Category: เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

คำว่า IDO (Initial DEX Offering) คือ รูปแบบหนึ่งของการระดมทุนแบบใหม่ที่ใช้การแลกเปลี่ยนหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (โทเค็น) บนแพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) ซึ่งไม่มีตัวกลางในการควบคุม ไม่ต้องมีทำ KYC (Know Your Customer) สามารถเข้าเว็บไซต์แล้วทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ทันที ด้วยความสะดวกนี้ทำให้การเทรดรูปแบบนี้ได้รับความนิยมสูงมาก แต่การวิเคราะห์เพื่อคัดเลือกโครงการเหรียญ IDO Crypto นั้นมีความยุ่งยาก แต่โชคดีที่เราได้ทำการรวบรวมโครงการเหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุดมาให้แล้วในบทความนี้พร้อมรายละเอียดแบบเจาะลึกและครบถ้วน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

4 สุดยอดเหรียญคริปโต IDO ในปี 2023

ด้านล่างนี้คือตัวเลือกของเราสำหรับโปรเจกต์เหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุดของปี เราได้แสดงภาพรวมโดยย่อของแต่ละโปรเจกต์ไว้ แต่สามารถดูบทวิจารณ์ฉบับเต็มในส่วนถัดไป 

1. IMPT – เหรียญคริปโต IDO ลดคาร์บอน ที่มีการขายพรีเซล 3 รอบ
2. Tamadoge – สุดยอดเหรียญคริปโต IDO
3. Battleinfinity.io – IDO สำหรับการเล่นเกมเพื่อหารายได้
4. Lucky Block (LBLOCK) – NFT ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด
5. Defi Coin (DEFC) –  IDO Crypto ยอดนิยมแห่งปี 2023

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

มาเจาะลึกเหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุดในปี 2023

เคยสงสัยหรือไม่ว่าจะซื้อเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ในปี 2023 ได้อย่างไร หรือ เหรียญคริปโต Pre-Sale เราได้ดู คริปโต IDOs ที่มาแรงที่สุดแล้ว และพิจารณาว่าโปรเจกต์ต่อไปนี้มีศักยภาพ ก่อนที่ IDO จะเข้าสู่ลิสของเรา เราได้พิจารณาเป้าหมายของแต่ละโปรเจกต์แล้วรวมถึงโอกาสที่พวกเขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้มากน้อยเพียงใดอีกด้วย

1. IMPT – เหรียญคริปโต IDO ลดคาร์บอน ที่มีการขายพรีเซล 3 รอบ

เราขอแนะนำ IMPT เป็นโครงการสกุลเงินดิจิทัล IDO ที่ดีที่สุดในการลงทุนในปี 2023 โดยนำเสนอกรณีการใช้งานที่ไม่ซ้ำใครและยั่งยืน IMPT พยายามเชื่อมโยงผู้ซื้อและธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ แพลตฟอร์มนี้ทำสิ่งนี้มีระบบคาร์บอนเครดิต ซึ่งแสดงถึงการปล่อยมลพิษที่ปล่อยออกจากชั้นบรรยากาศ สร้างเป็น NFT โดย 1 คาร์บอนเครดิตเท่ากับประมาณ 1 ตันของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

NFT เหล่านี้สามารถซื้อได้จากเว็บไซต์ IMPT พร้อมโทเค็น IMPT – ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลัก ผู้ใช้สามารถซื้อโทเค็น IMPT ด้วยสกุลเงิน fiat โดยตรงหรือเชื่อมต่อโทเค็นโดยเข้าร่วมหนึ่งในโปรแกรมชดเชยคาร์บอนที่ดีที่สุด IMPT เป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ มากกว่าพันแห่ง เช่น Adidas, Hugo Boss และอื่นๆ ซึ่งจะทุ่มเทเปอร์เซ็นต์ของกำไรจากการขายและจัดสรรให้กับโครงการต่างๆ ในรูปแบบโทเค็น IMPT

ลูกค้าที่ซื้อจากแบรนด์เหล่านี้ผ่านทางเว็บไซต์ของ IMPT จะได้รับโทเค็น ซึ่งหลังจากสะสมโทเค็นตามจำนวนที่กำหนดแล้ว ลูกค้าสามารถแปลงเป็นคาร์บอนเครดิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง – เครดิตเหล่านี้สามารถซื้อขายเพื่อรับผลกำไรหรือถูกเผาทิ้งจากบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจของเครือข่าย IMPT

การเผาเครดิตทิ้งจะลบการปล่อยมลพิษที่แสดงออกจากบรรยากาศซึ่งจะทำให้คะแนนคาร์บอนของแต่ละบุคคลสูงขึ้น คะแนนคาร์บอนสามารถคำนวณได้บนแพลตฟอร์มโซเชียลของ IMPT ซึ่งจะเน้นถึงผลกระทบโดยตรงของแต่ละคนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

IDO ของ IMPT จะทำให้โทเค็นพร้อมใช้งานใน 3 รอบก่อนการขาย ซึ่งจะปล่อย 20%, 22% และ 18% ของเหรียญ IMPT ที่มีอยู่ 3 พันล้านเหรียญตามลำดับ ปัจจุบัน ในระยะที่ 1 IMPT ซื้อขายที่ 0.018 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ขายไปแล้วกว่า 186 ล้านเหรียญจากทั้งหมด 600 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

สนใจลงทุนใน IDO อันดับต้น ๆ ของปี 2023 หรือไม่? ติดตามช่อง IMPT Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการนี้

ซื้อ IMPT ตอนนี้

2. Tamadoge -เหรียญคริปโต IDO โดยรวมดีที่สุด

Tamadoge (TAMA) เป็น IDO Crypto ใหม่ที่ออกแบบมาในรูปของเกม play to earn ให้ผู้เล่นทำการซื้อไอเท็มเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในเกม เลี้ยงให้โต แล้วนำสัตว์เลี้ยง NFT ของพวกเขามาต่อสู้กัน โดยสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวจะได้สถิติและความแข็งแกร่งแบบสุ่มเฉพาะตัว ซึ่งลักษณะการเลี้ยงของเจ้าของก็มีอิทธิพลต่อความสามารถของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวด้วย เมื่อสัตว์เลี้ยง NFT ต่อสู้ชนะ ไต่อันดับบนกระดาน เจ้าของก็จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ TAMA

ที่สำคัญที่สุดคือ Tamadoge นั้นไม่มีการเก็บภาษีทุกการซื้อขาย รวมถึงธุรกรรมอื่น ๆ ในขณะที่ Initial DEX Offering อื่นจะมีการเก็บเพื่อเป็นรายได้แก่นักพัฒนาโครงการ ยิ่งไปกว่านั้น Tamadoge เป็นเหรียญที่ออกแบบมาเพื่อให้อุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และมีอัตราการเผาเหรียญทิ้งที่ที่ 5% ในทุดธุรกรรมทำให้จำนวนเหรียญลดลงอย่างต่อเนื่อง และราคาพุ่งสูงขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ดีในการลงทุนเป็นรายแรก ๆ ของโครงการ หากวันนึง Tamadoge เป็นที่นิยมขึ้นมา

การลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TAMA (∼$10 + ค่าน้ำมัน)
การลงทุนสูงสุด	ไม่มี
วิธีการสั่งซื้อ	ETH, USDT, เดบิต / บัตรเครดิต (ผ่าน Transak)
เชน	Ethereum
สิ้นสุดการขายเบต้า	2 กันยายน 2565
สิ้นสุดการขายพรีเซล	สิ้นสุดแล้ว

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

3. Battleinfinity.io – เหรียญคริปโต IDO แนวเกม play to earn

Battleinfinity.io คือ Initial DEX Offering ที่น่าสนใจที่สุดใน Metaverse ด้วยการครองตำแหน่งแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการเป็นสร้างรายได้แบบ “Play to Earn” (P2E) โดยจะมีการมอบรางวัลเป็นโทเค็นBEP-20 ของตัวเอง ที่ชื่อ “IBAT” Battle Infinity (IBAT) มีการอุปทานเหรียญจำนวน 10 พันล้านเหรียญ อัตรา 28% จัดสรรให้ทำการขายพรีเซล ทำให้สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากนักลงทุน IDO Cryptoได้เป็นวงกว้างหลังการเปิดตัว จึงควรเข้ากลุ่ม Battle Infinity Telegram เพื่อติดตามความคืบหน้าล่าสุดของโปรเจกต์

จุดเด่นที่ทำให้ Battleinfinity เป็น IDO Crypto ที่แตกต่างและโดดเด่นจากคริปโตอื่น ๆ คือ มียูทิลิตี้จำนวนมหาศาล โดยโปรเจกต์นี้จะแบ่งแยกเป็น 6 แพลตฟอร์ม ดังต่อไปนี้

• IBAT Premier League – เป็นลีกกีฬาแฟนตาซี ที่ผู้เล่นจะกลายเป็นตัวเล่นแบบ NFT คำนวณคะแนนจากการเล่นในโลกจริง และมีการมอบรางวัลให้กับผู้เล่นที่มีศักยภาพสูงที่สุด
• Battle Store – ช่องทางการหารายได้เพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนและผู้เล่นที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพการหาโทเค็นได้มากขึ้นในระบบของ P2E
• Battle Market – ช่องทางการซื้อขายผลงานด้านศิลปะดิจิทัล NFT เพื่ออัปเกรดให้กับอวตารของผู้เล่น และซื้อขายที่ดินในโลก Metaverse ได้อีกด้วย
• Battle Swap – ช่องทางการแลกเปลี่ยน Defi ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสลับโทเค็นแบบ DEX ได้ทันที
• Battle Stake – ฟีเจอร์การ Stake เหรียญของ Battleinfinity ที่ทำได้ทั้งเดี่ยว คู่ และแบบสุ่ม

ในด้านความปลอดภัย Battleinfinity.io มีการใช้ระบบ KYC เพื่อการยืนยันตัวตนโดย Coinsniper และ SolidProof.io ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเงินของคุณจะได้รับการคุ้มครองเป็นอย่างดีด้วยความรัดกุมระดับสูง

หลังจากการประกาศขายพรีเซล  โทเค็นของ Battleinfinity ขายหมดเกลี้ยงภายใน 24 วันเท่านั้น และสามารถระดมทุนได้ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่าช่วงแรกอาจได้ผลตอบแทนมากถึง 700% ด้วยมูลค่าตลาด 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Battleinfinity จัดเป็นโปรเจกต์ที่มีพื้นฐานดีมีอนาคต และอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างไว พร้อมศักยภาพมหาศาล ดูเหมือนว่าโปรเจกต์นี้จะสามารถครองตลาดคริปโตได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งข่าวลือว่าจะมีการถูกลิสต์ลงกระดานเทรดระดับสากลอย่าง Gate.io และ Coinbase ทำให้ยิ่งเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้น

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

4. Lucky Block (LBLOCK) – NFT ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด

Lucky Block NFT คือ NFT ที่มีลักษณะคล้ายกับล็อตเตอรี่ที่มีรางวัลมอบให้ผู้โชคดีอย่างน่าตื่นตา ไม่ว่าจะเป็น รถแลมโบกินี และ เงินมากถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ได้ทำการเปิดตัว NFT นี้ก็ทำให้ LBLOCK ซึ่งเป็นโทเค็นที่ใช้ซื้อ NFT นี้ราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 3,200% ภายในสองอาทิตย์แรกที่มีการลิสต์เหรียญลง PancakeSwap เนื่องจากนักลงทุนหลายคนต้องการเพิ่มความเป็นไปได้ในการถูกรางวัลให้มากที่สุด

ในปัจจุบัน Lucky Block มีสมาชิกบน Telegram กว่า 47,000 คน นั่นยิ่งทำให้โอกาสถูกรางวัลแจ็กพอตนั้นน่าลุ้นตามไปด้วย จากการคาดการณ์พบว่า ด้วยเหรียญนี้เป็นเหรียญที่มี Utility และมีการตั้งรางวัลที่น่าตื่นเต้นก็ยิ่งเพิ่มความต้องการให้กับนักลงทุน IDO Crypto อย่างต่อเนื่องมากขึ้นไปอีก

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

5. Defi Coin (DEFC) – IDO Crypto ยอดนิยมแห่งปี 2023

Defi Coin (DEFC) เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่เปิดตัวในปี 2021 และทำงานบนแพลตฟอร์ม BNB Smart Chain (BEP20) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Defi Swap นับเป็นกระดาน Defi ที่ดีที่สุดในตลาด ซึ่งรองรับการแลกเปลี่ยนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การแลกเปลี่ยนโทเค็น, Staking, การทำฟาร์มเพื่อสร้างผลตอบแทน ยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนยังเลือกใช้ Defi Coin ในการเข้าถึงการเติบโตของการแลกเปลี่ยนใน Defi Swap อีกด้วย

ปัจจัยที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้นักลงทุนคือ Defi Coin เป็นเหรียญประเภทที่ให้รางวัลแบบ “คงที่” ไม่ใช่ผันแปร ซึ่งตรงนี้ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของโทเค็น เมื่อมีใครก็ตามทำธุรกรรม DEFC จะมีการเก็บภาษีครั้งละ 10% จากตำแหน่งนั้น คิดเป็นยอดรวม 50% ของจำนวนเงินที่รวบรวมได้ จะมีการแจกจ่ายไปให้ผู้ที่ถือเหรียญนี้อยู่ ทำให้เป็นการสร้างกระแสเงินแบบ Passive Income ได้ ซึ่งผลตอบแทนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการสร้างรายได้แบบอื่น รวมถึงการนำเงินไปฝากธนาคารด้วย

ด้วยความที่ภาษีธุรกรรมที่สูง ทำให้คนจำนวนมากนิยมถือเหรียญนี้ในระยะยาวมากขึ้น ทำให้ความผันผวนของราคาต่ำ แต่ถ้าไม่มีการซื้อขายในตลาดเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงตามมาในภายหลัง จึงนับเป็นความท้าทายของ Defi Coin ที่ต้องดึงดูดนักลงทุนที่มีความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงในระดับที่หลากหลายเข้ามาในตลาดให้มากขึ้น

บทความล่าสุดจาก Yahoo Finance กล่าวว่าการเติบโตของ Defi Coin พุ่งสูงกว่า 47% เทียบจากปีที่แล้ว ซึ่งการเติบโตดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากความสำเร็จของโปรโตคอล Defi อื่น อาทิ Uniswap, Pancakeswap และ Curve 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า Defi Coin จะกลายเป็นเหรียญแห่งอนาคตที่นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้นไปอีก จากความสะดวกสบายในการลงทะเบียนเข้าซื้อ ที่ไม่จำเป็นต้องผ่าน KYC หรือการยืนยันตัวตน เพียงมีแค่อีเมลก็สามารถทำธุรกรรมได้เลย ซึ่งข้อดีตรงนี้อาจกำลังกลายเป็น “บรรทัดฐาน” ใหม่แห่งวงการคริปโตก็เป็นได้

ปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลจากการวิเคราะห์สามารถทำให้เรามองเห็นภาพรวมที่เป็นอนาคตแสนสดใสของ Defi Coin ทำให้นักวิเคราะห์ต่างลงความเห็นว่าราคา Defi Coin อาจแตะถึง 0.65 ดอลลาร์ต่อเหรียญภายในสิ้นปี 2022 ได้

ซื้อ DeFi Coin ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง 

Crypto IDO คืออะไร

เป็นสิ่งที่ดีที่ทราบว่า Crypto IDO ที่ดีที่สุดคือโปรเจกต์ไหนบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า IDO คืออะไร

เมื่อมีการเปิดตัวโปรเจกต์สกุลเงินดิจิทัลใหม่ โดยทั่วไปแล้วจะทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สิ่งนี้ทำให้โปรเจกต์สามารถระดมทุนเพื่อการพัฒนาในอนาคตได้สำเร็จ และความพยายามทางการตลาดที่ช่วยหลีกเลี่ยงการทิ้งโทเค็นจำนวนมากในตลาดเปิด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านราคาตามมา

IDO Crypto คือ เมื่อมีการเสนอโปรเจกต์ครั้งแรกในกระดานซื้อขาย defi (หรือ DEX) มันจะทำให้คนทั่วไปสามารถซื้อโทเค็น ซึ่งปกติจะมีส่วนลดเล็กน้อยก่อนที่จะจดทะเบียนการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์แล้ว เช่น Binance

Initial DEX Offering ทำงานอย่างไร

การทำงาน IDO นั้นไม่ยุ่งยากเลย โดยแต่ละโปรเจกต์ต้องมีการจัดสรรจำนวนเหรียญที่แน่นอนสำหรับการเปิดขายระดมทุนในช่วงแรก ตัวอย่างเช่น GIGCO ได้ทำการขายจำนวน 9,466,667 โทเค็น ในราคา 0.075 ดอลลาร์ต่อโทเค็น 

เมื่อนักลงทุนทำการซื้อโทเค็นเหล่านั้นแล้วเหรียญจะถูกล็อกเอาไว้ประมาณ 2-3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำไปปั่นราคาในตลาดเปิดอื่น ๆ 

สำหรับการแลกเปลี่ยนเหรียญ IDO นั้นไม่สามารถทำได้ในกระดานเทรดคริปโตแบบปกติ ทำให้ต้องใช้การแลกเปลี่ยนผ่านเว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ อย่างเช่น Trustpad ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถให้เงินทุนแก่โปรเจกต์โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอกลวงโดยทั่วไปแล้ว IDO launchpad จะดูแลเงินระดมทุนเพียงระยะหนึ่ง เพื่อให้โปรเจกต์บรรลุเป้าหมายที่วางไว้แต่ต้น

IDO กับ ICO แตกต่างกันอย่างไร

เมื่อมองเผิน ๆ อาจรู้สึกว่าสองคำนี้มีความคล้ายกัน แต่ความจริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังต่อไปนี้

ประการแรก ICO ย่อมาจากการเสนอเหรียญเริ่มต้น นั่นหมายถึงจะต้องเป็น “ครั้งแรก” ในการเสนอโปรเจกต์ให้กับนักลงทุน

เงินที่ระดมทุนจาก ICO มีแนวโน้มที่จะนำไปพัฒนาโปรเจกต์และตลาดในช่วงเริ่มต้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติหากยังไม่ได้รับโทเค็นจาก ICO ทันที

โทเค็นจาก IDO จะต้องถูกอยู่ในลิสการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ ส่วน ICO มักจะเกิดขึ้นผ่านเว็บไซต์ของโปรเจกต์

โดยทั่วไป ICO จะเสนอโทเค็นจำนวนมากในราคาที่ถูกกว่า IDO แต่ขณะเดียวกัน ICO จะมุ่งไปที่นักลงทุนรายบุคคลและกำหนดเป้าหมายด้วยเงินทุนจำนวนมาก

สำหรับนักลงทุนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกข้อเสนอประเภทไหนดี? มีประโยชน์เด่นบางประการสำหรับ IDO ที่เหนือกว่า ICO ดังต่อไปนี้

ระยะเวลาการล็อกเหรียญ – ICO จะมีระยะเวลาในการล็อกเหรียญที่นานตั้งแต่หลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน แต่ IDO มักจะได้รับเหรียญทันที หรือล็อกเหรียญไว้ไม่นาน

สภาพคล่อง – ICO ไม่ได้ลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน อาจมีปัญหาด้านสภาพคล่องหลายๆอย่าง แต่ IDO ถูกลิสบนกระดานเทรดเรียบร้อย และเหรียญที่ถูกซื้อไปก็จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องแก่การซื้อขายในทันที

การลิส – สุดท้ายเนื่องจากเหรียญ ICO เงินระดมทุนจำนวนมากถูกนำไปใช้กับการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนราคาอาจสูงถึง 6-7 หลัก ในทางกลับกัน IDO เมื่อได้รับการลิสในกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจแล้ว จะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว ทำให้ประหยัดได้มาก และมีข้อจำกัดที่น้อยลงสำหรับนักลงทุน

วิธีค้นหาเหรียญคริปโต IDO ใหม่ยอดนิยม

การที่จะค้นหาเหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนักก็จริง แต่ก็มีวิธีค้นหาที่น่าสนใจ สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงดังต่อไปนี้

ยูทิลิตี้ – หัวใจหลักของโปรเจกต์คริปโตคือประโยชน์ใช้งาน หากไม่มีประโยชน์ใช้งานจริงแล้วเท่ากับว่าไม่มีคุณค่าใดๆ การจะเป็นเหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุดได้ โปรเจกต์จะต้องช่วยแก้ปัญหาและให้คุณค่าที่แท้จริง แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีโปรเจกต์ที่สร้างออกมาขำๆอย่าง เหรียญมีม ที่ไม่มอบประโยชน์ใดๆ แต่ก็ได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกคริปโต 

พันธมิตร / นักลงทุน – ก่อนการลงทุน คุณควรตรวจสอบว่าบุคคลสำคัญหรือบริษัทใดเข้าร่วมในระหว่าง ICO หรือรอบการระดมทุนส่วนตัว บริษัท crypto ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีบริษัทร่วมทุนและโดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะทำการตรวจสอบสถานะในการลงทุนใด ๆ ก่อน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนที่มีชื่อเสียงสามารถเป็นสัญญาณว่าโปรเจกต์นี้มีเป้าหมายที่ดูเป็นไปได้ดี

ไวท์เปเปอร์ – เกือบทุกโปรเจกต์ของคริปโตจะมาพร้อมกับไวท์เปเปอร์ที่สรุปวิธีการทำงานของโปรเจกต์เอาไว้ มันอาจจะค่อนข้างยาว แต่หลายโปรเจกต์ในทุกวันนี้ก็มี litepaper ที่บางลงเพื่อทำให้อ่านง่ายขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาไวท์เปเปอร์ของโปรเจ็กต์เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่โปรเจกต์ทำ วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนา หากไวท์เปเปอร์เต็มไปด้วยคำสัญญาจอมปลอมมากมาย แต่ให้คำอธิบายเพียงเล็กน้อยว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงโปรเจกต์นั้น ในทางกลับกัน หากโปรเจกต์มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนพร้อมเป้าหมายและ tokenomics ที่เกี่ยวกับโทเค็นที่อธิบายไว้เป็นอย่างดี ก็เป็นสัญญาณที่ดี ตัวอย่างเช่น Lucky Block

ลงทุน IDO Crypto ดีไหม?

ความจริงแล้วโปรเจกต์ IDO Crypto มีหลากหลายมาก และเราไม่สามารถระบุโดยตรงได้ว่าการลงทุนลักษณะนี้ดีหรือไม่ดี แต่หากให้กล่าวถึงข้อดีของการลงทุนรูปแบบนี้สามารถกล่าวได้ดังต่อไปนี้

ราคาถูก

การมีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ในระยะเริ่มต้นมักเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้จากคริปโตเคอเรนซี่ ควรลงทุนใน IDO ในช่วงแรกเริ่มที่สุด ซึ่งหมายความว่าโดยปกติแล้วพวกเขาจะเสนอให้ลงทุนในโปรเจกต์ด้วยราคาต่ำที่สุด บ่อยครั้ง IDOs ขายโทเค็นในราคาต่ำ เพื่อจูงใจนักลงทุนในช่วงแรก ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้าใจว่าเป็นไปได้ไหมที่โทเค็นจะลดลงต่ำกว่าราคาเหรียญ IDO ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องศึกษาข้อมูลให้ดี

ความได้เปรียบของการเข้าตลาดก่อน

มาก่อนย่อมได้เปรียบมากกว่า การลงทุนในโปรเจกต์ก่อนมวลชนจะเข้ามา คือ หนทางที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้สินทรัพย์ในราคาที่เหมาะสม การเข้าร่วม IDO ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์ก่อนใคร ๆ ได้ ซึ่งหมายความว่าการซื้อช่วง IDO สามารถทำกำไรได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการ หากโทเค็นไม่มีความต้องการหลังเปิดตัวไปแล้ว ราคาก็อาจลดลงได้

การเข้าถึง

แม้ว่า ICO มักจะถูกสงวนไว้สำหรับนักลงทุนที่ประสิทธิผลหรือมีจำนวนมาก แต่ IDO นั้นเข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับคนทั่วไป ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสน้อยที่จะได้รับเชิญให้เข้าร่วม ICO ทุกคนที่มี crypto และเข้าใจว่า DEX ทำงานอย่างไร สามารถเข้าร่วมใน IDO ได้ นอกจากนี้ เนื่องจาก IDOs ได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่ดีกว่า ข้อจำกัดของ IDO จึงมีน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ ICO ทำให้ Initial DEX Offering

นั้นเหนือกว่า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการแนวทางที่ยืดหยุ่น

เหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุด – บทสรุป

สำหรับการแนะนำ Initial DEX Offering ที่น่าสนใจต่าง ๆ ซึ่งได้มาจากการจัดอันดับจากผลประโยชน์ที่ทางโปรเจกต์ได้ทำขึ้นและมีผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ แล้วนั้น จะเห็นได้ชัดเลยว่าการศึกษาถึงที่มาที่ไป จุดประสงค์ และทิศทางการดำเนินการของแต่ละโปรเจกต์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก สำหรับการเลือกตัดสินใจลงทุนใน IDO Crypto โทเค็นต่าง ๆ ซึ่งการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่เราอยากแนะนำให้นักลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือมืออาชีพได้ทำการเช่นนี้ทุกครั้ง ไม่เพียงแค่หาว่าเหรียญคริปโต IDO ที่ดีที่สุดในปี 2023 คือเหรียญไหน แต่สามารถนำการตรวจสอบหาสิ่งที่จะลงทุนแบบนี้ไปปรับใช้ได้กับทุกสินทรัพย์ในตลาด

การขายเหรียญคริปโต pre-sale ในช่วงปีที่แล้วกระแสแรงมาก ซึ่งทำให้นักลงทุนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงทุนในเหรียญต่าง ๆ ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าการซื้อเหรียญช่วงพรีเซลนี้จะเสี่ยง แต่ก็เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะกับโปรเจกต์ที่ได้ถูกลิสขึ้นกระดานซื้อขาย บทความนี้จะพูดถึงการขายเหรียญคริปโตพรีเซลที่ดีที่สุด ที่น่าลงทุนที่สุดแห่งปี 2023 โดยจะให้ความสำคัญกับการจัดอันดับโปรเจกต์เหรียญและการอธิบายถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ทำให้มูลค่าของเหรียญนั้นให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

จักอันดับเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด

นักลงทุนที่กล้าเสี่ยงในการซื้อคริปโตอาจสนใจการลงทุนในเหรียญที่เปิดขายล่วงหน้า เพราะถือเป็นเรื่องปกติเลยที่เหรียญพวกนี้จะให้ผลตอบแทนหลักหลายพันหรือหลายหมื่นดอลล่าร์เลยทีเดียว และนี่คือลิสเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด

1. AiDoge – แพลตฟอร์มสร้างมีมแบบใหม่ที่ใช้ AI พร้อมกลไกการ Staking ที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งนำเสนอรางวัลเครดิตรายวัน ฟีเจอร์ระดับพรีเมียม และสิทธิ์ในการลงคะแนนให้กับผู้ Stake พร้อมส่งเสริมชุมชนที่แข็งแกร่งและมีส่วนร่วม
2. Love Hate Inu – โปรเจกต์เหรียญมีมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ใช้ประโยชน์จากระบบการลงคะแนนแบบใหม่เพื่อให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการโหวตในแบบสำรวจความคิดเห็น Pre-sale ระดมทุนได้มากกว่า 6 ล้านเหรียญในเวลาสั้นๆ
3. Launchpad –  แพลตฟอร์มที่ให้เข้าถึงเหรียญ ICO สุดพิเศษ การเปิดตัว NFT สินทรัพย์แบบสัดส่วน และเกม play-to-earn โหมดเบต้า ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสพิเศษในการใช้ประโยชน์จากช่องทางการลงทุนที่ให้ผลกำไร
4. Ecoterra – ด้วยการระดมทุนในช่วง Pre-sale ไปแล้ว $2.25M ทำให้ Ecoterra เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหา เหรียญคริปโตรักษ์โลกที่สุดในปี 2023 ในฐานะที่เป็นระบบนิเวศคริปโตที่ยั่งยืน ทำให้เป็นผู้บุกเบิกระบบ Recycle2Earn
5. DeeLance – แพลตฟอร์มเหรียญคริปโต Web 3.0 ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อเปลี่ยนวิธีที่ฟรีแลนซ์และนายจ้างเชื่อมต่อกัน แพลตฟอร์มดังกล่าวระดมทุนได้มากกว่า 444,000 USDT ในช่วง Pre-sale อย่างต่อเนื่อง
6. yPredict – รอบขายพรีเซลที่เพิ่งเปิดตัวของแพลตฟอร์มข้อมูลการเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ถือโทเค็น $YPRED เพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟ สภาพแวดล้อม P2E และซื้อแบบจำลองการคาดการณ์ทิศทางราคาที่พัฒนาโดยนักพัฒนา AI
7. RobotEra – โทเค็นการเล่นเกม Metaverse พร้อมการสร้างรายได้ที่รวม Metaverse เข้ากับ NFT โดยได้รับการตรวจสอบอย่างเต็มที่และตรวจสอบ KYC โดย Coinsniper

เหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุดของปีนี้

เจาะรายละเอียดเหรียญคริปโต pre-sale ที่น่าลงทุนที่สุด

มี pre-sale Altcoin ที่ดีที่สุดหลายตัวในตลาดที่ได้เริ่มต้นผ่านขั้นตอนการขายล่วงหน้าแล้วประสบความสำเร็จ ซึ่งแต่ละโปรเจกต์เหรียญก็จะมีจุดเด่นในเรื่องการให้ผลตอบแทนที่ดี เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เรามาดูโปรเจกต์เหรียญคริปโตพรีเซลเหล่านี้ให้ละเอียดมากขึ้นกัน ทั้งในประเด็นของฟีเจอร์, ทีมพัฒนา, และโอกาสทางด้านราคา

1. AiDoge – โปรเจกต์สร้างมีมที่ใช้ Ai ยุคใหม่พร้อมรางวัลเครดิตรายวัน

AiDoge เป็นเหรียญคริปโต Pre-sale ที่มีศักยภาพซึ่งผสมผสานความเป็นมีมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเข้ากับเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยและเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ โดยเป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้ในการสร้าง แจกจ่าย และพูดคุยเกี่ยวกับมีมพร้อมที่ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศ AiDoge ที่ครอบคลุมซึ่งมีศูนย์กลางเป็นโทเค็น Ai หลัก

นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น $Ai ในราคาเพียง $0.000026 USDT ในขณะนี้ และใช้ประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในทุกช่วงของการ Pre-sale

เครื่องมือสร้างมีมที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือมันสมองที่อยู่เบื้องหลังแพลตฟอร์ม AiDoge ซึ่งเปลี่ยนข้อความที่ผู้ใช้ให้มาเป็นมีมที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ ตามเอกสารข้อมูล AiDoge วิธีการใหม่นี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างมีมได้มากขึ้น โดยไม่คำนึงถึงความเชี่ยวชาญทางศิลปะหรือทางเทคนิค

โปรดทราบว่า AiDoge ก็เหมือนกับเหรียญคริปโต Pre-sale อื่นๆ ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง เนื่องจากไม่มีประวัติราคาก่อนหน้านี้เพื่อเป็นฐานในการลงทุนของคุณ อย่างไรก็ตาม การ Pre-sale ของเหรียญคริปโตก่อนหน้านี้ได้สร้างผลตอบแทนที่สูงให้กับนักลงทุน เช่นเดียวกับเหรียญมีมอื่นๆ เช่น Dogecoin และ Shiba Inu ซึ่งก่อนหน้านี้มูลค่าพุ่งสูงขึ้นกว่า $43,800,000% ในทำนองเดียวกัน ผู้สร้าง AiDoge นั้นยังไม่ระบุชื่อในตอนนี้ แต่นี่ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเหรียญมีม

ภายในระบบนิเวศของ AiDoge โทเค็น Ai มีความจำเป็นด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงความสามารถในการ Staking สร้างแรงจูงใจในการสร้างคอนเทนต์ และซื้อเครดิตการสร้างมีม โดยมีโทเค็นทั้งหมด 1 ล้านล้านโทเค็น Ai และราคา ICO ที่ 0.0000336 USDT มูลค่าตลาดเริ่มต้นของแพลตฟอร์ม AiDoge อยู่ที่ 29,800,000 ดอลลาร์ การกระจายโทเค็นรวมถึงการ Pre-sale การทยอยให้เหรียญ สภาพคล่อง ลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน และรางวัลชุมชน

ผู้เข้าร่วมสามารถจัดสรรโทเค็น Ai ของตนภายในข้อตกลงการ Staking บนระบบนิเวศของ AiDoge โดยได้รับสิ่งจูงใจด้านเครดิตรายวันซึ่งจะสัมพันธ์กับจำนวนเหรียญที่ Stake โดยผู้ Stake จะมีสิทธิพิเศษ เช่น การเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใครและมีเสียงในการพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อปกป้องโทเค็นที่ Stake และจำกัดความเสี่ยง AiDoge ใช้สัญญาการ Stake ที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว

แพลตฟอร์ม AiDoge มีวอลล์สาธารณะที่ผู้ใช้สามารถแชร์และดูมีมที่พวกเขาสร้างร่วมกับชุมชนได้ โดยมีระบบการลงคะแนนที่ผู้ใช้สามารถแสดงการชอบหรือไม่ชอบมีมที่โพสต์ ผู้ใช้ได้รับแรงจูงใจในการสร้างคอนเทนต์ชั้นยอดและมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยรับโทเค็น Ai สำหรับมีมที่ได้คะแนนสูง

ผู้ใช้ที่สนใจยังสามารถเข้าร่วมกลุ่ม AiDoge Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดและอ่านวิธีซื้อ AiDoge

เพดานเงินทุน	$14,900,000
โทเค็นทั้งหมด	1 ล้านล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์	500 พันล้าน
Blockchain	เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น	ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ	100 โทเค็น
ซื้อด้วย	USDT, ETH, BNB, บัตรเครดิต

ไปยัง AiDoge Presale

2. Love Hate Inu – เหรียญคริปโต pre-sale มีมแบบ Vote to Earn ที่ดีที่สุด พร้อมโอกาสทำกำไรมหาศาล

การหาเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุดจากตัวเลือกมากมายอาจเป็นเรื่องยาก ซึ่งการเลือก pre-sale ที่ไม่เหมือนใครนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และนั่นทำให้ Love Hate Inu โดดเด่นขึ้นมา

Love Hate Inu เป็นเหรียญคริปโต pre-sale แบบ Vote to Earn มาใหม่ที่จะให้รางวัลผู้ใช้จากการโพลมีม โดยในการเข้าร่วมโหวต ผู้ใช้จะสามารถ Stake โทเค็นหลักอย่าง $LHINU ได้

ขั้นตอนการ Pre-sale ได้สร้างความตื่นเต้นอย่างมากในชุมชนเหรียญคริปโต โดยโปรเจกต์สามารถระดมทุนได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่ชั่วโมงนับตั้งแต่เปิดตัว และในปัจจุบันก็ระดมทุนได้แล้วกว่า 2 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสามสัปดาห์

ราคาปัจจุบันของโทเค็น $LHINU อยู่ที่ 0.001350 ดอลลาร์ แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นตลอดทั้ง 8 รอบ ซึ่งกินเวลา 60 วัน โดยแต่ละรอบจะกินเวลา 7.5 วัน

การ Pre-sale จะจบลงด้วยราคาโทเค็นที่เพิ่มขึ้น 53% เป็น $0.000145 – ผู้ใช้สามารถซื้อโทเค็น $LHINU ด้วย Ether, USDT หรือบัตรเครดิตสกุลเงินทั่วไปบนเว็บไซต์ Pre-sale

Love Hate Inu คืออะไร?

Love Hate Inu ให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการโหวต คุณสามารถโหวตด้านการเมือง ความบันเทิง และปัญหาสังคม และยังได้รับโทเค็นจากการเข้าร่วม นี่เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกขับเคลื่อนโดยชุมชน ซึ่งจะไม่เปิดเผยข้อมูลผู้โหวต และระบบการโหวตจะปลอดภัยบนเครือข่าย Ethereum 

โปรเจกต์ดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในโลกโซเชียลจากประโยชน์การใช้จริง เช่น การโหวตปัญหาสังคม โดย pre-sale ของโปรเจกต์อาจจะสามารถตามรอยเหรียญมีมอย่าง Dogecoin, Shiba Inu, และ Tamadoge ได้

ฟังก์ชัน Stake to Vote ทำงานอย่างไร?

ทุกโหวตจะถูกจัดการในหน้าเว็บของผู้ใช้ รวมถึงการส่งผลโหวต การจัดการหน้าแดชบอร์ด และผลกำไรของแพลตฟอร์มจะถูกส่งให้กับทางคอมมิวนิตี้ผ่านโพล

เอกสารข้อมูลอธิบายว่าโทเค็นจะสามารถใช้ Stake เพื่อโหวต โดยผลโหวตจะไม่เปิดเผยตัวผู้โหวตและจะไม่มีการหลอกลวงแน่นอน

ผู้ใช้จะได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมการโหวตและ Staking โดยระยะเวลาการ Staking จะอ้างอิงตามคะแนนโหวตที่ผู้ใช้มี

Love Hate Inu คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่?

The Business Research Company อธิบายว่าตลาดการโหวตออนไลน์โตขึ้น 14.6% จาก $2.79 พันล้านในปี 2022 เป็น $3.2 พันล้านในปี 2023 และจะเติบโตถึง 15.5% เป็น $5.69 พันล้านในปี 2027

ด้วยตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจะทำให้แพลตฟอร์มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้ ซึ่งจะเพิ่มความต้องการของโทเค็น $LHINU ได้นั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการจัดสรร 90% ของอุปทานทั้งหมด 100 พันล้านโทเค็น Love Hate Inu ยังพยายามที่จะรักษาความปลอดภัยของเงินของนักลงทุน สนใจเรียนรู้วิธีซื้อโทเค็น Love Hate Inu หรือไม่? อ่านคู่มือสำหรับมือใหม่ของเราวันนี้

มีเพียง 10% (10 พันล้าน) ของโทเค็นเท่านั้นที่จะถูกกันไว้สำหรับการลิสเหรียญเข้ากระดานแลกเปลี่ยน สิ่งจูงใจของชุมชน และสภาพคล่อง นักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าร่วมช่อง Love Hate Inu Telegram สำหรับข่าวสารและการอัปเดตล่าสุดทั้งหมด

เริ่มพรีเซล	8 มีนาคม 2023
การชำระเงิน	ETH, USDT, บัครเครดิต
เชน	Ethereum
เพดานเงินทุน	$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำ	ไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale

3. Launchpad – แพลตฟอร์มที่ให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่จะทำให้ร่ำรวย

Launchpad ที่เปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้เป็นเหรียญคริปโต Pre-sale ที่น่าลงทุนซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยนักลงทุนคริปโตในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลในวงการ Web 3.0 ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยแพลตฟอร์มนี้จะทำงานผ่านแดชบอร์ดล้ำสมัยที่นำเสนอข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้แก่ผู้ใช้ เช่น ความเชื่อมั่นของตลาดสำหรับเหรียญต่างๆ

การ Pre-sale โทเค็นหลัก LPX ของแพลตฟอร์มขายหมดในราคา $0.035 USDT โดยราคาลิสต์ตั้งไว้ที่ $0.07 USDT นักลงทุนยังสามารถอ่านคำแนะนำโดยละเอียดได้ที่วิธีซื้อ Launchpad

ผู้ใช้สามารถเรียนรู้ว่า “เหล่าวาฬ” กำลังมุ่งให้ความสนใจไปในที่ใดด้วยการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของ Launchpad จากนักลงทุนและนักวิเคราะห์เหรียญคริปโตชั้นนำ

นอกจากนี้ยังให้ผู้คนเรียนรู้วิธีการตัดสินใจซื้อขายด้วยตนเองแทนการพึ่งพาคำแนะนำของผู้อื่น โดยระบบการแจ้งเตือนของ Launchpad สำหรับเหรียญคริปโต Pre-sale, การสร้าง NFT, การเปิดตัวเกม play-to-earn, และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแต่ละโปรเจกต์ถือเป็นฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยม

ในไม่ช้าผู้ใช้จะสามารถดำเนินการซื้อขายได้โดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม ต้องขอบคุณกระดานเทรด DEX ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา สิ่งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Launchpad ในการทำหน้าที่เป็นร้านค้าแบบครบวงจรของชุมชนการเทรด Web 3.0

แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อได้ในราคาถูกก่อนที่โทเค็น LPX จะลิสต์บน DEX และ CEX สาธารณะ ในขณะที่การขายเหรียญคริปโตในช่วง Pre-sale จะมีความเสี่ยง แต่ altcoin บางสกุลเช่น Tamadoge ก็ได้สร้างผลตอบแทนอย่างสูงในการลงทุน ทำให้เหรียญเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณาสำหรับการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน

LPX ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Launchpad นั้นสามารถใช้ได้หลากหลายแบบ ด้วยการ Stake โทเค็น LPX อย่างน้อย 10,000 โทเค็น ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ระดับพรีเมียม เช่น การลดค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายบน Launchpad DEX ที่รับประกันการเข้าถึง NFT ใหม่ๆ และ Pre-sale แบบส่วนตัว, ส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการจากพันธมิตรของ Launchpad, และการเข้าถึงเกม play-to-earn ได้ล่วงหน้าในโหมดเบต้า 

ในการเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียมเหล่านี้ ผู้ใช้ต้อง Stake ขั้นต่ำ 10,000 LPX เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงยูทิลิตี้ในโลกจริงของโทเค็น

ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ Web 3.0 ที่ใช้งานง่ายของ Launchpad ช่วยให้มือใหม่และนักลงทุนที่มีประสบการณ์สามารถเข้าใจในโลกที่ซับซ้อนของการลงทุน Web 3.0 ได้ด้วยการให้ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึก และความเชื่อมั่นของตลาดที่เชื่อถือได้ แพลตฟอร์มนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ utility token​จำนวนมาก โดยครอบคลุมเมตริกหลัก เช่น สภาพคล่อง ข้อมูลเชิงลึกของนักวิเคราะห์ ตัวชี้วัดแบบกำหนดเอง และโอกาสในการเก็งกำไร

นอกจากนี้ Launchpad ยังให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับการลงทุน Web 3.0 ที่กำลังจะมาถึง ช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบโปรเจกต์และไอเดียใหม่ๆ ก่อนที่จะเปิดตัวในตลาด

ผู้ซื้อที่สนใจสามารถเข้าร่วมช่อง Telegram Launchpad เพื่อรับข้อมูลข่าวสารล่าสุด

เพดานเงินทุน	$12,500,000
โทเค็นทั้งหมด	1 พันล้าน
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์	250 ล้าน
Blockchain	เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น	ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ	100 โทเค็น
ซื้อด้วย	USDT, ETH, BNB, บัตรเครดิต

ไปยัง Launchpad Presale

4. Ecoterra – เหรียญคริปโต Pre-sale แบบ Recycle2Earn ที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ในการต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน

Ecoterra เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต Pre-sale ที่ดีที่สุดแห่งปี 2023 เนื่องจากเป็นโปรเจกต์แรกที่มุ่งเน้นการให้รางวัลแก่ผู้คนสำหรับการทำดีต่อสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากภาวะโลกร้อนจะก่อให้เกิดหายนะต่อโลกของเราในทศวรรษต่อๆ ไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อช่วยลดผลกระทบ และ Ecoterra ก็มีโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบในการกระตุ้นให้ตลาดมวลชนเริ่มการรีไซเคิล ทำให้เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตรักษ์โลก

การ​ Pre-sale ของโทเค็น ECOTERRA ระดมทุนได้มากกว่า 3 ล้านดอลลาร์แล้วตั้งแต่เปิดตัวเมื่อสามสัปดาห์ก่อน โดยโปรเจกต์นี้ยังเสนอโปรแกรมแนะนำเพื่อนที่ให้ USDT 5% ให้กับผู้ซื้อในช่วง Pre-sale อีกด้วย ปัจจุบันโทเค็นมีราคา $0.00625 ในรอบที่ 4 แต่จะเพิ่มขึ้น 60% เป็น $0.01 ในรอบที่ 9 และรอบสุดท้าย

จากอุปทานสูงสุด 2 พันล้านโทเค็นนั้น 50% ของโทเค็นเปิดให้ขาย Pre-sale โดยไม่มีระยะเวลาให้สิทธิ์และมูลค่าสูงสุด 6.7 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำหนดการปิดการขาย Pre-sale ในวันที่ 28 มิถุนายน 2023

Ecoterra ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มที่ผ่านการยืนยันตรวจสอบ KYC ส่วนสัญญาอัจฉริยะโทเค็น ECOTERRA ก็ได้รับการตรวจสอบโดย Certik

โปรเจกต์ได้สร้างแอพพลิเคชัน Recycle2Earn ที่ใช้งานง่ายซึ่งกระตุ้นให้บุคคลและองค์กรต่างๆ รีไซเคิลเพื่อรับรางวัล ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น Ecoterra บนแอพสำหรับการดูแลสิ่งแวดล้อมทุกครั้งที่รีไซเคิล แอพพลิเคชันจะแนะนำผู้ใช้ทุกคนในการเริ่มต้นสร้างรายได้ในสามขั้นตอนง่ายๆ

ขั้นแรก ผู้ใช้ต้องสแกนบาร์โค้ดบนผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ เช่น ขวดพลาสติก ขวดแก้ว หรือกระป๋องอลูมิเนียม แอพพลิเคชันจะค้นหาการจับคู่ทันทีจากบาร์โค้ดผ่านฐานข้อมูลที่ใช้ AI เพื่อประเมินรางวัลที่เป็นไปได้สำหรับการรีไซเคิล

ต่อไป ผู้ใช้จะต้องค้นหาเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลในบริเวณใกล้เคียงผ่านแอพพลิเคชัน จากนั้นพวกเขาจะต้องวางรายการในเครื่องดังกล่าวและถ่ายรูปใบเสร็จ ขั้นตอนสุดท้ายในการรับรางวัลคือการอัปโหลดใบเสร็จบนแอพพลิเคชันเพื่อรับ Ecoterra

การรีไซเคิลเพื่อสร้างรายได้ไม่ใช่แอพพลิเคชันเดียวที่ Ecoterra มีอยู่ในระบบนิเวศ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ดังต่อไปนี้:

• ตลาดวัสดุรีไซเคิล – เชื่อมโยงบริษัทต่างๆ ทั่วโลกเพื่อซื้อวัสดุรีไซเคิล ผู้ใช้สามารถซื้อพลาสติกรีไซเคิล แก้ว หรืออะลูมิเนียมในตลาดและรับรางวัล ผู้ใช้สามารถกรองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างง่ายดายหรือโพสต์คำขอพิเศษเพื่อค้นหาวัสดุที่จะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
• ตลาดการชดเชยคาร์บอน – ช่วยให้ผู้ใช้ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วยการซื้อการชดเชยคาร์บอน การชดเชยคาร์บอนทั้งหมดบนแพลตฟอร์มได้รับการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์ผ่านความร่วมมือกับ VERA
• โปรไฟล์ที่ติดตามผลงานได้ – ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามการกระทำเชิงบวกทั้งหมดผ่านระบบนิเวศ บุคคลและองค์กรสามารถวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนโดยการวัดผลงานของการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม

โดยรวมแล้ว ระบบนิเวศพยายามที่จะให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับความจำเป็นในการรีไซเคิลและให้แรงจูงใจแก่พวกเขาในการทำเช่นนั้น ผลิตภัณฑ์ทั้งสี่นี้รวมกันเพื่อผลิตหนึ่งในโปรเจกต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทรงพลังที่สุดในวงการเหรียญคริปโต

ผู้สนใจควรอ่านเอกสารข้อมูลหรือเข้าร่วมกลุ่ม Telegram Ecoterra สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ หรืออ่านคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีซื้อโทเค็น ECOTERRA ฉบับเต็มของเรา

เริ่มพรีเซลล์	29 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Ecoterra Presale ตอนนี้

5. DeeLance – เหรียญคริปโต pre-sale มาใหม่ที่จะปฏิวัติวงการการจ้างงาน

DeeLance เป็น เหรียญคริปโต pre-sale มาใหม่ที่น่าสนใจซึ่งกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในเหรียญที่ดีที่สุดของปี 2023 เนื่องจากยูทิลิตี้และแผนการที่จะนำภาคการสรรหาบุคลากรทั่วโลกจาก Web2 มาสู่ Web3

โปรเจกต์นี้ถูกสร้างเพื่อนำฟรีแลนซ์เข้ามาสู่ Web3 และทำให้กระบวนการเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และโปร่งใสมากขึ้นสำหรับฟรีแลนซ์และธุรกิจ

การ Pre-sale ของโทเค็น DLANCE อยู่ในรอบที่ 1 จาก 6 โดยขายโทเค็นที่ราคา $0.029 ต่อเหรียญ และเพิ่มขึ้นเป็น $0.048 ในรอบที่ 6 และรอบสุดท้าย – 30% ของอุปทาน 1 พันล้านเหรียญได้เปิดขายในช่วง Pre-sale โดยไม่มีการทยอยให้เหรียญและมีมูลค่าสูงสุดอยู่ที่ 6.8 ล้านเหรียญ

โปรเจกต์นี้ได้รับการพัฒนาโดยทีมงานที่มีการรับรองและยืนยัน KYC ส่วน Coinsult ก็ได้ตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะแล้วเรียบร้อย ระดมทุนได้แล้วกว่า $470,000 และ DeeLance ยังมีโปรแกรมแนะนำเพื่อนอีกด้วย

DeeLance จะทำให้กระบวนการจัดหางานทั้งหมดง่ายขึ้นและลบตัวกลางและบุคคลที่สามออกไป ทำให้นายจ้างและฟรีแลนซ์สามารถติดต่อกันได้โดยตรง

ด้วยการถอดตัวกลางออก DeeLance จะทำให้กระบวนการทั้งหมดมีราคาถูกลงและประหยัดต้นทุนมากขึ้นสำหรับทั้งสองฝ่าย โดยตัวกลางและเว็บไซต์คู่แข่งอย่าง Web2 มักจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจำนวนมากสำหรับงานที่เสร็จสมบูรณ์

โปรเจกต์จะใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อทำให้กระบวนการชำระเงินมีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยเงินที่เก็บไว้ในเอสโครว์และเข้าถึงได้เมื่องานเสร็จสิ้นตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ตกลงกัน โดยทุกอย่างจะโปร่งใสและตรวจสอบได้บนสัญญาอัจฉริยะ

งานยังกลายเป็น NFT เพื่อช่วยให้ผู้จ้างเป็นเจ้าของและขจัดปัญหาต่างๆ เช่น การฉ้อโกงการชำระเงินหรือการละเมิดลิขสิทธิ์

DeeLance ยังให้ผู้ใช้ให้คะแนนซึ่งกันและกัน โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของฟรีแลนซ์ เป็นต้น

โปรเจกต์นี้ยังมีโลก Metaverse ที่ฟรีแลนซ์สามารถเชื่อมต่อ โต้ตอบ และทำงานร่วมกัน เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ ซื้อที่ดินเสมือน สะสมชื่อเสียง หรือแม้แต่โฆษณาบริการของตนเอง

โทเค็น DLANCE มีประโยชน์อย่างกว้างขวางในโลก Metaverse​ และจะใช้เพื่อซื้อบริการจากฟรีแลนซ์

เข้าร่วมกลุ่ม Deelance Telegram หรืออ่านเอกสารข้อมูลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เริ่มพรีเซลล์	30 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

6. yPredict – โทเค็นใหม่ของแพลตฟอร์มมอบข้อมูลการเทรดคริปโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI

$YPRED เป็นสกุลเงินดิจิทัลหลักของระบบนิเวศ yPredict ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่อิงกับการวิเคราะห์และการรวบรวมข้อมูล ระบบนิเวศนี้ใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบ AI เช่น Natural Language Processing (NLP) และทำงานร่วมกับนักพัฒนา AI เพื่อนำเสนอแบบจำลองการคาดการณ์แนวโน้มราคาแก่นักลงทุน

ในปัจจุบัน ในการขายรอบพรีเซล $YPRED สามารถซื้อเพื่อใช้ภายในระบบนิเวศเพื่อซื้อการสมัครรับข้อมูล หนึ่งในข้อเสนอหลักคือการคาดคะเนตามโมเดลที่สร้างขึ้นโดยการวิเคราะห์คำนวณเชิงปริมาณเชิงตัวเลขทางการเงินและนักพัฒนา AI โมเดลนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตและแนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ

ด้วยการใช้ NLP yPredict จะทำการวิเคราะห์ความคิดเห็นของหลายโทเค็น แพลตฟอร์มนี้ยังนำเสนอสัญญาณการเทรดที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการวิเคราะห์ทางเทคนิค แพลตฟอร์มนี้ยังมีความสามารถในการกำหนดรูปแบบแผนภูมิขาขึ้นและขาลงเนื่องจากอัลกอริทึมการรับรู้สิทธิบัตร yPredict ใช้

ผู้ที่ซื้อ $YPRED สามารถ stake โทเค็นเพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ 10% ของการสมัครสมาชิกใหม่ทั้งหมดจะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ถือโทเค็นที่ใช้งานอยู่ แพลตฟอร์มยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน 15% ซึ่งถูกกันไว้สำหรับ staking pool นอกจากนี้ เราสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม Learn2Earn เพื่อรับโทเค็นโดยทำแบบทดสอบและควิซเกี่ยวกับตลาดคริปโต

yPredict ยังส่งเสริมการถือเหรียญไว้ระยะยาวด้วยการเรียกเก็บภาษีการขายสูงถึง 7% ต่อธุรกรรม 1% ของภาษีนี้จัดสรรให้กับสภาพคล่อง 1% สำหรับการพัฒนา 2% สำหรับรวบรวมข้อมูล และ 3% สำหรับวัตถุประสงค์ทางการตลาด ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าถึงกรณีการใช้งานเหล่านี้ได้โดยการซื้อ $YPRED ในช่วงพรีเซลล์รอบที่ 4

สำหรับการขายรอบพรีเซลของ cryptocurrency ที่กำลังดำเนินอยู่ มีการจัดสรรโทเค็น 80 ล้านสำหรับรอบพรีเซลราคาของ $YPRED ปัจจุบันอยู่ที่ $0.05 แต่จะพุ่งขึ้นไปเป็น $0.12 ในรอบสุดท้าย โครงการนี้ตั้งเป้าที่จะระดมเงินทุนให้ได้มากกว่า 6.5 ล้านดอลลาร์ yPredict รวบรวมเงินได้มากกว่า $430,000 นับตั้งแต่เปิดขายพรีเซล

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลนี้ โปรดอ่านเอกสารข้อมูล yPredict เข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาในช่วงพรีเซล

เริ่มพรีเซล	ไตรมาสที่ 1 2023
วิธีชำรเงิน	MATIC, ETH, BNB, USDT, Card
เชน	Polygon
จำนวนซื้อขั้นต่ำ	200 YPRED
จำนวนซื้อสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง yPredict ตอนนี้

7. RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse-Gaming Token ล่าสุด เปิดขายพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน 2022

RobotEra หนึ่งในเหรียญคริปโต pre-sale มาใหม่อันดับต้น ๆ ที่น่าซื้อตอนนี้ในตลาดเกมซึ่งก็คือโทเค็น TARO – เป็นโทเค็นหลักของระบบนิเวศ metaverse ของ RobotEra

จะมีการเปิดให้พรีเซลล์ในเดือนพฤศจิกายน 2022 โดยปริมาณโทเค็น TARO จะจัดสรรจำนวน 270 ล้านโทเค็นให้กับการขายพรีเซลโดยมีเป้าหมายยอดรวมสูงสุดอยู่ที่ 6.93 ล้านดอลลาร์ และดึงดูดเงินลงทุนไปแล้ว 1 ล้าน ดอลลาร์

ระบบนิเวศ RobotEra มีเป้าหมายเพื่อสร้าง metaverse เสมือนดาวเคราะห์เช่น The Sandbox และ Decentraland โดยเหรียญหลักของระบบนิเวศคือ TARO สามารถใช้เพื่อซื้อ NFT ในเกมและใช้สำหรับการโฆษณา และยังให้ผู้เล่นเข้าถึง DAO ของโครงการ (องค์กรอิสระที่กระจายอำนาจ)

ผู้เล่นสามารถเข้าถึงดาวเคราะห์ TARO ได้ด้วยการเข้าร่วมเป็น Robots – ซึ่งเป็นตัวละคร NFT ที่สร้างขึ้นบน Ethereum blockchain ซึ่งมี Robot NFTs จำนวนจำกัดจำนวน 10,000 NFT – เป็นของ 7 แคมเปญที่แตกต่างกัน

ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ทาง RobotEra ได้เปิดตัวรอบพรีเซลล์รอบแรก TARO สามารถซื้อได้ในราคา $0.020 USDT โดยการขายพรีเซลจะมีทั้งหมดสามรอบ – แต่ละรอบจัดสรร 90 ล้านโทเค็น

ในขณะที่คริปโตเคอเรนซีชั้นนำเช่น Bitcoin ปรับฐานราคาลดลงตลอดปี 2022 แต่การขายพรีเซลจะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับฐานของตลาดและมักจะได้รับผลตอบแทนดีเมื่อเปิดตัวใหม่

RobotEra ยังได้รับการรับรอง KYC โดย CoinSniper และสัญญาอัจฉริยะที่ตรวจสอบโดย SharkTeam อย่างสมบูรณ์ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้ โปรดอ่านเอกสารข้อมูลของ RobotEra

ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าร่วมช่อง RobotEra Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดกับการขายพรีเซลของเหรียญที่มีโอกาสเติบโตสูง

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

Crypto Presales มีกลไกการทำงานอย่างไร?

ประเด็นสำคัญ

• เหรียญคริปโต Pre-sale เสนอศักยภาพในการทำกำไรสูงสุดโดยให้อัตราโทเค็นที่มีส่วนลดก่อนเปิดตัว ICO
• การ Pre-sale ของ Tamadoge ในปี 2022 ระดมทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ และสร้างผลตอบแทนเกือบ 2,000% ให้แก่นักลงทุนในช่วงแรกๆ
• นักลงทุนต้องทำการศึกษาอย่างถี่ถ้วนเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและศักยภาพของโปรเจกต์ Pre-sale

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาวิธีการลงทุนในคริปโตเพื่อทำกำไรสูงสุด คุณอาจสนใจการลงทุนในเหรียญคริปโต pre-sale ด้วยการให้ผลตอบแทนที่สูง หรืออาจพูดได้ว่าเหรียญคริปโต pre-sale เป็นหนึ่งวิธีในการระดมทุนของทีมพัฒนา เพื่อเพิ่มความ ‘น่าสนใจ’ ของโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้น พรีเซลเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการเปิดขาย ICO ซึ่งมักจะเป็นการขายเหรียญในราคาที่ต่ำเพื่อดึงดูดนักลงทุน

ตัวอย่างที่ดีของกลไกการทำงานของเหรียญ presale ก็คือรูปแบบของ Tamadoge ในช่วงปลายปี 2022 นักลงทุนในช่วงแรกๆ สามารถซื้อโทเค็น TAMA ในราคาเพียง $0.01 ในช่วง Pre-sale รอบแรก โดยโปรเจกต์ดังกล่าวระดมทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ก่อนที่จะลิสต์ลงกระดานแลกเปลี่ยนเลยทีเดียว

จากนั้นราคาของ TAMA ก็พุ่งขึ้นไปจนถึง 0.194 ดอลลาร์ กลายเป็นเหรียญมีม 3 อันดับแรกตามมูลค่าการซื้อขาย – ทำให้นักลงทุนรายแรกๆ ได้รับผลตอบแทนเกือบ 2,000%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวอย่างที่เอามาให้ดูนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดี แต่ส่วนใหญ่แล้วการขายเพื่อการระดมทุนแบบ crypto crowdsales มักจะมีปัญหา เพราะความนิยมของการลงทุนในคริปโตที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีเหรียญหน้าใหม่ที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น ตรงนี้เองที่นักลงทุนจะต้องทำการศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อนเลือกลงทุนใน crypto presale ให้ดี เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยในผลตอบแทนของการลงทุนที่มั่นคง

วิธีหาโทเค็นเหรียญ presale ใหม่ที่ได้รับความนิยม

ประเด็นสำคัญ

• ศึกษาทีมงานของโปรเจกต์และประเมินความถูกต้อง ความปลอดภัย และประสบการณ์
• ใช้โซเชียลมีเดียเช่น Pantip และ Twitter เพื่อดูว่าช่วง Pre-sale ใดมีกระแสมากที่สุดในหมู่นักเทรดเหรียญคริปโต
• ประเมิน Tokenomics​ ของ Pre-sale โดยเน้นไปที่ระยะเวลาการทยอยให้เหรียญ การแจกจ่าย อุปทาน ฯลฯ

จากการเปิดขาย crypto vault presale ในช่วงต้นปี ทำให้เกิดตลาดการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินทุนที่มหาศาลได้กับโปรเจกต์หลาย ๆ ตัว แต่อย่างไรก็ตาม พรีเซลแต่ละโปรเจกต์ไม่ได้ดีเหมือนกันทั้งหมด นักลงทุนจึงควรทำความเข้าใจและเฟ้นหาโครงการการลงทุนที่มีศักยภาพผ่านปัจจัยสำคัญที่เรานำมาฝากกันนี้

ทีมผู้พัฒนา

สิ่งที่นักลงทุนต้องทำเพื่อหาเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุดควรศึกษาที่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทีมพัฒนาโปรเจกต์ เพราะนี่คือปัจจัยที่จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของโครงการ ทีมงานที่น่าเชื่อถือจะต้องเป็นทีมที่มีประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวข้อง เช่น เทคโนโลยีบล็อกเชนหรือเกม P2E ที่สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนในโปรเจกต์ที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับทีมพัฒนา การขาดความชัดเจนในเรื่องนี้อาจสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้มั่นใจในตัวโครงการได้ก็คือการได้รับการรับรองจาก Certik หรือ Solidproof ซึ่งเป็นบริการตรวจสอบที่ยืนยันว่าโปรเจกต์นั้น ๆ มีความปลอดภัยถ้าจะลงทุน

ใช้โซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญในโลกคริปโตที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเชื่อมต่อและแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่ง Cryptocurrency subreddit (r/CryptoCurrency) เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ ด้วยการนำแสดงความคิดเห็นของนักลงทุนผ่านการพูดคุยกันเกี่ยวกับการลงทุนในเหรียญใหม่ และจากความคิดเห็นของนักลงทุนที่มีประสบการณ์เชิงลึกในตลาดคริปโตทำให้คุณสามารถเอาคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับผลตอบแทนจากพรีเซลมาใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้ด้วย

รีวิวโปรเจกต์ ‘Tokenomics’

สุดท้ายแล้ว ‘โทเค็น’ ของโปรเจกต์นั้นก็ถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ที่จะช่วยบอกได้ว่าราคาของโทเค็นในระยะยาวจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ พรีเซลหลายโครงการมักเปิดตัวด้วยการเสนอขายโทเค็นจำนวนมาก (คาดว่าเป็นหลักล้านล้านหน่วย) แต่จะมีการเผาเหรียญส่วนใหญ่หลังจากเปิดตัวโครงการไปแล้ว ซึ่งกลไกการเผานี้จะช่วยลดอุปทานและทำให้โทเค็นที่เหลืออยู่กลายเป็นของหายาก มีน้อย ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าของโทเค็นให้สูงขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในเหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด ลองดูคู่มือของเราเกี่ยวกับวิธีการซื้อเหรียญก่อนเปิดตัว ซึ่งเป็นความรู้ที่ครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเลือกรับผลตอบแทนจากคริปโตตัวใหม่

เหรียญคริปโตพรีเซลเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ดีไหม?

นักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้จากคริปโตอาจพิจารณาเลือกการลงทุนในเหรียญ presale ด้วยเพราะเหรียญพวกนี้จะมีราคาที่ต่ำโดยธรรมชาติ แต่คำถามก็คือว่าการลงทุนในเหรียญเหล่านี้ถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีหรือไม่? ข้อมูลต่อไปนี้คือเหตุผล 4 ข้อ ที่จะบอกได้ว่าการลงทุนรูปแบบนี้น่าสนใจอย่างไร

ผลตอบแทนจำนวนมาก

โดยธรรมชาติแล้ว การขาย crypto presale นั้นให้ผลตอบแทนที่ดีเนื่องจากการตั้งราคาที่ต่ำในช่วงต้นเพื่อดึงดูดนักลงทุน เพื่อเป็นการระดมทุนให้โปรเจกต์สามารถเติบโตและบรรลุแผนงานได้ ซึ่งตรงนี้จะทำให้เกิดผลที่ตามมาก็คือมูลค่าของโทเค็นที่เกี่ยวข้องจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมการลงทุนในเหรียญ presale จึงสามารถทำกำไรได้เป็นจำนวนมาก

โทเค็นพรีเซลของเหรียญคริปโต ยังมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้แม้ว่าสภาวะตลาดขาลง เช่น ช่วงตลาดขาลงในปี 2022 ที่นักลงทุนจะให้ความสนใจในการลงทุนไปกับโครงการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น และนี่ก็คือลิสของรายการเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุด ช่วงขาลง

การเข้าถึงแนวคิดที่เป็นนวัตกรรม

เพราะตลาดการเทรดคริปโตเคอเรนซีในปัจจุบันถือว่าเป็นตลาดที่มีความอิ่มตัวสูง ด้วยสินทรัพย์หลายตัวที่มีรูปแบบที่เหมือนหรือคล้ายกันเต็มไปหมด แต่พรีเซลเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนได้เข้าถึงแนวคิดใหม่ที่เป็นนวัตกรรม อย่างในกรณีของ Sleep Care ($SLEEP) กับแนวคิดใหม่ที่น่าสนใจอย่างการ ‘นอนหลับเพื่อสร้างรายได้’ กับไอเดียที่แปลกกว่าใครในตลาด

การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่กำลังเติบโต

หลาย ๆ โปรเจกต์เหรียญคริปโตมาใหม่ที่ดีที่สุด ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากการสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ตามแนวคิดการลงทุนทั่วไป อย่างเช่นในกรณีของ AMC และ GameStop ที่จู่ ๆ ราคาของเหรียญที่คิดว่าจะลงแต่กลับพุ่งขึ้นแบบส่วนทาง และล่าสุดกับกรณี AMTD Digital bull run เป็นต้น

ด้วยการส่งเสริมการสร้างชุมชนนักลงทุนที่เข้มแข็ง จะช่วยให้พรีเซลกระตุ้นให้เกิดความน่าสนใจจนทำให้เกิดการรวมกลุ่มของคนที่มีความคิดเหมือนกัน เกิดการเชื่อมต่อและชุมชนที่มีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อไป

การสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

สุดท้ายกับการเทรด เหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้ จากการรับ ‘static rewards’ ได้ให้วิธีที่เป็นประโยชน์เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินโดยการนำระบบภาษีเข้ามาใช้ในการทำธุรกรรม

อีกทางหนึ่ง โทเค็นพรีเซลจำนวนมากยังสามารถทำ Staking ได้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มว่าจะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินเก็บไว้ในบัญชีธนาคาร

เหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด – บทสรุป

โดยสรุป บทความนี้ได้นำเสนอภาพรวมเชิงลึกของเหรียญคริปโตดีที่สุดที่น่าลงทุน โดยการเน้นไปที่โปรเจกต์การลงทุนที่น่าสนใจ ถึงแม้ว่าพรีเซลจะมีความเสี่ยงแต่ก็เป็นตัวเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งถือเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างหนึ่งในตลาด

แม้ว่าการ Pre-sale จะเป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงเป็นทุนเดิม แต่ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดได้หากดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าตื่นเต้นในตลาด

ตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเราสำหรับเหรียญคริปโต Presale ที่ดีที่สุดคือ AiDoge ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับอนาคตของการสร้างมีมและการมีส่วนร่วมกับชุมชนด้วยแพลตฟอร์มของ AiDoge ซึ่งรวมเข้ากับกระแสอันร้อนแรงที่สุดอย่าง: AI และมีม

Web 3.0 เป็นคำที่ใช้อธิบายอินเทอร์เน็ตในยุคต่อไป ก็คือเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นใหม่ เช่น โปรโตคอลบล็อคเชน สัญญาอัจฉริยะ เหรียญคริปโต ปัญญาประดิษฐ์ และ machine learning

ในบทความนี้ เราจะพูดถึง เหรียญ web 3.0 ที่ดีที่สุด ที่ควรซื้อเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว และรวมถึงเหรียญ altcoin อื่นๆ ไปดูกันว่าเหรียญ web3.0 มีอะไรบ้าง ที่น่าสนใจ

เหรียญ web 3.0 ที่ดีที่สุด ที่ควรซื้อในปี 2023

ด้านล่างนี้เป็นรายการเกี่ยวกับ web 3.0 เหรียญ ที่ดีที่สุด ที่ควรพิจารณาซื้อในปีนี้

1. Love Hate Inu – เหรียญ web 3.0 แบบ Vote-to-Earn โดยรวมที่ดีที่สุด
2. DeeLance – แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์บน Web3 พร้อม Pre-sale โทเค็นที่กำลังเปิดขาย
3. Ecoterra – เหรียญคริปโต Recycle2Earn มาใหม่ที่น่าซื้อในช่วง Pre-sale
4. Metropoly – เหรียญคริปโตที่มีโอกาสเติบโตสูงที่สุดในปี 2023
5. Swords of Blood – เกมสวมบทบาทที่ดีที่สุดที่เปิดตัวบน Polygon
6. Securedverse – โทเค็นเกม Web 3.0 ที่ดีที่สุดของปี 2023
7. Tamadoge – เหรียญคริปโต metaverse ที่น่าลงทุนแอพเกมคริปโต Web 3.0 มาใหม่
8. Ethereum – โปรเจกต์ Web 3.0 ชั้นนำTop Web 3.0 Project
9. Uniswap – หนึ่งในโทเค็นเว็บ 3.0 ที่ดีที่สุด สำหรับการเทรด
10. Basic Attention Token – เหรียญ web 3.0 ชั้นนำ ที่สนับสนุนอนาคตของการตลาดออนไลน์

ซื้อเหรียญ web 3.0 ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง

เหรียญคริปโตข้างต้นรองรับระบบนิเวศ web  3.0 ในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นโปรดอ่านเพื่อประเมินว่าสินทรัพย์ดิจิทัลใดที่เหมาะกับการลงทุนในพอร์ตของคุณ 

นอกจากนี้ คุณจะสังเกตเห็นว่าสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากเหล่านี้เป็น ส่วนใหญ่เป็นเหรียญคริปโตที่ประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ในตลาด

เจาะลึกเหรียญ web 3.0 ที่ดีที่สุดที่ควรลงทุน

web 3.0 ได้รับการสนับสนุนจากหลายๆภาคส่วนในอุตสาหกรรมบล็อคเชน ซึ่งรวมถึงทุกอย่างตั้งแต่สัญญาอัจฉริยะ gaming การเงิน และ Metaverse

และด้วยเหตุผลนี้ คุณจึงสามารถเข้าถึงเทรนด์ web 3.0 ได้โดยการลงทุนในโครงการชั้นนำ ในส่วนด้านล่างนี้ เราจะศึกษาอย่างละเอียดถึง 10 เหรียญ web 3.0 ที่น่าจับตามองเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ

1. Love Hate Inu – เหรียญ web 3.0 แบบ Vote-to-Earn โดยรวมที่ดีที่สุด

เหรียญ web 3.0  ที่เราแนะนำที่สุดในปี 2023 คือ $LHINU ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลักของ Love Hate Inu สำหรับระบบนิเวศ vote-to-earn เหรียญคริปโตในปัจจุบัน โดยนักลงทุนสามารถซื้อโทเค็นนี้ได้ในราคาที่ถูกลง 52% ในช่วง Pre-sale ก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้น 

โปรเจกต์ web 3.0 นี้เป็นโปรเจกต์แรกที่ใช้ Blockchain ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถได้ประโยชน์จากเหรียญคริปโตเพื่อเข้าร่วมโอกาสในการโหวตทางออนไลน์ ใน Love Hate Inu สมาชิกสามารถ Stake $LHINU และโหวตในแบบสำรวจมีมซึ่งมีตั้งแต่หัวข้อที่น่าสนใจ เช่น ความบันเทิง การเมือง และประเด็นทางสังคม 

ผู้ใช้ต้อง Stake $LHINU เพื่อเข้าถึงการโหวตผ่านฟีเจอร์อินเทอร์เฟซผู้ใช้ โดยในฐานะแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย สัญญาอัจฉริยะของ Love Hate Inu ได้รับการตรวจสอบโดย SolidProof ยิ่งไปกว่านั้น Love Hate Inu ใช้ประโยชน์จากการ Stake แบบเรียลไทม์เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการฉ้อโกงในระหว่างกระบวนการโหวต 

เอกสารข้อมูล Love Hate Inu อธิบายว่าสมาชิกจะได้รับอนุญาตให้สร้างและโฮสต์แบบสำรวจความคิดเห็นผ่านฟีเจอร์แพลตฟอร์มการส่งคะแนนเสียง ฟีเจอร์นี้คาดว่าจะเปิดตัวภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาว Love Hate Inu ยังวางแผนที่จะรวมโลก Metaverse ที่หลากหลายเข้ากับระบบนิเวศอีกด้วย 

Love Hate Inu เป็นเหรียญคริปโตยอดนิยมที่มีผู้ติดตามมากกว่า 30,000 คนบน Twitter การ Pre-sale ยังขายเหรียญได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากระดมทุนได้มากกว่า 2 ล้านเหรียญในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยการ Pre-sale ได้จัดสรร 90% ของจำนวนโทเค็นที่ 100 พันล้านโทเค็น 

ดังนั้นใครที่สนใจในโปรเจกต์ก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะซื้อ $LHINU ก่อนที่การ Pre-sale จะสิ้นสุดลง ปัจจุบัน $LHINU อยู่ในช่วง Pre-sale รอบที่สามจากทั้งหมดแปดรอบ โดยมีราคาอยู่ที่ $0.000095 ต่อโทเค็น 

ราคาจะเพิ่มขึ้น 52% เป็น 0.000145 ดอลลาร์ใน Pre-sale รอบสุดท้าย ซึ่ง Love Hate Inu ตั้งเป้าหมายที่จะระดมทุนมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ก่อนจะสิ้นสุดช่วง Pre-sale ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่อง Telegram เพื่อติดตามความคืบหน้าล่าสุดของโปรเจกต์ Love Hate Inu 

เริ่มพรีเซลล์	8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
เพดานเงินทุน	$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำ	ไม่มี
ลงทุนสูงสุด	ไม่มี

ไปยัง Love Hate Inu Presale

2. DeeLance – แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์บน Web 3.0 พร้อม Pre-sale โทเค็นที่กำลังเปิดขาย

DeeLance เป็นแพลตฟอร์มการจัดหางานฟรีแลนซ์บน Web 3.0 ที่แก้ปัญหาต่างๆ เช่น เรื่องความโปร่งใสที่ต่ำและค่าธรรมเนียมที่สูง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมฟรีแลนซ์ โดยศูนย์กลางของระบบนิเวศคือ $DLANCE ซึ่งเหรียญคริปโตหลักที่มีให้ซื้อในช่วง Pre-sale 

DeeLance นำเสนอสภาพแวดล้อมในโลก Metaverse ซึ่งฟรีแลนซ์มืออาชีพสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าที่ดีที่สุด ผ่านล็อบบี้ Metaverse และสำนักงาน โดยทั้งสองฝ่ายสามารถเข้าร่วมการประชุมและทำงานร่วมกันได้ 

สมาชิกยังสามารถใช้ประโยชน์จากโทเค็น $DLANCE เพื่อซื้อที่ดินและเช่าพื้นที่สำนักงานบน Metaverse ผ่านทางตลาด NFT โดย DeeLance จะให้ฟรีแลนซ์สามารถแปลงงานของพวกเขาเป็น NFT ดังนั้นจึงมีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์เมื่อโอนความเป็นเจ้าของจากฟรีแลนซ์ไปยังลูกค้า นอกจากนี้ ตลาด NFT ยังนำเสนอแค็ตตาล็อกและตู้โชว์สินค้าเพื่อให้สมาชิกสามารถซื้อผลงานอื่นๆ ได้ 

ฟรีแลนซ์ยังสามารถรับประโยชน์จากบริการชำระเงินเอสโครว์ ซึ่งรับประกันการชำระเงินเมื่องานเสร็จสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DeeLance รองรับตัวเลือกการชำระเงินด้วยเหรียญคริปโต ซึ่งทำให้การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นในทันที 

เมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ที่ดีที่สุด เช่น Upwork และ Fiverr แล้ว DeeLance นั้นคิดค่าธรรมเนียมถูกที่สุด ฟรีแลนซ์จะถูกคิดค่าคอมมิชชั่น 10% โดยเฉลี่ย ในขณะที่ลูกค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพียง 2% เท่านั้น 

DeeLance ยังวางแผนที่จะสร้างระบบการศึกษาของตนเอง ซึ่งสมาชิกสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบดังกล่าวและวิธีการทำงานของ Web 3.0 และโลก Metaverse แพลตฟอร์มนี้จะดำเนินการพันธมิตรและแอมบาสเดอร์เพื่อโปรโมทแพลตฟอร์ม 

การ Pre-sale ของโทเค็น $DLANCE จะมีทั้งหมดสามรอบ ปัจจุบัน $DLANCE มีราคาอยู่ที่ $0.025 ต่อโทเค็นในรอบแรก อย่างไรก็ตาม ราคาจะพุ่งไปที่ $0.030 ในรอบสุดท้าย หลายคนจึงอาจต้องการซื้อ $DLANCE ในราคาที่ถูกกว่านั่นเอง 

DeeLance ระดมทุนได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์ตั้งแต่ช่วง Pre-sale เริ่มต้น และมีเป้าหมายที่จะระดมทุนสูงสุด 6 ล้านดอลลาร์ ผู้ใช้สามารถอ่านเอกสารข้อมูลของ DeeLance และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ 

เริ่มพรีเซลล์	30 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

3. Ecoterra – เหรียญคริปโต Recycle2Earn มาใหม่ที่น่าซื้อในช่วง Pre-sale

เหรียญ web 3.0 ชั้นนำที่น่าซื้อในปี 2023 คือ $ECOTERRA – โทเค็นหลักของ Ecoterra แพลตฟอร์มเหรียญคริปโตเคอเรนซี่แบบยั่งยืน ผ่านแพลตฟอร์มนี้ บริษัทและบุคคลทั่วไปสามารถรีไซเคิลของเสีย ชดเชยการปล่อยมลพิษ และรับรางวัลโทเค็นสำหรับกิจกรรมการรักษาสิ่งแวดล้อม 

ขณะนี้อยู่ในรอบที่หนึ่งของการ Pre-sale ทั้งเก้ารอบ $ECOTERRA พร้อมให้ซื้อในราคาต่ำสุด เหรียญ web 3.0 นี้เป็นเหรียญคริปโตที่ใช้ Blockchain เหรียญแรกที่ให้สมาชิกได้รับรางวัลสำหรับการรีไซเคิล หนึ่งในองค์ประกอบหลักคือแอพพลิเคชัน Recycle2Earn ของ Ecoterra ซึ่งสมาชิกสามารถฝากขยะโดยใช้ RVM (เครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล) 

หลังจากรีไซเคิลผ่านเครื่องดังกล่าว ผู้ใช้สามารถสแกนธุรกรรมผ่านแอพ EcoTerra และรับโทเค็น $ECOTERRA จำนวนหนึ่ง โทเค็นสามารถ Stake ในระบบนิเวศเพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟอีกด้วย 

หนึ่งในเหรียญคริปโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โปรเจกต์ Ecoterra ยังให้สมาชิกใช้โทเค็นเพื่อร่วมลงทุนด้านพลังงานสีเขียว สามารถใช้โทเค็นเพื่อปลูกต้นไม้และช่วยทำความสะอาดมหาสมุทร 

ด้วยตลาดการชดเชยคาร์บอนของ Ecoterra ธุรกิจและผู้ใช้แต่ละรายสามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนได้ โดยสมาชิกแต่ละคนสามารถติดตาม ‘คะแนนการรักษ์โลก’ ของตนในระบบนิเวศ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณดำเนินกิจกรรมการรักษาสิ่งแวดล้อม 

บริษัทต่างๆ สามารถทำงานบนเศรษฐกิจหมุนเวียนและติดตามกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมดภายในระบบนิเวศเดียวกัน โดยธุรกิจต่างๆ สามารถซื้อผลิตภัณฑ์รีไซเคิลได้โดยตรงผ่านตลาดวัสดุรีไซเคิลด้วยโทเค็น $ECOTERRA 

ปัจจุบัน $ECOTERRA มีราคาอยู่ที่ $0.004 ใน Pre-sale รอบแรก และราคาจะเพิ่มขึ้น 150% เป็น $0.01 ในรอบสุดท้าย โดยตั้งแต่เริ่ม Pre-sale เหรียญ Ecoterra ระดมทุนได้แล้วกว่า 470,000 ดอลลาร์ 

อ่านเอกสารข้อมูล Ecoterra และเข้าร่วมช่อง Telegram เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์รักษ์โลกดังกล่าว 

เริ่มพรีเซลล์	29 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Ecoterra Presale ตอนนี้

4. Metropoly – เหรียญคริปโตที่มีโอกาสเติบโตสูงที่สุดในปี 2023 

Metropoly เป็นโปรเจกต์ Web 3.0 ล่าสุดที่จะมาดึงดูดความสนใจในตลาด โดยโปรเจกต์กำลังสร้างตลาด NFT แห่งแรกที่ให้คุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้โดยไม่ต้องมีธนาคาร ค่าธรรมเนียมแอบแฝง หรือข้อจำกัดด้านที่อยู่ โดยจะเหมาะกับทุกคนที่พยายามลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ สร้างรายได้แบบพาสซีฟ กระจายความเสี่ยง และปกป้องเงินของตนจากภาวะเงินเฟ้อ

หากคุณใช้เวลาสองเดือนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยวิธีแบบเดิมๆ Metropoly จะใช้เวลาเพียงแค่ 20 วินาทีเท่านั้น

เป็นไปได้ยังไง?

Metropoly Real Estate NFT ได้รับการสนับสนุนโดยสินทรัพย์ในโลกจริงที่แบ่งออกเป็นสัดส่วน ด้วย NFT แบบสัดส่วนเหล่านี้ ทุกคนสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ในราคาเพียง $100 ซึ่งเจ้าของ NFT จะได้รับรายได้ค่าเช่ารายเดือนและได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของมูลค่าในระยะยาว เช่นเดียวกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ REAL โดยไม่ต้องยุ่งยากกับงานเอกสาร การบำรุงรักษา และการหาผู้เช่ารายใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์เหล่านี้ได้ตลอดเวลาที่คุณต้องการในตลาด

หากคุณวางแผนที่จะกระจายความเสี่ยงในสิ่งที่ปลอดภัยและจับต้องได้ โทเค็นของ Metropoly และ NFT ก็เป็นทางเลือกที่ดี Metropoly ขับเคลื่อนโดยโทเค็น METRO ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการ Presale พร้อมส่วนลดมากมาย โดยโทเค็นจะเพิ่มราคาอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ได้กำไรสูงถึง 300% เมื่อเปิดตัว ใช้รหัสโบนัส Launch20 เพื่อรับโทเค็นเพิ่มอีก 20% สำหรับการซื้อของคุณ

หากคุณถือ METRO มูลค่า $100 คุณจะมีสิทธิ์เข้าร่วมการแจกของรางวัลที่น่าตื่นเต้นพร้อมของรางวัลสุดคุ้ม เช่น อพาร์ตเมนต์ Burj Khalifa มูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ  ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากค่าเช่าได้มากถึง 100,000 เหรียญสหรัฐต่อปี

โทเค็น	METRO
Blockchain	Ethereum (ERC-20)
จำนวน	1 พันล้าน
เป้าหมายพรีเซลล์ขั้นต่ำ	$500,000
สกุลเงินที่รองรับ	USDT, ETH, BNB
การลงทุนขั้นต่ำ	$100
เปิดตัวโทเค็น	หลังจากพรีเซลล์หมดหรือวันที่ 1 เมษายน 2023

โทเค็น METRO จะเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในอุดมคติเมื่อพิจารณาจากความสามารถระดับสูงของโปรเจกต์และทีมงาน ตัวอย่างเช่น Metropoly Marketplace Beta ก็เปิดให้ทดลองใช้งานได้แล้ว เป็นการปลุกความเชื่อมั่นในเส้นทางข้างหน้าสำหรับโปรเจกต์นี้ โดยสัญญาของ Metropoly ได้รับการตรวจสอบโดย CertiK ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการแฮ็กและการหาประโยชน์ใดๆ อีกด้วย

Metropoly ยังเป็นพันธมิตรกับ ChainAdoption ซึ่งทำงานร่วมกับ Polkadot, Tron และ EOS อีกหนึ่งพันธมิตรที่น่าสนใจคือ Tenset ซึ่งได้สนับสนุนโปรเจกต์อย่าง Metahero และ Everdome Coin ซึ่งทั้งสองโปรเจกต์นี้ทำเงินได้มากกว่า 20 เท่าหลังจากเปิดตัว

ซื้อ METRO ตอนนี้

5. RobotEra –  เหรียญ web 3.0 Metaverse Gaming แนว P2E

RobotEra เป็นแพลตฟอร์มปฏิวัติที่ผสมผสานโลกเสมือนจริงเข้ากับโอกาสในการสร้างรายได้สำหรับผู้ใช้ภายในระบบนิเวศ โครงการนี้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนนำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงสำหรับผู้ใช้ ผู้เล่นสามารถขยายทรัพย์สินดิจิทัลของตนและมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ถูกทำลายขึ้นใหม่ภายในเกมผ่านการเล่นเกมแบบโต้ตอบได้

แพลตฟอร์มดังกล่าวดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้และนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโครงการระดมทุนได้เกือบ 1,112,331 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงพรีเซลปัจจุบัน โทเค็นหลักของโครงการ $TARO คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าราคาจะสูงถึง $0.025 USDT ในระยะถัดๆไป

RobotEra เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ซ้ำใครที่ช่วยให้บุคคลสามารถสร้าง แจกจ่าย และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในชุมชน NFT ต่างๆ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างจักรวาลเสมือนจริงที่ผสมผสานความบันเทิง ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ความคิดสร้างสรรค์ และการสำรวจเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

แพลตฟอร์มของ RobotEra ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสำรวจโลกเสมือนจริงที่แตกต่างกันและมอบกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมายให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วม ซึ่งอาจรวมถึงสวนสนุกเสมือนจริง พิพิธภัณฑ์เสมือนจริงที่ทันสมัย และประสบการณ์ที่น่าดึงดูดอื่นๆ ภายในระบบนิเวศของ RobotEra

บน RobotEra ผู้เล่นมีโอกาสมากมายที่จะได้รับรายได้พิเศษ พวกเขาสามารถขยายรายได้โดยการซื้อขาย NFT ถือครองและ stake โทเค็นของแพลตฟอร์ม ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง และมีส่วนร่วมในกิจกรรมการขุด

ประสิทธิภาพการขายล่วงหน้าของ $TARO

ขั้นตอนการขายเบื้องต้นสำหรับ RobotEra นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีการขายโทเค็นกว่า 36 ล้านโทเค็นจาก 90 ล้านโทเค็นที่ตั้งเป้าไว้ ปัจจุบัน โทเค็น $TARO สามารถซื้อได้ในอัตราส่วนลดที่ $0.02 USDT

เอกสารข้อมูลของโครงการให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจฟังก์ชันการทำงานของ RobotEra อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ พวกเขาสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้โดยเข้าร่วมช่องทาง Telegram อย่างเป็นทางการ

ไปยัง RobotEra ตอนนี้

6. Swords of Blood – เกมสวมบทบาทที่ดีที่สุดที่เปิดตัวบน Polygon 

Swords of Blood เป็นเกมสวมบทบาท F2P แฮ็คแอนด์สแลชคุณภาพระดับ AAA เกมแรกที่เปิดตัวบน Polygon ซึ่งมีระบบการต่อสู้ที่ฉูดฉาด กราฟิกที่โดดเด่น และโหมดเกมที่หลากหลาย – พร้อมที่จะคว้าหัวใจของนักเล่นเกมคริปโตตัวยง Swords of Blood สร้างขึ้นจากเกมที่ได้รับรางวัลซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 โดย Artifex Mundi แต่เวอร์ชันก่อนหน้านี้ถูกจำกัดไว้สำหรับมือถือและไม่สมบูรณ์ ตอนนี้ตัวเกมกำลังกลับมาพร้อมกับความน่าเล่น พร้อมขยายรากฐานสู่ Web 3.0 ในตอนนี้

เนื้อเรื่องของ Swords of Blood เกี่ยวข้องกับการล่มสลายอันโหดร้ายของ World of Ezura ซึ่งนำมาซึ่งความรุนแรง การหักหลัง และความชั่วร้าย ความมืดได้เข้าครอบงำ Ezura แล้ว ในฐานะคนสุดท้ายของ Bladebound หน้าที่ของคุณคือนำประกายแสงแห่งความหวังมาสู่ดินแดนรกร้าง คุณสามารถเป็นนักผจญดันเจี้ยนที่ไม่เกรงกลัวใคร นักต่อสู้เพื่อล่าเงินรางวัล หรือนักรบผู้ทรงพลังที่คุ้ยหาสมบัติและอุปกรณ์หายาก

MVP ของ Swords of Blood สามารถเล่นได้แล้วและมีโหมดเกมมากมาย เช่น ดันเจี้ยนแคมเปญหลัก ดันเจี้ยนล่ามอนสเตอร์ (ที่คุณต้องสู้กับมอนสเตอร์เป็นเวฟที่จะยากขึ้นเรื่อย ๆ) และป้อมบอส (ที่คุณร่วมทีมกับผู้เล่นอีกสี่คนเพื่อต่อสู้ ต่อสู้กับผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจ) ท้ายที่สุดแล้ว โปรเจกต์ต้องการกลายเป็นเกม MMORPG ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง เนื่องจากโหมดเกมปัจจุบันจะเชื่อมต่อถึงกันและเพิ่มฟีเจอร์ผู้เล่นหลายคน เช่น ทัวร์นาเมนต์ แคลน และองค์กรคริปโต

เกมเล่นฟรีนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดผู้เล่นทั่วไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยนำเสนอกลไกแบบ Play-To-Win และ Play-to-Own โดยไม่ว่าวิธีการหลักในการดึงดูดผู้เล่นใหม่จะเป็นอย่างไร คุณก็สามารถสร้างรายได้จากระบบนิเวศโดยการเล่นเกม มีส่วนร่วมในชุมชน เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ และผลิตไอเท็มในตำนานและขายเป็น NFT (หรือ GUT – Game Utility Tokens)

Hit Box Games LLC ได้รับสิทธิ์ไม่จำกัดในการเผยแพร่เกมด้วยฟีเจอร์ชั้นนำ เช่น:

• โหมด PVP 4, 8 และ 16 ผู้เล่น
• ทัวร์นาเมนต์ E-Sport ขนาดเล็ก
• แพ็กเสริม 150 ชั่วโมง (เขียนโดยทีมงานที่เคยพัฒนา Cyberpunk, The Witcher, Gord, Command and Conquer และ Ghost Recon)
• คอมมิวนิตี้ที่มีกิลด์และแคลน
• G.U.T ซึ่งเป็น Utility Token ของเกม (NFT)
• การชำระเงินด้วย Blockchain และสกุลเงินทั่วไป

Swords of Blood จะเปิดตัวเป็นทั้งเกมบนมือถือ (Android และ iOS) และเดสก์ท็อปแบบ cross-play โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นเกตเวย์สำหรับนักเล่นเกมคริปโตแบบดั้งเดิมในการนำเกม Web 3.0 มาใช้อย่างง่ายดายโดยมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ คล้ายกับเกมเล่นฟรีอื่นๆ

Swords of Blood ได้รับการสนับสนุนจาก Fundamental Labs, Solana Ventures, Master Ventures, Gate.io Labs และ Magnus Capital เป็นต้น และทีมนี้นำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเกมอย่าง CEO James Seaman ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 35 ปีในอุตสาหกรรมเกม

ช่องทางการลงทุนที่ดีที่สุดสู่ Swords of Blood คือ Pre-sale $SWDTKN ในเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งแบ่งออกเป็นสามรอบ โดยราคาจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น $SWDTKN เป็นเหรียญคริปโตหลักของแพลตฟอร์ม ความจริงที่ว่าผู้ถือโทเค็น Pre-sale และนักลงทุนจะมีสิทธิ์พิเศษในการเข้าถึงช่วง Closed Beta ของเกมและสิทธิพิเศษอื่น ๆ (เช่น การขึ้นบัญชีขาวอัตโนมัติสำหรับการขาย NFT และการแจกของรางวัล) ที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเกมนี้

ไปยัง Swords of Blood ตอนนี้

7. Securedverse – โทเค็นเกม Web 3.0 ที่ดีที่สุดของปี 2023

ถัดไปในรายการเหรียญ web 3.0 ที่ดีที่สุดที่จะซื้อในปีนี้คือ Securedverse – เกมใหม่ที่ใช้ Blockchain ซึ่งปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยการนำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัย สนุก และได้รางวัล ภายในเกม คุณสามารถรับเหรียญคริปโตจากการเล่น, stake, และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ

จะมีฮีโร่ที่ไม่ซ้ำกันสี่ตัวใน Securedverse ซึ่งแต่ละตัวมีทักษะและความสามารถที่แตกต่างกันไป คุณสามารถเลือกฮีโร่ของคุณและเข้าร่วมการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นในโหมดเกมและแผนที่ต่างๆ แม้ว่าจะมีเกม Blockchain มากมาย แต่ด้วยกราฟิกที่สมจริง เอฟเฟกต์เสียง และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Securedverse ทำให้เกมนี้แตกต่างจากตลาดที่มีเกมอยู่เต็มไปหมด

Securedverse ได้สร้างรากฐาน Blockchain สำหรับเกมเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย โปร่งใส และปลอดภัยต่อการฉ้อโกง เนื่องจากการทำธุรกรรมทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ใน ระบบนิเวศ ซึ่งข้อมูลและทรัพย์สินของคุณจึงปลอดภัยในระบบนิเวศ

เหรียญคริปโตหลักของ Securedverse คือ SVC ซึ่งอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมและกิจกรรมในเกมที่แตกต่างกันในระบบนิเวศ โดยโทเค็นจะสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลงในช่วง Pre-sale ที่น่าสนใจคือการซื้อในช่วง Pre-sale จะไม่มีระยะเวลาการล็อก ซึ่งทำให้ SVC เป็นหนึ่งในโทเค็นช่วงต้นที่ดีที่สุดที่จะซื้อตอนนี้

• คุณสามารถรับเหรียญ SVC ผ่านระบบกระดานผู้นำ
• SVC มีทั้งระบบแบบเล่นฟรีและเล่นแล้วได้เงิน
• คุณสามารถรับเหรียญ SVC ในโหมดเกมต่างๆ ได้หลังจากช่วง pre-alpha
• คุณยังสามารถ stake ได้ในอนาคต

แผนงานของ Securedverse แบ่งออกเป็นช่วงต่างๆ เช่น การเพิ่มฮีโร่ใหม่ แผนที่ และโหมดเกม นอกจากนี้ยังจะเปิดการ stake และเปิดตัวกิจกรรมพิเศษไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ทีมงานกำลังพัฒนาเกมเวอร์ชันเสมือนที่จะยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมไปอีกขั้น หากแพลตฟอร์มดังกล่าวประสบความสำเร็จในการนำเสนอรูปแบบการเล่นและระบบรางวัลตามที่วางแผนไว้ แพลตฟอร์มดังกล่าวมีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในเกม Blockchain ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาด

ทางทีมงานได้ประกาศแล้วว่าตัวเกมพร้อมเปิดตัวแล้ว จะเริ่มวางจำหน่ายเร็วๆ นี้หลังจากสิ้นสุดการ Pre-sale

Securedverse นำโดยทีมงานที่มีประสบการณ์มากมายในอุตสาหกรรมเกม โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าดึงดูดและเพลิดเพลินสำหรับผู้ใช้ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นใน Securedverse คือโทเค็นสัญญาอัจฉริยะได้รับการตรวจสอบโดย Coinsult อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ โปรเจกต์และทีม KYC ยังได้รับการยืนยันโดย Coinsult และ Coinsniper แล้วนั่นเอง

อุปทานทั้งหมด	700 ล้าน $SVC
จำนวนเหรียญ Pre-sale	140 ล้าน $SVC
รอบที่ 1 – 35 ล้าน $SVC	1 USDT = 69 $SVCราคา: 0.0143 USDT
รอบที่ 2 – 35 ล้าน$SVC	1 USDT = 53 $SVCราคา: 0.0186 USDT
รอบที่ 3 — 35 ล้าน $SVC	1 USDT = 43 $SVCราคา: 0.023 USDT
รอบที่ 4 — 35 ล้าน $SVC	1 USDT = 33 $SVCราคา: 0.03 USDT

[/su_button]

ไปยัง Securedverse ตอนนี้

8. Tamadoge – แอพเกมคริปโต Web 3.0 มาใหม่

หนึ่งในสิ่งดึงดูดหลักของโลก Web 3.0 คือความสามารถในการทำเงินออนไลน์ง่ายๆ จากที่บ้าน และสิ่งที่ได้รับความนิยมที่สุดใน Web ดังกล่าวคือแอพ play to earn ที่ให้ผู้ใช้รับเหรียญคริปโตฟรีๆ

Tamadoge (TAMA) เป็นเหรียญคริปโต P2E ล่าสุดที่เปิดตัวในตลาด และเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Doge ที่เป็นที่นิยม

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โทเค็นมีมอย่าง Dogecoin และ Shiba Inu นั้นมีพื้นฐานมาจากกระแสเป็นส่วนใหญ่และพยายามรักษามูลค่าของเหรียญไว้ในระยะยาว แต่ Tamadoge เป็นโทเค็นคริปโตอเนกประสงค์ที่รวมเอาการเล่นเกมเข้ากับเทคโนโลยีแบบกระจายอำนาจ

Tamadoge เป็นเหรียญคริปโตหลักของ Tamaverse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม play-to-earn (P2E) ที่ให้ผู้เล่นได้รับรางวัลใน TAMA โดยแจกจ่ายผ่านเงินรางวัลรวม โดยความแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างระหว่าง Tamadoge และเหรียญคริปโตอื่นๆ เช่น Doge คือก่อนหน้านี้เป็นสินทรัพย์ที่อุปทานจะลดลง ซึ่งอุปทานของ TAMA จะลดลงเนื่องจาก 5% ของ Tamadoge ที่ใช้ไปทั้งหมดจะถูกเผาทิ้งไปตลอดกาล

นั่นคือการมุ่งเน้นในระยะยาว โดยผู้พัฒนาเกมวางแผนที่จะเก็บ 20% ของโทเค็นทั้งหมดสำหรับการลิสต์เหรียญลงกระดานแลกเปลี่ยน ส่วนที่เหลืออีก 30% จะถูกปลดล็อกในช่วงระยะเวลา 10 ปีผ่านการดำเนินการสร้างเหรียญ

สิ่งที่ดึงดูดใจหลักของแพลตฟอร์มนี้คือ Tamadoge Pets – อวตาร์ NFT ที่ไม่เหมือนใครผ่านสัญญาอัจฉริยะ โดยผู้ใช้สามารถซื้ออวาตาร์เหล่านี้ได้จากร้านค้า Tama ผ่านโทเค็น TAMA นอกเหนือจากการซื้อสัตว์เลี้ยงโทเค็นเหล่านี้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถซื้อไอเท็มเพื่อให้ของเล่นและทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีขึ้นและเก่งมากขึ้น

ภารกิจในอนาคตอีกอย่างหนึ่งคือการเปิดตัวแอพ Tamadoge ซึ่งจะใช้ Augmented-Reality (AR) เพื่อรักษาไดนามิก P2E จากแพลตฟอร์มบนเว็บ โดย Solid Proof และ CoinSniper ก็ได้ตรวจสอบ Tamadoge แล้ว ซึ่งผู้ใช้ที่สนใจสามารถซื้อ TAMA บน OKX และ NFT บน OpenSea

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

9. Battle Infinity – เหรียญคริปโตใหม่บน Metaverse ที่กำลังจะเกิดขึ้น

หลังจากตรวจสอบโทเค็นอันดับต้น ๆ ที่เกี่ยวกับ เหรียญ web 3.0 แล้ว เรายกให้ Battle Infinity เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตใหม่ที่น่าลงทุนที่สุด ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีบล็อกเชน เรากำลังเห็นโครงการ metaverse เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ส่งเสริมการเล่นเกมแบบ Play-to-Earn (P2E)

Battle Infinity เป็นโครงการ decentralized ซึ่งให้ผู้ใช้และผู้สร้างมีพื้นที่ Battle Arena ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์ม metaverse ที่ได้ปรับใช้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าร่วมเกม P2E ที่แตกต่างกันถึง 6 เกม ศูนย์กลางของ Battle Infinity คือ IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นที่ใช้ในแพลตฟอร์ม โทเค็น IBAT สร้างขึ้นบน Binance Smart Chains (BSC) และเป็นโปรโตคอล BEP-20

โทเค็นใช้เป็นรางวัลในเกมสำหรับผู้เข้าร่วม และยังสามารถใช้ stake ใน liquidity pools เพื่อแลกกับคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆ นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถซื้อที่ดินเสมือนจริงที่เป็น NFT ในเกม P2E ได้ด้วยเหรียญ IBAT

หนึ่งในเกมที่มีอยู่ใน Battle Arena คือ IBAT Premier League ซึ่งเป็นเกมแฟนตาซีเกี่ยวกับกีฬาที่ใช้บล็อกเชนแบบ decentralized เกมแรกของโลก ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมในการแข่งขันโดยการซื้อ NFT  หรือทำการ Stake IBAT และสามารถสร้างทีมเพื่อต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นได้

แพลตฟอร์ม Battle Infinity ยังวางแผนที่จะขยายคอมมูนิตี้ – โดยวางแผนที่จะเปิดตัวใน PancakeSwap และ DEX อื่นๆ นอกจากนี้ เครือข่ายที่กระจายศูนย์ต้องการเพิ่มการขายที่ดินหลายๆ NFT  ปรับใช้สัญญาอัจฉริยะหลายรายการ และทำการตลาดโดยบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เราขอแนะนำ Battle Infinity Telegram Group ให้เป็นแหล่งที่ดีที่สุดในการติดตามข่าวสารและฟีเจอร์ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการอัปเดตของแพลตฟอร์ม

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

10. Ethereum – โปรเจกต์ Web 3.0 ชั้นนำTop Web 3.0 Project

Ethereum ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ Web 3.0 ชั้นนำ เหตุผลก็คือ Ethereum เป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศของ Web 3.0 อย่างที่เราทราบกันในปัจจุบัน ซึ่งด้านล่างมีคำอธิบายเพิ่มเติม โดยโปรเจ็กต์ Web 3.0 ชั้นนำจำนวนมากถูกสร้างขึ้นจริงบน Ethereum blockchain

ซึ่งรวมถึงเครือข่ายการเงินแบบ decentralized ทั้งเหรียญ metaverse, DApps และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของระบบนิเวศ Ethereum คือการให้ทุกคน รวมถึงโครงการ Web 3.0 สามารถสร้างและปรับใช้สัญญาอัจฉริยะได้ จริงๆแล้ว Ethereum เป็นเหมือนแหล่งรวมของข้อตกลงสัญญาอัจฉริยะมากกว่าโครงการ crypto อื่น ๆ

ในแง่ของเหรียญของ Ethereum นั้น เหรียญคริปโตนี้เป็นโครงการที่ใหญ่เป็นอันดับสองในแง่ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรองลงมาจาก Bitcoin นอกจากนี้ Ethereum ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลา 5 ปี มูลค่าของ Ethereum เพิ่มขึ้นเกือบ 5,000%

ซื้อ Ethereum ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง

11. Uniswap – หนึ่งในโทเค็นเว็บ 3.0 ที่ดีที่สุด สำหรับการเทรด

คำที่คุณพบบ่อยเมื่อค้นหาเหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุดที่จะซื้อคือ ‘การกระจายอำนาจ’ โดยสรุป การกระจายอำนาจหมายถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีตัวกลางจากบุคคลที่สามเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม และในกรณีของ Uniswap คือโปรเจ็กต์ที่มีคะแนนสูงสุดนี้เป็นศูนย์กลางของการซื้อขายแบบกระจายอำนาจ

นี่เป็นเพราะแพลตฟอร์ม Uniswap ที่สร้างขึ้นบน Ethereum blockchain ทำให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถซื้อและขายเหรียญคริปโต ในลักษณะการกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่าไม่มีข้อกำหนดในการแลกเปลี่ยนแบบมีตัวกลางเพื่อเข้าถึงตลาดสกุลเงินดิจิทัลอีกต่อไป

และ Uniswap ทำหน้าที่ในระบบนิเวศในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ (AMM) โปรโตคอลที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะมากำจัดระบบการสั่งซื้อแบบเดิมๆ และสร้างราคาโทเค็นแบบเรียลไทม์แทนผ่านตัวชี้วัดหลักอื่นๆ เช่น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดและปริมาณการซื้อขาย หากต้องการลงทุนในเหรียญ Web 3.0 นี้ – คุณสามารถซื้อโทเค็นของ Uniswap ได้

ซื้อ Uniswap ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง

12. Basic Attention Token – เหรียญ web 3.0 ชั้นนำ ที่สนับสนุนอนาคตของการตลาดออนไลน์

นักวิจารณ์ตลาดหลายคนเชื่อว่าการปฏิวัติระบบนิเวศของ Web 3.0 คือการตลาดดิจิทัล ในปัจจุบัน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเต็มถูกสื่อโฆษณาถาโถมมากมาย เมื่อเข้าดูเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งโฆษณาส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการและความสนใจของผู้ใช้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเอเจนซี่การตลาดจะจ่ายเงินให้เว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณา แต่รายได้นี้ไม่ได้มอบให้ผู้ดูโฆษณาแม้แต่น้อย และนี่คือจุดที่ Basic Attention Token ต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลง โปรเจกต์นี้ชั้นนำนี้ – หากผู้ใช้ใช้งานผ่านเบราว์เซอร์นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับเหรียญคริปโตได้จากการดูโฆษณา

โดยโฆษณาเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับผู้ใช้ ในแง่ของผลิตภัณฑ์และบริการที่ผู้ใช้สนใจ จากมุมมองของเอเจนซี่การตลาดดิจิทัล Basic Attention Token ช่วยให้มั่นใจว่ามีการใช้เงินโฆษณาอย่างเหมาะสม คุณสามารถได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ Basic Attention Token โดยการซื้อเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า ‘BAT’

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง

เหรียญ web 3.0 อื่น ๆ ที่กำลังมาแรงตอนนี้

เหรียญ web 3.0 ที่ออกใหม่ซึ่งเพิ่งลิสบน eToro คือ Biconomy (BICO) เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับนักพัฒนา web 3.0 และธุรกิจต่างๆ ให้กับผู้ใช้โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำ

ส่วนเหรียญคริปโตอื่นที่มีโอกาสเติบโตคือ SafeMoon ซึ่งเป็นโปรโตคอลการให้สภาพคล่องแบบอัตโนมัติ เหรียญนี้มีจุดมุ่งหมายวางแผนที่จะสร้างกระดานแลกเปลี่ยน NFT  และแอพเพื่อการศึกษาคริปโต สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดอ่านบทความของเรา การคาดการณ์ราคา SafeMoon

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในปี 2023 คือ RadioCaca (RACA) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกม web 3.0 (GameFi) และแพลตฟอร์ม NFT

เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2023

หากคุณกำลังตามหาเหรียญ Web 3.0 เพื่อซื้อเก็บไว้ลงทุนเพราะคุณกำลังมองหาโทเค็นที่มีโอกาสเติบโตสูงที่สุด คุณอาจต้องลองถอยมามองภาพรวมก่อน เนื่องจากในรูปแบบปัจจุบัน ระบบนิเวศของ Web 3.0 นั้นอิ่มตัวมากเกินไป เนื่องจากมีโทเค็นเหรียญคริปโต Web 3.0 มากมายที่แต่ละเหรียญมีเป้าหมายเหมือนๆกัน

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องท้าทายที่จะทราบว่าโครงการใดจะมีอิทธิพลเหนือภาคส่วน Web 3.0 ของตน ในระหว่างนี้ หากคุณสงสัยว่าจะซื้อเหรียญใดในปี 2023 เพื่อมูลค่าระยะยาว คุณควรพิจารณาที่ Meta Masters Guild โครงการนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ และแนวคิดหลักคือการให้รางวัล P2E สูงแก่ผู้ใช้สำหรับการเล่นเกมที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และก็ยังเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตราคาไม่ถึงบาทที่ดีที่สุด

ซื้อ Love Hate Inu ยังไง

ในส่วนด้านบน เราได้กล่าวถึงว่าทีมงานของเราแนะนำว่า Love Hate Inu เป็นเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดโดยรวมที่น่าซื้อในปี 2023 เนื่องจากมีโอกาสในการเติบโตสูงมาก

หากคุณต้องการสัมผัสกับระบบเกมแบบกระจายศูนย์ของโครงการ ให้ทำตามคำแนะนำทีละขั้นตอนด้านล่างเพื่อซื้อโทเค็น $LHINU ตอนนี้

ขั้นตอนที่ 1: มี Crypto Wallet

ขั้นตอนแรกคือการตรวจสอบว่าคุณมีกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เข้ากันได้ เช่น MetaMask หรือ TrustWallet คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งกระเป๋าเงินเหล่านี้ได้โดยไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ขั้นตอนที่ 2: การเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

หลังจากดาวน์โหลดกระเป๋าเงินที่คุณเลือกแล้ว ให้ตั้งค่าบัญชีใหม่ จากนั้นไปที่หน้าการขายรอบพรีเซลของ $LHINU และคลิกที่ปุ่ม “เชื่อมต่อ Wallet” หลังจากเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณ คุณจะมีตัวเลือกให้เลือกระหว่าง MetaMask หรือ TrustWallet จากนั้น คุณจะสามารถสำรวจตัวเลือกการซื้อต่างๆ สำหรับ $LHINU

ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มเงินใน wallet

ก่อนทำการสั่งซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงินของคุณมียอดเงินคงเหลือเพียงพอ หน้าการขายรอบพรีเซลจะเสนอตัวเลือกการระดมทุนหลายทางให้คุณเลือก

คุณจะต้องเพิ่ม ETH/ USDT ในกระเป๋าเงินของคุณ หากคุณมี ETH ไม่เพียงพอ คุณสามารถใช้ Transak เพื่อรับ ETH ที่คุณต้องการเพื่อซื้อโทเค็น presale คุณยังสามารถซื้อ ETH หรือ USDT จากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตต่างๆ และโอนไปยังกระเป๋าเงินของคุณ

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อโทเค็น $LHINU

เมื่อกระเป๋าเงินของคุณเงินเข้าแล้ว คุณสามารถคลิก “ซื้อด้วย ETH” หรือ “ซื้อด้วย USDT” และป้อนจำนวนโทเค็น $FGHT ที่คุณต้องการแลกกับ ETH/USDT

ขั้นตอนที่ 5: ยืนยันและรับโทเค็น

หลังจากตรวจสอบค่าธรรมเนียมก๊าซแล้ว ให้อนุญาตการทำธุรกรรม คุณจะสามารถรับโทเค็นของคุณได้เมื่อการขายพรีเซลสิ้นสุดลงจากหน้าการรับโทเค็นอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม

ไปยัง Love Hate Inu ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง

เหรียญ web 3.0 คืออะไร?   

เพื่ออธิบายว่าเหรียญคริปโต web 3.0 คืออะไร เราต้องย้อนกลับไปเพื่อทำความเข้าใจการเติบโตของอินเทอร์เน็ตก่อน ซึ่ง web 1.0 หมายถึง อินเทอร์เน็ตเวอร์ชันเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1990 ที่ใช้เวลาในการดาวน์โหลดที่ช้ามาก

ต่อไป web 2.0 คือที่ใช้เราอยู่ทุกวันนี้ในแง่ของการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ข้อมูล 5g สมาร์ทโฟน และการสตรีมออนไลน์ ยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ตจะมาในรูปแบบของ web 3.0 ซึ่งจะนำเรา ไปสู่เทคโนโลยีระดับต่อไปที่เกิดขึ้นใหม่เช่น:

•       บล็อกเชน
•       สัญญาอัจฉริยะ
•       สกุลเงินดิจิตอล
•       การกระจายอำนาจศูนย์กลาง
•       ปัญญาประดิษฐ์
•       Machine Learning

ซึ่ง web 3.0 เกิดขึ้นได้จากเทคโนโลยีข้างต้นทั้งหมด และหากคุณต้องการลงทุนเพื่อตามเทรนด์อุตสาหกรรมนี้ คุณสามารถซื้อเหรียญคริปโต 3.0 ได้ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้  สุดท้ายแล้วทั้งสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนจะเป็นหัวใจของระบบนิเวศ web 3.0

ลงทุนในเหรียญ web 3.0 ดีไหม?   

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าซื้อเหรียญ web 3.0 ดีไหม คุณอาจจะต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ

จากการวิเคราะห์เหรียญ web 3.0 ที่ดีที่สุด นี่คือประโยชน์ในการลงทุน ดังนี้

การกระจายอำนาจศูนย์กลาง

ประโยชน์หลักของการลงทุนในเหรียญweb 3.0 คือคุณจะได้เข้าถึงโลก decentralization

นี่เป็นหัวใจหลักที่บิทคอยน์นำเข้ามาสู่ตลาดเป็นครั้งแรก โดยพื้นฐานแล้ว การกระจายอำนาจศูนย์กลางไม่ต้องการบุคคลที่สามเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม

ตัวอย่างเช่น อินเทอร์เน็ตในรูปแบบปัจจุบันต้องพึ่งพาผู้ให้บริการที่อยู่ระหว่างคุณและเว็บไซต์ นี่อาจเป็นปัญหาได้ เพราะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสามารถควบคุมการเข้าถึงเว็บของคุณได้

แต่ถ้าเป็น web 3.0 จะสามารถดำเนินงานได้แบบไม่ต้องพึ่งพาหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ข้อมูลเว็บไซต์จะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าไม่มีข้อจำกัดในการเข้าถึง

ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตและการเซนเซอร์เนื้อหา

ในระบบนิเวศ 3.0 ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องขออนุญาต ในการเข้าถึงบริการของเครือข่าย  ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลจะไม่สามารถจำกัดสิทธิการเข้าถึงเว็บไซต์ได้

• ตัวอย่างเช่น Google, YouTube และ Facebook ถูกแบนในประเทศจีน ซึ่งหมายความว่าผู้คน 1.4 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องผ่าน VPN
• ปัญหานี้มีอยู่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าถึงข่าวที่เชื่อถือได้จากแหล่งข่าวต่างประเทศ

โชคดี ที่ web 3.0 เป็นแบบทั้งกระจายศูนย์และไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าอินเทอร์เน็ตจะไม่ถูกเซนเซอร์อีกต่อไป

ศักยภาพในการเติบโต     

ข้อดีอีกประการของการซื้อเหรียญ Web3 คือศักยภาพในการเติบโต แต่ก็ขึ้นอยู่กับโครงการที่คุณตัดสินใจลงทุน มีโอกาสที่มูลค่าพอร์ตของคุณจะเติบโตไปพร้อมกับกับการพัฒนาระบบของเหรียญ  web 3.0

ตัวอย่างเช่น เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มูลค่าของ Ethereum ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 5,000% และในแพลตฟอร์ม Decentraland และโทเค็น MANA มูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 23,000% นับตั้งแต่วันเปิดตัวในปี 2017

นี่เป็นเพียงสองตัวอย่างจากหลายๆโปรเจกต์ อย่างไรก็ตาม คุณควรตระหนักว่าตลาด web 3.0 อาจอิ่มตัว ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันว่าคุณจะสร้างรายได้จากการลงทุนเหรียญคริปโตที่คุณเลือก และจะต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงของการสูญเสียเงินลงทุนอีกด้วย

กระจายความเสี่ยงได้ง่าย      

จากเนื้อหาด้านบน หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงคือการกระจายความเสี่ยงในการซื้อเหรียญ Web 3.0  ต่างๆ

•       ตัวอย่างเช่น เราตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ว่า Ethereum เป็นบล็อกเชนของ web 3.0  โดยมีบางโครงการมาแรงที่เลือกสร้างแพลตฟอร์มบนเครือข่ายนี้
•       อย่างไรก็ตาม คุณมี Solana ซึ่งเร็ว ถูกกว่า และขยายขนาดได้มากกว่า Ethereum มาก
•       ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันกับ Cardano และ Neo
•       ดังนั้นจึงดีกว่า ที่ควรกระจายการลงทุนในบล็อกเชน web 3.0 หลายๆตัว

เช่นเดียวกันกับแพลตฟอร์ม Decentraland แต่โครงการนี้ไม่ใช่แพลตฟอร์ม Metaverse เดียว ที่มีเป้าหมายไปที่อสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง เพราะเป้าหมายนี้นี้มีคอนเซปคล้ายกับ Sandbox, Axie Infinity และโครงการอื่นๆ

web 3.0 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น      

ข้อดีอีกประการของการซื้อเหรียญ  Web 3.0 ที่ดีที่สุดคืออุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

ซึ่งหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะลงทุนใน เหรียญ web 3.0 ในช่วงแรกเริ่ม ซึ่งจะทำให้คุณสามารถซื้อเหรียญคริปโตคุณเลือกในราคาที่ดีมาก

ถ้าให้ลองเปรียบเทียบดู ก็จะเหมือนกับการมีโอกาสในการลงทุนใน Amazon หรือ Microsoft ในปี 1990 (Web 1.0) หรือแม้แต่หุ้นเทคโนโลยีอย่าง Apple และ Facebook ในปี 2000 (Web 2.0)

ราคาเหรียญ web 3.0       

ราคาของเหรียญ  web 3.0 จะถูกกำหนดโดยกลไกตลาด เช่นเดียวกับหุ้นทั่วไปและหุ้นจากบริษัท web 1.0 และ 2.0 ดังนั้น มูลค่าของเหรียญคริปโตของweb 3.0 ที่คุณซื้อจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานเป็นส่วนใหญ่

ตัวอย่างเช่น เหตุผลที่ Ethereum ซึ่งอยู่อันดับต้น ๆ web 3.0 ได้สร้างผลตอบแทนมากกว่า 20,000% นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2013 เป็นเพราะตลาดเชื่อในอนาคตของโครงการนี้

ดังนั้น ด้วยจำนวนผู้ซื้อมากกว่าผู้ขายในตลาด สิ่งนี้จึงส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลต่อราคาของ Ethereum 

เหมือนกับเหรียญคริปโตแรกอย่าง – Bitcoin ที่เปิดตัวในปี 2009 ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

แน่นอนว่าตลาดมีมูลค่ากว่าล้านล้านดอลลาร์ แต่การลงทุนมักจะเป็นการเก็งกำไร กล่าวคือแม้แต่เหรียญweb 3.0 ที่ดีที่สุดก็มีความผันผวนสูง

ซื้อเหรียญ Web 3 ได้ที่ไหน

หากคุณทราบแล้วว่าเหรียญ  web 3.0 ใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพอร์ตการลงทุนของคุณ ขั้นตอนต่อไปคือการค้นหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเพื่อซื้อเหรียญ

แพลตฟอร์มที่คุณเลือกไม่ควรมีแค่เฉพาะเหรียญ ของ web 3.0 เท่านั้น แต่ต้องมีค่าธรรมเนียมต่ำและมีปลอดภัย เราพบว่าโดยรวมแล้ว eToro เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญ web 3.0 ด้วยเหตุผลดังนี้:

•       eToro รองรับเหรียญ web 3.0 ชั้นนำมากมาย คุณจึงกระจายพอร์ตของคุณได้อย่างง่ายดาย
•       คุณต้องฝากเงินเพียง $10 ในแต่ละเหรียญ web 3.0  ที่คุณซื้อ
•       eToro อยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตหลายแห่ง – ดังนั้นมั่นใจในความปลอดภัย
•       คุณสามารถฝากเงินดอลลาร์สหรัฐโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมผ่านบัตรเดบิต/เครดิต e-wallet หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร
•       eToro ยังให้บริการ copy trading ดังนั้นคุณจึงสามารถซื้อและขายเหรียญของ web 3.0 ที่ดีที่สุดได้แบบพาสซีฟ

ซื้อเหรียญ web 3.0 ที่ eToro ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง  ยังไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

หากคุณต้องการซื้อเหรียญคริปโต web 3.0 ตอนนี้ เราจะอธิบายวิธีการลงทุนผ่าน eToro ในส่วนด้านล่าง

วิธีซื้อเหรียญ web 3.0  บน eToro     

คำแนะนำทีละขั้นตอนด้านล่างนี้ ช่วยให้คุณสามารถซื้อเหรียญ web 3.0 ได้ภายในเวลาไม่ถึงห้านาทีตั้งแต่ต้นจนจบ

ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชี eToro

ไปที่เว็บไซต์ eToro และเปิดบัญชีฟรี คุณจะเห็นแบบฟอร์มการลงทะเบียนเหมือนในภาพด้านล่าง คุณจะต้องเลือกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน และป้อนชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ

ถัดไป eToro จะขอให้คุณป้อนข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งจะรวมถึงหมายเลขประกันสังคม ที่อยู่ และวันเกิดของคุณ 

ขั้นตอนที่ 2: อัปโหลดข้อมูลยืนยันตัวตน

คุณสามารถรับการยืนยันบัญชี eToro ที่สร้างขึ้นใหม่ได้ภายในเวลาไม่ถึง 60 วินาทีโดยอัปโหลดสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้และหลักฐานแสดงที่อยู่ เช่น ใบแจ้งยอดจากธนาคาร

ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงิน

ต่อไป eToro จะให้คุณฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ ในช่อง ‘จำนวนเงิน’ ระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการฝาก เงินฝากขั้นต่ำที่ eToro สำหรับลูกค้าในประเทศไทยเริ่มต้นเพียง $10

เลือกจาก e-wallet เช่น Paypal หรือ Neteller บัตรเดบิต/เครดิต ACH ธนาคารออนไลน์ และอื่นๆ วิธีการชำระเงินที่รองรับทั้งหมดไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงินเข้าบัญชี

ขั้นตอนที่ 4: ค้นหาเหรียญ web 3.0

ช่องค้นหาที่ด้านบนของหน้าเพื่อค้นหา เหรียญ web 3.0 ที่คุณต้องการซื้อวันนี้

ในตัวอย่างข้างต้น ค้นหา Ethereum คลิกที่ปุ่ม ‘ซื้อขาย’ เพื่อดำเนินการต่อ

ขั้นตอนที่ 5: ซื้อเหรียญ web 3.0

เมื่อคุณเห็นคำสั่งปรากฏขึ้น คุณจะต้องป้อนเงินลงทุนทั้งหมดของคุณ ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เพียงลงทุน $10 ในเหรียญ web 3.0 ที่คุณเลือก เพื่อให้เสี่ยงน้อยที่สุด

ซื้อเหรียญ web 3.0 ที่ eToro ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความเสี่ยงสูง

ในการสั่งซื้อ ให้คลิกที่ปุ่ม ‘เปิดการซื้อขาย’

บทสรุป

โดยสรุป เหรียญคริปโต Web 3.0 อาจมีบทบาทสำคัญในอนาคตของอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม ในรูปแบบปัจจุบัน ระบบนิเวศของ Web 3.0 นั้นแยกส่วน ดังนั้นมันอาจจะคุ้มค่าที่จะรอจนกว่าเราจะมีความคิดที่ชัดเจนขึ้นว่าตลาดนี้จะก้าวหน้าไปอย่างไรในปีต่อ ๆ ไป

เมื่อคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้แล้ว การระบุโครงการในระยะเริ่มต้นที่มีศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้จึงมีความสำคัญ หนึ่งในโครงการดังกล่าวคือ  Love Hate Inu แพลตฟอร์มเหรียญคริปโต vote-to-earn มาใหม่เป็นแพลตฟอร์มแรกที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain เพื่อเป็นโอกาสในการโหวตแบบออนไลน์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการ Pre-sale $LHINU ซึ่งเป็นโทเค็นหลัก โดยสามารถซื้อได้ในราคา $0.000095

การเข้าสู่ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ในฐานะมือใหม่อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะมีความแตกต่างจากตลาดการเงินแบบ “ดั้งเดิม” เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีคริปโตเคอเรนซี่หลายสกุลที่เหมาะแก่การเริ่มเล่นคริปโต เพราะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ขั้นสูง

คู่มือนี้จะกล่าวถึงเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2023 ซึ่งครอบคลุมโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ในตลาด และเน้นไปที่วิธีการลงทุนในเหรียญคริปโต สำหรับผู้เริ่มต้น

8 เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรซื้อ 2023

มีหลาย ๆ เหรียญคริปโตยอดนิยมในตลาดที่เหมาะสำหรับมือใหม่ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้การลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย ด้านล่างนี้คือ เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด

โดยทั้งหมดนี้จะมีการรีวิวในส่วนต่อไป

1. Love Hate Inu (LHINU) – เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่โดยรวมที่ดีที่สุดในช่วง Pre-sale ตอนนี้
2. DeeLance (DLANCE) – แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์คริปโตแบบกระจายอำนาจพร้อม Pre-sale ที่กำลังดำเนินอยู่
3. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่รักษ์โลกที่กำลังปรับโฉมอุตสาหกรรม Recycle2Earn
4. Metropoly (METRO) – วิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
5. RobotEra (TARO) – เหรียญคริปโต metaverse สำหรับมือใหม่ กำลังเปิดขายพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน
6. Lucky Block (LBLOCK) – เกมบน Blockchain ที่น่าตื่นเต้นสำหรับมือใหม่
7. Tamadoge (TAMA) – เหรียญคริปโตขายพรีเซลที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่
8. Battle Infinity (IBAT) – หนึ่งในเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2023

ไปยังเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดตอนนี้

เจาะลึกเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด

การเป็นมือใหม่และเริ่มต้นเรียนรู้วิธีลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ไม่ต้องการความซับซ้อน ซึ่งเหรียญทั้งหมดที่ระบุไว้ข้างต้น สามารถซื้อได้ง่ายด้วยแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต นอกจากนี้ หลาย ๆ เหรียญยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนในระยะยาว

ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป มาเริ่มต้นเจาะลึกและสำรวจเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดกัน:

1. Love Hate Inu – เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่โดยรวมที่ดีที่สุดในตอนนี้

 เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่เราแนะนำมากที่สุดสำหรับปี 2023 คือ Love Hate Inu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเหรียญคริปโตสำหรับการโหวตใหม่ นี่เป็นแพลตฟอร์มการลงคะแนนออนไลน์แห่งแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้สมาชิกลงคะแนนเสียง $LHINU ซึ่งเป็นโทเค็นหลัก พร้อมให้ซื้อในช่วงพรีเซลล์แล้วในขณะนี้ 

เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่นี้จะเปิดตัวอัลกอริทึมการลงคะแนนที่ให้สมาชิกลงคะแนนในหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น ความบันเทิง ประเด็นทางสังคม และการเมือง ผู้ใช้จำเป็นต้อง stake $LHINU ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 เพื่อเข้าถึงการลงคะแนนเสียงไปยังอินเทอร์เฟซผู้ใช้ 

ทุกครั้งที่ผู้ใช้โหวต Love Hate Inu พวกเขาจะได้รับโทเค็น $LHINU ฟรีเป็นรางวัล ตามเอกสารข้อมูล Love Hate Inu สมาชิกสามารถสร้างแบบสำรวจของตนเองได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 หลังจากเปิดตัวแพลตฟอร์มการส่งคะแนนเสียง แพลตฟอร์มนี้ยังมีแดชบอร์ดการจัดการซึ่งกระบวนการลงคะแนนจะดำเนินการอย่างปลอดภัย 

เนื่องจากผู้ใช้จำเป็นต้อง stake เหรียญคริปโตเพื่อเข้าร่วมการลงคะแนน กระบวนการนี้จึงไม่เปิดเผยชื่อโดยสมบูรณ์ นอกเหนือจากยูทิลิตี้โทเค็นนี้แล้ว Love Hate Inu กำลังเข้าสู่ตลาดที่มีมูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 5.69 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 

นอกจากนี้ $LHINU ยังมีโทเค็นจำนวนจำกัดเพียง 100,000 ล้านโทเค็นเท่านั้น ด้วยจำนวนที่ต่ำสามารถช่วยผลักดันความต้องการโทเค็นในระยะยาว ปัจจุบัน การพรีเซลล์มีโทเค็นทั้งหมด 900 ล้านโทเค็น เนื่องจากการพรีเซลล์ของโทเค็นอื่นๆ เช่น Tamadoge (TAMA) ได้เติบโตอย่างมาก นักลงทุนอาจมองหาที่จะเข้าสู่โปรเจกต์ตั้งแต่เนิ่นๆ 

การพรีเซลล์มีทั้งหมดแปดรอบและแต่ละรอบจะใช้เวลา 7.5 วัน นักลงทุนสามารถซื้อ $LHINU ตอนนี้ในราคาเพียง $0.000115 ในรอบแรก อย่างไรก็ตาม ราคาจะเพิ่มขึ้นต่อรอบในภายหลัง โดยไปถึงราคา $0.000145 ในรอบสุดท้าย 

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน Love Hate Inu สามารถระดมทุนได้มากกว่า 4,387,680 ดอลลาร์ คุณสามารถเข้าร่วม Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาพรีเซลล์ 

เริ่มพรีเซลล์	8 มีนาคม 2023
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
เพดานเงินทุน	$10,068,750
ลงทุนขั้นต่ำ	ไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง Love Hate Inu Presale

2. DeeLance – แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์คริปโตแบบกระจายอำนาจพร้อม Pre-sale ที่กำลังดำเนินอยู่

DeeLance เป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจและ Blockchain ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้งานฟรีแลนซ์ง่ายขึ้นและโปร่งใสมากขึ้นสำหรับฟรีแลนซ์และลูกค้า โดยศูนย์กลางของระบบนิเวศนี้คือ $DLANCE ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตหลักที่พร้อมจำหน่ายในช่วง Pre-sale 

เป้าหมายแรกของ DeeLance คือการทำให้งานฟรีแลนซ์มีความโปร่งใสสำหรับทั้งสองฝ่าย DeeLance จะใช้สัญญาอัจฉริยะและบันทึกกิจกรรมทั้งหมดระหว่างฟรีแลนซ์และลูกค้าบน Blockchain สาธารณะ ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสเกิดข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาแน่นอน

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ยังใช้บริการการชำระเงินของเอสโครว์ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะให้ลูกค้าฝากเงินในบัญชีเอสโครว์ ซึ่งจะปล่อยเงินให้ฟรีแลนซ์หลังจากงานเสร็จสิ้น สุดท้ายนี้ ฟรีแลนซ์แต่ละคนสามารถโอนความเป็นเจ้าของงานของตนได้อย่างง่ายดายโดยการทำโทโปรเจกต์ของตนให้เป็น NFT 

กระบวนการสร้างเหรียญ NFT สามารถดำเนินการได้ที่ตลาด NFT ของ DeeLance โดยคุณสามารถสร้างผลงานของคุณและซื้อโปรเจกต์ยอดนิยมอื่นๆ ผ่านตลาด ด้วย DeeLance ฟรีแลนซ์และลูกค้าจึงสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันในโปรเจกต์ผ่านโลก Metaverse ได้นั่นเอง 

สมาชิกสามารถใช้โทเค็น $DLANCE ของตนในโลก Metaverse เพื่อซื้อที่ดินเสมือน สุดท้ายนี้ แพลตฟอร์มเหรียญคริปโตเคอเรนซี่นี้ยังมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุดอีกด้วย โดยฟรีแลนซ์และลูกค้าจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น 10% และ 2% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าเอเจนซี่ฟรีแลนซ์ที่ดีที่สุดในตลาดทีเดียว 

เนื่องจากสามารถเข้าถึงการชำระเงินด้วยเหรียญคริปโตได้ นักลงทุนจึงสามารถรับการชำระเงินได้ทันที ในการเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศนี้ คุณสามารถซื้อโทเค็น $DLANCE ได้ในรอบที่หนึ่งของการ Pre-sale โดยปัจจุบันโทเค็นมีราคาอยู่ที่ $0.025 แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น $0.030 ในรอบที่สามและรอบสุดท้าย

ผู้อ่านที่สนใจสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจนี้ได้โดยอ่านเอกสารข้อมูล DeeLance และเข้าร่วมช่อง Telegram 

เริ่มพรีเซลล์	30 มีนาคม
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเครดิต
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	$10
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง DeeLance Presale ตอนนี้

3. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่รักษ์โลกที่กำลังปรับโฉมอุตสาหกรรม Recycle2Earn

Ecoterra เป็นเหรียญคริปโตมาใหม่ที่มีแนวโน้มทำกำไรสำหรับมือใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชื่อมช่องว่างที่ได้ขัดขวางการยอมรับแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้คิดค้นระบบ Recycle2Earn ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อจัดการกับข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม

โปรเจกต์นี้ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ทันทีสำหรับการรีไซเคิลสิ่งของต่างๆ กระตุ้นให้ผู้ใช้เลือกทางเลือกอื่นที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

ขณะนี้ Ecoterra อยู่ในช่วง Pre-sale โดยเสนอโทเค็นเพียง $0.004 USDT ต่อเหรียญ ทำให้นักลงทุนรายแรกได้รับประโยชน์จากราคาที่ถูกในตอนนี้ โทเค็นเหล่านี้จะค่อยๆ เพิ่มราคาขึ้นในเมื่อแพลตฟอร์มผ่านช่วง Pre-sale ไปในแต่ละรอบ โดยหน้า Pre-sale กล่าวว่าราคาลิสต์เหรียญจะอยู่ที่ $0.01 USDT

การสแกนรายการที่รีไซเคิลได้โดยใช้แอพ Ecoterra ผู้ใช้สามารถรับโทเค็น $ECOTERRA โทเค็นเหล่านี้สามารถเก็บ, Stake, หรือใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แอพดังกล่าวครอบคลุมตลาดสินค้ารีไซเคิลแบบกำหนดเอง เช่น แพลตฟอร์มสังคมติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และตลาดชดเชยคาร์บอน แนวทางที่ครอบคลุมนี้ส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

เอกสารข้อมูล Ecoterra เผยให้เห็นว่าฐานข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของแอพพลิเคชันช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุวัสดุรีไซเคิลได้อย่างง่ายดายผ่านการสแกน

ต่อจากนั้น แอพจะแนะนำเครื่องรีไซเคิลที่ใกล้ที่สุดเพื่อการกำจัดที่เหมาะสม โดยผู้ใช้สามารถรับรางวัลหลังจากการรีไซเคิลโดยการเซฟใบเสร็จและอัปโหลดไปยังแอพ

การออกแบบที่หลากหลายของ Ecoterra ยังรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี แฟชั่น และทำให้เครื่องรีไซเคิลใช้งานได้ทั่วไป เพื่อรับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

หากต้องการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดตล่าสุดและวิธีการพัฒนาของ Ecoterra ในการส่งเสริมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการได้รับรางวัล โปรดเข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram

เพดานเงินทุน	$6,700,000
โทเค็นทั้งหมด	2,000,000,000
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์	1,000,000,000
Blockchain	เครือข่าย Ethereum
ประเภทโทเค็น	ERC-20
ซื้อขั้นต่ำ	$10
ซื้อด้วย	USDT, ETH, บัตรเครดิต

ไปยัง Ecoterra Presale

4. Metropoly – วิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์นำเสนอโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้เทคโนโลยี Blockchain ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนา utility token เพื่อจุดประสงค์นี้ สำหรับนักลงทุนที่ชาญฉลาด ก็เรียกได้ว่าโอกาสในการลงทุนที่ให้ผลกำไรมากมายในตลาดดังกล่าว

Metropoly เป็นแพลตฟอร์มที่ให้การเข้าถึงโอกาสในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยเริ่มต้นที่ $100 เท่านั้น แพลตฟอร์มนี้ใช้การเป็นเจ้าของแบบสัดส่วน ทำให้หลายฝ่ายสามารถแบ่งปันความเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ ซึ่งความเป็นเจ้าของทรัพย์สินเหล่านี้จะถูกติดตามผ่าน NFT ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัพย์สินในโลกจริงที่จับต้องได้

แกนหลักของแพลตฟอร์มของ Metropoly คือโทเค็น METRO ซึ่งเป็น Utility Token แบบ ERC-20 ที่ทำหน้าที่เป็นวิธีการชำระเงินและให้รางวัล การ Pre-sale ของโทเค็น METRO ก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว โดยระดมทุนได้แล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยมีจำนวนทั้งหมด 1 พันล้านโทเค็น นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น METRO โดยใช้ USDT, ETH หรือ BNB โดยแต่ละโทเค็นมีราคาอยู่ที่ $0.0714

นักลงทุนที่เข้าร่วมในการ Pre-sale จะกลายเป็นสมาชิกของ Platinum Member’s Club โดยอัตโนมัติ ซึ่งมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การเข้าถึง Metropoly Beta และ NFT ก่อนใคร โดยจำนวนเงินลงทุนที่สูงขึ้นส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น รวมถึง NFT มูลค่า 10,000 ดอลลาร์และเงินคืนจากรายได้ค่าเช่า โดยผู้ที่ลงทุนในช่วงแรกๆ จะได้รับโบนัสที่มากยิ่งขึ้น

การลงทุนในการถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟผ่านอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่นักลงทุน ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานานในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ Metropoly มอบโซลูชันที่ตรงไปตรงมา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ภายใน 20 วินาทีได้ง่ายๆ จากที่บ้าน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเครดิต

นักลงทุนสามารถขยายพอร์ตการลงทุนและลดผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อได้โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกผ่าน Metropoly โดยผู้ใช้ที่สนใจสามารถตรวจสอบแพลตฟอร์มเพื่อทำความคุ้นเคยกับฟีเจอร์ก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย

Metropoly มีศักยภาพในการทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพเข้าถึงได้ทุกคน สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากต้นทุนของอสังหาริมทรัพย์ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ นั่นเอง

ไปยัง Metropoly Presale

5. RobotEra (TARO) – เหรียญคริปโต metaverse สำหรับมือใหม่ กำลังเปิดขายพรีเซลในเดือนพฤศจิกายน

RobotEra เป็นโปรเจกต์เหรียญคริปโต metaverse ซึ่งควบคุมเศรษฐกิจในเกมด้วย $TARO ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลหลัก ให้การเข้าถึงโปรโตคอล NFT ที่หลากหลายและโอกาสในการสร้างรายได้ในเกม TARO เป็นเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ชั้นนำที่พร้อมให้ซื้อในช่วงพรีเซลล์ RobotEra แจกจ่าย 15% ของอุปทานโทเค็น 1.8 พันล้านเหรียญผ่านการขายพรีเซลทั้งหมด 3 รอบ

คล้ายกับโทเค็น metaverse ที่เป็นที่นิยมเช่น Decentraland (MANA) และ The Sandbox (SAND) TARO จะให้การเข้าถึงแบบกระจายอำนาจไปยังระบบนิเวศเสมือนจริงของการสร้างสิ่งต่างๆบนที่ดิน เกมดังกล่าวตั้งอยู่ใน ‘Taro Planet’ – ที่ซึ่งผู้เล่นสวมบทบาทเป็นหุ่นยนต์ ด้วย TARO ผู้ใช้ที่สนใจสามารถซื้อ Robot NFT เพื่อเข้าถึง metaverse ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 10,000 NFT – Robot NFT จะถูกแบ่งตาม 7 คลาสที่ไม่ซ้ำกัน มีอยู่ใน 7 ทวีปบน Taro Planet – ที่ซึ่งผู้เล่นสามารถซื้อชิ้นส่วนที่ดิน NFT สร้าง NFT ของตนเอง และแม้แต่มีส่วนร่วมในภารกิจท้าทาย

โทเค็น ERC-20, TARO สามารถใช้ stake เพื่อรับ APY (อัตราผลตอบแทนต่อปี) การ staking สกุลเงินดิจิทัลนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถลงคะแนนเสียงและการตัดสินใจใน DAO จากเอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่าผู้เล่นจะมีอิสระในการสร้างสภาพแวดล้อมของตนเอง ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างอะไรก็ได้ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ไปจนถึงคอนเสิร์ต

ในเดือนพฤศจิกายน 2022 TARO เริ่มจำหน่ายพรีเซลรอบแรก รอบนี้มีการจัดสรร 90 ล้านโทเค็นในราคาที่กำหนดไว้ที่ 0.020 ดอลลาร์ รอบที่สองและสามจะทำให้โทเค็นมีราคา $0.025 และ $0.032 ตามลำดับ ปัจจุบัน RobotEra ระดมทุนได้เกือบ 70,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าร่วม RobotEra Telegram Channel เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการ cryptocurrency นี้

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

6.Lucky Block (LBLOCK) – เกมบน Blockchain ที่น่าตื่นเต้นสำหรับมือใหม่

Lucky Block อาจเป็นเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการรับรางวัลรายวัน เหรียญคริปโตมาแรงนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่ต้นปี 2022 หลังจากการขายพรีเซลหมด ทำให้ทีมพัฒนานำไปลิสบน PancakeSwap เนื่องจากความต้องการของนักลงทุน ซึ่งหลังจากลิสบน PancakeSwap ไปแล้ว ทำให้โทเค็น LBLOCK มีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000% จากราคาขายพรีเซล

ผู้ใช้งานสามารถเข้าร่วมการแข่งขันตามปกติในแพลตฟอร์ม Lucky Block เพื่อรับรางวัลที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยทีมพัฒนาของ Lucky Block เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มการแข่งขันผ่าน NFT ซึ่งผู้ใช้งานสามารถซื้อ NFT และใช้สะสมรางวัลได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ซื้อ Lucky Block NFT ในช่วงเริ่มต้นของปีนี้ จะมีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันรายสัปดาห์ ที่มีรางวัลเป็นเกมคอนโซล นาฬิกา และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ทีมพัฒนาของ Lucky Block เพิ่งเปิดตัว ‘LBLOCK v2’ ซึ่งใช้มาตรฐาน ERC-20 แทนมาตรฐาน BEP-20 ซึ่งหมายความว่า LBLOCK v2 จะเข้ากันได้กับหลาย ๆ dApps บนแพลตฟอร์ม Ethereum ซึ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสแบบไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ เนื่องจาก LBLOCK v2 ยังไม่มีภาษีธุรกรรม เมื่อเทียบกับ LBLOCK V1 ที่คิดภาษี 12%  จึงทำให้กลายเป็นโทเค็นที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์หลาย ๆ กลุ่ม เช่น นักเทรดรายวัน, นักเก็งกำไร

LBLOCK เป็นเหรียญคริปโตที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากสามารถซื้อขายโทเค็นผ่าน LBank, MEXC และ Gate ได้แล้วในขณะนี้ และกำลังอยู่ระหว่างการลิสเพิ่มเติมในอีกหลาย ๆ กระดานแลกเปลี่ยน

สกอตต์ ไรเดอร์ ซีอีโอของ LBLOCK ยังประกาศอีกด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน จะมีอัตราการเผาเหรียญทิ้งรายเดือนอยู่ที่ 1% ซึ่งจะทำให้อุปทานลดลงเป็นอย่างมาก

ผู้ที่สนใจ Lucky Block สามารถเข้าร่วมเซิร์ฟเวอร์ Discord อย่างเป็นทางการ เพื่อติดตามการอัปเดตใหม่ ๆ ของแพลตฟอร์มได้

ซื้อ Lucky Block ตอนนี้

7. Tamadoge (TAMA) – เหรียญคริปโตขายพรีเซลที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่

หนึ่งในเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณา คือ Tamadoge เนื่องจาก Tamadoge เคลมว่าเป็น ‘P2E Dogecoin’ ที่ใช้ประโยชน์จากความนิยมของ ‘เหรียญมีม’ ที่เพิ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมา ภายในระบบนิเวศของ Tamadoge ผู้เล่นจะสามารถสร้าง ‘สัตว์เลี้ยง Tamadoge’ และดูแลพวกมันจนกว่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาจะเติบโต

จากนั้น ผู้เล่นจะสามารถนำสัตว์เลี้ยงของพวกเขาไปต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงของผู้เล่นรายอื่น เพื่อรับ Dogepoints เป็นรางวัล ยิ่งผู้เล่นได้คะแนนมากเท่าไร ก็จะยิ่งอยู่ในตำแหน่งของกระดานผู้นำที่สูงขึ้นเท่านั้น โดยผู้ชนะในแต่ละเดือน จะได้รับรางวัลเป็นโทเค็นจาก ‘Dogepool’

รางวัลเหล่านี้มาในรูปแบบของโทเค็น TAMA ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของ Tamadoge นักลงทุนที่เข้าซื้อในช่วงแรก สามารถซื้อ Tamadoge ได้ตลอดช่วงการขายเบต้า โดย Tamadoge ได้รับการยืนยัน KYC บน CoinSniper และตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดย SolidProof.io และที่น่าสนใจคือ Tamadoge ยังได้รับการอนุมัติสำหรับการลิสบน LBank เมื่อเหรียญดังกล่าวพร้อมเปิดตัว

ด้วยจำนวนผู้ใช้มากกว่า 20 ล้านคน OKX ได้ลิสต์ TAMA ในกระดานแลกเปลี่ยน ราคา TAMA เพิ่มขึ้น 300% ในช่วง Pre-sale และเปิดตัวบน OKX ในราคา 0.03 ดอลลาร์

นักลงทุนที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถเข้าร่วมกลุ่ม Tamadoge Telegram – ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 30,000 คน

เช่นเดียวกับเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่อื่นๆ ในรายการของเรา โปรดระวังกลโกง – Tamadoge ไม่มีการ Stake ให้ระวังลิงก์หลอกที่เคลมว่าจะให้รางวัลในการ Stake

ไปยัง Tamadoge

8.Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่รวมเอา NFT และโลก Metaverse ไว้ด้วยกัน

จากการศึกษาและการวิเคราะห์ของเรา เราเชื่อว่า Battle Infinity เป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรจะซื้อในปี 2023 สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จัก Battle Infinity นี่เป็นแพลตฟอร์มเกม metaverse ที่รวมทั้ง NFT และ การเล่นเกมเพื่อหารายได้ (P2E) การผสมผสานฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้เกิดโลกเสมือนจริงที่สมบูรณ์ ซึ่งผู้เล่นมีโอกาสจะได้รับรางวัลเป็นประจำ

ตามที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ Battle Infinity แพลตฟอร์มนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบ 6 ส่วน ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในแอพ metaverse ที่ดีที่สุดที่เปิดตัวในปีนี้ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นในระบบนิเวศนี้ คือ IBAT พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกกีฬาแฟนตาซี ที่มี NFT เข้ามามีส่วนร่วม โดยกีฬาประเภทแรกที่เกิดขึ้นในลีกนี้คือ คริกเก็ต และทีมงานของ Battle Infinity ยังมีแผนจะเพิ่มกีฬาให้มากขึ้นเมื่อแพลตฟอร์มขยายตัวขึ้น

Battle Infinity ถือเป็นเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด โดยให้รางวัลผู้ชนะในเกมด้วย IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลัก BEP-20 ของแพลตฟอร์ม ผู้ที่ซื้อ Battle Infinity (IBAT) สามารถใช้โทเค็นเพื่อซื้อ NFT จาก marketplace ในเกมได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ IBAT เพื่อซื้อที่ดินเสมือนจริงภายใน ‘Battle Arena’ ซึ่งเป็นโลก 3 มิติที่อุดมสมบูรณ์ของ Battle Infinity ได้ด้วย

ผู้เล่นสามารถล็อคโทเค็นด้วยกลไกการ Staking ของ Battle Infinity ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการ Staking คริปโตที่ดีที่สุด

Battle Infinity ยังมี ‘Battle Store’ ที่มีเกม P2E อื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการได้รับรางวัลของผู้ใช้งานแต่ละคน สุดท้าย สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็น IBAT ได้ด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า ‘Battle Swap’ ซึ่งให้บริการคล้ายกับกระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุด

ในท้ายที่สุด โอกาสการเติบโตของระบบนิเวศใน Battle Infinity นั้นสูงมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมโครงการนี้จึงควรเป็นเหรียญคริปโต สำหรับผู้เริ่มต้น ลองค้นหาเคล็ดลับการลงทุนคริปโตในปี 2023 ได้ การขายพรีเซลของ Battle Infinity สิ้นสุดภายในเวลาเพียง 24 วัน และราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังการลิสบน PancakeSwap และ LBank .

ด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ 40 ล้านดอลลาร์ และการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนชื่อดังอื่น ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ จะทำให้ราคาของ IBAT พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Battle Infinity สามารถเข้าร่วมกลุ่ม Telegram เพื่อติดตามข่าวสารอัปเดตที่สำคัญ และขอย้ำอีกครั้งว่า แอดมินจะไม่ DM หาคุณก่อน

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

9.  Defi Coin (DEFC) – เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

สำหรับใครที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดที่ได้รับรางวัลคงที่ โดยมีระบบการทำฟาร์มผลต่อแทน และการ staking เหรียญ DEFC เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างกำไรจากการลงทุน ที่ทำให้คุณได้รับรายได้แบบพาสซีฟ 

Defi Coin สร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนสามารถถือโทเค็นนี้ได้ในระยะยาว ด้วยกลไกการเผาเหรียญ ที่จะช่วยลดอุปทานเมื่อเวลาผ่านไป และทำให้ราคาของเหรียญสูงขึ้นในอนาคตได้ นอกจากนี้ เหรียญนี้ยังมีชุมชนคอยสนับสนุน ที่ช่วยให้คุณทราบว่าเหรียญคริปโต เล่นยังไง

ทำให้ Defi Coin ถือเป็นอีกหนึ่งเหรียญคริปโต สำหรับผู้เริ่มต้นที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

ซื้อ DeFi Coin ตอนนี้

วิธีเลือกคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด

เราได้พูดถึงเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดไปแล้ว มาศึกษาปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อต้องตัดสินใจลงทุนกันบ้าง มีหลาย ๆ เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีแนวโน้มขาขึ้นเหมาะแก่การเริ่มเล่นคริปโต แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้จักปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อแยกแยะโครงการที่มีโอกาสการเติบโตสูงออกจากโครงการที่อาจจะล้มไม่เป็นท่า

ด้วยเหตุนี้ ด้านล่างนี้จึงเป็นองค์ประกอบ 5 ประการที่ควรคำนึงถึง เมื่อต้องการลงทุนในเหรียญคริปโต:

ให้ความสำคัญที่ประโยชน์ใช้งาน

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่ต้องพิจารณา คือ ประโยชน์ใช้งานของเหรียญ โครงการที่อยู่รอดในระยะยาวจะต้องมีประโยชน์ใช้งานบนโลกความเป็นจริง ซึ่งจะทำให้มีความต้องการในระดับสูง

Battle Infinity เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในข้อนี้ เนื่องจาก IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของโปรเจ็กต์  มีประโยชน์ใช้งานที่หลากหลายในระบบนิเวศนี้ ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงต้องการเป็นเจ้าของ IBAT ซึ่งสิ่งนี้ช่วยทำให้ราคาเหรียญสูงขึ้นได้

มองหาโอกาสการเติบโตด้านราคาที่แข็งแกร่ง

นักลงทุนมือใหม่ที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตที่น่าสนใจ อาจต้องการคริปโตเคอเรนซี่ที่มีราคาต่ำ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงได้ในหลาย ๆ กรณี

มีหลาย ๆ เหรียญคริปโต pre-sale ที่ดีที่สุด เช่น Battle Infinity และ Tamadoge เป็นไปตามเกณฑ์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการพรีเซลยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา จึงจำเป็นต้องเข้าใจว่า ราคาอาจมีความผันผวนมากกว่าเหรียญที่มีการลิสบน CEX หรือ DEX แล้ว

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทเค็นเข้าถึงได้

อีกวิธีในการค้นหาเหรียญคริปโต สำหรับผู้เริ่มต้น คือ การตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงโทเค็นได้ ซึ่งหมายความว่า โทเค็นนั้น ๆ สามารถซื้อได้อย่างง่ายผ่านกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุด โดยใช้แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต

eToro เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเติมเงินเข้าบัญชีในสกุลเงิน FIAT โดยใช้บัตรเครดิต/บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือ e-wallet นอกจากนี้ eToro ยังให้คุณลงทุนในเหรียญคริปโตแบบไม่เต็มเหรียญ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนมือใหม่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียง 10 ดอลลาร์เท่านั้น

ค้นหาเหรียญคริปโตที่เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ประจำ

นักลงทุนมือใหม่อาจต้องการคริปโตเคอเรนซี่ที่สร้างรายได้ประจำ ซึ่งสามารถทำได้โดยการ Staking หรือ liquidity mining  โดยทั้งสองสิ่งนี้เป็นที่นิยมอย่างมากใน DeFi

อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถสร้างรายได้ผ่านเหรียญคริปโตอื่น ๆ เช่น Battle Infinity และ Tamadoge ซึ่งมีกลไกการเล่นเกมเพื่อหารายได้ (P2E) และให้รางวัลเป็นโทเค็นสำหรับการเล่นเกมที่ใช้ทักษะ ซึ่งสามารถนำโทเค็นนี้ไปซื้อไอเท็มในเกมหรือแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้

ตรวจสอบแผนงานของโครงการ ทีมพัฒนา และไวท์เปเปอร์

สุดท้าย การตรวจสอบแผนงานของแต่ละโครงการ ทีมพัฒนา และไวท์เปเปอร์ ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญก่อนจะตัดสินใจลงทุน องค์ประกอบทั้งสามนี้จะบอกคุณได้ว่า โครงการน่าจะประสบความสำเร็จ หรืออาจเป็น ‘โครงการลวงโลก’ กันแน่

นอกจากนี้ เหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด ควรจะมีองค์ประกอบที่เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย ซึ่งอาจจะเป็นการตรวจสอบ KYC บน CoinSniper หรือการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะผ่าน SolidProof.io ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่โครงการได้ทั้งสิ้น

วิธีซื้อคริปโตยอดนิยมสำหรับมือใหม่

ก่อนจะถึงบทสรุปของเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด เรามาพูดถึงขั้นตอนการลงทุนกันสักหน่อย ทั้งนี้ Love Hate Inu เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตช่วงตลาดซบเซาที่ดีที่สุด สำหรับมือใหม่ และสามารถซื้อได้ในช่วงพรีเซล

ขั้นตอนด้านล่างนี้ คือ ภาพรวมโดยย่อเกี่ยวกับวิธีการซื้อโทเค็น $LHINU ในปี 2023

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Crypto Wallet

ขั้นแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมี crypto walle เช่น MetaMask / TrustWallet ซึ่งสามารถติดตั้งได้จากเว็บไซต์ของแพลตฟอร์ม

ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Wallet ของคุณ

หลังจากสร้างบัญชีกับ wallet ที่เลือกแล้ว ให้ไปที่เว็บไซต์พรีเซลล์ของ Love Hate Inu แล้วคลิกปุ่ม “Buy Now” เลือก Crypto Wallet ของคุณและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์

ขั้นตอนที่ 3: เติมเงินใน Wallet ของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า wallet ของคุณมีเงินเพียงพอ ผู้ใช้สามารถซื้อ $LHINU ด้วยโทเค็นที่รองรับ ERC-20 เช่น Ethereum และ USDT โดยสามารถซื้อโทเค็นเหล่านี้จากการกระดานเทรดคริปโตและโอนไปยัง Crypto Wallet ของคุณ 

ขั้นตอนที่ 4: ซื้อ $LHINU

เมื่อ wallet ของคุณมีเงินเพียงพอแล้ว ให้คลิกที่ “buy $LHINU with ETH” / “buy $LHINU with USDT” และป้อนจำนวน $LHINU ที่คุณต้องการรับเพื่อแลกเปลี่ยนเป็น USDT หรือ ETH โดยคุณต้องซื้อโทเค็น LHINU ขั้นต่ำ $10 

ขั้นตอนที่ 5: รับ $LHINU

หลังจากยืนยันค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมแล้ว การทำธุรกรรมจะได้รับการอนุมัติ โดยคุณสามารถรับ $LHINU ของคุณได้จากหน้าการรับเมื่อช่วงพรีเซลล์สิ้นสุดลง

ไปยัง Love Hate Inu Presale

บทสรุป

คู่มือนี้ได้สรุปภาพรวมรอบด้านของเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรซื้อในปี 2023 อธิบายว่าทำไมโครงการเหล่านี้จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ในตลาด แม้ว่าคริปโตเคอเรนซี่อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่โครงการที่ระบุไว้ในคู่มือนี้ล้วนแต่มีชุมชนที่เข้มแข็ง และมีวิธีการลงทุนที่ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นคริปโต

เราขอแนะนำ Love Hate Inu ($LHINU) เป็นเหรียญคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ในช่วงพรีเซลล์ แพลตฟอร์มดังกล่าวได้สร้างระบบนิเวศคริปโต vote-to-earn ซึ่งสมาชิกสามารถรับรางวัลต่างๆ ได้ ผู้ซื้อสามารถซื้อ $LHINU ได้ในราคาค่อนข้างต่ำที่ 0.000115 ดอลลาร์ต่อโทเค็นในช่วงพรีเซลล์รอบแรก

Crypto ETF คือโอกาสทำกำไรจากเหรียญคริปโตด้วยเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่ง ETF ส่วนใหญ่ในตลาดได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แต่ว่ากองทุนหลายแห่งที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาสนับสนุน Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ

ในบทความนี้เราจะรีวิว 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ ราคาถูก ศักยภาพสูง และปัจจัยอื่นๆ

จัดอันดับ 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด 2023  – ลิสต์อันดับ Crypto ETF

ลิสต์ด้านล่างคือ 10 อันดับ ETF คริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้

1. Dash 2 Trade พรีเซลล์คริปโต – ทางเหลือที่ดีกว่า Crypto ETF
2. ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด
3. Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นคริปโต
4. ARK Next Generation Internet ETF  (ARKW) – กระจายการลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย
5. Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin
6. Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่
7. ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต
8. 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum
9. Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy
10. Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตชั้นนำจากมูลค่าตลาด

อ่านต่อเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนข้างต้นในลิสต์ Crypto ETF ด้านบน

ไปยังพรีเซลล์ Dash 2 Trade ตอนนี้

เจาะลึกกับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

Crypto ETF ช่วยให้นักลงทุนทำกำไรจาก Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ผ่านบัญชีโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้งานกระดานเทรดคริปโต เพื่อเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโต

ด้านล่างนี้เราจะรีวิวและวิเคราะห์ผู้ให้บริการ Crypto ETF ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในตลาดตอนนี้

1. Dash 2 Trade พรีเซลล์คริปโต – ทางเหลือที่ดีกว่า Crypto ETF

หากจุดประสงค์หลักของ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือการทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญคริปโต กองทุนทั่วไปอาจก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะนัก เนื่องจากผลกำไรจากการซื้อขายเหรียญคริปโตที่สูงที่สุดในปี 2023  มาจากช่วงพรีเซลล์ ซึ่งเป็นการเปิดตัวโปรเจกต์คริปโตมาใหม่เพื่อระดมทุน

คล้ายกับการเสนอขายหุ้น IPO แต่เป็นเหรียญคริปโตแทน และด้วยข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ เหรียญคริปโต pre-sale จะไม่รับสกุลเงินทั่วไป แต่จะใช้เหรียญคริปโตหลักๆ อย่างเช่น Bitcoin, Ethereum, Tether หรือ BNB แทน

พรีเซลล์นั้นเป็นโอกาสซื้อเหรียญคริปโตที่มีโอกาสเติบโตสูงสุดที่น่าดึงดูดใจ ในขณะที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จึงหมายความว่าจะทำกำไรได้น้อยกว่าการซื้อเหรียญในช่วงพรีเซลล์นั่งเอง โดยหนึ่งในพรีเซลล์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาลคือ Ethereum

ตอน Ethereum เปิดพรีเซลล์ครั้งแรกเมื่อปี 2014 นักลงทุนรายแรกๆ ซื้อขายเหรียญในราคาเพียง $0.31 ต่อโทเค็น ETH และราคา Ethereum ได้พุ่งสูงถึงกว่า $4,900 ซึ่งเป็นการเติบโตถึง 1.5 ล้านเปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุด พรีเซลล์ Lucky Block ในเดือนมกราคม 2022 มีราคาอยู่ที่ 0.00015 ดอลลาร์ต่อโทเค็น LBLOCK เท่านั้น

เพียงหนึ่งเดือนหลังสิ้นสุดพรีเซลล์ ราคา LBLOCK พุ่งขึ้นสู่ $0.009 หรือเติบโตถึง 6,000% จากนั้นก็มี Tamadoge ที่ระดมเงินทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ในปลายปีนี้และเติบโตกว่า 2,000% พรีเซลล์จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ค้นหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด

ในขณะที่เขียน มีพรีเซลล์คริปโตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากมายซึ่งอาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการทำกำไร ตัวอย่างเช่น Dash 2 Trade ขายพรีเซลล์โทเค็น D2T ที่ $0.05 และระดมทุนได้กว่า 3.6 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว

พรีเซลล์ Dash 2 Trade เป็นราคาที่ถูกที่สุดสำหรับนักลงทุนรายแรกๆ โดยราคาโทเค็น D2T จะเพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นสุดพรีเซลล์แต่ละรอบ (จาก 9 รอบ) ผู้ที่ซื้อเหรียญในรอบแรกจะทำกำไรถึง 40% เมื่อสิ้นสุดพรีเซลล์ โดยความสำเร็จหลักๆ ของพรีเซลล์ Dash 2 Trade นั้นมาจากตัวผลิตภัณฑ์เอง

โปรเจกต์เป็นแดชบอร์ดการวิเคราะห์ขั้นสูงที่มีข้อมูล ฟีเจอร์ และเครื่องมือมากมายที่จะช่วยนักลงทุนคริปโตทำกำไร ซึ่งรวมถึงสิทธิพิเศษในการเข้าถึงข้อมูลบนเครือข่ายและการเคลื่อนไหวของเหล่าวาฬ ตัวชี้วัดทางโซเชียล การจัดอันดับ ICO ลิสต์ในกระดานเทรด และการทดสอบย้อนหลังอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ Dash 2 Trade จะให้สัญญาณซื้อขายคริปโตอย่างต่อเนื่องแก่สมาชิกเพื่อชี้ทิศทางแนวโน้มของเหรียญ ควบคู่ไปกับคำสั่งซื้อขายตามความเสี่ยงที่เหมาะสมที่สุด ที่สำคัญสมาชิกจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนเป็นเหรียญ D2T เพื่อใช้งานฟังก์ชันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้ Dash 2 Trade เป็น Utility Token นั่นเอง

อ่านคำแนะนำของเราได้ที่วิธีซื้อ Dash 2 Trade ในช่วงพรีเซลล์ Dash 2 Trade

ไปยังพรีเซลล์ Dash 2 Trade ตอนนี้

IMPT – เหรียญคริปโตพรีเซลล์ยอดนิยม

IMPT จะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตสำหรับทั้งบุคคลและธุรกิจ โดยนักลงทุนสามารถทำผลกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาคาร์บอนเครดิต และธุรกิจสามารถปล่อยสารมลพิษเพิ่มขึ้นได้ตามการกำกับดูแลของรัฐ

ผู้ใช้สามารถเลิกใช้คาร์บอนเครดิตโดยการเผาสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวทิ้ง โดยราคาพรีเซลล์โทเค็น IMPT อยู่ที่ $0.023 และระดมทุนได้เกือบ 12 ล้านดอลลาร์แล้ว ปัจจุบัน IMPT อยู่ในรอบที่สองของการพรีเซลล์ ซึ่งพรีเซลล์ IMPT จะมีราคาเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบเพื่อเป็นรางวัลแก่นักลงทุนในช่วงต้นนั่นเอง

ไปยัง IMPT ตอนนี้

RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse ยอดนิยมในช่วงพรีเซลล์

อีกหนึ่งทางเลือกนอกจาก ETF คริปโตคือ RobotEra แพลตฟอร์มเกม Play to Earn ที่ผสานเกมเพลย์ด้วย NFT และโลก Metaverse ไว้ด้วยกัน โดยผู้เล่นสามารถสร้าง พัฒนาเมือง ทำฟาร์ม และเล่นเกมเพื่อรับรางวัลเป็นโทเค็น TARO

ด้วยการเติบโตแบบทวีคูณของคอนเซ็ปต์ Play to Earn จึงทำให้เกม RobotEra น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยพรีเซลล์ RobotEra 280,000 ดอลลาร์แล้ว โดยตอนนี้สามารถซื้อโทเค็น TARO ได้ในราคา $0.02 ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นในพรีเซลล์รอบถัดๆ ไป

ไปยังพรีเซลล์ RobotEra

2. ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด

ใครที่กำลังมองหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดอาจต้องการพิจารณา ProShares Bitcoin Strategy ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถทำกำไรจากการขึ้นและลงของราคา Bitcoin โดยตรง และเป็นกองทุนแรกที่ได้รับการอนุมัติในตลาดสหรัฐฯ

แม้กองทุนจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโต แต่ ProShares จะซื้อและขายฟิวเจอร์ส Bitcoin เพื่ออิงตามประสิทธิภาพของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากที่สุด

กองทุนบรรลุเป้าหมายนี้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในเดือนตุลาคม 2021 ในช่วง 12 เดือน ราคา ProShares Bitcoin Strategy ETF ลดลง 68% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาสปอตของ Bitcoin ที่ลดลง 66% โดยกองทุนจะคิดอัตราส่วนค่าใช้จ่าย 0.95% และ ETF ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ทำให้ซื้อขายได้อย่างง่ายดาย

3. Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นเหรียญคริปโต 

สำหรับใครที่ต้องการทำกำไรจากหุ้นคริปโต เราก็ขอแนะนำ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ซึ่งจะลงทุนในบริษัทมหาชนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตของเหรียญคริปโตหรือเทคโนโลยี Blockchain

กองทุนนี้ถือหุ้น 29 หุ้นและมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงที่ 0.85% การถือครองที่มูลค่าสูงที่สุดของ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ได้แก่ Microstrategy และ Coinbase ซึ่งคิดเป็น 14.28% และ 12.28% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการถือครองใน Silvergate Capital, Hut 8 Mining, Marathon Digital, Riot Blockchain และ Galaxy Digital Holdings อีกด้วย

สิ่งสำคัญคือกองทุนข้างต้นยังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเหรียญคริปโต ซึ่งกองทุนนี้ไม่ได้ให้ทำกำไรได้โดยตรงต่อราคาเหรียญคริปโตเพียงเท่านั้น แต่มูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้นจะสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ เช่น รายได้ รายได้จากการดำเนินงาน และราคาหุ้นต่อกำไรเช่นกัน

4. ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) – กระจายการเข้าถึง Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย  

อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณาคือ ARK Next Generation Internet ซึ่งมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์

การถือครองที่ใหญ่ที่สุดของ ETF นี้คือ Tesla และ Zoom Video Communications ซึ่งมากกว่า 8% ต่อบริษัท โดยถือ Coinbase ที่ 7% และ Block ที่ 6% ในพอร์ตการลงทุน ARK Next Generation Internet ETF ยังถือสถานะ 5.6% ใน Greyscale Bitcoin Trust ส่วนกองทุน ETF อื่นๆ ได้แก่ Roku, Shopify และ Twilio

ด้วยตลาดหุ้นเทคโนโลยีเป็นช่วงขาลงตลอดทั้งปี 2022 ทำให้ Crypto ETF นี้ขาดทุนทั้ง 12 เดือน ณ ขณะเขียนกว่า 66% แต่เมื่อตอนก่อตั้งกองทุนในปี 2014 กองทุน ARK ได้สร้างผลกำไรไปถึง 180%

5. Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin  

Fidelity Advantage Bitcoin ETF มุ่งเน้นไปที่นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นการลงทุนในโทเค็น BTC โดยตรง โดยกองทุนถือ Bitcoin ไว้ถึง 99.8% ทำให้มูลค่าของเหรียญจึงสัมพันธ์กับราคาสปอตทั่วโลก Fidelity เป็นกองทุนที่ค่อนข้างเล็ก โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเพียง 23.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

นอกจากนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนสูงถึง 0.96% ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงทุนใน Bitcoin ในระยะยาวโดยไม่ผ่านกระดานเทรด ซึ่งจะแจกจ่ายปันผลเป็นประจำทุกปี และกองทุนจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Toronto ทำให้ Fidelity Advantage Bitcoin ETF จะกำหนดราคาโดยอิงตามดอลลาร์แคนาดานั่นเอง

6. Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่   

Greyscale Bitcoin Trust เปิดตัวในปี 2013 และเป็น ETF คริปโตที่ยืนยาวที่สุดในตลาด ทั้งยังสร้างผลตอบแทนไปมากกว่า 13,000% นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุน แต่ในระยะเวลา 12 เดือน มูลค่าของกองทุนได้ลดลง 75% ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงที่ตลาดคริปโตซบเซา

แม้ว่า Greyscale Bitcoin Trust จะเป็นหนึ่งใน ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด แต่ก็มีสิ่งสำคัญสองข้อที่ต้องพิจารณาก่อน ข้อแรก ETF นี้มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 2% และข้อสอง การลงทุนขั้นต่ำใน Crypto ETF นี้คือ $50,000

ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ต้องการลงทุนอาจพบว่า Greyscale Bitcoin Trust มีราคาที่ไกลเกินเอื้อม โดยอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ Greyscale Bitcoin Trust ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเข้าถึงได้ยากสำหรับนักเทรดทั่วไปนั่นเอง

7. ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต   

ผู้ที่ต้องการขายชอร์ตเหรียญคริปโต ควรพิจารณา Bitcoin Strategy ซึ่งเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์ดังกล่าว โดยกองทุนนี้จะให้นักลงทุนทำกำไรได้เมื่อราคา Bitcoin ลดลง ผ่านการซื้อขายฟิวเจอร์ส Bitcoin บนตลาด CME

ที่สำคัญ Crypto ETF มาใหม่นี้ทำให้การขายชอร์ต Bitcoin ราบรื่นและคุ้มค่ามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนกับกับการขายชอร์ตฟิวเจอร์ส Bitcoin โดยตรง และกองทุนจะไม่ทำให้นักลงทุนเสียเงินมากกว่าเงินที่ลงทุนไปในตอนแรก

อย่างไรก็ตาม ProShares Short Bitcoin Strategy ETF ไม่เหมาะสำหรับกลยุทธ์การขายชอร์ตในระยะยาว แต่ Crypto ETF นี้จะเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าและออกจากสถานะในระยะสั้น ดังที่เห็นได้ว่าราคา ETF นี้ลดลง 9% ในช่วง 12 เดือน แม้ว่าตลาดสปอต Bitcoin จะลดลง 66% ในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม

8. 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum    

ETF ส่วนใหญ่ที่เรารีวิวล้วนมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin ETF เพียงอย่างเดียว แต่การลงทุนใน Ethereum ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดย 21Shares Ethereum ETP อาจเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์นี้ ซึ่งถูกลิสต์ในยุโรปและได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญ Ethereum

หมายความว่ามูลค่าของกองทุนจะสอดคล้องกับราคาสปอต Ethereum ทั่วโลก โดยทางผู้ให้บริการกองทุนระบุว่า 100% ของบมูลค่าถูกเก็บไว้ในโทเค็น ETH และ Cold Wallet โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของ 1Shares Ethereum ETP คือ 1.49% ซึ่งก็ถือว่าแพงเช่นกัน

แต่กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ามากกว่า 213 ล้านดอลลาร์ ณ ตอนนี้ แม้มูลค่ากองทุน Ethereum นี้จะลดลง 65% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2022 แต่ในปี 2020 และปี 2021 กองทุนก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 442% และ 397% ตามลำดับ

9. Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy    

อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดของเราคือ Siren Nasdaq NexGen Economy ซึ่งมีจุดประสงค์ในการติดตามประสิทธิภาพของดัชนี NASDAQ Blockchain Economy ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะประกอบไปด้วยหุ้น Crypto ETF ที่หลากหลายซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมในการเติบโตของสินทรัพย์ Blockchain และเหรียญคริปโต

ในขณะที่เขียน การถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดใน ETF นี้ ได้แก่ JPMorgan Chase, GMO Internet Group, SAP, IBM, Oracle, MasterCard และ Paypal เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ETF ดัชนีคริปโตนี้จึงน่าจะเหมาะสำหรับนักลงทุนเชิงอนุรักษนิยมที่ไม่ต้องการสร้างผลกำไรหลักจากเหรียญคริปโตนั่นเอง

10. Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตจากการประเมินมูลค่าตลาด    

ตัวเลือกสุดท้ายที่ควรพิจารณาคือ ‘Cryptos by Market Cap’ Smart Portfolio จาก eToro แม้อาจจะไม่ใช่ ETF แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก นั่นเป็นเพราะการลงทุนเพียงครั้งเดียว นักลงทุนก็จะสามารถทำกำไรได้จากเหรียญคริปโตได้กว่า 20 สกุลด้วยพอร์ตการลงทุนที่อิงตามมูลค่าตลาด

ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะลงทุนในเหรียญคริปโตโดยอิงตามมูลค่าตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสการเก็งกำไรในตลาด ซึ่ง eToro จะบริหารจัดการปรับสมดุลเหรียญคริปโตด้วย Market Cap Smart Portfolio ในนามของนักลงทุน

นักเทรดทั่วไปจะสนใจอัตราขั้นต่ำในการใช้งาน Smart Portfolio ซึ่งมีราคาเพียงแค่ $500 ยิ่งไปกว่านั้น eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นซื้อขายโดยอ้อมๆ เพียง 1% สำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการผ่าน Smart Portfolio นั่นเอง

Crypto ETF คืออะไร?

Crypto ETF ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนได้ทำกำไรจากตลาดคริปโตผ่านเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโตได้โดยไม่ต้องซื้อบิทคอยน์และ altcoins ผ่านกระดานแลกเปลี่ยน

ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนที่ช่ำชองหลายคนรู้สึกไม่สบายใจนักที่จะใช้กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเพื่อซื้อและขายสินทรัพย์ แต่จะชื่นชอบ Crypto ETF จากผู้ให้บริการที่มีการกำกับดูแลแทน เช่น ProShares, ARK และ Fidelity

• Crypto ETF มีมากมายและแตกต่างกันไป
• ตัวอย่างเช่น Crypto ETF ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่บิทคอยน์โดยเฉพาะ
• ยิ่งไปกว่านั้น ETF บิทคอยน์ที่เข้าถึงได้ในตลาดสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้รับการสนับสนุน
• แต่ผู้ให้บริการ ETF จะซื้อและขาย Bitcoin Futures ในนามของนักลงทุน
• นี่เป็นปัญหาในการลงทุน เนื่องจากจะมีความแตกต่างเสมอระหว่างมูลค่าของตลาดสปอต Bitcoin และ ETF ที่เกี่ยวข้อง

นอกตลาดสหรัฐฯ ก็มี ETF จำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต แม้ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนโดย Bitcoin แต่ก็มี ETF ที่ลงทุนโดยตรงลงใน Ethereum ด้วยเช่นกัน

บางทีประโยชน์หลักของ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือสามารถทำกำไรได้ผ่านบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Crypto ETF จะซื้อขายในกระดานแลกเปลี่ยนตราสารทุนสาธารณะ ซึ่งหมายความว่าการเข้าและออกจากตลาดก็ไม่แตกต่างจากการใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นทั่วไปนัก

Crypto ETF ยังมีความปลอดภัยกว่าสำหรับนักลงทุนบางราย เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดสำหรับนักลงทุนที่ต้องไว้วางใจกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการควบคุมเพื่อจัดเก็บเหรียญคริปโตของตน การดูแลจะเป็นความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ ETF แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด

Crypto ETF ทำงานอย่างไร?

ควรทำความเข้าใจว่า Crypto ETF ทำงานอย่างไรก่อนที่จะเริ่มลงทุน

โดยเราจะแจกแจงปัจจัยพื้นฐานโดยละเอียด ดังนี้

Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรด

Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรดหุ้น ซึ่งสามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการซื้อและขายหุ้น

มูลค่าของ Crypto ETF จะเพิ่มขึ้นและลดลงเช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป ขึ้นอยู่กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของ ETF ณ วันซื้อและขายแต่ละวัน โดยจะอิงกับสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือครองโดย Crypto ETF ตามราคาตลาดปัจจุบัน

Crypto ETF ที่ได้รับการสนับสนุน

ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต คล้ายกันกับ ETF ทองคำแบบดั้งเดิมที่ได้รับการสนับสนุนจากแท่งทองคำจริง แต่มูลค่าของ ETF จะสอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกของเหรียญคริปโตนั้นๆ

แม้ตลาดสหรัฐฯ จะไม่มี ETF คริปโตที่ได้รับการสนับสนุนที่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แต่ ETF คริปโตในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนและทำธุรกรรมโดยตัวเลือกการลงทุนทางการเงินอย่าง Bitcoin Futures แต่ก็มี ETF คริปโตจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโตนอกจากประเทศสหรัฐฯ

ตัวอย่างคือ 21Shares Ethereum ETP ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยโทเค็น ETH ทำให้ ETF เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการติดตามราคา Ethereum โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอเหรียญคริปโตอื่นๆที่ซับซ้อนและมีราคาแพง

ฟิวเจอร์ Crypto ETF

ETF คริปโตเคอเรนซี่ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจำกัดการกระจายความเสี่ยงอย่างมาก เพราะตลาดฟิวเจอร์สคริปโตที่มีการควบคุมเพียงแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาคือ Bitcoin

นักลงทุนจะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ ในมูลค่าของ Bitcoin เมื่อลงทุนใน ETF ฟิวเจอร์สและตราสารตัวเลือกลงทุนอื่น

โดยเหตุผลคือจะมีความแตกต่างในการกำหนดราคาระหว่างราคาบิทคอยน์กับราคาของ ETF บิทคอยน์นั่นเอง

หุ้น Crypto ETF

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือการลงทุนใน ETF ที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้น Crypto ก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึง Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ที่ให้เข้าถึงบริษัทคริปโตมากมาย ได้แก่ Coinbase, Marathon Digital และ Riot Blockchain

สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง Siren Nasdaq NexGen Economy ETF ก็ให้การเข้าถึงหุ้น คริปโตอย่างอิสระ ซึ่งรวมถึง Paypal, IBM, Oracle และ JPMorgan Chase

แต่การเลือก Crypto ETF ชั้นนำที่ได้รับการสนับสนุนโดยหุ้นซึ่งตรงข้ามกับเหรียญคริปโตหรือฟิวเจอร์สนั้นให้ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งคือเงินปันผล หากหุ้นปันผลทำการแจกจ่ายเงินปันผล นักลงทุนก็จะได้รับสิทธิ์ในส่วนแบ่งของตนนั่นเอง

Crypto ETF เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

ความเห็นมักจะแตกต่างกันไปเมื่อพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ แม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะใช้กระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิม แต่คนอื่นๆ ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะใช้งานผู้ให้บริการ ETF แทน

ตอนนี้เราจะอธิบายถึงปัจจัยหลักๆ บางประการที่ต้องพิจารณาก่อนทำกำไรจาก Crypto ETF

หลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต

หนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมนักลงทุนบางคนจึงตามหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อลงทุนในเหรียญคริปโต นั่นก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต

เหรียญคริปโตซื้อขายต่างจากตลาดหุ้น ซึ่งเป็น Centralized Exchange เช่น NYSE และ NASDAQ หมายความว่าระบบการกำหนดราคาที่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกสามารถดูประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ของหุ้นที่เลือกจะมีการกำกับดูแลอย่างชัดเจน

แต่ราคาเหรียญคริปโตจะถูกกำหนดจากกระดานแลกเปลี่ยน โดยราคาของ Bitcoin จะมีความแตกต่างอยู่มากในกระดานแลกเปลี่ยนแต่ละประเทศ การลงทุนใน Crypto ETF จึงทำให้นักลงทุนทำกำไรได้จาก Bitcoin โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลงทุนในกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการกำกับดูแลนั่นเอง

การดูแล

ประโยชน์สูงสุดของ Crypto ETF คือการกำกับดูแล เมื่อนักลงทุนซื้อเหรียญคริปโตออนไลน์ก็จะมีสองตัวเลือกด้วยกัน

• ตัวเลือกแรก พวกเขาสามารถเก็บโทเค็นไว้ใน Crypto Wallet ที่ได้รับการดูแลจากกระดานเทรดคริปโต
• แต่ถ้ากระดานเทรดโดนแฮ็ก นักลงทุนก็จะสูญโทเค็นใน Wallet ไปทั้งหมด
• ทางเลือกที่สองคือถอนโทเค็นไปยัง Private Wallet
• หมายความว่านักลงทุนสามารถควบคุมเหรียญคริปโตของตนได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีการแฮ็กเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจส่งผลให้สูญเสียเหรียญไปได้เช่นกัน

การเลือกใช้ Crypto ETF ทำให้นักลงทุนแทบไม่มีความเสี่ยง เนื่องจาก ETF จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการที่ได้รับการควบคุม เช่น Fidelity หรือ ProShares

ผู้ให้บริการ ETF จะมีการประกันและการควบคุมความปลอดภัยระดับสถาบันในนามของนักลงทุน

หมายความว่านักลงทุนสามารถทำกำไรจากเหรียญคริปโตโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานด้านปลอดภัยของ Wallet

สภาพคล่อง

แม้ว่า ETF คริปโตจะถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาด แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีสภาพคล่องมากกว่าอย่างมากในกระดานเทรดคริปโตหลักๆ อย่าง Binance

ตัวอย่างเช่น ในช่วง 24 ชั่วโมงของการซื้อขาย เหรียญคริปโตมูลค่ามากกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกแลกเปลี่ยนในกระดานเทรด Binance ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง ETF อยู่มาก

ในช่วงขาขึ้นก็มีการทำธุรกรรมใน Binance ในปริมาณกว่า 70 พันล้านดอลลาร์

การขายชอร์ต

อีกหนึ่งข้อดีของ ETF คริปโตเคอเรนซี่คือช่วยให้นักลงทุนขายชอร์ต Bitcoin ได้อย่างง่ายดาย โดยปกติแล้วนักลงทุนจะต้องมีส่วนร่วมกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อขาย เช่น crypto futures หรือ option หรือนักลงทุนจะต้องใช้กระดานเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับการควบคุมเช่น Bitmex

แต่ ProShares Short Bitcoin Strategy ETF นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขายชอร์ตโดยเฉพาะ นักลงทุนเพียงแค่ต้องซื้อ ETF ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา Bitcoin

ProShares Short Bitcoin Strategy ETF เหมาะสำหรับสถานะระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยฟิวเจอร์ส ด้วยเหตุนี้เมื่อพิจารณาจากกราฟราคา ETF จึงทำให้เห็นความแตกต่างกันอย่างมากในความสัมพันธ์ระหว่างราคา ETF กับตลาดสปอต Bitcoin

ทำไมพรีเซลล์เหรียญคริปโตจึงดีกว่า Crypto ETF?

ก่อนหน้านี้เราได้อธิบายว่ามีทางเลือกที่ดีกว่า Crypto ETF ในปัจจุบัน

พรีเซลล์นั้นเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่เพียงแต่ต้องการทำกำไรจากเหรียญคริปโตเท่านั้น แต่ยังต้องต้องการอยู่เหนือตลาดอีกด้วย เนื่องจากพรีเซลล์เสนอราคาที่ถูกที่สุดของเหรียญคริปโตก่อนถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน

ดังนั้น เราจึงขออธิบายข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ 3 พรีเซลล์เหรียญคริปโตที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้

Dash 2 Trade – เหรียญคริปโตพรีเซลล์โดยรวมที่น่าลงทุนที่สุดตอนนี้

Dash 2 Trade เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์คริปโตที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ จากการทดสอบในช่วงอัลฟ่า เราพบว่า Dash 2 Trade ให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสในการซื้อขายที่ทำกำไรได้มากที่สุดในตลาดคริปโต

ตัวอย่างเช่น เทอร์มินัล Dash 2 Trade จะส่งสัญญาณซื้อขาย crypto ตลอดทั้งวัน สัญญาณอาจแนะนำให้ซื้อ XRP ที่ $0.45 โดยตั้งจุด stop loss และทำกำไรที่ $0.40 และ $1.10 สิ่งนี้ทำให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดคริปโตได้โดยไม่ต้องศึกษาตลาด

ทั้งยังมีฟีเจอร์หลักอย่างการสร้างกลยุทธ์ที่สามารถทดสอบได้ในสภาพแวดล้อมเสมือนที่ปราศจากความเสี่ยง สมาชิกเพียงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนเป็นเหรียญ D2T ซึ่งสามารถใช้เข้าถึงการรีวิวและการให้คะแนน ICO, การลิสต์ในกระดานเทรด, ข้อมูลเชิงลึก, ตัวชี้วัดทางสังคม, การวิเคราะห์แบบออนไลน์, และอื่นๆ อีกมากมาย

โทเค็น D2T เปิดพรีเซลล์ในราคาเพียง $0.05 ต่อโทเค็น ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเข้าสู่พรีเซลล์รอบถัดไปจนครบทั้ง 9 รอบ

IMPT – ทำกำไรจากตลาดคาร์บอนเครดิตที่กำลังเติบโต 

คาร์บอนเครดิตถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์มาใหม่ยอดนิยมในขณะนี้ แต่ตลาดที่ยังไม่มั่นคงก็ทำให้นักลงทุนอาจเข้าถึงได้ยาก นี่คือเหตุผลที่ IMPT กำลังปฏิวัติวงการระบบนิเวศที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตสำหรับนักลงทุนและบริษัททุกประเภท

พรีเซลล์ IMPT มีราคา 0.023 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ผู้ที่ซื้อโทเค็น IMPT ในตอนนี้จะมีโอกาสทำกำไรเมื่อเหรียญถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน โดยโทเค็น IMPT สามารถแปลงเป็นคาร์บอนเครดิต NFT ซึ่งเป็นวิธีการเก็งกำไรในการลงทุนในอนาคตของราคาคาร์บอนเครดิตโดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักลงทุนสถาบัน

Calvaria – นวัตกรรมแห่งการเล่นเกม Play to Earn 

เกมทั่วไปเป็นทั้งแบบรวมศูนย์และถูกควบคุมโดยนักพัฒนาชั้นนำไม่กี่ราย แต่ Calvaria มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวงการนี้ด้วยการเล่นแบบ play to earn ซึ่งผู้เล่นสามารถรับรางวัลเป็นเหรียญคริปโตได้จากการเล่น

ไม่เพียงเท่านั้น ทรัพย์สินในเกมใดๆ จะเป็นเจ้าของโดยผู้เล่น 100% เนื่องจากเป็น NFT ที่จัดเก็บและแลกเปลี่ยนบน Blockchain โดยพรีเซลล์ Calvaria กำลังเปิดขายและอยู่ในรอบที่สาม ซึ่งโทเค็น RAI สามารถซื้อได้ในราคาเพียง $0.02 เท่านั้น

ไปยังพรีเซลล์ Calvaria ตอนนี้

บทสรุป

บทความนี้ได้วิเคราะห์และจัดอันดับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้

แม้ ETF คริปโตจะได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนอย่างปลอดภัยในตลาด Bitcoin แต่ ETF ส่วนใหญ่ก็ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แทนที่จะเป็นเหรียญคริปโต

ดังนั้นทางเลือกที่ดีกว่าก็คือพรีเซลล์เหรียญคริปโตอย่าง IMPT ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่จะมาปฏิวัติระบบนิเวศการแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต

Dash 2 Trade เป็นอีกพรีเซลล์ที่ควรพิจารณาด้วยแดชบอร์ดการวิเคราะห์คริปโตขั้นสูงที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย

แม้ว่าตลาดจะเปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และมีโทเค็นนับพันในตลาด แต่การทำกำไรให้ได้สม่ำเสมอนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่าย นี่คือเหตุผลที่เทรดเดอร์ที่ช่ำชองจะใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์และเครื่องมือเทรดคริปโตอัตโนมัติต่างๆ เพื่อช่วยให้นำหน้าตลาดได้นั่นเอง

ในบทความนี้เราจะอธิบายเกี่ยวกับ 8 เครื่องมือคริปโตที่ควรพิจารณาเพื่อทำกำไรสูงสุด

จัดอันดับ 8 เครื่องมือคริปโตเพื่อเพิ่มผลกำไร

แนะนำเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดที่เราจะอธิบายในบทความนี้ ได้แก่:

1. Dash 2 Trade – เครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุด ที่กำลังเปิดขายพรีเซลล์
2. CryptoSignals.org – สัญญาณซื้อขายคริปโตระดับมืออาชีพเพื่อการเทรดกึ่งอัตโนมัติ
3. TradingView – เครื่องมือดูกราฟคริปโตระดับสูง
4. 3Commas – สร้างบอทเทรดอัตโนมัติ
5. Copy Trade – เครื่องมือคริปโตอัตโนมัติเต็มรูปแบบเพื่อ Copy Trade เหล่านักเทรดมืออาชีพ
6. เลเวอเรจเหรียญคริปโต – ซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ด้วยเลเวอเรจ
7. CoinMarketCap – เว็บไซต์สอนดูกราฟคริปโตมือใหม่ที่ดีที่สุด
8. Coin Market Manager – เครื่องมือคริปโตติดตามพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ขั้นสูง

นักเทรดหลายคนจะใช้ indicator คริปโตที่ดีที่สุดข้างต้นพร้อมๆ กัน ดังนั้น เราจะมาอธิบายเรื่องวิธีการทำงานของทุกๆ เครื่องมือคริปโตในส่วนถัดไป

ไปยัง Dash 2 Trade ตอนนี้

1. Dash 2 Trade – เครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุด ที่กำลังเปิดขายพรีเซลล์

หากคุณสงสัยว่าจะเริ่มเทรดคริปโตที่ไหนดี เราขอแนะนำ Dash 2 Trade เทอร์มินัลการวิเคราะห์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเหรียญ D2T กำลังเปิดระดมทุนอยู่ในช่วงพรีเซลล์

โดยโปรเจกต์ตัวเต็มจะเป็นแดชบอร์ดการวิเคราะห์เหรียญคริปโตแบบ all in one ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายไปอีกระดับ ตัวอย่างเช่น Dash 2 Trade จะให้สัญญาณซื้อขายคริป crypto ที่ดีที่สุด โดยทีมนักวิเคราะห์ภายในบริษัท นอกเหนือไปจากการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

เมื่อพบโอกาสในการซื้อขาย Dash 2 Trade จะส่งสัญญาณแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน ทั้งยังแนะนำจุดทำกำไรและจุด stop loss ให้ผู้ใช้ Dash 2 Trade ลงทุนได้ในวิธีที่ไม่ต้องเสี่ยงมากนัก

Dash 2 Trade เป็นหนึ่งในเครื่องมือเทรดคริปโตพร้อมข้อมูลที่ทันสมัย อัลกอริทึมพื้นฐานจะสแกนและวิเคราะห์ตัวชี้วัดจำนวนมากตลอดเวลา รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Reddit, Telegram, และ Twitter

โดยเมื่อเหรียญ โปรเจกต์ หรือแคมเปญพรีเซลล์ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างและมีกระแสบวก Dash 2 Trade ก็จะส่งสัญญาณแจ้ง โดยเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุด ช่วงขาลงบางสกุลก็เป็นเหรียญที่กำลังเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ Dash 2 Trade จะสแกนเครือข่าย blokchain ยอดนิยม เช่น Bitcoin, Ethereum และ BNB อีกด้วย

ซึ่งเน้นที่การเคลื่อนไหวของวาฬที่อาจเกิดขึ้น การโอนเหรียญจากกระดานแลกเปลี่ยนไปยัง crypto wallet ส่วนตัวชี้วัดอื่นๆ ที่ผู้ใช้ Dash 2 Trade จะสามารถเข้าถึงได้อย่างราบรื่น ได้แก่ การลิสต์เหรียญใหม่บนกระดานเทรด เหรียญคริปโต ICO มาใหม่ และการให้คะแนนและข้อมูลระดับมืออาชีพเกี่ยวกับราคา ปริมาณการซื้อขาย ความลึกของตลาด และอื่นๆ

Dash 2 Trade จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อซื้อขายอัตโนมัติ เนื่องจากผู้ใช้จะได้สร้างกลยุทธ์การซื้อขายก่อนที่จะนำไปทดสอบย้อนหลัง ซึ่งจะบ่งบอกถึงสภาพตลาดจริง แต่ผู้ใช้จะไม่ต้องรับความเสี่ยงในด้านการเงินใดๆ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันซื้อขายที่ Dash 2 Trade พร้อมกับให้รางวัลเป็นประจำอีกด้วย

สำคัญคือ Dash 2 Trade ได้รับการสนับสนุนโดยโทเค็น D2T ในการเข้าถึงเครื่องมือเทรดคริปโตที่กล่าวถึงไปข้างต้น ผู้ใช้จะต้องเลือกแผนการสมัครสมาชิกรายเดือน ชำระค่าธรรมเนียมเป็น D2T ดังนั้นโทเค็น ERC20 นี้จึงมีประโยชน์ในการใช้งานจริง

ไม่เพียงแต่ Dash 2 Trade จะเป็นแพลตฟอร์มเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่โทเค็น D2T ยังช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้ยิ่งขึ้น โดยพรีเซลล์ Dash 2 Trade ระดมทุนไปแล้วกว่า 4 ล้านดอลลาร์ (ในเวลาเพียง 10 วัน) ซื้อได้ในราคาที่ถูกสำหรับนักเทรดคริปโตระยะสั้น

ในขณะที่เขียน โทเค็น D2T มีราคาที่ $0.05 ซึ่งอยู่ในรอบที่ 2 ของการพรีเซลล์ ในรอบถัดไปจะเพิ่มเป็น $0.0513 และ $0.0533 ตามลำดับจนกว่ารอบที่ 9 จะสิ้นสุด ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 0.0662 ดอลลาร์ เราได้อธิบายวิธีซื้อ Dash 2 Trade ในช่วงพรีเซลล์เพิ่มเติมเอาไว้ในบทความดังกล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ D2T โปรดอ่านเอกสารข้อมูล Dash 2 Trade และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 26,800 คนแล้ว

ไปยัง Dash 2 Trade ตอนนี้

2. CryptoSignals.org – สัญญาณซื้อขายคริปโตระดับมืออาชีพเพื่อการเทรดกึ่งอัตโนมัติ

CryptoSignals.org แพลตฟอร์มยอดนิยมที่เชี่ยวชาญเฉพาะในด้านสัญญาณซื้อขายคริปโต โดยสมาชิกจะได้รับคำแนะนำในการเทรดเหรียญที่จะซื้อหรือขาย จุดทำกำไร และจุด stop loss

CryptoSignals.org เป็นเครื่องมือดูกราฟคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายแบบกึ่งอัตโนมัติ นี่เป็นเพราะเมื่อได้รับสัญญาณ นักเทรดจะสามารถตรงไปยังกระดานเทรดคริปโตที่ต้องการและวางคำสั่งซื้อขายที่เครื่องมือแนะนำ

ตัวอย่างสัญญาณซื้อขายคริปโตบน CryptoSignals.org ได้แก่:

• เหรียญ – Ethereum
• คำสั่ง – ซื้อ
• จุดเข้า – $1,490
• จุดทำกำไร – $1,673
• จุดตั้ง Stop Loss – $1,329

จากตัวอย่างข้างต้น เทรดเดอร์จะมีจุดข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการตามคำแนะนำของ CryptoSignals.org ซึ่งสามารถไปที่กระดานแลกเปลี่ยนและป้อนคำสั่งซื้อ Ethereum ที่ราคา $1,490

CryptoSignals.org มีแพ็คเกจพรีเมียมสี่แพ็คเกจนอกเหนือจากแผนแบบฟรี ซึ่งแบบฟรีนั้นจะให้สัญญาณคริปโตสามครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนแผนแบบพรีเมียมจะเพิ่มสัญญาณเป็น 2-3 ครั้งต่อวัน ด้วยเหตุนี้สมาชิกพรีเมียมจะไม่มีทางพลาดโอกาสในการซื้อขายนั่นเอง

แผนรายเดือนเริ่มต้นที่ 42 ปอนด์ และถ้าหากสมัครบริการเป็นเวลา 3 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายเพียง 78 ปอนด์เท่านั้น ส่วนแผนแบบราย 6 เดือนและแบบรายปีมีราคา 114 ปอนด์และ 210 ปอนด์ตามลำดับ สัญญาณการซื้อขายคริปโต CryptoSignals.org ทั้งหมดจะถูกส่งผ่านกลุ่ม Telegram ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกกว่าหลายพันคน

3. TradingView – เครื่องมือดูกราฟคริปโตระดับสูง

สำหรับนักเทรดคริปโตรายวันเราก็ขอแนะนำ TradingView ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่นิยมมากที่สุดทั่วโลกรวมถึง Binanceที่ ได้ผสานรวมกับเครื่องมือ TradingView เข้ากับแดชบอร์ดกราฟราคา เนื่องจาก TradingView เป็นมาตรฐานขั้นสุดเมื่อพูดถึงข้อมูลการกำหนดราคาแบบเรียลไทม์

TradingView ยังมาพร้อมกับ indicator คริปโตมากมาย, heat maps, เครื่องมือ drawing tools, ตัวคัดกรอง และอื่นๆ และมีตลาดหลายพันแห่งที่รองรับเหรียญคริปโต หุ้น กองทุนรวมดัชนี และอีกมากมาย โดย TradingView จะดึงข้อมูลจากกระดานแลกเปลี่ยนและโบรกเกอร์ยอดนิยม และให้เทรดเดอร์ได้ปรับแต่งหน้าจอกราฟราคาได้อย่างเต็มที่

ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ timeframe, การจดจำแท่งเทียน, indicator แสดงปริมาณ, และอื่นๆ ทั้งยังมี indicator ที่สร้างโดยคอมมิวนิตี้มากกว่า 100,000 ตัวและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในไพน์สคริปต์ TradingView ยังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับตลาดคริปโตตลอดเวลา ซึ่งจะแจ้งเตือนบนอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ตามเงื่อนไขที่แตกต่างกัน 12 ข้อ

ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์ต้องการรับการแจ้งเตือนเมื่อ RSI เหรียญ BTC/USD ต่ำกว่า 40 คุณก็สามารถตั้งค่าได้อย่างง่ายดาย ในแง่ของราคา TradingView ให้บริการกราฟราคา เครื่องมือ drawing tools, และ indicator ทางเทคนิคแบบฟรีๆ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่ชำนาญอาจพิจารณาแผนแบบ Pro, Pro+ และแบบพรีเมียมที่มีราคา $14.95, $29.95 และ $59.95 ตามลำดับ

4. 3Commas – สร้างบอทเทรดอัตโนมัติ 

3Commas เป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ใช้สามารถสร้างบอทซื้อขายของตนเองได้อย่างอิสระ ซึ่งจะทำงานในรูปแบบ ‘what-if’ ซึ่งหมายความว่าบอทจะเข้าหรือออกจากสถานะตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดเอาไว้

ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่านักเทรดต้องการซื้อ XRP ทุกครั้งที่ราคาลดลงต่ำกว่า 4% ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อเงื่อนไข ‘if’ ในตัวอย่างนี้เกิดขึ้น (XRP ลดลง 4%) บอทอัตโนมัติจะเข้าซื้อเหรียญนั่นเอง แต่ 3Commas จะให้ความยืดหยุ่นมากกว่าตัวอย่างข้างต้นมาก เนื่องจากนักเทรดสามารถกำหนดเงื่อนไขได้หลายข้อ

อย่างไรก็ตาม 3Commas เหมาะอย่างยิ่งในการซื้อขายเหรียญคริปโตตลอดเวลาด้วยวิธีอัตโนมัติ ผู้ที่ไม่มีทักษะในการสร้างกลยุทธ์ของตนก็สามารถพิจารณาใช้หนึ่งในบอทที่ถูกสร้างเอาไว้ของ 3Commas ซึ่งรวมถึงบอท DCA (การลงทุนแบบสม่ำเสมอ) ที่จะซื้อเหรียญคริปโตที่เลือกเมื่อราคาลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

3Commas มีแผนแบบฟรีสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้แพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จำกัดเพียงหนึ่งแค่การลงทุน DCA, ตัวเลือก, หรือบอท GIRD เท่านั้น และจะไม่รองรับการเทรดแบบจำลอง ส่วนแผนแบบโปร ซึ่งมีค่าใช้จ่าย $49.50 ต่อเดือน และชำระเงินได้แบบรายปี จะมีบอทไม่จำกัด เงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และการทดสอบย้อนกลับแบบเรียลไทม์

5. Copy Trading – เครื่องมือคริปโตอัตโนมัติเต็มรูปแบบเพื่อ Copy Trade เหล่านักเทรดมืออาชีพ  

หนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ถามว่าเทรดคริปโตเริ่มยังไงดีโดยไม่ต้องทำการศึกษาด้วยตนเองคือการ copy trade ซึ่งให้นักลงทุนสามารถคัดลอกนักลงทุนคริปโตที่ประสบความสำเร็จได้อย่างอิสระ ซึ่ง eToro เป็นแพลตฟอร์ม copy trading ที่ดีที่สุดโดยรวมในตลาด

eToro ไม่เพียงแค่ให้บริการ copy trade แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบเท่านั้น แต่ยังรองรับอีกหลายสิบเหรียญคริปโตราคาถูกที่สุด, หุ้น, ETF, ฟอเร็กซ์, และอื่นๆ หลังจากเปิดบัญชีแล้ว ผู้ใช้ eToro จะสามารถเลือกเทรดเดอร์หลายพันรายที่ลงทะเบียนโปรแกรม copy trade ได้

เพื่อช่วยตัดสินใจ eToro ยังแสดงข้อมูลมากมาย เช่น เวลาการถือสถานะเฉลี่ยของเทรดเดอร์ สินทรัพย์และเหรียญคริปโตที่ต้องการ แฟ้มความเสี่ยง เงินขาดทุนสะสมสูงสุด และที่สำคัญที่สุดคือผลกำไรและขาดทุนแบบรายเดือนนับตั้งแต่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม เพียงแค่ต้องลงทุนขั้นต่ำที่ $200 และเลือกนักเทรดที่ต้องการ copy trade เท่านั้น

นักลงทุนที่มีงบประมาณจำกัดจะชอบฟีเจอร์ copy trade บน eToro เนื่องจากเงื่อนไขจะเป็นไปตามสัดส่วนของขนาดการลงทุน ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์จัดสรร 5% ของพอร์ตการลงทุนเพื่อเปิดสถานะซื้อ ETH/USD และผู้ใช้ eToro ลงทุนที่ $200 การซื้อขายจะถูกคัดลอกเป็น $10 โดยนักเทรดจำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมของ eToro แต่จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการใช้เครื่องมือ copy trade

6. เลเวอเรจเหรียญคริปโต – ซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ด้วยเลเวอเรจ   

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ผู้เริ่มต้นเผชิญเมื่อทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแบบเต็มเวลาคือการเข้าถึงเงินทุนในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการเทรดคริปโตรายวัน ซึ่งต้องเทรดบ่อยๆ แต่ได้กำไรน้อย นี่คือจุดที่เลเวอเรจเหรียญคริปโตเข้ามามีบทบาท

มีแพลตฟอร์มซื้อขายมากมายในตลาดที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายเหรียญคริปโตด้วยเงินมากกว่าที่มีในบัญชีของตน หรือที่เรียกว่าเป็นการซื้อขายแบบมาร์จิ้น ซึ่งหมายความว่านักเทรดจะสามารถเพิ่มขนาดของเงินที่ใช้ลงทุนของตนได้ เช่น สมมติว่านักเทรดมี $100 ในบัญชีของตน และพวกเขาสามารถใช้เลเวอเรจได้ที่อัตรา 1:100

ซึ่งหมายความว่าทุน $100 จะเปลี่ยนไปเป็น $10,000 นั่นเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการใช้เลเวอเรจในระดับสูงจะเพิ่มโอกาสในการถูกชำระบัญชีหรือที่ภาษาบ้านๆ เรียกว่า ‘พอร์ตแตก’ ซึ่งหมายความว่านักเทรดจะถูกปิดสถานะโดยกระดานเทรดหรือโบรกเกอร์หากสูญเสียเงินทุนไปจำนวนหนึ่ง

ในด้านตัวเลือก เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงเลเวอเรจ CFD (สัญญาการซื้อขายส่วนต่าง) ได้อย่างง่ายดาย ตราสารอนุพันธ์รับรองโดยโบรกเกอร์ CFD ที่ได้รับการควบคุม และตราสารจะติดตามมูลค่าตามเวลาจริงของคู่สกุลเงินดิจิตอลที่เลือก ส่วนแพลตฟอร์มอย่าง Bitmex ก็มีตลาดที่ให้เลเวจสูงแต่ไม่มีการกำกับดูแล

7. CoinMarketCap – เว็บไซต์สอนดูกราฟคริปโตมือใหม่ที่ดีที่สุด     

นักเทรดที่ตามหาเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่อาจพิจารณา CoinMarketCap ซึ่งมักถูกพิจารณาว่าเป็นมาตรฐานขั้นสุดเมื่อพูดถึงข้อมูลเหรียญคริปโต แม้ว่าจะมีทางเลือกขั้นสูงและแม่นยำกว่าอย่าง Dash 2 Trade ก็ตาม แต่ CoinMarketCap ก็เป็นเครื่องมือเทรดคริปโตที่เหมาะสมในการติดตามราคาตลาด

CoinMarketCap แสดงรายการเหรียญคริปโตมากกว่า 21,600 สกุลในขณะที่เขียน ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถติดตามราคาตลาดและแนวโน้มล่าสุดได้ เพราะ CoinMarketCap จะนำข้อมูลจากกระดานแลกเปลี่ยนหลายแห่งมาแสดง CoinMarketCap ยังให้นักเทรดสามารถพูดคุยกันผ่านฟีดโซเชียลอีกด้วย

นอกจากนี้ CoinMarketCap ยังมีประโยชน์ในการประเมินข้อมูลกระดานแลกเปลี่ยนในแง่ของปริมาณการซื้อขายและความลึกของตลาด โดยเครื่องมือเพิ่มเติมที่มีอยู่ใน CoinMarketCap ได้แก่ การแจ้งเตือน, กิจกรรมและกำหนดการเหรียญคริปโต ICO, การแจกเหรียญคริปโต, โปรเจกต์ blockchain ใหม่ๆ และศูนย์การเรียนรู้ CoinMarketCap ยังมีวิดีโอและบทความเพื่อการศึกษาอีกด้วย

8. Coin Market Manager – เครื่องมือคริปโตติดตามพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ขั้นสูง       

Coin Market Manager เป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการติดตามพอร์ตการลงทุนแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรเพื่อติดตามการประเมินมูลค่าพอร์ตในกระดานแลกเปลี่ยนมากมาย ทั้งทางออนไลน์หรือผ่านแอพ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเหรียญคริปโตในหลายๆ แพลตฟอร์มและต้องการดูสถานะโดยรวมภายในที่เดียว

ไม่เพียงเท่านั้น Coin Market Manager ยังมีข้อมูลเชิงลึกขั้นสูงเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนและสถานะการซื้อขายในอดีตอีกด้วย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินได้ว่ากลยุทธ์และการลงทุนใดที่ใช้ได้ผลและกลยุทธ์ใดที่ใช้ไม่ได้ผล โดยมีสามแผนให้เลือก แผนฟรีจะมาพร้อมกับภาพรวมพอร์ตการลงทุนแบบพื้นฐาน หนึ่งบัญชีต่อหนึ่งกระดานแลกเปลี่ยน และสมุดรายวันการซื้อขายแบบกำหนดเอง

แผนแบบฟรีนั้นค่อนข้างธรรมดา ดังนั้นผู้ใช้อาจพิจารณาอัปเกรดเป็นแผนระดับมืออาชีพและระดับองค์กรซึ่งมีราคาที่ 69.99 ดอลลาร์และ 89.99 ดอลลาร์ต่อเดือนตามลำดับ ซึ่งมีฟีเจอร์และเครื่องมือขั้นสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีการทดลองใช้งานฟรี 14 วันสำหรับลูกค้าที่ซื้อเป็นครั้งแรกอีกด้วย

เหตุผลที่ต้องใช้แอพวิเคราะห์กราฟคริปโตคืออะไร?

แม้จะมีนักลงทุนบางรายที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างสม่ำเสมอในตลาดคริปโต แต่ส่วนใหญ่กลับล้มเหลวในการทำเช่นนี้ และหนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คือนักเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้นไม่มีเครื่องมือคริปโตที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อขายให้ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญที่สุดคือการตัดสินใจถึงความเสี่ยงในการซื้อขาย

ในวิธีเทรดคริปโต นักลงทุนต้องคาดการณ์อนาคตในการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของ Bitcoin หรือ XRP ที่แตะจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ นักเทรดจะต้องคาดเดาทิศทางในอนาคตเหรียญคริปโต ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลยหากขาดเครื่องมือคริปโต

• สิ่งที่สำคัญคือกราฟราคา ซึ่งนักเทรดสามารถประเมินแนวโน้มในอดีตและดูว่ากราฟจะกระตุ้นการซื้อขายในอนาคตได้อย่างไร
• แต่การดูกราฟราคาอย่างเดียวคงไม่พอ
• ในทางตรงกันข้าม เทรดเดอร์ที่ช่ำชองจะใช้ indicator บอกจุดเข้าซื้อคริปโต เช่น RSI และ Fibonacci Retracement เพิ่มเติม

ผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีวิเคราะห์กราฟราคาหรือวิธีใช้ indicator อาจพิจารณาใช้สัญญาณซื้อขายคริปโต เพื่อให้นักลงทุนซื้อขายแบบกึ่งอัตโนมัติ เพราะสัญญาณจะแนะนำสถานะเข้าซื้อที่เหมาะสมตามการศึกษาและการวิเคราะห์เครื่องมือนั้นๆ

ยิ่งไปกว่านั้น มือใหม่อาจพิจารณาใช้เว็บไซต์สอนดูกราฟคริปโตมือใหม่ ซึ่งจะอ้างอิงกับเหตุการณ์ข่าวสารที่อาจมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาเหรียญคริปโต นักลงทุนทุกคนจึงต้องใช้เครื่องมือคริปโตที่หลากหลายเพื่อทำผลกำไรสูงสุด

ประเภทเครื่องมือเทรดคริปโตและข้อดีคืออะไร?

เมื่อเข้าสู่ตลาดการซื้อขายคริปโตเป็นครั้งแรก ก็ควรมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเครื่องมือและ indicator คริปโตประเภทต่างๆ

ด้วยเหตุนี้เราจึงจะมาอธิบายถึงเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดในขณะนี้

บอทคริปโต

วิธีการซื้อขายอัตโนมัตินี้ช่วยให้นักลงทุนป้อนคำสั่งซื้อและคำสั่งขายได้โดยอัตโนมัติ บอทคริปโตนั้นจะแตกต่างกัน โดยบางตัวก็มีความน่าเชื่อถือมากกว่าตัวอื่น

• เช่น มีแพลตฟอร์มเทรดคริปโตอัตโนมัติมากมายในตลาด ที่เป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้สามารถใช้ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
• แม้อาจจะฟังดูน่าสนใจ แต่ก็ไม่มีการรับประกันว่าบอทจะทำเงินได้
• นอกจากนี้ผู้ใช้ควรถามตัวเองด้วยว่าทำไมผู้ให้บริการบอทจึงต้องแบ่งปันบอทที่ทำกำไรได้สูงให้กับสาธารณะ

โดยตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้งานแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้อย่าง Dash 2 Trade ที่ให้นักเทรดได้สร้างบอทของตนเอง

หมายความว่านักเทรดจะตั้งค่าพารามิเตอร์ของตนเองตามตัวชี้วัด เช่น ราคา แนวโน้ม ปริมาณ และความผันผวน และบอทจะซื้อเหรียญคริปโตเมื่อราคาเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้

Dash 2 Trade ยังมีการทดสอบแบบย้อนหลังที่ปราศจากความเสี่ยงเพื่อประเมินว่าบอททำงานอย่างไรในสภาวะตลาดจริง

กราฟ

นักเทรดคริปโตที่ประสบความสำเร็จจะใช้กราฟราคาที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าทิศทางราคาเหรียญคริปโตจะเป็นอย่างไรทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง

ข้อมูลบนกราฟจะต้องใช้ร่วมกันกับ indicator ที่นิยมใช้คริปโต ซึ่งมีมากมาย โดย indicator แต่ละตัวจะเน้นไปที่แนวโน้มราคาที่แตกต่างกัน

เช่น เราได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า RSI เป็นหนึ่งในเครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อประเมินว่าเหรียญคริปโตนั้นอาจมีการซื้อหรือขายมากเกินไปหรือไม่

การวิเคราะห์

การวิเคราะห์คริปโตเป็นข้อมูลสำคัญนอกเหนือจากเรื่องกราฟราคา

เช่น Dash 2 Trade จะให้ผู้ใช้ใช้งานตัวชี้วัดโซเชียลมีเดีย ซึ่งสามารถช่วยระบุเหรียญที่ได้รับความนิยมใน Pantip และTelegram ทั้งยังมีตัวชี้วัดบนเชน ซึ่งสามารถช่วยระบุการซื้อขายเหรียญคริปโตของวาฬได้

สัญญาณ

สัญญาณการซื้อขายคริปโตอาจเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มผลกำไรจากเหรียญคริปโต ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าควรวางคำสั่งซื้อขายเมื่อไหร่

เช่น สัญญาณ Dash 2 Trade อาจแนะนำให้ซื้อ BNB ที่ $290 โดยมีคำสั่ง stop loss ที่ $270 และคำสั่งทำกำไรอาจอยู่ที่ $410

โดยผู้ใช้ Dash 2 Trade เพียงแค่ต้องวางคำสั่งซื้อที่แนะนำผ่านกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ต้องการ

เข้าถึงเครื่องมือซื้อขายคริปโต Dash 2 Trade อย่างไร?

เครื่องมือคริปโตที่ดีที่สุดข้างต้นสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ที่เดียวคือ Dash 2 Trade

แม้ว่า Dash 2 Trade จะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่โทเค็นหลักอย่าง D2T ก็ได้เปิดให้ซื้อในช่วงพรีเซลล์แล้ว ซึ่งระดมทุนได้มากกว่า 4 ล้านเหรียญในเวลาเพียงแค่ 10 วัน

ดังนั้น เราจะมาอธิบายขั้นตอนการลงทุนซื้อ Dash 2 Trade ในราคาพรีเซลล์ตอนนี้

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง MetaMask Wallet

นักลงทุน Dash 2 Trade ทุกคนต้องติดตั้ง crypto wallet เพื่อเข้าถึงพรีเซลล์ ส่วนผู้ที่มีกระเป๋าเงินที่รองรับ Ethereum อยู่แล้ว ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้

หนึ่งใน crypto wallet ที่ดีที่สุดคือ MetaMask เพราะไม่เพียงแต่จะมีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังใช้งานง่ายอีกด้วย

ไปยังเว็บไซต์ MetaMask และคลิกที่ปุ่ม ‘Download’ และเลือกส่วนขยายเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox, Brave หรือ Edge) หรือแอพมือถือ (Android หรือ iOS)

เปิดกระเป๋าเงินและตั้งรหัสผ่าน จดรหัสสำรอง 12 คำเพื่อทำให้การติดตั้ง MetaMask เสร็จสมบูรณ์

ขั้นตอนที่ 2: ซื้อ Ethereum หรือ Tether 

Dash 2 Trade รองรับ Ethereum หรือ Tether ในช่วงพรีเซลล์ โดยหากคุณมีโทเค็นดังกล่าวแล้ว ก็สามารถดำเนินการขั้นตอนถัดไปได้

มือใหม่สามารถซื้อ Ethereum หรือ Tether ผ่านกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต เช่น Binance, FTX, OKX และอื่นๆ ที่รองรับบัตรเดบิตเมื่อทำการฝากเงิน

ขั้นตอนที่ 3: โอน Ethereum หรือ Tether ไปยัง MetaMask 

ถัดไป โทเค็น Ethereum หรือ Tether จะต้องถูกโอนไปยังกระเป๋าเงิน MetaMask ที่สร้างขึ้นมาใหม่

ขั้นแรก เปิด MetaMask และคัดลอกที่อยู่กระเป๋าเงินด้านล่าง ‘Account 1’

จากนั้น โอนเหรียญไปยังที่อยู่ดังกล่าวจากกระดานแลกเปลี่ยนหรือกระเป๋าเงินที่มี Ethereum/Tether อยู่

ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมต่อ MetaMask กับพรีเซลล์ Dash 2 Trade

เมื่อกระเป๋าเงิน MetaMask มีเหรียญ Ethereum หรือ Tether แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือไปที่พรีเซลล์ Dash 2 Trade

จากนั้นคลิกที่ ‘Connect Wallet’ เลือก MetaMask จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นการการยืนยันว่า MetaMask พร้อมเชื่อมต่อกับ Dash 2 Trade แล้ว

ยืนยันการเชื่อมต่อเพื่อดำเนินการขั้นตอนสุดท้าย

ขั้นตอนที่ 5: ป้อนจำนวนและซื้อโทเค็น D2T

หลังจากเชื่อมต่อ MetaMask กับ Dash 2 Trade แล้ว นักลงทุนจะต้องเลือกสกุลเงินที่ต้องการชำระ (Ethereum หรือ Tether) ขึ้นอยู่กับว่ามีโทเค็นใดอยู่ในกระเป๋าเงิน MetaMask

หลังจากนั้น ระบุจำนวนโทเค็น D2T ที่ต้องการซื้อ โดยให้ยืนยันการลงทุนพรีเซลล์ผ่าน MetaMask เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ และสามารถรับโทเค็น D2T ได้หลังจากสิ้นสุดพรีเซลล์

บทสรุป

การใช้งานเครื่องมือคริปโตที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำหน้าตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเครื่องมือเทรดคริปโตที่ดีที่สุดที่กล่าวถึงในวันนี้ ได้แก่ สัญญาณ โซเชียลมีเดีย ตัวชี้วัด on-chain บอทอัตโนมัติ การทดสอบย้อนหลัง และข้อมูลราคาระดับมืออาชีพ

โดยเครื่องมือคริปโตดังกล่าวมีให้ใช้งานบน Dash 2 Trade ซึ่งนักลงทุนสามารถทำกำไรได้จากโปรเจกต์ในช่วงพรีเซลล์ตอนนี้ด้วยโทเค็น D2T

เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ได้กลายเป็นทางเลือกลงทุนที่ดีแทนที่สินทรัพย์แบบ ‘ดั้งเดิม’ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว อย่างไรก็ตาม เหรียญคริปโตยังดึงดูดนักเทรดเทรดรายวัน ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรในแบบที่การลงทุนแบบอื่นๆ ทำได้ยาก

ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จะกล่าวถึงเหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023 ซึ่งจะครอบคลุมถึงเหรียญคริปโตแต่ละเหรียญที่น่าเทรดรายวัน และแนะนำวิธีการเริ่มต้นเทรดเหรียญคริปโตในวันนี้

จัดอันดับ 5 เหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023

ทุกวันนี้นักลงทุนจำนวนมากมักจะมีวิธีซื้อเหรียญคริปโตในรูปแบบการลงทุนระยะสั้น ซึ่งอาจเป็น timeframe ระดับชั่วโมง โดยวิธีการนี้มักจะถูกเรียกว่า ‘การเทรด’ เนื่องจากสินทรัพย์จะไม่ได้ถูกเก็บไว้ในระยะยาว

รายการด้านล่างก็คือเหรียญคริปโตน่าซื้อเพื่อเทรดรายวันที่ดีที่สุดแห่งปี โดยเราจะรีวิวเหรียญทั้งหมดในส่วนถัดๆ ไป:

1. FightOut (FGHT) – เหรียญคริปโตน่าเทรด M2E
2. RobotEra (TARO) – โทเค็น Metaverse ที่ดีที่สุด น่าซื้อในราคาต่ำในช่วงพรีเซล
3. Tamadoge (TAMA) – เหรียญคริปโตมาใหม่น่าเทรด
4. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโตน่าเทรดที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด
5. Lucky Block (LBLOCK) –  เหรียญที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด CEX สุดยิ่งใหญ่

ไปยังเหรียญคริปโตน่าเทรดตอนนี้

เจาะลึกกับเหรียญคริปโตน่าเทรดแต่ละเหรียญ

เหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023 มีสภาพคล่องสูงและให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่กำลังมองหาเคล็ดลับการลงทุนคริปโต

ด้วยเหตุนี้เราจะมาวิเคราะห์โปรเจกต์ที่กล่าวไปข้างต้นแบบละเอียดมากขึ้น ซึ่งอาจมีหลายๆ โปรเจกต์ที่เป็นเหรียญคริปโตที่มีศักยภาพมากที่สุดในระยะยาวก็ได้

1. FightOut – FightOut (FGHT) – เหรียญคริปโตน่าเทรด M2E ผ่านแอปฟิตเนสชั้นนำ

FightOut เป็นแอปฟิตเนสและเครือข่ายยิมแบบ Move-to-Earn ยุคใหม่ที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ด้วยการเล่นเกมฟิตเนสและไลฟ์สไตล์ ความสามารถของโครงการในการสร้างโซลูชันอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับตลาด M2E สามารถช่วยให้ FightOut กลายเป็นหนึ่งในโทเค็นคริปโตช่วงตลาดซบเซาที่ดีที่สุด

ในขณะที่เขียน โทเค็นหลัก $FGHT ของ FightOut สามารถซื้อได้ในราคาลดพิเศษที่ $0.0166 และระดมทุนได้มากกว่า $2.5 ล้านในช่วงพรีเซล

นักเทรดจะสนใจโทเค็นเนื่องจากเมื่อสิ้นสุดการขายล่วงหน้า FGHT จะขายในราคา $0.0333 ซึ่งเพิ่มขึ้น 100% จากราคาปัจจุบันก่อนที่จะถึงการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ นักลงทุนที่ซื้อโทเค็นในรอบแรกของการขายล่วงหน้าจะได้รับโบนัสพิเศษมากถึง 50% – สามารถรับได้มากถึง 25% ขึ้นอยู่กับจำนวนโทเค็นที่ซื้อ และอีก 50% สำหรับการเลือกล็อคช่วงเวลาสูงสุด 24 เดือน.

FightOut ได้กำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับสูงผ่านคุณสมบัติเฉพาะในตลาด Move-to-Earn ผู้ใช้สามารถรับรางวัลที่น่าตื่นเต้นโดยการออกกำลังกายประจำวัน ทำภารกิจเอาชนะชาเลนจ์ฟิตเนสต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย

โครงการได้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อสร้าง metaverse สำหรับผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถสร้างอวาตาร์ NFT ของตนเองได้ อวาตาร์ NFT เหล่านี้เรียกว่าอวาตาร์แห่งจิตวิญญาณ อวาตาร์เหล่านี้สอดคล้องกับประสิทธิภาพการออกกำลังกายในชีวิตจริงของผู้ใช้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้ยังสามารถแข่งขันกับสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ ใน metaverse ของ FightOut

FightOut ได้คิดค้นสกุลเงินในแอปที่รู้จักกันในชื่อ REPS ซึ่งใช้เพื่อตอบแทนผู้ใช้สำหรับการออกกำลังกาย ผู้ใช้จะได้รับ REPS เป็นรางวัลสำหรับการบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายและเอาชนะชาเลนจ์ต่างๆ ในแอป

น่าสนใจ ผู้ใช้สามารถใช้ REPS เหล่านี้เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นจากตลาดของ FightOut ผลิตภัณฑ์เหล่านี้รวมถึง NFT เครื่องสำอางสำหรับอวาตาร์ ส่วนลดสมาชิก สินค้า และอื่นๆ

$FGHT อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าร่วมการแข่งขันและลีกต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้โทเค็นเพื่อปลดล็อกโหมดเกมและประโยชน์อื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ที่สำคัญโทเค็นเหล่านี้สามารถใช้ซื้อ REPS เพิ่มเติมได้ ผู้ซื้อที่ใช้โทเค็น $FGHT เพื่อซื้อ REPS จะได้รับ REPS เพิ่มอีก 25%

เพื่อให้เข้าใจในเชิงลึกยิ่งขึ้นเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่างๆ ของ FightOut นักลงทุนสามารถอ่านเอกสารข้อมูลของโครงการได้

$FGHT เป็นโทเค็นหลักที่มีอุปทานจำกัดของโทเค็น FightOut ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum การจัดหาโทเค็นถูกจำกัดไว้ที่ 10 พันล้าน จากจำนวนนี้ มีโทเค็น 9 พันล้านโทเค็นสำหรับการซื้อผ่านขั้นตอนการขายล่วงหน้าของโครงการ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถซื้อโทเค็น $FGHT ผ่านบัตรเครดิตผ่าน Transak

นักลงทุนสามารถเข้าร่วมกลุ่ม telegram ของ FightOut เพื่อติดตามการอัปเดตที่น่าตื่นเต้นดังกล่าว

เริ่มต้นขายพรีเซล	14 ธันวาคม
วิธีชำระเงิน	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	ไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. RobotEra (TARO) – โทเค็น Metaverse ที่ดีที่สุด น่าซื้อในราคาต่ำในช่วงพรีเซล

ตามรายงานของ DappRadar เหรียญคริปโตเกมสามารถเป็นหนึ่งในการลงทุนเหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในช่วงตลาดหมี โทเค็นออกใหม่ในตลาดเกมนี้คือ TARO – เหรียญคริปโตหลักของโครงการเมตาเวิร์สที่กำลังเปิดตัวของ RobotEra ขณะนี้พร้อมให้ซื้อในช่วงพรีเซลรอบแรกจากทั้งหมดสามรอบ – TARO มีเป้าหมายที่จะระดมทุนเกือบ 7 ล้านดอลลาร์จากการพรีเซล

โปรเจ็กต์เกม metaverse ยอดนิยม เช่น The Sandbox (SAND) เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 เท่าตั้งแต่เปิดขายพรีเซล ด้วย RobotEra โครงการ metaverse นี้จะให้ผู้เข้าร่วมเข้าร่วมระบบนิเวศเสมือนจริงที่พวกเขาสามารถซื้อที่ดินเสมือนจริง สร้างพื้นที่ของตนเอง และมีส่วนร่วมในการปกครองโลก คุณสามารถเข้าถึงโลกของ RobotEra ได้โดยการซื้อ Robot NFT ซึ่งเป็นตัวแทนของตัวละครในเกมของคุณ

คล้ายกับ The Sandbox ผู้เล่นสามารถซื้อที่ดิน NFT ภายในระบบนิเวศและแลกเปลี่ยนในตลาด RobotEra มอบประสบการณ์ที่เหมือน multiverse – ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และจัดกิจกรรมเพื่อสร้างรางวัล ผู้ใช้สามารถสร้างรายได้จากการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม สามารถทำการ staking TARO เพื่อรับ APY (อัตราผลตอบแทนต่อปี) และโดยการแข่งขันในภารกิจ

RobotEra ให้ผู้ถือโทเค็น TARO สามารถ stake เหรียญ เพื่อเข้าร่วม DAO เพื่อสามารถโหวตออกเสียงและตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตขององค์กร ตามเอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่า 15% ของ 1.8 พันล้านโทเค็นจะถูกจัดสรรสำหรับการขายพรีเซล

90 ล้านโทเค็นจะถูกจัดสรรสำหรับแต่ละรอบของสามรอบของการพรีเซล ปัจจุบัน รอบพรีเซลรอบแรกขาย TARO ที่ราคา $0.02 อย่างไรก็ตาม ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.032 ดอลลาร์สำหรับรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้น 60% ดังนั้น นักลงทุนสามารถซื้อ TARO ได้ในราคาที่ต่ำที่สุดในขณะนี้

เข้าร่วม Telegram Channel เพื่อรับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการนี้

พรีเซลเริ่มต้น	ไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase Methods	ETH, USDT
เชน	Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด	N/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

3. Tamadoge (TAMA) – เหรียญคริปโตมาใหม่น่าเทรด

อีกหนึ่งเหรียญคริปโตน่าเก็บและน่าเทรดในปี 2023 ก็คือ Tamadoge โดยเหรียญ TAMA เปิดให้เทรดได้บนกระดานเทรด OKX และได้รับการยืนยันการลิสเหรียญลงในกระดาน CEX อื่นๆ อย่าง LBank และ Uniswap DEX อีกด้วย

Tamadoge ได้รับแรงบันดาลใจจากเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ‘สไตล์ Doge’ ยอดนิยมที่ทำให้เหรียญ เช่น Shiba Inu และ Dogecoin ได้รับความนิยมสูง อย่างไรก็ตาม Tamadoge จะดีกว่าเหรียญดังกล่าวเพราะมีกรณีการใช้งานที่น่าสนใจมากมาย

อย่างแรกก็คือ Tamadoge เป็นหนึ่งในเกม play to earn ที่ดีที่สุด เนื่องจากผู้ใช้สามารถสร้าง ‘สัตว์เลี้ยง Tamadoge’ และนำไปแบทเทิลกับผู้เล่นคนอื่น โดยสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวมีจุดแข็งแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้เล่นต้องคิดว่าจะชนะการแบทเทิลหรือไม่ โดย Dogepoints จะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ชนะ และผู้ที่มี Dogepoints มากที่สุดในแต่ละเดือนจะได้รับรางวัล

รางวัลจะถูกแจกจ่ายเป็น TAMA ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 หลักของ Tamadoge ซึ่งมีกรณีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น เป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรมในระบบนิเวศ Tamadoge ผู้ใช้สามารถซื้ออาหารและอุปกรณ์เสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง Tamadoge ของตน และยังสามารถซื้อสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมได้หากต้องการ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากเลือกที่จะซื้อ Tamadoge ในช่วงแรกๆ เพื่อเป็นโอกาสทำกำไร โดยเหรียญก็ได้รับการยืนยัน KYC โดย CoinSniper และตรวจสอบโดย SolidProof.io ทำให้เป็นโปรเจกต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง

นอกจากนี้ทีมงาน Tamadoge ก็มีแผนการพัฒนาที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงแอพมือถือ Augmented Reality (AR) อีกด้วย

ผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ก็สามารถเข้ากลุ่ม Telegram (แอดมินจะไม่ส่งข้อความถึงคุณหรือขอ seed phrase จากคุณเด็ดขาด)

ลงทุนขั้นต่ำ	1,000 TAMA (∼$10 + ค่าแก๊ส)
ลงทุนสูงสุด	ไม่ระบุ
วิธีการซื้อ	ETH, USDT, บัตรเดบิต/เครดิต (ผ่าน Transak)
เชน	Ethereum
สิ้นสุดพรีเซลล์	สิ้นสุดแล้ว

ไปยัง Tamadoge

4. Battle Infinity (IBAT) – เหรียญคริปโตน่าเทรดที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด

Battle Infinity เป็นโปรเจ็กต์ metaverse มาใหม่ที่รวมทุกอย่างในตลาดคริปโตไว้ด้วยกัน เช่น NFT, DeFi, และระบบ P2E ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในโลก 3 มิติของ Battle Infinity ที่เรียกว่า ‘Battle Arena’ ที่ผู้เล่นสามารถสร้างอวาตาร์และโต้ตอบกับผู้อื่นได้

หนึ่งในฟีเจอร์คุณภาพของตัวเกมก็คือ ‘IBAT Premier League’ ซึ่งเป็นลีกกีฬาแฟนตาซีแบบ decentralized ที่มีนักกีฬา NFT โดยผู้ใช้สามารถสร้างทีมและแบทเทิลกับทีมอื่นได้ และจะให้คะแนนตามผลงานจริงของนักกีฬา ซึ่งผู้ที่มีคะแนนมากสุดในกระดานผู้นำจะได้รับรางวัล

รางวัลจะถูกแจกจ่ายเป็น IBAT ซึ่งเป็นโทเค็น BEP-20 หลักของ Battle Infinity และยังนำไปใช้ร่วมกับแพลตฟอร์ม staking เหรียญคริปโต และกลไกแลกเปลี่ยนโทเค็นใน ‘Battle Swap’ ผู้ใช้ยังสามารถใช้ IBAT ใน ‘Battle Store’ เพื่อซื้อไอเท็มในเกมและแปลงที่ดินเสมือน NFT ได้อีกด้วย

Battle Infinity ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาในตอนนี้ โดยเทรดเดอร์สามารถซื้อโทเค็น IBAT ได้ที่ PancakeSwap และพรีเซลล์ IBAT ก็ยังเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต pre-sale ที่ขายหมดเร็วที่สุดอีกด้วย

ตอนที่เหรียญถูกลิสบน PancakeSwap ราคาโทเค็นก็เพิ่มกว่า 700% จากราคาพรีเซลล์

Battle Infinity กำลังได้รับความสนใจอย่างมากและนั่นคือเหตุผลที่ทำให้กลุ่ม Telegram ของตัวเกมมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

โปรเจกต์ยังได้รับการยืนยัน KYC โดย CoinSniper และตรวจสอบโดย SolidProof.io ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง

โดย Battle Infinity กำลังจะถูกลิสใน LBank CEX ใน ‘เร็วๆ นี้’ ซึ่งทำให้เทรด IBAT ได้ง่ายขึ้นและช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายได้นั่นเอง

เทรด Battle Infinity ตอนนี้

5. Lucky Block (LBLOCK) – เหรียญที่กำลังจะถูกลิสในกระดานเทรด CEX สุดยิ่งใหญ่

อีกหนึ่งเหรียญคริปโตน่าเทรดคือ Lucky Block แพลตฟอร์มเกมคริปโตการแข่งขันที่มีของรางวัลมากมาย โดยทีมงาน Lucky Block เพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์มจับสลาก NFT ใหม่ล่าสุด เพื่อเพิ่มโอกาสรับรางวัลให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก

นักลงทุนที่ซื้อ Lucky Block NFT จะมีโอกาสลุ้นรับรางวัลมากมายทั้งเครื่องเล่นเกม นาฬิกาสุดหรู หรือแม้แต่บ้านทั้งหลัง โดยมีโทเค็นหลักคือ LBLOCK ที่เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตน่าเทรดอีกด้วย

ทีมงาน Lucky Block เพิ่งเปิดตัวโทเค็น ‘LBLOCK v2’ ซึ่งเป็นเหรียญ ERC-20 (จากเดิมที่เป็น BEP-20) ซึ่งมีให้เทรดบนกระดานเทรด CEX รายใหญ่ๆ ซึ่งกระดานเทรดที่มีโทเค็นดังกล่าว ได้แก่ LBank และ MEXC

นอกจากนี้เนื่องจาก LBLOCK v2 จะขจัดค่าธรรมเนียมจากเหรียญ v1 ทั้งหมด ทำให้โทเค็นเป็นที่สนใจของนักเทรดและนักเก็งกำไรระยะสั้นอีกด้วย

ราคา LBLOCK เพิ่มขึ้นมากกว่า 250% หลังจากถูกลิสใน MEXC และนักลงทุนสามารถซื้อ Lucky Block เพื่อทำกำไรเมื่อเหรียญเติบโตได้

ล่าสุด – Lucky Block เพิ่งถูกลิสบน Gate.io ซึ่งเป็นการลิส CEX ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดย Gate.io เป็นหนึ่งใน 10 อันดับกระดานเทรดคริปโตที่มีปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงสูงที่สุด

และนั่นจะเพิ่มสภาพคล่องและโอกาสทำกำไรให้กับ LBLOCK V2 เพราะว่าเหรียญจะถูกเทรดบนกระดานเทรดอื่นๆ อีกมากมายนั่นเอง

เทรด Lucky Block

อธิบายการเทรดเหรียญคริปโต

แล้วการเทรดเหรียญคริปโตคืออะไรกันแน่? โดยพื้นฐานการเทรดเหรียญคริปโตเป็นกระบวนการในการซื้อและขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ในระยะเวลาสั้นๆ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนอาจซื้อ Bitcoin ในตอนเช้าแล้วขายออกในสองสามชั่วโมงถัดมาในช่วงบ่าย นั่นคือตัวอย่างของการเทรดเหรียญคริปโต

เช่นเดียวกับการลงทุนระยะยาว เทรดเดอร์คริปโตจะเก็งกำไรในราคาสินทรัพย์ ไม่ว่าจะจากการ ‘ซื้อ’ หรือ ‘ขาย’ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก timeframes ที่ใช้เทรดมักจะเป็นแบบชั่วโมง (หรือแม้แต่นาที) เมื่อทำการเทรดเหรียญคริปโต การเทรดแบบนี้จึงมีแนวโน้มที่จะเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นๆ นั่นเอง

ประโยชน์หลักของการเทรดเหรียญคริปโตเมื่อเทียบกับกลยุทธ์อื่นๆ คือเทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ การซื้อหนึ่งใน cryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นก่อนที่ตลาดจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น แล้วจากนั้นจึงค่อยขาย ก็จะทำให้เทรดเดอร์ทำกำไรระยะสั้นได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหรียญคริปโตน่าซื้อสำหรับการเทรดคริปโตรายวันอาจให้ผลตอบแทนที่เหนือคาด แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ากลยุทธ์นี้ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในระยะยาว (เช่น ‘การซื้อและถือ’) ตลาดเหรียญคริปโตมีความผันผวนสูง ดังนั้นการซื้อขายเหรียญเหล่านี้ในระยะสั้นจึงจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงที่ตามมา 

การเทรดกับการลงทุนในเหรียญคริปโต

เมื่อศึกษาเกี่ยวกับเหรียญคริปโตน่าซื้อที่สุดในการเทรดรายวัน ก็จำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง ‘การเทรดเหรียญคริปโต’ และ ‘การลงทุนในเหรียญคริปโต’ เพราะมีหลายคนที่เชื่อว่าทั้งสองคำมีความหมายเดียวกัน แต่ความจริง กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการเทรดเหรียญคริปโตหมายถึงกระบวนการเก็งกำไรการเคลื่อนไหวของราคาเหรียญในระยะสั้น แม้ว่าจะไม่มีข้อจำกัดในการเทรดแบบนี้เพราะคุณสามารถเปิดและปิดสถานะได้ในวันเดียวกัน แต่ว่าวิธีนี้จะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่ก็อาจสร้างผลตอบแทนได้เกินคาดหากเทรดสำเร็จ

ในทางกลับกัน การลงทุนในเหรียญคริปโตจะเป็นระยะยาว ซึ่งคล้ายกับกลยุทธ์ ‘การซื้อและถือ’ ที่เรารู้จักกันดี ผู้ที่หาวิธีลงทุนในเหรียญคริปโตแบบระยะยาวจะสามารถมองข้ามช่วงที่ราคาผันผวนอย่างรวดเร็วไปได้ ซึ่งหมายความว่าอารมณ์ความรู้สึกจะไม่ได้มีนัยสำคัญเท่ากับเทรดเทรดเหรียญ นักลงทุนคริปโตจะไม่จำเป็นต้อง ‘จับตาดูตลาด’ เนื่องจากราคาเข้าซื้อจะไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าการเทรด

แล้วแบบไหนดีกว่ากัน? น่าเสียดายที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เนื่องจากแต่ละวิธีนั้นเป็นเรื่องปัจเจก การเทรดถือว่ามีความเสี่ยงและต้อง ‘ลงมือจริง’ มากกว่า ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ทำงานเต็มเวลา อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เทรดเดอร์ที่ชำนาญมักจะสร้างผลตอบแทนได้หากศึกษาจังหวะเทรดมาอย่างดี

การเทรดเหรียญคริปโตรายวัน

การเทรดเหรียญคริปโตรายวัน เป็นวิธีที่แยกมาจากการเทรดเหรียญคริปโตและเป็นการเปิดและปิดสถานะในวันเดียวกัน นี่คือตัวอย่างการเทรดรายวัน:

• เทรดเดอร์ซื้อ BTC ที่ $21,000 ในตอนเช้า
• ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาราคาของ BTC เพิ่มขึ้นเป็น $23,000
• เทรดเดอร์เลือกที่จะขาย BTC ในช่วงบ่าย
• เทรดเดอร์ได้รับผลตอบแทน 9.52% ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ตัวอย่างข้างต้นเน้นให้เห็นถึงวิธีการเทรดแบบรายวันที่ทำกำไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเทรดเดอร์ศึกษาสถานะเข้า/ออกมาอย่างดีและมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การเทรดรายวันเป็นวิธีที่ต้อง ‘คอยเฝ้าตลาด’ เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องคอยตรวจสอบกราฟราคาสำหรับจุดเข้าซื้ออยู่เสมอๆ

ดังนั้นการเทรดรายวันจึงเหมาะสำหรับเทรดที่สามารถ ‘เทรด’ ได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากจุดเข้าซื้อเป็นสิ่งสำคัญ และจุดขายเหรียญก็สำคัญกว่ามาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเทรดรายวันจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย จึงมักมีโอกาสทำกำไรบ่อยๆ ในแต่ละวันสำหรับกลยุทธ์นี้

กลยุทธ์การเทรดเหรียญคริปโต

เทรดเดอร์จะสามารถใช้กลยุทธ์การซื้อขายได้มากมาย ซึ่งหลายกลยุทธ์ก็ได้รับการทดลองและทดสอบกับประเภทสินทรัพย์ ‘ดั้งเดิม’ มาแล้ว โดยส่วนด้านล่างจะเป็นสี่กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:

การเทรดรายวัน

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการเทรดรายวันเป็นกระบวนการของการเปิดและปิดการซื้อขายในวันเดียวกัน กลยุทธ์นี้จะเน้นที่การสร้างผลตอบแทนเพียงเล็กน้อยแต่เป็นประจำ ซึ่งหมายความว่าจะสามารถทบต้นยอดคงเหลือในการเทรดได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง แต่การเทรดรายวันจะสามารถทำกำไรได้สูงสำหรับเทรดเดอร์เก่งๆ 

การเทรดระยะสั้น

คล้ายกันการเทรดรายวัน แต่แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ timeframe ระดับชั่วโมง เทรดเดอร์ก็มักจะเน้นไปที่ timeframe ระดับนาทีหรืออาจเป็นวินาที

เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องการสร้างผลตอบแทนประมาณ 1% ในแต่ละการเทรด จุดเข้าและจุดออกจึงมีความสำคัญต่อกลยุทธ์นี้ ดังนั้นจึงมีกลุ่มสัญญาณซื้อขาย crypto บน Telegram มากมายที่จะคอยแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์หากมีโอกาสในการเทรด ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์จะไม่จำเป็นต้องคอยเฝ้ากราฟตลอดทั้งวัน

Dollar-Cost Averaging

ตามที่อธิบายไว้ใน Forbes การลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging หรือการลงทุนแบบสม่ำเสมอเป็นกลยุทธ์การเทรดที่ช่วยให้นักลงทุนลดจำนวนเงินและลดความเสี่ยงจากการลงทุนลง โดยกลยุทธ์นี้จะเป็นการลงทุนเงินจำนวนเท่าๆ กันในเหรียญคริปโตอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าเหรียญจะมีราคาเท่าไหร่

วิธีนี้จะช่วยขจัดอารมณ์ของการเทรดไป เนื่องจากเป็นการลงทุนทั้งช่วงที่เหรียญมีราคาต่ำและสูง เมื่อเวลาผ่านไปจุดเข้าซื้อเฉลี่ยของนักลงทุนจะลดลง ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับการกำไรในอนาคตนั่นเอง

การซื้อและถือ

สุดท้ายนี้เทรดเดอร์อาจเลือกที่จะ ‘ซื้อและถือ’ หากพวกเขาต้องการลงทุนแบบระยะยาว แม้ว่าจะไม่ถือว่าเป็นกลยุทธ์ ‘การเทรด’ ก็ตาม การตัดสินใจซื้อและถือไว้นั้นเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปิดหรือปิดสถานะใดๆ

นักลงทุนที่ซื้อและถือเหรียญจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น เนื่องจากมักจะถือไว้เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี แม้ว่ากลยุทธ์นี้มักจะพลาดโอกาสทำกำไรสูงได้ แต่ก็เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถนั่งเทรดและต้องการปล่อยให้การลงทุนทำหน้าที่ของมันเอง 

จังหวะที่ดีที่สุดในการเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่คืออะไร?

จังหวะที่ ‘ดีที่สุด’ ในเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่คืออะไร? นี่เป็นคำถามที่ยากที่จะตอบได้ เนื่องจากตลาดคริปโตเปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามก็มีปัจจัยบางข้อที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกจังหวะที่จะทำการเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่

อ้างอิงจาก Statista เหรียญคริปโตมีปริมาณการซื้อขายรายวันสูงสุดวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 2021 ตอนที่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 516 พันล้านดอลลาร์ เมื่อตลาดมีแนวโน้มแบบนี้ก็จะมีสภาพคล่องในระดับสูง ซึ่งช่วยลดความแตกต่างระหว่างราคาซื้อขายและทำให้เทรดเดอร์หลายคนเข้าซื้อเหรียญทันที และจากปัจจัยเหล่านี้การเปิดสถานะเมื่อมีปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์นั่นเอง

ผู้ที่สงสัยถึงวิธีเทรดคริปโตอาจต้องการเปิดสถานะในช่วงเวลาทำการของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระหว่าง 21.30 น. ถึง 04.00 น. ซึ่งเป็นจังหวะเวลาที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะ ‘เคลื่อนไหว’ ในตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้

ในทางกลับกันก็มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่เลือกหลีกเลี่ยงตลาดในช่วงสุดสัปดาห์ เทรดเดอร์สถาบันจะไม่เทรดในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งหมายความว่าจะปริมาณการซื้อขายต่ำ ทำให้กระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดหลายแห่งมีค่าสเปรดสูง นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสุดสัปดาห์มักจะขัดแย้งกับการวิเคราะห์เหรียญคริปโต ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนได้นั่นเอง

เหรียญคริปโตน่าเทรด – บทสรุป

โดยสรุป บทความนี้ได้เจาะลึกถึงเหรียญคริปโตน่าเทรดในปี 2023 อธิบายเกี่ยวกับเหรียญที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักเทรดรายวัน และวิเคราะห์กลยุทธ์การเทรดยอดนิยมมากมาย โดย FightOut มียอดขายถล่มทลายและระดมทุนได้มากกว่า 2.5 ล้านเหรียญแล้ว

เนื่องจากแอปฟิตเนสที่ไม่เหมือนใครช่วยให้ผู้ใช้มีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี นักลงทุนควรพิจารณาซื้อโทเค็น $FGHT ในขณะที่ยังมีโอกาส ในช่วงพรีเซล ราคาจะเพิ่มขึ้นจาก 0.0166 ดอลลาร์เป็น 0.0333 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรายแรกยังสามารถรับผลประโยชน์จากโบนัสโทเค็นสูงถึง 50% ในช่วงพรีเซลแรก

โทเค็นอันดับต้น ๆ ที่น่าซื้อขายคือ D2T ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Dash 2 Trade – แพลตฟอร์มการวิเคราะห์คริปโตจะสิ้นสุดการขายล่วงหน้าในวันที่ 5 มกราคมก่อน IEO ในวันที่ 11 มกราคม