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ซึ่งมากกว่าประเทศอาร์เจนตินาทั้งประเทศ และส่งผลให้มีการสูบ CO2 ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากกว่า 60 เมกะตัน ซึ่งจะสร้างผลกระทบด้านลบอย่างมากต่อการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เหตุผลหลักที่ Bitcoin ใช้พลังงานมากคือผ่านกระบวนการขุด และเนื่องจาก Bitcoin ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายมากขึ้น ก็จะนำไปสู่การทำธุรกรรมจำนวนมากขึ้นที่ต้องได้รับการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้มากขึ้น

เหรียญคริปโตมาแรงจำนวนมากพยายามมีความยั่งยืนโดยเลือกใช้อัลกอริธึมที่แตกต่างจาก ‘Proof-of-Work’’ ทางเลือกที่พบบ่อยที่สุดคือ ‘Proof-of-Stake’ (PoS) ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ไม่จำเป็นต้องทำการขุด

เมื่อไม่จำเป็นต้องทำการขุด เครือข่าย PoS จึงลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมาก ซึ่งส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง 

อย่างไรก็ตาม เหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด จำนวนมากใช้วิธีปฏิบัติจริงมากกว่า EOS เป็นตัวอย่างหนึ่งเนื่องจากเครือข่ายนี้ลงทุนอย่างแข็งขันในบริษัทที่ชดเชยคาร์บอนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เหตุใดคริปโตที่ยั่งยืนจึงมีความสำคัญ

ในขณะที่ตลาดคริปโตขยายตัว มีการให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นี่เป็นเรื่องปกติ เมื่อพิจารณาถึงปริมาณไฟฟ้าที่ใช้โดยเครือข่ายบล็อกเชนและโปรเจ็กต์คริปโตอื่นๆ

แต่ทำไมคริปโตที่ยั่งยืนจึงมีความสำคัญ ด้านล่างนี้คือเหตุผลหลายประการที่ทำให้โปรเจ็กต์คริปโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอาจกลายเป็นโปรเจ็กต์อันดับต้นๆ ในอีกหลายปีข้างหน้า:

ช่วยชะลอภาวะโลกร้อน

เหตุผลหลักที่โปรเจ็กต์คริปโตและองค์กรที่คล้ายคลึงกันมีความจำเป็นต้องมีความยั่งยืนก็คือ พวกเขาพยายามอย่างแข็งขันที่จะชะลอภาวะโลกร้อน และหนึ่งในตัวการสำคัญคือการปล่อย CO2 ซึ่งปัจจุบันโปรเจ็กต์คริปโตหลายโปรเจ็กต์ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากทุกปี

อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ที่เสนอทางเลือกที่ ‘เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’ ในขณะที่เขียนบทความนี้ เครือข่าย Bitcoin และ Ethereum ยังคงใช้ระบบ PoW ซึ่งใช้พลังงานมาก

เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนจะลดการใช้พลังงานลงในขณะที่ยังสามารถให้บริการแบบเดียวกัน ดังนั้น คริปโตที่ยั่งยืนอาจจะมีบทบาทสำคัญในการชะลอภาวะโลกร้อนในอีกหลายปีข้างหน้า

ให้สินทรัพย์ ‘ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ สำหรับนักลงทุน

นักลงทุนที่สงสัยว่าจะลงทุนใน Blockchain ได้อย่างไร ตอนนี้มีหลายโปรเจ็กต์ที่ต้องพิจารณา เนื่องจากตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ได้เติบโตขึ้นอย่างทวีคูณในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 

จากข้อมูลของ BlackRock บริษัทที่ตระหนักและพยายามที่จะแก้ปัญหาความท้าทายของโลกนั้นมีโอกาสอย่างมากสำหรับการเติบโตในระยะยาว ซึ่งไม่ต่างกับในตลาดคริปโต เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนจึงยังคงมีความจำเป็นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อสินทรัพย์ที่ ‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’

เปิดโอกาสให้บุคคลและธุรกิจร่วมมือกัน

ประการสุดท้าย เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนมีความสำคัญในการเชื่อมโยงบุคคลและธุรกิจเข้าด้วยกัน ทุกวันนี้ ความเชื่อมโยงระหว่างคนธรรมดากับองค์กรยักษ์ใหญ่ยังเป็นไปได้ยาก แต่โปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนพยายามที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้รวมตัวกันเพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม

วิธีค้นหาเหรียญคริปโตที่ยั่งยืน

ขณะนี้มีโปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความต้องการของสังคมในการสร้างความเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การค้นหาโปรเจ็กต์ที่ยั่งยืนและน่าลงทุนอาจเป็นเรื่องยาก 

เพื่อช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น นักลงทุนสามารถค้นหาเหรียญคริปโตในอนาคตที่มีความยั่งยืนได้หลายวิธี ดังนี้

มองหาบล็อกเชนที่ไม่ใช้ Proof-of-Work (PoW)

นักลงทุกที่หามีเงิน 30,000 ลงทุนอะไรดีสุด(หรือจำนวนเท่าใดก็ได้) ในเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนควรหลีกเลี่ยงเครือข่ายบล็อกเชนที่ใช้กลไก PoW มีทางเลือกมากมายสำหรับกลไกเหล่านี้ เช่น Proof-of-Stake และ Proof-of-History

นักลงทุนอาจต้องการหลีกเลี่ยงบล็อกเชนทั้งหมดและใช้เครือข่ายทางเลือก ซึ่ง Hedera เป็นผู้นำในเรื่องนี้ เนื่องจากวิธีการแบบ ‘hashgraph’ ยังคงกระจายอำนาจและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะไม่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนก็ตาม

ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาเหรียญคริปโตที่ยั่งยืน เหรียญคริปโต pantip ที่น่าซื้อที่สุดตอนนี้ถือเป็นเหรียญที่ ‘เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ เนื่องจากเหรียญเหล่านี้มักมีศักยภาพสูงสุดในระยะยาว

ยิ่งไปกว่านั้นหลาย ช่อง YouTube คริปโตที่ดีที่สุดมักพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งหลายโปรเจ็กต์มีค่านิยมหลักที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อย CO2

ค้นหากรณีการใช้งานที่เป็นนวัตกรรมใหม่

นักลงทุนสามารถค้นหาเหรียญคริปโตใหม่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้โดยการค้นหาโปรเจ็กต์ที่มีกรณีการใช้งานเฉพาะ แม้ว่าบล็อกเชน PoS จะช่วยสิ่งแวดล้อมได้ แต่ก็ยังคงใช้พลังงาน ทำให้เกิดความต้องการโซลูชันที่เป็นกลางทางคาร์บอน (หรือมีคาร์บอนเป็นลบ)

เหรียญคริปโตที่มีโอกาสเติบโตสูงสุดมักมีกรณีการใช้งานที่ไม่เหมือนใคร ทำให้นักลงทุนมีจุดขายที่ไม่เหมือนใคร เหรียญคริปโตจำนวนมากเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยสิ่งแวดล้อม แต่มักมีศักยภาพด้านราคามหาศาลจากมุมมองด้านการลงทุน

ติดตามดูพันธมิตรที่โดดเด่น

เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนใหม่ๆ มักจะแสวงหาความร่วมมือกับสถาบันชั้นนำ สิ่งนี้ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับทั้งเหรียญคริปโตและพันธกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างหนึ่งคือ Polygon ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์บล็อกเชนชั้นนำของโลก Polygon ร่วมมือกับโปรเจ็กต์ริเริ่มต่างๆ ของชุมชนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก และยังให้เงินทุนถึง 20 ล้านดอลลาร์สำหรับโปรเจ็กต์ของพวกเขา

เหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุด – บทสรุป

บทความนี้ได้พูดถึงโปรเจ็กต์คริปโตที่ยั่งยืนที่สุดในปี 2023 โดยสำรวจว่าโปรเจ็กต์เหล่านี้มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร และทำไมจึงมีศักยภาพด้านมูลค่าที่สูง

ผู้ที่ต้องการลงทุนในเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดอาจต้องการลงทุนกับ eToro ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อเหรียญคริปโตด้วยค่าธรรมเนียมคงที่ 1% (บวกส่วนต่างของตลาด) ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนสามารถเปิดโพสิชันซื้อขายได้ด้วยเงินทุนตั้งแต่ 10 ดอลลาร์ ทำให้ eToro เหมาะสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ในตลาดคริปโต

ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดคือ Ecoterra โปรเจกต์ Pre-sale ที่เพิ่งเปิดตัวนี้จะให้ผู้ใช้ได้รับคาร์บอนเครดิตสำหรับการรีไซเคิล Ecoterra โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการรีไซเคิลผ่านโปรแกรมการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และพยายามที่จะกระตุ้นให้แต่ละคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการรีไซเคิลอย่างจริงจัง

Categories
Crypto News คู่มือคริปโต เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

10 โปรเจกต์เหรียญ AI ที่น่าลงทุนมากที่สุดในปี 2023

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของโลกในทศวรรษหน้า โดยมีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการดำเนินธุรกิจของโลก เร่งให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายทางสังคมและการเงินรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน

นอกเหนือจากบิทคอยน์แล้ว การปฏิวัติโดย AI กำลังเกิดขึ้นในโลกของคริปโต ซึ่งในบทความนี้ เราจะแนะนำ 10 เหรียญคริปโต AI ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 และอธิบายวิธีการทำงานของเหรียญคริปโต AI

โปรเจกต์เหรียญ AI ที่ดีที่สุดในปี 2023

AI กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในโปรเจกต์คริปโตใหม่ๆ หลายโปรเจกต์ เราได้เลือกเหรียญ AI ที่ดีที่สุด 10 เหรียญที่รวมอัลกอริธึมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนมาแนะนำในบทความนี้:

  1. Love Hate Inu (LHINU) – เหรียญคริปโตมีม Vote-to-Earn ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นทางเลือกของโปรเจกต์เหรียญ AI
  2. DeeLance (DLANCE) –  โปรเจกต์เหรียญ AI ที่น่าลงทุนที่จะมาปฏิวัติวงการงานฟรีแลนซ์
  3. Ecoterra (ECOTERRA) – โปรเจกต์เหรียญ AI รักษ์โลก พร้อมรางวัลสำหรับการรีไซเคิล
  4. Fetch (FET) – AI ยอดนิยมที่ใช้ตัวแทนเพื่อสร้างผลกำไรจำนวนมาก
  5. Numeraire (NMR) – กองทุนเฮดจ์ฟันด์เหรียญ AI สำหรับตลาดหุ้น
  6. Cortex (CTXC) – เหรียญ AI สำหรับสมาร์ทคอนแทร็คที่ใช้งาน AI
  7. Velas (VLX) – เหรียญที่มีศักยภาพทำกำไรบนบล็อคเชนที่ขับเคลื่อนด้วย AI
  8. Ocean Protocol (OCEAN) – เหรียญ AI สำหรับกระดานแลกเปลี่ยนบิ๊กดาต้า
  9. SingularityNET (AGIX) – ตลาดออนไลน์สำหรับอัลกอริทึม AI
  10. dKargo (DKA) – เหรียญ AI เพื่อการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เหรียญ AI ที่ดีที่สุดที่เราแนะนำ

รีวิวเหรียญ AI ยอดนิยม

กำลังหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญ AI ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023 อยู่ใช่ไหม เราจะแนะนำเหรียญ 10 อันดับแรกอย่างละเอียดยิ่งขึ้นและอธิบายปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เหรียญและโปรเจกต์เหล่านี้มีความโดดเด่น

1. Love Hate Inu (LHINU) – เหรียญคริปโตมีม Vote-to-Earn ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นทางเลือกของโปรเจกต์เหรียญ AI

เช่นเดียวกับที่ AI ขัดขวางวิธีการแบบเดิมๆ $LHINU ก็ปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยการรวมเทคโนโลยี Blockchain เข้ากับกลไก vote-to-earn โดย Love Hate Inu เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ Blockchain แห่งแรกของโลกที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการเข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นและส่วนย่อย

นักลงทุนต่างแห่กันซื้อโทเค็นหลักของโปรเจกต์อย่าง $LHINU ซึ่งระดมทุนไปแล้วกว่า 2.75 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนนับตั้งแต่เปิด Pre-sale

โดยเป็นหนึ่งใน เหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุดผ่านทั้งแปดรอบ โดยแต่ละรอบจะใช้เวลา 7.5 วัน โดยราคาของโทเค็น $LHINU จะเพิ่มขึ้น 38% จากราคา ณ เวลาที่เขียนถึงรอบสุดท้าย – ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก $0.000105 เป็น $0.000145

ในการเข้าร่วมพรีเซลล์ คุณสามารถซื้อโทเค็น $LHINU โดยใช้ Ethereum, USDT หรือบัตรเครดิตทั่วไปผ่านทางเว็บไซต์ของแพลตฟอร์ม 

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้แพลตฟอร์ม คู่มือสำหรับใหม่จะสรุปกระบวนการทีละขั้นตอนการซื้อโทเค็น Love Hate Inu

Love Hate Inu คืออะไร?

Love Hate Inu เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ตัวแรกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ stake โทเค็นและลงคะแนนเสียงเพื่อแลกกับรางวัล

เมื่อใช้เทคโนโลยี Blockchain ผู้ใช้จะได้รับแรงจูงใจในการลงคะแนนผ่านกลไก ‘vote-to-earn’ วิธีการใหม่นี้จะเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเสียงในแบบสำรวจออนไลน์ในอนาคต

โปรเจกต์นี้จะนำเสนอผลลัพธ์ที่ยุติธรรม ไม่เปลี่ยนแปลง และปลอดภัยสำหรับโพลในหัวข้อต่างๆ ที่หลากหลาย ตั้งแต่มีมที่สนุกสนานและแบ่งปันได้ ไปจนถึงความคิดเห็นทางการเมืองที่จริงจัง

ในขณะที่ Love Hate Inu จะจัดการและส่งแบบสำรวจเริ่มต้น ภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ชุมชนจะจัดการและดำเนินการได้อย่างเต็มที่

ผู้ใช้และหน่วยงานที่สามมีอิสระที่จะส่งคะแนนเสียง โดยชุมชนเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะลงคะแนนเสียงใด ในขณะที่โปรเจกต์ยังพยายามสร้างพันธมิตรกับแบรนด์และโปรเจกต์ Web3 เพื่อเสนอโพสต์ที่ได้รับการสนับสนุนซึ่งรับประกันรางวัลพิเศษ

Stake-to-Vote

อิงจากเอกสารข้อมูล Love Hate Inu เฉพาะผู้ถือโทเค็นที่ stake โทเค็นของตนนานกว่า 30 วันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ลงคะแนนโดยไม่เปิดเผยตัวตนในแบบสำรวจ โดยพลังเสียงในการโหวตจะพิจารณาจากขนาดและระยะเวลาของการ stake 

กลไก stake-to-vote ป้องกันไม่ให้บอทส่งสแปมและแก้ไขผลโพลและนักเคลื่อนไหวจาก ‘กลุ่มต่างๆ ‘ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตนต้องการ 

คุณควรลงทุนซื้อ Love Hate Inu หรือไม่?

Love Hate Inu นำเสนอระบบการลงคะแนนที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และไม่ระบุตัวตน ซึ่งส่งเสริมการพูดคุยอย่างเปิดเผยและผ่องใสในหัวข้อปัจจุบัน 

โดยมีกำหนดจะปฏิวัติตลาดแบบสำรวจและโพลออนไลน์ ซึ่งมีมูลค่าทั่วโลก 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2027

ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มจะขาย 90% ของจำนวนทั้งหมด 100,000 ล้านรายการในช่วงพรีเซลล์ ทำให้โปรเจกต์อยู่เป็นของชุมชนและป้องกันการหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้น โดย 10% สุดท้ายจะถูกเก็บไว้สำหรับสภาพคล่องในกระดานแลกเปลี่ยน

ผู้ซื้อที่คาดหวังสามารถเข้าร่วมช่อง Love Hate Inu Telegram ในช่วงพรีเซลล์เพื่อรับการอัพเดตล่าสุด

เริ่มพรีเซล8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อETH, USDT, บัตรเครดิต
เชนEthereum
เพดานเงินทุน$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำ10 $LHINU
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale

2. DeeLance (DLANCE) – โปรเจกต์เหรียญ AI ที่น่าลงทุนที่จะมาปฏิวัติวงการงานฟรีแลนซ์

DeeLance เป็นเหรียญคริปโตมาใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังจะพลิกโฉมโลกแห่งการจัดหางานและฟรีแลนซ์

โปรเจ็กต์นี้ยังมีแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการสนับสนุนลูกค้า ซึ่งจะทำให้โลกของการจ้างงานและฟรีแลนซ์มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากขึ้น

DeeLance จะทำงานจากระบบข้อเสนอแนะโดยทั้งสองฝ่ายสามารถดูคะแนนได้ ช่วยให้ผู้จ้างสามารถค้นหาผู้สมัครและฟรีแลนซ์คุณภาพสูงเพื่อหลีกเลี่ยงผู้ไม่หวังดี

DeeLance จะตัดเรื่องของคนกลางออกไป ซึ่งจะการสร้างรายได้ของฟรีแลนซ์ และเสนอค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่าคู่แข่งของ Web2

การชำระเงินจะใช้งานโทเค็น DLANCE ซึ่งเร็วกว่าสกุลเงินทั่วไป โดย DeeLance จะใช้เอสโครว์ที่ปลอดภัยเพื่อรับประกันการชำระเงินทันทีเมื่องานเสร็จสิ้นตามข้อกำหนดที่ตกลงไว้

งานที่เสร็จสมบูรณ์จะถูกแปลงเป็น NFT และรักษาความปลอดภัยบน Blockchain เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การฉ้อโกงการชำระเงินหรือการละเมิดลิขสิทธิ์

โปรเจกต์นี้ยังสร้างโลก metaverse ที่จะช่วยให้ผู้จ้างและฟรีแลนซ์สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน ซื้อที่ดินเสมือน สำนักงานสำหรับการจัดการประชุม และบริการโฆษณาบนพื้นที่บิลบอร์ด

การ Pre-sale ของ DLANCE เพิ่งเริ่มต้นด้วยการขายโทเค็นในรอบที่ 1 ในราคา $0.025 และเพิ่มขึ้นเป็น $0.035 ในรอบที่หกและรอบสุดท้าย – โดยไม่มีช่วงล็อคเหรียญและตั้งเป้าระดมทุนไว้ที่ $6.8 ล้าน

โดยทีมงาน DeeLance ก็ได้รับการตรวจสอบและยืนยัน KYC แล้ว และได้จัดสรร 30% ของ DLANCE ที่ 1 พันล้านเหรียญ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ ผู้ที่สนใจควรอ่านเอกสารเอกสารข้อมูลของ DeeLance หรือเข้าร่วมกลุ่ม Telegram

เริ่มพรีเซลล์30 มีนาคม
วิธีการซื้อETH, USDT, บัตรเครดิต
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ$10
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

3. Ecoterra (ECOTERRA) – โปรเจกต์เหรียญ AI รักษ์โลก พร้อมรางวัลสำหรับการรีไซเคิล

Ecoterra เป็นโปรเจกต์คริปโตที่มีศักยภาพสูงที่เพิ่งเปิดตัวซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลง่ายๆ จากการรีไซเคิล

ด้วย Ecoterra ผู้ใช้จะนำสิ่งของที่ไม่ต้องการไปยังเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) ซึ่งมีจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก สแกนบาร์โค้ดของสินค้านั้นๆ และนำไปฝาก

จากนั้นอัลกอริธึม Ecoterra ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะกำหนดมูลค่าให้กับสินค้าและผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น ECOTERRA ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘recycle-to-earn’

นอกจากนี้ โทเค็นเหล่านั้นสามารถถือเป็นการลงทุน หรือจะ Stake เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ หรือใช้เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และกองทุนโปรเจกต์ต่างๆ เช่น การปลูกต้นไม้หรือการทำความสะอาดชายหาด

Ecoterra ซึ่งได้เป็นพันธมิตรกับเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ Ahold Delhaize ยังมีตลาดชดเชยคาร์บอนเพื่อซื้อเครดิตคาร์บอนที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และยังมีตลาดวัสดุรีไซเคิลซึ่งจะเชื่อมต่อผู้ใช้กับผู้รีไซเคิลทั่วโลก

โดยทุกสิ่งที่ทำผ่านแอพมือถือ Ecoterra จะถูกติดตาม และเมื่อถึงจุดสำเร็จบางอย่าง ผู้ใช้จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติม เช่น NFT

การ  Pre-sale ของ ECOTERRA อยู่ในรอบที่ 1 โดยขายโทเค็นในราคา $0.004 อย่างไรก็ตาม โดยโทเค็นในรอบสุดท้ายจะมีราคาเพิ่มขึ้น 150% เป็น $0.01

นี่คือเหรียญคริปโตรักษ์โลกที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานที่ตรวจสอบและยืนยัน KYC กำลังขายโทเค็น 1 พันล้านโทเค็น (50% ของทั้งหมด) ในช่วง Pre-sale โดยไม่มีระยะเวลาการล็อคเหรียญ และตั้งเป้าระดมทุนสูงสุด 6.7 ล้านดอลลาร์

เข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram หรืออ่านเอกสารข้อมูลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์

เริ่มพรีเซลล์29 มีนาคม
วิธีการซื้อETH, USDT, บัตรเครดิต
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ$10
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง Ecoterra Presale ตอนนี้

4. Fetch (FET) – AI ยอดนิยมที่ใช้ตัวแทนเพื่อสร้างผลกำไรจำนวนมาก

Fetch.ai เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2023 แพลตฟอร์มที่ทำงานบนบล็อกเชนนี้ใช้ AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘ตัวแทนทางเศรษฐกิจที่เป็นอิสระ’ โดยตัวแทนเหล่านี้ดำเนินการในนามของบุคคลเพื่อสร้างผลกำไรด้วยวิธีการต่างๆ

ตัวอย่างในการทำงานของตัวแทนทางเศรษฐกิจที่เป็นอิสระคือบอทซื้อขายคริปโตบนกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจเช่น Uniswap โดยตัวแทนสามารถซื้อและขายคริปโตเพื่อทำกำไรให้กับเจ้าของ อีกทางหนึ่ง ตัวแทนเหล่านี้สามารถใช้เพื่อแบ่งปันข้อมูลระหว่างอุปกรณ์หรือเพื่อดำเนินการธุรกรรมโดยอัตโนมัติและรับค่าธรรมเนียมในกระบวนการ

ความยืดหยุ่นของ Fetch ทำให้นี่เป็นระบบมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ ตัวแทนทางเศรษฐกิจที่เป็นอิสระสามารถสร้างพื้นฐานของตลาดแบบกระจายอำนาจในอนาคต หรือสามารถช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ใน Internet of Things ได้

Fetch.ai มีบล็อกเชนของตัวเองที่รวมกลไกการตรวจสอบความถูกต้องแบบ proof of work และ proof of stake นักขุดเหรียญบนบล็อกเชนจะได้รับเหรียญ FET เป็นรางวัลสำหรับการตรวจสอบธุรกรรม และสามารถใช้เหรียญเหล่านี้เพื่อชำระเงินสำหรับการใช้ตัวแทนอิสระที่ทำงานบนเครือข่ายของ Fetch

FET เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต AI ที่ดีที่สุด และเพิ่งได้รับการลิสท์บน eToro ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีชื่อเสียงและได้รับการกำกับดูแลอย่างดีในอุตสาหกรรม ซึ่งจะไม่มีการลิสท์โปรเจ็กต์คริปโตที่ขาดความโปร่งใส และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โปรเจกต์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญ AI ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด

eToro ยังรองรับการคัดลอกการซื้อขายอัตโนมัติ รวมถึง ‘ Napoleon-X ‘ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการซื้อขายเหรียญ AI

ซื้อ FET ตอนนี้บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมที่มีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

5. Numeraire (NMR) – กองทุนเฮดจ์ฟันด์เหรียญ AI สำหรับตลาดหุ้น

Numeraire เป็นเหรียญ AI ที่ไม่เหมือนใครซึ่งขับเคลื่อน Numerai ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในซานฟรานซิสโก Numerai ไม่ได้ดำเนินการโดยนักวิเคราะห์หุ้นมืออาชีพ แต่อาศัยผู้ถือเหรียญ NMR เพื่อคาดการณ์เกี่ยวกับตลาดหุ้น

ในแต่ละสัปดาห์ ผู้ถือ NMR สามารถคาดการณ์หุ้นตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไป พวกเขาสามารถใช้เมตริกใดก็ได้ที่ต้องการเพื่อทำการคาดการณ์ราคาหุ้น จากนั้นจึงส่งตัวอักษรย่อของหุ้นและราคาเป้าหมายไปที่ Numerai จากนั้น Numerai จะใช้ AI เพื่อประมวลผลการคาดการณ์ทั้งหมดจากผู้ใช้และทำการลงทุนในโลกแห่งความเป็นจริงกับตัวเลือกหุ้นที่ดีที่สุด

ผู้ใช้ที่ส่งการคาดการณ์ราคาจะต้อง stake เหรียญ NMR ในการคาดการณ์ของพวกเขา หากพวกเขาคาดการณ์ถูก พวกเขาจะได้รับเหรียญ NMR ที่สร้างขึ้นใหม่ หากพวกเขาคาดการณ์ผิด เหรียญ NMR ที่ stake ไว้จะถูกเผาทิ้ง

นอกจากนี้ ผู้ถือ NMR ยังสามารถเข้าถึงแบบจำลองการคาดการณ์ของ AI ของแพลตฟอร์มเพื่อดูว่ากำลังมีการลงทุนในหุ้นตัวใดอยู่ และอาจใช้ Numerai เพื่อเป็นข้อมูลในการซื้อขายหุ้นของตนเอง

ในขณะที่เขียนบทความนี้ เหรียญ NMR มีราคาเพิ่มขึ้น 35% ในเดือนที่แล้ว ทำให้นี่เป็นหนึ่งในเหรียญ AI ที่น่าลงทุนที่สุด

6. Cortex (CTXC) – เหรียญ AI สำหรับสมาร์ทคอนแทร็คที่ใช้งาน AI

Cortex เป็นโปรเจกต์คริปโตใหม่ที่สร้างขึ้นบน Ethereum ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำฟังก์ชันการทำงานของ AI มาสู่สมาร์ทคอนแทร็ค ผู้ใช้สามารถซื้อโมเดล AI เพื่อรวมเข้ากับสมาร์ทคอนแทร็คได้ด้วย Cortex

กระบวนการนี้ทำให้มีฟังก์ชันการทำงานมากกว่าที่เป็นไปได้ด้วยสมาร์ทคอนแทร็คที่มีอยู่บน Ethereum โดย dApps ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สร้างขึ้นโดยใช้เครือข่ายของ Cortex สามารถใช้กับทุกอย่างตั้งแต่เกม Play to earn การให้กู้ยืมคริปโต ไปจนถึงเหรียญ Stablecoin ที่ควบคุมโดย AI

คุณสมบัติ AI นี้ทำงานบน Cortex Virtual Machine ซึ่งใช้พลังงานจากโปรเซสเซอร์ GPU ในเครือข่ายทั้งหมด แทนที่จะเป็นโปรเซสเซอร์ CPU เพื่อให้สามารถประมวลผลได้มากขึ้น

นักพัฒนาสามารถสร้างอัลกอริทึม AI ของตนเองด้วย Cortex แล้วขายเพื่อแลกกับเหรียญ CTXC

เมื่อมูลค่าของเหรียญ CTXC เพิ่มขึ้น นักพัฒนาจำนวนมากจะมีแรงจูงใจให้เข้าร่วมโปรเจกต์ Cortex และสร้างโมเดล AI ที่หลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับ dApps

7. Velas (VLX) – เหรียญที่มีศักยภาพทำกำไรบนบล็อคเชนที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Velas เป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่สร้างบนระบบ Fork ของบล็อคเชน Solana สิ่งที่ทำให้ Velas ไม่เหมือนใครคือการรวม AI เข้ากับกลไกการตรวจสอบความถูกต้องสำหรับธุรกรรมบนบล็อกเชน

Velas ใช้สิ่งที่เรียกว่า Artificial Intuition Delegated Proof of Stake (AIDPoS) ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้มากถึง 30,000 รายการต่อวินาทีโดยที่ยังมีความปลอดภัย ทำให้นี่เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน

ปัจจุบันบล็อกเชน Velas ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับแอพพลิเคชั่น dApps และ Web 3.0 ที่ใช้ Ai ทำให้ VLX เป็นหนึ่งในเหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด

เหรียญ VLX นั้นทำหน้าที่เป็นสื่อกลางสำหรับการชำระเงินบนเครือข่าย Velas รวมถึงเหรียญที่ให้สิทธิ์ในการกำกับดูแล

นอกจากนี้ยังสามารถ stake เหรียญ VLX ผ่านระบบตรวจสอบความถูกต้องของ AIDPoS ทำให้ผู้ถือเหรียญได้รับผลตอบแทนจากคริปโตเคอเรนซี่ของตนเอง

8. Ocean Protocol (OCEAN) – เหรียญ AI สำหรับกระดานแลกเปลี่ยนบิ๊กดาต้า

Ocean Protocol (OCEAN) เป็นคริปโตเคอเรนซี่ AI ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนชุดข้อมูลบิ๊กดาต้าระหว่างผู้ให้บริการข้อมูลและนักพัฒนาโมเดล AI แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้นักพัฒนาได้รับชุดข้อมูลที่จำเป็นในการฝึกอบรมและรันโมเดลของตนได้ง่ายและถูกกว่ามาก ขณะที่ผู้ให้บริการข้อมูลก็สามารถสร้างรายได้จากข้อมูลของตน

แพลตฟอร์มนี้ทำงานโดยเปิดให้มีการสร้างเหรียญของชุดข้อมูล เมื่อสร้างเหรียญแล้ว ก็จะสามารถประเมินมูลค่าและซื้อหรือขายเหรียญที่สร้างขึ้นได้อย่างง่ายดาย

เหรียญข้อมูลแต่ละรายการสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลและให้การเข้าถึงชุดข้อมูล ส่วนข้อมูลก็สามารถเก็บไว้ในบล็อคเชน Ocean Protocol ได้

เหรียญ OCEAN เป็นคริปโตเคอเรนซี่หลักของเครือข่าย Ocean Protocol ซึ่งเป็นสื่อกลางในกระดานแลกเปลี่ยนสำหรับการซื้อและขายเหรียญข้อมูล

OCEAN เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต AI ที่ดีที่สุดเนื่องจากสามารถนำไป Stake และสร้างสภาพคล่องให้กับชุดข้อมูลเฉพาะในตลาด ผู้ถือเหรียญ OCEAN ที่นำเหรียญไป Staske จะได้รับผลตอบแทน 0.1% ของค่าธรรมเนียมที่เกิดจากชุดข้อมูลนั้น

9. SingularityNET (AGIX) – ตลาดออนไลน์สำหรับอัลกอริทึม AI

SingularityNET เป็นตลาดออนไลน์สำหรับการซื้อและขายอัลกอริธึม AI โดยเฉพาะ เป้าหมายของตลาดแบบกระจายอำนาจนี้คือการเชื่อมโยงนักวิจัยที่กำลังสร้างแอป AI และต้องการสร้างรายได้จากธุรกิจที่ต้องการใช้อัลกอริทึม AI เพื่อประหยัดเงินทุนและปรับปรุงการดำเนินงาน

ในการเริ่มต้น ตลาดของ SingularityNET รองรับอัลกอริทึม AI ใน 3 หมวดหมู่ที่แตกต่างกัน ได้แก่ วิทยาการหุ่นยนต์บนคลาวด์ การวิจัยทางชีวการแพทย์ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทีมที่อยู่เบื้องหลัง SingularityNET วางแผนที่จะเพิ่มหมวดหมู่มากขึ้น รวมถึงวางแผนที่จะใช้ AI เพื่อจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายบนแพลตฟอร์มโดยอัตโนมัติ

SingularityNET อาศัยมนุษย์เป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมนายหน้า ตัวแทนเหล่านี้ต้อง Stake เหรียญ AGI ที่เป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์มเพื่อเข้าร่วมในเครือข่าย และพวกเขาอาจสูญเสียเหรียญ AGI หากได้รับคะแนนต่ำจากผู้ซื้อหรือผู้ขาย นอกจากนี้ เหรียญ AGIX ยังใช้เพื่อชำระเงินสำหรับการทำธุรกรรมบนเครือข่ายและเป็นเหรียญที่ให้สิทธิ์ในการกำกับดูแลเพื่อกำหนดอนาคตของ SingularityNET หากคุณต้องการเรียนรู้วิธีซื้อ SingularityNET ในปี 2023 ก็สามารถอ่านบทความแนะนำของเราได้ทันที

นักลงทุนบางคนยังมองว่าเหรียญ AGI เป็นหนึ่งในโทเค็น ERC20 ที่ดีที่สุด

10. dKargo (dKA) – เหรียญ AI เพื่อการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

dKargo เป็นเหรียญ AI ที่เปิดตัวในปี 2020 เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงักจากการระบาดของโรคโควิด 19 แพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ AI ในการทำให้ระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพและคุ้มทุนมากขึ้น

ด้วย dKargo ผู้ถือเหรียญสามารถซื้อและขายบริการโลจิสติกส์ในสภาพแวดล้อมที่น่าเชื่อถือ ทำให้ทุกฝ่ายสามารถผสมและจับคู่บริการจากผู้ให้บริการลอจิสติกส์หลายรายได้ง่ายขึ้น และสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบกำหนดเองที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในการใช้เครือข่ายการจัดส่งและการรับสินค้าที่มีอยู่

เหรียญ DKA คือศูนย์กลางของแพลตฟอร์ม dKargo ซึ่งใช้เพื่อชำระค่าบริการโลจิสติกส์บนแพลตฟอร์ม และยังทำหน้าที่เป็นเหรียญที่ให้สิทธิ์ในการกำกับดูแลสำหรับระบบนิเวศ dKargo

ผู้ให้บริการจะต้อง Stake เหรียญ DKA เพื่อนำเสนอบริการโลจิสติกส์ของตนบนแพลตฟอร์ม dKargo

อัปเดต – เหรียญ AI ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ RLC และ BEEP

เหรียญ AI คืออะไร

สำหรับนักลงทุนที่คุ้นเคยกับเหรียญคริปโตอย่าง Bitcoin เหรียญ AI เป็นเหรียญประเภทค่อนข้างใหม่ของโปรเจกต์คริปโต ที่เน้นการรวมความสามารถของ AI และเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้าด้วยกัน โปรเจกต์เหรียญ AI ที่ดีที่สุดนั้นครอบคลุมแนวทางที่หลากหลาย ตั้งแต่การรวมความสามารถของ AI เข้ากับกลไกการตรวจสอบบล็อคเชนโดยตรง ไปจนถึงการเปิดใช้ตลาดบริการ AI-as-a-service สำหรับนักพัฒนา dApp

สิ่งที่เหรียญ AI ที่ดีที่สุดทั้งหมดมีเหมือนกันคือมีการพัฒนาการใช้ AI สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต, แอปพลิเคชัน บล็อคเชน และโปรเจกต์ Web 3.0

การรวมความสามารถของ AI เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพในการทำให้เกิดสมาร์ทคอนแทร็คแบบไดนามิก ธุรกรรมอัตโนมัติ ความเร็วในการประมวลผลที่เร็วขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย

เหรียญ AI ทำงานอย่างไร

เหรียญ AI ทุกเหรียญมีความแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่อง  เหรียญ AI บางตัวมุ่งเน้นไปที่การสร้างตลาดสำหรับการซื้อและขายอัลกอริธึม AI ในขณะที่บางตัวใช้ AI สำหรับแอปพลิเคชันเฉพาะ เช่น การแยกวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่บนบล็อกเชนและการคาดการณ์ ในอนาคต เราคาดว่าจะเห็นโปรเจกต์ AI หลายโปรเจกต์ที่ใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์แบบไดนามิกมากขึ้นในโลกเสมือนจริง

สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ก็คือ AI นั้นมีความยืดหยุ่นสูง ดังนั้นแพลตฟอร์มเหรียญ AI จึงสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้

ตัวอย่างเช่น Fetch ที่ทำให้มีการสร้างตัวแทนทางเศรษฐกิจที่เป็นอิสระสำหรับทุกสิ่งตั้งแต่การซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ไปจนถึงการจองห้องพักในโรงแรม โดยขึ้นอยู่กับนักพัฒนา dApp ที่จะตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการนำโปรเจ็กต์เหรียญ AI เฉพาะไปใช้อย่างไร

โดยทั่วไปแล้ว เหรียญ AI ที่ดีที่สุดจะทำงานเหมือนกับเหรียญคริปโตประเภทอื่นๆ

เหรียญส่วนใหญ่ที่เราเน้นคือเหรียญ ERC-20 ซึ่งหมายความว่าเป็นเหรียญที่เข้ากันได้กับกระเป๋าเงินที่รองรับ Ethereum เหรียญจากโปรเจกต์จำนวนมากยังเปิดให้มี การ Stake เหรียญ ทำให้นักลงทุนสามารถรับผลกำไรได้ง่ายๆ เพียงแค่ถือเหรียญของตนไว้

เหรียญ AI เป็นเหรียญที่น่าลงทุนหรือไม่

AI เป็นเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน โดย Cortex ระบุว่าตลาดสำหรับอัลกอริธึม AI อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต

นักลงทุนควรคว้าโอกาสนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับเทคโนโลยี AI ในคริปโตเคอเรนซี่ นับตั้งแต่เขียนบทความนี้ ตอนนี้ Fetch ประสบความสำเร็จในการมีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ หลังจากมีราคาที่เพิ่มขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ในเดือนมกราคม 2023 เหรียญ เหรียญ AI กลายเป็นเหรียญที่นักลงทุนพากันพูดถึง รวมถึงถูกมองว่าจะเป็นตัวเร่งของราคาแบบก้าวกระโดดของวงการคริปโต และเป็นตัวผลักดันให้เกิดภาวะตลาดขาขึ้นครั้งใหม่

เมื่อประเมินโปรเจกต์ AI ต่างๆ นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าโปรเจกต์มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ และเหรียญที่เสนอนั้นเป็นเหรียญที่เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว หรือไม่

สำหรับโปรเจกต์ AI โปรเจกต์ควรมีทีมพัฒนาที่แข็งแกร่ง ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงนักพัฒนาที่มีพื้นฐานด้าน AI และการจัดการบิ๊กดาต้า นอกจากนี้ ควรมีความต้องการโซลูชั่นที่ชัดเจนสำหรับโปรเจกต์ AI

โดยรวมแล้ว เหรียญ AI ที่ดีที่สุดนั้นมีศักยภาพอยู่มากมาย และ AI มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทในทิศทางในอนาคตของระบบนิเวศคริปโต และโปรเจกต์ที่เราแนะนำในวันนี้อาจมีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบ AI บนบล็อกเชนไปสู่อนาคต

ดูโปรเจกต์คริปโตที่เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว

วิธีซื้อเหรียญ AI – แนะนำวิธีซื้อเหรียญ $LHINU

พร้อมที่จะเขย่าวงการเกมด้วยเทคโนโลยี Blockchain และ NFT หนึ่งในตัวเลือกสำหรับเหรียญ AI ของเราคือ Love Hate Inu (LHINU) โดยต่อไปนี้เป็นคู่มือทีละขั้นตอนสั้นๆ เกี่ยวกับวิธีซื้อโทเค็น $LHINU:

ขั้นตอนที่ 1:ดาวน์โหลดและติดตั้งกระเป๋าเงิน Metamask

ไปที่เว็บไซต์ของ MetaMask และดาวน์โหลดกระเป๋าเงิน

วิธีซื้อเหรียญ $MEMAG

ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

ไปยังเว็บไซต์ Love Hate Inu จากนั้นคลิก ‘Connect’

ขั้นตอนที่ 3: ซื้อ $LHINU

ซื้อ $LHINU ด้วยบัตรเครดิต หรือ Ethereum หรือ Tether ซึ่งจำเป็นในการนำมาแลกเป็นเหรียญ $LHINU

ขั้นตอนที่ 4: รับเหรียญ

หลังจากการพรีเซลสิ้นสุดลง เข้าไปรับ $LHINU บนเว็บไซต์ของ Love Hate Inu และเพิ่มเหรียญไปยังกระเป๋าเงิน Metamask

ซื้อตอนนี้

บทสรุปโปรเจกต์เหรียญ AI

เหรียญและโปรเจกต์ AI กำลังรวมความสามารถของ AI และบล็อคเชนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างนวัตกรรมเพิ่มเติมในโลกคริปโต ในขณะที่โปรเจกต์เหรียญ AI เหล่านี้มีแนวโน้มที่ดี เราคิดว่านักลงทุนจะสนใจลงทุนใน Love Hate Inu, ซึ่งถือเป็นทางเลือกโปรเจกต์เหรียญ AI ที่มีศักยภาพที่สุดแห่งปี 2023

แม้จะอยู่ในช่วงพรีเซลล์ แต่โปรเจกต์นี้ก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้เป็นจำนวนมาก Love Hate Inu มอบแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถรับสิ่งจูงใจสำหรับการเข้าร่วมแบบสำรวจและโพลต่างๆ พร้อมรับรางวัลในขณะเดียวกัน

โปรเจกต์นี้ระดมทุนได้แล้วกว่า 2.75 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสามสัปดาห์ และนักลงทุนในช่วงแรกสามารถรับผลตอบแทนสูงถึง 38% เมื่อราคาเพิ่มขึ้นผ่านช่วงพรีเซลล์ทั้งแปดรอบ