Categories
Bitcoins NFT

วิธี Flip NFT – มารู้จัก NFT Flipping ว่าคืออะไร? 

โทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนได้ หรือ NFT (Non-fungible tokens) เป็นหนึ่งในช่องทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่ที่สุดในขณะนี้

ในปี 2021 เพียงปีเดียว ยอดขายของ NFT รายได้รวมกว่า 25 พันล้านดอลลาร์ และในปีถัดไปคาดว่ามูลค่านี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก

ในบทความนี้ เราจะอธิบายวิธีการ Flip NFT ซึ่งหมายถึงวิธีการกำไรด้วยการซื้อ NFT และนำไปขายต่อในตลาดรอง

วิธี Flip NFT – ขั้นตอนแบบง่ายๆ

ก่อนที่เราจะอธิบายอย่างละเอียด นี่คือขั้นตอนโดยสรุปเกี่ยวกับวิธีการ Flip NFT เพื่อทำกำไร

  • ขั้นตอนที่ 1: เลือก NFT ที่จะ Flip: มี NFT หลายพันรายการในโลกออนไลน์ที่ซื้อได้จากทั้งตลาด NFT หลักและตลาดรอง ดังนั้น ขั้นตอนแรกคือการค้นหา NFT ที่คุณเชื่อว่าได้รับการตีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงที่เหมาะสำหรับการ Flip ตัวอย่างหนึ่งก็คือโปรเจ็กต์ NFT ที่กำลังมาใหม่อย่าง Battle Infinity
  • ขั้นตอนที่ 2: ไปที่ตลาด NFT: เมื่อคุณพบ NFT ที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip แล้ว คุณจะต้องไปที่ตลาดที่มีการขาย NFT ดังกล่าว ซึ่ง NFT Launchpad เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่น่าสนใจ
  • ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน: ในการชำระเงินสำหรับการซื้อ NFT คุณจะต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณกับตลาดที่เกี่ยวข้อง โดยที่ NFT Launchpad จะรองรับเหรียญแบบ wBNB ผ่าน MetaMask ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่ดีที่สุดในการซื้อและจัดเก็บ NFT
  • ขั้นตอนที่ 4: ซื้อ NFT: ตอนนี้คุณสามารถยืนยันการซื้อ NFT ที่คุณเลือกได้ โดยเหรียญ wBNB จะถูกหักออกจากกระเป๋าเงิน MetaMask ของคุณ และคุณก็จะได้เป็นเจ้าของ NFT ชิ้นนั้น
  • ขั้นตอนที่ 5: Flip NFT: เมื่อคุณซื้อ NFT แล้ว ก็ถึงเวลา Flip เพื่อทำกำไร ซึ่งคุณสามารถทำได้บน NFT Launchpad โดยการกำหนดราคา NFT ใหม่ด้วยตัวเอง

เมื่อคุณได้นำ NFT ไปวางขายต่อแล้ว เหลือเพียงการรอให้ใครสักคนมาซื้อ NFT ในราคาที่คุณตั้งไว้ จากนั้นก็ถือว่าคุณ Flip NFT เพื่อทำกำไรได้สำเร็จ

หากคุณยังไม่มีประสบการณ์ในการ Flip NFT คุณควรอ่านคำแนะนำทีละขั้นตอนโดยละเอียดของเรา ซึ่งเราจะอธิบายในส่วนต่อไป

NFT ที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip

ก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวนการ NFT flipping คุณต้องค้นหา NFT ที่เหมาะสมซึ่งจะทำให้คุณมีโอกาสสร้างรายได้จาก NFT ชิ้นนั้นมากที่สุด

โดยคุณต้องค้นหา NFT ด้วยตนเอง ซึ่งคุณคิดว่ามีการประเมินค่าต่ำเกินกว่ามูลค่าที่แท้จริง และคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าจะ Flip Utility NFT ที่ดีที่สุดในปี 2022 ได้อย่างไร

ด้านล่างนี้ เราจะแนะนำ NFT ที่ดีที่สุดที่น่า Flip ในตอนนี้

1. Battle Infinity – NFT ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับการ Flip

ตัวเลือกอันดับต้นๆสำหรับ NFT ที่น่า flip มาที่สุด คงหนีไม่พ้น Battle Infinity ที่เป็นโปรเจ็กต์เมตาเวิร์สที่รวมเอาองค์ประกอบการเล่นเกมที่น่าตื่นเต้นหลายอย่างมารวมเข้าด้วยกัน เช่น กลไกการเล่นเพื่อหารายได้ (P2E) และ NFT ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาเงิน จากเกม NFT

Battle Infinity ยังมีตลาด NFT ในตัว (เรียกว่า Battle Market) ซึ่งผู้ใช้สามารถดู NFT ในเกมและคาดเดาการเคลื่อนไหวของราคาได้ เนื้อหาจำนวนมากภายในระบบนิเวศของ Battle Infinity มีโครงสร้างเป็น NFT เช่น ผู้เล่นเสมือน ในฟีเจอร์ ‘IBAT Premier League’ ของโปรเจ็กต์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างทีมโดยใช้ผู้เล่นเหล่านี้ ซึ่งผู้เล่นเสมือนเหล่านี้มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความจริง

battle infinity วิธี flip NFT NFT flipping ขาย NFT สร้างรายได้จาก NFT

ด้วยวิธีนี้ มูลค่าของผู้เล่นจะมีความผันผวนภายในตลาด ตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นคริกเก็ตคนใดทำผลงานได้ดีเป็นเป็นพิเศษ ผู้เล่นคนนั้นอาจมีมูลค่าที่สูงขึ้นด้วยแรงอุปสงค์และอุปทาน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการ Flip Battle Infinity NFT 

Battle Infinity ยังมีที่ดิน NFT ที่ผู้ใช้สามารถซื้อได้ โดยหากที่ดินผืนใดผืนหนึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ‘พรีเมียม’ ของ Battle Arena (เมตาเวิร์สของ Battle Infinity) NFT ของที่ดินดังกล่าวก็จะทำกำไรจากการ Flip ได้เป็นจำนวนมาก

 Battle Infinity NFTs

เมื่อโปรเจ็กต์ขยายออกไป ทีมพัฒนาจะหาวิธีเพิ่มเติมในการรวม NFT เข้ากับเกมนี้ และเป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับคนที่ต้องการ Flip NFT โดยวิธีที่ดีที่สุดในการติดตามการอัปเดตโปรเจ็กต์นี้คือการเป็นสมาชิกของกลุ่ม Telegram Battle Infinity

ซื้อ Battle Infinity NFT

2. Lucky Block NFT – NFT เกมคริปโตทีได้รับความนิยมอันดับต้นๆ

NFT โดยรวมที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip ในตอนนี้คือ Lucky Block โดย NFT นี้เชื่อมโยงกับระบบนิเวศของ Lucky Block ซึ่งให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเล่นเกมลอตเตอรีแบบไร้ศูนย์กลางที่ได้รับการสนับสนุนโดยบล็อคเชนและเทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะ

เทคโนโลยีสัญญาอัจฉริยะยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าเกม Lucky Block ทั้งหมดนั้นเป็นการสุ่ม 100% ที่มีความยุติธรรม และไม่มีการดัดแปลงใดๆ ในแง่ของ NFT นั้น คอลเลคชันของ Lucky Block มี NFT เพียง 10,000 ชิ้น ซึ่งไม่ซ้ำกันทั้งหมด ผู้ที่ซื้อ Lucky Block NFT จะมีสิทธิ์ได้รับสิทธิประโยชน์หลักมากมาย

Lucky Block NFT หาเงิน NFT nft ได้เงินจริงไหม หาเงิน จากเกม nft NFT ราย ได้

ผู้ถือ NFT จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการออกรางวัลลอตเตอรี่รายวันตลอดชีพ หากหมายเลขที่ออกตรงกับหมายเลข NFT ของคุณ คุณจะได้รับรางวัล 2% ของรางวัลแจ็กพอตหลักรายวัน ตัวอย่างเช่น หากรางวัลแจ็กพอตสำหรับวันนั้นมีมูลค่า 250,000 ดอลลาร์ ผู้ถือ NFT นั้นจะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ใน NFT ทั้ง 10,000 ชิ้น จะมี 25 ชิ้นที่เป็น NFT ระดับหายาก หากคุณเป็นเจ้าของ NFT ที่หายากและหมายเลขที่ออกตรงกับหมายเลขของคุณ คุณจะได้รับรางวัลแจ็กพอตเป็นสองเท่า

ข้อดีอีกประการของการเป็นเจ้าของ Lucky Block NFT คือการแจกของรางวัลใหญ่สองรายการ อันดับแรก ผู้ถือ Lucky Block NFT หนึ่งรายจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ และรายการที่สองคือรถ Lamborghini การจับฉลากทั้งสองรางวัลจะเป็นแบบสุ่ม และผู้ถือ Lucky Block NFT ทั้งหมดจะได้ร่วมลุ้นรับรางวัลทั้งสองนี้ฟรี

ในแง่ของการ Flip NFT นี้ คุณต้องทราบว่า utility token ของ Lucky Block ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2022 เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปีนี้ ซึ่งนักลงทุนรายแรกๆ ที่ซื้อเหรียญ Lucky Block ในช่วงพรีเซลล์นั้นได้รับผลกำไรถึง 80 เท่า หาก Lucky Block NFT ประสบความสำเร็จ การ Flip ก็มีโอกาสที่จะทำเงินได้มาก

ซื้อ Lucky Block NFT

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

3. Girls, Robots, Dragons – คอลเลคชันการ์ดเกม NFT ยอดนิยม

Girls, Robots, Dragons หรือ GRD เป็นคอลเลกชั่นการ์ด NFT แนวแฟนตาซีและไซไฟระดับพรีเมียมที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการ Flip เพื่อทำกำไร เพราะทุกรูปภาพในคอลเลคชั่นนี้เป็นผลงานของนักวาดภาพประกอบที่เคยฝากผลงานไว้ในเกมชื่อดังมากมายอย่าง  World of Women NFT, Star Wars NFT, การ์ดสะสม Hearthstone และอื่นๆ

คอลเลกชัน NFT ของ Girls, Robots, Dragons มีทั้งหมด 9,000 ชิ้น โดยแบ่งออกเป็นสองชุด ชุดแรกคือ NFT 3,000 ชิ้นที่วางขายในราคา 0.07 ETH (0.06 ในตอนพรีเซลล์สำหรับผู้ซื้อช่วงแรก) และ NFT ที่เป็นการ์ดพิเศษอีก 6,000 ใบที่สามารถซื้อได้ด้วยเหรียญ $DUST หรือได้รับเป็นรางวัลจากการถือ NFT Ether Card Founder ในขณะที่ซื้อ NFT คอลเลคชั่นนี้จากการขายหลัก

Girls, Robots, Dragons วิธี flip NFT NFT flipping

การ์ด NFT 3,000 ใบแรกยังมีคุณลักษณะพิเศษที่ช่วยให้ผู้ที่เป็นเจ้าของได้รับไอเท็มและ/หรือผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงมีโอกาสได้รับสิ่งของที่แลกได้จริง ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็น หรือโอกาสในการได้พบปะแบบเสมือนกับศิลปิน

Girls, Robots, Dragons NFT ยังรับประกันว่าคุณจะได้รับเหรียญ DUST ที่มีมูลค่าเท่ากับราคาของ NFT ที่คุณซื้อไปอีกด้วย

ไปที่ Girls, Robots, Dragons

4. Yubo Randos NFT ศิลปะแนวพิกเซล 2 มิติที่น่าสะสม

สำหรับ NFT ภาพแนวพิกเซลที่น่า Flip ที่สุดในปี 2022 คือคอลเล็กชั่น Randos จาก Yubo ซึ่งเป็นแอปโซเชียลมีเดียสำหรับการสตรีมสดยอดนิยม โดยทีมงาน Yubo เพิ่งประกาศเปิดตัว ‘Randos’ ซึ่งเป็นคอลเลกชัน NFT แรกของแพลตฟอร์ม

คอลเลกชัน NFT Randos นี้ประกอบด้วยงานศิลปะดิจิทัล 10,000 ชิ้นที่อยู่บนบล็อคเชน Ethereum โดย NFT แต่ละชิ้นจะเป็นตัวละครแบบพิกเซล 2 มิติ พร้อมด้วยสไตล์และคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ Randos ทั้งหมดภายในคอลเล็กชัน NFT นี้ได้รับการออกแบบโดยศิลปินดิจิทัลแนวพิกเซล 2 มิติชื่อดังอย่าง BanFan

Yubo Randos NFT วิธี flip NFT NFT flipping

การเป็นเจ้าของ Rando ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้เป็นรูปโปรไฟล์ในแอป Yubo นอกจากนี้ เจ้าของ NFT สามารถเข้าถึงกิจกรรมส่วนตัวสุดพิเศษที่มีผู้มีชื่อเสียงมากมายมาเข้าร่วม และยังได้รับสิทธิ์เข้าถึงกิจกรรมสาธารณะฟรี ซึ่งผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ NFT จะต้องเสียค่าใช้จ่าย

ผู้ถือ NFT แต่ละคนจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ของ Yubo จากกิจกรรมในแอป ซึ่งถือเป็นการสร้างผลตอบแทนแบบแพสซีฟ นอกจากนี้ เจ้าของ Rando แต่ละคนจะได้รับอวาตาร์ 3 มิติสุดพิเศษใน ‘Yubovere’ ซึ่งเป็นโปรเจกต์เมตาเวิร์สของ Yubo ที่กำลังจะมีขึ้น

นักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อ Rando แต่ละชิ้นได้ในราคา 0.1 ETH (328 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียน) และคอลเลคชันนี้จะวางขายผ่านเว็บไซต์ Yubo Rando โดยเจ้าของ Rando จะสามารถขาย NFT ของพวกเขาในตลาด และได้รับกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น และค่าลิขสิทธิ์ 10% จะถูกหักให้กับ Yubo สำหรับการตลาดและการขยายธุรกิจ

ไปที่ Yubo

การ Flip NFT ทำกำไรได้หรือไม่?

หากพูดโดยรวม การ Flip NFT สามารถทำกำไรได้มหาศาล ส่วนที่ท้าทายที่สุดคือการต้องรู้ว่าควรซื้อ NFT ใดเพื่อทำการ Flip

เพราะมี NFT หลายพันรายการที่ซื้อขายในตลาด NFT ที่หลากหลาย ดังนั้นอุตสาหกรรมนี้จึงอิ่มตัวอย่างรวดเร็วมาก

คุณสามารถดูกรณีของคอลเลกชั่น NFT Bored Ape Yacht Club เพื่อทำความเข้าใจว่าการ Flip NFT ที่ทำกำไรได้นั้นเป็นอย่างไร

  • ตัวอย่างเช่น เมื่อคอลเลกชั่นนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในต้นปี 2021 คุณสามารถซื้อได้ในราคาเพียง 0.08 ETH
  • ซึ่งช่วงนั้นมีราคาประมาณ 200 ดอลลาร์ต่อ NFT หนึ่งชิ้น
  • ปัจจุบันคอลเลกชั่น Bored Ape Yacht Club NFT ขายได้ในราคาชิ้นละมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงยอดขายจากคนดังมากมาย
  • ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นหนึ่งในการลงทุนจากการ Flip NFT ที่มีกำไรมากที่สุดตลอดกาล

นี่คือเหตุผลที่ส่วนที่สำคัญที่สุดของกระบวนการ Flip NFT คือการศึกษาตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาโอกาสทำกำไร

แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip NFT

นอกจากการศึกษา NFT ที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip แล้ว คุณต้องหาข้อมูลเรื่องตลาดซื้อขายด้วยเช่นกัน

เพราะในการซื้อ NFT เพื่อการ Flip คุณจะต้องทำการซื้อผ่านตลาดที่รองรับ NFT ที่คุณเลือก นอกจากนี้ คุณจะต้องเข้าถึงตลาดรองเพื่อให้คุณสามารถทำการ NFT flipping เพื่อทำกำไรได้

ในส่วนด้านล่างนี้ เราจะมาแนะนำแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip NFT ในปี 2022

1. Crypto.com – ตลาด NFT ที่น่าเชื่อถือและไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ

แพลตฟอร์มยอดนิยมที่มีทุกสิ่งที่คุณต้องการในการ Flip NFT คือ Crypto.com ซึ่งมีระบบนิเวศของคริปโตเคอเรนซี่ขนาดใหญ่ ทั้งการซื้อขายคริปโต และบริการสินเชื่อและแอปกระเป๋าเงินที่ใช้งานง่าย

คุณจะพบ NFT นับพันชิ้นบนแพลตฟอร์มแห่งนี้ สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ Crypto.com คือแพลตฟอร์มแห่งนี้ไม่คิดค่าคอมมิชชั่นใดๆ เมื่อคุณซื้อ NFT อีกด้วย

Crypto.com ตลาด nft marketplace ขาย nft ซื้อ nft ที่ไหนดี

นอกจากนี้ Crypto.com ยังโดดเด่นในด้านการชำระเงินทั้งรูปแบบดั้งเดิมและคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งจ่ายได้ทั้งบัตรเดบิต/เครดิตและการโอนเงินผ่านธนาคาร ดังนั้นคุณจึงสามารถฝากเงินได้อย่างง่ายดายหากคุณไม่มีเหรียญคริปโต

ส่วนในตลาดรอง เมื่อคุณ Flip NFT ที่ Crypto.com จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพียง 1.99% ของจำนวนเงินที่ทำธุรกรรม นั่นหมายความว่าคุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียม $19.90 ต่อทุก $1,000 ของการขาย NFT และนอกจากการ Flip แล้ว Crypto.com ยังให้คุณสร้างและมินท์ NFT ของคุณ 

Flip NFT บน Crypto.com

คริปโตและ NFT เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

2. Coinbase NFT – แพลตฟอร์มมาตรฐานสำหรับการ Flip NFT ที่มีคอลเลคชั่นชื่อดังมากมาย

สำหรับนักเทรดคริปโต Coinbase ถือเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี และล่าสุดทาง Coinbase ก็ได้เปิดตัวตลาดซื้อขาย NFT สำหรับนักลงทุนและผู้สนใจภายใต้ชื่อ “Coinbase NFT” โดยมีคอลเลคชั่น NFT อันดับต้นๆ อย่าง Bored Ape Yacht Club และ Mutant Apes วางขายอยู่ด้วย

Coinbase NFT

นอกจากนี้ยังมี NFT ราคาถูกอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งราคาต่ำสุดอยู่ที่ 0.01 ETH ต่อชิ้น และในช่วงเปิดตัวตลาดแห่งนี้ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขายอีกด้วย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาวิธีการสร้างรายได้จาก NFT

Flip NFT บน Coinbase NFT

คริปโตและ NFT เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

3. NFT Launchpad – แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับการ Flip NFT

แพลตฟอร์มแห่งนี้เป็นตลาดที่มี NFT ที่ดีที่สุดหลายรายการที่เราได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ รวมถึง Lucky Block ซึ่งเป็นเพราะ NFT Launchpad มีชื่อเสียงอย่างมากในด้าน NFT นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจะตรวจสอบโปรเจ็กต์ทั้งหมดที่จะวางขาย ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าที่นี่จะวางขายเฉพาะ NFT ที่มีศักยภาพเท่านั้น สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ NFT Launchpad ก็คือแพลตฟอร์มนี้ใช้งานง่ายมาก

NFT LaunchPad วิธี flip NFT NFT flipping ขาย NFT

ซึ่งหมายความว่าแม้คุณจะ Flip NFT เป็นครั้งแรก คุณก็จะไม่ประสบปัญหาใดๆ บนแพลตฟอร์มนี้ โดยคุณจะต้องเลือกโปรเจ็กต์ที่คุณสนใจก่อน จากนั้น คุณจะต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน MetaMask ของคุณกับเว็บไซต์ NFT Launchpad ซึ่งทำได้โดยการติดตั้ง MetaMask ผ่านส่วนขยายของ Google Chrome

จากนั้นเมื่อคุณมีเหรียญคริปโตแบบ wBNB เพียงพอในกระเป๋าเงิน MetaMask ของคุณเพื่อการซื้อ NFT และยืนยันธุรกรรม จากนั้นคุณก็สามารถ Flip NFT ที่คุณเลือกได้ในราคาที่คุณต้องการ โดย NFT Launchpad ให้คุณมีตัวเลือกในการขายต่อทั้งแบบราคาตายตัวและแบบประมูล

สิ่งที่เราชอบ:

  • กระบวนการ Mint NFT ที่ง่าย
  • มีหมวดหมู่ NFT ที่หลากหลาย
  • สามารถออกแบบหน้าผู้สร้างของคุณเองได้เมื่อ Mint NFT เสร็จ
  • รองรับ BSC และ Polygon NFT
  • มีคอลเลกชัน NFT ที่มีชื่อเสียงมากมาย
  • รองรับกระเป๋าเงิน MetaMask อย่างเต็มรูปแบบ

Flip NFT บน NFT Launchpad

คริปโตและ NFT เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

วิธี Flip NFT – ตัวอย่าง

หากคุณกำลังเรียนรู้วิธีการ Flip เพื่อหาเงิน NFT เป็นครั้งแรกและสงสัยว่ากระบวนการต่างๆ เป็นอย่างไร  รวมถึง NFT ได้เงินจริงไหม เราจะมาอธิบายด้วยคำแนะนำทีละขั้นตอน

สำหรับตัวอย่างนี้ เราจะแสดงให้คุณเห็นกระบวนการซื้อและ Flip NFT เมื่อแพลตฟอร์ม Battle Infinity เปิดให้ทำการซื้อขาย

ขั้นตอนที่ 1 – เตรียมกระเป๋าเงินที่รองรับ BSC

แพลตฟอร์มของ Battle Infinity ได้รับการพัฒนาบน Binance Smart Chain ซึ่งหมายความว่าเหรียญหลักของแพลตฟอร์ม (IBAT) ใช้มาตรฐาน BEP-20 ดังนั้น คุณจะต้องตั้งค่ากระเป๋าเงินที่เข้ากันได้กับบล็อคเชนนี้ โดยเลือกใช้กระเป๋าเงิน เช่น MetaMask และ Trust Wallet

เชื่อม metamask

ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ IBAT

เมื่อกระเป๋าเงินของคุณพร้อมแล้ว คุณจะต้องซื้อ IBAT เพื่อใช้งานในตลาดซื้อขาย NFT ของ Battle Infinity คุณสามารถซื้อ IBAT ผ่านเว็บไซต์ Battle Infinity โดยใช้เหรียญ Binance Coin (BNB) หรือใช้ฟีเจอร์ Battle Swap ในการซื้อ IBAT

ซื้อ IBAT

ซื้อเหรียญ IBAT

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

ขั้นตอนที่ 3 – ดู Battle Market

ตอนนี้คุณมีกระเป๋าเงินที่มีเหรียญ IBAT แล้ว คุณสามารถเริ่มสำรวจ Battle Market (ตลาด NFT ในตัวของ Battle Infinity) เพื่อหาโอกาสในการ Flip ซึ่งทรัพย์สินจำนวนมากใน Battle Infinity มีโครงสร้างเป็น NFT ดังนั้นจึงมีตัวเลือกมากมายให้เลือก

Battle Market

ขั้นตอนที่ 4 – Flip NFT

เมื่อคุณพบทรัพย์สินที่คุณต้องการ Flip คุณสามารถซื้อ NFT ได้อย่างง่ายดายโดยใช้เหรียญ IBAT ใน Battle Market จากนั้นก็รอให้มูลค่าของ NFT ชิ้นดังกล่าวเพิ่มขึ้น แล้วจึงนำไปวางขายต่อใน Battle Market เพื่อให้ผู้อื่นซื้อ เมื่อ NFT ของคุณขายได้ เงินก็จะถูกส่งเข้ามาในกระเป๋าเงินดิจิตอลของคุณ

วิธีหา NFT ที่ดีที่สุดสำหรับการ Flip

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะหา NFT ที่ดีที่สุดเพื่อการ Flip ได้อย่างไร คำแนะนำส่วนนี้ของเราจะพูดถึงสิ่งที่คุณต้องมองหาในระหว่างการเตรียมตัว

จำนวนของ NFT

ในการลงทุนแบบดั้งเดิม จำนวนอุปทานเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สามารถกำหนดมูลค่าได้ และ NFT ก็ไม่ต่างกัน ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรมองหาเมื่อค้นหา NFT ที่ดีที่สุดที่จะ Flip คือจำนวน NFT ในคอลเลคชันนั้นๆ

หากคุณซื้อ NFT ที่มีอุปทานจำนวนมาก คุณอาจ Flip เพื่อทำกำไรได้ยาก นี่เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่เราชอบคอลเลกชัน Lucky Block เพราะมีจำนวน NFT เพียง 10,000 ชิ้นเท่านั้น

ธีม

อีกเมตริกหนึ่งที่ควรพิจารณาคือธีมของคอลเลกชัน NFT ที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างเช่น มีโอกาสที่คอลเลกชัน Lazy Ape Society NFT จะดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากความสำเร็จของคอลเลกชัน Bored Ape Yacht Club ในอดีต

ประโยชน์ใช้สอย

ข้อบกพร่องสำคัญที่ NFT จำนวนมากที่มีร่วมกันคือไม่มียูทิลิตี้ หรือประโยชน์ใช้สอยที่มาพร้อมกับความเป็นเจ้าของ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าในอนาคตของ NFT นั้นๆ

เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ Battle Infinity NFT นั้นมาพร้อมกับประโยชน์ใช้สอยเต็มรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือการใช้งานภายในฟีเจอร์ IBAT Premier League ที่น่าตื่นเต้น

Floor Price 

คุณจะไม่สามารถทำกำไรได้หากคุณไม่สามารถทำเงินครอบคลุมต้นทุนของ Floor Price ของคอลเลกชัน NFT ที่ซื้อมาได้

ตัวอย่างที่สำคัญคือ Bored Ape Yacht Club NFT ที่มีการซื้อขายกันด้วยตัวเลข 6 หลัก ซึ่งนักลงทุนหลายคนไม่สามารถเอื้อมถึง แต่ในทางกลับกัน Battle Infinity NFT และ Lucky Block NFT นั้นสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ามาก

ปริมาณการซื้อขาย

คุณยังต้องพิจารณาว่า NFT ที่คุณเลือกมีปริมาณซื้อขายสะสมมามากน้อยเพียงใดตั้งแต่เปิดตัว

ตลาด NFT หลายแห่งให้คุณเข้าถึงข้อมูลนี้ และที่สำคัญคือเป็นการให้ไอเดียกับคุณว่าคอลเลคชันนี้น่าลงทุนมากน้อยเพียงใด

บทสรุป

บทความนี้ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการ Flip NFT เพื่อทำกำไร นอกจากกระบวนการแบบทีละขั้นตอนที่จำเป็นแล้ว เรายังได้พูดถึง NFT ที่ดีที่สุดที่ควร Flip ในตอนนี้

เราพบว่า Battle Infinity เป็นโปรเจ็กต์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการ Flip NFT เนื่องจากตัวละครในเกมมักต้องการชุดและเครื่องประดับใหม่ที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ นอกจากนี้ เนื่องจากธรรมชาติของเกมกีฬาแนวแฟนตาซีของ Battle Infinity จึงมักจะมีโอกาส Flip NFT อยู่เสมอ

ซื้อ Battle Infinity NFT

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

Categories
Bitcoins NFT

แนะนำ 3 โครงการอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน NFT ที่ดีที่สุด 2023

ตลาด NFT มีตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งเป็นที่แรกที่ดิจิทัลอาร์ตถูกขายให้กับนักลงทุน ตั้งแต่นั้นมา ความต้องการ NFT ก็เพิ่มขึ้นทุกปี และในปี 2021 ตลาด NFT ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

หากคุณสนใจการลงทุนที่มีการเติบโตสูง ควรอ่านบทความนี้ ซึ่งจะกล่าวถึงโครงการที่ดิน NFT ที่เราชื่นชอบ รวมถึงวิธีและแหล่งที่จะซื้อ มาเริ่มกันเลย!

โครงการอสังหาริมทรัพย์ NFT ที่ดีที่สุด

ก่อนที่จะเจาะลึกในโครงการที่ดิน NFT น่าลงทุนที่สุด 3 อันดับแรกของเราในปีนี้ นี่คือรายชื่อโครงการ:

  1. Silks – โครงการที่ดิน NFT ที่ดีที่สุดในฐานะเกม metaverse play to earn ผ่านแข่งม้าในโลกจริงเจ้าแรก
  2. Real Estate Investment Club – โครงการอสังหาริมทรัพย์และที่ดินที่ดีที่สุดด้านการศึกษาและเน็ตเวิร์คกิ้ง
  3. The Sandbox – รับเงินรางวัลจากการเล่นเกมเสมือนจริงบนบล็อกเชน 3 มิติ

เลือกจากหลายปัจจัย ได้แก่ ความง่ายในการเข้าถึง ประโยชน์ใช้สอย ความนิยม และผลตอบแทนที่อาจได้รับ

ดูที่ดิน NFT ที่เราชื่นชอบ ปี 2023

เจาะลึกโครงการที่ดิน NFT ชั้นนำ

ทั้ง CryptoPunks และ Bored Apes บางโปรเจ็กต์ NFT มาใหม่ขายเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์ต่อวัน องค์ประกอบหนึ่งของตลาดที่คึกคักนี้ ที่เชื่อมโยงกับ Web 3.0 และ Metaverse คือ ที่ดิน NFT ให้นักลงทุนเป็นเจ้าของที่ดินโลกเสมือนจริงใน Metaverse โดยนักลงทุนรายแรกๆ ได้รับผลตอบแทนมหาศาลเนื่องจากความต้องการซื้อที่ดินโลกเสมือนจริงที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่ดิน nft ซื้อที่ดินโลกเสมือน ซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง ที่ดิน Metaverse ซื้อที่ดิน metaverse

เรากล่าวถึงโครงการที่ดิน NFT ที่ดีที่สุด 3 อันดับแรกในปี 2023 แล้ว มาดูรายละเอียดแต่ละโครงการ ซึ่งจะเน้นที่ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ Metaverse ราคาที่ดินใน Metaverse และความนิยมของแต่ละที่

ตามที่คาดไว้ ราคาของ NFT พุ่งสูงขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความนิยมของ NFT และ Metaverse เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ NFT ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นด้วย

แต่ละแพลตฟอร์มของ Metaverse มีวิธีซื้อขายที่ดินที่แตกต่างกัน โดยเราหวังว่าในตอนท้ายของบทความนี้ คุณจะได้ทราบว่าที่ดิน Metaverse ใดที่เหมาะกับความต้องการลงทุนของคุณ เพราะหากคุณซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง ความนิยมของ Metaverse แต่ละแห่งและที่ดิน NFT ที่ตามมาจะแตกต่างกันไป ซึ่งนี่คือสิ่งที่จะกล่าวถึงในเชิงลึก มาดูกัน!

1. Silks – โครงการที่ดิน NFT ที่ดีที่สุด

แพลตฟอร์มแรกที่สามารถซื้อที่ดิน NFT คือ Silks ซึ่งเป็น Metaverse ที่เปิดใช้งานบล็อกเชนตัวแรกของโลกการแข่งม้า และขับเคลื่อนโดยเกม play to earn ที่ผู้เล่นสามารถรับโทเค็นคริปโตได้ด้วยการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศและพัฒนาการเล่นเกม

ผู้เล่นมีโอกาสได้รับ แลกเปลี่ยน และรวบรวมโทเค็นดิจิทัลซึ่งเป็นตัวแทนของม้าแข่งในโลกจริง และผู้เล่นสามารถทำไร่และฟาร์มม้า โดยการซื้อ ขาย และรับที่ดิน NFT ได้ รวมถึงเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการสนับสนุนและพัฒนาระบบนิเวศ Silks 

silks

เบื้องหลังการเปิดตัวโลก Metaverse นี้คือการนำความตื่นเต้นของการแข่งม้ามาสู่ผู้คนจำนวนมาก โดยนักพัฒนาหวังว่าจะเผยแพร่กีฬานี้และสร้างสถานะใหม่ให้กับโลกด้วยการใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงของระบบ Web 3 ซึ่งระบบภายในเกมออกแบบจากอุตสาหกรรมการแข่งม้าของสหรัฐฯ ที่แต่ละปีมีลูกม้า 20,000 ตัวเกิดขึ้นและถูกฝึกฝนเพื่อการแข่งขัน

อุตสาหกรรมนี้ขนาดใหญ่มาก มีการแข่งขันกว่า 30,000 ครั้งต่อปี การเดิมพันกว่า 50 ล้านครั้ง และมีการเดิมพันมากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ในการแข่งขันต่างๆ เมื่อพิจารณาถึงจำนวนมหาศาลนี้ ดูเหมือนว่าระบบนิเวศของ Silks จะทำให้ชุมชนการแข่งม้าสนใจเป็นอย่างมาก และอาจนำไปสู่ผลกำไรมหาศาลสำหรับนักลงทุนรายแรกๆ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อที่ดินโลกเสมือนในยุคแรก และขายต่อให้ผู้ใช้ใหม่

ดังที่ได้กล่าวว่า สมาชิกของระบบนิเวศ Silks เข้าร่วมเกมได้โดยการเก็งกำไรที่ดิน พัฒนาที่ดินให้เป็นฟาร์มม้า ซื้อ แลกเปลี่ยน และเพาะพันธุ์ม้า ซึ่งนักลงทุนซื้อ Silks Avatars NFT ได้

ผู้เล่นคว้ารางวัลจากการทำงานเหล่านี้ได้ โดยจะได้รับ $SLK ซึ่งเป็นโทเค็นในเกมแบบอุปทานไม่เพิ่ม ซึ่งสร้างขึ้นบนบล็อกเชน ควบคุมโดยองค์กร DAO และมีอุปทานอยู่ 500 ล้านหน่วย

ที่ดิน Metaverse นั้นสร้างขึ้นบนพื้นที่โลกเสมือนจริง 202,500 เอเคอร์ซึ่งจะถูกแบ่งบนตาราง 450 × 450 เอเคอร์ ซึ่งที่ดินแต่ละแปลงจะแสดงด้วยพิกัดที่แน่นอนเพื่อกำหนดตำแหน่ง และแต่ละแปลงจะถูกประมูลเป็น NFT ซึ่งผู้เล่นต้องซื้อที่ดิน 10 เอเคอร์ก่อนการสร้างฟาร์มม้า

เมื่อผู้เล่นได้ที่ดิน ก็สามารถสร้างคอกม้าได้ ซึ่งขนาดฟาร์มสร้างได้ถึง 100 เอเคอร์ โดยนักพัฒนาตั้งใจสร้างให้คอกม้าสามารถขายได้ในอนาคต ดังนั้นระบบจึงทำงานคล้ายกับอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิม

silk nft

เมื่อดูความนิยมโปรเจ็กต์นี้ มีสมาชิกประมาณ 13,000 คนบน Discord และมีผู้ติดตามมากกว่า 13,000 คนบน Twitter ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับบางโครงการ NFT/Metaverse ที่ใหญ่กว่า แต่ก็เป็นฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดว่า Metaverse ยังไม่เปิดตัว ซึ่ง Silks Genesis Avatars ได้ขายต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 27 เมษายน และมี Whitelist เปิดอยู่ในขณะนี้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยข้างต้นแล้ว Silks อาจเป็นการลงทุนระยะยาวที่ดีสำหรับที่ดิน NFT

ไปที่ Silks ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

2. Real Estate Investment Club – โครงการอสังหาริมทรัพย์และที่ดินที่ดีที่สุดด้านการศึกษาและเน็ตเวิร์คกิ้ง

Real Estate Investment Club เป็นสถานที่สำหรับทุกคนที่สนใจโครงการอสังหาริมทรัพย์และที่ดินใน Metaverse ซึ่งเป็นชุมชนพิเศษเฉพาะสมาชิกที่มีความคิดเหมือนกัน สามารถแบ่งปันความคิดและให้การศึกษาด้านการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน NFT และคริปโตได้

Real Estate Investment Club REIC

สมาชิกเข้าถึงชุมชนได้โดยการซื้อ NFT ที่คุณภาพสูง สร้างและย้ายจากคอลเล็กชันของพวกเขา ซึ่ง NFT เหล่านี้สร้างขึ้นโดยหนึ่งในนักออกแบบจากแฟรนไชส์ ​​Red Dead Redemption และ Grand Theft Auto ทำให้มีเอกลักษณ์และเป็นที่ต้องการอย่างมาก

NFT ให้การเข้าถึง REIC – MetaCity ซึ่งเป็น Metaverse ที่อยู่เบื้องหลัง Real Estate Investment Club โดยทีมงานตั้งใจให้ MetaCity เป็นศูนย์กลางของโครงการ Metaverse-as-a-Service ซึ่งสร้างเศรษฐกิจแบบพอเพียง โดยที่สมาชิก REIC สามารถจัดหาสินทรัพย์และบริการเพื่อรับรายได้เพิ่มเติมได้

หัวใจสำคัญของ Metaverse คือ อาคาร REIC MetaHQ ที่เป็นข้อเสนอหลักจากทีม REIC โดย MetaHQ เป็นสำนักงานใหญ่ที่ออกแบบอย่างสวยงาม สร้างขึ้นโดยนักพัฒนาและสถาปนิก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทีมงานจะจัดงานพบปะและให้บริการด้านการศึกษาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ คริปโต และการลงทุน NFT เป็นประจำ

นอกจากนี้ MetaHQ ยังมอบโอกาสในการลงทุนแก่สมาชิกด้วยการเข้าถึงไปยังกลุ่มชนชั้นนำในอุตสาหกรรมได้โดยตรงเพื่อรับคำปรึกษาส่วนตัวในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

นอกจากการเข้าถึง Metaverse แล้ว ผู้ถือ NFT ยังได้ของรางวัลต่อไปนี้

  • การแจกรางวัลจาก REIC
  • การให้คำปรึกษาการลงทุนจากกลุ่มชนชั้นนำในอุตสาหกรรม
  • การเข้าถึงการสัมมนา รวมถึงการสัมมนาผ่านเว็บ
  • วันหยุดท่องเที่ยวแบบพรีเมี่ยม
  • สินค้าหรู เช่น นาฬิกา
  • การบริจาคเพื่อการกุศล
  • การชำระเงินดาวน์อสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกใน Ethereum

หนึ่งในสิ่งที่ดีเกี่ยวกับ REIC – MetaCity คือสร้างขึ้นโดยใช้ Unreal Engine 5 ซึ่งเป็นเอ็นจิ้นเกมเดียวกับที่ผลิตเกมระดับสูง เช่น Gears of War และ Fortnite การใช้ Unreal Engine 5 จะทำให้ REIC – MetaCity กลายเป็น Metaverse ที่ขัดเกลาด้วยกลไกเกม ซึ่งผ่านการทดสอบการต่อสู้ที่มีแอนิเมชั่นที่เหมือนจริง ดูตัวอย่างทีเซอร์ Metaverse

นอกจากนี้ REIC ยังมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้บุกเบิกด้านการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการสร้างโทเค็นอสังหาริมทรัพย์บนบล็อกเชน ซึ่งทีมงานเชื่อว่าในที่สุดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะถูกแยกเป็นชิ้นเล็กๆ โดยมีการแบ่งปันการเป็นเจ้าของบนบล็อกเชน และสิ่งนี้จะทำให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ได้ในวงกว้าง เนื่องจากไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุนอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้ ผู้ถือ REIC NFT ทั้งหมดจะเข้าถึง Digital Asset Property Group (DAPG) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโทเค็นได้

การขายคอลเลกชั่น NFT สำหรับ Real Estate Investment Club คาดว่าจะเปิดตัวเดือนกันยายน 2022 ซึ่งลงทะเบียนในเซิร์ฟเวอร์ Discord เพื่อติดตามประกาศจากโครงการได้

ไปที่ Real Estate Investment Club วันนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

3. The Sandbox

Sandbox เป็นโลก Metaverse ที่ใช้ Ethereum สร้างเกม NFT คล้ายกับ Metaverse สองรายการก่อนหน้านี้ เป็นเกม play to earn  ซึ่งให้ผู้เล่นสามารถออกแบบ สร้าง ซื้อ หรือขายสินทรัพย์ดิจิตอลและสิ่งของต่างๆ ภายในเกมโลกเสมือนจริง สร้างโดย Pioxwl ในปี 2012

คล้ายกับ Decentraland ที่ดังเป็นพลุแตกมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมา จากความนิยมของโลกคริปโตในปี 2021  มีศิลปินดังๆ เช่น Deadmau5, Snoop Dogg และ Atari ต่างก็มาสร้าง NFT บน The Sandbox ถือว่าเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับพื้นที่เล่นเกม NFT แห่งใหม่

The Sandbox

สิ่งที่สุดยอดมากเกี่ยวกับ Sandbox คือมีองค์ประกอบหลัก 3 อย่าง: VoxEdit, ตลาดซื้อขาย และผู้สร้างเกม VoxEdit เป็นเครื่องมือให้ผู้ใช้สร้างวัตถุที่เคลื่อนไหวแบบ 3 มิติใน Metaverse

สามารถเป็นอะไรก็ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ เมื่อสร้างวัตถุแล้ว จะเรียกว่าสินทรัพย์และจะถูกจัดเก็บเป็น NFT ภายใต้โทเค็น ERC-1155 (โทเค็นประเภทอื่นที่จัดเก็บไว้ในบล็อกเชน Ethereum) สามารถซื้อและขายได้ในตลาดขายต่อ

นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินโลกเสมือนได้ เช่นเดียวกับ Decentraland ที่ดิน NFT มีการจัดเก็บเป็นโทเค็น ERC-721 ที่ดิน NFT แต่ละแปลงมีขนาด 96 × 96 และผู้เล่นสามารถซื้อและขายได้ตามต้องการ เมื่อเป็นเจ้าของที่ดินแล้ว สามารถสร้างบ้านเพื่อปล่อยเช่าหรือขายได้ สิ่งเหล่านี้สามารถใช้งานร่วมกับเกมได้

ในระบบนิเวศ Sandbox มีที่ดินจำกัดเพียง 166,464 แปลง เมื่อเร็ว ๆ นี้ Sandbox ได้เปิดให้เล่น Alpha Season 1 ซึ่งผู้เล่นจะได้สัมผัสกับ Metaverse โดยตรง

ทั้งสินทรัพย์และที่ดินเป็นโทเค็นของ Sandbox Metaverse โทเค็น ERC-20 มีชื่อว่า SAND ปัจจุบันมีการแจกจ่ายโทเค็น SAND มากกว่า 5 ล้าน และมีการขาย NFT มากกว่า 15,000 รายการให้กับนักลงทุนในตลาดแรก ซึ่งหมายความว่ายังมีที่ว่างอีกมากสำหรับนักลงทุน 

The sandbox

เมื่อพูดถึงความนิยมของโปรโตคอลแล้ว The Sandbox ยิ่งใหญ่กว่า Decentraland มาก ถือว่าเป็น Metaverse ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ติดตามบน Twitter มากกว่า 950,000 คน และสมาชิกใน Discord 305,000 คน สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความเป็นที่นิยมอย่างมากของ Sandbox และแสดงให้เห็นว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่บนที่ดิน NFT ในปัจจุบันนี้

ซื้อ SAND บน eToro

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

อธิบายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ NFT

ก่อนที่เราจะเจาะลึกลงไปสู่โลกของ NFT มาทำความรู้จักกับคำจำกัดความสั้นๆ กันก่อน NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิตอลที่เก็บไว้ในบล็อกเชน สามารถซื้อและขายในตลาดขายต่อได้ โดยปกติแล้วจะอยู่ในรูปแบบของรูปภาพ วิดีโอ หรือเสียง

NFT ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวอย่างที่ได้รับความนิยมในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ CryptoPunks , Bored Ape Yacht Club และ Veefriends

NFT

อสังหาริมทรัพย์และที่ดิน NFT ไม่แตกต่างจาก NFT ข้างต้น แต่แทนที่จะเป็นเจ้าของรูปภาพหรือวิดีโอ คุณสามารถซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง และสามารถใช้ที่ดินดิจิตอลนี้ทำอะไรก็ได้ ตั้งแต่การโฆษณา การเข้าสังคมและการเล่นเกม เจ้าของหลายๆคนใช้ที่ดิน เพื่อจัดงานผ่านโลกเสมือน เช่น Snoop Dogg และ Adidas

บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มตระหนักถึงการใช้งานบน Metaverse โดยการนำเสนอสินค้า และซื้อที่ดิน NFT เพื่อจัดตั้งร้านค้าบน Metaverse นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ซื้อที่ดินโลกเสมือนเช่นเดียวกัน โดยกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ NFT Metaverse ใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านดอลล่าร์ ซื้อที่ดินใน Decentraland จำนวน 116 แปลง ในเดือนพฤศจิกายน 2021

เมื่อซื้อที่ดิน Metaverse คุณสามารถสำรวจที่ดินด้วยอวาตาร์ 3 มิติ ได้บนโครงการที่ดิน NFT ที่ดีที่สุด 3 อันดับแรกในปี 2023 นอกเหนือจากนี้ยังมีที่ดิน NFT ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกแห่งคือ Axie Infinity

ตลอดระยะเวลาหลายเดือนมีแนวโน้มว่าจะมีที่ดิน Metaverse เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยพยายามลอกเลียนแบบความสำเร็จของ Decentraland และ The Sandbox ซึ่งอาจทำให้ตลาดอิ่มตัว ดังนั้นนักลงทุนควรให้ความระมัดระวัง

ซื้ออสังหาริมทรัพย์และที่ดิน NFT ได้ที่ไหน?

คุณอาจสงสัยว่าจะซื้ออสังหาริมทรัพย์และที่ดิน NFT ที่ไหนดี การซื้อที่ดิน NFT ก็ไม่ต่างจากการซื้อ NFT ทั่วไปที่มีอยู่ในกระดานแลกเปลี่ยน NFT นอกจากนี้ทรัพย์สินอื่นๆ ในเกมยังสามารถซื้อได้ที่ตลาด NFT marketplace ที่ดีที่สุด เช่น OpenSea , Magic Eden และอื่นๆ อีกวิธีหนึ่งที่คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งใน Metaverse คือการซื้อโทเค็นในแต่ละ Metaverse ทั้ง $MANA, $SLK และ $SAND ที่มีอยู่ในการกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุด เช่น Coinbase, Binance และ eToro

ซื้อ ที่ดินดิจิตอล

ก่อนที่คุณจะซื้อคริปโตเคอเรนซี่หรือที่ดิน คุณจะต้องสร้างบัญชีก่อน สามารถสร้างบัญชีกับโบรกเกอร์อย่าง eToro, Coinbase และ Binance ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย สิ่งที่คุณต้องทำคือเข้าไปที่เว็บไซต์และทำตามคำแนะนำ

Business2Community มีบทความที่จะบอกคุณว่าต้องทำอย่างไร ควรอ่านรายละเอียดก่อน หลังจากนั้นก็เลือกโบรกเกอร์ตามที่คุณต้องการ เมื่อคุณมี Wallet แล้ว สามารถซื้อคริปโตเคอเรนซี่และเริ่มต้นในโลก metaverse ได้

สามารถใช้คริปโตเคอเรนซี่เพื่อซื้อที่ดิน Metaverse Silk ได้โดยคุณต้องไปที่ตลาดซื้อขายในเกมและซื้อที่ดิน โดยใช้เงิน $SLK และสามารถสร้างสินทรัพย์ถาวรได้บนที่ดินนั้น การซื้อที่ดินใน Decentraland มีขั้นตอนที่คล้ายกัน

ในบัญชีของคุณต้องมี $MANA เพียงพอที่จะซื้อที่ดินแปลงใหม่หรือประมูลราคาแปลงที่มีอยู่ เมื่อคุณมีที่ดินแล้ว คุณสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างบนที่ดินเพื่อเพิ่มมูลค่าได้!

สุดท้าย วิธีซื้อที่ดิน Sandbox ก็เหมือนกัน สิ่งที่คุณต้องมีคือโทเค็น $SAND คุณต้องประมูลในเกมเพื่อซื้อที่ดิน วันที่มีการขายที่ดินจะประกาศทุกสัปดาห์ เมื่อผู้ใช้มีที่ดินแล้ว ก็จะสามารถซื้อ ขาย และให้เช่าได้

แม้ว่าโครงการนี้จะให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความผันผวนสูง มีกรณีของ NFT และคริปโตเคอเรนซี่มากมายที่ขาดกฎระเบียบจึงเกิดการทุจริตเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ใช้ควรระมัดระวังในการลงทุน ควรมีการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ หรือ NFT ให้ดีก่อนที่จะลงทุน

โครงการ NFT ที่ดีที่สุดคืออะไร

lucky block NFT

Blockchain เป็นแม่ข่ายของโครงการ NFT จำนวนมาก แต่เราพบว่า Lucky Block มีการแจกรางวัลที่ใหญ่ที่สุด Lucky Block เป็นแพลตฟอร์มที่ NFT เพื่อการแข่งขัน ผู้ใช้มีโอกาสได้รับเงินรางวัลมูลค่าสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ ผู้เล่นสามารถมีส่วนร่วมในการจับฉลากประจำสัปดาห์และมีการออกรางวัล NFT ในทุกวันศุกร์

ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมได้โดยการถือ NFT ของ Lucky Block เพื่อใช้เป็นตั๋วในการเข้าร่วม ราคาของ NFT แตกต่างกันไปในแต่ละชิ้น เช่น ผู้ถือ platinum Rollers Club NFT จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันแพลตตินั่มรายสัปดาห์สุดพิเศษฟรี ได้รับโอกาสพิเศษในการรับรางวัลคริปโต และผู้โชคดีหนึ่งรายที่ถือ NFT จะได้รับรางวัล 2% ของการจับรางวัลหลักทุกวัน

Lucky Block

ศูนย์กลางของแพลตฟอร์มนี้คือ LBLOCK – utility token ที่ใช้เพื่อให้รางวัลแก่ผู้ชนะและใช้ในการทำธุรกรรม LBLOCK เปิดตัวในเดือนมกราคม 2022 และมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 1,100% ภายใน 2 สัปดาห์ โทเค็นนี้ลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนยอดนิยม อย่าง PancakeSwap และมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000%

ซื้อ Lucky Block

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

บทสรุป

NFT ในรูปแบบของที่ดินใน Metaverse มีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มูลค่าเพิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และคริปโตเคอเรนซี่ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ราคาที่ดินใน Metaverse อย่าง Decentraland และ The Sandbox จึงมีมูลค่ามหาศาล

โครงการดังกล่าวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเป็นโอกาสที่ดีในการจับจองที่ดินในตลาดแรกไว้ เพื่อที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมหาศาลในอนาคต เนื่องจาก Metaverse และ Web 3 ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

หากผู้ใช้กำลังมองหาที่ดิน NFT ใหม่ที่มีศักยภาพสูง เราขอแนะนำ Silks Metaverse ที่ยังอยู่ในระยะเริ่มแรกเพิ่งเปิดตัวในวันที่ 27 เมษายน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับโลกที่น่าตื่นเต้นของการแข่งม้าผ่าน Metaverse

สามารถซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และสินทรัพย์โดยใช้คริปโตเคอเรนซี่ Metaverse ได้รับความนิยมอย่างมาก มีผู้ติดตามบน Twitter และมีสมาชิกใน Discord เกือบ 30,000 คน คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม!

ไปที่ Silks ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งมีความผันผวนสูง

Categories
Bitcoins NFT

จัดอันดับ 7 โปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุด 2023 [น่าลงทุน!] 

โปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีพื้นฐานมาจาก Metaverse เป็นการพัฒนาที่น่าสนใจล่าสุดในตลาด นักลงทุนที่มีชื่อเสียงหรือแม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ต่างก็เข้ามาลงทุนมหาศาลกับโปรเจกจ์ดิจิทัลอันใหม่นี้ คอลเล็กชัน NFT นั้นเป็นเทคโนโลยี Metaverse (ซึ่งอาจเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด) แต่ก็อาจจะยากสักหน่อยที่จะหาโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดได้

อย่างไรก็ตาม เราได้ทำการศึกษาและรวบรวม 7 โครงการ Metaverse NFT ที่น่าสนใจที่สุด โดยเราจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับแพลตฟอร์มและวิธีซื้อ Metaverse NFT ที่ดีที่สุด เป็นขั้นตอนที่คุณสามารถทำตามได้ง่ายๆ

โปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดในปี 2023

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพียงคำชี้แนะที่ถูกต้อง เราก็ได้รวบรวมภาพรวมคร่าวๆ ของโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดเอาไว้ด้วย โดยคุณสามารถอ่านรีวิวย่อๆ ได้ในส่วนล่าง

  • Tamadoge – โปรเจกต์ Metaverse ที่ดีที่สุดโดยรวมตอนนี้บน Opensea
  • Battle Infinity – โปรเจกต์ Metaverse ชั้นนำ
  • Real Estate Investment Club – Metaverse สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์
  • Souls of Nature – โปรเจกต์ Metaverse NFT ยอดนิยม
  • MetaCity – คอลเล็กชัน NFT จากทีมงานมากประสบการณ์
  • The Sandbox – โลกเสมือนจริง Metaverse NFT ที่มีชื่อเสียง
  • Decentraland – โลกเสมือน Metaverse ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ซื้อ Tamadoge NFT

เจาะลึกกับ Metaverse และ NFT

ตอนนี้เราได้ดูโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดแบบย่อไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะเจาะลึกลงไปในแต่ละโปรเจกต์กันบ้าง

1. Tamadoge – โปรเจกต์ Metaverse ที่ดีที่สุดโดยรวมตอนนี้บน Opensea

Tamadoge เป็นเกม NFT ที่ปัจจุบันอยู่ใน Tamaverse ซึ่งเป็นโลก Metaverse ที่มีเอกลักษณ์และกว้างใหญ่ โดย Tamadoge ไม่ได้เป็นเพียงเหรียญของระบบนิเวศ Doge เท่านั้น แต่มี utility ที่ให้ผู้เล่นได้รับรางวัลและยังเพลิดเพลินกับตัวเกมได้ เพียงแค่เลี้ยงสัตว์ของตนเท่านั้น

ผู้เล่นสามารถซื้อ NFT เพื่อป้อนอาหารสัตว์เลี้ยงและซื้อของเล่นให้ได้ โดย Tamadoge จะจัดอันดับผู้เล่นบนกระดานผู้นำตามการพัฒนาสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ผู้เล่นที่พัฒนาสัตว์เลี้ยงของตนมากที่สุดก็จะได้รับรางวัลสูงสุดจากกองรางวัลรวม

tamadoge roadmap โปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุด

อีกแง่มุมหนึ่งที่ทำให้ Tamadoge นั้นแตกต่างจากเหรียญอย่าง Dogecoin ก็คือเป็นเหรียญที่อุปทานจะลดลง โดยจำนวนโทเค็น Tamadoge จะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจาก 5% ของโทเค็นที่ใช้ไปทั้งหมดจะถูกเผาทิ้ง และอีก 65% จะเพิ่มลงในกองรางวัล ส่วนอีก 30% จะใช้โปรโมตแพลตฟอร์ม

ผู้พัฒนาใช้โทเค็น ERC-20 เพื่อให้การขายเหรียญปลอดภาษีและให้เหรียญได้ถูกลิสในกระดานเทรด CEX ยอดนิยม โดย Solid Proof และ CoinSniper ก็ได้ตรวจสอบโปรเจกต์แล้ว 

หลังจากขายโทเค็นหมดเกลี้ยงและระดมทุนได้กว่า 19 ล้านดอลลาร์ เหรียญ TAMA ก็ได้เพิ่มมูลค่าอย่างทวีคูณใน OKX CEX และขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่ $0.093 ซึ่งมูลค่าเพิ่มกว่า 300% จากราคาตอนลิสเหรียญ และมูลค่าเพิ่มมากกว่า 900% จากราคาต่ำสุดในช่วงพรีเซลล์

ในขณะที่ TAMA ได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวคอลเล็กชัน Tamadoge NFT ชุดแรกเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมก็ทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นอีก โดย Tamadoge จะปล่อย NFT ระดับ rare 1,000 รายการและ common 20,000 รายการเพื่อใช้ในเกม P2E ในเร็วๆ นี้

และจะเปิดขาย Tamadoge NFT ระดับ ultra-rare 100 รายการที่มีความสามารถสูงขึ้น ซึ่งสามารถใช้ได้ในเกม P2E ที่กำลังจะเปิดตัว ด้วยฟีเจอร์หลักของโปรเจกต์ที่ค่อยๆ ทยอยเปิดตัว นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการลงทุนใน Tamadoge แนะนำว่าให้ซื้อตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่ราคา NFT จะสูงขึ้นอีก

TAMA NFT เปิดให้ซื้อบน Opensea แล้ว

ซื้อ Tamadoge NFT ตอนนี้

2. Battle Infinity – โปรเจกต์ Metaverse ชั้นนำ

รู้หรือไม่ว่าจะลงทุนใน Metaverse ในปี 2023 ยังไง? นักพัฒนา Battle Infinity ผสานประโยชน์มากมายจากการรวม Metaverse เข้ากับองค์ประกอบเกมเพื่อสร้างเกมกีฬาแฟนตาซี NFT ซึ่งนอกจากการรับรางวัลแล้ว ผู้เล่นยังสามารถสร้างทีมและใช้อุปกรณ์ VR เพื่อเดินในโลกเสมือนจริง Metaverse และพบปะกับผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อแชทแบบเรียลไทม์

ในฐานะหนึ่งในเกม Metaverse ที่ดีที่สุดในตลาดปี 2023 ผู้เล่นก็สามารถเข้าถึงหกแพลตฟอร์ม เช่น Battle Stake, Battle Arena และ Battle Swap แต่ผู้เล่นจำเป็นต้องซื้อ IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์มเพื่อใช้เข้าร่วม ซึ่งสามารถซื้อได้ใน Battle Swap ที่ให้ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนรางวัลจากแพลตฟอร์มเป็นสกุลเงินอื่นได้ โดยส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะนำไปเพิ่มลงใน global staking pool ซึ่งจะใช้แจกจ่ายให้กับผู้เล่นอื่นๆ 

Battle Infinity โครงการ metaverse NFT ที่น่าสนใจ มาแรง

Battle Market ให้คุณค่ากับสินทรัพย์และตัวละครภายในแพลตฟอร์มแบบที่เกมทั่วไปไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้เล่นจะได้รางวัลจากการเล่น โดยสามารถรับข่าวสารล่าสุดได้จากกลุ่ม Telegram แนะนำว่านักลงทุนควรคว้าโอกาสการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูงแบบนี้ไว้

พรีเซลล์ Battle Infinity ขายหมดเกลี้ยงหลังจากเปิดตัวเพียง 24 วัน และมีราคาสูงขั้นหลังลิสลงใน PancakeSwap และ LBank ด้วยมูลค่าตลาดปัจจุบันที่ 40 ล้านเหรียญ (จะมีการลิสอื่นอีกเร็วๆ นี้) Battle Infinity ถูกคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

ซื้อ IBAT ตอนนี้

3. Real Estate Investment Club – Metaverse สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์

Real Estate Investment Club REIC โปรเจกต์ Metaverse น่าจับตามอง

Real Estate Investment Club เป็นคอลเล็กชัน NFT ที่มี NFT จากทีมนักออกแบบเกม GTA และ Red Dead Redemption โดย NFT จะเป็นอวาตาร์ของคุณเพื่อเข้าโลก REIC (MetaCity) ซึ่งเป็น Metaverse ที่เกี่ยวกับการศึกษาและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ NFT ดังกล่าวยังให้สิทธิ์แก่ผู้ถือในการเข้าถึง Digital Asset Property Group (DAPG) อีกด้วย

โดยสร้างขึ้นโดยใช้ Unreal Engine 5 ซึ่งเป็นเอนจิ้นเดียวกับที่ใช้สร้าง Fortnite ซึ่งหมายความว่าตัวเกมจะได้รับการขัดเกลาอย่างดีด้วยภาพเคลื่อนไหวที่เหมือนจริง ลองดูตัวอย่างทีเซอร์ด้านล่าง

ทีมงานตั้งใจที่จะสร้าง Metaverse-as-a-Service (MaaS) ของตนขึ้นเพื่อเป็นเมืองเสมือนสำหรับสมาชิก REIC ทุกคน ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากสินทรัพย์และบริการภายใน Metaverse เพื่อสร้างเศรษฐกิจในเกม

หัวใจหลักของตัวเกมคืออาคาร REIC HQ ซึ่งออกแบบโดยทีมสถาปนิกและนักพัฒนา ที่ทีมงานจะเป็นเจ้าภาพจัดงานและให้บริการด้านการศึกษาเป็นประจำ มอบโอกาสในการลงทุนในอนาคต และให้สิทธิ์สมาชิก REIC เข้าถึงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในตลาดเพื่อรับคำปรึกษาด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นการส่วนตัว

การถือ REIC NFT จะให้ utility ต่างๆ นานา นอกจากโลก Metaverse เช่น ทีมงานมีแผนจะจัดกิจกรรมส่วนตัวในโลกจริงสำหรับสมาชิก REIC ในสถานที่ระดับพรีเมียม (งานแรกจัดขึ้นที่เมืองเอดินบะระ)

และยังมีการแจกของรางวัลอีกมากมาย อาทิ

  • การสร้างอวตาร REIC เพศหญิง
  • Airdrop REIC NFT ในอนาคต
  • แจกของรางวัล REIC
  • การปรึกษาและคำแนะนำการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ
  • การประชุมและสัมมนาบนเว็บ
  • วันหยุดในสถานที่พรีเมี่ยม
  • สินค้าหรู เช่น นาฬิกาและรถยนต์
  • การบริจาคเพื่อการกุศล

หนึ่งในของรางวัลใหญ่ก็คือการให้เงินดาวน์ Ethereum สำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรก

เป้าหมายหลักของ REIC (MetaCity) คือการทำหน้าที่เป็นผู้บุกเบิกในการนำการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มาสู่บล็อกเชน ทีมงานเชื่อว่าอีกไม่นานอสังหาริมทรัพย์จะได้รับการแปลงเป็นโทเค็นอย่างกว้างขวางด้วยส่วนแบ่งการเป็นเจ้าของบนบล็อกเชน ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจที่จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเป็นชุมชนชั้นนำในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์

NFT คาดว่าจะสร้างเสร็จในเดือนกันยายน 2022

ไปยัง REIC ตอนนี้

4. Souls of Nature – โปรเจกต์ Metaverse NFT ยอดนิยม

Souls of Nature เป็นอีกโปรเจกต์ NFT มาใหม่ที่มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติโลก Metaverse ในปัจจุบัน และยังเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ utility NFT ที่ดีที่สุดในตลาดปี 2023 อีกด้วย โดยมี NFT 9,271 รายการเป็นอวาตาร์ในโลก Metaverse

Souls of Nature โปรเจกต์ Metaverse NFT ยอดนิยม

เกม play to earn กำลังได้ความนิยมอย่างมาก แต่เกมส่วนใหญ่กลับให้ประสบการณ์ผู้ใช้เพียงเล็กน้อย Souls of Nature ตั้งเป้าที่จะเข้ามาแก้ไขประเด็นดังกล่าวโดยใช้ Unreal Engine เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นนำของตลาดมาใช้ในโปรเจกต์ Souls of Nature มาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริงแก่ผู้ใช้ ซึ่งต้องออกสำรวจเพื่อช่วยเหลือโลกที่ใกล้ล่มสลาย และจะเป็น HD Metaverse โปรเจกต์แรกในตลาด นักลงทุนคริปโตที่ต้องการได้สัมผัสกับเหรียญ metaverse ที่ดีที่สุดในปี 2023 ก็สามารถอ่านบทความที่มีประโยชน์ของเราได้ตอนนี้

โดย Souls of Nature ตั้งเป้าเพื่อช่วยเหลือโลกและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทีมงานจึงให้คำมั่นว่าเปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปบริจาคเพื่อปกป้องระบบนิเวศ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีที่ดีในการตอบแทนและปรับปรุงโลกของเราจากความคิดด้านลบต่อ NFT และการใช้งานไฟฟ้า

Souls of Nature โปรเจกต์ Metaverse NFT ยอดนิยม

Souls of Nature มีแผนการพัฒนาที่ชัดเจน โดยตัวเดโมเกมจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจถึงวิธีการทำงานของเกมได้ดีขึ้น ทีมงานยังวางแผนที่จะพัฒนาตลาดในเกมที่จะให้ผู้ใช้สามารถซื้อ/ขายสินค้าโดยใช้สกุลเงิน $ZOOIE ที่กำลังจะเปิดตัวอีกด้วย

โดยรวมแล้ว Souls of Nature เป็นคอลเล็กชัน NFT ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกจริง แม้ว่าโปรเจกต์จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีศักยภาพสูงทีเดียว

ไปยัง Souls of Nature ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

5. MetaCity – คอลเล็กชัน NFT จากทีมงานมากประสบการณ์

MetaCity เป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชัน Humans of the Metaverse NFT (HOTM) ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้ถือ HOTM จะสามารถใช้จ่าย $HOTM และโต้ตอบกับผู้ใช้รายอื่นในรูปแบบที่น่าสนใจมากมาย

MetaCity จะให้ผู้ใช้สร้างประสบการณ์ของตนเอง ซึ่งหมายความว่าแพลตฟอร์มนี้มีศักยภาพที่ไม่จำกัด (หรือเกือบๆ)

MetaCity metaverse nft

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 MetaCity ได้จัดการขายที่ดินที่ผู้ใช้สามารถสร้างสิ่งต่างๆ ได้ แม้ว่าจะขายหมดอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังสามารถซื้อที่ดินในตลาดรองอย่าง OpenSea ได้ตอนนี้ ซึ่งหมายความว่ายังมีที่ว่างมากมายสำหรับผู้ใช้ใหม่ ในอนาคต ทีมงานวางแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ‘ธนาคาร’ (DAO) และ ‘พิพิธภัณฑ์’ ที่ใช้เปิดตัว NFT ของศิลปินที่ต้องการสร้างชื่อเสียง

โปรเจกต์นี้อยู่ในช่วงสูงสุดแล้ว ด้วยแผนงานและสถิติมูลค่าราคาที่ชัดเจนและครอบคลุม ซึ่งคอลเล็กชันเดิมขายหมดในเวลาเพียง 14 นาที และคอลเล็กชันใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 0.013 ETH

MetaCity เป็นโครงการที่ค่อนข้างใหม่แต่น่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเติบโตเร็วและมีอนาคตอันสดใสรออยู่อย่างแน่นอน

ซื้อ Ethereum บน eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

6. The Sandbox – โลกเสมือนจริง Metaverse NFT ที่มีชื่อเสียง

Sandbox เป็นหนึ่งใน Metaverses ที่มีชื่อเสียงที่สุดและได้รับความสนใจจากบุคคลสำคัญในคอมมิวนิตี้คริปโตและธุรกิจที่มีชื่อเสียง

The Sandbox  เป็นประสบการณ์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเป็นส่วนใหญ่ (นอกเหนือจากสิ่งพื้นฐานเดิมในเกม) โดยข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวก็คือจินตนาการของผู้เล่นเอง เกือบทุกอย่างนั้นเป็นไปได้ใน The Sandbox ตั้งแต่คาสิโน NFT, โลกเสมือนจริง Metaverse, เกมที่สามารถโต้ตอบกัน, หรือแม้แต่เครื่องเล่นในสนาม สิ่งนี้ทำให้ Sandbox สามารถเล่นซ้ำได้บ่อยๆ และเป็นเหตุผลให้ซื้อ SAND ในระยะยาว

The Sandbox

The Sandbox มีเครื่องมือที่จำเป็นในการสร้างสิ่งต่างๆ ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นจะเป็นคนสร้างสีสันให้กับตัวเกมเองและทำให้ของในเกมเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ผู้ใช้สามารถขายผลงานที่ตนสร้างสรรค์ขึ้นได้ในตลาดซื้อขายในเกมเพื่อนำไปแลกเป็นเงินสกุลทั่วไปได้ และยังสามารถสร้างรายได้จากสถานที่ท่องเที่ยวได้ เช่น การเก็บข้าเข้า หรือเพิ่มระบบ P2E ลงในมินิเกมก็ทำได้เช่นกัน

The Sandbox มีเครื่องมือให้ผู้ใช้ในการสร้างเกือบทุกอย่าง ด้วย NFT หลายแสนรายการในระบบนิเวศของเกม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าโปรเจกต์นี้จะได้รับความสนใจสูงอย่างต่อเนื่อง

ซื้อ SAND บน eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

7. Decentraland – โลกเสมือน Metaverse ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

Decentraland เป็นคู่แข่งหลักๆ ของ The Sandbox เพราะมีรูปแบบที่คล้ายกันมาก และยังมีโลกเสมือนจริงที่ใช้ Metaverse NFT เพื่อให้ผู้ใช้ได้สำรวจและสร้าง โดยเราก็มีบทความดีๆ ว่าจะซื้อ MANA ได้ที่ไหน (เหรียญหลักของเกม)

Decentraland

ระบบนิเวศของ Decentraland มี NFT มากกว่า 100,000 รายการ รวมทั้งอุปกรณ์สวมใส่และแปลงที่ดิน โดย Decentraland จะความรู้สึกเป็นองค์กรมากกว่า The Sandbox เนื่องจากมีบริษัทจำนวนมากที่ได้ซื้อที่ดินภายในเกม

เศรษฐกิจของ Decentraland ก็ได้รับแรงหนุนจากผู้เล่นอย่างคึกคัก เนื่องจาก MANA เป็นเหรียญที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 33 บน CoinMarketCap ซึ่งชัดเจนว่านักลงทุนมีความหวังสูงสำหรับ Metaverse อสังหาริมทรัพย์ NFT โดยทั้ง The Sandbox และ Decentraland ก็คุ้มค่าที่จะลงทุน

ซื้อ MANA บน eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

Metaverse NFT คืออะไร?

โลก Metaverse นั้นไม่ได้มีแค่โลกเดียว ทุกโปรเจกต์จะมีโลกเสมือนของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าแต่ละโปรเจกต์จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ Metaverse NFT จึงจัดอยู่ในหมวดหมู่มากมาย ซึ่งอาจรวมถึง Metaverse คาสิโน NFT, ประสบการณ์ความเป็นจริงเสมือน, หรือแม้แต่ Metaverse อสังหาริมทรัพย์ NFT โดยแต่ละโปรเจกต์จะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป แต่หลักๆ แล้วแต่ละโปรเจกต์จะเกี่ยวข้องกับโลกเสมือนที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้ และนั่นคือคำนิยามของ Metaverse NFT

Metaverse NFT เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

NFT และ Metaverse เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ด้วยเหตุนี้ จึงมีโปรเจกต์ดีๆ มากมายที่กำลังจะเปิดตัวและมีศักยภาพมากมาย เช่น Souls of Nature  เป็นต้น

น่าเสียดายที่โปรเจกต์นั้นมีมากเกินไปที่จะบอกว่า Metaverse NFT ทุกๆ โปรเจกต์เป็นการลงทุนที่ดี อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสองสามข้อที่ทุกคนสามารถวิเคราะห์เพื่อพิจารณาว่าโปรเจกต์ NFT สุดเจ๋งนั้นคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่

สถิติมูลค่าราคา – วิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการพิจารณาว่าโครงการ Metaverse NFT มีแนวโน้มว่าจะอยู่รอดแค่ไหนก็คือการดูจากทีมผู้พัฒนา หากทีมงานของโปรเจกต์มีสถิติที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเจ้าของจริงและสร้างมูลค่าให้กับนักลงทุน นั่นเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีถึงความมั่นคงของโครงการ

แผนการพัฒนา – โปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดจะมีแผนการพัฒนาที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนเสมอ สิ่งนี้บอกนักลงทุนว่าทีมได้วางแผนล่วงหน้า ประเมินว่าจะใช้เวลาพัฒนานานแค่ไหน และที่สำคัญที่สุดคือ โปรเจกต์จะมีความโปร่งใส

แผนสำหรับอนาคต – ต่อจากแผนการพัฒนา การตรวจสอบว่าโปรเจกต์วางแผนอะไรไว้ในอนาคตเป็นสิ่งที่ควรเสมอ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเรื่องง่าย แต่โปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดจะให้คุณค่าในระยะยาว การที่ทีมงานวางแผนจะพัฒนาโปรเจกต์ในระยะยาวอย่างไรนั้นสามารถเป็นข้อมูลที่ดีว่าโปรเจกต์นั้นๆ จะยั่งยืนหรือไม่

เทคโนโลยี – เนื่องจากทั้ง NFT และ Metaverse ยังเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงต้น จึงคุ้มค่าที่จะดูว่าโปรเจกต์นั้นมีความเป็นไปได้หรือไม่ แน่นอนว่าโปรเจกต์ส่วนใหญ่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเองไปในระดับหนึ่ง แต่ก็อาจมีบางเป้าหมายที่อาจจะทำสำเร็จได้ยาก

ซื้อ Metaverse NFT ได้ที่ไหน?

การหาแหล่งซื้อโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดของกระบวนการทั้งหมด โดยเราได้รีวิว NFT Marketplace ที่ดีที่สุดในตลาดเอาไว้แล้ว

1. NFT Launchpad

NFT Launchpad เป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยแพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบมาอย่างดี ทรงพลัง และมีคอลเล็กชัน NFT ที่ยอดเยี่ยม กล่าวคือ Lucky Block Platinum High Rollers Club จะให้ผู้ถือมีโอกาสลุ้นรับรางวัลใหญ่ทุกๆ วัน

ตลาด NFT Launchpad รองรับคอลเล็กชันที่สร้างขึ้นโดยใช้ทั้งเครือข่าย Binance Smart Chain (BSC) และ Polygon (MATIC) ด้วยเหตุนี้จึงมีโปรเจกต์ NFT ราคาถูกมากมาย แพลตฟอร์มนี้ใช้ Wrapped BNB (WBNB) เป็นเหรียญหลัก ซึ่งหมายความว่าธุรกรรมทั้งหมดจะมีค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้ง่ายต่อการทำธุรกรรม

NFT LaunchPad ซื้อ Metaverse NFT ที่ไหนดี

การสร้างคอลเล็กชัน NFT ในรูปแบบต่างๆ ก็ทำได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหว เสียงที่เป็น NFT ได้ และใครก็ตามที่สร้างคอลเล็กชันของตัวเองก็สามารถควบคุมอะไรๆ ได้อย่างเต็มที่ เช่น การกำหนดความหายากและการเปลี่ยนแปลงค่าลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ ผู้สร้างยังสามารถได้รับประโยชน์จากการสร้างหน้า NFT ที่มีข้อมูลสำคัญๆ ของคอลเล็กชัน เช่น ลิงก์หลักและคำอธิบายโปรเจกต์ด้วย

ด้วยอัตราการเติบโตของแพลตฟอร์ม จึงเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะทำให้ NFT Launchpad เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในตลาด ดังนั้นจึงไม่มีเวลาไหนที่ดีไปกว่านี้แล้วในการเข้าใช้งาน ซึ่ง NFT Launchpad นั้นก็ใช้งานง่าย หมายความว่าสามารถเริ่มต้นใช้งานได้เพียงไม่กี่นาที ทุกๆ ปุ่มมีข้อความบอกชัดเจน และค้นหาข้อมูลสำคัญได้ง่ายดาย โดยรวมแล้ว  NFT Launchpad เป็นตลาดที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ซื้อ/ขายและครีเอเตอร์ ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไร NFT Launchpad ตอบโจทย์สำหรับคุณแน่นอน

ข้อดี

  • รองรับหลายเครือข่าย
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • คอลเล็กชันที่ยอดเยี่ยมมากมาย
  • เติบโตอย่างรวดเร็ว
  • ใช้งานง่าย
  • เครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับครีเอเตอร์

ข้อเสีย

  • ไม่สนับสนุน Ethereum

ซื้อ NFT บน NFT Launchpad ตอนนี้

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง

2. Crypto.com

Crypto.com มีชื่อเสียงมาจากการเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในตลาด แต่ในปี 2021 แพลตฟอร์มก็ตัดสินใจเข้ามาตีตลาด NFT โดยเปิดตัวตลาด Crypto.com NFT และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ แพลตฟอร์มได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในปัจจัยหลักๆ ของตลาด Crypto.com NFT ก็คือมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ที่จริงแล้วจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ NFT ในตลาดเลย อย่างไรก็ตาม มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพียง 1.99% สำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างและขายบนแพลตฟอร์ม (และการขายรอง)

มี NFT มากมายในตลาด Crypto.com ซึ่งรองรับ NFT หลายรูปแบบ ดังนั้นคุณจึงสามารถค้นหาอะไรก็ได้ตั้งแต่งานศิลปะ NFT ทั่วไป ไปจนถึงคอลเล็กชันแอนิเมชั่นที่ซับซ้อนมากขึ้น ปัจจุบันตลาดรองรับ NFT ที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum, Polygon, Solana, Cronos และ Crypto.org จึงมีทางเลือกให้คุณมากมาย

Crypto.com nft marketplace ซื้อ Metaverse NFT

แพลตฟอร์มมีหน้าตาที่ใช้งานง่ายและใช้ธีมสีแบบ Crypto.com ที่คุ้นเคย ทั้งยังง่ายต่อการค้นหา NFT ที่เฉพาะเจาะจงและด้วยตัวกรองที่หลากหลาย จึงทำให้การค้นหาคอลเล็กชันที่ตรงตามกำหนดเป็นเรื่องง่าย

โดยรวมแล้ว ตลาด Crypto.com มีอะไรให้ทำมากมาย ทั้งมี NFT นับพันรายการ รวมถึงคอลเล็กชันที่โดดเด่น เช่น PSG x Jay Chou ถ้ารวมปัจจัยเหล่านี้เข้ากับประวัติของแบรนด์ที่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้ ทำให้ตลาด Crypto.com เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุด

ข้อดี

  • ส่วนหนึ่งของแบรนด์ Crypto.com
  • ใช้งานง่าย
  • มี NFT นับพัน
  • ค่าธรรมเนียมต่ำ

ข้อเสีย

  • กระบวนการสร้างอาจซับซ้อนไปบ้าง

ซื้อ NFT บน Crypto.com ตอนนี้

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง

วิธีซื้อ Metaverse NFT

วิธีซื้อ Metaverse NFT นั้นอาจเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าทำตามขั้นตอนด้านล่าง นักลงทุนทุกระดับก็สามารถซื้อได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก

ขั้นตอนที่ 1 – ติดตั้งกระเป๋าเงิน

ก่อนจะซื้อ NFT  ใดๆ ได้นั้นต้องติดตั้ง crypto wallet ก่อน โชคดีที่กระบวนการนี้เรียบง่ายและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เพียงดาวน์โหลดแอพกระเป๋าเงินหรือส่วนขยายเท่านั้น เราขอแนะนำ MetaMask จากนั้นทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อติดตั้งกระเป๋าเงิน

เชื่อม metamask

ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อเหรียญคริปโต

เมื่อติดตั้งกระเป๋าเงินแล้ว ก็ถึงเวลาซื้อ BNB ซึ่งสามารถทำได้ผ่านกระดานเทรดหรือโบรกเกอร์ที่มีการกำกับเช่น eToro ซึ่งกระบวนการซื้อ BNB นั้นง่ายแต่ก็ยังคุ้มค่าที่จะลองดูวิธีซื้อเหรียญ Binance ของเรา หลังจากซื้อ BNB แล้ว ให้ตรวจสอบจนแน่ใจว่ากระเป๋าเงินถูกตั้งค่าเป็นเครือข่าย Binance แล้วจึงค่อยโอนสินทรัพย์

ซื้อ BNB ผ่าน etoro

ซื้อ BNB บน eToro

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง ไม่มีการกำกับดูแล และไม่มีการป้องกันนักลงทุนในประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 3 – เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

หลังจากโอนเหรียญเข้า MetaMask แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเชื่อมต่อกับ NFT Launchpad เพียงไปที่เว็บไซต์ NFT Launchpad กดปุ่มสีม่วงที่มีรูปกระเป๋าเงิน กดที่ไอคอน MetaMask และยืนยันการเชื่อมต่อโดยใช้กระเป๋าเงิน MetaMask

เชื่อม nft launchpad

ขั้นตอนที่ 4 – ซื้อ Metaverse NFT

เมื่อกระเป๋าเงิน MetaMask เชื่อมต่อกับ NFT Launchpad แล้ว คุณก็สามารถซื้อ NFT ได้ เพียงคลิกที่แถบค้นหา ป้อนชื่อคอลเล็กชัน เลือก NFT กดปุ่ม ‘Buy’ สีม่วง ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง และกด ‘Pay’ จากนั้น NFT จะถูกโอนไปยังกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อเอาไว้

ซื้อ Metaverse NFT

บทสรุป

ในบทความนี้เราได้รีวิวโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดในตลาดและอธิบายถึงวิธีการซื้อ NFT ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ คอลเล็กชันแต่ละรายการต่างก็มีข้อดี แต่มีคอลเล็กชันหนึ่งที่โดดเด่นกว่าที่เหลือ

Tamadoge เป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจที่ผสมผสานระบบ play to earn และสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ NFT กับเทคโนโลยี Metaverse และเหรียญมีมที่มีโอกาสเติบโต ส่วน Souls of Nature เป็นอีกหนึ่งคอลเล็กชัน NFT ที่ได้มีเทคโนโลยี Metaverse แบบ play to earn ที่มีโอกาสเติบโตสูงในตลาด ซึ่งมีทีมผู้พัฒนามากประสบการณ์ แผนการพัฒนาที่ชัดเจน และจะมีเดโมมาให้ลองเล่นเร็วๆ นี้

ไปยัง Souls of Nature ตอนนี้

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตที่น่าสนใจในปี 2023 ก็คุ้มค่าที่จะลองดู Lucky Block ในฐานะที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม play to earn บนบล็อกเชนแห่งแรก ซึ่งมีเทรดเดอร์คริปโตจำนวนมากกำลังจับตาดู LBLOCK อย่างใกล้ชิด

Categories
Bitcoins NFT

วิธีลงทุน NFT 2023 – คู่มือสำหรับมือใหม่ [เข้าใจง่าย!]

Non-fungible tokens หรือ NFT ได้สร้างความตื่นเต้นในโลกคริปโตเคอเรนซี่ ด้วยการเชื่อมสินทรัพย์กายภาพและสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้คนสามารถซื้อขายงานศิลปะ ดนตรี ไอเท็มในเกม และอื่น ๆ ได้อีกมากมาย

บทความนี้จะกล่าวถึงวิธีลงทุน NFT แนะนำ NFT ที่ดีที่สุด และแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับซื้อขาย NFT ก่อนแสดง 4 ขั้นตอน ในการซื้อ NFT แบบง่าย ๆ 

วิธีลงทุน NFT แบบง่าย ๆ

หากต้องการสร้างรายได้จาก NFT ขั้นตอนด้านล่างนี้จะแนะนำวิธีง่าย ๆ ในการซื้อ Lucky Block NFT ให้กับคุณ 

  • ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่ากระเป๋าเงิน MetaMask: สิ่งแรกที่ต้องทำในการซื้อ Lucky Block NFT คือ ตั้งค่ากระเป๋าเงิน MetaMask เพียงไปที่เว็บไซต์ MetaMask แล้วทำตามขั้นตอนการตั้งค่า
  • ขั้นตอนที่ 2: ซื้อ Wrapped BNB (wBNB): ต่อไป คุณจะต้องซื้อ BNB (wBNB ) จากกระดานแลกเปลี่ยนที่น่าเชื่อถือ เมื่อซื้อแล้วก็ทำการโอน wBNB ไปยังกระเป๋าเงิน MetaMask 
  • ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับ NFT LaunchPad: ไปยัง NFT LaunchPad คลิก “เชื่อมต่อ Wallet” ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ เพื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน MetaMask กับแพลตฟอร์มซื้อขาย
  • ขั้นตอนที่ 4: ซื้อ Lucky Block NFT: ค้นหา Lucky Block NFT คลิก โปรเจกต์ NFT สุดเจ๋งที่ต้องการซื้อ คลิก “ซื้อเลย” เพื่อยืนยัน

ซื้อ Lucky Block NFT ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง ไม่คุ้มครองนักลงทุนจากประเทศไทย

อธิบายการลงทุน NFT 

หากลงทุนใน NFT ที่ดีที่สุด อันดับแรกจะต้องทำความเข้าใจว่า NFT คืออะไร และมีหลักการอย่างไร ซึ่งจากบทนำ “Non-fungible tokens” หมายถึงโทเค็นที่ใช้รับประกันความเป็นเจ้าของสินทรัพย์เฉพาะทุกรูปแบบ ทั้ง ภาพศิลปะดิจิทัล เพลง และไอเท็มเกม blockchain ต่างๆ

NFT อยู่บน blockchain ซึ่งเครือข่ายกระจายอำนาจอยู่เบื้องหลังคริปโตเคอเรนซี่มากมาย Bitcoin เป็นตัวแรกที่ทำให้ blockchain ได้รับความนิยม แม้ในช่วงหลังจะมี Ethereum เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่กลายเป็นผู้นำโลก NFT และพัฒนาบนรากฐานนี้ อีกทั้งยังมี Solana, Cardono และ Binance Smart Chain ด้วยเช่นกัน

การลงทุน NFT วิธีลงทุน nft

การลงทุน NFT จะทำได้ผ่านตลาด NFT ที่ดีที่สุด ซึ่งใช้งานง่าย ช่วยให้สามารถค้นหาการลงทุนที่ผู้อื่นทำไว้แล้วได้ และส่วนใหญ่ราคาของ NFT จะถูกกำหนดไว้ในแบบคงที่หรือประมูล ทำให้นักลงทุนสามารถเสนอราคาประมูลได้ จนกว่าจะมีผู้ชนะในการประมูลนั้น ๆ 

เนื่องจาก NFT เป็นคริปโตเคอเรนซี่เช่นกัน คุณจำเป็นต้องมี กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มความสะดวกในการลงทุน สามารถเชื่อมต่อกับตลาด NFT ได้โดยตรง และทำให้การถือครองสินทรัพย์ทำได้อย่างปลอดภัย

NFT เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

ลงทุนในศิลปะหรือเกม NFT ดีไหม? เพราะจาก non-fungible tokens จำนวนมากบนตลาดทั้ง NFT ที่มีประโยชน์ใช้งานสูงสุด และการแข่งขันม้า NFT ที่ดีที่สุด ไปจนถึง ที่ดิน NFT ที่ดีที่สุด ทำให้การลงทุนมีความท้าทาย ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการบางราย เริ่มแจกรางวัล NFT ที่น่าสนใจ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับการลงทุน

คุณจะพบเห็นบาง NFT  ที่กลายเป็น NFT ที่แพงที่สุด ที่ซื้อขายกันแพงมาก และบาง NFT ก็เป็นโปรเจกต์ nft ราคาถูก และนักเทรดบางคนก็มองหาโครงการแบบลอตเตอรี่บน blockchain อย่าง  Lucky Block ซึ่งสามารถซื้อ Lucky Block NFT พร้อมลุ้นรับรางวัลได้มากมาย สำหรับNFT พรีเซลล์ที่ดีที่สุด เราจะแนะนำในส่วนถัดไป

เหรียญ Enjin สร้างกระแส NFT ได้ด้วยอุปทาน 1 พันล้านเหรียญ ทำให้ตอนนี้อาจเป็นช่วงที่ดีที่สุด ในการลงทุนเหรียญตัวนี้ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ซื้อเหรียญ Enjin

อ่านเพิ่มเติม: มีเงิน 2 แสน ลงทุนอะไรดีในปี 2023

ในการลงทุนต้องพิจารณาปัจจัยมากมาย ซึ่งจะมีองค์ประกอบหลัก 5 ประการ ดังนี้

ศักยภาพการเพิ่มมูลค่า

สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดการลงทุนในศิลปะ NFT ได้ คือ ศักยภาพการเพิ่มมูลค่าเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่น การเพิ่มมูลค่าของ CryptoPunk 1422 จาก 74 ดอลล่าร์ในปี 2017 ไปเป็น 2 ล้านดอลล่าร์อย่างไม่น่าเชื่อ จากข้อมูลของ BusinessInsider ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเพิ่มมูลค่าของ NFT ได้เป็นอย่างดี

การเข้าถึงเนื้อหาพิเศษ

การลงทุนใน NFT ไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้รับงานศิลปะหรือดนตรีที่น่าตื่นเต้น แต่ยังช่วยให้คุณได้รับโบนัสพิเศษอีกมากมาย เช่น การเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NFT ตัวนั้น ๆ 

การมีส่วนร่วมกับชุมชนชั้นยอด

NFT ระดับไฮเอนด์มักจะอนุญาตให้เจ้าของเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนพิเศษ เพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้กับสินทรัพย์ เช่น Bored Ape Yacht Club ได้เปิดเซิร์ฟเวอร์ Discord ซึ่งเต็มไปด้วยเจ้าของ Bored Ape ที่มีทั้งคนดังและเซเลปมากมาย ให้เจ้าของสามารถเข้าถึง “The Bathroom” กระดานกราฟฟิตีที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนนี้ได้

bored ape yacht club NFT ที่น่าจับตามอง Nft มาแรง NFT ขายดี

สนับสนุนเหล่าครีเอเตอร์

คุณสามารถเลือกลงทุนซื้อ NFT จากครีเอเตอร์ที่คุณชื่นชอบได้ เพราะเป็นวิธีการที่ให้เหล่าครีเอเตอร์ผลิตผลงานให้แฟนๆได้สนับสนุนจากการซื้อ NFT เหล่านี้

ความง่ายในการแสดงความเป็นเจ้าของ

ตั้งแต่ NFT แบบ “non-fungible” เกิดขึ้น เจ้าของ NFT จำนวนมากก็เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของสินทรัพย์บนอย่างการแสดงรูปโปรไฟล์ออนไลน์ เนื่องจาก NFT นั้นไม่สามารถคัดลอกได้ ด้วยการทำงานของเทคโนโลยี blockchain

NFT ตัวไหนที่ดีที่สุดในการลงทุน?

หากกำลังศึกษาการลงทุน NFT ต้องเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมและสามารถซื้อได้ โดยเฉพาะ 5 NFT ที่ดีที่สุดด้านล่างนี้ พร้อมเหตุผลว่าทำไมถึงน่าสนใจ:

1. CryptoPunks

หากคุณกำลังศึกษาวิธีลงทุนใน NFT น่าจะเคยเห็น CryptoPunks กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็น NFT ตัวแรก ๆ ที่เปิดตัวมาในปี 2017 และเมื่อความนิยมของ NFT มากขึ้น “Punk” ก็ถูกมองเป็นสินทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมเพราะเป็น “คนแรก” ในตลาด และค้าขายกันที่มูลค่าหลายล้านดอลล่าร์

2. Bored Ape Yacht Club

Bored Ape Yacht Club คือ คอลเล็กชั่นศิลปะรูปลิง NFT จำนวน 10,000 ชิ้น ที่ถึงแม้การเปิดตัวจะไม่ค่อยมีความชัดเจนมากนัก แต่ “ลิง” เหล่านี้ก็ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะ ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากคนดัง ณ ตอนนี้ที่เขียนบทความนี้ ยอดขาย NFT Bored Ape Yacht Club ทะลุ 1 พันล้านดอลล่าร์ ก็เป็นเพราะ Eminem และ Snoop Dogg ที่ได้มาร่วมลงทุนในโครงการนี้

3. Mythia

Mythia เป็นคอลเล็กชั่นที่น่าสนใจ สำหรับการเพิ่มลงในปฏิทิน NFT เปิดตัวด้วยคอลเลกชั่น 3,333 NFT ในรูปแบบตัวการ์ตูนไซเบอร์พังค์และอนิเมะ ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของโครงการ จะมาจากประโยชน์เพิ่มเติมในการถือครองที่ได้รับ เพราะเจ้าของทุกคนจะสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ Discord เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ NFT ที่จะเปิดตัว และใช้งานชุดเครื่องมือซอฟต์แวร์ สำหรับการลงทุน NFT ได้

Mythia NFT NFT ที่น่าจับตามอง Nft มาแรง

4. Embers

Embers เป็นคอลเล็กชั่นที่เหมาะกับผู้เริ่มลงทุน NFT อย่างมาก ด้วยผลงานที่เรียบง่าย แต่มีการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะที่สวยงามให้กับแต่ละชิ้นงาน ซึ่งตัวคอลเล็กชั่นมีกำหนดจะออกมาในไม่นานนี้ ด้วยจำนวน NFT กว่า 5,555 NFT

5. Pudgy Penguins

Pudgy Penguins คือ คอลเล็กชั่น “Penguin” 8,888 ตัวที่ถูกสร้างขึ้นแบบสุ่ม ซึ่งสามารถใช้งานเป็นรูปโปรไฟล์ได้ และเปิดตัวมาในเดือนกรกฎาคม 2021 ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 140 ล้านดอลล่าร์ แม้หลังจากนั้นเพนกวิน จะถูกจำหน่ายมาเป็นเหรียญด้วยราคาเพียง 0.03 ETH แต่ก็ยังมีบางตัวที่ขายต่อได้ ด้วยมูลค่าสูงกว่า 450,000 ดอลล่าร์

ลงทุน NFT ที่ไหนดี

เมื่อเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนขึ้นบ้างแล้ว ต่อไปเราจะมาพูดคุยกันว่า คุณจะสามารถลงทุน NFT ได้ที่ไหนบ้าง

1. Crypto.com – แพลตฟอร์มลงทุน NFT ที่ก่อตั้งมาพร้อมตัวเลือกการลงทุนยอดนิยม

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นหรือศิลปะ NFT สิ่งสำคัญคือความร่วมมือกันของแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความง่ายและปลอดภัยให้กับการทำธุรกรรม ทำให้เราอยากแนะนำให้ใช้ Crypto.com ในการซื้อ NFT

Crypto.com เป็นตัวเลือกกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุด ที่เปิดตัวตลาด NFT ในปี 2021 ด้วยค่าธรรมเนียมในการเทรดต่ำ และในปัจจุบันมี NFT โฮสต์ที่อยู่บน blockchain ของตัวเองและ Ethereum ซึ่งความน่าสนใจของ Crypto.com คือ การไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ NFT ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ และยังมีการเพิ่มโปรเจกต์ NFT มาใหม่ที่ดีที่สุดเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

Crypto.com NFT

นักลงทุนสามารถซื้อ NFT ได้ด้วยบัตรเครดิตและเดบิต โดยไม่จำเป็นต้องถือเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ เพิ่มความสะดวกให้การซื้อ NFT ได้มากขึ้น พร้อมขั้นตอนการลงทุนที่เรียบง่าย ด้วยการลงทะเบียนเพียงไม่กี่นาที และยืนยันบัญชีผ่านทาง SMS หรือบัญชี Crypto.com รวมถึงยังมีแอป NFT ที่ดีที่สุด ที่เพิ่มความง่ายในการเข้าถึงตลาดได้จากทุกสถานที่อีกด้วย

ซื้อ NFT บน Crypto.com

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง ไม่คุ้มครองนักลงทุนจากประเทศไทย

2. Coinbase – แพลตฟอร์มลงทุนและผู้นำในตลาด NFT

การเปิดตัวแพลตฟอร์ม Coinbase NFT Beta เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2022 พร้อมคอลเลกชั่น NFT ยอดนิยมมากมาย ที่ซื้อและแลกเปลี่ยนได้บนแพลตฟอร์ม

มีข้อความกล่าวว่า “คอลเล็กชั่น NFT ที่ร้อนแรงที่สุดทั้งหมดอยู่บน Coinbase NFT” รวมถึง NFT ที่ประสบความสำเร็จอย่าง Bored Ape Yache Blub และ Mutant Apes ไปจนถึงคอลเลกชั่นที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย เช่น:

ในปัจจุบันมี NFT หลายรายการ ที่มีราคาเริ่มต้นหรือต่ำกว่า 0.01 ETH ให้ซื้อได้ด้วยเช่นกัน

coinbase NFT ลงทุน nft ยังไง ซื้อ nft ยังไง nft ซื้อที่ไหน

เช่นเดียวกับ eToro Coinbase มุ่งเน้นเชื่อมโยงนักลงทุนและนักเทรด เพื่อการซื้อขายแบบเป็นสังคม ผู้ใช้งานสามารถสร้างโปรไฟล์ออนไลน์และฟีดส่วนตัว เช่นเดียวกันกับแพลตฟอร์ม Facebook(Meta) และ Instagram ได้

ทำให้นอกจากการซื้อขาย NFT เพียงอย่างเดียว พวกเขายังสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ NFT และมีส่วนร่วมในแบบอื่น ๆ กับระบบได้ ซึ่ง Coinbase VP Sanchan Saxena กล่าวไว้ว่า:

“ในขณะที่การซื้อขาย NFT เป็นส่วนสำคัญของระบบ แต่สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากการพูดคุยกับลูกค้าและผู้สร้างจำนวนมาก ก็คือมีอะไรมากกว่าแค่การซื้อขาย จากมุมมองในชุมชนของมัน”

ไปยัง Coinbase ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

3. NFT LaunchPad – ตลาดยอดนิยมที่ให้บริการตัวเลือก NFT ที่น่าสนใจ

ตัวเลือกแพลตฟอร์มการลงทุนใน NFT ที่ดีที่สุดของเรา คือ NFT LaunchPad ที่กลายมาเป็น “แหล่งของ Web3” ซึ่งมีสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกได้หลากหลาย ทั้งงานศิลปะ แอนิเมชั่น เกม ไอเท็มเมตาเวิร์ส ดนตรี การ์ดสะสม และอื่น ๆ 

คอลเล็กชั่นของ NFT LaunchPad จะมีสกุลเงินเป็น WrappedBNB (wBNB) ทำให้การเข้าถึงมีความกว้างขวาง และเข้ากันได้กับกระเป๋าเงินคริปโตชั้นนำมากมาย เช่น MetaMask และ WalletConnect ที่เชื่อมต่อเข้ากับ NFT LaunchPad ได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

NFT LaunchPad ตลาด nft marketplace nft ซื้อที่ไหนดี

มีโครงการมากมายที่ได้รับความนิยมใน NFT LaunchPad ซึ่ง Lucky Block NFT เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด จากการเปิดตัว “แพลตฟอร์มการแข่งขัน NFT” ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ถือ NFT มีโอกาสได้รับรางวัลสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสุดหรูหรา, Bored Ape NFT หรือแม้แต่ Bitcoin ที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านดอลล่าร์ 

ตั๋ว NFT ในการร่วมลุ้นรับรางวัล สามารถหาซื้อได้จาก NFT LaunchPad ในหลายราคา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะแบบนามธรรมจาก Calamity และ CryptoPunks ที่เป็น NFT ที่แพงที่สุดในตลาดด้วยกันทั้งสิ้น

NFT LaunchPad ซื้อ NFT ได้ที่ไหน ซื้อ NFT ขายดี

NFT LaunchPad ยังให้ครีเอเตอร์สามารถสร้าง NFT ของตนเองได้บนแพลตฟอร์ม ด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่เรียกเก็บเลย ซึ่งการทำงานจะมีความคล่องตัวสูง แม้ว่าครีเอเตอร์สามารถกำหนดความหายากของ NFT ตนเอง และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆได้  ทำให้ NFT LaunchPad เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจในการลงทุน NFT

ซื้อ NFT บน NFT Launchpad ตอนนี้

เงินทุนมีความเสี่ยง

วิธีลงทุน NFT

การจะลงทุน NFT Crypto หรือซื้อ NFT คุณต้องเข้าใจขั้นตอนการลงทุนก่อนเข้าสู่ตลาดเสียก่อน

เพื่อเพิ่มความง่ายให้กับคุณ ขั้นตอนต่อไปนี้ คือ วิธีซื้อ NFT ด้วยการใช้คอลเล็กชั่น “Platinum Rollers Club” ของ Lucky Block เป็นตัวอย่าง

ขั้นตอนที่ 1 – ตั้งค่ากระเป๋าเงิน MetaMask

Lucky Block NFT สามารถซื้อผ่าน NFT LaunchPad ได้ แต่คุณจำเป็นจะต้องเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงิน MetaMask ก่อน

ติดตั้ง MetaMask สำหรับลงทุนใน NFT

ไปที่เว็บไซต์ MetaMask คลิก “ดาวน์โหลด” ทำตามคำแนะนำบนหน้าเพจ เพื่อตั้งค่ากระเป๋าเงินและเพิ่มไปยังเบราว์เซอร์

ขั้นตอนที่ 2 – เพิ่ม BNB Chain ใน MetaMask

ในค่าเริ่มต้น MetaMask สามารถเชื่อมต่อได้กับ Ethereum blockchain เท่านั้น ซึ่งคุณต้องเชื่อมโยงเข้ากับ Binance Smart Chain (BSC) ด้วยตนเอง โดยคลิก “เพิ่มเครือข่าย” ในเมนูตั้งค่ากระเป๋าเงิน และป้อนข้อมูลต่อไปนี้:

  • ชื่อ Network: Smart Chain
  • RPC URL ใหม่ : https://bsc-dataseed.binance.org/
  • ChainID: 56
  • สัญลักษณ์: BNB
  • Block Explorer URL: https://bscscan.com

เมื่อป้อนเสร็จแล้วคลิก “บันทึก” เพื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน MetaMask กับ MSC

ขั้นตอนที่ 3 – รับ Wrapped BNB (wBNB)

Lucky Block NFT อยู่ใน Wrapped BNB (wBNB) ซึ่งใกล้เคียงกับ BNB แบบปกติ ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน BEP-20 บน BNB Chain ทำให้คุณสามารถรับ wBNB ได้ผ่าน PancakeSwap หนึ่งใน กระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุดในตลาด จากนั้นทำการโอนสินทรัพย์ของคุณไปยัง MetaMask

ขั้นตอนที่ 4 – เชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับ NFT LaunchPad

ต่อมา ไปที่ NFT LaunchPad คลิก “เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน” บนหน้าหลัก จากนั้นจะมีกล่องข้อความปรากฎขึ้น ทำตามคำแนะนำเพื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน MetaMask เข้ากับแพลตฟอร์ม

เชื่อมต่อ MetaMask กับ NFT LaunchPad

ขั้นตอนที่ 5 – ซื้อ Lucky Block NFT

สุดท้าย กดเรียกดู Lucky Block NFT collection และเลือกหมายเลข NFT ที่ต้องการซื้อ ซึ่งจะเป็นตัวเลขตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 10,000 จากนั้นไปในหน้ารายการคลิก “ซื้อเลย” กดยืนยันการทำธุรกรรม การโอน NFT จะเริ่มต้นขึ้น และ NFT จะย้ายไปอยู่ในกระเป๋าเงิน MetaMask

ซื้อ Lucky Block NFT

ซื้อ Lucky Block NFT ตอนนี้

เงินทุนมีความเสี่ยง

การลงทุนในบริษัท NFT

การลงทุนใน NFT โดยตรงจะเป็นการได้รับผลตอบแทนจากสินทรัพย์นั้นๆได้เลย แต่บางทีคุณอาจจะอยากทำกำไรจากการเติบโตของตลาด NFT แทน ซึ่งวิธีการนี้คือ การลงทุนในบริษัท NFT ก็ตามชื่อเลย คือบริษัท NFT เหล่านี้ให้ผลตอบแทนทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยนักลงทุนที่มีหุ้นก็จะได้รับผลตอบแทนจากการเติบโตของตลาด NFT

นักลงทุนที่ต้องการทราบการลงทุนในเทคโนโลยี NFT ทางบริษัทดังกล่าวมีวิธีการง่ายๆให้คุณ ซึ่ง บริษัท NFT เหล่านี้ จะทำการพัฒนา NFT แล้วลงขายในตลาด หรืออาจจะเป็นบริษัทเกมเริ่มก้าวเข้าสู่โลก NFT ซึ่งตอนนี้ ยังมีเพียงไม่กี่บริษัท NFT ที่เป็นรูปแบบบริษัท NFT โดยสมบูรณ์ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่

NFT การลงทุนในบริษัท NFT

เช่นเดียวกับการซื้อ Bitcoin การลงทุนในบริษัท NFT สามารถเก็งกำไรได้สูง จากตลาด NFT ที่ค่อนข้างมีความใหม่ นักลงทุนก็ยังไม่ทราบว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อมูลค่า ซึ่งการซื้อหุ้นในบริษัท NFT จึงเหมาะกับนักลงทุนที่พร้อมรับความเสี่ยงได้สูง

การลงทุนหุ้น NFT เป็นทางเลือกที่ดีไหม?

การซื้อหุ้น NFT ให้คุณรับผลตอบแทนจากการขยายตัวของตลาด และเช่นเดียวกับday trade การซื้อหุ้น NFT ย่อมมีความผันผวนสูงกว่าการซื้อหุ้นแบบทั่วไป

อย่างไรก็ตามการซื้อหุ้น NFT ก็ยังคงมีประโยชน์อยู่บ้าง เช่น

  • การทำกำไรจากการเติบโตของตลาด: การลงทุนหุ้น NFT เช่น Coinbase ให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการที่ตลาด NFT เติบโตขึ้น ทำให้เมื่อตลาดมีการขยายตัวในปีต่อ ๆ ไป ก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจและอาจทำให้ Coinbase มีราคาหุ้นสูงขึ้นได้
  • ลงทุนใน NFT แบบปลอดภัยขึ้น: เนื่องจากตลาดหุ้นมีความมั่นคง ทำให้นักลงทุนสบายใจในการซื้อหุ้น NFT มากกว่าการซื้อ NFT โดยตรง เพราะตลาดหุ้นมีการควบคุมที่เข้มงวดมากกว่าตลาด NFT
  • สามารถใช้สกุลเงิน FIAT ได้: สุดท้ายหุ้น NFT ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงได้ด้วยสกุลเงิน FIAT ทำให้ชำระเงินด้วยบัตรได้ และช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากขึ้น

หุ้น NFT ที่ดีที่น่าลงทุน

เพื่อทำความเข้าใจตัวเลือกในตลาดทุนให้ชัดเจนมากขึ้น ด้านล่างนี้จะเป็น 5 หุ้น NFT ที่ดีที่สุด ในศักยภาพการเปลี่ยนแปลงของราคา

1. Coinbase (NASDAQ: COIN)

หากคุณสงสัยว่าจะลงทุน NFT ผ่านหุ้นได้อย่างไร การซื้อหุ้น Coinbase เป็นตัวเลือกที่ดี จากบล็อกโพสต์ล่าสุดที่ Coinbase ประกาศเปิดตัว “Coinbase NFT” ตลาด P2P สำหรับการสร้าง NFT ซื้อขาย และจัดแสดง NFT นอกจากนี้ตลาด coinbase ยังมีหน้าต่างใช้งานที่ง่ายต่อนักลงทุนมือใหม่ และเมื่อตลาดนี้เริ่มมีการใช้งานจริง ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้จำนวนมากให้กับ Coinbase และอาจส่งผลดีต่อราคาหุ้นด้วยในเวลาเดียวกัน

2. eBay (NASDAQ: EBAY)

eBay อีกบริษัทที่มีมานาน ได้ประกาศเข้าสู่วงการ NFT ในเดือนพฤษภาคม 2021 เพื่อให้ตามกระแสความนิยมของ NFT โดยคุณสามารถทำการซื้อศิลปะ NFT ได้ด้วยสกุลเงิน FIAT จากผู้ขายที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในอนาคตอาจมีการรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นใช้งาน NFT บนแพลตฟอร์มที่ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

3. Funko (NASDAQ: FNKO)

Funko เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกาที่ผลิตของสะสมเกี่ยวกับวัฒนธรรมป๊อป และเป็นที่รู้จักในระดับโลก แลพมีสัญญากับบริษัทมากมาย เช่น Marvel, Disney, Nickelodeon และอื่น ๆ โดยในเดือนสิงหาคม 2021 Funko ได้เปิดตัวของสะสมดิจิทัลแบบ NFT ชุดแรกเรียกว่า “Digital Pops” รวมถึงยังมีการเปิดตัวคอลเล็กชั่น NFT อีกมากมาย ทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ของโลก ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ ให้ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล

4. Dolphin Entertainment (NASDAQ: DLPN)

Dolphin Entertainment เป็นบริษัทการตลาดและประชาสัมพันธ์ ที่ให้บริการกับสตูดิโอภาพยนตร์ ดารานักแสดง ผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ ในเดือนสิงหาคม 2021 Variety ได้รายงานว่า Dolphin จะร่วมมือกับ West Realm Shire Services และเปิดตัวตลาด NFT สำหรับแบรนด์กีฬาและความบันเทิง เพื่อจะสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ส่งผลให้การลงทุนกับ Dolphin Entertainment ให้นักลงทุนได้สร้างผลตอบแทนจากการเติบโตของตลาด NFT ได้

5. Plby Group (NASDAQ: PLBY)

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการลงทุนใน NFT ผ่านตลาดหุ้น คือ Plby Group บริษัทด้านสื่อและไลฟ์สไตล์ ที่มีชื่อเสียงจากการผลิตนิตยสาร Playboy ซึ่งเข้าสู่วงการในช่วงปลายปี 2021 ด้วยการเปิดตัว “Rabbitars” คอลเล็กชั่นกระต่าย 3 มิติ NFT จำนวน 11,953 ตัว จากต้นแบบของ Playboy และในปัจจุบัน Plby Group ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมข่าวลือว่าได้เตรียมนำ Playboy Mansion เข้าสู่โลก Metaverse จนทำให้เป็นหนึ่งในหุ้น NFT ชั้นนำ ที่ควรให้ความสนในการลงทุนอย่างมาก

วิธีลงทุนหุ้น NFT

ตอนนี้ เราจะมาต่อกันเรื่องวิธีลงทุนในบริษัท NFT โดยสิ่งสำคัญ คือ จะต้องเลือกใช้โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้การลงทุนได้รวดเร็วและคุ้มค่ามากขึ้น และตัวเลือกที่น่าสนใจคือ eToro แพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานหลายแห่ง ซึ่งให้บริการลงทุนแบบไม่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น

ในช่วงต่อไปเราจะแนะนำ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ควรปฏิบัติตาม หากต้องการซื้อหุ้น NFT ผ่านทาง eToro:

ขั้นตอนที่ 1 – สร้างบัญชี eToro

ไปที่เว็บไซต์ eToro คลิกปุ่ม “Join Now” ระบุที่อยู่อีเมลล์ ชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านให้ถูกต้องตามที่คุณต้องการ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชี eToro

สร้างบัญชี eToro

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง ไม่คุ้มครองนักลงทุนจากประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 2 – ยืนยันบัญชี

คลิก “สร้างโปรไฟล์ให้สมบูรณ์” ตรวจสอบ KYC ของ eToro ให้ถูกต้อง อัพโหลดบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย (เช่น หนังสือเดินทาง) และหลักฐานที่อยู่ (เช่น ใบแจ้งยอดธนาคาร) เพื่อเป็นการยืนยัน 

ขั้นตอนที่ 3 – ฝากเงิน

ฝากเงินอย่างน้อย 10 ดอลล่าร์ เข้าในบัญชี และชำระเงินด้วยรูปแบบต่อไปนี้:

  • บัตรเครดิต
  • บัตรเดบิต
  • โอนเงินผ่านธนาคาร
  • PayPal
  • Skrill
  • Neteller

ขั้นตอนที่ 4 – ซื้อหุ้น NFT

ค้นหาหุ้น NFT ที่ต้องการและคลิก “ซื้อขาย” ป้อนจำนวนที่ต้องการในคำสั่งซื้อ (ขั้นต่ำ 10 ดอลล่าร์) และคลิก “เปิดการซื้อขาย” 

ซื้อหุ้น NFT

ซื้อหุ้น NFT บน eToro

68% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงิน เมื่อทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการรายนี้

กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน NFT

ก่อนสรุปเกี่ยวกับการลงทุน NFT คุณควรรู้จักกับกระเป๋าเงินดิจิทัลเสียก่อน เพราะจำเป็นต้องใช้ในการจัดเก็บคริปโตเคอเรนซี่สำหรับการซื้อ NFT โดยเราแนะนำ eToro Money แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลเฉพาะของ eToro ที่มีประโยชน์มากมาย อย่างการซื้อ Ethereum (หรือคริปโตเคอเรนซี่ที่รองรับ) ด้วยการแลกเปลี่ยนผ่านทาง eToro แล้วโอนไปยังกระเป๋าเงิน

etoro crypto wallet

กระเป๋าเงินใช้งานได้ง่ายกับทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยรองรับคริปโตเคอเรนซี่ได้มากกว่า 500 รายการ ด้วยระบบคีย์ส่วนตัวที่ไม่สามารถล้างได้ และการป้องกัน DDoS ขั้นสูง อีกทั้งคุณยังแลกเปลี่ยนเหรียญต่าง ๆ ได้จากอินเตอร์เฟ:โดยตรง ช่วยเพิ่มความง่ายในการซื้อ NFT จากสกุลเงินดิจิทัลที่แตกต่างกันได้อีกด้วย

วิธีลงทุน NFT – บทสรุป

โดยรวมแล้วบทความนี้จะให้ข้อมูลในเชิงลึก เกี่ยวกับการลงทุน NFT ที่ครอบคลุมถึงประเด็นสำคัญทั้งหมด และวิธีการเลือกซื้อที่จะทำให้คุณสามารถซื้อได้ในทันที

หากคุณต้องการลงทุนใน NFT วันนี้ ตัวเลือกที่น่าสนใจที่เพิ่งถูกเปิดตัวไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คือ คอลเล็กชั่นจาก Lucky Block ซึ่งเรียกว่า Lucky Block NFT เนื่องจาก NFT เหล่านี้เป็นตั๋วที่ช่วยให้คุณสามารถลุ้นรางวัลพิเศษได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดสุดหรูหรา เกมคอนโซล บ้าน หรือแม้แต่เหรียญ BTC มูลค่ากว่า 1 ล้านดอลล่าร์

ลงทุน NFT lucky block NFT

ซื้อ Lucky Block NFT ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง ไม่คุ้มครองนักลงทุนจากประเทศไทย

Categories
Bitcoins NFT

จัดอันดับ 5 เหรียญ NFT น่าลงทุนที่สุด 2023 [แนะนำ!]

จากกระแสความนิยมของสินทรัพย์ NFT ที่ทำให้วงการสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสนใจจากตลาดการลงทุนทั่วโลก ทำให้เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ที่พร้อมจะเข้าสู้โลกการลงทุนแห่งอนาคต รวมถึงนักลงทุนมืออาชีพที่เคยลงทุนในสินทรัพย์อื่นมาก่อนก็หันมาลงทุนในตลาดคริปโตกันมากขึ้น

ด้วยการเกิดขึ้นของเหรียญ NFT ที่น่าสนใจหลายโปรเจกต์ ทำให้ ณ ตอนนี้หลายอุตสาหกรรมได้นำเอาเหรียญ NFT ไปพัฒนาต่อยอดให้นวัตกรรมนี้มีความน่าสนใจพร้อมให้ผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของงานศิลปะ ดนตรี เกม กีฬา และอื่น ๆ ทำให้เกิดเป็นระบบนิเวศแห่งการลงทุนที่น่าสนใจ

บทความนี้จะนำเสนอถึงเหรียญ NFT ที่น่าลงทุน ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด พร้อมด้วยคุณสมบัติในการให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า พร้อมด้วยการทำความรู้จักว่าเหรียญ NFT coin คืออะไร พร้อมวิธีการซื้อเหรียญ NFT ผ่านแพลตฟอร์มการลงทุนที่เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัยสูงแบบ Step by Step

เหรียญ NFT น่าลงทุนที่สุด ให้ผลตอบแทนสูง และน่าจับตามองของปี 2023 – รายการเหรียญน่าลงทุนที่สุด

ด้วยจำนวนของเหรียญ NFT ที่มีจำนวนเยอะมาก ๆ ในตลาดให้เราได้เลือกลงทุน อาจทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดความสับสนและสงสัยว่าจะเลือกลงทุนในเหรียญตัวไหนดี เพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เราได้รวบรวมเอารายการของเหรียญ NFTยอดนิยมมาไว้ที่นี่แล้ว:

  1. Tamadoge – เหรียญมีมที่ปิดพรีเซลไปด้วยยอดสูงแบบถล่มทลาย
  2. Battle Infinity – การลงทุนที่น่าสนใจกับโลกการแข่งขันบนเมตาเวิร์ส
  3. Lucky Block – สินทรัพย์ดิจิทัลยุคใหม่กับเกมการลงทุนแห่งนวัตกรรม
  4. Girls, Robots, Dragons – คอลเลกชั่นการ์ด NFT แนวแฟนตาซีและไซไฟระดับพรีเมียม
  5. Yubo – โปรเจกต์ NFT ยอดนิยมภาพแนวพิกเซลน่าลงทุน

ไปยังเหรียญ NFT น่าลงทุนที่สุด

ส่องรายละเอียดของรายการเหรียญ nft น่าลงทุนที่สุดของปี 2023

การลงทุนในเหรียญ NFTที่น่าลงทุนที่สุด เพื่อให้คุณได้มีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่า จำเป็นต้องทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดในการลงทุนของเหรียญ NFT แต่ละรายการให้ดี เพราะเหรียญที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ละโปรเจกต์ก็จะมีรูปแบบและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน มาลองดูรายละเอียดของเหรียญยอดนิยมเหล่านี้กัน:

1. Tamadoge – เหรียญมีมที่ปิดพรีเซลไปด้วยยอดสูงแบบถล่มทลาย

อย่างที่ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่า Tamadoge เป็นโครงการเหรียญมีมเหรียญ NFTใหม่ที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นภายหลังจากการเปิดตัวพรีเซลเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และในตอนนี้ก็มีตัวบ่งชี้หลายอย่างที่บอกว่า TAMA จะกลับมามีราคาที่สูงขึ้นอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้า

ข้อดีที่แตกต่างอย่างแรกของ TAMA ที่ไม่เหมือนเหรียญ NFT ที่เป็นเหรียญมีมอื่น ๆ โดย Tamadoge มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายกว่าด้วยการเล่นเกมการแข่งขันระหว่างผู้เล่นเพื่อแย่งชิงความเป็นเจ้าของ NFT

ซึ่งผู้เล่นจะสามารถซื้อสัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่อิงรูปแบบมาจาก Tamagotchi ที่สามารถให้อาหาร ดูแล และนำสัตว์เลี้ยงไปต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งใน Leaderboard และได้รับผลตอบแทนเป็น NFT และรางวัลอื่น ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในระบบนิเวศน์ของแพลตฟอร์มได้

Tamadoge เหรียญ NFT coin น่าลงทุนที่สุด

ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ ราคาของ TAMA จะมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวที่ลดลง แต่ชุมชน Tamadoge ก็ยังมีความเข้มแข็งอยู่มาก

ซึ่งจากข้อมูลของ Etherscan แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ถือ TAMA มีเพิ่มขึ้นจริงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวลดลงบ้าง

และด้วยการถูกลิสต์รายชื่อที่เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นไปได้ว่า Tamaverse จะมีระบบนิเวศที่กว้างขึ้น บวกรับแรงสนับสนุนจากการจัดการสภาพคล่องด้านอุปทานที่ดีทำให้ TAMA ยังคงดูเหมือนเป็นการลงทุนในเหรียญ NFTมาแรงที่ดีเพื่อผลกำไรของนักลงทุน

ซื้อ Tamadoge ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

2. Battle Infinity – การลงทุนที่น่าสนใจกับโลกการแข่งขันบนเมตาเวิร์ส

Battle Infinity เป็นเกมที่ใช้เหรียญ NFT ซึ่งให้ผู้เล่นเข้าสู่ 6 แพลตฟอร์มการแข่งขันและรับรางวัลเป็นผลตอบแทนได้ โดยผู้เล่นจะได้รับโทเค็น IBAT สำหรับการสร้างรายได้จากการแข่งและการเดิมพันต่าง ๆ และถึงแม้ว่าผู้เล่นจะไม่ชนะในลีก ก็ยังจะสามารถได้รางวัลเป็นโทเค็นจากการทำ Staking ได้

การแข่งขันของเกมหลัก ๆ จะเกิดขึ้นใน IBAT Premier League ซึ่งผู้เล่นสามารถสร้างทีมและจัดทีมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันใน Battle Arena ที่อยู่ในโลกเมตาเวิร์ส และล้ำกว่าแพลตฟอร์มอื่นด้วยการเชื่อมต่อกับชุดหูฟัง VR และการแชทกับผู้เล่นแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถใช้ตัวละครที่ออกแบบเองได้ด้วย

เหรียญ NFT ที่ใช้ในเกมถูกกำหนดค่ามาเพื่อให้เป็นสินทรัพย์ที่แลกเปลี่ยนได้ ผู้เล่นสามารถขายทรัพย์สินในเกมของตัวเองบน Battle Swap ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจของแพลตฟอร์ม ซึ่งผู้เล่นต้องใช้ NFT Pass เพื่อเข้าสู่ลีกการแข่งขันซึ่งสามารถหาซื้อได้ใน Battle Marketplace ของ Battle Infinity

Battle Infinity เหรียญ nft มาแรง

Battle Infinity เป็นโปรเจกต์เหรียญคริปโตพรีเซลที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่การเปิดขายพรีเซล ที่ขายหมดภายใน 25 วันจากเดิมที่กำหนดไว้ในกรอบเวลา 90 วัน และจากลิสรายชื่อขึ้น PancakeSwap ทำให้ราคาของ IBAT พุ่งสูงขึ้น ที่ทำให้นักลงทุนรายแรก ๆ ได้รับผลตอบแทนไปถึง 700%

ไปยัง Battle Infinity

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

3. Lucky Block – สินทรัพย์ดิจิทัลยุคใหม่กับเกมการลงทุนแห่งนวัตกรรม

Lucky Block พัฒนาแพลตฟอร์มด้วยโทเค็น BEP-20 โดยมี LBLOCK เป็นโทเค็นหลักที่นักลงทุนสามารถนำเหรียญ NFT ไปใช้ในการรับสิทธิ์เพื่อลุ้นรางวัลและรับผลตอบแทนในแพลตฟอร์ม ซึ่งตัวแพลตฟอร์มก็ได้มีการพัฒนาโทเค็นรุ่นใหม่บน ERC-20 หรือที่รู้จักกันในชื่อ LBLOCK V2

โทเค็น V2 ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบ Day Trade แล้วก็ยังเหมาะกับนักลงทุนสายเก็งกำไร นอกจากการถูกลิสต์ขึ้นบนรายการแลกเปลี่ยนของ LBank, MEXC, และ Gate.io แล้ว ทางซีอีโอของ Lucky Block ก็ยังประกาศว่าจะมีการลิสต์เหรียญ NFT ตัวนี้ เพิ่มเติมในอีกหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งจะส่งผลให้มีการเปิดรับโทเค็นมากขึ้น และยังมีการประกาศด้วยว่าจะมีการเผาโทเค็น 1% ต่อเดือน เพื่อเพิ่มมูลค่าของเหรียญและก็ได้มีการดำเนินการไปแล้วครั้งแรกในวันที่ 30 กันยายน 2022

LBLOCK มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นทรัพย์ที่นักลงทุนจำนวนมากต้องการ ด้วยการลดลงของอุปทานเหรียญและการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง จึงพูดได้ว่า Lucky Block เป็นการลงทุนคริปโตในระยะยาวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในตลาดคริปโต

Lucky Block เหรียญ nft ที่น่าสนใจ เหรียญ nft ที่น่าลงทุน

Lucky Block เริ่มต้นจากการเป็นแพลตฟอร์มลุ้นรางวัลที่ได้พัฒนาไปเป็นแพลตฟอร์มการแข่งขัน NFT ที่ให้รางวัลแก่ผู้ชนะด้วย Lamborghini, เงินจำนวน 1 ล้านเหรียญใน Bitcoin, และบ้านมูลค่า 1 ล้านเหรียญ ที่ถึงแม้ว่าผู้เล่นจะไม่ชนะรางวัลหลัก แต่ Lucky Block ก็จัดให้มีรางวัลรายวันจากการเก็บ NFT ไว้ในกระเป๋าคริปโตของตัวเอง

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

4. Girls, Robots, Dragons – คอลเลกชั่นการ์ด NFT แนวแฟนตาซีและไซไฟระดับพรีเมียม

Girls, Robots, Dragons โปรเจกต์ NFT น่าลงทุนที่เริ่มเปิดพรีเซลไปแล้วในวันที่ 6 มิถุนายน กับ NFT จำนวน 3,000 ชิ้นงาน กับราคาพรีเซลที่ 0.06 ETH ซึ่งได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นโครงการที่ได้รับความนิยมและสามารถติดอันดับ NFT ที่น่าลงทุนที่สุดได้ไม่ยาก

Girls, Robots, Dragons เหรียญ nft ยอดนิยม

ด้วยความน่าสนใจของโปรเจกต์ที่นำเสนอรูปแบบการให้ผู้ที่ครอบครอง NFT นี้ที่จะได้รับไอเท็ม/สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากผลงาน NFT แนวแฟนตาซีและไซไฟระดับพรีเมียม

ในชุดผลงาน NFT จะมีตัวละครทั้งหมด 15 ตัว ประกอบไปด้วย Girls 5, Robots 5, และ Dragons 5 ตามชื่อของโปรเจกต์ ซึ่งผลงาน NFT นี้ได้รับการสร้างสรรค์โดยศิลปินระดับแนวหน้าที่เคยฝากผลงานไว้กับงาน NFT เจ๋ง ๆ อย่าง World of Women และเกม Hearthstone

ไปยัง Girls, Robots, Dragons

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

5. Yubo – โปรเจกต์ NFT ยอดนิยมภาพแนวพิกเซลน่าลงทุน

Yubo อีกหนึ่งโปรเจกต์ NFT ที่โดดเด่นด้วยไอเดียสร้างสรรค์ กับงานดิจิทัลอาร์ตแนวพิกเซล กับ Randos ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่น NFT จากแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย Yubo

โปรเจกต์น่าลงทุนนี้ทำงานบนบล็อคเชน Ethereum ซึ่งกับงานศิลปะที่ออกแบบโดย BanFan กับงานกว่า 10,000 ชิ้น โดยที่ความน่าสนใจของโปรเจกต์นี้นอกจากเอกลักษณ์ของงานแล้ว ก็ยังมีเรื่องของผลตอบแทนแบบพาสซีฟที่ผู้ถือ NFT จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากกิจกรรมของ Yubo ด้วย

Yubo Randos เหรียญ nft ยอดนิยม

นอกจากเว็บไซต์ของ Yubo แล้ว นักลงทุนสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Rando NFT ได้ที่ Randos Discord กับชุมชนนักลงทุนที่จะช่วยให้นักลงทุนสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ถือ Yubo ได้ และสำหรับผู้ถือจะสามารถขาย NFT นี้ในตลาดและสร้างผลตอบแทนได้จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น โดยมีการหักค่าลิขสิทธิ์ให้กับ Yubo เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ไปยัง Yubo

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

เหรียญ NFT คืออะไร?

เหรียญ NFT คือหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่ง ที่มีลักษณะพิเศษคือเป็นสินทรัพย์ที่จะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น ไม่สามารถถูกทำซ้ำ คัดลอก หรือปลอมแปลงได้ เพราะต่อให้ทำสำเนาก็จะมีเพียงชิ้นเดียวที่เป็นต้นฉบับ ซึ่งตัวเหรียญ NFT ก็เปรียบได้กับเอกสารหรือโฉนดที่แสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ตัวนี้

ด้วยความพิเศษของ NFT ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ดนตรี ศิลปะ งานดิจิทัลอาร์ต การ์ดสะสม และงานอื่น ๆ ที่หลากหลายมาก ทำให้ตลาด nft มีขนาดที่ใหญ่และเปิดกว้างเพื่อรองรับการลงทุนและการเข้ามาเป็นเจ้าของเพื่อสะสมผลงานที่มีค่าเหล่านี้

ซึ่งในการซื้อ NFT จะต้องใช้คริปโตเป็นตัวกลางในการซื้อขาย ด้วยเพราะว่า NFT คือสินทรัพย์ดิจิทัล นั่นหมายความว่าเราไม่สามารถนำ NFT ไปใช้ในการซื้อขายได้ แต่จะต้องทำการเปลี่ยนรูป NFT ด้วยการเทรดในตลาดด้วยคริปโตก่อน เสมือนกับการซื้อขายผลงานศิลปะจริง ๆ

ซื้อ NFT ไปทำไม

เหตุผลของการซื้อ NFT หลัก ๆ เลยจะมีอยู่ 2 ข้อด้วยกัน ข้อแรกก็คือการซื้อด้วยคุณค่าของงานศิลปะ เช่นเดียวกับผลงานศิลปะบนโลกจริงที่จะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก และ NFT เองก็เป็นเช่นนั้น กับการยืนยันความเป็นเจ้าของงานดิจิทัลอาร์ตด้วยเทคโนโลยี Blockchain

เหตุผลที่สองคือ NFT เป็นงานศิลป์ที่มีคุณค่าเช่นเดียวกับของสะสม ซึ่งราคาของงานจะเพิ่มขึ้นตามความนิยมและกระแสความสนใจของตลาด นั่นทำให้เกิดเป็นการลงทุนในงาน NFT ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ที่ถือครองมันได้

นอกจากนั้นแล้วโปรเจกต์ NFT ที่เปิดตัวใหม่ ยังได้เสนอทางเลือกที่น่าสนใจเพิ่มเติมให้แก่นักสะสมและนักลงทุน ด้วยการมอบสิทธิพิเศษและประโยชน์อื่นในรูปแบบพาสซีฟแก่ผู้ที่ถือครองงาน NFT ด้วย

Crypto.com NFT

NFT ทำเงินและสร้างผลตอบแทนได้ไหม?

NFT ทำเงินและสร้างผลตอบแทนได้ เพราะ NFT เป็นงานที่มีเพียงชิ้นเดียว และลิขสิทธิ์ของผู้ที่ถือครองก็จะมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นทำให้การซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์สามารถสร้างให้เกิดรายได้เช่นเดียวกับการซื้อขายงานศิลปะบนโลกจริง

และด้วยจุดเด่นที่ NFT ไม่สามารถถูกทำซ้ำและคัดลอกได้ ด้วยการทำงานบนระบบบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยสูง กับธุรกรรมที่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้งาน NFT สามารถถูกตรวจสอบความเป็นเจ้าของได้ นั่นทำให้เกิดเป็นความมั่นใจของนักลงทุนที่จะยื่นมือเข้ามาสร้างผลตอบแทนในตลาด NFT นี้

จุดเด่นอย่างหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนของ NFT ก็คือการประมูล ซึ่งตัวสินทรัพย์ที่เป็นของหายากและได้รับความสนใจจากนักสะสมรวมถึงนักลงทุน มักจะถูกประมูลไปในราคาสูงกว่าราคาเดิมหลายเท่า ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สร้างแรงดึงดูดนักลงทุนผู้ที่สนใจให้เข้ามาลงทุนในตลาด NFT ได้เป็นอย่างดี

NFT ที่มียอดขายสูงสุดในสัปดาห์นี้

วิธีซื้อเหรียญ NFT ที่ดีและปลอดภัย

ในขั้นตอนของการซื้อเหรียญ NFT ทั้งเพื่อการถือครองและการลงทุน เราจำเป็นต้องทำการเริ่มต้นที่การซื้อคริปโตก่อน ด้วยเพราะว่า NFT คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องใช้เงินสกุลดิจิทัลในการแลกเปลี่ยน ซื้อและขาย และหลังจากที่คุณเชื่อมต่อกับตลาดคริปโตเรียบร้อยแล้วคุณก็จะสามารถเริ่มลงทุนในเหรียญ NFT ได้ต่อไป จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็คือการเปิดบัญชีเพื่อเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัย

ขั้นที่ 1 การซื้อเหรียญคริปโตสำหรับการแลกเปลี่ยน

1 – เปิดบัญชี

ในขั้นตอนแรก สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการเปิดบัญชีเพื่อทำการซื้อขายคริปโตก่อน ถ้าคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้คุณเริ่มเปิดบัญชีเทรดคริปโตกับ eToro โดยเข้าไปที่ eToro.com เพื่อสร้างบัญชีการเทรดของคุณ หลังจากนั้นก็ให้คุณทำการกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ตั้งแต่ ชื่อผู้ใช้ อีเมล รหัสผ่าน และข้อมูลทั่วไปให้ครบถ้วน

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชี eToro

2 – ยืนยันข้อมูล

การยืนยันข้อมูลใน eToro สามารถทำได้ง่าย ซึ่งตามระเบียบในการดูแลข้อมูลของลูกค้า คุณจำเป็นจะต้องทำการยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายรูปเอกสารที่ทางราชการออกให้ (เช่น ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง) แล้วทำการอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์ม eToro เพื่อยืนยันตัวตน และหลังจากอัปโหลดเอกสารแล้วทีมตรวจสอบของ eToro จะทำการตรวจสอบให้เรียบร้อยภายใน 24 ชั่วโมง

3 – ฝากเงินเข้าบัญชี

ขั้นตอนต่อมาคือการนำเงินฝากเข้าที่บัญชี eToro โดยมีค่าฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชีใหม่อยู่ที่ 10$ คุณสามารถเลือกจ่ายได้ด้วยบัตรเครดิต/เดบิต (Visa หรือ Mastercard), PayPal, Neteller หรือ Skrill และการโอนเงินผ่านธนาคาร

4 – ตั้งค่าคริปโตวอลเลตของคุณ

คุณสามารถเลือกใช้กระเป็นคริปโตที่มีการเข้ารหัสความปลอดภัยสูงของ eToro ที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้บนสมาร์ทโฟนได้เพียงติดตั้งแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ ลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชี eToro เพื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน eToro กับบัญชีของคุณ

5 – ค้นหาและซื้อคริปโต

เพื่อเป็นเจ้าของคริปโตให้คุณไปที่แถบค้นหาที่ด้านบนของกระดาน ป้อนคำค้นหาโดยใส่คำว่า Ethereum (ETH) จากนั้นทำการคลิก ‘Trade’ เพื่อทำการเปิดการทำคำสั่งซื้อ

ต่อมาให้คุณระบุจำนวนที่ต้องการซื้อเป็นดอลลาร์ เท่านี้ก็รอให้ระบบทำการเทรดให้ แล้วคริปโตก็จะถูกส่งเข้ามาที่บัญชี eToro ของคุณ

6 – โอนคริปโตไปไว้ที่วอลเลต

ไปที่บัญชี eToro หลักของคุณ แล้วคลิกที่ ‘พอร์ตการลงทุน’ จากนั้นให้ทำการโอนคริปโตของคุณไปไว้ที่วอลเลต eToro Money ที่คุณทำการตั้งค่าการเชื่อมต่อเอาไว้แล้ว แล้วคุณก็จะพบคริปโตที่คุณทำรายการไว้ จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนส่งคริปโตในแอปต่อไป

ขั้นที่ 2 การเชื่อมต่อกับตลาด NFT

ในตอนนี้คุณจะมีครบทั้งวอลเลตและคริปโตข้างในนั้นแล้ว ต่อไปคือการเลือกหาตลาด NFT สำหรับการลงทุนเพื่อซื้อเหรียญ NFT  ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณเชื่อมต่อกับตลาด Crypto.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม

1 – สร้างบัญชีบน Crypto.com

เพื่อการลงทุนในเหรียญ NFT ขั้นแรกให้คุณเข้าไปที่ Crypto.com กดเลือก ‘Sign Up’ จากนั้นก็ทำการกรอกรายละเอียด เช่น ชื่อ อีเมล ชื่อบัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่าน เพื่อสร้างบัญชี Crypto ของคุณ

Crypto.com สร้างบัญชี

2 – ยืนยันบัญชี

เพื่อให้คุณสามารถทำธุรกรรมบน Crypto.com ได้ คุณจะต้องทำการยืนยันบัญชี หากคุณมีบัญชีอยู่แล้วให้ทำการเลือก ‘เชื่อมต่อกับแอป’ ในเมนูการตั้งค่าและยืนยันทางอีเมลได้เลย แต่ถ้าไม่มี ให้ทำการยืนยันผ่าน SMS โดยการใส่หมายเลขโทรศัพท์และรอรับรหัสความปลอดภัยเพื่อยืนยันบัญชี

3 – ซื้อ NFT

เข้าไปที่ตลาด NFT ของแพลตฟอร์ม เมื่อพบ NFT ที่ต้องการ ให้คุณกดเลือกที่ NFT นั้น แล้วคุณจะถูกส่งไปยังหน้าการซื้อขาย

ซื้อ NFT

ในหน้าการซื้อขายจะปรากฎตัวเลือกให้เลือกว่าคุณจะทำการประมูลหรือซื้อในราคาที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งหากคุณชนะการประมูลหรือเลือกซื้อในราคาที่ตั้งไว้ ต่อมา NFT ที่ต้องการก็จะถูกส่งไปยังรายการสินทรัพย์ในบัญชีของคุณ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะดูหรือส่งไปยังวอลเลตภายนอกที่เชื่อมต่อไว้ก็ได้

บทสรุปเหรียญ NFT

เราได้พูดถึงเหรียญ NFT ที่น่าลงทุนที่สุดในปีนี้ รวม NFT มาใหม่ ที่น่าสนใจ และอธิบายวิธีการซื้อ NFT จากแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ ซึ่งช่วงเวลานี้เหมาะมากกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอล ที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับคุณอย่างมหาศาลในระยะยาว

เหรียญ NFT ที่เราแนะนำให้ซื้อมากที่สุดในตอนนี้คือ Tamadoge ซึ่งคลิกที่ลิ้งด้านล่างนี้ได้เลย

ซื้อ Tamadoge ตอนนี้

Categories
Bitcoins NFT

จัดอันดับ 4 NFT น่าลงทุนที่สุด 2023 – แนะนำ NFT ยอดนิยม [มาแรง!]

การเติบโตของตลาด NFT ในช่วงปี 2021 เป็นแบบทวีคูณ โดยมีนักลงทุนจำนวนมากที่ใช้ประโยชน์จากเทรนด์การเป็นเจ้าของศิลปะดิจิทัล แต่การหา NFT ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนอาจเป็นเรื่องยาก

แนวโน้มนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงในปี 2023 ด้วย NFT ที่น่าตื่นเต้นมากมายที่เพิ่มมูลค่าและพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นทรัพย์สินที่เป็นประโยชน์ในการเป็นเจ้าของที่แท้จริง

เราจะมาแนะนำ NFT น่าลงทุนที่สุดในปีนี้ และแนะนำวิธีลงทุนใน NFT ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนกัน

จัดอันดับ 4 NFT น่าลงทุนที่สุด

นี่เป็นภาพรวมของ NFT น่าลงทุนที่สุดสำหรับการลงทุนในปีนี้

  1. Ecoterra – แพลตฟอร์มที่มีโซลูชันที่ยั่งยืนและการริเริ่มแก้ไขปัญหาด้านสภาพอากาศที่ใช้กับ NFT ที่ไม่เหมือนใคร
  2. RobotEra – โครงการ NFT พรีเซลใหม่ที่ให้ผู้เล่นสร้างทรัพย์สินบนที่ดิน Metaverse
  3. Tamadoge – โครงการ NFT และ Meme Coin พร้อมคอลเลกชัน OpenSea ที่ได้รับความนิยม
  4. Battle Infinity – ผสมผสาน NFT เข้ากับ Metaverse และเสนอรางวัล P2E

หากคุณต้องการซื้อ NFT ยอดนิยมอื่นๆ เราขอแนะนำ Crypto.com ซึ่งเป็นตลาด NFT ที่เราคิดว่าดีที่สุด

ซื้อ NFT น่าลงทุนที่สุดตอนนี้

เจาะลึก NFT น่าลงทุนที่สุดในปี 2023

โครงการต่างๆ ที่เราพูดถึงข้างต้นเป็น 6 อันดับ NFT น่าลงทุนที่สุด เราจะมาเจาะลึกและสำรวจ NFT เหล่านี้ทีละรายการเพื่อที่คุณจะได้เข้าใจมากขึ้นว่าทำไม NFT เหล่านี้ถึงน่าลงทุน

เคยสงสัยหรือไม่ว่าแอป NFT ที่ดีที่สุดคือแอปใด ที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อและขาย NFT ได้อย่างปลอดภัยโดยมีค่าธรรมเนียมต่ำ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพรีเซล NFT น่าลงทุนที่สุด และข้อมูลอื่นๆ ได้จากบทความเฉพาะของเรา

1. Ecoterra – แพลตฟอร์มที่มีโซลูชันที่ยั่งยืนและการริเริ่มแก้ไขปัญหาด้านสภาพอากาศที่ใช้กับ NFT ที่ไม่เหมือนใคร

Ecoterra logo

Ecoterra เหรียญ Green Crypto มาใหม่ ใช้ประโยชน์จากพลังของ NFT เพื่อจัดการกับภาวะโลกร้อน แพลตฟอร์มดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจให้บุคคลและองค์กรต่างๆ มีส่วนร่วมในการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง

คุณลักษณะเฉพาะของแพลตฟอร์มนี้คือตลาดชดเชยคาร์บอน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำให้การปล่อยคาร์บอนเป็นกลางได้โดยการรับตันคาร์บอนโดยใช้โทเค็น EcoTerra ความสำเร็จในการชดเชยคาร์บอนเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนเป็น NFT และสามารถรับได้จากการเข้าร่วมในโครงการระดับโลกที่มีมาตรฐานสูงและได้รับการรับรอง

ในขณะนี้ ผู้ซื้อสามารถรับโทเค็น $ECOTERRA ได้ในราคาพรีเซลล์ที่ $0.00775 USDT ต่อเหรียญ

Ecoterra Presale

Ecoterra ประกอบด้วยแผนงานและตลาดต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านภาวะโลกร้อน Recycle2Earn หนึ่งในโปรแกรมดังกล่าว ให้รางวัลแก่ผู้ใช้ด้วยโทเค็น EcoTerra สำหรับการรีไซเคิลวัตถุผ่านแอป

โทเค็นเหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ เช่น ลงทุนในพลังงานสีเขียวหรือซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาด

แอป Recycle2Earn มอบช่องทางในการรับโทเค็นและช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการกระทำที่คำนึงถึงสภาพอากาศเป็นหลัก ซึ่งสามารถเพิ่มลงในบัญชีของพวกเขาได้

แนวคิดแบบคู่ขนาน “โปรไฟล์ที่ติดตามผลกระทบได้” เหมาะสำหรับธุรกิจต่างๆ โปรไฟล์เหล่านี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถซื้อแพ็คเกจผลกระทบต่อผู้บริโภคที่มีวัสดุต่างๆ เพื่อชดเชยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีการนี้กระตุ้นให้ทุกฝ่ายแสดงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน

Ecoterra Features

เครื่องมือต่างๆ ของแพลตฟอร์มทำงานร่วมกัน ช่วยให้บุคคลและธุรกิจสามารถต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้

จากเอกสารข้อมูลของ Ecoterra ส่วนประกอบที่มีคุณค่าอีกอย่างคือตลาดวัสดุรีไซเคิล ซึ่งเชื่อมโยงธุรกิจต่างๆ กับผู้รีไซเคิลที่สามารถจัดหาสินค้าที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้

คุณลักษณะแบบบูรณาการของ EcoTerra ช่วยให้เกิดแนวทางที่ครอบคลุมและเหนียวแน่นเพื่อความยั่งยืน ผู้ใช้และธุรกิจสามารถแสดงความทุ่มเทเพื่อความยั่งยืนโดยการตรวจสอบความคิดริเริ่มด้านสภาพอากาศและอัปเดตโปรไฟล์ตามนั้น

แพลตฟอร์มดังกล่าวกำลังปฏิวัติโดเมนคริปโตด้วยการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่และความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับกิจการในอนาคตที่คล้ายคลึงกัน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ โปรดเข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram

เพดานเงินทุน$6,700,000
จำนวนโทเค็นทั้งหมด2,000,000,000
จำนวนโทเค็นที่เปิดขายรอบพรีเซล1,000,000,000
BlockchainEthereum Network
ประเภทโทเค็นERC-20
ซื้อขั้นต่ำ$10
ชำระด้วยUSDT, ETH, บัตรธนาคาร

ไปยัง Ecoterra ตอนนี้

2. Tamadoge – NFT น่าลงทุนที่สุด พร้อมกับมีการเปิดตัว NFT ใหม่ในเดือนนี้

NFT น่าลงทุนที่สุดอันดับแรกคือ Tamadoge ซึ่งเป็นเกมแบบเล่นเพื่อสร้างรายได้ (P2E) และมีการใช้งาน NFT เพื่อเข้าร่วมในระบบนิเวศเสมือน

Tamadoge (TAMA) เป็นเหรียญคริปโตหลักและโทเค็นยูทิลิตี้ของ Tamaverse แพลตฟอร์มที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมเพื่อรับรางวัลมากมาย คุณสมบัติหลักของแพลตฟอร์มนี้คือสัตว์เลี้ยง Tamadoge ซึ่งเป็นตัวละครสุนัขที่ไม่ซ้ำกันซึ่งคุณสามารถซื้อ ผสมพันธุ์ และซื้อขายได้ใน Tamaverse

tamadoge nfts

สัตว์เลี้ยง Tamadoge ถูกสร้างเป็น NFT ที่ไม่ซ้ำกันโดยใช้ฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะ คุณสามารถซื้อ NFT เหล่านี้ได้จากร้าน Tamadoge โดยใช้เหรียญ TAMA NFT ของเกมนี้จึงมีกรณีการใช้งานจริงภายในระบบนิเวศ และสามารถใช้แข่งขันกับสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ เพื่อรับคะแนนในกระดานผู้นำรายเดือน

เหรียญ TAMA ใช้เพื่อทำธุรกรรม ซื้อสัตว์เลี้ยง Tamadoge และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์บน Tamaverse และเหรียญ TAMA เป็นสินทรัพย์ที่มีอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ไม่เหมือนกับเหรียญมีมอื่น อย่างDogecoin เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้ซื้อสินค้าในร้าน TAMA 5% ของเงินที่ใช้ไปกับ TAMA จะถูกเผาทิ้ง อีก 30% ถูกสงวนไว้สำหรับทำการตลาด ในขณะที่อีก 65% ที่เหลือจะถูกแจกจ่ายให้กับกองเงินรางวัลสำหรับผู้เล่น

TAMA เป็นเหรียญ ERC-20 ที่มีอุปทานสูงสุด 2 พันล้านโทเค็น เปิดตัวพรีเซลล์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2022 และระดมทุนได้ 19 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน การพรีเซลล์นั้นขายหมดที่ 19 ล้านดอลลาร์ แม้ในช่วงที่ตลาดคริปโตซบเซา แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความมั่นใจในโครงการนี้อย่างมาก โดย CoinSniper ได้รับรองโครงการนี้แล้ว และ Solid Proof ก็ตรวจสอบแล้วเช่นกัน

TAMA พุ่งไปเกือบ 2,000% หรือแตะ $0.194 หลังจาก IEO บน OKX และการเปิดตัว Ultra Rare NFT Pets ครั้งแรกก็ได้รับความตื่นเต้นเช่นเดียวกัน

สัตว์เลี้ยง 100 ตัวซึ่งมีสถิติเพิ่มขึ้นสำหรับเกม กลายเป็นคอลเลกชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน OpenSea เมื่อการประมูลสิ้นสุดลงและระดมได้มากกว่า 250ETH รวมกัน – โดยผู้ขายอันดับต้น ๆ จะขายมากกว่า 5ETH ต่อ NFT

best nfts to invest in - tamadoge nfts highest sale

ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงหายากพิเศษมีราคาอยู่ที่  0.35 ETH ความตื่นเต้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกันในชุมชนหลังจากนักพัฒนาปล่อยภาพหน้าจอแรกของเกมมินิอาร์เคด Enter the Tamaverse โดยเปรียบเทียบกับเกมแพลตฟอร์มเลื่อนด้านข้างยอดนิยมอย่าง Mario และ Sonic the Hedgehog

ต่อมาในแผนงานจะเห็นสัตว์เลี้ยงเปลี่ยนจาก 3D และไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเมื่อมีการเปิดตัวแอปความเป็นจริงเสริม ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถล่าและสำรวจด้วย NFT ของตนได้

นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้ได้โดยเข้าร่วมช่องทาง Telegram ของ Tamadoge (แอดมินไม่ทักหาสมาชิกก่อน โปรดระวังผู้แอบอ้าง)

ซื้อ Tamadoge NFT

3. RobotEra – โครงการ NFT พรีเซลใหม่ที่ให้ผู้เล่นสร้างทรัพย์สินบนที่ดิน Metaverse

RobotEra เป็น NFT น่าลงทุนที่ดีที่สุดของเราที่น่าซื้อในปี 2023 เป็นเกม play to earn ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถซื้อและสร้างหุ่นยนต์ NFT อวตารที่ไม่เหมือนใครและดินแดน metaverse ด้วยเครื่องมือในเกมที่กำหนดเองได้

การสร้างและขาย NFT เป็นสองวิธีสำหรับผู้เล่นในการสร้างรายได้จากเกมนี้ และจำเป็นต้องเป็นเจ้าของโทเค็นหลัก $TARO ซึ่งเพิ่งเปิดตัวช่วงแรกของการขายพรีเซล และเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตมาใหม่ ที่น่าลงทุนในปี 2023

RobotEra NFT น่าลงทุนที่สุด

เกม metaverse นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับ The Sandbox โดยให้ผู้เล่นสร้างหุ่นยนต์ NFT อวตารที่ไม่เหมือนใครเป็นเพื่อนและสร้างแปลงที่ดิน metaverse

ผู้เล่นสามารถพัฒนาส่วนประกอบของหุ่นยนต์และออกแบบหุ่นยนต์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจากนั้นสามารถขายเป็น NFT ในกระดานแลกเปลี่ยนได้

ผู้เล่นจำเป็นต้องสร้างดาวเคราะห์ Taro ขึ้นใหม่โดยการซื้อที่ดิน metaverse และปรับปรุงด้วยโครงสร้างพื้นฐาน โดยเกมนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถขุดแร่ สร้างบ้าน และให้เช่าป้ายโฆษณากับแบรนด์ต่างๆ เพื่อการโฆษณา ผู้เล่นจำเป็นต้องเป็นเจ้าของหุ่นยนต์เพื่อสร้างรายได้จากที่ดินของตน

ภาษาสคริปต์มีข้อจำกัดเล็กน้อยและจะให้ใช้ฟิสิกส์ ฉาก 3 มิติ เสียง และอื่นๆ บนผืนดิน เมื่อเวลาผ่านไป กรณีการใช้งานใหม่ๆ จะเกิดขึ้นพร้อมกับผู้เล่นที่มีอิสระในการสร้างสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสมกับ metaverse ของพวกเขา

อีกวิธีหนึ่งที่ RobotEra แตกต่างจาก The Sandbox คือการมีลิขสิทธิ์ที่ช่วยให้ผู้เล่นเชื่อมต่อกับโลกอื่นและมีส่วนร่วมในคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์ต่างๆ

ผู้เล่นสามารถส่งผลงาน NFT ต้นฉบับเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และเชิญชุมชน NFT อื่น ๆ เพื่อสร้างโลก metaverse ใบใหม่

คุณลักษณะที่แตกต่างอื่น ๆ คือความหลากหลายของรางวัลในเกมของ RobotEra ผู้เล่นจะได้รับรางวัลจากการปลูกต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ขาย NFT และการ staking โทเค็น $TARO โดยทุกวิธีจะช่วยสร้างดาวเคราะห์ Taro ขึ้นใหม่

นักลงทุนที่สนใจควรติดตามช่อง RobotEra Telegram เพื่อรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับ NFT และทรัพย์สินในเกมอื่นๆ

เอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่าผู้เล่นต้องเป็นเจ้าของโทเค็น $TARO เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของเกม

ขั้นตอนแรกของการขายพรีเซลขายที่ราคาเหรียญละ $0.02 และขั้นตอนต่อมาจะเพิ่มมูลค่าของเหรียญมากถึง 60% ดังนั้นนักลงทุนควรดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ราคา $TARO ที่ดีที่สุด

พรีเซลเริ่มต้นไตรมาส 4 2022
วิธีชำระเงินPurchase MethodsETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำ1,000 TARO
ลงทุนสูงสุดN/A

ซื้อ RobotEra ช่วงพรีเซลตอนนี้

4. Battle Infinity- ผสมผสาน NFT เข้ากับ Metaverse และเสนอรางวัล P2E

อีกหนึ่ง NFT น่าลงทุนที่สุดในตอนนี้คือ Infinity Battle ซึ่งเป็นเกมที่โดดเด่นกว่าเกมอื่นๆ เนื่องจากไม่ใช่คอลเล็กชัน NFT แบบดั้งเดิม แต่เป็นโครงการซึ่งรวม NFT เข้ากับโลกเสมือนในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่มีทักษะสร้างรายได้ผ่านการเล่นเกม

เช่นเดียวกับเกมแนวเล่นเพื่อสร้างรายได้ที่ดีที่สุดเกมอื่นๆ Battle Infinity มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างรายได้เป็นเหรียญ $IBAT ซึ่งเป็นเหรียญดั้งเดิมของตัวเกม มีทั้งเกมกีฬาแฟนตาซีที่น่าตื่นเต้น กลไกการ Staking ในตัว ร้านค้าที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนไปจนถึงการแลกเปลี่ยน DeFi

เนื่องจากทุกสิ่งเชื่อมโยงกับโลกเสมือนของ Battle Infinity (Battle Arena) ไอเท็มในเกมทั้งหมดจึงเป็น NFT ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถปรับแต่งอวาตาร์ของตนเองได้โดยการซื้อชุดต่างๆ และยังสามารถลงทุนในที่ดินเสมือนจริงได้อีกด้วย ผู้เล่นในเกมกีฬาแฟนตาซีของ Battle Infinity ก็เป็น NFT เช่นกัน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนผู้เล่นในเกมได้

Battle Infinity NFT ที่น่าจับตามอง

อีกแง่มุมที่น่าสนใจของโครงการนี้คือการได้รับการตรวจสอบโดย SolidProof.io ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยด้านบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะชั้นนำ โครงการนี้ยังได้รับการยืนยัน KYC บน CoinSniper ก่อนการพรีเซลเหรียญ $IBAT ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ผู้ที่สนใจในโครงการ NFT นี้สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ทางการหรือติดตามข่าวสารบนหน้า Twitter ของ Battle Infinity

ตอนนี้การพรีเซลของ Battle Infinity ขายหมดเร็วกว่าที่คาดไว้ แต่ยังสามารถซื้อเหรียญ IBAT ได้ผ่าน PancakeSwap DEX

ไปยัง Battle Infinity

วิธีค้นหา NFT น่าลงทุนที่สุด

มีปัจจัยมากมายที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนใน NFT ด้านล่างนี้เป็นสิ่งสำคัญบางส่วนที่ควรพิจารณา:

ผู้สร้างคอลเลกชัน

larva labs

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือผู้สร้างคอลเลกชัน NFT เพราะ NFT กับผู้สร้างที่มีชื่อเสียงมักจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า NFT อื่นๆ ซึ่งเห็นได้จากความนิยมของงานออกแบบอื่นๆ โดย Larva Labs ที่เป็นผู้พัฒนา CryptoPunks

ราคา

NFT ที่ดีที่สุดมักจะมีราคาที่เหมาะสมก่อนที่จะมูลค่าเพิ่มในภายหลัง เช่น CryptoPunks ที่เปิดตัวในปี 2017 และมีราคาระหว่าง 1 ถึง 34 ดอลลาร์ แต่ในปี 2021 มีราคามากถึงหลายล้าน ซึ่งเป็นโอกาสหากคุณลงทุนได้เร็ว

คุณสมบัติเพิ่มเติม

NFT ที่ดีที่สุดส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ไม่ใช่เพียงแค่เป็นเจ้าของผลงานศิลปะดิจิทัล ตัวอย่างที่สำคัญคือ Bored Ape Yacht Club ซึ่งช่วยให้เจ้าของสามารถเข้าถึง Discord สุดพิเศษที่มีคนดังมากมาย นอกจากนี้ คอลเลกชั่น NFT บางรายการยังช่วยส่งเสริมชุมชนของคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน พร้อมด้วยกิจกรรมและการพบปะสังสรรค์

มีคนดังครอบครอง

NFT ที่มีคนดังเป็นเจ้าของมักจะให้ความรู้สึก “พรีเมียม” มากกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าเป็นอย่างดี ยิ่งเซเลบที่เป็นเจ้าของคอลเล็กชัน NFT มากเท่าใด คอลเล็กชันนั้นก็จะยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเท่านั้น

เซเลบริตี้ ซื้อ nft

วอลเลตที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บ NFT

ด้วยการเติบโตแบบทวีคูณของตลาด NFT ทำให้มีวอลเลตให้เลือกมากมาย โดยแต่ละที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่องค์ประกอบหลักที่ต้องระวังคือระดับความปลอดภัยและบล็อกเชนที่เข้ากันได้

นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงความเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นมือให้ และคุณควรรับวอลเลต  NFT จากผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์และมีชื่อเสียง เพราะมักมาพร้อมกับระดับความปลอดภัยสูงสุดและเครื่องมือที่ดีที่สุด

ด้านล่างนี้คือวอลเลต NFT ยอดนิยม 5 รายการที่นักลงทุนเลือกใช้ในปัจจุบัน:

  • MetaMask
  • Coinbase Wallet
  • Enjin
  • Trust Wallet
  • AlphaWallet

วิธีซื้อโทเค็น NFT ที่ดีที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มซื้อ เราจะอธิบายขั้นตอนการลงทุนกันก่อน เนื่องจาก NFT ถือเป็นคริปโตเคอร์เรนซี คุณจึงต้องซื้อ Ethereum (หรือเหรียญคริปโตอื่น) สำหรับการลงทุนของคุณ เมื่อคุณมีเหรียญคริปโตแล้ว คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับตลาด NFT และทำการซื้อ

ขั้นตอนที่ 1 – ซื้อเหรียญคริปโตเพื่อใช้ซื้อ NFT

ขั้นแรก คุณต้องลงทะเบียนกับโบรกเกอร์หรือกระดานซื้อขาย และซื้อคริปโตเพื่อซื้อ NFT เราแนะนำให้คุณสร้างบัญชีกับ eToro เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้มีเหรียญคริปโตมากกว่า 60 เหรียญให้ซื้อขายและกำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำในระดับต่ำ

ขั้นตอนในการซื้อเหรียญคริปโตกับ eToro มีดังนี้:

1 – เปิดบัญชี eToro

ไปที่ eToro.com และสร้างบัญชี ป้อนที่อยู่อีเมลของคุณและเลือกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับบัญชีซื้อขายของคุณ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชี eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแลซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

2 – ยืนยันบัญชี

เนื่องจาก eToro เป็นโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ผู้ใช้ใหม่จึงต้องยืนยันตัวเองเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของแพลตฟอร์ม คลิกที่ ‘สร้างโปรไฟล์ให้สมบูรณ์’ บนแดชบอร์ดบัญชีของคุณและทำการตรวจสอบ KYC ให้เสร็จสิ้น ต่อจากนี้ ให้อัปโหลดหลักฐานแสดงตัว (หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่) และหลักฐานที่อยู่ (ใบแจ้งยอดจากธนาคารหรือใบค่าน้ำ ค่าไฟ)

3 – ฝากเงิน

ฝากเงินทุน etoro

คลิก ‘ฝากเงิน’ และเลือกวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการ eToro รับฝากเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และ e-wallet ป้อนจำนวนเงินฝากของคุณ (ขั้นต่ำ $10) และยืนยันการทำธุรกรรม

4 – ซื้อคริปโต

พิมพ์ชื่อหรือสัญลักษณ์ของเหรียญคริปโตที่คุณต้องการซื้อลงในแถบค้นหาและคลิก ‘ซื้อขาย’ ป้อนจำนวนเงินลงทุนของคุณ (ขั้นต่ำ $10) และคลิก ‘เปิดการซื้อขาย’

etoro ซื้อคริปโตเคอเรนซี่

ซื้อคริปโตสำหรับ NFT บน eToro

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแลซึ่งมีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

5 – ตั้งค่าวอลเลตคริปโต

ตอนนี้คุณจะต้องตั้งค่าวอลเลตที่คุณจะใช้เพื่อเชื่อมต่อกับตลาด NFT เลือกวอลเลตที่คุณต้องการโดยไปที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการวอลเลต และตามคำแนะนำเพื่อตั้งค่าวอลเลต

6 – โอนคริปโตไปยังวอลเลต

eToro Money

ไปที่ App Store หรือ Google Play แล้วดาวน์โหลดแอป eToro Money ลงชื่อเข้าใช้แอปและกลับไปที่แดชบอร์ด eToro หลักของคุณ คลิกที่ ‘พอร์ตการลงทุน’ จากนั้นโอนเหรียญคริปโตของคุณไปที่

กลับไปที่แอป eToro Money และคุณจะพบเหรียญคริปโตของคุณในแอป คลิก ‘ส่ง’ และพิมพ์ที่อยู่สาธารณะของวอลเลตที่คุณสร้างขึ้นในส่วนก่อนหน้า eToro จะส่ง SMS ถึงคุณพร้อมรหัสความปลอดภัย หลังจากนั้น ให้คลิก ‘ส่ง’ อีกครั้ง เหรียญคริปโตของคุณจะถูกส่งไปยังวอลเลตภายนอกของคุณ

ขั้นตอนที่ 2 – เชื่อมต่อกับตลาด NFT และซื้อ NFT

เมื่อคุณมีวอลเลตและเหรียญคริปโตแล้ว ก็ถึงเวลาค้นหาตลาด NFT ที่ดีที่สุดในการซื้อของคุณ Crypto.com นั้นเหมาะสำหรับการซื้องานศิลปะดิจิทัลโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการขาย NFT ด้วย ขั้นตอนด้านล่างนี้จะเป็นการแนะนำกระบวนการซื้อ NFT ผ่าน Crypto.com:

1 – สร้างบัญชี NFT ของ Crypto.com

ไปที่ตลาด NFT ของ Crypto.com แล้วคลิกปุ่ม ‘ลงทะเบียน‘ ป้อนรายละเอียดส่วนบุคคลที่จำเป็นเพื่อสร้างบัญชีของคุณ

Crypto.com สร้างบัญชี

2 – ยืนยันบัญชีของคุณ

คุณจะต้องยืนยันบัญชี NFT ของคุณก่อนซื้อ โดยสามารถทำได้สองวิธี:

หากคุณมีบัญชีซื้อขายของ Crypto.com อยู่แล้ว คุณสามารถยืนยันบัญชี NFT ใหม่ของคุณได้โดยคลิก ‘เชื่อมต่อกับแอป’ ในเมนูการตั้งค่าของคุณ คุณจะได้รับอีเมลเพื่อยืนยันว่าเป็นคุณ 

หากคุณไม่มีบัญชี Crypto.com คุณสามารถยืนยันบัญชี NFT ของคุณผ่าน SMS ป้อนหมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณในหน้าการตั้งค่า แล้วคุณจะได้รับข้อความพร้อมรหัสความปลอดภัย 

3 – ซื้อ NFT

เปิดดูตลาด NFT ของ Crypto.com เมื่อคุณพบ NFT ที่ต้องการซื้อแล้ว ให้คลิกที่ NFT นั้นเพื่อไปยังหน้าซื้อขาย

ซื้อ NFT

ในหน้าซื้อขาย NFT จะมีตัวเลือกให้ทำการประมูลหรือซื้อในราคาตายตัว เมื่อคุณทำการซื้อหรือชนะการประมูลแล้ว NFT นั้นจะถูกโอนไปยังส่วน ‘ของสะสม’ ในบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ จากนั้นคุณสามารถดู NFT ของคุณหรือส่งไปยังวอลเลตภายนอก

ซื้อ NFT บน Crypto.com ตอนนี้

บทสรุป NFT น่าลงทุนที่สุด

โดยสรุป คู่มือนี้ได้กล่าวถึง NFT ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในปีนี้ รีวิวคอลเลกชัน NFT ยอดนิยมและแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการลงทุน NFT ของคุณในวันนี้ ด้วยกระแส NFT ที่มีความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในตลาด NFT จึงไม่มีเวลาไหนดีกว่านี้ในการลงทุนและใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่อาจให้ผลกำไรนี้

โครงการ NFT ใหม่อันดับต้น ๆ ของเราที่จะซื้อคือ Ecoterra ซึ่งนำเสนอแพลตฟอร์มเล่นเพื่อรับ NFT ที่ผู้ใช้สามารถรับรางวัลที่น่าตื่นเต้นเพื่อรีไซเคิลสิ่งของและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ไปยัง Ecoterraตอนนี้

Categories
Bitcoins NFT

จัดอันดับ 3 NFT marketplace ที่ดีที่สุด 2023 – ซื้อ NFT ที่ไหนดี [แนะนำ!]

ความนิยมของ NFT เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2021 ตลาด NFT marketplace มีมูลค่าสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี 2022 หากคุณต้องการมีส่วนร่วมในตลาด NFT ควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและคุ้มค่า และเป็นตลาด NFT marketplace ชื่อดังที่ดีที่สุดที่เหมาะกับการลงทุนที่คุณต้องการ

ในคู่มือนี้ เราจะพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ ตลาด NFT marketplace ที่ดีที่สุด โดยการรีวิวตลาด NFT ที่น่าจับตามอง และนำเสนอวิธีการซื้อ NFT ในปัจจุบัน ที่ทำได้อย่างสะดวกสบายในบ้านของคุณ

3 NFT marketplace ที่ดีที่สุด

หากคุณสงสัยว่าจะซื้อขาย NFT ได้อย่างไร ด้านล่างนี้คือภาพรวมคร่าวๆ ของแหล่งซื้อขาย NFT ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน:

  1. Crypto.com – ผู้นำตลาด NFT marketplace ที่ดีที่สุดที่มีคอลเลกชั่นดังมากมาย
  2. Coinbase – ตลาด NFT marketplace ที่มีตัวเลือกมากมายในปี 2023
  3. NFT Launchpad – ตลาด NFT marketplace โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023

ไปยัง NFT marketplace ที่ดีที่สุด

รีวิวตลาด NFT marketplace ที่ดีที่สุด

ดังที่คุณเห็นจากรายการด้านบน มีตลาดซื้อขาย nft ชั้นนำให้เลือกมากมาย โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์และโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันเล็กน้อย เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูรายละเอียดและรีวิวตลาด nft มีอะไรบ้างกันเลย:

1. Crypto.com – ผู้นำตลาด NFT marketplace ที่ดีที่สุด ที่มีคอลเลกชั่นดังมากมาย

เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะซื้อ NFT เว็บไหนดี หนึ่งในตัวเลือกยอดเยี่ยมคือ Crypto.com โดย NFT marketplace นี้ เป็นหนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ชั้นนำทั่วโลก และมีผู้ใช้มากกว่าสิบล้านคน นอกเหนือจากบริการซื้อขายคริปโตยอดนิยมแล้ว Crypto.com เพิ่งเปิดตัวตลาด NFT ของตัวเอง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2021 และให้บริการ NFT ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น ศิลปะ, เซเลบบริตี้, เกม, กีฬา, เพลง NFTs และคริปโต

Crypto.com ตั้งเป้าหมายให้ขั้นตอนการลงทุนทั้งหมดเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถลงทะเบียนบัญชี NFT ใน Crypto.com ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที และ NFTs ก็มีการให้บริการผ่านการประมูลหรือซื้อขายในราคาคงที่ ที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อ NFTs ได้โดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อ NFTs ได้ด้วยคริปโตเคอเรนซี่ผ่านเกตเวย์ ‘Crypto.com Pay’ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับวิธีการซื้อนี้ คือ การไม่มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมการซื้อ NFT ด้วย Crypto.com ซึ่งแตกต่างจากร้านค้า NFT

อื่น ๆ และคุณยังสามารถค้นหา NFT ที่แพงที่สุดในตลาด จาก Crypto.com ได้ด้วย

Crypto.com nft marketplace ตลาด nft ตลาด nft ที่น่าจับตามอง ซื้อขาย nft ที่ไหนดี 2022 แหล่งซื้อขาย NFT ตลาดซื้อขาย nft

แหล่งซื้อขาย NFT นี้ใช้งานง่าย เข้าถึงได้ง่ายทั้งมือใหม่มือใหม่ และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ Crypto.com ได้ร่วมมือกับคนดังมากมาย เช่น Snoop Dogg และ Boy George เพื่อทำให้แพลตฟอร์มเป็นที่รู้จัก อีกทั้ง ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุดจาก Crypto.com ก็มีการประกาศว่า ในขณะนี้แพลตฟอร์มสามารถรองรับ NFTs ที่สร้างบน Ethereum แล้ว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้แก่นักลงทุนได้อย่างมาก!

นอกจากนี้ Crypto.com ยังมีแอป NFT ที่ดีที่สุด ที่ให้คุณซื้อขาย NFT ได้โดยตรงจากอุปกรณ์มือถือ คุณสามารถอ่านรีวิว nft marketplace ของ Crypto.com เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่เราแนะนำได้

เครือข่าย/โทเค็นที่ใช้Crypto.org Chain / Ethereum
ค่าธรรมเนียมไม่มี
ขนาดคอลเลกชัน100,000+
ปริมาณการเทรด>50,000 ETH ต่อสัปดาห์

สิ่งที่เราชอบ:

  • ไม่มีค่าแก๊ส
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเมื่อซื้อ NFTs
  • ค่าธรรมเนียมขาย NFTs เพียง 1.99%
  • สามารถซื้อ NFTs ได้ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
  • รองรับ NFTs ที่ใช้ Ethereum ในการซื้อ

ซื้อ NFTs บน Crypto.com ตอนนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง

2. Coinbase – ตลาด NFT marketplace ที่มีตัวเลือกมากมายในปี 2023

Coinbase

Coinbase เป็นทั้งแหล่งในการซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัล และเป็น NFT marketplace แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยแบบควบคุมได้เอง ที่มีเครื่องมือที่ป้องกันการถูกขโมยทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งร้านค้า NFT ที่นักลงทุนไว้วางใจมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความปลอดภัย รวมไปถึงการจัดเก็บหรือซื้อขาย NFT ที่รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายต่ำ ขึ้นอยู่กับที่อยู่ของผู้ใช้งาน รวมไปถึงวิธีการในการชำระเงิน

Coinbase เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น นักลงทุนมือใหม่หรือประสบการณ์สูง

เครือข่าย/โทเค็นที่ใช้Ethereum
ค่าธรรมเนียมไม่ระบุ
ขนาดคอลเลกชัน10,000+
ปริมาณการเทรดไม่ระบุ

สิ่งที่เราชอบ:

  • การซื้อขาย NFT สะดวกและง่าย
  • ฝ่ายบริการลูกค้าตอบกลับรวดเร็ว
  • มีระบบป้องกันการถูกขโมยทรัพย์สินอย่างดี
  • มือใหม่ก็สามารถใช้ได้

ไปยัง Coinbase ตอนนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง

3. NFT Launchpad – ตลาด NFT marketplace โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2023

ผู้นำในตลาด NFT marketplace คือ NFT LaunchPad ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ตลาด NFT ที่น่าจับตามองนี้ได้สร้างแพลตฟอร์มแบบครบวงจร ที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเชื่อมต่อ และทำธุรกรรมได้ NFT LaunchPad ยังได้รวมตัวเองเข้ากับระบบนิเวศของ Web3 ซึ่งช่วยให้แนวคิดต่าง ๆ เช่น เกมบล็อคเชน และ metaverse เป็นที่นิยม

สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกลิสบน NFT LaunchPad จะอยู่บน BNB Chain และสามารถซื้อได้ด้วย Wrapped BNB ซึ่งเป็นหนึ่งใน altcoins ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน NFT สินทรัพย์ของ NFT LaunchPad มีมูลค่ามหาศาล โดยเป็น NFT ที่มาจากหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น กีฬา, วิดีโอ, ไอเท็ม metaverse , การ์ดสำหรับเทรด, งานศิลปะดิจิทัล และอื่น ๆ

NFT LaunchPad ตลาด nft marketplace

หนึ่งในข้อเสนอที่น่าสนใจที่สุดของ NFT LaunchPad คือ การมอบคอลเล็กชันพิเศษให้แก่นักลงทุน ซึ่งมีโปรเจ็กต์ NFT เจ๋ง ๆ มากมายให้เลือก รวมถึง PixelDoge NFTs, Crazy Angry Greedy Pandas และแม้แต่ CryptoPunks นอกจากนี้ NFT LaunchPad ยังมีสินทรัพย์ในทุกช่วงราคาให้เลือกสำหรับมือใหม่

ในขณะที่เขียนนี้ NFT ปริมาณซื้อขายส่วนใหญ่ใน NFT LaunchPad คือ Lucky Block NFT ที่เป็น NFT ชั้นนำในวงการ NFT คุณสามารถซื้อแล้วถือ Lucky Block NFT แล้วร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ได้

NFT LaunchPad ตลาด nft marketplace ตลาด nft ที่น่าจับตามอง

รางวัลเหล่านี้ได้แก่ รางวัลท่องเที่ยว บ้าน เกมคอนโซล และแม้แต่บิทคอยน์มูลค่า 1 ล้าน โดยจับรางวัลเมื่อมีการขาย NFT ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหมด โดยจะมีผู้โชคดีหนึ่งคนที่ได้รับรางวัลเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ถือ NFT ทั้งหมดจะยังคงได้รับรางวัลเป็น $LBLOCK เพียงแค่เป็นถือ Lucky Block NFT ไว้ต่อไป

นอกเหนือจากการเลือกสินทรัพย์แล้ว NFT LaunchPad ยังโดดเด่นในมุมมองที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน NFT LaunchPad ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ตรงที่ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขาย NFT ได้ในไม่กี่คลิก รองรับทั้ง MetaMask และ WalletConnect โดยที่แพลตฟอร์มสามารถเข้าถึงได้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

ตลาดซื้อขาย nft

ผู้ที่ต้องการสร้างรายได้จาก NFT สามารถสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองบน NFT LaunchPad และกำหนดความหายากได้ เนื่องจาก NFT LaunchPad คิดค่าธรรมเนียมที่น้อยที่สุด ผู้ขายจึงสามารถดำเนินการตามขั้นตอนนี้ได้อย่างคุ้มค่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวรวมถึงความหลากหลายของคอลเลกชัน NFT ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจในตลาด NFT marketplace นี้ จึงทำให้ NFT LaunchPad เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการ flip NFTs เพื่อทำกำไร

เครือข่าย/โทเค็นที่ใช้Binance Smart Chain (BSC) / Polygon
ค่าธรรมเนียมไม่มี
ขนาดคอลเลกชัน10,000+
ปริมาณการเทรดไม่ระบุ

สิ่งที่เราชอบ:

  • การซื้อขายที่ง่ายและรวดเร็ว
  • หมวดหมู่ NFT ที่หลากหลาย รวมถึง เพลง การ์ดสำหรับซื้อขาย และไอเท็ม metaverse
  • ครีเอเตอร์สามารถออกแบบหน้าต่างผู้ขายได้เอง
  • รองรับ Binance Chain และ Polygon NFTs
  • คอลเลกชันที่มีชื่อเสียงมากมาย รวมถึง CryptoPunks
  • รองรับ MetaMask wallet อย่างเต็มที่

ไปยัง NFT Launchpad

การลงทุนมีความเสี่ยง

เปรียบเทียบตลาด NFT marketplace ที่ดีที่สุด

เช่นเดียวกับการค้นหากระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุด การได้รับรู้ภาพรวมเกี่ยวกับฟีเจอร์และโครงสร้างค่าธรรมเนียมของ NFT marketplace แต่ละแห่งถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อทำให้ง่ายขึ้น ตารางด้านล่างนี้ได้รวบรวมรายละเอียดของข้อมูลสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละตลาดซื้อขาย NFT ในส่วนก่อนหน้านี้ให้แล้ว

ชื่อตลาด nftปริมาณ NFTs โดยประมาณประเภท NFTสกุลเงินที่รองรับ
Crypto.com200,000+ศิลปะBTC, ETH, CRO
Coinbase10,000+ศิลปะETH
NFT LaunchPad10,000+ศิลปะ, เพลง, เกม, Photography, และอื่น ๆWBNB

ตลาด NFT marketplace คืออะไร?

พูดง่าย ๆ ก็คือตลาด NFT marketplace เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถซื้อ ขาย หรือสร้าง NFT ได้ ถ้าอยากจะซื้อขาย NFT นี่คือแหล่งแรกที่ควรไป

ตลาด NFT marketplace ถือได้ว่าเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูรายการต่างๆ เพื่อขายและซื้อสินค้าได้ เนื่องจาก NFT จะถูกโฮสต์บนบล็อคเชน แหล่งซื้อขาย NFT ส่วนใหญ่จึงกำหนดให้ผู้ใช้งานมีกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อจัดเก็บ NFT หลังการซื้อ

ตลาด NFT มักจะมีการระบุสินทรัพย์ที่ถูกลิสในสกุลเงินดิจิทัล โดย Ethereum มักถูกใช้อย่างแพร่หลายที่สุด เมื่อซื้อ NFT แล้ว ความเป็นเจ้าของจะถูกโอนจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเครือข่าย

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างเหลือเชื่อของ NFT จึงทำให้มีตลาดซื้อขาย NFT เปิดตัวใหม่เป็นประจำ โดยแต่ละแห่งต่างพยายามจะค้นหาตลาดเฉพาะในตลาดภาพรวม ตามที่เราได้รีวิว nft marketplace ที่ดีที่สุดหลายแห่งในคู่มือนี้ แม้ว่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติมต่อไปก็ตาม

ตลาด nft marketplace ทำงานอย่างไร

ด้วยความเป็นดิจิทัล ทำให้ตลาด NFT มีลักษณะแตกต่างจากสินทรัพย์อื่น ๆ เล็กน้อย ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น คุณจำเป็นต้องตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโตล่วงหน้า เนื่องจากต้องใช้จัดเก็บ NFT หลังจากซื้อ หรือต้องใช้กระเป๋าเงิน NFT แม้ว่าบางกระเป๋าจะรองรับได้ทั้ง NFT และคริปโตก็ตาม

นอกจากกระเป๋าเงินแล้ว คุณจะต้องมีสกุลเงินดิจิทัลบางตัวที่ใช้ได้กับ NFT ที่คุณสนใจจะซื้อ โดยตลาด NFT marketplace ส่วนใหญ่รองรับการใช้ ETH แม้ว่าบางแห่งอาจจะใช้เป็น Solana (SOL), Tezos (XTZ), FLOW หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ

ในแง่ของการทำงานของตลาด NFT จะมีบริการหลัก 3 ส่วน:

  • การซื้อ NFT: นักลงทุนสามารถซื้อ NFT ผ่านการประมูลหรือการซื้อในราคาคงที่ เมื่อซื้อแล้ว ความเป็นเจ้าของของ NFT จะถูกโอนไปยังผู้ซื้อทันที
  • การสร้าง NFTs: ตลาด NFT หลายแห่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสร้าง NFT ของตนเองได้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขา ให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่โฮสต์บนบล็อคเชน
  • การขาย NFT: NFT marketplace ให้ผู้ขายลิส NFT ของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นเข้ามาซื้อได้ เมื่อขายได้แล้ว ผู้ขายจะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมจากเงินส่วนที่ขายได้ให้กับแพลตฟอร์ม บางทีหลาย ๆ แพลตฟอร์มจะเสนอค่าลิขสิทธิ์สำหรับการขายในตลาดรอง

ประเภทของตลาด NFT marketplace

เมื่อตัดสินใจว่าจะซื้อ NFT จำเป็นต้องทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน เกี่ยวกับประเภทของ แหล่งซื้อขาย NFT ต่าง ๆ ตามที่นำเสนอด้านล่างนี้ จะเป็นรายละเอียดของประเภท ตลาด NFT marketplace หลัก ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า คุณสามารถเลือกได้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง:

ตลาดศิลปะ NFT

ซึ่งก็ตามชื่อเลย ตลาดเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่งานศิลปะ NFT เท่านั้น ตลาดชั้นนำในหมวดหมู่นี้ ได้แก่ OpenSea และ Rarible ซึ่งช่วยให้ศิลปินสามารถสร้างงานศิลปะดิจิทัล NFT และขายให้กับนักสะสมได้

ตลาดศิลปะ NFT

เพื่อติดตามการดรอป NFT ล่าสุด โปรดดูปฏิทิน NFT ของเรา

ตลาดเพลง NFT

บทความล่าสุดโดย Forbes ระบุว่า NFTs สามารถกำหนดอนาคตของวงการเพลงได้ ด้วยเสียงเพลง อัลบั้ม เนื้อเพลง และเพลงประกอบ ทั้งหมดนี้สามารถสร้างเป็น NFT ได้ ตลาดเพลง NFT เชี่ยวชาญในด้านนี้ จึงทำให้นักสะสมสามารถซื้อเพลง NFT ที่มักจะนำเสนอโดยศิลปินที่โด่งดังได้

ตลาด Ethereum NFT

ตลาดเหล่านี้สร้างขึ้นบนบล็อคเชน Ethereum และเสนอสินทรัพย์ดิจิทัลที่รูปแบบ ETH ตลาด Ethereum ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ คือ OpenSea ซึ่งการเพิ่งถูกคาดการณ์ว่ามีมูลค่าสูงถึง 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์

ตลาด Solana NFT

ตลาดงานศิลปะ Solana NFT โฮสต์บน Solana blockchain ซึ่งเป็นทางเลือกที่รวดเร็วกว่าสำหรับ Ethereum นอกจากนี้ Solana ยังสามารถปรับขนาดได้มาก จึงทำให้ขอบเขตค่าธรรมเนียมเครือข่ายต่ำกว่า ปัจจุบันไม่มีตลาดสำคัญที่โฮสต์บน Solana แม้ว่า Solanart และ Solsea จะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งก็ตาม ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับวิธีซื้อ Solana หากคุณต้องการลงทุนใน NFT โดยใช้เหรียญคริปโตนี้

ตลาด Solana NFT

ตลาด Algorand NFT

Algorand เป็นเครือข่ายบล็อกเชนอีกหนึ่งเครือข่าย ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด NFT โดยมีตลาด Algorand NFT ผุดขึ้นหลายแห่ง เนื่องจาก Algorand เป็นบล็อกเชนระบบ proof-of-stake (PPoS) อย่างแท้จริง กระบวนการลงทุนทั้งหมดจึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปรับขนาดได้มากกว่าโครงสร้าง Ethereum ในปัจจุบัน

ตลาด Tezos NFT

Tezos เป็นบล็อกเชนโอเพนซอร์ซ ที่ทำงานโดยใช้โทเค็นหลัก คือ XTZ ตลาด Tezos NFT ได้รับความนิยมมากขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยมีตลาดหลักอย่าง Rarible เสนอใช้ NFT ของ Tezos

ตลาด BNB NFT

ตัวสุดท้าย คือ ตลาด BNB NFT ที่ใช้ประโยชน์จากความนิยมของ Binance Coin ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Binance กระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ตลาดที่โดดเด่นที่สุดคือ Binance NFT Marketplace ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ NFT ใน BNB ได้

ค่าธรรมเนียมแก๊สของ nft marketplace

เมื่อใช้ตลาด Ethereum NFT ที่ดีที่สุด คุณจะต้องตระหนักถึงค่าธรรมเนียมแก๊ส พูดง่าย ๆ ก็คือ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้แปรผันตรงกับพลังงานคอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผลการทำธุรกรรมให้เสร็จน ค่าธรรมเนียมแก๊สจะเพิ่มขึ้น เมื่อมีการดำเนินการเกี่ยวกับ NFTs บนเครือข่ายบล็อคเชน เช่น การโอน NFT ให้กับบุคคลอื่น

ค่าธรรมเนียมเหล่านี้มาจากการที่บล็อคเชน Ethereum ใช้อัลกอริธึม”Proof-of-Work” ซึ่งคล้ายกับบิทคอยน์ ที่หมายความว่า ‘นักขุด’ หรือเป็นคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังทำการประมวลผลและอนุมัติธุรกรรมบล็อกเชน และเนื่องจากกระบวนการนี้ต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ผู้คนจึงต้องจ่ายค่าแก๊สเป็นค่าตอบแทน

ค่าธรรมเนียมแก๊สของ nft marketplace

สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ ค่าธรรมเนียมแก๊สไม่ได้ถูกกำหนดให้คงที่ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยค่าธรรมเนียมจะแปรผันตามระดับความแออัดของเครือข่าย ดังนั้น เมื่อมีผู้ใช้งานเครือข่ายจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้น นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมแก๊สอาจสูงขึ้นหากคุณต้องการให้การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มบางประเภทจะให้คุณเลือกใช้ความเร็วการขุดให้ “ช้าลง” เพื่อลดค่าธรรมเนียมให้ต่ำลง

เมื่อมีการใช้ NFT marketplace มีค่าธรรมเนียมแก๊ส 2 ประเภทหลัก ที่ต้องระวัง:

ค่าธรรมเนียมแก๊สครั้งเดียว

NFT marketplace บางแห่ง (เช่น OpenSea) กำหนดให้ผู้ใช้งานต้องชำระค่าธรรมเนียมครั้งเดียว เพื่อเริ่มต้นใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ที่ไม่เคยซื้อขาย NFT ในตลาดมาก่อน โดยไม่มีการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเอาไว้ จึงทำให้มีแนวโน้มค่อนข้างแพง ระหว่าง 50 – 300 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับระดับความแออัด

ค่าธรรมเนียมแก๊สที่ต้องจ่ายประจำ

มีค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายประจำเมื่อทำธุรกรรมในเครือข่ายทั่วไป ซึ่งรวมถึง การยอมรับข้อเสนอใน NFT ที่ลิสไว้, การโอน NFT ให้กับบุคคลอื่น, การซื้อ NFT, การยกเลิกการประมูล NFT และอื่น ๆ

แหล่งซื้อคริปโตเพื่อใช้งานบนตลาด NFT

อย่างที่คุณทราบ NFT ส่วนใหญ่จัดอยู่ในสกุลเงินดิจิทัล โดย ETH เป็นสกุลเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ คุณจะต้องเป็นเจ้าของ ETH ก่อน จึงจะสามารถทำการซื้อขาย NFT ได้ หากคุณสงสัยว่าจะซื้อ Ethereum ได้อย่างไร (หรือเหรียญคริปโตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง) เราขอแนะนำให้ใช้ eToro

จากการตรวจสอบ เราพบว่า eToro เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อคริปโตเคอเรนซี่ เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานระดับสูงมากมาย รวมถึง FCA, ASIC, CySEC, FINRA และ FinCEN eToro ไม่คิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเมื่อซื้อคริปโตเคอเรนซี่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมอยู่ในค่าสเปรดเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง eToro อนุญาตให้เริ่มลงทุนได้ที่ 10 ดอลลาร์ ซึ่งเหมาะมากสำหรับมือใหม่

ผู้ใช้งานสามารถฝากเงินเข้าบัญชี eToro ผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือ e-wallet โดยมีตัวเลือกที่รองรับ เช่น PayPal, Skrill และ Neteller ขั้นตอนการซื้อคริปโตง่ายมาก โดยผู้ใช้งานสามารถลงทุนในแพลตฟอร์มที่ใช้เบราว์เซอร์หรือเว็บแอปได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งาน eToro ยังสามารถดาวน์โหลดแอป crypto wallet ของโบรกเกอร์ได้ฟรี ซึ่งช่วยให้จัดเก็บเหรียญคริปโตได้อย่างปลอดภัย

วิธีซื้อเหรียญคริปโตสำหรับ NFT บน eToro

ในตอนนี้ คุณน่าจะทราบแล้วว่าตลาด NFT ที่น่าจับตามองที่สุดคืออะไร และทราบว่าตลาด NFT marketplace ทำงานอย่างไร มาเริ่มศึกษาขั้นตอนการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลชิ้นแรกกันได้เลย เนื่องจาก NFT เป็นสกุลเงินดิจิทัล คุณจึงต้องซื้อเหรียญคริปโตบางส่วนก่อน เพื่อให้ซื้อ NFT ได้

เหรียญคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอุตสาหกรรม NFT คือ ETH ซึ่งใช้ชำระค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ด้วยเหตุนี้ 4 ขั้นตอนสั้น ๆ ด้านล่างนี้ จะแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการซื้อ ETH กับ eToro โบรกเกอร์ที่เราแนะนำ ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที

etoro

ขั้นตอนที่ 1 – สร้างบัญชี

เข้าไปที่ eToro.com แล้วคลิก ‘Join Now’ กรอกอีเมล ชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านสำหรับบัญชีของคุณ

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชี eToro

ซื้สร้างบัญชี eToro

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง และไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 2 – ยืนยันบัญชี

คลิก ‘Complete Profile’ บนแดชบอร์ดบัญชีของคุณ และทำการตรวจสอบ KYC ที่จำเป็นให้เสร็จสิ้น จากนั้น คุณจะต้องอัปโหลดหลักฐานแสดงตัวตน (หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่) และหลักฐานที่อยู่ (รายการในบัญชีธนาคาร หรือบิลค่าสาธารณูปโภค)

ขั้นตอนที่ 3 – ทำการฝากเงิน

ฝากเงินอย่างน้อย 10 ดอลลาร์ เข้าในบัญชีการซื้อขาย eToro ของคุณ โดย eToro รองรับบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และการฝากเงินผ่าน e-wallet ซึ่งสามารถทำได้ฟรีในสกุลเงิน USD

ฝากเงินทุน etoro

ขั้นตอนที่ 4 – ซื้อ ETH

พิมพ์ ‘ETH’ ลงในแถบค้นหาและคลิก ‘Trade’ เมื่อ Ethereum ปรากฏขึ้นมา ให้กรอกจำนวนเงินที่ต้องการ (ขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์) ในช่องคำสั่ง ตรวจสอบอีกครั้งว่าทุกอย่างถูกต้อง แล้วคลิก ‘Open Trade’

ซื้อ Ethereum สำหรับ NFT บน eToro

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง และไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

ขั้นตอนที่ 5 – ย้าย ETH ไปยัง Crypto Wallet

เมื่อคุณซื้อ ETH แล้ว คุณจะต้องย้ายไปยัง Crypto Wallet เพื่อนำไปซื้อ NFT ได้ โดยมีกระเป๋าเงินจำนวนมากที่ต้องพิจารณา แม้ว่า MetaMask จะเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด

ก่อนอื่น คุณจะต้องดาวน์โหลดแอป eToro Money และเข้าสู่ระบบโดยใช้ข้อมูล eToro ในบัญชีส่วนตัวของคุณ เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ไปที่หน้าพอร์ตการลงทุนบน eToro และเลือกส่งไปที่ eToro Money

จากนั้นเปิดแอป eToro Money แล้วคลิก “Send” จากนั้นระบบจะขอให้คุณป้อนที่อยู่กระเป๋าเงินของคุณ ซึ่งคุณสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายผ่านผู้ให้บริการกระเป๋าเงิน จากนั้น จะต้องยืนยันการทำธุรกรรมโดยใช้รหัสที่ eToro ส่งมาทางข้อความ จึงจะทำให้ ETH ของคุณถูกโอนไปยัง Crypto Wallet ภายนอก

วิธีซื้อ NFT ในตลาด NFT marketplace

สุดท้าย เมื่อคุณมีสกุลเงินดิจิทัลที่จำเป็นในการซื้อ NFT แล้ว เรามาพูดถึงขั้นตอนการลงทุนกันต่อ ขั้นตอนด้านล่างจะแสดงให้เห็นถึงวิธีซื้อ NFT ด้วย NFT LaunchPad ที่เป็นตลาด nft marketplace ที่ดีที่สุดในปีนี้

ขั้นตอนที่ 1 – สร้างกระเป๋าเงินคริปโต

NFT LaunchPad รองรับ MetaMask และ WalletConnect ทำให้นักลงทุนเริ่มต้นได้ง่าย ซึ่งเราขอแนะนำ MetaMask เนื่องจากใช้งานฟรี และดาวน์โหลดภายในไม่กี่นาที

เพียงตรงไปที่เว็บไซต์ของ MetaMask คลิก ‘Download’ และทำตามคำแนะนำ เพื่อตั้งค่ากระเป๋าเงิน

ขั้นตอนที่ 2 – รับ Wrapped BNB (WBNB)

เนื่องจากสินทรัพย์ของ NFT LaunchPad อยู่ใน Wrapped BNB (WBNB) นักลงทุนจึงต้องมีสกุลเงินดิจิทัลนี้ล่วงหน้า ซึ่งโชคดีที่ WBNB สามารถซื้อด้วยเหรียญคริปโตอื่น ๆ ผ่าน DEX ชั้นนำได้หลายแห่ง (เช่น PancakeSwap)

ขั้นตอนที่ 3 – เชื่อมต่อ Wallet กับ NFT LaunchPad

คลิกไอคอนกระเป๋าเงินบนเว็บไซต์ของ NFT LaunchPad และเลือกกระเป๋าเงินที่สร้างขึ้นในขั้นตอนที่ 1 ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ เพื่อเชื่อมโยงกระเป๋าเงินกับแพลตฟอร์ม NFT LaunchPad

ขั้นตอนที่ 4 – ซื้อ NFTs

สิ่งสุดท้ายที่ต้องทำคือ เรียกดูเนื้อหาที่อยู่ในรายการโดยคลิกปุ่ม ‘Explore’ และดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาแต่ละรายการได้ โดยคลิกที่เนื้อหาเพื่อไปยังหน้ารายการ ซึ่งจะแสดงประวัติราคา ข้อมูลผู้ใช้งาน และข้อมูลที่มีค่าอื่น ๆ

ในการซื้อ NFT คลิก ‘Make an Offer’ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการประมูล หรือเลือกซื้อทันทีสำหรับราคาที่ระบุไว้แล้ว ไม่ว่าจะซื้อด้วยวิธีใด เมื่อซื้อแล้ว NFT จะถูกโอนไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ผูกไว้

ซื้อ NFTs บน NFT LaunchPad ตอนนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง

ข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ NFTs

เนื่องจากตลาด NFT เติบโตอย่างก้าวกระโดด องค์ประกอบหลายอย่างจึงเปลี่ยนแปลงและปรับตัวอยู่เสมอ สิ่งที่นำเสนอด้านล่างเป็นหัวข้อข่าว NFT ที่สำคัญบางส่วนที่ควรทราบ ว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดภาพรวมอย่างไร:

  • Club Gorgon และ Dani Alves Team-Up: Dani Alves นักฟุตบอลชื่อดังผู้ได้รับรางวัลมากมายขณะเล่นให้กับบาร์เซโลนา ได้ร่วมมือกับโครงการ Club Gorgon NFT โปรเจ็กต์นี้เกี่ยวข้องกับคอลเลกชันงานศิลปะในธีมเมดูซ่า จำนวน 6,666 ชิ้น ซึ่งจะเผยแพร่ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ผ่านบล็อกเชนของ Elrond
  • L’Oréal เข้าสู่ตลาด NFT: เครื่องสำอางรายใหญ่อย่าง L’Oréal เตรียมเข้าสู่ metaverse หลังจากจดสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้า 17 รายการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเสมือนจริง และมีข่าวลือว่าแบรนด์อาจจะเปิดร้านค้าเสมือนจริงในไม่ช้านี้ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับ NFTs
  • แมนเชสเตอร์ซิตี้สร้างสนามกีฬาใน Metaverse: แมนเชสเตอร์ซิตี้เอฟซี สโมสรฟุตบอลอังกฤษ พร้อมที่จะสร้างสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงใน Metaverse ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถ ‘เข้าร่วม’ สนามกีฬาได้แบบเสมือนจริง โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ได้รับความร่วมมือจาก Sony

บทสรุป

โดยสรุป คู่มือนี้ได้กล่าวถึงตลาด nft marketplace ชั้นนำ สำหรับนักลงทุนในปัจจุบัน โดยเน้นที่ฟีเจอร์และการสำรวจตลาดประเภทต่าง ๆ การตัดสินใจซื้อโทเค็น NFT เป็นครั้งแรกดูเหมือนจะน่ากังวล แต่หากคุณใช้ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้ จะช่วยทำให้ขั้นตอนง่ายขึ้นได้อย่างแน่นอน

เนื่องจาก NFT ส่วนใหญ่จะกำหนดให้ใช้ ETH ในการชำระค่าธรรมเนียมเครือข่าย เราจึงแนะนำให้สร้างบัญชีกับ eToro.com ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ควบคุมโดย FCA eToro อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อ ETH ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และมีสเปรดต่ำ โดยมีเงินฝากขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์เท่านั้น!

สำหรับนักลงทุน NFT ที่กำลังอยากซื้อ NFT ที่ดีที่สุด ให้ลองศึกษาที่ Crypto.com ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขาย NFT ใหม่ที่น่าตื่นเต้น และมีคอลเล็กชันระดับสูง ที่รวมถึง Aston Martin

Crypto.com logo

ไปยัง Crypto.com

การลงทุนมีความเสี่ยง

Categories
Bitcoins Crypto News คู่มือคริปโต

8 เว็บขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุด ปี 2023 [แนะนำ!]

คนทั่วไปอาจไม่มีโอกาสรวยจากการขุดบิทคอยน์ เว้นแต่คุณต้องลงทุนหลายหมื่นดอลลาร์ในฮาร์ดแวร์และค่าไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่มีทุนไม่มาก ปัจจุบันมีเว็บบนระบบคลาวด์ชั้นนำจำนวนมากที่ช่วยให้คุณสามารถขุดบิทคอยน์โดยไม่จำเป็นต้องซื้อชุดอุปกรณ์ ASIC หรือใช้พลังงานและไฟฟ้าจำนวนมาก

ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบเว็บขุด bitcoin ที่น่าลงทุนที่สุด และวิเคราะห์ว่าเว็บขุด bitcoin จ่ายจริงหรือไม่ รวมถึงให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่

8 เว็บขุด Bitcoin บนระบบคลาวด์ที่ดีที่สุด

ด้านล่างนี้คือผู้ให้บริการเว็บขุดบิทคอยน์ชั้นนำ 8 เว็บที่เราคัดเลือกมาวิเคราะห์และแนะนำแก่นักลงทุน

  • Copium Protocol – แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการขุดคริปโตแบบพาสซีฟ
  • ECOS – เว็บขุดคริปโตที่ยอดเยี่ยมและให้ผลตอบแทนจริง
  • Shamining – เว็บไซต์ขุดบิทคอยน์อันดับต้น ๆ
  • GMINERS – แพลตฟอร์มที่มอบผลตอบแทนในการขุดบิทคอยน์เฉลี่ย 150%
  • ChickenFast – แพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับผู้เริ่มต้นในการขุดบิทคอยน์
  • HashShiny – เว็บขุดคริปโตบนระบบคลาวด์ที่รองรับเหรียญคริปโตหลายเหรียญ
  • BeMine – เว็บขุดคริปโตบนระบบคลาวด์ที่มีข้อมูลการจ่ายเงินที่ชัดเจน
  • TrustMining – เว็บขุดคริปโตเคอเรนซี่สำหรับนักลงทุนรายย่อย
  • Genesis Mining – แพลตฟอร์มการขุดคริปโตที่เป็นมิตรกับผู้ใช้พร้อมสัญญาที่ขายหมดอย่างรวดเร็ว

อ่านต่อเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า เว็บขุดคริปโตด้านบนรองรับเหรียญใดบ้าง รวมถึงข้อมูลอื่นๆ เช่นค่าธรรมเนียมและ ROI ที่อาจมี

ไปยังเว็บขุด Bitcoin ที่ดีที่สุด

วิเคราะห์แพลตฟอร์มการขุดคริปโตที่ดีที่สุด

ในการค้นหาแพลตฟอร์มการขุดคริปโตที่ดีที่สุด ก่อนอื่นคุณต้องแน่ใจว่าผู้ให้บริการที่คุณเลือกนั้นให้ผลตอบแทนจริง เนื่องจากมีเว็บหลอกลวงอยู่เป็นจำนวนมากที่โฆษณาว่าสามารถขุดเหรียญฟรี

จากนั้นคุณต้องสำรวจว่าแพลตฟอร์มให้คุณขุดเหรียญใดบ้าง และมีการคิดค่าบริการอะไรบ้าง และอย่าลืมประเมินค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย และจำนวนเงินที่คุณจะได้รับในแง่ของ ROI

เมื่อพิจารณาจากเมตริกข้างต้นแล้ว ต่อไปนี้เราจะแนะนำเว็บไซต์ขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดโดยรวมทั้งหมด 8 แห่งโดยละเอียด

1. Copium Protocol – แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการขุดคริปโตแบบพาสซีฟ

Copium Protocol เป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการขุดคริปโตเคอเรนซี่แบบพาสซีฟ แม้ว่าจะไม่ใช่เว็บขุดบิทคอยน์โดยตรง แต่ก็ใช้การขุดบิทคอยน์เพื่อมอบผลกำไรให้กับผู้ใช้ในทางอ้อม

Copium Protocol เว็บขุดบิทคอยน์

โปรเจกต์ทั้งหมดมีศูนย์กลางอยู่ที่การขุด Copium ซึ่งเป็นโรงงานขุดในโลกแห่งความเป็นจริงที่ตั้งอยู่ในเมืองโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ โดยโรงงานแห่งนี้แตกต่างจากโปรเจกต์อื่นๆ ในรายการที่เราคัดเลือกมาแนะนำ เนื่องจากเป็นโรงงานที่ใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมาจากพลังน้ำที่สร้างขึ้นที่เชิงเขาทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์ 

Copium Protocol ใช้รายได้รายวันที่เกิดจากการขุด Copium เพื่อซื้อ Copium Coin ซึ่งเป็นเหรียญ ERC-20 หลักของโปรเจกต์ที่ใช้ขับเคลื่อนระบบนิเวศ เหรียญ Copium ที่ซื้อจากตลาดเปิดโดยใช้รายได้จากการขุดจะถูกส่งไปยังแอดเดรสสำหรับเบิร์นเหรียญ โดยเป็นการนำเหรียญ Copium ออกจากอุปทานทั้งหมด ทำให้เหรียญนี้เป็นสินทรัพย์ที่มีอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไปที่จะหายากขึ้น

เว็บขุดบิทคอยน์ จ่ายจริง Copium Protocol

โปรเจกต์จะเปิดตัวเฟสแรกโดยปล่อย NFT ของ Copium Protocol Investor Pass ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 คอลเลกชันนี้ประกอบด้วย NFT 10,000 รายการที่จะผลิตในเครือข่าย Ethereum และจะขายผ่าน Dutch Auction บนเว็บไซต์ของโปรเจกต์ มีราคาเริ่มต้นที่ 3.5 ETH แต่ 2,000 คนแรกที่ลงทะเบียนล่วงหน้าจะได้รับการรับประกันราคาที่ต่ำกว่า 3 ETH

Investor Pass NFT ใช้เพื่อแจกจ่าย Copium Coin ผ่านชุมชน โดยผู้ถือ NFT ทุกคนจะได้รับเหรียญ Copium จำนวน 10,000 เหรียญ พวกเขายังสามารถรับเหรียญเพิ่มเติมอีก 10 เหรียญ Copium ต่อวัน หากพวกเขา Stake NFT บนแพลตฟอร์ม

เงินทุนที่เกิดจากการขาย NFT จะถูกใช้เพื่อซื้ออุปกรณ์การขุดใหม่และอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานที่โรงขุด Copium ทำให้สามารถสร้างรายได้รายวันมากขึ้นเพื่อซื้อ Copium Coin

ผู้ถือเหรียญ Copium สามารถรับ APY เพิ่มเติมได้โดยการ Stake เหรียญของพวกเขาบนแพลตฟอร์ม Stake ผู้ถือบัตร Investor Pass จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยทั่วไป

Copium Protocol เว็บขุดบิทคอยน์ ที่น่าลงทุน

โดยรวมแล้ว Copium Protocol ได้สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบในการขุดคริปโต โดยไม่ต้องเข้าใจแง่มุมทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง รายได้จากการขุดทำให้เกิดความต้องการที่ยั่งยืนสำหรับเหรียญของโปรเจกต์ ซึ่งจะหายากมากขึ้นเมื่อมีการเบิร์นมากขึ้น และผู้ใช้สามารถรับผลกำไรจากโปรเจกต์นี้ได้โดยการซื้อ NFT หรือ Copium Coin 

จำนวนเหรียญที่รองรับ1 เหรียญ  – Copium Coin
การลงทุนขั้นต่ำไม่มีข้อมูล
ค่าธรรมเนียมการขุดไม่มี
ผลตอบแทนการลงทุน12% – 38% (จากการ Stake)

สิ่งที่เราชอบ:

  • โรงงานขุดใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด
  • ใช้โรงขุดที่สร้างขึ้นจริง
  • สามารถขุดคริปโตเคอเรนซี่แบบพาสซีฟได้โดยไม่ต้องเข้าใจแง่มุมทางเทคนิค
  • เป็นเหรียญที่มีอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไปที่มีความต้องการที่ยั่งยืน
  • ให้ความสำคัญกับนักลงทุน NFT

ไปที่ Copium Protocol

2. ECOS – เว็บขุดคริปโตที่ยอดเยี่ยมและให้ผลตอบแทนจริง

ECOS เป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย และเป็นบริษัทขุดคริปโตที่ให้ผลตอบแทนจริง ECOS ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจเสรีในอาร์เมเนียและรับพลังงานไฟฟ้าโดยตรงจาก Hrazdan TPP นอกเหนือจากการขุด btc บนระบบคลาวด์แล้ว ECOS ยังให้บริการกระเป๋าเงินที่ปลอดภัยและกระดานเทรดคริปโตชั้นนำอีกด้วย คุณสามารถเริ่มต้นใช้แพลตฟอร์มนี้ทางออนไลน์หรือผ่านแอป iOS/Android ทำให้คุณสามารถขุดเหรียญคริปโตมือถือได้ เราคิดว่าข้อดีของ ECOS คือเครื่องมือปรับแต่งซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างสัญญาการขุดบิทคอยน์ที่ตรงกับความต้องการของคุณได้

ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ที่เชื่อมโยงกับระยะเวลาและราคาของสัญญา คุณยังสามารถระบุราคาที่คุณเชื่อว่าบิทคอยน์จะไปถึงในอนาคตเมื่อสัญญาการขุดแบบกำหนดเองของคุณหมดอายุ ซึ่งช่วยให้คุณได้รับภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ ROI ที่เป็นไปได้ ส่วนในแง่ของผลตอบแทนการทำกำไรนั้นจะขึ้นอยู่กับสัญญาที่คุณสร้างขึ้น

เว็บขุดบิทคอยน์ จ่ายจริง น่าลงทุน ECOS

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเลือกสัญญา 36 เดือน และคุณเชื่อว่าบิทคอยน์จะมีมูลค่า 60,000 ดอลลาร์เมื่อสัญญาหมดอายุ ในสถานการณ์สมมตินี้ RIO ของคุณจะเท่ากับ 99% และเราชอบที่ ECOS นั้นแบ่งผลกำไรของคุณเป็นรายวัน รายเดือน และรายปี

การใช้พารามิเตอร์เดียวกันนี้โดยที่มีการลงทุนเริ่มต้นที่ 5,000 ดอลลาร์ จะให้ผลตอบแทน 278 ดอลลาร์ต่อเดือนในรูปของรายได้แบบพาสซีฟ ในแง่ของตลาดที่รองรับ คุณสามารถมีส่วนร่วมในการขุดบิทคอยน์เพียงเหรียญเดียว ข้อดีอีกประการของการใช้ ECOS คือแพลตฟอร์มดังกล่าวให้บริการลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่านระบบแชทสด นอกจากนี้ ECOS ยังให้สัญญาทดลองใช้ฟรีแก่ผู้ใช้ใหม่ทั้งหมดเป็นเวลาหนึ่งเดือนเพื่อให้พวกเขาสามารถทดสอบใช้งานแพลตฟอร์มได้

จำนวนเหรียญที่รองรับ 1 เหรียญ – บิทคอยน์
การลงทุนขั้นต่ำ 150 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุดค่าบริการขึ้นอยู่กับสัญญาที่กำหนด
ผลตอบแทนการลงทุน ความสามารถในการทำกำไรขึ้นอยู่กับสัญญาที่กำหนดเอง

สิ่งที่เราชอบ:

  • สร้างสัญญาการขุดแบบกำหนดเองเพื่อตอบสนองความต้องการ ROI ของคุณ
  • กำไรแบ่งเป็นรายวัน รายเดือน และรายปี
  • มีแอปมือถือที่ยอดเยี่ยมสำหรับขุด bitcoin ในโทรศัพท์
  • มูลค่าสัญญาขั้นต่ำเพียง 150 ดอลลาร์
  • มีสัญญาทดลองใช้ฟรีสำหรับผู้ใช้ใหม่

ไปที่ ECOS ตอนนี้

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการการกำกับดูแลที่มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

3. Shamining – เว็บไซต์ขุด บิทคอยน์ อันดับต้น ๆ

อัปเดต – ขณะนี้เว็บไซต์ Shamining หยุดให้บริการอยู่ เราจะอัปเดตรีวิวนี้เมื่อเว็บกลับมาให้บริการอีกครั้ง

เมื่อพูดถึงชื่อเสียง ความสามารถในการทำกำไร และค่าธรรมเนียมแล้ว Shamining เป็นเว็บไซต์ขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุด แพลตฟอร์มนี้เป็นเว็บไซต์ขุดบิทคอยน์บนคลาวด์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟโดยไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก โดยคุณจะเช่าอุปกรณ์ขุดบิทคอยน์จากระยะไกลแทน

การเริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์ม Shamining เพียงแค่ลงทะเบียนบัญชีและตัดสินใจว่าเลือกว่าคุณต้องการลงทุนในฟาร์มขุดบิทคอยน์ใด จากนั้นคุณสามารถเริ่มสร้างรายได้โดยการฝากเงินเพื่อชำระค่าสัญญาขุดคริปโตของคุณ

เว็บขุดบิทคอยน์ Shamining

เงินฝากขั้นต่ำที่กำหนดคือ 250 ดอลลาร์ โดยทางแพลตฟอร์มระบุว่าตัวคูณผลตอบแทนเฉลี่ยคือ 1.43 เท่า ดังนั้นนั่นหมายความว่าสำหรับทุกๆ 1,000 ดอลลาร์ที่ลงทุน คุณสามารถได้รับผลกำไรถึง 1,430 ดอลลาร์ นอกจากนี้ Shamining ยังเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2018 และมีผู้ใช้มากกว่า 70,000 คน

Shamining เสนอสัญญาที่หลากหลายซึ่งคุณสามารถเลือกได้ ซึ่งแต่ละสัญญามาพร้อมกับข้อกำหนดการลงทุนขั้นต่ำและเงื่อนไขการล็อคที่หลากหลาย หากคุณไม่แน่ใจว่าสัญญาใดที่เหมาะกับคุณ Shamining มีเครื่องคำนวณที่มีประโยชน์ซึ่งช่วยให้คุณสามารถประเมิน ROI ที่มีโอกาสได้รับตามจำนวนเงินที่คุณลงทุน

ในส่วนของค่าธรรมเนียม จะถูกคิดรวมอยู่ใน ROI ที่คุณเห็น ด้วยเหตุนี้ คุณจึงประเมินระดับความสามารถในการทำกำไรจากการขุดคริปโตของคุณได้ง่าย นอกจากนี้ Shamining ยังให้คุณสามารถถอนเงินได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการเมื่อสัญญาที่เกี่ยวข้องสิ้นสุดลง คุณยังมีทางเลือกในการนำผลกำไรของคุณไปลงทุนใหม่เพื่อรับผลประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้น

จำนวนเหรียญที่รองรับ 1 เหรียญ – บิทคอยน์
การลงทุนขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุดรวมอยู่ใน ROI
ผลตอบแทนการลงทุน เฉลี่ย 1.43x

สิ่งที่เราชอบ:

  • เป็นเว็บไซต์ขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดโดยรวม
  • ไม่จำเป็นต้องซื้อฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง
  • ลงทุนขั้นต่ำเพียง 250 ดอลลาร์
  • ก่อตั้งขึ้นในปี 2018
  • ตัวคูณผลตอบแทนเฉลี่ย 1.43 เท่า

4. GMINERS – แพลตฟอร์มที่มอบผลตอบแทนในการขุดบิทคอยน์เฉลี่ย 150% 

แพลตฟอร์มถัดมาในรายชื่อเว็บขุดคริปโตที่ดีที่สุดของเราคือ GMINERS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการขุดบนคลาวด์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะในบิทคอยน์ ที่คล้ายกับทั้ง Shamining และ ECOS ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาการขุดคริปโตเหรียญอื่นๆ เช่น Ethereum หรือ Dogecoin คุณจะต้องพิจารณาผู้ให้บริการรายอื่น

อย่างไรก็ตาม เว็บขุดบิทคอยน์นี้เสนอ ROI เฉลี่ย 150% โดยในการเริ่มต้นใช้งาน คุณจะต้องลงทะเบียนบัญชีและต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ จากนั้นคุณจะมีสัญญาขุดบิทคอยน์ จำนวนหนึ่งให้เลือก ซึ่งแต่ละสัญญามีระยะเวลาขั้นต่ำหนึ่งปี

เว็บขุดบิทคอยน์ GMINERS

เราแนะนำ GMINERS เพราะคุณสามารถติดตามมูลค่าของการดำเนินการขุดบิทคอยน์ของคุณได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสามารถทำได้ผ่านทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์เดสก์ท็อปของคุณ นอกจากนี้ คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการสร้างบัญชีของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสัญญา 0.0120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 GH/S

[/su_table]

จำนวนเหรียญที่รองรับ 1 เหรียญ – บิทคอยน์
การลงทุนขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุด0.0120 USD ต่อ 1 GH/S
ผลตอบแทนการลงทุน ROI เฉลี่ย 150%

[/su_table]

สิ่งที่เราชอบ:

  • ROI เฉลี่ย 150%
  • การลงทุนขั้นต่ำเพียง 250 ดอลลาร์
  • ระบุค่าธรรมเนียมสัญญาที่ชัดเจน
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการสร้างบัญชี

5. ChickenFast – แพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับผู้เริ่มต้นในการขุดบิทคอยน์

หากคุณกำลังมองหาเว็บขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น ChickenFast เป็นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าที่จะพิจารณา แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงมือใหม่ ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ใดๆ มาก่อนในการเริ่มต้น ที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่าพารามิเตอร์สัญญาของคุณเอง

สิ่งที่คุณต้องทำคือระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการลงทุนในการขุดบิทคอยน์ จากนั้น อัลกอริทึมของ ChickenFast พื้นฐานจะกำหนดสัญญาที่ดีที่สุด ณ เวลาที่ลงทุนให้ เราชอบที่ ChickenFast เสนอการจ่ายบิทคอยน์ทุกวัน ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถนำกำไรของคุณไปลงทุนใหม่ในสัญญาการขุดใหม่ได้

เว็บขุดบิทคอยน์ chickenfast

หากคุณตัดสินใจที่จะถอนเงินที่ได้รับ มียอดการถอนขั้นต่ำเพียง 0.0003 BTC เท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับ ChickenFast คือค่าธรรมเนียมทั้งหมดจะรวมอยู่ใน ROI ที่คุณเห็นบนแดชบอร์ดบัญชีของคุณ ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่จะรู้ว่าคุณจะทำเงินได้เท่าไหร่

จำนวนเหรียญที่รองรับ 1 เหรียญ – บิทคอยน์
การลงทุนขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุดรวมอยู่ใน ROI
ผลตอบแทนการลงทุน แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอัลกอริทึม

สิ่งที่เราชอบ:

  • เว็บไซต์ขุดบิทคอยน์ยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้น
  • ไม่ต้องระบุสัญญา
  • เพียงป้อนจำนวนเงินฝากของคุณ แล้วอัลกอริทึมจะจัดการส่วนที่เหลือให้เอง
  • จ่ายบิทคอยน์เป็นรายวัน

6. HashShiny – เว็บขุดคริปโตบนระบบคลาวด์ที่รองรับเหรียญคริปโตหลายเหรียญ

หากคุณกำลังมองหาเว็บขุดคริปโตบนคลาวด์ที่รองรับเหรียญคริปโตหลายเหรียญ HashShiny เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยนอกจากบิทคอยน์แล้ว แพลตฟอร์มนี้ยังให้คุณขุด Ethereum, Zcash, Litecoin , Dash, Dogecoin และ Decred ยิ่งไปกว่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการขุดเหรียญเหรียญเดียว เนื่องจาก HashShiny ช่วยให้คุณสามารถขุดได้หลายเหรียญพร้อมกัน

หากต้องการเริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์มนี้ คุณต้องลงทะเบียนบัญชีและทำการฝากเงินก่อน โดยสามารถฝาเป็นคริปโตเคอเรนซี่ หรือใช้บัตรเดบิต/เครดิตและ Paypal ก็ได้ ส่วน ROI และค่าธรรมเนียมต่างๆ จะถูกคิดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเหรียญที่คุณตัดสินใจขุด รวมถึงสัญญาขุดที่คุณเลือก

เว็บขุดบิทคอยน์ HashShiny

ตัวอย่างเช่น หากคุณตัดสินใจที่จะขุด Ethereum คุณจะได้รับ 1.65 ดอลลาร์ต่อ 100 KH/S ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 0.0024 ดอลลาร์ต่อ 100 KH/S – ซึ่งจะเรียกเก็บทุกวัน อย่างที่คุณเห็น ข้อเสียเปรียบหลักของ HashShiny คือแพลตฟอร์มไม่แสดงอย่างชัดเจนว่าคุณจะได้ผลตอบแทนเท่าใด โดยตัวเลขความสามารถในการทำกำไรทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับอัตราการแฮช

จำนวนเหรียญที่รองรับ 7 เหรียญ
การลงทุนขั้นต่ำ ไม่ได้ระบุไว้
ค่าธรรมเนียมการขุดขึ้นอยู่กับเหรียญและสัญญา
ผลตอบแทนการลงทุน ขึ้นอยู่กับเหรียญและสัญญา

สิ่งที่เราชอบ:

  • ให้คุณขุดคริปโตได้ 7 เหรียญพร้อมกัน
  • รองรับการฝากเงินด้วยคริปโตเคอเรนซี่และเงินสกุลดั้งเดิม
  • มีสัญญาให้เลือกหลากหลาย

7. BeMine – เว็บขุดคริปโตบนระบบคลาวด์ที่มีข้อมูลการจ่ายเงินที่ชัดเจน

BeMine เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการเว็บขุดคริปโตบนคลาวด์ที่ดีที่สุดของเรา แพลตฟอร์มนี้นำเสนอโอกาสการลงทุนและข้อกำหนดสัญญาที่หลากหลาย ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าจะพบรูปแบบที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น คือเราชอบที่ BeMine ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ

นักลงทุนสามารถดูผลตอบแทนที่จะได้รับผ่านเครื่องคำนวณการทำกำไรที่ใช้งานง่ายมาก โดยสมมติว่าคุณตัดสินใจลงทุนเพียง 1,500 ดอลลาร์ในสัญญาระบบคลาวด์ Antminer T17+ คุณจะได้รับรายได้แบบพาสซีฟ 172 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 2,098 ดอลลาร์ต่อปี

เว็บขุด bitcoin BeMine

นอกจากนี้ BeMine ยังแสดงค่าธรรมเนียมสำหรับสัญญาที่คุณเลือกไว้อย่างชัดเจน โดยจากตัวอย่างข้างต้น คุณต้องจ่ายค่าบำรุงรักษารายวัน 1.09 ดอลลาร์ ส่วนการชำระค่าสัญญาการขุด บิทคอยน์ที่คุณเลือก คุณสามารถฝากเงินด้วยคริปโตเคอเรนซี่ หรือเงินสกุลดั้งเดิมผ่าน Visa หรือ MasterCard

จำนวนเหรียญที่รองรับ 1 เหรียญ – บิทคอยน์
การลงทุนขั้นต่ำ 99 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุดขึ้นอยู่กับสัญญา
ผลตอบแทนการลงทุน ขึ้นอยู่กับสัญญา

สิ่งที่เราชอบ:

  • มีสัญญาให้เลือกหลากหลาย
  • ค่าธรรมเนียมและ ROI จะแสดงเป็นสกุลเงินดอลลาร์อย่างชัดเจน
  • สัญญาขั้นต่ำ 99 ดอลลาร์

8. TrustMining – เว็บไซต์ขุดคริปโตเคอเรนซี่สำหรับนักลงทุนรายย่อย 

TrustMining ซึ่งเปิดให้บริการมาสามปีแล้ว ได้เคลมว่าเป็นไซต์ขุดคริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนทั่วไป แพลตฟอร์มนี้ไม่กำหนดให้คุณต้องซื้ออุปกรณ์การขุดราคาแพงใดๆ และการลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำคือ 250 ดอลลาร์ คุณสามารถเลือกข้อกำหนดของสัญญาได้สามแบบ ซึ่งแต่ละข้อให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกัน

ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุน 250 ดอลลาร์ในสัญญา SHA-256 สัญญานี้จะให้ผลตอบแทนเป็นรายได้ 43.80 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 525 ดอลลาร์ต่อปี สัญญา Ethash ให้ผลกำไรมากกว่าเล็กน้อย โดยการลงทุน 250 ดอลลาร์จะให้ ROI ที่ 45 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือ 550 ดอลลาร์ต่อปี เราชอบ TrustMining ที่มีการรองรับในหลายอุปกรณ์ ซึ่งครอบคลุมเว็บเบราว์เซอร์บนแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของคุณ

เว็บขุด bitcoin TrustMining

สิ่งนี้ทำให้การรู้ว่าคุณได้เงินเท่าไรจากความพยายามในการขุดบนคลาวด์เป็นกระบวนการง่ายๆ ด้วยการคลิกเพียงปุ่มเดียว อีกเหตุผลหนึ่งที่เราชอบ TrustMining คือมีการสนับสนุนลูกค้าผ่านการแชทสดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ในแง่ของการจ่ายเงิน คุณจะได้รับส่วนแบ่งรางวัลการขุดทุกๆ 24 ชั่วโมง

จำนวนเหรียญที่รองรับ 15 เหรียญ
การลงทุนขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุดขึ้นอยู่กับเหรียญและสัญญา
ผลตอบแทนการลงทุน ขึ้นอยู่กับเหรียญและสัญญา

สิ่งที่เราชอบ:

  • ขุดเหรียญคริปโตได้ 15  เหรียญ
    ใช้งานง่ายมาก
  • มีข้อมูล ROI ที่มีโอกาสได้ที่ชัดเจน
  • การสนับสนุนลูกค้า 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์

9. Genesis Mining – แพลตฟอร์มการขุดที่เป็นมิตรกับผู้ใช้พร้อมสัญญาที่มักจะขายหมด

ผู้ให้บริการรายสุดท้ายจากรายการแพลตฟอร์มการขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดของเราคือ Genesis Mining เว็บขุดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจนบ่อยครั้งสัญญาที่ทำกำไรได้มากที่สุดของแพลตฟอร์มนี้ขายหมดอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ คุณจะรีบซื้อสัญญาขุดของแพลตฟอร์มนี้ไว้หากต้องการลงทุนในแพลตฟอร์มนี้ ในแง่ของเหรียญที่รองรับ Genesis Mining ให้คุณขุดบิทคอยน์, Dash, Ethereum, Litecoin, Monero และ Zcash

แพลตฟอร์มนี้จึงมอบโอกาสมากมายให้คุณสร้างสัญญาการขุดที่หลากหลาย โดยผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับเหรียญที่คุณเลือกและระยะเวลาของสัญญาที่เกี่ยวข้อง ข้อเสียเปรียบหลักของ Genesis Mining ก็คือแผนของแพลตฟอร์มมาพร้อมกับข้อกำหนดการลงทุนขั้นต่ำที่สูง

เว็บขุด bitcoin Genesis Mining

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขุด Ethereum แผนเริ่มต้นต้องใช้เงินทุน 500 ดอลลาร์ แต่เราก็ชอบที่ Genesis Mining อนุญาตให้คุณฝากเงินด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และ Genesis Mining ยังเคลมว่ามีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย

จำนวนเหรียญที่รองรับ 6 เหรียญ
การลงทุนขั้นต่ำ 499 ดอลลาร์
ค่าธรรมเนียมการขุดขึ้นอยู่กับเหรียญและสัญญา
ผลตอบแทนการลงทุน ขึ้นอยู่กับเหรียญและสัญญา

สิ่งที่เราชอบ:

  • สามารถขุดได้คริปโตได้ 7 เหรียญที่แตกต่างกัน
  • สัญญายอดนิยมขายหมดบ่อยมาก
  • เคลมว่ามีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย
  • รับชำระเงินด้วยวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด

การขุดบิทคอยน์คืออะไร

คุณคงทราบดีว่าบิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซี่อื่นๆ ส่วนใหญ่นั้นเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถดำเนินธุรกรรมได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือตัวกลางทางการเงิน และระบบที่ช่วยให้ บิทคอยน์ยังคงกระจายอำนาจได้อยู่นั้นก็คือการอาศัยผู้ขุด

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าขุด bitcoin ยังไง ในรูปแบบพื้นฐานที่สุด วิธีหา bitcoin คือกระบวนการที่นักขุดคือบุคคลหรือหน่วยงานที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เฉพาะทางกับเครือข่ายบล็อกเชน อุปกรณ์เหล่านี้มีความสามารถในการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง หากนักขุดที่มีปัญหาสามารถแก้สมการได้สำเร็จก่อน พวกเขาจะได้รับรางวัลบล็อก

  • รางวัลแต่ละบล็อกจะจ่ายทุกๆ 10 นาทีและมีจำนวน 6.25 BTC
  • ซึ่งลดลงจากรางวัลก่อนหน้านี้ที่ 12.5 BTC, 25 BTC และ 50 BTC
  • อย่างไรก็ตาม ตามราคาตลาด ณ เวลาที่เขียนบทความ รางวัลการขุดบิทคอยน์อยู่ที่ 6.25 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ $250,000

แม้ว่าอาจจะฟังดูมีกำไร แต่การขุดบิทคอยน์นั้นไม่ได้สร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนทั่วไปอีกต่อไป เพราะเพื่อที่จะมีโอกาสเป็นคนแรกที่แก้สมการบล็อก 10 นาทีได้ คุณจะต้องครอบครองเครื่องขุดบิทคอยน์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่มีราคาแพงเท่านั้น แต่ยังหาซื้อได้ยากอีกด้วย

การขุดบิทคอยน์คืออะไร?

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากนักขุดบิทคอยน์เชื่อมต่อกับบล็อกเชนตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ การทำเช่นนี้จึงใช้พลังงานจำนวนมาก ดังนั้น หากคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่ต้นทุนด้านพลังงานต่ำ คุณอาจพบว่ามันยากมากที่จะสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากการขุด แม้ว่าคุณจะมีฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นก็ตาม

นี่คือเหตุผลที่เว็บไซต์ขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดให้บริการขุดเหรียญในรูปแบบคลาวด์ กล่าวคือ ตอนนี้คุณสามารถขุดบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ จากระยะไกลโดยไม่จำเป็นต้องซื้อฮาร์ดแวร์พิเศษหรือใช้พลังงานจำนวนมาก เพียงกรณีฝากเงินเข้าไปมี่เว็บขุดและเลือกสัญญาของคุณได้เลย โดยการลงทุนในรูปแบบนี้จะช่วยให้คุณได้รับรายได้แบบพาสซีฟ

การขุดคริปโตทำงานอย่างไร?

ในส่วนข้างต้น เราได้อธิบายโดยย่อเกี่ยวกับพื้นฐานของวิธีขุด bitcoin ไปแล้ว ตอนนี้เราจะเจาะลึกลงไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้คุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าช่องทางการลงทุนแบบพาสซีฟนี้ทำงานอย่างไรก่อนที่จะลงเงินทุนด้วยเงินจริงๆ

การขุดบิทคอยน์แบบดั้งเดิม

ตามที่ระบุไว้ข้างต้น คุณคงไม่อยากมีส่วนร่วมกับกลยุทธ์การขุดบิทคอยน์แบบดั้งเดิม หรือ btc mining เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้คุณไม่สามารถขุดบิทคอยน์ฟรี หรือมองหาเว็บขุด bitcoin ฟรีได้

แม้ว่าคุณจะกระตือรือร้นที่จะสำรวจขั้นตอนการขุดคริปโตบนระบบคลาวด์ สิ่งสำคัญคือต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงกลไกการทำงานที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง ท้ายที่สุด เพื่อไม่ให้คุณต้องนำเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปเสี่ยงกับการสร้างรายได้จากเว็บขุดบิทคอยน์อย่างสูญเปล่า

  • ทุกๆ 10 นาที เครือข่ายบิทคอยน์จะขุดบล็อกใหม่
  • ภายในแต่ละบล็อกคือชุดธุรกรรมที่ดำเนินการภายใน 10 นาทีก่อนที่บล็อกดังกล่าวจะได้รับการตรวจสอบ
  • เมื่อบล็อกดังกล่าวได้รับการตรวจสอบแล้ว การทำธุรกรรมทั้งหมดภายในบล็อกที่เกี่ยวข้องจะได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง และจะถูกโพสต์ไปยังบัญชีแยกประเภทบิทคอยน์ ในภายหลัง

ก่อนที่จะสามารถยืนยันบล็อกได้ นักขุดจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรม

  • ขั้นตอนนี้ทำได้เมื่อคุณสามารถแก้สมการที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลา 10 นาที
  • มีเพียงนักขุดเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถไขบล็อกเฉพาะได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการแจกรางวัลเพียงรางวัลเดียวที่ 6.25 BTC

นี่ทำให้ระบบการขุดแบบดั้งเดิมนั้น รางวัลที่พวกเขาได้รับจะต้องสูงกว่าค่าไฟฟ้าพื้นฐานและค่าบำรุงรักษาที่ลงทุนไป

การขุดบิทคอยน์บนระบบคลาวด์

ผู้ให้บริการทั้งหมดจากรายชื่อเว็บขุดบิทคอยน์ชั้นนำของเรานั้นให้บริการแบบระยะไกลที่อำนวยความสะดวกผ่านระบบคลาวด์ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์พิเศษใดๆ

นอกเหนือจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คุณจะไม่ต้องใช้ไฟฟ้าใดๆ เมื่อทำการขุดบนระบบคลาวด์ เว็บขุดบนคลาวด์ที่คุณสมัครใช้งานจะมีอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นในการขุดของตนเองแทน

และในทางกลับกัน เมื่อคุณลงทุนเงินในสัญญาการขุดบนระบบคลาวด์ เท่ากับว่าคุณได้เช่าเปอร์เซ็นต์ของพลังการแฮชที่มีอยู่ซึ่งสร้างขึ้นจากสถานที่ขุดและโปรแกรมขุดบิทคอยน์

Cloud Mining Bitcoin

ยกตัวอย่างง่ายๆ หากคุณลงทุน 1% ในแพลตฟอร์มการขุดบิทคอยน์ และอุปกรณ์นั้นทำกำไรได้ 10,000 ดอลลาร์ในวันเดียว คุณจะได้รับ 100 ดอลลาร์

ในกรณีส่วนใหญ่ รางวัลการขุดจะจ่ายให้คุณทุก 24 ชั่วโมง สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถลงทุนใหม่ในสัญญาการขุดอีกฉบับหนึ่งได้ ซึ่งทำให้เกิดการเติบโตของกำไรแบบทบต้น

นอกจากนี้ คุณควรทราบว่าบริษัทขุดบิทคอยน์ส่วนใหญ่ต้องการให้คุณซื้อสัญญาที่มีระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม บางแพลตฟอร์มเสนอเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่า แต่ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ไม่ค่อยดีเช่นกัน

การขุดบิทคอยน์ทำกำไรได้จริงหรือไม่?

การขุดบิทคอยน์แบบดั้งเดิมไม่สามารถสร้างผลกำไรให้กับนักลงทุนทั่วไปได้อีกต่อไป สิ่งสำคัญคือเพราะระบบการขุดนั้นถูกครอบครองโดยกลุ่มผู้ขุดบิทคอยน์ขนาดใหญ่ ซึ่งหลายแห่งตั้งอยู่ในประเทศจีน

จากที่กล่าวมา คุณสามารถทำกำไรได้เมื่อคุณลงทุนในเว็บขุดบิทคอยน์บนคลาวด์ ในกรณีส่วนใหญ่ ผู้ให้บริการจะแจ้งให้คุณทราบผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนของคุณในรูปแบบเปอร์เซ็นต์

ผู้ให้บริการบางรายก้าวไปอีกขั้นด้วยการแจ้งให้คุณทราบว่าคุณจะทำเงินเป็นดอลลาร์ได้จำนวนเท่าไรในแต่ละวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน

  • อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจำไว้ว่าความสามารถในการทำกำไรจากการขุดนั้นขึ้นอยู่กับมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลเป็นส่วนใหญ่
  • ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเห็น ROI ที่เว็บขุดบิทคอยน์ มูลค่าของ ROI นี้จะอิงตามผลตอบแทนที่ได้รับเป็นเหรียญคริปโต
  • ซึ่งหมายความว่าการลงทุนมูลค่า 1 BTC โดยที่มีผลตอบแทน 10% คุณจะได้รับรางวัลการขุดจะมีมูลค่า 0.10 BTC
  • ในปัจจุบัน หากมูลค่าของคริปโตเคอเรนซี่ลดลงเป็นจำนวนมาก ความพยายามในการขุดเหรียญของคุณอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้

และด้วยเหตุผลนี้ เราขอยืนยันว่ามีวิธีที่ดีกว่ามากในการรับรายได้แบบพาสซีฟจากการลงทุนคริปโตเคอเรนซี่ของคุณ ซึ่งเราจะกล่าวถึงรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลังในบทความนี้

ต้นทุนของการขุดคริปโต

เมื่อลงทุนเงินที่เว็บขุดบิทคอยน์ จะมีค่าใช้จ่ายมากมายที่สะสมอยู่เบื้องหลัง ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายของ:

  • การซื้ออุปกรณ์ ASIC จำนวนมากที่จำเป็นเพื่อให้มีโอกาสตรวจสอบความถูกต้องของบล็อก
  • ค่าไฟฟ้าจำนวนมากเพื่อให้เหมืองขุดคริปโต ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
  • ค่าการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
  • ค่าใช้จ่ายภายในที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกต่อบัญชี การฝาก และการถอนเงิน

แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ รวมถึงการเช่าเครื่องขุดบิทคอยน์จะถูกส่งต่อไปยังคุณในฐานะลูกค้าของเว็บไซต์ ข่าวดีก็คือเว็บขุดบิทคอยน์ที่ดีที่สุดที่เราแนะนำนั้นระบุต้นทุนเหล่านี้รวมอยู่ใน ROI ของสัญญาที่เกี่ยวข้อง

ด้วยเหตุนี้ คุณจึงทราบแน่ชัดว่าคุณจะได้เงินเท่าไรจากการลงทุนขุดของคุณ

ค่าธรรมเนียมอื่นที่ต้องคำนึงถึงคือค่าเสียโอกาสในการล็อคเหรียญของคุณไว้ในสัญญาการขุด ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ คุณมักจะต้องซื้อสัญญาขุดเป็นระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ในช่วงเวลานี้ คุณอาจไม่สามารถถอนเหรียญของคุณได้

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2022 นิวยอร์กได้ผ่านร่างกฎหมายเพื่อห้ามการดำเนินการขุดบิทคอยน์ หากพวกเขาไม่ใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม กฏหมายนี้อาจถูกคัดค้านได้ และรัฐอื่นๆ ของสหรัฐฯ เช่น เท็กซัส ก็มีท่าทีที่เป็นมิตรกับการขุดบิทคอยน์

จะเริ่มขุดบิทคอยน์ได้อย่างไร?

หากคุณมั่นใจว่าการขุดบนคลาวด์เหมาะกับคุณและต้องการเริ่มรับรายได้แบบพาสซีฟตั้งแต่วันนี้ คำแนะนำต่อไปนี้ของเราจะช่วยให้แนะนำคุณในการสมัครและใช้งาน Shamining ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขุดชั้นนำ

ขั้นตอนที่ 1: เปิดบัญชี Shamining

ขั้นตอนแรกคือไปที่เว็บไซต์ Shamining (ปัจจุบันหยุดให้บริการแล้ว) และคลิกที่ปุ่ม ‘ลงทะเบียน’

สมัครสมาชิก Shamining

จากนั้นคุณจะต้องป้อนชื่อและนามสกุล ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และรหัสผ่านที่เลือก

ขั้นตอนที่ 2: ฝากเงิน

ต่อไป คุณจะถูกขอให้ทำการฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ เงินฝากขั้นต่ำที่ Shamining คือ 250 ดอลลาร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ฝากเงินเพียงพอเพื่อให้ครอบคลุมสัญญาการขุดบิทคอยน์ ที่คุณต้องการลงทุน

โปรดทราบว่าหากคุณวางแผนที่จะฝากเงินด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต คุณจะต้องอัปโหลดข้อมูลยืนยันตัวตนบางอย่าง แต่หากฝากเงินด้วยคริปโต คุณจะไม่ต้องทำขั้นตอนนี้

ขั้นตอนที่ 3: เลือกสัญญาการขุดบิทคอยน์

ตอนนี้เมื่อคุณมีเงินในบัญชี Shamining แล้ว คุณจะต้องเลือกสัญญาที่คุณต้องการลงทุน

วิธีใช้ Shamining

หากคุณไม่แน่ใจว่าสัญญาใดดีที่สุดสำหรับคุณ Shamining ขอเสนอเครื่องคำนวณที่มีประโยชน์ เมื่อคุณเลือกสัญญาที่เหมาะสมแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม ‘ซื้อ’ และยืนยันการลงทุน

ขั้นตอนที่ 4: รับรายได้แบบพาสซีฟ

ทันทีที่คุณยืนยันสัญญาการขุดผ่านบัญชี Shamining คุณจะเริ่มรับรายได้โดยอัตโนมัติ โดยบิทคอยน์ที่คุณได้รับจะถูกฝากเข้าบัญชีของคุณ

คุณสามารถขอถอนเงินได้ตลอดเวลา โดยนักลงทุนบางรายจะใช้ผลตอบแทนที่ได้รับไปซื้อสัญญาใหม่ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการได้รับประโยชน์จากการเติบโตแบบทบต้น

การขุดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้ด้วยคริปโตหรือไม่?

เราได้อธิบายสั้นๆ ก่อนหน้านี้ว่าในภาพรวมของการลงทุนอะไรดี มีวิธีที่ดีกว่ามากในการรับรายได้แบบพาสซีฟจากคริปโตเมื่อเทียบกับการขุดบิทคอยน์ เหตุผลก็คือ

  • เมื่อคุณลงทุนผ่านเว็บเว็บขุดบนคลาวด์ มูลค่า ROI ของคุณจะขึ้นอยู่กับมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่
  • หากมูลค่าตลาดลดลง แสดงว่าคุณอาจขาดทุน นอกจากนี้ และที่สำคัญที่สุดคืออุตสาหกรรมการขุดลิทคอยน์บนระบบคลาวด์ของบิทคอยน์นั้นเต็มไปด้วยแพลตฟอร์มที่หลอกลวง เช่น เว็บที่โฆษณาว่าสามารถขุดบิทคอยน์ฟรี ถอนได้ โดยไม่มีขั้นต่ำ รวมถึงแจก bitcoin เยอะ
  • ในหลายกรณี เว็บขุดจะเป็นเพียงส่วนหน้าในการหลอกลวงให้คุณฝากคริปโต และเมื่อคุณฝากไปแล้ว คุณก็จะถูกขโมยเหรียญไปเลย

นี่คือเหตุผลที่เราชอบบัญชีออมทรัพย์คริปโตที่ให้บริการโดยแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง เช่น Crypto.com, Aqru และ BlockFi แพลตฟอร์มดังกล่าวมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านนี้และช่วยให้คุณได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเหรียญคริปโตของคุณ โดยมีข้อเสนอผลตอบแทนและเงื่อนไขการล็อคเหรียญที่หลากหลาย

Aqru

เช่น Aqru ให้คุณรับผลตอบแทน 7% ต่อปีจากการฝากบิทคอยน์และ Ethereum ในสภาพแวดล้อมที่มีการกำกับดูแล

ยิ่งไปกว่านั้น บัญชีดอกเบี้ยคริปโตของ Aqru ไม่มีเงื่อนไขการล็อคเหรียญ ดังนั้นคุณจึงสามารถขอถอนเหรียญได้ทุกเมื่อที่เห็นสมควร

Crypto.com เสนอผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 14.5% โดยจำนวนผลตอบแทนที่เฉพาะเจาะจงจะขึ้นอยู่กับเหรียญที่คุณต้องการฝากและระยะเวลาล็อคเหรียญที่คุณพอใจ Crypto.com เปิดโอกาสให้คุณเพิ่มผลตอแทนของคุณโดยการ Stake เหรียญ CRO ซึ่งเป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์ม

ไปที่ Aqru ตอนนี้

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแลที่มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

บทสรุป

การขุดบิทคอยน์นั้นไม่สามารถทำกำไรได้อีกต่อไปสำหรับนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากต้นทุนที่สูงมากที่เกี่ยวข้องกับการซื้อฮาร์ดแวร์ ASIC และการใช้พลังงานจำนวนมาก

จากที่กล่าวมา เว็บขุดบนคลาวด์ได้เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนที่มีงบประมาณจำกัด เพราะไม่มีข้อกำหนดในการต้องซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์พิเศษใดๆ

อย่างไรก็ตาม เว็บขุดบนคลาวด์จำนวนมากไม่ได้เป็นเพียงการหลอกลวงว่าเป็นเว็บขุดเหรียญฟรี แต่คุณยังอาจขาดทุนได้หากมูลค่าของเหรียญที่คุณขุดลดลง

นี่คือเหตุผลที่เราชอบผู้ให้บริการบัญชีคริปโต เช่น Aqru แพลตฟอร์มนี้เสนอผลตอบแทนต่อปีที่ 7% สำหรับบิทคอยน์และ Ethereum และ 12% สำหรับ Stablecoins โดยไม่มีเงื่อนไขในการล็อคเหรียญ

ไปที่ Aqru ตอนนี้

คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแลที่มีความผันผวนสูง ไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย

Categories
Bitcoins Crypto News คู่มือ DeFi สำหรับมือใหม่ คู่มือคริปโต

จัดอันดับ 7 เหรียญ DeFi ที่ดีที่สุด 2023 มาแรง น่าสนใจ [ยอดนิยม!]

บริการทางการเงินแบบ decentralized (DeFi) กำลังจะกลายเป็นกระแสในตลาดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่และเทคโนโลยีบล็อกเชน

พูดง่ายๆก็คือ Defi เป็นบริการทางการเงิน เช่น การให้สินเชื่อ บัญชีออมทรัพย์ และการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่าง ธนาคาร

บทความนี้เราจะวิเคราะห์ว่าเหรียญ DeFi เหรียญไหนดีที่สุดในปี 2023 เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่วงการการเงินแบบ decentralized ในช่วงเริ่มต้น

เหรียญ DeFi น่าซื้อในปี 2023

แม้ตอนนี้ตลาดการเงินแบบ decentralized จะมีหลายร้อยโปรเจกต์ แต่เราได้นำ 7 เหรียญ DeFi ยอดนิยมมาไว้ในลิสด้านล่างนี้แล้ว

  1. Fight Out – เหรียญ Defi อันดับต้น ๆ ที่จะซื้อเพื่อรับรางวัลโทเค็นเพิ่มเติมมากถึง 50%
  2. C+Charge – เหรียญ Green Crypto ที่จะให้รางวัลแก่เจ้าของ EV ด้วยคาร์บอนเครดิต
  3. RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse มาใหม่ ให้รางวัล P2E ที่น่าตื่นเต้น
  4. Tamadoge – เหรียญ DeFi โดยรวมที่ดีที่สุด
  5. Battle Infinity – เหรียญ DeFi มาแรง 
  6. Lucky Block – เหรียญ DeFi ยอดนิยมที่มาพร้อมระบบรางวัล
  7. DeFi Coin – เหรียญ DeFi ยอดนิยมแห่งปี 2023

โปรดอ่านต่อว่าทำไมเราถึงเชื่อมั่นว่าคริปโต DeFi ในลิสด้านบนเป็นเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุด

เราจะแสดงวิธีการซื้อเหรียญคริปโตแบบมีค่าธรรมเนียมต่ำ โดยการใช้กระดานแลกเปลี่ยน DeFi ที่ดีที่สุดแห่งปี 2023

ไปยังเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดตอนนี้

มาเจาะลึกกับโทเค็น DeFi ที่น่าลงทุนที่สุดกัน

การที่จะเลือกเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดหรือเหรียญ DEX (เหรียญหลักของกระดานแลกเปลี่ยน DeFi) ลงพอร์ตการลงทุนของคุณ คุณต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในปัจจุบัน
  • โอกาสในการเติบโต
  • ผลตอบแทนในอดีต
  • จุดประสงค์และเป้าหมายการพัฒนา
  • ราคาโทเค็น
  • กระดานเทรดที่มีโทเค็นนั้นๆ

ในขณะที่คุณกำลังพิจารณาตัวเลือกต่างๆ คุณต้องคำนึงถึงCryptocurrency ที่ถูกประเมินค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเหรียญเหล่านี้มักจะมีโอกาสในการเติบโตแบบก้าวกระโดด

โปรดคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ ในส่วนล่าง จะเป็นการวิเคราะห์เหรียญจากการจัดอันดับ DeFi น่าสนใจแห่งปี 2023

1. Fight Out – เหรียญ Defi อันดับต้น ๆ ที่จะซื้อเพื่อรับรางวัลโทเค็นเพิ่มเติมมากถึง 50%

Fight Out เป็นแอพฟิตเนสแนว Move-to-Earn และเชนโรงยิมสุดพิเศษที่นำเสนอลักษณะเฉพาะ แอปที่ไม่เหมือนใครให้รางวัลแก่ผู้ใช้เมื่อออกกำลังกายเสร็จไปพร้อมๆกับเพิ่มความแข็งแรงของอวตาร์ใน Metaverse

ด้วยกระแสที่เพิ่มขึ้นของโครงการจากการขายรอบพรีเซลในปัจจุบันพร้อมกับคุณสมบัติขั้นสูงสามารถทำให้ Fight Out เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ให้ผลกำไรสูงสุดสำหรับการลงทุน ในขณะที่เขียน โทเค็นหลัก $FGHT ของ Fight Out สามารถซื้อได้ในราคาเพียง $0.02368

โดยรวมแล้ว ผู้ใช้แอปนี้มีศักยภาพที่จะได้รับรางวัลมากมายจากการออกกำลังกายประจำวัน พิชิตชาเลนจ์ต่างๆด้านฟิตเนส และชาเลนจ์อื่นๆ ในแอป

โปรเจกต์นี้ยังสร้าง metaverse สำหรับผู้ใช้ในขณะเดียวกันก็เล่นเกมฟิตเนสและไลฟ์สไตล์ ที่น่าสนใจคือ ผู้ใช้สามารถเลือกสร้างอวาตาร์ NFT ที่มีจิตวิญญาณของตนเองในเมตาเวิร์สที่ไม่เหมือนใครของแพลตฟอร์มได้ อวาตาร์เหล่านี้จะเพิ่มสัดส่วนโดยตรงกับประสิทธิภาพการออกกำลังกายในชีวิตจริงของผู้ใช้ นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถแข่งขันกับสมาชิกชุมชนคนอื่นๆ ใน metaverse ของ FightOut

FightOut ได้สร้างสกุลเงินในแอปนอกเครือข่ายที่เรียกว่า REPS โดยพื้นฐานแล้ว ผู้ใช้สามารถรับ REPS เหล่านี้เป็นรางวัลสำหรับการบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกาย ยิ่งไปกว่านั้น สกุลเงินนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากตลาดของ FightOut ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อของตกแต่ง NFT หลายรายการสำหรับอวาตาร์ ส่วนลดสำหรับสมาชิก สินค้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน

นักลงทุนสามารถอ่านเอกสารข้อมูลของ FightOut เพื่อทำความเข้าใจคุณลักษณะของโครงการในเชิงลึก

โทเคโนมิกส์ $FGHT

$FGHT เป็นโทเค็นหลักที่มีอุปทานจำกัดของ FightOut โดยมีขีดจำกัดอยู่ที่ 10 พันล้านโทเค็น จากโทเค็นเหล่านี้ 90% ของโทเค็นเหล่านี้สามารถซื้อได้ผ่านขั้นตอนการขายพรีเซลของโครงการ

ผู้ซื้อสามารถใช้โทเค็นเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันและลีกต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ $FGHT เพื่อปลดล็อกโหมดเกมและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ได้อีกด้วย อีกกรณีการใช้งานที่สำคัญของ $FGHT คือสามารถใช้ซื้อ REPS เพิ่มได้ ผู้ซื้อที่ใช้โทเค็นเหล่านี้เพื่อซื้อ REPS จะได้รับ REPS เพิ่มเติม 25%

ประสิทธิภาพการขายรอบพรีเซล & โบนัสการซื้อ

ในขณะที่เขียน FightOut ประสบความสำเร็จอย่างมากในการขายรอบพรีเซลในขณะที่สามารถระดมทุนได้มากกว่า 3 ล้าน USDT ภายในไม่กี่วันหลังจากเปิดตัวก่อนการขายครั้งแรก นักลงทุนที่เลือกซื้อโทเค็นในช่วงพรีเซลสามารถรับโทเค็น $FGHT เพิ่มอีก 50% เป็นรางวัล

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังมีสิทธิ์ได้รับโบนัสการซื้อ เมื่อทำการซื้อในช่วงพรีเซลล์ พวกเขาสามารถรับโบนัสเริ่มต้นที่ 10% และต้องการเงินลงทุนเพียง 500 ดอลลาร์โดยได้รับสิทธิ 6 เดือน ผู้ใช้จะได้รับรางวัลสมาชิกเมื่อนักลงทุนทำการ stake โทเค็น $FGHT มากขึ้นหรือ stake เป็นเวลานานขึ้น

ผู้ซื้อสามารถเข้าร่วมกลุ่ม telegram ของ FightOut เพื่อรับทราบความคืบหน้าของโครงการอยู่เสมอ

เริ่มต้นขายพรีเซล14 ธันวาคม
วิธีชำระเงินETH, USDT
เชนEthereum
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง FightOut ตอนนี้

2. C+Charge – เหรียญ Green Crypto ที่จะให้รางวัลแก่เจ้าของ EV ด้วยคาร์บอนเครดิต

C+Charge ได้สร้างระบบการชำระเงินการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ EV ได้รับคาร์บอนเครดิตเมื่อเติมพลังให้กับรถยนต์ของตน

โครงการนี้ได้รับความสนใจจากผู้ใช้อย่างรวดเร็ว โดยระดมทุนได้มากกว่า $1.2 ล้าน USDT ในช่วงเวลาสั้นๆ ในขณะนี้ โทเค็น $CCHG สามารถซื้อได้ในราคาเพียง 0.016 USDT ผู้ซื้อควรพิจารณาลงทุนใน $CCHG เนื่องจากคาดว่าราคาโทเค็นจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.0235 USDT ในขั้นตอนการขายพรีเซลรอบถัดๆไป

C+Charge is a promising altcoin to buy

โครงการนี้ได้สร้างระบบปฏิวัติที่ให้รางวัลแก่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้โทเค็น $CCHG ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแพลตฟอร์มเป็นวิธีการชำระเงินสำหรับการชาร์จรถยนต์ ผู้ขับขี่ EV จะได้รับคาร์บอนเครดิต เครดิตเหล่านี้และโทเค็น $CCHG สามารถจัดเก็บอย่างปลอดภัยในกระเป๋าเงินดิจิตอลของผู้ใช้เพื่อใช้ในอนาคต

นอกเหนือจากการรับคาร์บอนเครดิตแล้ว แอปของ C+Charge ยังมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย แอพนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามยอดคาร์บอนเครดิตได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลตามเวลาจริง เช่น เวลารอที่สถานีชาร์จ ราคาที่โปร่งใส และรายละเอียดที่สำคัญอื่นๆ เพื่อช่วยให้ประสบการณ์การชาร์จเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แอพที่ไม่เหมือนใครของแพลตฟอร์มนี้ยังมีคุณสมบัติระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถค้นหาสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดได้อย่างง่ายดาย คุณลักษณะต่างๆ ของแอปได้รับการอธิบายอย่างละเอียดในเอกสารข้อมูลของโครงการ ทำให้ผู้ใช้มีความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับสิ่งที่นำเสนอ

$CCHG ของ C+Charge เป็นโทเค็นที่ใช้ Binance Smart Chain ซึ่งมีอุปทานจำกัดที่ 1 พันล้านเหรียญ ในขั้นตอนการขายรอบพรีเซลของโครงการ 40% ของการจัดสรรโทเค็นทั้งหมดพร้อมให้ซื้อ แง่มุมที่น่าสนใจของโทเค็น $CCHG ก็คือ โทเค็นเหล่านี้จะถูกนำออกจากการหมุนเวียนและถูกลบออกจากระบบนิเวศของ C+Charge เมื่อนำไปใช้ในการชำระเงินที่สถานีชาร์จ EV ราคาพรีเซลล์ปัจจุบันต่อโทเค็นคือ 0.013 USDT นักลงทุนสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดได้โดยเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของ C+Charge

เริ่มต้นขายพรีเซล16 ธันวาคม
วิธีชำระเงินBNB, USDT, Transak
เชนBinance
ลงทุนขั้นต่ำไม่ระบุ
ลงทุนสูงสุดไม่ระบุ

ไปยัง C+Charge พรีเซลตอนนี้

3. RobotEra – เหรียญคริปโต Metaverse มาใหม่ ให้รางวัล P2E ที่น่าตื่นเต้น

RobotEra เป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นที่รวมโลกเสมือนจริงเข้ากับโอกาสสำหรับผู้ใช้ในการรับรางวัลภายในระบบนิเวศ แพลตฟอร์มดังกล่าวใช้ประโยชน์จากพลังของบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่น่าดึงดูดใจให้กับผู้ใช้ ผู้เล่นยังสามารถจัดการและขยายสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาในขณะที่ช่วยสร้างโลกใหม่ผ่านการเล่นเกมของ RobotEra

แพลตฟอร์มดังกล่าวดึงดูดความสนใจอย่างมากในหมู่ผู้ใช้และนักลงทุน โดยโครงการระดมทุนได้เกือบ $728,000 USDT ในช่วงพรีเซลล์ที่ 1 อย่างต่อเนื่อง คาดว่าโทเค็นหลักของโครงการ $TARO จะเพิ่มขึ้นโดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น $0.025 USDT ในรอบพรีเซลถัดไป นักลงทุนที่สนใจซื้อโทเค็น $TARO ควรรีบพิจารณาเข้าลงทุน

RobotEra Presale Page

RobotEra นำเสนอแพลตฟอร์มที่ไม่เหมือนใครซึ่งช่วยให้บุคคลสามารถสร้าง หมุนเวียน และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในชุมชน NFT ต่างๆ โปรเจกต์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างโลกเสมือนจริงที่ผสมผสานแง่มุมต่างๆ ของความบันเทิง ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม จินตนาการ และการค้นพบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

แพลตฟอร์มของ RobotEra ไม่เพียงแต่ให้ผู้ใช้นำทางไปยังอาณาจักรเสมือนจริงหลายแห่งเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมายให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินอีกด้วย ซึ่งอาจรวมถึงการเยี่ยมชมสวนสนุกเสมือนจริง สัมผัสกับพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงขั้นสูง และโอกาสการมีส่วนร่วมอื่นๆ ภายในระบบนิเวศของ RobotEra เป้าหมายสูงสุดของแพลตฟอร์มคือการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ครอบคลุมและดื่มด่ำซึ่งดึงดูดผู้คนหลากหลายกลุ่ม

บน RobotEra ผู้ใช้มีหลายวิธีในการหารายได้เพิ่มเติม ผู้เล่นสามารถเพิ่มรายได้โดยการซื้อขาย NFT  หรือ stakingโทเค็นของแพลตฟอร์ม จัดการอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง และเข้าร่วมในกิจกรรมการขุด

ประสิทธิภาพการขายรอบพรีเซลของ $TARO

ในช่วงการขายพรีเซลของ RobotEra ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีการขายโทเค็นกว่า 36 ล้านโทเค็นจากเป้าหมาย 90 ล้านโทเค็น ปัจจุบัน โทเค็น $TARO สามารถซื้อได้ในราคาค่อนข้างต่ำที่ $0.02 USDT

บุคคลที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณลักษณะและความสามารถของ RobotEra สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารข้อมูลของโครงการ ทางทีมงานทำการอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอโดยเข้าร่วมกลุ่ม Telegram

ไปยัง RobotEra ตอนนี้

4. Meta Masters Guild – เหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดเพื่อรับรางวัล P2E ชั้นนำของอุตสาหกรรม

MMG logo

Meta Masters Guild (MMG) มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติโลกของเกม crypto โดยมอบโอกาสให้ผู้เล่นได้รับเงินในโลกแห่งความเป็นจริงผ่านกิจกรรมในเกม

Meta Masters Guild (MMG) ได้เปิดตัวระบบที่ให้รางวัลแก่ผู้เล่นด้วย “Gems” ซึ่งเป็นสกุลเงินในเกมภายใน MMG ซึ่งสามารถแปลงเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม $MEMAG โทเค็นเหล่านี้สามารถลงทุนในระบบนิเวศของเกมหรือแลกเป็นเงินจริง สิ่งจูงใจที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้กระตุ้นให้ผู้เล่นลงทุนเวลาและทรัพยากรของตนในเกม ส่งเสริมการขยายตัวและความเจริญรุ่งเรือง

MMG มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวจะลดความซับซ้อนของกระบวนการพัฒนาเกมและลดความซับซ้อนของ web 3.0 ที่ซับซ้อนออกไป ทำให้ตัวเกมเข้าใจง่ายและสนุกสนานสำหรับผู้เล่นที่หลากหลาย ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตในระยะยาวของแพลตฟอร์ม

MMG ให้บริการเกมที่หลากหลายแก่ผู้เล่นซึ่งพวกเขาสามารถรับ Gems ซึ่งเป็นสกุลเงินในเกมที่มีค่าซึ่งสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ผู้เล่นสามารถใช้ Gems ของพวกเขาเพื่อซื้อ NFT พิเศษในเกม แลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ แปลงเป็นโทเค็น $MEMAG และรับสิ่งจูงใจอื่นๆ

ตลาดดิจิทัลของ MMG ช่วยให้ผู้เล่นได้รับ NFT ที่เล่นได้ไม่เหมือนใคร เกมสามารถเชื่อมโยงกับกระเป๋าเงินดิจิตอลของผู้เล่น ทำให้ผู้เล่นสามารถใช้ NFT ในเกมได้

นอกจากนี้ โปรเจ็กต์นี้ยังมอบโอกาสให้ผู้เล่นได้รับ NFT, โทเค็น และรางวัลอื่นๆ ผ่านการมีส่วนร่วมและมีส่วนร่วมในชุมชนออนไลน์ของโครงการ

meta masters guild

MMG ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้พัฒนาเกมหลายรายเพื่อขยายสถานะในอุตสาหกรรมเกม ด้วยเหตุนี้ แพลตฟอร์มจึงได้เชิญนักพัฒนาเกมให้สร้างเกมโดยใช้โทเค็นหลักอย่าง $MEMAG นักลงทุนที่สนใจในการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้มากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของแพลตฟอร์มสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก litepaper ของ MMG

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Meta Masters Guild เสร็จสิ้นการขายล่วงหน้าโดยระดมทุนได้ 4.97 ล้านดอลลาร์ นักลงทุนสามารถเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของโครงการเพื่อติดตามข่าวสารล่าสุด

ไปยัง Meta Masters Guild ตอนนี้

5. Tamadoge – เหรียญ DeFi โดยรวมที่ดีที่สุด

ไม่บ่อยนักที่นักลงทุนจะเจอเหรียญอย่าง Tamadoge ที่ให้ทั้งยูทิลิตี้และเปิดโอกาสในการได้รับรางวัล การเงินแบบ decentralized จะสามารถทำธุรกรรมแบบ peer-to-peer (บุคคลถึงบุคคล) โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ซึ่ง Tamadoge เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เล่นเกมและสร้างรายได้เป็นเหรียญคริปโต

ในการเข้าเล่น ผู้ใช้ต้องซื้อ NFT สัตว์เลี้ยงเสมือนจริงใน Tamaverse ก่อน ผู้ใช้จึงจะสามารถให้อาหารและเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น ผู้เล่นที่เอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของพวกเขามากที่สุดจะถูกจัดให้อยู่ในอันดับสูงบนกระดานผู้นำซึ่งจะได้รับรางวัลมากที่สุด รางวัลจะถูกมอบเป็นเหรียญ Tamadoge แต่ผู้เล่นสามารถนำไปขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสกุลอื่นได้

tamadoge เหรียญ defi ที่ดีที่สุด

ผู้พัฒนามีแผนมากมายในการพัฒนาตัวเกม การพัฒนาอย่างนึงของเกมคือการผสานรวมกับโลกแห่ง Metaverse และพัฒนาแอป augment reality นี่เป็นเหตุผลที่ Tamadoge ใช้โทเค็น ERC-20 ดังนั้นนักพัฒนาของ Tamadoge จึงวางแผนที่จะเพิ่มเหรียญลงในกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized หลังการพรีเซลล์ 

ราคา TAMA พุ่งขึ้นเกือบ 2,000% จากราคาขายรอบพรีเซลในช่วงต้นหลังจาก IEO และคาดว่าจะได้รับกำไรมากขึ้นในสัปดาห์และเดือนที่จะถึงนี้

หัวใจหลักที่ทำให้เหรียญนี้แตกต่างคือ นักพัฒนากำลังเผาเหรียญ 5% ของเหรียญทั้งหมดที่ถูกใช้ไปบนแพลตฟอร์ม หมายความว่าอุปทาน 2 พันล้านเหรียญจะลดลง ทำให้เหรียญหายากขึ้น การทำแบบนี้จะทำให้ราคาเหรียญเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์

โครงการเพิ่งขาย NFT หายาก 100 ตัวแรกบน OpenSea จนหมด ระดมทุนได้มากกว่า 250ETH ด้วยคอลเลคชันที่ได้รับความนิยมในตลาด

โดย Tamadoge NFTs อีก 21,000 ตัวจะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะที่ผู้พัฒนาเปิดเผยภาพหน้าจอที่น่าดึงดูดใจของเกมอาร์เคด Enter the Tamadoge

ด้วยคาดว่าจะมีการลิสบนกระดานแลกเปลี่ยนมากขึ้นในไม่ช้า ซึ่ง TAMA ถือว่ามีโอกาสมากมายให้เติบโต

ไปยัง Tamadoge ตอนนี้

6. Battle Infinity – เหรียญ DeFi มาแรง

การวิเคราะห์โทเค็น IBAT ของเกม Battle Infinity และนำมาเทียบกับเหรียญ DeFi อื่นๆ ทำให้เรารู้ได้ทันทีว่านี่เป็นเหรียญ DeFi อันดับ 1 นักพัฒนาผสานโลกเสมือนเข้ากับองค์ประกอบเกมเพื่อสร้าง 6 แพลตฟอร์มในการสร้างรายได้แก่ผู้ใช้ ผู้เล่นสามารถสำรวจโลก Metaverse, รวมทีมและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นอื่นได้

Battle Arena เป็นแพลตฟอร์มแข่งขันที่ผู้เล่นต้องสวมแว่น VR ที่มีอวาตาร์สุดพิเศษ เสื้อผ้า และไอเทมอื่นๆ ผ่านการเก็บสะสมใน Battle Market ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จาก Battle Stake โดยการแข่งขันเพื่อรับรางวัลที่มากที่สุดกับผู้เล่นอื่น ผู้เล่นสามารถได้รับรางวัลจาก global staking pool ที่จะเก็บค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมและแบ่งให้กับผู้ถือโทเค็น IBAT 

ibat battle infinity

เหรียญ IBAT เป็นโพรโตคอล BEP-20 ที่อยู่บนเครือข่าย Binance Smart Chain ที่ใช้ในการสร้างรายได้และโฆษณาผ่านป้ายโฆษณาในระบบนิเวศของแพลตฟอร์ม การถือเหรียญเอาไว้จะทำให้ผู้เล่นสร้างแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานไปกับประสบการณ์การเล่นเกมมากขึ้น โดยการพรีเซลล์สิ้นสุดในเวลาเพียง 24 วัน จากอุปสงค์ทะลุเพดานของเหรียญ IBAT 

หลังจากโทเค็นถูกลิสบน PancakeSwap ราคาก็พุ่งขึ้นกว่า 700% จากราคาพรีเซลล์ ด้วยมูลค่าตามตลาดที่ 60 ล้านดอลลาร์ ต่อไปเหรียญ IBAT จะถูกลิสบน LBank ในวันที่ 26 สิงหาคม ตามมาด้วยกระดานแลกเปลี่ยนอื่นๆ ที่กำลังต่อคิว 

ผู้เล่นสามารถติดตามข่าวสารเกมผ่านกลุ่ม Telegram โดยศักยภาพของแพลตฟอร์มจะทำให้เหล่านักลงทุนหันมาสนใจ และลงทุนตามมา

ไปยัง Battle Infinity ตอนนี้

7. Lucky Block – เหรียญ DeFi ยอดนิยมที่มาพร้อมระบบรางวัล

โปรเจกต์ Lucky Block ถูกก่อตั้งในปลายปี 2021 เป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมคริปโตและการแข่งขันแบบ NFT ระบบนิเวศของ Lucky Block โดดเด่นกว่าการจับรางวัลทั่วไป โดยผลการเล่นจะเป็นแบบ decentralized และมีความโปร่งใสมากกว่า

ในการเป็นแพลตฟอร์มแบบ decentralized เกม Lucky Block จะดำเนินการผ่านสัญญาอัจฉริยะ ถ้าคุณพอจะทราบว่าระบบสัญญาอัจฉริยะทำงานอย่างไร คุณจะรู้ว่าโค้ดที่เขียนขึ้นจะไม่สามารถถูกดัดแปลงหรือแก้ไขได้

Lucky Block

ผู้เล่น Lucky Block จะสามารถมั่นใจได้ว่าผลการเล่นจะถูกสุ่มอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น Lucky Block ดำเนินการบน Binance Smart Chain หมายความว่าผู้เล่นจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงเกมต่างๆ บนแพลตฟอร์มได้

โทเค็น Lucky Block ได้เปิดพรีเซลล์ในเดือนมกราคม 2022 ด้วยเหตุนี้มูลค่าจึงเพิ่มถึง 5 ล้านดอลลาร์ และในช่วงสิ้นเดือนมกราคม โทเค็น Lucky Block V1 ก็ถูกลิสบน PancakeSwap ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลจากเกมที่ดีที่สุดแห่งปี

ในช่วงการพรีเซลล์ เหรียญ Lucky Block มีมูลค่าเพียง $0.00015 ตั้งแต่นั้นมา ราคาเหรียญบน CoinMarketCap ก็เพิ่มสูงขึ้นที่ $0.00961 ต่อโทเค็น หมายความว่าเหรียญมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 6,000% ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนหลังเปิดการซื้อขาย

โปรเจกต์ได้เปิดตัวโทเค็น V2 บน LBank และ MEXC โดยลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมจาก 12% ไปเป็น 0% ซึ่งราคาได้พุ่งสูงขึ้นกว่า 400% หลังถูกลิสบน MEXC ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม และคาดว่าจะพุ่งขึ้นอีกหลังถูกลิสบน Gate.io (กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตอันดับ 5) ในวันที่ 1 กันยายน

คุณยังมีโอกาสลงทุนในโปรเจกต์เป็นช่วงแรกๆ เพียงซื้อเหรียญ Lucky Block วันนี้

ไปยัง Lucky Block ตอนนี้

8. DeFi Coin – เหรียญ DeFi ยอดนิยมแห่งปี 2023

ชื่อ DeFi Coin นับว่าอยู่อันดับต้นๆ เมื่อพูดถึงเหรียญ decentralized ที่ดีที่สุด DeFi Coin เป็นโทเค็นคริปโตเคอเรนซี่ในภาคการเงินแบบ decentralized (DeFi) ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตัวโทเค็น DeFi Coin นี้คือเหรียญหลักในกระดานแลกเปลี่ยน DeFi Swap แบบ decentralized (DEX) ซึ่งบริการการแลกเปลี่ยน, stake และ yield farming โดย DeFi Swap มีอัตราดอกเบี้ย DeFi ที่ดีที่สุดสำหรับคนถือโทเค็น DEFC 

แม้ว่า DeFi Swap จะอยู่ในช่วงพัฒนานานหลายเดือน แต่ทีมงานก็ได้เตรียมให้เปิดให้ใช้งานในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้แล้ว โดยถูกคาดว่าราคาเหรียญ DeFi Coin (DEFC) จะพุ่งขึ้นกว่า 300% แม้ DEFC จะเป็นเหรียญหลักของกระดานเทรด แต่ตัวเหรียญก็มอบการใช้งานที่หลากหลายแบบอื่นมากมาย ซึ่งรวมไปถึงการให้ ‘รางวัลแบบคงที่’ แก่ผู้ถือ

defi coin เหรียญ DeFi ยอดนิยม มาแรง น่าสนใจ

รางวัลเหล่านี้ถูกมอบจากค่าธรรมเนียม 10% เมื่อมีคนซื้อหรือขายเหรียญ DeFi Coin ซึ่ง 50% จากจำนวนเงินที่รวบรวมได้จะถูกแจกจ่ายให้ผู้ถือ DEFC เป็นรางวัล ส่วน 50% ที่เหลือจะถูกดึงกลับไปที่  liquidity pools ของ DeFi Swap เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องโดยอัตโนมัติ

ทีมงาน DeFi Coin ได้เผาโทเค็นทั้งหมดทิ้งในช่วงการเปิดตัว เพื่อเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่ได้สร้างโปรเจต์นี้เพื่อจะมา ‘รวยแล้วชิ่ง’ ซึ่งพบได้บ่อยในโปรเจกต์อื่นๆ ด้วยลักษณะแบบนี้ DeFi Coin จึงได้รับความสนใจอย่างมีนัยสําคัญบนโลกโซเชียล โดยโทเค็นมีการเปิดให้ซื้อผ่านกระดานแลกเปลี่ยนชั้นนำอย่าง BitMart

เหรียญ defi ยอดนิยม เหรียญ defi มาแรง เหรียญ Decentralized

ทีมงาน DeFi Coin มีแผนการพัฒนามากมาย เช่น DeFi Swap V2 ซึ่งจะมีระบบวิเคราะห์เชิงเทคนิค การสัมมนาผ่านเว็บ ข่าว และอื่นๆ แอป DeFi Swap ก็เตรียมปล่อยให้ใช้งานภายในเดือนนี้ ซึ่งจะเต็มไปด้วยเนื้อหาความรู้ เมื่อรวมแผนการทั้งหมดกับการตัวเลขการเติบโตของกลุ่ม Telegram ทำให้ชัดเจนว่าเหรียญ DEFC เป็นหนึ่งในเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดที่คุณควรเพิ่มลงในพอร์ตการลงทุน 

ถ้าคุณกำลังมองหาการซื้อเหรียญ DeFi Coin วันนี้ คุณสามารถทำได้ผ่านการใช้แอป DeFi ที่ดีที่สุด หรือทำตามสี่ขั้นตอนฉบับรวดเร็วด้านล่าง

  • ขั้นที่ 1 – ติดตั้ง crypto wallet: ติดตั้งกระเป๋าเงินคริปโตที่เข้ากับ Binance Smart Chain (BSC) อย่างเช่น MetaMask
  • ขั้นที่ 2 – ซื้อเหรียญ BNB: ซื้อเหรียญ Binance (BNB) จากโบรกเกอร์หรือกระดานเทรดที่ผ่านการรับรอง
  • ขั้นที่ 3 – เชื่อมต่อ crypto wallet กับ DeFi Swap: ไปที่หน้าโฮมเพจของ DeFi Swap กด ‘เชื่อมต่อวอลเล็ต’ แล้วทำตามคำแนะนำเพื่อเชื่อมวอลเล็ตของคุณ
  • ขั้นที่ 4 – ซื้อเหรียญ DeFi Coin: เปลี่ยนเหรียญ BNB เป็น DEFC โดยใส่จำนวนเหรียญที่ต้องการแลก จากนั้นจึงยืนยันธุรกรรม

ซื้อ DeFi Coin ตอนนี้

เหรียญ DeFi คืออะไร?    

เหรียญ DeFi คือสกุลเงินดิจิทัลที่ทำหน้าที่ต่างๆ ให้กับโปรเจกต์บริการทางการเงินแบบ decentralized โดยไม่ผ่านตัวกลาง

เหตุผลที่แพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถดำเนินการโดยไม่ผ่านบุคคลที่สามก็คือ ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะถูกชำระเป็นเหรียญ decentralized เช่นโทเค็น YFI และ Aave ซึ่งคล้ายกันกับ Uniswap และ SushiSwap ที่ต่างก็ให้บริการเทรดแบบ decentralized โดยผู้ซื้อและผู้ขายสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นแบบ peer-to-peer (บุคคลถึงบุคคล) เราขอย้ำอีกครั้งว่าเหรียญ DeFi เหล่านี้ช่วยสนับสนุนให้แพลตฟอร์มดำเนินการได้

เหรียญ defi ที่ดีที่สุด เหรียญ defi ยอดนิยม เหรียญ defi มาแรง เหรียญ DeFi อันดับ 1 เหรียญ Decentralized จัด อันดับ DeFi defi เหรียญไหนดี เหรียญ defi น่าสนใจ

ต้นปี 2022 CoinMarketCap ระบุว่ามีเหรียญ DeFi มากกว่า 500 สกุลในตลาดตอนนี้ รวมถึงโทเค็น 1inch โดยเรื่องนี้ทำให้ยากที่จะตัดสินใจว่าเหรียญ DeFi ใดที่น่าซื้อ เมื่อพูดแบบนี้แล้ว หากคุณกำลังมองหาผลกำไรในตลาดการเงิน decentralized คุณต้องพิจารณาถึงหลายสิบโปรเจกต์มากมายที่แตกต่างกันมากเลยทีเดียว

อีกหนึ่งเหรียญ DeFi น่าสนใจก็คือ SafeMoon ซึ่งมีมูลค่าการตลาดถึง $312,507,033.02 บน CoinMarketCap.com คุณสามารถอ่านการคาดการณ์ราคา SafeMoon เพื่อเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมตอนนี้

เหรียญ DeFi เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?     

เหรียญ DeFi อาจเป็นการลงทุนที่ดีต่อพอร์ตของคุณได้ หากคุณกำลังมองหาการลงทุนในตลาดที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม เหรียญ DeFi ก็เหมือนกับสินทรัพย์คริปโตทั่วไปที่มีความผันผวนสูง เพราะเหตุนี้เราจึงแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลการลงทุนในโปรเจกต์ DeFi ที่ดีที่สุดให้ละเอียด

เริ่มด้วยการพิจารณาถึงเหตุผลหลักๆ ด้านล่าง:

การเติบโตของเหรียญ DeFi ในการลงทุน

ก่อนที่เราจะอธิบายถึงข้อมูลพื้นฐานหลักๆ เราต้องอธิบายก่อนว่าการลงทุนในเหรียญ DeFi ได้เติบโตขึ้นรวดเร็วแค่ไหน

  • เหรียญมากมายที่เราพูดถึงในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเหรียญ DeFi ใหม่ๆ ที่พึ่งมาในปี 2022 แสดงให้เห็นว่าตลาดนี้ใหม่แค่ไหน
  • อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจาก CoinMarketCap มูลค่าทั้งหมดของเหรียญ DeFi บนตลาดกว่า 500 เหรียญ มีค่ามากกว่า 137 พันล้านดอลลาร์
  • มองผ่านๆ อาจฟังดูเหมือนตัวเลขจำนวนมาก
  • อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณพิจารณาถึงตลาดคริปโตเคอเรนซี่ในตอนนี้ ที่มีมูลค่าตลาดเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ เหรียญ DeFi ยังถือว่าเป็นส่วนเล็กๆ ในตลาดนี้อยู่

เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ ก็อาจสามารถแย้งได้ว่าเหรียญ DeFi ยังถูกประเมินค่าต่ำไปอย่างมหาศาล

และคุณต้องพิจารณาถึงโปรเจกต์เหรียญ DeFi มากมาย ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านโบรกเกอร์ eToro ที่มีการรับรองโดย ก.ล.ต. เพราะคุณสามารถเทรดโดยใช้เงินขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์ต่อคำสั่งซื้อ

บางสินทรัพย์คริปโตที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดคือ เหรียญ DeFi

ถ้าคุณกำลังจะลงทุนกับเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดในตลาดเพราะมีเป้าในการทำกำไรสูงกว่าอัตรากำไรเฉลี่ย คุณจะต้องพึงพอใจแน่หากรู้ว่าตลาดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่นี้ ได้สร้างผลตอบแทนดีมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

เช่น:

  • สมมุติว่าคุณลงทุนในเหรียญ Yearn.finance ไป 5,000 ดอลลาร์ ตอนที่เหรียญนี้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2020
  • การทำแบบนี้ คุณต้องจ่ายประมาณ 907 ดอลลาร์ต่อโทเค็น 
  • ถ้าคุณถือเหรียญ Yearn.finance ไว้จนถึงกลางปี 2021 คุณจะสามารถขายเหรียญออกเป็นเงินกว่า 93,000 ดอลลาร์ต่อโทเค็น
  • และการทำแบบนี้ การลงทุนตอนแรกที่ 5,000 ดอลลาร์ จะกลายเป็น 500,000 ดอลลาร์

อีกตัวอย่างนึง:

  • สมมุติว่าคุณรู้ว่าเทรนด์ Metaverse กำลังจะมาในปี 2018 และคุณตัดสินใจลงทุน 5,000 ดอลลาร์ในเหรียญ Decentraland
  • การทำแบบนี้ คุณต้องจ่าย $0.025 ต่อโทเค็น
  • และหากคุณถือเหรียญจนถึงกลางปี 2021 ซึ่งเป็นตอนที่เหรียญ Decentraland มีราคาเกือบ $6 คิดเป็นมูลค่าเพิ่มเกือบ 24,000%
  • ดังนั้น การลงทุน 5,000 ดอลลาร์จะมีมูลค่ามากกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์

ไม่ใช่เหรียญ DeFi ทุกเหรียญจะเคยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงไม่สามารถการันตีได้เลยว่าเหรียญ DeFi ที่คุณเลือกจะทำได้เหมือนอย่างที่ Yearn.finance หรือ Decentraland เคยทำได้หรือเปล่า

คุณจึงต้องศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนและโปรเจกต์ DeFi หลายๆ โปรเจกต์ดู

พื้นฐานของเหรียญ DeFi   

เราจะมาดูถึงพื้นฐานของเหรียญกันบ้าง ถ้าคุณกำลังจะลงทุนในตลาด DeFi การทำความเข้าใจว่าทำไมตลาดถึงน่าดึงดูดใจแก่นักลงทุนในช่วงแรกนัก ถือเป็นเรื่องที่ดี

คอนเซ็ปต์หลักของเหรียญ DeFi ก็คือ การนำบริการทางการเงินแบบเดิมออกจากองค์กรแบบ centralized เช่น ธนาคาร ในอนาคต เราจะได้เห็นผู้บริโภคที่ได้รับสินเชื่อจากแพลตฟอร์ม DeFi ทุกวัน ซึ่งก็ได้รับทุนจากนักลงทุนอีกที

โมเดล peer-to-peer แบบนี้สามารถต่อยอดไปสู่บริการทางการเงินหลายรูปแบบ เช่น ธุรกรรมโบรกเกอร์ ประกัน และอีกมากมาย และถ้าการเงินแบบ decentralized สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพเมื่อไหร่ เหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดที่เราพูดถึงในบทความนี้ก็จะเริ่มให้ผลประโยชน์ในระยะยาว

มีจุดเข้าซื้อในเหรียญมูลค่าต่ำมากมาย

อีกประโยชน์ของการลงทุนในการเงินแบบ decentralized ก็คือหลายๆ เหรียญ DeFi ในตลาดมีมูลค่าต่ำ

หมายความว่าศักยภาพที่ราคาเหรียญจะสูงขึ้น มีความน่าสนใจมากกว่าโปรเจกต์ที่มีมูลค่าตลาดสูงๆ

เช่น จาก 500 กว่าเหรียญในตลาด มีน้อยกว่า 20 เหรียญที่มูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจาก CoinMarketCap 

ราคาคริปโต DeFi

ราคาตลาดของเหรียญคริปโต DeFi ทำงานเหมือนกันกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ หมายความว่าราคาตลาดจะถูกกำหนดด้วยอุปสงค์และอุปทาน

ตอนที่ราคาเหรียญ Decentraland เพิ่มจาก $0.025 ไปที่เกือบ $6 ในเวลาเพียง 4 ปีของตลาด หมายความว่าปริมาณความต้องการซื้อมากกว่าปริมาณความต้องการขายอย่างมีนัยสำคัญ

ถ้าคุณอยากรู้ว่าจะติดตามราคาเหรียญคริปโตอย่างไร คุณอาจคำนึงถึงแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลอย่าง CoinMarketCap

หรืออีกช่องทาง หากคุณซื้อเหรียญ DeFi ผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้อย่าง eToro คุณก็สามารถเข้าไปในพอร์ตของตนและดูว่าการลงทุนเป็นอย่างไรบ้างได้แบบเรียลไทม์

สามารถซื้อเหรียญ DeFi ได้จากที่ไหน?

การจะเลือกแพลตฟอร์มในการซื้อเหรียญคริปโต DeFi ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะซื้อโทเค็นอะไร

ถ้าคุณอยากลงทุนเหรียญ DeFi ใหม่ที่มีมูลค่าตลาดต่ำ คุณอาจต้องลงทุนผ่านกระดานเทรดแบบ decentralized

ถ้าคุณอยากลงทุนในเหรียญ DeFi น่าสนใจที่มีมูลค่าตลาดสูง เช่น Bitcoin Cash, Uniswap, AAVE, หรือ SushiSwap คุณจะมีตัวเลือกมากมายในแพลตฟอร์มแบบ centralized ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่

เราสามารถบอกได้ว่า eToro เป็นแพลตฟอร์มโดยรวมที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญ DeFi และนี่คือเหตุผล

eToro – แพลตฟอร์มโดยรวมที่ดีที่สุดในการซื้อเหรียญ DeFi แห่งปี 2023

eToro ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยตอนนี้มีเทรดเดอร์ทุกระดับมากกว่า 20 ล้านคน และถูกรับรองโดย ก.ล.ต. และลงทะเบียนกับ FINRA โดยกฎระเบียบเพิ่มเติมมาจากหน่วยงานในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และไซปรัส หมายความว่าคุณสามารถลงทุนในเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดได้อย่างปลอดภัย ส่วนเหรียญที่เราได้พูดถึงในวันนี้ก็มีให้ซื้อที่ eToro

ที่ eToro มีเหรียญทุกอย่างตั้งแต่ Ethereum ClassicLitecoinZcash, AAVE, Tron ไปจนถึง SushiSwap และ The Graph ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจซื้อเหรียญ DeFi เหรียญใด ที่ eToro จะเรียกเก็บเฉพาะค่า spread ซึ่งจะอยู่ระหว่างราคาซื้อ/ขาย นอกจากนี้ คุณสามารถฝากเงินเข้า eToro ผ่านบัตรเดบิต/เครดิต, e-wallet หรือการโอนเงินผ่านธนาคารโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ ค่าฝากและค่าลงทุนในเหรียญ DeFi ขั้นต่ำคือ 10 ดอลลาร์

eToro

อีกสิ่งที่มีใน eToro คือ หากคุณตัดสินใจไม่ถูกว่าจะลงทุนในเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดเหรียญใดดี คุณก็สามารถลงทุนใน CryptoPortfolio อธิบายง่ายๆ ระบบนี้เป็นการกระจายความเสี่ยงโดยซื้อหลายๆ คริปโตเคอเรนซี่ตามประสิทธิภาพในตลาด มูลค่า และตัวแปรหลักอื่นๆ และสำคัญที่สุด CryptoPortfolio ได้รับการจัดการโดยทีมงาน eToro หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนในตลาด DeFi ด้วยตนเอง

อีกหนึ่งเครื่องมือการลงทุนแบบพาสซีฟของ eToro คือฟีเจอร์ Copy Trade แทนที่จะลงทุนในพอร์ตที่ออกแบบมาแล้ว เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณลงทุนกับเทรดเดอร์เก่งๆ ที่ใช้แพลตฟอร์ม eToro และเราชอบแพลตฟอร์มนี้เพราะ eToro ให้เราเข้าถึงสินทรัพย์ประเภทอื่นได้ ซึ่งรวมถึงหุ้นและ ETF นับพันที่สามารถซื้อขายได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน คุณสามารถใช้งาน eToro ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านแอปคริปโตบน iOS/Android โดยการยืนยันบัญชีจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

ซื้อเหรียญ DeFi Coins ผ่าน eToro ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง 

วิธีซื้อเหรียญ DeFi

หากคุณกำลังสงสัยว่าจะซื้อเหรียญ DeFi ได้อย่างไร วิธีการซื้อจะขึ้นอยู่กับว่าเหรียญได้ถูกลิสบนกระดานเทรดใด

ส่วนด้านล่างแสดงวิธีซื้อ $FGHT ซึ่งเป็นเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดที่เราแนะนำสำหรับการลงทุนในปี 2023 ในการเข้าลงทุนในช่วงพรีเซลของ $FGHT คุณต้องทำตามขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน:

ขั้นตอนที่ 1: สร้าง wallet

สร้างกระเป๋าเงินคริปโตที่เหมาะสม เช่น MetaMask หรือ TrustWallet กระเป๋าเงินเหล่านี้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้โดยไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

ขั้นตอนที่ 2: การเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

เชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณโดยสร้างบัญชีใหม่ ไปที่หน้าการขายรอบพรีเซลของ $FGHT แล้วคลิกปุ่ม “เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน” เมื่อเชื่อมต่อแล้ว คุณจะสามารถเลือกระหว่าง MetaMask หรือ TrustWallet

ขั้นตอนที่ 3: เติมเงิน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเป๋าเงินของคุณมียอดเงินคงเหลือเพียงพอก่อนที่จะทำการซื้อ ในหน้าการขายพรีเซล คุณจะมีตัวเลือกการฝากเงินหลายรายการให้คุณเลือก เช่น ETH หรือ USDT หากคุณมี ETH ไม่เพียงพอ คุณสามารถใช้ Transak เพื่อรับจำนวนที่จำเป็น

นอกจากนี้ คุณสามารถซื้อ ETH/USDT จากกระดานแลกเปลี่ยน cryptocurrency อื่น ๆ และโอนไปยังกระเป๋าเงินของคุณ

ขั้นตอนที่ 4: ยืนยัน

Buy FGHT Tokens

เมื่อเติมเงินในกระเป๋าคริปโตแล้ว คุณสามารถเลือก “ซื้อด้วย ETH” หรือ “ซื้อด้วย USDT” และป้อนจำนวนโทเค็น $FGHT ที่คุณต้องการได้รับเพื่อแลกเปลี่ยนกับ ETH/USDT

Step 5: รับเหรียญ $MEMAG

สุดท้าย หลังจากตรวจสอบค่าธรรมเนียม gas fee แล้ว ให้อนุญาตการทำธุรกรรม หลังจากสิ้นสุดการขายพรีเซล คุณจะสามารถรับโทเค็น $FGHT ของคุณได้จากหน้ารับโทเค็นอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม

ไปยัง Fight Out ตอนนี้

สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง

วิธีซื้อเหรียญ DeFi บน eToro

หากคุณสนใจที่จะซื้อเหรียญ DeFi ยอดนิยมอื่นๆ eToro โบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ ก.ล.ต. ช่วยให้คุณลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลเพียงเวลาไม่ถึงห้านาที ในการใช้โบรกเกอร์นี้ คุณจะต้องใช้เงินเพียง $10 เพื่อลงทุนในเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุด

ขั้นที่ 1: เปิดบัญชีคริปโต eToro

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชี eToro

ขั้นแรก ไปที่เว็บไซต์ eToro และเปิดบัญชี โดยคุณจะต้องป้อนข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่าง เช่น:

  • ชื่อ
  • วัน/เดือน/ปีเกิด
  • ที่อยู่
  • เบอร์โทรศัพท์
  • อีเมล

และอัปโหลดสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ของคุณเพื่อยืนยันบัญชี eToro ของคุณในทันที

ขั้นที่ 2: ฝากเงินขั้นต่ำ $10 

ในการซื้อเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดบน eToro คุณต้องฝากขั้นต่ำ $10

ฝากเงินบน etoro

วิธีการชำระเงินบางส่วนที่ eToro รองรับ ได้แก่:

  • บัตรเดบิต
  • บัตรเครดิต
  • Paypal
  • Neteller
  • ACH
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร
  • Trustly

เหนือสิ่งอื่นใด eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมสำหรับการฝากหรือถอนเงินดอลลาร์

ขั้นที่ 3: ค้นหาเหรียญ DeFi

คุณสามารถใช้ช่องค้นหาที่อยู่ด้านบนของเพจเพื่อค้นหาเหรียญ DeFi ที่คุณเลือก

ซื้อคริปโตผ่าน etoro

ในตัวอย่าง เรากำลังจะซื้อเหรียญ Decentraland

ขั้นที่ 4: ซื้อเหรียญ DeFi

ขั้นตอนสุดท้ายของการลงทุนในเหรียญ DeFi คุณต้องป้อนเงิน stake ทั้งหมดของคุณในกล่อง ‘Amount’ โดยต้องเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าหรือเท่ากับ 10 ดอลลาร์

เมื่อคุณคลิกที่ปุ่ม ‘Open Trade’ eToro จะดำเนินการตามคำสั่งของคุณ

คริปโตวอลเล็ตที่ดีที่สุด

คุณจะต้องมีกระเป๋าเหรียญ DeFi ยอดนิยมหลังจากที่คุณลงทุนเสร็จ ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าโทเค็นของคุณปลอดภัยตลอดเวลา

แต่หากคุณตัดสินใจซื้อ Lucky Block และคุณปฏิบัติตามคำแนะนำของเรา คุณจะมีพื้นที่จัดเก็บที่ปลอดภัยใน Trust Wallet

หากคุณซื้อเหรียญ DeFi จาก eToro โบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองโดย ก.ล.ต. โดยแพลตฟอร์มให้ crypto wallet ที่ปลอดภัย เรียกว่า eToro Money Crypto Wallet หมายความว่าไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดกระเป๋าเงินคริปโตอื่นเพื่อเก็บเหรียญ DeFi ให้ปลอดภัย

บทสรุป

เหรียญ DeFi จำนวนหนึ่งมีมูลค่าอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเหรียญ IMPT, Decentraland, Yearn.finance, และ Cosmos ที่ล้วนสร้างมูลค่าได้เป็นพันเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เปิดตัวและในอนาคตยังมีเหรียญ DeFi 2.0 ที่มุ่งไปที่การพัฒนาด้านความปลอดภัย สภาพคล่อง และการเข้าถึงข้อมูล เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับเราแล้ว $FGHT ได้รับการจัดอันดับให้เป็นโปรเจกต์ DeFi และเหรียญใหม่ที่ดีที่สุดที่ควรลงทุน เหรียญคริปโตแนว move to earn นี้ได้แสดงลิสขายโทเค็น FGHT ในรอบพรีเซล ผู้ใช้สามารถซื้อโทเค็น FGHT ได้ในราคา $0.02368 การขายรอบพรีเซลสามารถระดมทุนได้มากกว่า 4.4 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เริ่มต้นเฟสนี้

FightOut – เหรียญคริปโต Move to Earn ที่จะโต 100 เท่า

ให้คะแนน

  • สนับสนุนโดย LBank Labs, Transak
  • รับรางวัลสำหรับการออกกำลังกาย
  • อัพเลเวลและแข่งขันใน Metaverse
  • เปิดขายพรีเซลแล้วตอนนี้ – ระดมทุนแล้วกว่า $1M+
  • ชุมชนโลกแห่งความจริง เปิดเครือข่ายโรงยิม
fightout

ซื้อตอนนี้

Categories
Bitcoins Crypto News คู่มือ DeFi สำหรับมือใหม่ คู่มือคริปโต

แนะนำ 8 แอพ DeFi ที่ดีที่สุด 2023 ปลอดภัย [ใช้งานง่าย!]

แอพ Decentralized Finance (DeFi) ช่วยให้คุณเข้าถึงบริการคริปโตได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรวมทุกอย่างตั้งแต่สินเชื่อเหรียญคริปโต, บัญชีดอกเบี้ย, yield farming, และ staking

ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบแอพ DeFi ที่ดีที่สุดที่น่าใช้ตอนนี้เพื่อเพิ่มโอกาสการทำกำไรจากเหรียญคริปโตของคุณ

จัดอันดับ 8 แอพ DeFi ที่ดีที่สุดในปี 2023

เราคิดว่าแพลตฟอร์มด้านล่างคือแอพ DeFi ที่ดีที่สุดโดยรวมในปี 2023

  • DeFi Swap – แอพ DeFi ที่ดีที่สุดโดยรวมในปี 2023
  • Aqru –  แอพ DeFi ยอดนิยมที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโต
  • Nexo – ตลาดสินเชื่อ DeFi ยอดนิยม
  • PrimeXBT – แอพ DeFi ยอดนิยมที่ลดค่าธรรมเนียมได้ถึง 0.001%
  • YouHodler – แอพ DeFi ยอดนิยมเพื่อกระจายความเสี่ยง
  • Crypto.com DeFi Wallet –  มีบัญชีสินเชื่อ DeFi มากมายให้เลือก
  • Binance – เทรดเหรียญ DeFi และรับดอกเบี้ยตอบแทน
  • Coinbase – ใช้งานเว็บ DeFi ด้วย iOS และ Android

ไปยังแอพ DeFi ที่ดีที่สุด

แอพ DeFi ดังกล่าวจะแตกต่างกันตามบริการ ค่าธรรมเนียม เงินฝากขั้นต่ำ และอื่นๆ

จึงควรอ่านรีวิวแอป DeFi ที่ดีที่สุดของเราก่อนเลือกแพลตฟอร์ม

รีวิวแอพ DeFi แนะนำ

ในการเลือกแอพ DeFi แนะนำที่เหมาะกับคุณ ก่อนอื่นคุณต้องประเมินแพลตฟอร์มที่คุณอยากใช้งาน

เช่น คุณกำลังหาวิธีได้ดอกเบี้ยจากสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้ใช้งานหรือคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยในการเก็บโทเค็นของคุณ?

คุณจะต้องศึกษาผู้ให้บริการแอพ DeFi ในด้านความปลอดภัย ค่าธรรมเนียม โทเค็นที่รองรับ และอื่นๆ

โดยเราได้วิเคราะห์แอพ DeFi ที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ดังนี้

1. DeFi Swap – แอพ DeFi ที่ดีที่สุดโดยรวมในปี 2023

เราคิดว่า DeFi Swap เป็นแอพ DeFi ที่ดีที่สุดโดยรวมที่น่าลองในปี 2023 เพราะให้คุณเขาถึงเหรียญ DEX ที่ดีที่สุดได้บางส่วน DeFi Swap คือกระดานเทรด DEX ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่และมีบริการหลากหลาย ซึ่งรวมถึง DEX ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่รองรับโทเค็น BSc มากมาย

ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้ DeFi Swap เพื่อซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ต้องใช้กระดานเทรด CEX โดยคุณสามารถเทรดแบบไม่เปิดเผยตัวตนและไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนบัญชี เพียงแค่ต้องเชื่อมต่อ crypto wallet ของคุณเข้ากับแพลตฟอร์ม DeFi Swap เท่านั้น

นอกจากนี้ DeFi Swap ยังมีเครื่องมือหลายอย่างที่ช่วยให้คุณได้รับดอกเบี้ยจากโทเค็นที่ไม่ได้ใช้งาน ทำให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Staking DeFi ที่ดีที่สุดในปี 2023 โดยมีเครื่องมือสร้างสภาพคล่อง ซึ่งทำให้คุณสามารถยืมสินทรัพย์คริปโตจาก DeFi Swap ผ่านสัญญาอัจฉริยะที่ปลอดภัยและโปร่งใสเพื่อแลกกับสภาพคล่อง โดยคุณจะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย

DeFi Swap แอพ DeFi ที่ดีที่สุด DeFi แนะนํา แอป defi ลงทุน defi แอพ defi ไหนดี

สิ่งนี้รวมกันจึงเป็นแหล่งสร้าง passive income ที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากเริ่มมีปริมาณการซื้อขายบนแพลตฟอร์มมากขึ้น และยิ่งมีปริมาณการซื้อขายมากเท่าไหร่ค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ทำให้รายได้ของคุณสูงขึ้น และไม่มีระยะเวลาล็อกเมื่อสร้างสภาพคล่องบน DeFi Swap อีกด้วย

เครื่องมือการลงทุนแบบพาสซีฟตัวถัดไปคือ yield farming ซึ่งทำให้คุณสามารถ stake โทเค็นดิจิทัลเพื่อรับผลตอบแทนต่อปี (APY) เช่น หากต้องการ stake เหรียญ DeFi Coin ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ DeFi Swap คุณก็สามารถรับดอกเบี้ยสูงถึง 75% ต่อปี

แต่อัตราดอกเบี้ย DeFi จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการล็อกโทเค็นของคุณ เช่น หากคุณเลือกระยะเวลา 30 วัน APY ก็จะลดลงเหลือ 30% (ซึ่งยังสูงอยู่ดี) ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า DeFi Swap จะขยายบริการไปตลาด NFT ทำให้คุณสามารถเทรด NFT ได้แบบ decentralized ไม่ต้องผ่านบุคคลที่สามอีกด้วย

DeFi Swap แอพ DeFi ที่ดีที่สุด DeFi แนะนํา แอป defi ลงทุน defi แอพ defi ไหนดี

แอพ DeFi จะเปิดตัวช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2022 บน iOS และ Android ในระหว่างนี้ คุณสามารถเข้าถึงบริการ DeFi ที่กล่าวมาทั้งหมดได้โดยตรงบนเว็บไซต์ DeFi Swap ผ่านเบราว์เซอร์มือถือของคุณ

ข้อดี:

  • แอพ DeFi โดยรวมที่ดีที่สุดในตลาด
  • ให้ผลตอบแทนสูง
  • รองรับ yield farming และการสร้างสภาพคล่อง
  • 100% decentralized ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสัญญาอัจฉริยะ
  • กำลังจะมีตลาด NFT และแอพมือถือ
  • ขับเคลื่อนด้วย DeFi Coin

ข้อเสีย:

  • ไม่เป็นที่ยอมรับเหมือนแพลตฟอร์มสินเชื่อ DeFi อื่นๆ

ไปที่ DeFi Swap ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

2. Aqru – แอพ DeFi ยอดนิยมที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโต

หากคุณกำลังมองหาแอพที่ให้ผลตอบแทน DeFi ที่ดีที่สุดด้านดอกเบี้ยจากสินทรัพย์คริปโตหลักๆ อย่าง Bitcoin แล้วล่ะก็ อย่ามองข้าม Aqru ซึ่งให้ดอกเบี้ยเมื่อคุณฝาก Bitcoin เข้าบัญชีออมทรัพย์คริปโต

ไม่เหมือนกับบัญชีดอกเบี้ยคริปโตในตลาดเพราะไม่มีข้อจำกัด หมายความว่าคุณสามารถฝาก Bitcoin และ Ethereum เข้าในบัญชี Aqru ได้ตามต้องการและรับดอกเบี้ยสูงสุดต่อปี และคุณก็ไม่จำเป็นต้องล็อกโทเค็นตามระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย

แผนดอกเบี้ยคริปโตทั้งหมดในแอพก็มีความยืดหยุ่น คุณสามารถถอนโทเค็นไปขายได้ทุกเมื่อ โปรดทราบว่าคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน $20 เมื่อโอนเหรียญคริปโตออกจาก Aqru แม้การถอนสกุลเงินทั่วไป (fiat) จะไม่มีค่าธรรมเนียมก็ตาม

Aqru DeFi แนะนํา แอป defi ลงทุน defi แอพ defi ไหนดี

Aqru เป็นไม่กี่แอพในตลาดที่ให้คุณฝากเงินเป็นดอลลาร์ ยูโร และปอนด์ด้วยบัตรเดบิต/เครดิตทันที (หรือโอนเงินผ่านธนาคาร) วิธีดังกล่าวจะให้คุณซื้อเหรียญคริปโต แล้วสลับโทเค็นโดยอัตโนมัติไปยังบัญชีออมทรัพย์ที่คุณเลือก

แอพ DeFi Aqru สามารถดาวน์โหลดฟรีบนอุปกรณ์ iOS และ Android จากการทดสอบ เราพบว่าแอพใช้งานง่ายมาก ดังนั้น หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช้แอพ DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์คริปโต Aqru ก็เป็นตัวเลือกที่ควรเก็บไว้พิจารณา

ข้อดี:

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญคริปโต
  • ให้ผลตอบแทนเป็นรายวัน
  • ไม่มีระยะเวลาล็อกหรือข้อจำกัด
  • ฝากเงินขั้นต่ำ ($100)
  • ถอนเงิน fiat ฟรี

ข้อเสีย:

  • ค่อนข้างใหม่ในตลาด
  • ค่าธรรมเนียมถอน $20 

ไปที่ Aqru ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

3. PrimeXBT – แอพ DeFi ยอดนิยมที่ลดค่าธรรมเนียมได้ถึง 0.001%

PrimeXB เป็นอีกแอพ DeFi ที่ดีที่สุดแห่งปี โดยสามารถให้เลเวอเรจได้ถึง 100 เท่าสำหรับเหรียญคริปโตยอดนิยมและหุ้น ไปจนถึง 1000 เท่าสำหรับคู่ฟอเร็กซ์และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยค่าธรรมเนียมจะลดลงจนเหลือ 0.001% เมื่อพอร์ตคุณเติบโตขึ้น

PrimeXBT  DeFi แนะนํา

แอพ PrimeXBT มีฟีเจอร์การเทรดมากมายตั้งแต่กระดานเทรด ตัวชี้วัดทางเทคนิค และประเภทออเดอร์มากมายไปจนถึงการ copy trade โดยแอป DeFi มีให้ดาวน์โหลดบนระบบ iOS และ Android ซึ่งมีหน้าตาการใช้งานที่สามารถปรับแต่งได้

ข้อดี:

  • ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • ไม่ต้องยืนยัน KYC

ข้อเสีย:

  • ไม่เปิดให้บริการในบางประเทศ

ไปที่ PrimeXBT ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

4. Nexo – ตลาดสินเชื่อ DeFi ยอดนิยม

อีกหนึ่งแอพที่ควรพิจารณาก็คือ Nexo ซึ่งเป็นตลาดสินเชื่อ DeFi ที่เป็นที่นิยม โดยสนับสนุนทั้งผู้กู้และนักลงทุนผ่านศูนย์กลางเดียว เมื่อก่อน หากคุณต้องการกู้เงินจากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล อัตราส่วนที่ให้สินเชื่อได้ (LTV) จะสูงถึง 50%

ซึ่งหมายความว่าถ้าฝากโทเค็น Bitcoin มูลค่า $5,000 คุณจะได้รับสภาพคล่อง $2,500 โดยไม่มีการตรวจสอบเครดิต สินเชื่อจะได้รับการอนุมัติทันที โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็ค่อนข้างถูกและคุณสามารถสร้างแผนการชำระคืนของคุณเองได้

Nexo แอพ defi แนะนำ

Nexo ให้ดอกเบี้ยถึง 17% สำหรับ stablecoins และ 36% สำหรับโทเค็น DeFi เช่น Axie Infinity ซึ่งมีบริการบน iOS และ Android และยังมีบัตรเครดิตแบบเติมเงินที่ให้คุณใช้โทเค็นคริปโตจ่ายในชีวิตประจำวันได้

ข้อดี:

  • ดอกเบี้ย 17% สำหรับ stablecoins
  • บัญชียืดหยุ่น

ข้อเสีย:

  • ต้อง stake เหรียญ NEXO เพื่อรับ APY สูงสุด
  • อัตรา APY เปลี่ยนแปลงเป็นประจำ

ไปที่ Nexo ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

5. YouHodler – แอพ DeFi ยอดนิยมเพื่อกระจายความเสี่ยง

YouHodler เป็นแอพ DeFi ชั้นนำที่ให้คุณได้รับดอกเบี้ยจากโทเค็นคริปโต โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายสิบสกุลที่มีผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น Bitcoin ให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 6.8% ต่อปี ส่วน Litecoin ให้สูงถึง 7%

และมี stablecoins เช่น HUSD และ TUSD ซึ่งให้ผลตอบแทน 12% ต่อปี โดยคุณจะต้องฝากเงินขั้นต่ำ $100 ดังนั้น คุณจึงสามารถกระจายความเสี่ยงในโทเค็น DeFi ได้หลายรายการอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสี่ยงซื้อโทเค็นจำนวนมาก

Youhodler แอป defi แนะนำ

คุณสามารถเก็บโทเค็นไว้ในดอกเบี้ยเหรียญคริปโตได้นานเท่าที่คุณต้องการ ซึ่งหมายความว่าหากคุณต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว คุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชีทุกครั้งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลา แอพ YouHodler DeFi สามารถใช้ได้ทั้งบนโทรศัพท์ iOS และ Android

ข้อดี:

  • รองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายสิบสกุล
  • รับดอกเบี้ยโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ

ข้อเสีย:

  • แพลตฟอร์มอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่า
  • LTV ที่ 90% เป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมของนักลงทุน

ไปที่ YouHodler ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

6. Crypto.com DeFi Wallet – มีบัญชีสินเชื่อ DeFi มากมายให้เลือก

Crypto.com เป็นแอพ DeFi ที่ดีที่สุดอีกตัวในตลาด ซึ่งเป็นทั้งกระเป๋าเงิน, กระดานเทรด DeFi, และแพลตฟอร์ม Staking เหรียญคริปโต โดยเป็น Non-Custodian Wallet พูดง่ายๆ ก็คือ คุณจะเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าถึง private keys ของคุณได้

ซึ่งหมายความว่าแม้แต่ Crypto.com ก็ไม่สามารถเข้าถึงเหรียญ DeFi ของคุณได้ คุณจึงต้องระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทำรหัสสำรองหาย โดยแอพ DeFi Wallet เปิดให้ใช้งานบนระบบ iOS และ Android ซึ่งให้คุณแลกโทเค็นแบบ decentralized ได้อีกด้วย

Crypto.com DeFi Wallet

ซึ่งหมายความว่าจะไม่ต้องดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มอื่น Crypto.com มีโทเค็นให้เลือกมากมายเพื่อเป็นโอกาสในการค้นหาการลงทุนใน DeFi ของคุณเอง ส่วนถ้าคุณต้องการสร้างรายได้แบบพาสซีฟ ตัวแอพยังมีบริการ staking เหรียญอีกด้วย

Crypto.com ไม่กำหนดระยะเวลาการล็อกโทเค็น ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงและให้อัตรา APY สูงสำหรับโทเค็นที่รองรับมากมาย ด้านความปลอดภัย แอพกระเป๋าเงิน DeFi Crypto.com จะจัดเก็บ private keys โดยตรงบนมือถือของคุณ ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยระบบยืนยันตัวตนสองชั้น

ข้อดี:

  • รับดอกเบี้ยสูงถึง 14.5% จากบัญชีออมทรัพย์คริปโต
  • ระยะเวลาล็อกโทเค็นมีความยืดหยุ่น
  • มีชื่อเสียงในฐานะแอพผลตอบแทน DeFi
  • มีบริการเทรดและสินเชื่อ
  • จ่ายดอกเบี้ยด้วยบัตรเครดิต Crypto.com

ข้อเสีย:

  • แอพอื่นให้ APY สำหรับ Bitcoin มากกว่า
  • ต้อง stake เหรียญ CRO เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด

ไปที่ Crypto.com ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

7. Binance – เทรดเหรียญ DeFi และรับดอกเบี้ยตอบแทน

Binance เป็นกระดานเทรดคริปโตอันดับ 1 ตามปริมาณการซื้อขายกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลาง DeFi เมื่อคุณสร้างบัญชีกับ Binance แล้ว คุณก็สามารถดาวน์โหลดแอพมือถือบน iOS และ Android ได้

คุณสามารถเริ่มรับดอกเบี้ยจากสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้ใช้งานได้ทันที เพียงเลือกแผนบริการที่เหมาะสม Binance มีบัญชีดอกเบี้ย DeFi ให้กับหลายสิบโทเค็น และ APY จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการล็อกที่คุณเลือก ซึ่งโทเค็นบางตัวก็ให้ APY สูงกว่า

Binance DeFi แนะนํา แอป defi

คุณสามารถได้รับดอกเบี้ยจากการ staking ได้ และถ้าต้องกระจายความเสี่ยงของโทเค็น DeFi ในพอร์ตก็สามารถทำได้เช่นกัน Binance มีสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 600 รายการ แต่เทรดเดอร์ในสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงโทเค็นได้เพียงไม่กี่ร้อยรายการเท่านั้น

ข้อดี:

  • บัญชีเงินฝากคริปโตและดอกเบี้ย
  • รองรับโทเค็นมากกว่า 600 รายการ
  • เป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโต P2P ที่ดีที่สุด

ข้อเสีย:

  • อัตราดอกเบี้ยมักถูกจำกัดไว้
  • อาจมีผลตอบแทนเกินจริง
  • ผลตอบแทนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ไปที่ Binance ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล 

8. Coinbase – ใช้งานเว็บ DeFi ด้วย iOS และ Andriod   

Coinbase Wallet สำหรับ iOS และ Android เป็นแพลตฟอร์มแบบ decentralized ซึ่งอาจเป็นแอป DeFi ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ ซึ่งใช้งานง่ายและไม่ต้องมีประสบการณ์เทรดมากมาย 

Coinbase มีกระเป๋าเงินแบบ decentralized ที่ให้คุณควบคุม private keys และรหัสผ่านสำรองได้อย่างเต็มที่ (โปรดอย่าให้ private keys แก่ผู้อื่น) แอพ Coinbase ยังให้คุณเข้าถึงตลาด NFT ได้อีกด้วย

Coinbase DeFi แอพ defi ไหนดี

Coinbase เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ซึ่งมีโทเค็นที่เข้ากันได้กับ ERC-721 มากมาย หากคุณต้องการซื้อขายโทเค็น DeFi แอพ Coinbase ก็รองรับตลาดหลายร้อยแห่ง เพียงแค่ต้องเลือกโทเค็นที่ต้องการแลกเปลี่ยนก็เป็นอันเสร็จ

ข้อดี:

  • แอพ DeFi ที่ดีที่สุดที่เหมาะกับผู้ใช้ทุกประเภท
  • ควบคุม private keys ของคุณ

ข้อเสีย:

  • ไม่มีฟีเจอร์มากเท่าแอพ DeFi ชั้นนำอื่นๆ ในตลาด
  • มีตลาด NFT จำกัด
  • ค่าธรรมเนียมไม่ชัดเจน

ไปที่ Coinbase ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล

คุณสามารถทำอะไรกับแอพ DeFi ได้บ้าง?

แอพ DeFi ที่ดีที่สุดจะมีบริการทางการเงินแบบ decentralized ที่หลากหลาย

เราได้วิเคราะห์แต่ละบริการโดยละเอียด ดังนี้:

แลกโทเค็นได้ทันที

แอพ DeFi ชั้นนำที่เรากล่าวไปจะมีเครื่องมือแลกโทเค็น ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนโทเค็นหนึ่งเป็นโทเค็นหนึ่งได้ เช่น สมมุติว่าคุณถือโทเค็น BNB ไว้และคุณต้องการเปลี่ยนเป็น DeFi Coin

  • โดยปกติ คุณจะต้องโอนโทเค็น BNB ไปที่กระดานเทรดต่างๆ
  • เพื่อเปลี่ยน BNB เป็น DeFi Coin
  • จากนั้น คุณจะต้องโอน DeFi Coin กลับเข้ากระเป๋าเงินคริปโตของคุณ
  • ซึ่งอาจเป็นกระบวนการที่ช้าและยุ่งยาก

แต่แอพ DeFi ที่ดีที่สุดจะให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้ากระเป๋าเงินของคุณ นอกจากนี้ DEX ราคาประหยัดอย่าง DeFi Swap ก็มีค่าธรรมเนียมที่แสนถูก

เป็นกระเป๋าเงินคริปโต 

คุณควรมองหาแอพ DeFi ที่สามารถเป็น DeFi Wallet ได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจัดเก็บการลงทุน DeFi ได้อย่างปลอดภัย โดยแอพ DeFi จะต่างจากกระเป๋าเงินคริปโตทั่วไป

ซึ่งหมายความว่าคุณจะเป็นคนเดียวที่สามารถใช้งาน private keys ของคุณได้ กรณีนี้จะไม่เหมือนกับตอนใช้กระดานเทรด CEX เนื่องจากแพลตฟอร์มจะรับผิดชอบการเก็บรักษาโทเค็นของคุณในนามของคุณเอง

บัญชีดอกเบี้ย 

แอพ DeFi ที่ดีที่สุดในตลาดจะมีบัญชีดอกเบี้ยด้วย เช่น Aqru จะมีบัญชีดอกเบี้ย Bitcoin และ Ethereum

อัตราดอกเบี้ย aqru

บัญชีดังกล่าวจะไม่มีเงื่อนไขและข้อจำกัดผูกมัด ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมนั่นเอง

การ Staking  

การ Staking ให้คุณได้รับดอกเบี้ยจากโทเค็นคริปโตที่ไม่ได้ใช้งาน ตัวอย่างสำคัญก็คือ DeFi Swap ที่ให้ APY สูงถึง 75% เมื่อคุณ stake เหรียญหลักอย่าง DeFi Coin

คุณจะต้องล็อกโทเค็นของคุณไว้ในระยะเวลาหนึ่ง หาก staking และยิ่งล็อกโทเค็นเอาไว้นาน อัตราดอกเบี้ยก็จะยิ่งสูงขึ้น

Liquidity Pool  

คุณสามารถทำเงินจากกองสภาพคล่อง (liquidity pools) เมื่อใช้แอป DeFi แนะนำ คุณสามารถกู้โทเค็นจากกระดานเทรด DEX อย่าง DeFi Swap ซึ่งใช้ในการสร้างสภาพคล่องให้กับเทรดเดอร์

จากนั้นคุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากค่าธรรมเนียมที่ได้จากการซื้อขาย ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีข้อกำหนดในการล็อกเมื่อใช้ liquidity pools

เลือกแอพ DeFi ที่ดีที่สุดสำหรับคุณยังไง?

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าแอพ DeFi ใดที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ให้พิจารณาประเด็นต่อไปนี้ในการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

บริการ DeFi

คุณต้องกำหนดว่าคุณอยากได้อะไรจากแอพ DeFi เช่น หากคุณต้องการสร้างรายได้ประจำจากโทเค็นคริปโต ให้เลือกแอพ DeFi ที่มีบริการ staking, yield farming, หรือ liquidity pool

หรือถ้าคุณต้องการกู้เงินแบบ decentralized คุณจะต้องโฟกัสไปที่แอพ DeFi ที่ให้สินเชื่อทันทีโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเครดิต และอินเทอร์เน็ตกระจายอำนาจมากขึ้น คุณอาจสามารถคาดหวังว่าแอพ DeFi บน Web 3.0 จะมีเพิ่มขึ้นอีกในปีถัดๆ ไป ซึ่งสามารถให้คุณเข้าถึงบริการและฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติมได้

ชื่อเสียง 

มีแอพ DeFi จำนวนมากที่กำลังเข้ามาในตลาด ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แอพ DeFi จำนวนมากในตลาดนั้นมีสถิติมูลค่าราคาไม่มากหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ ดังนั้น คุณอาจต้องรับความเสี่ยงสูงหากฝากโทเค็นลงในแอพ

ด้วยเหตุนี้ คุณควรศึกษาแพลตฟอร์มแอพ DeFi อย่างละเอียดก่อนดำเนินการต่อ

เหรียญที่รองรับ 

นอกเหนือจากการตรวจสอบว่าแอพ DeFi มีบริการที่คุณต้องการหรือไม่ คุณก็ต้องพิจารณาว่าแอพรองรับเหรียญใดบ้าง

รีวิว Defi swap

เช่น แม้แอพอาจมีบัญชีดอกเบี้ย แต่คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชีนี้ครอบคลุมเหรียญที่คุณเป็นเจ้าของอยู่ในปัจจุบันหรือไม่

ค่าธรรมเนียม

แอพ DeFi อยู่ในธุรกิจการทำเงิน (ไม่ว่าจะโฆษณาว่ายังไง) ดังนั้น คุณควรใช้เวลาในการตรวจสอบว่าบริการ DeFi ใดบ้างที่มีค่าธรรมเนียมถูก

ประสบการณ์ผู้ใช้ 

ตลาด DeFi อาจเป็นสมรภูมิที่ซับซ้อนสำหรับมือใหม่ ดังนั้น หากคุณเพิ่งเข้ามาในตลาด DeFi เราแนะนำให้ตรวจสอบว่าแอพนั้นๆ ใช้งานง่ายหรือไม่ ซึ่งคุณควรจะเชื่อมต่อ DeFi Wallet และบริการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

แอพ DeFi ควรได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมที่สุดเพื่อใช้งานบนระบบปฏิบัติการบนมือถือ

บทสรุป

แม้ว่าตลาด DeFi จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็เป็นตลาดที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไปแล้ว โดยแอพ DeFi ที่ดีที่สุดในตลาดจะให้คุณสร้างผลตอบแทนได้จากโทเค็นที่ไม่ได้ใช้งานหรือใช้กู้ได้ทันที

คุณสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เหรียญคริปโตแบบ decentralized และสร้างสภาพคล่องเพื่อรับผลตอบแทนสูง เราขอแนะนำ DeFi Swap หากคุณอยากเริ่มใช้งาน DeFi ที่ดีที่สุดในปี 2023

คุณจะได้รับผลตอบแทนที่สูงมากบนแพลตฟอร์มนี้ และยังมีบริการแลกเปลี่ยนทันที ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ

DeFi Swap แอพ defi ที่ดีที่สุด

ไปที่ DeFi Swap ตอนนี้

สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล